คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 第三章
3
清代…欢迎您
ยินดีต้อนรับสู่…ราชวงศ์ชิง
หลังจากองค์รัชทายาทหลี่เต๋อกลับไปไม่นาน เสนาบดีหวังก็เข้าวังไปสะสางงานที่ค้างเอาไว้ต่อ แม้บุตรสาวจะเจ็บหนัก แต่คนที่เทิดทูนราชวงศ์ยิ่งกว่าชีวิตเยี่ยงท่านเสนาบดีหวังกลับไม่ยอมทอดทิ้งงานราชการแม้เพียงวันเดียว
เสี่ยวเชี้ยนเดินเข้ามาเปลี่ยนกะละมังเช็ดตัวให้คุณหนูของนางตามปกติ ใบหน้าจิ้มลิ้มของสาวใช้วัยสิบสามเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม มือน้อยวางกะละมังลงข้างหัวเตียง เพ่งพินิจใบหน้างามล้ำอย่างหาตัวจับได้ยากของคุณหนู
นางจำได้…เมื่อหกปีก่อน พ่อแม่นางติดหนี้ท่วมหัวจนต้องพากันกระโดดหน้าผาตาย ทิ้งลูกน้อยวัยเจ็ดขวบเอาไว้ให้อยู่ในกระท่อมกลางป่าเพียงลำพัง เป็นเวลาเกือบสามวันที่น้ำและอาหารไม่ตกถึงท้องของเสี่ยวเชี้ยน ร่างเล็กๆ เดินโซเซเพราะความหิวโหย เนื้อตัวมอมแมมส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ก้มกราบขอข้าวชาวบ้านกิน แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงการขับไล่ไสส่งอย่างรังเกียจ ตอนนั้นนางโดนเจ้าของโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดในเมืองถีบกระเด็นออกมาขวางทางเกี้ยวคันงามเอาไว้ พร้อมกับด่าทอนางราวกับไม่ใช่คน วินาทีนั้นเสี่ยวเชี้ยนแผดเสียงร้องไห้จ้า นั่งจุ้มปุกอยู่บนพื้นไม่ไปไหน จวบจนรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนฉุดร่างของนางให้ลุกขึ้น ผ้าเช็ดหน้าสะอาดถูกเช็ดลงมาบนใบหน้ามอมแมมอย่างไม่นึกรังเกียจ รอยยิ้มหวานของคนตรงหน้าทำให้เสี่ยวเชี้ยนหยุดร้องไห้โดยทันที
‘หิวงั้นหรือ ไปบ้านข้ามั้ย บ้านข้ามีของกินเยอะแยะเลยนะ ต่อให้เจ้ากินจนพุงแตกตายของกินก็ยังไม่หมด’
เสียงหวานใสราวระฆังเงิน กับดวงตากลมโตสุกใสที่มีแววของความจริงใจส่งมาทำให้เสี่ยวเชี้ยนแทบจะเบะปากร้องไห้ต้องความซึ้งใจอีกครั้ง
‘โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิ ท่านแม่บอกว่าถ้าร้องไห้มากๆ ตาจะบวมเป็นปลาทอง ตอนกลางคืนเจ้าก็จะกลายร่างเป็นปลาทอง’
‘ข้าไม่อยากกลายเป็นปลาทอง ฮือๆ’
‘ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นปลาทอง เจ้าก็อย่าร้องไห้อีกนะ มา…มากับข้า ไปกินข้าวให้พุงแตกกันเลย’
ความไม่รู้ของเด็กนางจึงหุบปากฉับโดยพลันเพราะความกลัวที่จะกลายร่างเป็นปลาทอง ที่สำคัญคำว่า ข้าว นางก็ถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เด็กหญิงตรงหน้ายิ้มอย่างภาคภูมิใจที่ทำให้นางเงียบได้ มือนุ่มนิ่มยื่นมาจับมือหยาบกร้านแสนสกปรกของนางเอาไว้ก่อนจะลากขึ้นเกี้ยวคันงามที่นางนั่งขวางทาง
ที่แท้…เกี้ยวคันนี้ก็เป็นของคุณหนูใจดีนี่เอง น้ำตาพลันจะไหลพรากอีกรอบ หากเมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ก็ได้แต่กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ สาบานในใจเงียบๆ ตราบสิ้นชีวิตนี้เสี่ยวเชี้ยนจะไม่ลืมพระคุณคุณหนูเลย จะติดตามรับใช้คุณหนูจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ความทรงจำครั้งวันวานหวนคืนมา เสี่ยวเชี้ยนรีบปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว คุณหนูสั่งไว้ไม่ให้ร้องไห้ มิเช่นนั้นนางจะกลายร่างเป็นปลาทอง แม้อายุจะมากขึ้นพอที่รับรู้ได้ว่าคำพูดนั้นหลอกเด็ก แต่นางกลับเชื่อฟังโดยไม่มีข้อแม้ ขอให้เป็นคำพูดของคุณหนู…นางเชื่อทุกอย่าง
เมื่อครู่ที่คุณหนูกระอักเลือดออกมา ทำให้จวนท่านเสนาบดีโกลาหลมิใช่น้อย ท่านหมอฟ้งรีบตรงเข้ามาตรวจอาการก็กล่าวเพียงแค่ว่า…อีกไม่นาน…เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วจวนเสนาบดี แม้กระทั้งตัวท่านเสนาเองก็ถึงกับเข่าทรุดร่ำไห้ออกมาจนไม่เหลือคราบของท่านเสนาผู้ทรงอำนาจ
เสี่ยวเชี้ยนบรรจงเช็ดตัวให้คุณหนูของนางอย่างเบามือ ใบหน้าของคุณหนูซีดเซียวไร้สีเลือด ร่างบางนอนราบอยู่บนที่นอนจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับฟูก ผิวหนังติดกระดูกไม่มีน้ำมีนวลเหมือนดั่งก่อน หากใบหน้าที่ซูบตอบกลับยังคงมีเค้าของความงามเอาไว้ คุณหนูของนาง…น่าสงสารเหลือเกิน…ได้โปรด โปรดส่งใครมาช่วยคุณหนูของนางที อยู่แบบนี้มันทรมานเกินไป อยากจะรู้พระเจ้าเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม ฮือๆ…
เกวลีค่อยๆ ยันตัวขึ้นช้าๆ ความเจ็บปวดบริเวณไรฟันทำให้หยดน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ ฟันเธอ...เหยินไม่พอยังจะบิ่นอีกเรอะ แต่ก็ยังดีตอนที่ปากกระแทกเข้ากับรูปปั้นเลือดไม่ไหลกลบปากอีกกระทอก ไม่งั้นสภาพปากเธอสมควรโดนหามเข้าคลินิกอย่างเร่งด่วนเลยนะนั่น หากเมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง
ที่นี่มัน… ?
คฤหาสน์หรูหราตั้งอยู่เบื้องหน้า กำแพงสีขาวโอบล้อมรอบยาวสุดลูกหูลูกตา มองลึกลงไปตรงประตูทางเข้า มีสิงโตหินเพศผู้และเพศเมียแกะสลักอย่างงดงามขนาบข้างบานประตูซ้ายขวา
บ้านแบบนี้…เธอเคยเห็นในหนังมาก่อน มันเหมือนบ้านของพวกคนรวยในสมัยโบราณ ไม่ใช่ไทยโบราณ แต่เป็นจีนโบราณ!
คิดได้ดังนั้นหัวใจพลันกระตุกวูบ หยาดน้ำใสไหลอาบแก้ม ใบหน้าของมารดาลอยเข้ามาในหัว อย่าบอกนะว่า…เธอหลงเข้ามาอยู่ในกองถ่ายหนังจีน ! กรี๊ดดดดแม่จ๋า กิปลื้มใจน้ำตาไหลเพราะความปิติ ไม่แน่นะชีวิตเธออาจจะเหมือนในนิยายก็ได้ ที่ตัวละครไม่มาแล้วผู้กำกับเห็นความสวยของเธอเลยให้เธอมาเป็นนางเอกแทน หุหุ คราวนี้ล่ะ กลับไปหอเมื่อไหร่เธอจะถีบไอ้ซากจักรยานเส็งเคร็งนั่นไปโรงบดเหล็ก แล้วไปถอยฟิกเกียร์มาปั่นเลยคอยดู
ร่างของสาวใช้สองคนในชุดจีนสีชมพูเดินตรงมายังจุดที่เธอยืนอยู่ เกวลียกมือขึ้นเตรียมตั้งท่าจะทักเพื่อนร่วมวงการบันเทิง หากยกมือได้เพียงครึ่งสาวใช้ทั้งสองกลับเดินทะลุผ่านร่างเธอราวกับเธอเป็นอากาศ
“เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย”
ไม่ล้ม ไม่เจ็บ มีเพียงความวูบไหวแปล ๆ ก่อนจะหายไป เกวลีลูบคลำไปทั่วร่างรู้สึกถึงเนื้อหนังตัวเองพอหยิกก็เจ็บ
แล้วเมื่อครู่…เกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“ไม่ต้องตกใจไป…แม่นางหวัง”
เกวลีหันกลับไปทางต้นเสียง สตรีในชุดกระโปรงผ้าไหมสีขาว รองเท้าสีขาวปักลายอักษรมงคล แม้อาภรณ์ของนางจะเป็นสีขาวทั้งหมด แต่กลับดูหรูหราสวยงาม เสียงกรุ้งกริ้งจากปิ่นปักผมดังเสนาะหูเมื่อเจ้าของหันหน้ามาทางเธออย่างช้าๆ วินาทีนั้นเกวลีแทบลืมหายใจ ดวงตาโศกที่จ้องมาทางเธอราวกับมีมนต์สะกดให้เธอยืนนิ่งอยู่กับที่
เหมือน…เหมือนเหลือเกิน…ใบหน้าของนางช่างเหมือนกับเธอจริง ๆ!
--------------------------------------------------------
เอาเข้าไป พอเพียงมีอยู่มุกเดียว หน้าตาเหมือนกันทั้งสองเรื่องเลย (ฮา) แต่ในความเหมือนก็ยังมีความต่างนะจ้ะนายจ๋า
เหลืออีกครึ่งที่ต้องปั่น (ยากอ่ะเห้ย) จะพยายามสู้ตายนะคับบบ (ขอมือเธอหน่อยย)
เอาล่ะมาฝากนิยายอีกรอบ ใครชอบแนวย้อนยุคไทย จิ้ม!
ความคิดเห็น