ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โบตั๋นสีเลือด

    ลำดับตอนที่ #3 : 第三章

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    3

    清代欢迎您

    ยินดีต้อนรับสู่ราชวงศ์ชิง

                หลังจากองค์รัชทายาทหลี่เต๋อกลับไปไม่นาน เสนาบดีหวังก็เข้าวังไปสะสางงานที่ค้างเอาไว้ต่อ แม้บุตรสาวจะเจ็บหนัก แต่คนที่เทิดทูนราชวงศ์ยิ่งกว่าชีวิตเยี่ยงท่านเสนาบดีหวังกลับไม่ยอมทอดทิ้งงานราชการแม้เพียงวันเดียว

                เสี่ยวเชี้ยนเดินเข้ามาเปลี่ยนกะละมังเช็ดตัวให้คุณหนูของนางตามปกติ ใบหน้าจิ้มลิ้มของสาวใช้วัยสิบสามเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม มือน้อยวางกะละมังลงข้างหัวเตียง เพ่งพินิจใบหน้างามล้ำอย่างหาตัวจับได้ยากของคุณหนู

                นางจำได้เมื่อหกปีก่อน พ่อแม่นางติดหนี้ท่วมหัวจนต้องพากันกระโดดหน้าผาตาย ทิ้งลูกน้อยวัยเจ็ดขวบเอาไว้ให้อยู่ในกระท่อมกลางป่าเพียงลำพัง เป็นเวลาเกือบสามวันที่น้ำและอาหารไม่ตกถึงท้องของเสี่ยวเชี้ยน ร่างเล็กๆ เดินโซเซเพราะความหิวโหย เนื้อตัวมอมแมมส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ก้มกราบขอข้าวชาวบ้านกิน แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงการขับไล่ไสส่งอย่างรังเกียจ ตอนนั้นนางโดนเจ้าของโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดในเมืองถีบกระเด็นออกมาขวางทางเกี้ยวคันงามเอาไว้ พร้อมกับด่าทอนางราวกับไม่ใช่คน วินาทีนั้นเสี่ยวเชี้ยนแผดเสียงร้องไห้จ้า นั่งจุ้มปุกอยู่บนพื้นไม่ไปไหน จวบจนรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนฉุดร่างของนางให้ลุกขึ้น ผ้าเช็ดหน้าสะอาดถูกเช็ดลงมาบนใบหน้ามอมแมมอย่างไม่นึกรังเกียจ รอยยิ้มหวานของคนตรงหน้าทำให้เสี่ยวเชี้ยนหยุดร้องไห้โดยทันที

                หิวงั้นหรือ ไปบ้านข้ามั้ย บ้านข้ามีของกินเยอะแยะเลยนะ ต่อให้เจ้ากินจนพุงแตกตายของกินก็ยังไม่หมด

                เสียงหวานใสราวระฆังเงิน กับดวงตากลมโตสุกใสที่มีแววของความจริงใจส่งมาทำให้เสี่ยวเชี้ยนแทบจะเบะปากร้องไห้ต้องความซึ้งใจอีกครั้ง

                โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิ ท่านแม่บอกว่าถ้าร้องไห้มากๆ ตาจะบวมเป็นปลาทอง ตอนกลางคืนเจ้าก็จะกลายร่างเป็นปลาทอง

                ‘ข้าไม่อยากกลายเป็นปลาทอง ฮือๆ

                ‘ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นปลาทอง เจ้าก็อย่าร้องไห้อีกนะ มามากับข้า ไปกินข้าวให้พุงแตกกันเลย

                ความไม่รู้ของเด็กนางจึงหุบปากฉับโดยพลันเพราะความกลัวที่จะกลายร่างเป็นปลาทอง ที่สำคัญคำว่า ข้าว นางก็ถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เด็กหญิงตรงหน้ายิ้มอย่างภาคภูมิใจที่ทำให้นางเงียบได้ มือนุ่มนิ่มยื่นมาจับมือหยาบกร้านแสนสกปรกของนางเอาไว้ก่อนจะลากขึ้นเกี้ยวคันงามที่นางนั่งขวางทาง

                ที่แท้เกี้ยวคันนี้ก็เป็นของคุณหนูใจดีนี่เอง น้ำตาพลันจะไหลพรากอีกรอบ หากเมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ก็ได้แต่กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ สาบานในใจเงียบๆ ตราบสิ้นชีวิตนี้เสี่ยวเชี้ยนจะไม่ลืมพระคุณคุณหนูเลย จะติดตามรับใช้คุณหนูจนกว่าชีวิตจะหาไม่

               

                ความทรงจำครั้งวันวานหวนคืนมา เสี่ยวเชี้ยนรีบปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว คุณหนูสั่งไว้ไม่ให้ร้องไห้ มิเช่นนั้นนางจะกลายร่างเป็นปลาทอง แม้อายุจะมากขึ้นพอที่รับรู้ได้ว่าคำพูดนั้นหลอกเด็ก แต่นางกลับเชื่อฟังโดยไม่มีข้อแม้ ขอให้เป็นคำพูดของคุณหนูนางเชื่อทุกอย่าง

                เมื่อครู่ที่คุณหนูกระอักเลือดออกมา ทำให้จวนท่านเสนาบดีโกลาหลมิใช่น้อย ท่านหมอฟ้งรีบตรงเข้ามาตรวจอาการก็กล่าวเพียงแค่ว่าอีกไม่นานเสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วจวนเสนาบดี แม้กระทั้งตัวท่านเสนาเองก็ถึงกับเข่าทรุดร่ำไห้ออกมาจนไม่เหลือคราบของท่านเสนาผู้ทรงอำนาจ

                เสี่ยวเชี้ยนบรรจงเช็ดตัวให้คุณหนูของนางอย่างเบามือ ใบหน้าของคุณหนูซีดเซียวไร้สีเลือด ร่างบางนอนราบอยู่บนที่นอนจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับฟูก ผิวหนังติดกระดูกไม่มีน้ำมีนวลเหมือนดั่งก่อน หากใบหน้าที่ซูบตอบกลับยังคงมีเค้าของความงามเอาไว้ คุณหนูของนางน่าสงสารเหลือเกินได้โปรด โปรดส่งใครมาช่วยคุณหนูของนางที อยู่แบบนี้มันทรมานเกินไป อยากจะรู้พระเจ้าเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม ฮือๆ

                 

                เกวลีค่อยๆ ยันตัวขึ้นช้าๆ ความเจ็บปวดบริเวณไรฟันทำให้หยดน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ ฟันเธอ...เหยินไม่พอยังจะบิ่นอีกเรอะ แต่ก็ยังดีตอนที่ปากกระแทกเข้ากับรูปปั้นเลือดไม่ไหลกลบปากอีกกระทอก ไม่งั้นสภาพปากเธอสมควรโดนหามเข้าคลินิกอย่างเร่งด่วนเลยนะนั่น หากเมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง

                ที่นี่มัน… ?

                คฤหาสน์หรูหราตั้งอยู่เบื้องหน้า กำแพงสีขาวโอบล้อมรอบยาวสุดลูกหูลูกตา มองลึกลงไปตรงประตูทางเข้า มีสิงโตหินเพศผู้และเพศเมียแกะสลักอย่างงดงามขนาบข้างบานประตูซ้ายขวา

                บ้านแบบนี้เธอเคยเห็นในหนังมาก่อน มันเหมือนบ้านของพวกคนรวยในสมัยโบราณ ไม่ใช่ไทยโบราณ แต่เป็นจีนโบราณ!

                คิดได้ดังนั้นหัวใจพลันกระตุกวูบ หยาดน้ำใสไหลอาบแก้ม ใบหน้าของมารดาลอยเข้ามาในหัว อย่าบอกนะว่าเธอหลงเข้ามาอยู่ในกองถ่ายหนังจีน ! กรี๊ดดดดแม่จ๋า กิปลื้มใจน้ำตาไหลเพราะความปิติ ไม่แน่นะชีวิตเธออาจจะเหมือนในนิยายก็ได้ ที่ตัวละครไม่มาแล้วผู้กำกับเห็นความสวยของเธอเลยให้เธอมาเป็นนางเอกแทน หุหุ คราวนี้ล่ะ กลับไปหอเมื่อไหร่เธอจะถีบไอ้ซากจักรยานเส็งเคร็งนั่นไปโรงบดเหล็ก แล้วไปถอยฟิกเกียร์มาปั่นเลยคอยดู

                ร่างของสาวใช้สองคนในชุดจีนสีชมพูเดินตรงมายังจุดที่เธอยืนอยู่ เกวลียกมือขึ้นเตรียมตั้งท่าจะทักเพื่อนร่วมวงการบันเทิง หากยกมือได้เพียงครึ่งสาวใช้ทั้งสองกลับเดินทะลุผ่านร่างเธอราวกับเธอเป็นอากาศ

                “เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย”

                ไม่ล้ม ไม่เจ็บ มีเพียงความวูบไหวแปล ๆ ก่อนจะหายไป เกวลีลูบคลำไปทั่วร่างรู้สึกถึงเนื้อหนังตัวเองพอหยิกก็เจ็บ

                 แล้วเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ

                “ไม่ต้องตกใจไปแม่นางหวัง”

                เกวลีหันกลับไปทางต้นเสียง สตรีในชุดกระโปรงผ้าไหมสีขาว รองเท้าสีขาวปักลายอักษรมงคล แม้อาภรณ์ของนางจะเป็นสีขาวทั้งหมด แต่กลับดูหรูหราสวยงาม เสียงกรุ้งกริ้งจากปิ่นปักผมดังเสนาะหูเมื่อเจ้าของหันหน้ามาทางเธออย่างช้าๆ วินาทีนั้นเกวลีแทบลืมหายใจ ดวงตาโศกที่จ้องมาทางเธอราวกับมีมนต์สะกดให้เธอยืนนิ่งอยู่กับที่

                เหมือนเหมือนเหลือเกินใบหน้าของนางช่างเหมือนกับเธอจริง ๆ!
    --------------------------------------------------------
    เอาเข้าไป พอเพียงมีอยู่มุกเดียว หน้าตาเหมือนกันทั้งสองเรื่องเลย (ฮา) แต่ในความเหมือนก็ยังมีความต่างนะจ้ะนายจ๋า
    เหลืออีกครึ่งที่ต้องปั่น (ยากอ่ะเห้ย) จะพยายามสู้ตายนะคับบบ (ขอมือเธอหน่อยย)

    เอาล่ะมาฝากนิยายอีกรอบ ใครชอบแนวย้อนยุคไทย จิ้ม! 
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×