ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BTS'S PROJECT | #SongFicBTS ♬

    ลำดับตอนที่ #5 : VGA | LET ME KNOW

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 58




    { Winter Dark Theme }
    ●•.BARKKER.•●

    Title :: Let me know…

    Pairing :: KimTaehyungMinYoongi

    Author :: ARMY.G

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       “แทแทจะไปไหนน่ะ....?”เสียงนุ่มของมินยุนกิถามชายที่ได้ชื่อว่าเป็น’คนรักของตนเองซึ่งกำลังเดินไปยังประตูในชุดเที่ยว แทฮยองกลอกตาเหนื่อยใจแล้วถอนหายใจออกมาเสียงดังราวกับต้องการให้อีกฝ่ายได้ยิน

     

       “จะไปข้างนอกหน่อยน่ะ พี่นอนก่อนเลยนะ”

     

       “อ๋อ อืม...”ยุนกิตอบเสียงเบา แล้วยิ้มออกมาบางๆให้อีกฝ่ายจนเขาเดินออกจากบ้านนี้ไป รอยยิ้มถึงค่อยๆจางหายออกจากใบหน้าขาวก่อนที่ขาเรียวจะพาร่างบางไปยังห้องเล็กห้องหนึ่ง มันไม่ใช่ห้องที่มีความสำคัญมาก ก็แค่ห้องที่เขาไว้ใช้เก็บพวกรูปความทรงจำต่างๆ

     

       ความทรงจำระหว่างเขากับคิมแทฮยอง..

     

       ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลืมมันแล้วหรือยัง

     

       ทั่วทุกมุมของห้องถูกติดไปด้วยรูปโพลารอยด์และรูปที่เขาอัดมาเก็บไว้ มันมีทั้งรูปตอนที่แทฮยองเผลอ รูปที่เขากับแทฮยองไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรก รูปที่แทฮยองแอบถ่ายเขาตอนหลับ รูปทุกๆรูปล้วนเป็นสิ่งที่น่าจดจำ และรูปที่ถูกใส่กรอบใหญ่แขวนไว้เด่นหราคือรูปที่เขาชอบมันมากที่สุด

     

       ‘รูปที่แทฮยองสารภาพรักกับเขาตอนเรียนจบ

     

       มันถูกถ่ายโดยคนในชมรมถ่ายภาพที่เป็นเพื่อนของยุนกิ

     

       ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นเขาร้องไห้หนักมาก แถมยังหน้าตาแย่แบบสุดๆแต่แทฮยองก็หัวเราะพร้อมกอดเขาไว้แน่น ให้ใบหน้ากลมๆซุกอยู่ในอ้อมกอดนั้น อ้อมกอด...ที่เคยเป็นของเขา ของมินยุนกิแค่คนเดียว

     

       แต่ตอนนี้มันไม่ใช่!

     

       ทุกคนบอกว่ายุนกิโง่..ที่มารักคาสโนว่าตัวพ่อแบบคิมแทฮยอง

     

       ใช่ เขาโง่ที่เลือกแทฮยอง เลือกที่จะรักแค่แทฮยองคนเดียว

     

       แต่เขาไม่เคยโง่.....ถึงขนาดดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายออกไปไหนทุกคืน..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อยากดูอะไรดีๆไหม?

     

    คุณเป็นใคร?

     

    คนที่จะทำให้คุณหายโง่ได้ไงล่ะ

     

       มินยุนกิขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัยแกมไม่เข้าใจ คนคนนี้เป็นใครกัน จู่ๆก็ทักไลน์เขามา แถมมาพูดอะไรแปลกๆอีกต่างหาก.... นั่งเหม่อคิดได้ไม่นานนักอีกฝ่ายก็ส่งไฟล์วิดีโอมาให้ นิ้วเรียวไม่รีรอที่จะเปิดด้วยความคิดที่ว่าถ้าเปิดคงไม่เป็นไร ไม่แน่อีกฝ่ายอาจจะทักคนผิดก็ได้...

     

       แต่เขาก็คิดผิด...

     

       เสียงร้องครางของคนสองคนภายในคลิปพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้นทำเอาใบหน้าขาวชาไปหมด ดวงตาของยุนกิเบิกกว้างแล้วเพ่งมองคนในคลิปด้วยอารมณ์มากมายที่ผสมปนเปกันไปหมด เสียงหวานของคนที่นอนอยู่ภายใต้ร่างที่คุ้นเคยนั้นร้องเรียกอีกฝ่ายอย่างกระหาย

     

       ‘ร..เร็วอีกสิคะคิมแทฮยอง’ ‘

     

       ตุ้บ

     

       มือถือที่ถูกปล่อยให้ตกลงนั้นลงยังพรมภายในห้องพอดิบพอดี แต่นั่นนับว่าไม่เป็นเรื่องดีเอาซะเลยเมื่อเสียงภายในคลิปนั้นยังคนเปิดไปเรื่อยๆ นัยน์ตาสวยนั้นถูกทำให้พร่ามัวด้วยม่านน้ำตา ร่างเล็กนั่งกอดเข่าตัวเองพลันมือทั้งสองก็ได้แต่ปิดหูเอาไว้

     

       พอสักที..ไม่อยากได้ยินอะไรแล้ว

     

       เรื่องบ้าอะไรน่ะ...

     

       เรื่องบ้าอะไรกัน.....

     

     

     

       …พี่ยุนกิ ผมรักพี่นะ อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ:)…

     

     

     

     

     

       ..คนโกหก..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       “วันนี้ก็จะออกไปอีกเหรอ?”ยุนกิเอ่ยถามเสียงเบาหลังจากได้ยินเสียงของใครอีกคนเปิดประตูห้องนอนเตรียมจะออกไป แทฮยองมองร่างเล็กที่ลุกขึ้นนั่งช้าๆก่อนจะพยักหน้าตอบ”เรา..ไม่ได้นอนกอดกันมานานขนาดไหนแล้วนะแทแท”

     

       “พี่อย่างี่เง่าดิ เดี๋ยวผมก็กลับมา”อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆพร้อมกับก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองที่บอกเวลาว่าเขากำลังจะไปตามนัดสาย

     

       “แต่..”

     

       “ผมไปก่อนนะ..”คนตัวสูงบอกแล้วเดินไปหายุนกิก่อนจะจูบลงบนกลุ่มผมหอมเบาๆ ยุนกินิ่งค้างไปจนอีกฝ่ายเดินออกไปแล้วจึงยกมือขึ้นจับทึ้งบริเวณเส้นผมนั่น

     

       คิดถึง..

     

       คิดถึงสัมผัสอุ่นๆแบบนี้

     

       มันจะอยู่กับเขาได้อีกนานแค่ไหนกัน

     

       ได้แต่คิดแล้วก็คิด.. เขาอยากจะยื้อเวลาเอาไว้ ยังไม่อยากให้แทฮยองจากไปเลย

     

       ไม่อยากเห็นอีกคนไปไหนเลย ไม่อยากทน....

     

       ....ทนไม่ได้แล้ว

     

       หมับ

     

       “อย่าไปเลยนะ...”ขายาวๆของแทฮยองชะงักลงทันทีที่ถูกอ้อมแขนขาวๆกอดไว้แน่นพร้อมกับใบหน้าอุ่นที่ซุกลงกลางหลัง ความชื้นที่เริ่มซึมเข้ามาภายใต้เสื้อยิ่งทำให้คนตัวสูงตกใจ

     

       “พี่ยุนกิ..ร้องไห้ทำไม?”

     

       “ฮึก ฉันไม่อยากให้นายไป...ไม่อยากมองนายเดินหายไปทุกวันแบบนี้อีกแล้ว อย่าไปนะแทฮยอง......”เสียงอู้อี้ที่เกิดจากการกดใบหน้าลงบนเนื้อผ้าบวกกับเสียงสะอื้นทำให้แทฮยองได้ยินไม่ถนัดนัก เขารู้แค่ว่ามินยุนกิกำลังขอให้เขาไม่ออกไปข้างนอก

     

       แต่...

     

       “พี่พอเถอะ....”มือหนาแกะแขนของคนตัวเล็กออกเบาๆอย่างเหนื่อยใจแล้วหันไปเผชิญหน้ากับคนที่หน้าแดงพร้อมน้ำตายังคงไม่หยุดไหลออกมา”ผมไม่ได้ไปไหนสักหน่อย เดี๋ยวก็กลับ พี่ก็รู้นี่นา”

     

       “.....”

     

       “จริงไหมครับคนดีของผม?”

     

       “อืม...รู้สิ”ใบหน้าหวานที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาพยักหน้าลงเงียบๆ แทฮยองยิ้มเล็กๆแต่ก็ต้องหุบลงอย่างรวดเร็วทันทีที่เห็นมือขาวหยิบโทรศัพท์มาเปิดอะไรบางอย่าง เปิด....บางสิ่งที่เขาไม่อยากให้คนคนนี้เห็นที่สุด”ขนาดเรื่องแบบนี้ฉันยังรู้เลยนี่นะ...”

     

       “นั่นมัน... คือ.....ผม...”

     

       “ช่างเถอะแทแท ไม่เป็นไรหรอก แต่ตอนนี้ระหว่างเรามันเปลี่ยนไปนะ นายรู้ตัวบ้างไหม..”

     

       “พี่ยุ....”

     

       “ยิ่งพวกเราอยู่กันแบบนี้ บางทีฉันก็คิดว่าฉันอาจจะทำให้นายลำบากใจมากขึ้นไปอีก”ยุนกิยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนจะยิ้มบางๆให้คนตรงหน้า”ฉันว่า....”

     

       ได้โปรด..อย่าพูดคำนั้นออกมานะ....

     

       ......ขอร้อง

     

       “เราห่างกันไปสักพักดีไหม?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       “เอ้าๆใจเย็นๆดิวะแทฮยอง คอนายก็ใช่ว่าจะแข็ง กินเอาๆกลับบ้านไม่ถูกนะเว้ย”เสียงของเพื่อนสนิทอย่างจีมินร้องเตือนคนที่เอาแต่กระดกแก้วเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วมองใบหน้าที่ซูบเซียวลงไปมากนับจากวันที่เขามาเล่าเรื่องที่พี่ยุนกิขอห่างกับเขาเมื่อเดือนก่อน

     

       คำว่าห่างกันสักพักมันก็เหมือนการบอกเลิกกลายๆสำหรับทุกคนนั่นล่ะ..

     

       เพราะอย่างนั้นแล้วเพื่อนเขาถึงได้มานั่งเศร้าเสียใจอยู่แบบนี้ไง

     

       จีมินถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะมองไปทางจองกุกที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนหนุ่มของตัวเองอย่างขอความช่วยเหลือ จองกุกยังคงนั่งนิ่งก่อนจะพยักหน้าลงแล้ววางแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์สีหวานลงกับโต๊ะ

     

       “ผมถามจริงๆนะพี่แทฮยอง”

     

       “....”

     

       “ถ้าพี่รักเขา..แล้วพี่ทำแบบนั้นทำไม?”

     

       “....ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

     

       ใช่..มันคือสิ่งที่แทฮยองไม่เคยต้องการให้เกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะเคยเจ้าชู้ขนาดไหน แต่ตอนนี้ทั้งหัวใจเขามันหยุดอยู่ที่ผู้ชายที่ชื่อมินยุนกิแล้ว แต่ว่ามันเป็นเพราะเขาเมา... เมา..และเผลอไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนึงที่เจอกันในผับ เธอรู้ว่าเขามียุนกิอยู่แล้วแต่ก็ยังขอให้เขาออกมาทำผิดด้วยกันแบบนี้ทุกคืน.... ในตอนแรกแทฮยองปฏิเสธและบอกเพียงว่าที่เขาทำลงไปเพราะเขาเมาเท่านั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงพูดว่าเธอจะบอกเรื่องนี้กับยุนกิ

     

       แต่ใครจะรู้...ว่ามารยาหญิงมันน่ารังเกียจแค่ไหน

     

       ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วก็ตามที แต่แค่การเดินไปใกล้ๆบ้านที่เขาเคยอยู่กับยุนกิยังไม่กล้าเลย..

     

       “ไม่ลองติดต่อหาพี่ยุนกิดูเหรอ?”จีมินที่ได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆจากเพื่อนสนิทก็รู้สึกเจ็บปวดแทนขึ้นมา เขาทั้งสงสารแทฮยอง เสียใจแทนพี่ยุนกิ แล้วยังรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้เพื่อนรักของเขาต้องกลายเป็นแบบนี้”ถ้าอธิบายให้เขาฟัง เขาอาจจะเข้าใจก็ได้นะ”

     

       “ลองแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับอะไรเลย”แทฮยองตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนทำท่าจะยกแก้วขึ้นดื่มอีก ถ้าหากไม่มีเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน”จีมิน...”

     

       “หืม?”

     

       “ยุนกิโทรมา”

     

       “แล้วรออะไร รับสิ!

     

       “พี่ยุนกิ..”

     

       […]

     

       “ครับ?”

     

       […]

     

       “อ...อะไรนะ?”จีมินที่สังเกตเห็นความผิดปกติของท่าทางแทฮยองเริ่มมองอย่างนึกกังวล ในใจก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายๆขึ้นอีก.....

     

       ซึ่งเหมือนว่าเขาจะได้แต่หวังจริงๆ...

     

       “เป็นอะไรวะ เกิดอะไรขึ้น??”

     

       “พี่ยุนกิ...พี่ยุนกิถูกรถชน”พูดแค่นั้นก่อนร่างสูงจะรีบวิ่งออกไปทันที แทฮยองแทบจะสร่างเมาไปในทันทีที่ได้ยินประโยคต่างๆจากเสียงในโทรศัพท์นั่น

     

       ‘ตอนนี้ร่างกายของคุณมินยุนกิเป็นตายเท่ากันค่ะ อยากให้คุณเตรียมเผื่อใจเอาไว้ด้วย

     

       เมื่อไหร่กันที่เขาไม่รู้สึกเลยว่าคำว่า’ตายมันอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

     

       เมื่อไหร่ที่เขาแทบจะลืมไปแล้วว่าร่างกายของมินยุนกิอ่อนแอขนาดไหน

     

       เมื่อไหร่กันนะ....ที่เขาไม่ทันได้สังเกตว่าร่างกายของมินยุนกิซูบผอมลงแบบนี้

     

       “เขาจะไม่เป็นอะไร..ใช่ไหมครับ?”คำถามแรกที่ถามกับคุณหมอหลังจากที่เขาได้รู้ว่ายุนกิของเขาพ้นขีดอันตรายแล้วแต่เขาอาจจะต้องกลายเป็น'เจ้าชายนิทรา'ไปตลอดชีวิต

       แม้ปากจะกำลังถามคนเป็นหมอ แต่สายตาของเขาแทบไม่ละออกจากดวงหน้าขาวซีดนี้เลย กลัว...กลัวว่าถ้าละสายตาออกไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาจะไม่ได้เห็นใบหน้าหวานนี้อีก

     

     

       “...คุณเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ไหม?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       “ไง ไอ้นักแต่งเพลง ดังใหญ่แล้วนะ”เสียงแซวของคนที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับการกอดคออย่างสนิทสนมนั้นย่อมเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากปาร์คจีมิน เพื่อนรักของคิมแทฮยอง แทฮยองยิ้มรับคำทักทายจากเพื่อนซี้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปหาแฟนตัวเอง วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับคิมแทฮยองวันหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเขากลายเป็นคนดังในสายตาของค่ายเพลงและศิลปิน นักแต่งเพลงหลายๆคน จากการที่เขาแต่งเพลงเพลงนึงขึ้นมา

     

       เพลงที่ชื่อว่า...Let  Me Know

     

       จะบอกว่าเขาแต่งทั้งหมดก็คงไม่ใช่ เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้นคนที่เขารักมากที่สุด มินยุนกิต่างหากที่เป็นคนเริ่มแต่งมัน เขาไปเจอเนื้อเพลงเพลงนี้อยู่บนข้างเตียงหลังจากที่ตัดสินใจจะกลับไปนอนที่บ้านอย่างเดิม เพราะมันถูกเติมเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความทรงจำระหว่างเขากับยุนกิ ครั้งแรกที่อ่านเขาได้แต่เม้มริมฝีปากและกลั้นน้ำตาเอาไว้ ความรู้สึกเจ็บปวดถาโถมจนแทบจะฉีกมันทิ้งไป

     

       แต่เขาทำไม่ได้...

     

       ‘แทฮยอง สักวันฉันจะเป็นนักแต่งเพลงให้ได้เลย จะแต่งเพลงที่มีความทรงจำระหว่างเราอยู่ในนั้น

     

       ‘ผมจะรอจนวันที่พี่ทำความฝันนั้นสำเร็จ ผมรู้ว่าพี่ทำได้แน่

     

       เขาอยากที่จะเติมเต็มความฝันของยุนกิ อยากจะทำมันเพื่อยุนกิ.... ถึงยุนกิจะไม่ได้รับรู้มันก็ตามที แต่เขาก็อยากที่จะทำ

     

       “คุณวีใช่ไหมครับ?”วี...คือชื่อที่เขาใช้ภายในวงการ แทฮยองมองคนที่เข้ามาทักเขาก่อนจะพยักหน้าลงแล้วโค้งทักทาย”ผมชอบผลงานเพลงLet  Me Knowของคุณมากเลยนะครับ เหมือนว่าคุณจะเป็นคนที่แต่งและร้องมันเองงั้นเหรอครับ?”

     

       “ครับ แต่ความจริงผมไม่ใช่คนแต่งมันทั้งหมดหรอกครับ ผมแค่สานต่อมันจนเสร็จน่ะครับ พูดตามความจริง ผมแต่งมันไปไม่ถึงครึ่งด้วย”

     

       “งั้นคุณพอจะบอกได้ไหมครับว่าใครเป็นคนแต่งที่เหลือ??”

     

       “....ถ้ามีโอกาสผมจะพาเขามาครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”แทฮยองพูดแค่นั้นก่อนจะขอตัวออกไป ไม่ใช่ว่าเขาลำบากใจหรืออย่างไรที่โดนถามประโยคแบบนั้น แต่เพราะเขามีเรื่องที่ต้องทำต่อ

     

       หลังออกจากงานเลี้ยงของค่ายเพลงที่เชิญเขาไปเป็นแขกพิเศษและคุยเรื่องขอซื้อเพลงจากเขาไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่กิจวัตรของแทฮยองจะกลับมาอีกครั้ง

     

       สองขายาวก้าวพาเจ้าของร่างไปหาคนคนนึง

     

       คนที่เขารอให้ตื่นขึ้นมาตลอดเกือบห้าปี...

     

       “พี่ยุนกิรู้ไหม..เพลงของพี่จะมีคนขอซื้อไปแล้วนะ แถมเป็นค่ายเพลงใหญ่ด้วย”

     

       “...”

     

       “จะห้าปีแล้วที่พี่หลับไปแบบนี้ นอนไม่เมื่อยหรอ ให้ผมนวดให้ไหม?”

     

       “...”

     

       “แต่ถ้ามันสบายกว่าที่จะตื่นขึ้นมาเจอคนนิสัยแย่ เอาแต่ใจแบบผมพี่ก็นอนเถอะ ถ้าพี่เกิดคิดถึงผมขึ้นมาก็ค่อยตื่นมาเจอผมก็ได้นะ ผมรอพี่ได้.....”

     

       “...”

     

       “จะอีกสิบปี ยี่สิบปีผมก็จะรอพี่ เพราะผมรักพี่”

     

       “...”

     

       “อา..น้ำตามัน....”มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าตัวเองหลังจากรู้สึกถึงหยดน้ำใสที่ไหลออกมาจากดวงตาตัวเอง”ผมนี่น่าสมเพชจริงๆ ร้องไห้ต่อหน้าพี่ได้ยังไงกัน..”

     

       “...”

     

       “ผม ฮึก คิดถึงพี่”

     

       “...”

     

       “ผม...ผมไปก่อนนะ....”เสียงทุ้มบอกกับคนที่ยังคงนอนนิ่งอยู่พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปจูบเบาๆที่หน้าผากมน เขามัวพร่ำเพ้ออะไรอยู่กัน... คนคนนี้คงไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอเขาแล้วล่ะ... คงไม่อยากตื่นขึ้นมาเพื่อเจ็บเพราะเขาแล้วล่ะ... บางทีที่มินยุนกิไม่ตื่นขึ้นมาเลย อาจจะเป็นเพราะเขาก็ได้

     

       แต่ยังไงก็ตามเขาก็จะรอวันที่มินยุนกิหายโกรธ

     

       รอวันที่เสียงหวานนั่นจะเรียกชื่อเขาอีกครั้งหนึ่ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       ‘...คุณเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ไหม?

     

       ‘…’

     

       ‘ถ้าผมบอกว่ามีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยให้เขาตื่นขึ้นมา คุณจะเชื่อในมันไหม?

     

       ‘ผมไม่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์หรอกครับคุณหมอ แต่ว่า...

     

     

     

       ‘ผมเชื่อในความรักของผมกับเขา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ฉันก็คิดถึงนาย แทฮยอง...”

    ........................................................

    เห้ย จบสวยได้ไงหว่า;/////////;

    แง้ ขอบคุณค่ะ ที่กดเข้ามาอ่าน รู้สึกฝีมือยังไม่ดีพอ+แต่งช่วงเครียด ฟิคเลยออกมาแบบ.....อึนๆ55555555

    แต่งไปหน่วงไป ทำไมเราแต่งอะไรไม่หน่วงกับเขาไม่ได้เลยนะ

    ฝากฟิคฝากโปรเจ็คเราด้วยนะคะ^[]^~

    ไปสกรีมได้ที่ 
    → #SongFicBTS

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×