ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราตรีนิรันดร์ [YAOI&HAREM]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ อิมเมจตัวละคร

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 55




    เราขอเวิ่นเล็กๆก็เปิดเรื่องว่า 
    หลังจากเปิดเรื่องได้สองวัน  (วันที่สองขึ้นเดือนใหม่ ความนิยมนับใหม่)
    นิยายของเราเด้งไปที่หน้า 11 !!  วิ้วววววว  อย่างงี้มีฉลองซิ -..- 
    ขอโทษนะคะถ้านิยายของเราหน้ามันจะเละๆ เพราะแทรกโน่นแทรกนี่ :(
    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่องของเราค่ะ :D




    มาตราการควบคุมเรตติ้งนิยาย Dek-D.com
    แสดงผลการค้นหาบทความที่มีผู้เข้าชมมากสุด 300 บทความ
    หน้าที่: 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 , 10 >>

    id 811901 : สงครามเทพยุทธ์ออนไลน์
    [ ลงแล้ว 7 ตอน ]
    โดย Rafa'rez
    ยังไม่จบ
    ภาคิญ เด็กหนุ่มซึ่งกลับมาจากอเมริกาได้ไปร่วมในงานเกมสงครามเทพยุทธแล้วไปไปมาๆถูกจับมารับจำแหน่ง GM ซะงั้น เอ๊า!! แล้วเรื่องมันจะไม่วุ่นไปกันใหญ่หรือนี่ ติดตามได้แล้ว ที่นี่เท่านั้นจ้า!!

    id 809510 : ราตรีนิรันดร์ [YAOI&HAREM]
    [ ลงแล้ว 5 ตอน ]
    โดย irisrose .
    ยังไม่จบ
    เลือดสีดำ สัตว์พยศ ยักษานิรันดริ์ สายเลือดที่ใครมีก็เตรียมเข้าไปชดใช้บาปในอีกดินแดนได้เลย และผู้ได้รับ ข้าไงล่ะ!! . "เลือดของเจ้าน่ะเป็นพิษสำหรับพวกเขา" "แต่เป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับเรา:)"

    id 816981 : ARMAGEDDON &online(อาร์มาเกดดอนมหาสงครามวันสิ้นโลกออนไลน์)
    [ ลงแล้ว 15 ตอน ]
    โดย เซฟีรอสจักรพรรดิไร้กฎเกนฑ์
    ยังไม่จบ
    เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างเกมARMAGEDDON จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพระเอกได้รับภารกิจจากพ่อที่น่าเครพให้ไปคุ้มครอง..............และเข้าเกมมามีแต่ซวยๆติดตามได้เลยครับ



    # ตอนนี้ เด้งไปหน้าที่  10 แล้วค่ะ  4 / 5 / 55
    # เด้งไปหน้า  9  4 / 5 / 55     # UPDATE PICTURE 


    "ดูนั่นซิ ยังหนุ่มอยู่แท้ๆ"
    "ไม่นึกว่าจะโหดร้ายขนาดนั้น" 
    "ปีศาจอย่างนั้น ตระกูลใหญ่ไม่น่าจะรับมาเลย เห็นไหมล่ะ นำความพินาศมาจนสิ้น"  ข้าได้แต่เชิดหน้าขึ้นประจันกับพวกชาวบ้านที่ดีแต่กระซิบกระซาบว่ากล่าว แผ่นหลังของข้าเหยียดตรงนัยน์ตาของข้ามองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่มีเค้าของความหวาดกลัว

    แม้ว่านั่นจะเป็นการเดินทางไปสู่แท่นประหาร 

    การเดินไปสู่ความตายมันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ที่ๆข้าจะไปต่างหากล่ะที่น่าเป็นห่วงเสียมากกว่า 
    ก้าวแต่ละก้าวดูช่างหนุกอึ้ง ข้ากระพริบตาถี่เพราะความร้อนของลานกว้างนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ข้าจะมาเดินเล่นอยู่กลางอากาศร้อนนานๆ 

    ใช่ ข้าเป็นคุณชายจากตระกูลดัง ตระกูล 'เหมันตร์' ตระกูลที่มีเกียรติยศและมีลูกหลานมากมายจากทั่วสารทิศเรามีความเยี่ยมยอดทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้ มันสมอง การบันเทิงหรือแม้แต่เรื่องอัศจรรย์ 'ทำนาย' 

    ตัวข้านั้นเหมือนควันหลงซะมากกว่า 
    เพราะข้าไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับพวกพี่ๆ ข้าเพียงแค่โดนกลับมาเลี้ยง 

    พวกพี่ๆที่ข้าพูดถึงคือพวกลูกหลานหรือญาติของพวกผู้ใหญ่ตระกูลเหมันตร์ที่นานๆทีจะมาเล่นกับข้าที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องสมุดหรือลานน้ำพุของตระกูล 
    ข้าเกลียดความร้อน ข้าเกลียดฝูงชน ข้าเกลียดความวุ่นวาย การใช้กำลัง
    สิ่งที่ทุกๆคนรู้ดี ... 
    แต่ก็น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ข้อแก้ต่างที่ดีพอว่าเหตุใด เหล่าพี่ๆถึงถูกสังหารในห้องของข้าจนสิ้น

    ข้าเพียงแค่นั่งอยู่นิ่งๆเหมือนตกอยู่ในภวังค์แท้ๆ
    นึกถึงฝันเมื่อคืนที่เต็มไปด้วยผู้คนล้มตาย ไม่ว่าข้าจะตะโกนเรียกขอความช่วยเหลืออย่างไร กลับไม่มีใครได้ยิน เมินเฉยดั่งว่าข้าเป็นอากาศธาตุ

    แต่เพียงแค่กระพริบตาเพียงครั้งเดียว สิ่งที่ข้าเห็นดั่งฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน 
    ผู้คนต่างล้มลง กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เลือดมากมายกระเซ็นไปทั่ว พร้อมสิ้นลมหายใจในเวลาไม่กี่ชั่วครา  ข้าได้แต่ตะลึงว่าเกิดอาเพศอะไรกันขึ้น 

    และแล้วข้าก็เห็นว่าตัวข้านั้นมีบาดแผล 
    บาดแผลที่ดูยังไงก็รู้ว่าหนึ่งในพวกเขาที่ล้มตาย ยกดาบสั้นขึ้นมาฟาดฟันใส่ข้าเพื่อป้องกันตัว
    บาดแผลที่แสดงตนว่าข้านั้น 'ถูกสาปอย่างแท้จริง' 
    เลือดที่ซึมมาจากบาดแผลนั้นเป็นสีดำ 

    อา ... ฝันร้ายเอย 
    "ต่อจากนี้จะประหาร วารี เหมันตร์ บุตรชายอุปฌัมณ์บ้านเหมันตร์ ณ บัดนี้!!" 
    ข้าถูกกดให้นั่งลงกับพื้นประหาร มือของทหารหนุ่มกดลงที่หัวของข้าให้ติดผืนดิน 
    สิ่งที่ข้าเห็นเป็นเพียงแค่รองเท้าของหมู่คนจำนวนมากเพียงเท่านั้น 

    และหนึ่งในนั้นคือนักบวชที่เขากำลังสวดให้กับวิญญาณของข้า 
    "ซาตานเอ๋ย เจ้านั้นมีบาปอันหนักหนา ขอให้เจ้าจงเข้าสู่ภวังค์อันเป็นราตรีนิรันดร์ชดใช้บาปทั้งหมด"

    ข้ายิ้มเย้ยหยันตัวเอง นี่มันเรียกว่าตีตราความผิดให้ข้ามากกว่า
    มือเหี่ยวย่นสัมผัสกับหน้าผากของข้า เสียงอันอบอุ่นดังไปทั่วบริเวณ

    "ขอให้ลูกจงชำระบาป หลับเสียเถิดซาตานเลือดสีดำ!!" 
    ข้าหลับตาลงช้าๆ ได้ยินเสียงของดาบที่แกว่งกับอากาศดังเป็นเสียงที่ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลย 
    ดาบนั่นคงจะแกว่งมาที่คอของข้าในไม่ช้านี่แล้วซินะ 
    อา...จุดจบของข้าช่างน่าสมเพชเสียหรือเกิน 

    ไร้เกียรต ถูกตีตราว่าเป็นผู้ปลิดชีพผู้มีพระคุณ 
    ...ไม่ซิ มันเป็นเพราะเลือดสีดำที่บาทหลวงบอกมากกว่า 
    สายเลือดต้องสาป ..


    "ประหาร !" ถูกสิ่งเงียบสงัดไร้แม้แต่เสียงกรีดร้อง 



    ตัวข้าชาวาบเหมือนถูกดึงไปอีกที่ 
    กลิ่นอายของธรรมชาติรุมล้อม เสียงของจักจั่นและเสียงนกร้องเริ่มระงมไปทั่ว 
    แสงแดดที่แยงเข้าตามันช่างแสบตาจนต้องยกมือขึ้นมาบังเอาไว้  
    ปวดระบมไปทั่วทั้งตัว เหมือนถูกฉีกทึ้งซะจนหมดสภาพ 

    หายใจแผ่วเบา พยายามยันตนเองขึ้นมา สภาพรอบตัวที่เห็นคือป่าไม้พืชหลากพรรณที่ขึ้นตามโขดหินและผืนดินทำให้งุนงงไม่ใช่น้อย  ว่าสถานที่แบบนี้มีอยู่ในดินแดนที่ข้าเคยอยู่หรือ  ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนกันและข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อคอของข้าน่าจะขาดสะบั้นไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
     
    ข้าลูบคอของตัวเอง และรู้สึกได้ถึงรอยแผลเป็นที่ทาบไปทั่วคอ 
    ข้าขมวดคิ้วแล้วเดินโซเซไร้เรี่ยวแรงไปตามริมธารใกล้ๆ ชะเง้อมองตัวเองว่ารอยแผลตรงคอนี่มันคืออะไร และเมื่อเห็นโฉมหน้าของตัวเองก็ต้องแหกปากร้องออกมาอย่างตระหนก 

    "บะ ใบหน้าของข้า!!"  ผมและนัยน์ตาสีดำตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผมของข้าตอนนี้กลายเป็นสีเหลืองอ่อน นัยน์ตาสีฟ้าครามอมเทาที่ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะใช่ของดวงตาของ 'มนุษย์' ซักเท่าไหร่ มันทำให้ข้ากลืนน้ำลาย และพยายามเข้าใจสถานการณ์ 

    ข้าโดนฟันคอ ... 
    ข้าลูบไปตามรอยแผลที่เกิดขึ้นรอบคอ ซึ่งข้าสันนิษฐานว่าเกิดจากการฟันครั้งนั้น 
    และจากการที่ข้าหมกตัวแต่ในห้องสมุด ข้าจำได้ว่าข้าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้
    หนังสือของพวก 'สายเลือดบาป' ซึ่งเลือดสีดำเองก็เป็นหนึ่งในพวกสายเลือดบาป 

    กายของพวกสายเลือดบาปมีสองกาย 
    หากกายหนึ่งเกิดอันตรายจนมิอาจอยู่ได้ วิญญาณจะย้ายไปสู่อีกกาย
    เป็นกระบวนการเอาตัวรอดที่ทั้งดีและแย่  เพราะอีกกายนั้นเรามิสามารถกำหนดว่าอยู่ที่ไหน ที่ใด หรือว่าอยู่ในความจริงหรือความฝันกันแน่ 

    ข้านั่งหย่อนข้าลงในธารน้ำ พร้อมความคิดอีกหนึ่งความคิดดังขึ้นในหัว
    แล้วถ้ากายนี้มันตายขึ้นมาล่ะ ? ... 

    "...ยิง!!"   ข้าเบิกตากว้างเมื่ออยู่ดีๆ เสียงตะโกนของบุรุษก็ดังขึ้น  ข้าหันหลังกลับไปและแล้วข้าก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อลูกธนูนั้นกำลังมาทางข้าด้วยความเร็ว  ข้าหนีไม่พ้นแน่ๆ  โชคดีที่ธนูลูกนั้นพลาดไป ข้าถอนหายใจแล้วลุกขึ้นกวาดสายตามองไปรอบๆ 

    มีคนกำลังลอบมองข้าจากที่ใดที่หนึ่งอยู่ 
    ทางไหนกันล่ะ ... 
    ไม่ซิ ถึงจะรู้แล้วข้าจะทำอะไรได้   ออกวิ่งงั้นหรือ ?  บุรุษนั่นมีธนู เพียงแค่ข้าเผลอเขาได้สอยข้าร่วงอีกแน่  ข้ากัดฟันอย่างอารมณ์เสีย 

    ไร้ประโยชน์เสียจริงๆเลยวารี !  นี่เจ้าเกิดมาเป็นคนตระกูลเหมันตร์ได้อย่างไรกัน ขนาดเอาตัวรอดยังทำไม่ได้เลย !! 


    "พลธนูพร้อม.."   ข้าหยุดชะงักความคิดด่าตัวเอง แล้วทวนสิ่งที่ข้าได้ยินอีกรอบ
    เมื่อกี้ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม  คำว่า  'พลธนู'  น่ะ


    "ยิง !!" 

     
    ตัวของข้าเหมือนถูกสั่งให้ยืนนิ่ง ความเจ็บปวดที่เกิดบนต้นขาและตรงหน้าท้องด้านขวามันช่างเหมือนจริงจนข้าเลือกที่จะตัดไปได้เลยว่ากายของข้านี้อยู่ในความฝัน  ! 
    ข้าทรุดตัวลงกับผืนหญ้า หายใจรวยรินแล้วจับบาดแผลที่เลือดสีดำไหลออกมาไม่หยุด ลูกธนูสองลูกที่แทงเข้าไปในร่างกายของข้าบัดนี้ขนสีขาวตรงหางธนูนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีดำของข้า ช่างน่าสังเวช 

    ข้าพยายามที่จะยันตัวขึ้นแต่น่าเสียดาย ที่ร่างกายของข้ามันบอกให้ข้านอนนิ่งอยู่
    ร่างกายของข้าช่างอ่อนแอ เหมือนในอีกร่าง 
    ร่างที่วันๆอยู่แต่ในห้อง บอกคำทำนายให้กับเหล่าผู้คน ช่วยเหลือในเรื่องคำสาปและโชคลาง 
    มันหงุดหงิดจริงๆ !! 

    เสียงของผู้คนที่เริ่มเข้ามาใกล้ข้า ทำให้สัญชาตญานป้องกันตัวของข้าตื่นขึ้น
    พวกเขาอาจคิดจะเข้ามาฆ่าข้าก็ได้ ... 
    ข้าไม่อยากตาย  ในฐานะของวารีนั้นข้ายอมตายด้วยเกียรต แต่ในเมื่อข้าอยู่ในโฉมหน้าของผู้ที่ตายไปแล้ว อยู่ได้ด้วยเลือดสีดำข้าก็ยังไม่พร้อมที่จะตาย   !! 

    เลือดสีดำของข้าค่อยๆเคลื่อนตัว ก่อนจะกลายเป็นเข็มนับพันหมื่น ก่อนจะค่อยๆพุ่งไปที่เหล่าผู้คน!! ข้าตื่นตกใจนักแต่จะทำอะไรได้ เลือดของข้าอาจจะช่วยข้าต่อสู้แต่มันไม่ได้ช่วยข้าหนี ข้ายังทำได้แค่เพียงนอนหายใจรวยรินรอความตายอย่างน่าสังเวชอยู่ดี 

    "..."  ยังมีคนรอดอีกหรือ? 
    ฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ข้าก่อนจะคุกเข่า มองข้าที่นัยน์ตาเริ่มจะปรือเพราะเสียเลือดไปมาก
    ตาของข้าปรือ แต่ก็ยังเห็นว่าชายตรงหน้าข้าพูดคำๆหนึ่งที่ข้าต้องก่นด่าในใจ

    "ให้ตายเถอะ  กวางป่าตัวนี้ได้ราคางามแน่ "
    ...   ข้าไม่ใช่กวาง  ข้าเป็นแค่คนซวยโดนสายเลือดต้องสาปนี่เลือกต่างหากเล่า เจ้างั่งเอ๊ย ! 



    เสียงพูดคุยตะเบ็งเสียงทำให้ข้านอนไม่เป็นสุข  มันช่างเป็นสถานที่ๆหลับยากเสียจนข้าเลือกที่จะปรือตาแล้วขยับตัวที่สิ้นแรงของตัวเอง  และข้าก็รู้สึกว่าตัวข้ามีสิ่งที่ผิดแผกไปอีกแล้ว
    ผมของข้ายาวขึ้น...
    แผลของข้าหายไปดั่งไม่เคยเกิดการหลั่งเลือด

    ข้าเหม่อมองไปรอบๆบริเวณ มันเป็นเต็นทร์สีแสดที่กำลังฉายเงาของผู้คนจากนอกเต็นทร์ บ้างก็กำลังวิ่งวุ่นบ้างก็นั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น
    มันอยู่ที่ว่าพวกเขาเป็น มิตร หรือ ศัตรู กับข้า
    ถ้าหากเป็นมิตรก็ดีไป
    แต่ถ้าหากเป็นศัตรูล่ะ ...
    ข้าจ้องมองมือของข้าถ้าหากปล่อยให้เลือดสีดำหลั่งออกมา มันอาจจะช่วยจัดการทุกคนได้ และข้าก็จะปลอดภัยสามารถเดินออกจากที่นี่ได้อย่างผ่าเผย ในขณะที่ทุกคนที่นี่สิ้นลม

    อย่าเลยวารี  เจ้าควรจะเก็บความเป็นมนุษย์ของเจ้าไว้แม้ว่าเจ้ากลายเป็นพวกโดนสาปไปแล้วก็ตามที


    "ตื่นแล้วรึ กวางป่า?" เสียงดังฟังชัดของคนที่ก้าวเท้าเข้ามาในเต็นทร์ ทำให้ข้าสะดุ้งหาของป้องกัน และสิ่งที่ข้าเจอน่ะหรือ มันคือมีดปอกผลไม้ แต่ก็ยังดีกว่าไร้สิ่งใดป้องกันตัวล่ะ ข้าคว้ามันแล้วชี้ไปที่ชายแปลกหน้าที่ดันปากไม่ดีเรียกข้าเป็นพวกสัตว์  ...'กวางป่า' คิดได้อย่างไรกัน

    "เจ้าไม่ควรหันอาวุธใส่ผู้มีพระคุณ รู้ไหมกวางป่า"  ข้าจ้องมองชายตรงหน้าอย่างพิจารณา นัยน์ตาสีเขียวอเมทิสต์ร่างกายกำยำผิวสีแทนและใบหน้าคมคายและสายตากรุ้มกริ่มบ่งบอกแววเจ้าชู้ ผมสีแดงยุ่งๆที่ยาวไปถึงกลางหลังและชุดแปลกๆที่เขาสวม

    ดูอย่างไรก็ดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย ..


    "ผู้มีพระคุณในความหมายของเจ้าคือการยิงทะลุที่ท้องกับขา ของข้าหรือ?"  ชายตรงหน้าขยับยิ้มแล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆข้า  ข้าไม่ขยับหนี ข้าไม่เคยเกรงกลัวพวกเดียวกันหรอก 'มนุษย์'น่ะ ข้าเข้าใจพวกเขาอย่างถ่องแท้ พลังทำนายของข้าล้วงเข้าไปถึงจิตใจที่แท้จริงของพวกเขา ความละโมภ ความริษยา อาฆาต  ทุกๆอย่าง


    "ข้าแค่ต้องการจะจับกวางป่า แต่บังเอิญเห็นบางอย่างขยับไปมาตรงธารน้ำ เลยเหมาว่าเป็นกวางป่า..."


    "เลยบอกพลธนูให้ยิงเจ้า ข้าอยากยลโฉมกวางป่าตรงธารน้ำก็เท่านั้น"  ข้าจ้องมองเขาด้วยแววตาไม่ชอบใจ ชายตรงหน้ามองว่าการที่ยิงข้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วถ้าหากว่ามันไม่ใช่ ถ้าหากว่าข้าเกิดตายขึ้นมาทั้งที่พึ่งฟื้นเข้าร่างไม่กี่นาทีล่ะ

    ยิ่งเห็นชายตรงหน้าหัวเราะร่าเท่าไหร่ ข้าก็อยากจะเอามีดปอกผลไม้นี้แทงเขาจนมิดด้ามเสียจริงๆ..

    "รู้ไหมการที่เจ้าเปรียบมนุษย์เป็นสัตว์ ตัวเจ้าก็มิได้ต่างกัน" ข้าพูดเสียงเรียบนิ่ง แต่นั่นก็ทำให้ชายผมแดงจองมองข้าด้วยแววตาแปลกๆ  เขามองข้าเหมือนข้าเป็นตัวประหลาดไม่เคยพบใจ ข้ามองสบตากับเขาพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง


    หากเขาเกิดหมั่นไส้แล้วตบหน้าข้าสักเปรี้ยงข้าก็มิแปลกใจเลย
    หน้าตาอย่างข้าน่ะ ตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ  พี่ข้าบอกประจำว่าหน้าข้าเวลาทำหน้าถือตัว  มันช่างอภิมหาน่าหมั่นไส้  

    แต่ก็นั่นล่ะ ทุกคนในเหมันตร์ไม่เคยแตะตัวข้าโดยประสงค์ร้ายสักครั้ง พวกเขาให้ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ ทำเหมือนข้าเป็นนายเหนือหัว แม้แต่คุณปู่หัวหน้าตระกูลยังตามใจข้าเลย   แต่ข้าคิดว่าหลังจากข้าเกิดประทุขึ้นเลือดสีดำเข้าสังหารลูกหลานของพวกเขา


    ข้าว่าไม่ใช่แค่มือหรอกที่จะรุมทึ้งข้า  พวกเขาอาจจะเผาข้าทั้งเป็นเลยด้วยซ้ำ

    "แล้วเจ้าจะนึกขอบคุณข้าที่เก็บเจ้ามาได้นะเด็กใหม่"  ข้าขมวดคิ้วเมื่อเขาเรียกข้าว่าเด็กใหม่ มองหน้าชายผมแดงด้วยความฉงน เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมคายนั้นไม่ได้หัวเราะอีกต่อไปแต่จ้องมองดูข้าด้วยความ 'เอ็นดู'  

    "เด็กใหม่?"
    "เจ้าพึ่งโดนย้ายร่างมาใช่ไหมล่ะ ดูท่าเจ้าจะไม่รู้การใช้พลังของตนแถมยังไม่รู้จักข้า"  ข้ามองชายตรงหน้า  ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้ข้าอยากจะรู้จักเขา ถึงหน้าตาเข้าจะดีแต่ก็...สู้ข้าไม่ได้อยู่ดี ข้าเผลอส่งสายตาดูแคลนให้เขาอีกรอบหนึ่ง

    "ถ้าเป็นอีรอส หมอนั่นจะสั่งให้สัตว์เลี้ยงของเขาขย้ำเจ้าได้ทุกเมื่อถ้าหากเจ้าทำอะไรไม่พอใจ
    ซึ่งข้าขอยกตัวอย่างด้วย 'สายตา' ของเจ้าตอนนี้" ข้ากระพริบตาแล้วเปลี่ยนแปลงสายตาของตัวเองทันที  

    "ข้าไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ" แม้ว่าปากข้าจะเอ่ยคำขอโทษ แต่ก็อย่างเดิม หลังข้ายังตรงและมองสบกับชายตรงหน้าอย่างไม่หวาดกลัวเช่นเคย ชายผมแดงเพียงพยักหน้าแล้วพูดต่อไปเรื่อยๆ

    "ถ้าเป็นเวหา หมอนั่นจะยกตัวเจ้าขึ้นไปบนจุดสูงสุดของภูผาแล้วเหวี่ยงตัวเจ้าลงมาให้สภาพศพไม่สวย ให้พวกอีแร้งมากัดกินจัดการศพ"

    "หรือถ้าโรคจิตแบบ ซีตัส อย่างหมอนั่น..."  เขามองหน้าข้าอย่างประเมิน  แล้วก็ส่งยิ้มมาให้ข้า

    "เขาอาจจะฝึกเจ้าให้เชื่อง แล้วโยนเจ้าเข้าหอโคมแดงไปเป็นนางบำเรอ  ได้ทั้งเงินแถมได้ความสนุกภาษาผู้ชาย  ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว"  ข้าสบถแล้วตะโกนใส่หน้าเจ้าคนไร้มารยาท

    "ข้าเป็นบุรุษเพศ! เจ้ามันไอ้ตาถั่ว"
    "บุรุษเพศแล้วทำไม ที่นี่เราเป็นอิสระนักกวางป่า เจ้าออกไปจากเต็นทร์นี้เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง" เขาจับมือของข้าให้ลุกขึ้น  ข้าสบถออกมาเพราะร่างกายของข้ายังไร้เรี่ยวแรง ข้าพยายามที่จะเดินให้สง่างาม แต่ช่างโชคร้าย ร่างกายของข้าทำได้แค่เพียงเดินโซเซอย่างไม่น่าให้อภัย  ชายผมแดงเดินเข้ามาหวังจะช่วยพยุงข้า

    และแน่นอน ข้าปัดมือเขาออก 

    "ข้าเดินเองได้ ข้ายังมีขาไม่ใช่คนพิการ"
    "แต่หากข้าช่วยเจ้าก็เดินเร็วขึ้นกว่า หากเจ้ารู้จักประมวลผลคงจะคิดได้ว่าอันไหนได้กำไรและอันไหนมันงี่เง่า"  ข้าตวัดสายตาไม่ชอบใจไปให้ชายผมแดง เขาคว้าข้อมือของข้าช่วยข้าพยุง  และแนะนำตัวของเขาให้ข้ารู้จัก

    "ข้าชื่อ 'อัสรัน'  จ้าวสิงห์ป่าแห่งแคว้นพรรณ เจ้าล่ะเด็กใหม่"  
    "..." ข้ามองหน้าอัสรันนิ่ง 


    "ก่อนตาย เจ้าใช้ชื่ออัสรันหรือไม่ จ้าวสิงห์ป่า" เขามองสบตาข้า จากนัยน์ตากรุ้มกริ้มเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปวูบหนึ่ง 

    "ข้าทิ้งนามนั้นไปแล้ว ชีวิตของข้าเริ่มต้นใหม่ที่นี่" 


    "งั้นข้าก็เช่นเจ้า  ข้ามีนามว่า 'ราตรี' ยินดีรู้จัก" 


    next chapter  . 

    สหายสามารถแปรพรรคได้ทุกเมื่อ
    อีกข้อหนึ่งที่ควรจะรู้ไว้เมื่อเหยียบเข้ามาในถิ่นนี้
    ในเมื่อเราโดนทรยศ จะมาทำตัวเป็นนักบุญในเมืองเถื่อนก็ใช่เรื่อง .
    "ของที่อัสรันเก็บไว้ ...เจ้ามีอะไรดีกันนะ จ้าวสิงห์ป่าถึงไว้ชีวิต" 




    เป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องแรกที่ วายตรงๆ ไม่ใช่แค่จิ้น -..- 
    ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่คลิกเข้ามาอ่าน  ให้กำลังใจ ติ ชม ได้ค่ะ 

    หนึ่งกำลังใจของคุณสร้างสรรค์ผลงานและล้านกำลังใจให้นักเขียนค่ะ :D


    คือเราไม่ได้กำหนดเม้นหรือซีเรียสหรอกนะคะ
    แค่รู้สึกว่า  อัพตั้งแต่เช้า  เขียนเยอะ(ในค.คิดเรา)  ขึ้นมาแค่เม้นเดียวเอง แต่แฟนพันธุ์แท้กลับขึ้นพึดๆ T__T;

    อย่าเป็นนักอ่านเงาเลยค่ะ     ออกมาให้นักเขียนชื่อใจหน่อยดีไหมคะ >_< ?  


                                                  
            อิมเมจ ตัวละคร 






    ราตรี
    ผมสีเหลืองอ่อน ดวงตาสีครามเทาเหมือนหินอ่อน
    สายเลือด :  เลือดสีดำ
    ชนิด : ? 


    อัสรัน
    ผมสีแดงตาสีเขียวอเมทิสต์ ร่างกายกำยำ
     แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรพรรณ
    สายเลือด : สัตว์พยศ
    ชนิด : สิงห์


    อีรอส
    ผิวสีขาว เส้นผมสีเทาดวงตาสีชา
    แม่ทัพใหญ่แห่งสนามรบ  เกรี้ยวกราด บ้าเลือด
    สายเลือด : สัตว์พยศ
    ชนิด : หมาป่า  [เขี้ยวพิษ]


    ฮูโร
    เส้นผมสีขาว นัยน์ตาสีแดง ผิวขาวหิมะร่างเล็ก
    สายเลือด :   สัตว์พยศ
    ชนิด :  อสรพิษ  


    07cal1
    ต้าหลุน
    สายเลือด: ยักษานิรันดร์
    นัยน์ตาสีม่วง ผมยาวประไปถึงหลังที่เจ้าตัวชอบมัดไว้ข้าง (ตามรูป)
    ชนิด: ความมืด


    จองจำ
    สายเลือด:











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×