ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ อิมเมจตัวละคร
เราขอเวิ่นเล็กๆก็เปิดเรื่องว่า
หลังจากเปิดเรื่องได้สองวัน (วันที่สองขึ้นเดือนใหม่ ความนิยมนับใหม่)
นิยายของเราเด้งไปที่หน้า 11 !! วิ้วววววว อย่างงี้มีฉลองซิ -..-
ขอโทษนะคะถ้านิยายของเราหน้ามันจะเละๆ เพราะแทรกโน่นแทรกนี่ :(
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่องของเราค่ะ :D
มาตราการควบคุมเรตติ้งนิยาย Dek-D.com
แสดงผลการค้นหาบทความที่มีผู้เข้าชมมากสุด 300 บทความ
แสดงผลการค้นหาบทความที่มีผู้เข้าชมมากสุด 300 บทความ
หน้าที่: 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 , 10 >> |
# ตอนนี้ เด้งไปหน้าที่ 10 แล้วค่ะ 4 / 5 / 55
# เด้งไปหน้า 9 4 / 5 / 55 # UPDATE PICTURE
"ดูนั่นซิ ยังหนุ่มอยู่แท้ๆ"
"ไม่นึกว่าจะโหดร้ายขนาดนั้น"
"ปีศาจอย่างนั้น ตระกูลใหญ่ไม่น่าจะรับมาเลย เห็นไหมล่ะ นำความพินาศมาจนสิ้น" ข้าได้แต่เชิดหน้าขึ้นประจันกับพวกชาวบ้านที่ดีแต่กระซิบกระซาบว่ากล่าว แผ่นหลังของข้าเหยียดตรงนัยน์ตาของข้ามองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่มีเค้าของความหวาดกลัว
แม้ว่านั่นจะเป็นการเดินทางไปสู่แท่นประหาร
การเดินไปสู่ความตายมันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ที่ๆข้าจะไปต่างหากล่ะที่น่าเป็นห่วงเสียมากกว่า
ก้าวแต่ละก้าวดูช่างหนุกอึ้ง ข้ากระพริบตาถี่เพราะความร้อนของลานกว้างนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ข้าจะมาเดินเล่นอยู่กลางอากาศร้อนนานๆ
ใช่ ข้าเป็นคุณชายจากตระกูลดัง ตระกูล 'เหมันตร์' ตระกูลที่มีเกียรติยศและมีลูกหลานมากมายจากทั่วสารทิศเรามีความเยี่ยมยอดทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้ มันสมอง การบันเทิงหรือแม้แต่เรื่องอัศจรรย์ 'ทำนาย'
ตัวข้านั้นเหมือนควันหลงซะมากกว่า
เพราะข้าไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับพวกพี่ๆ ข้าเพียงแค่โดนกลับมาเลี้ยง
พวกพี่ๆที่ข้าพูดถึงคือพวกลูกหลานหรือญาติของพวกผู้ใหญ่ตระกูลเหมันตร์ที่นานๆทีจะมาเล่นกับข้าที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องสมุดหรือลานน้ำพุของตระกูล
ข้าเกลียดความร้อน ข้าเกลียดฝูงชน ข้าเกลียดความวุ่นวาย การใช้กำลัง
สิ่งที่ทุกๆคนรู้ดี ...
แต่ก็น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ข้อแก้ต่างที่ดีพอว่าเหตุใด เหล่าพี่ๆถึงถูกสังหารในห้องของข้าจนสิ้น
ข้าเพียงแค่นั่งอยู่นิ่งๆเหมือนตกอยู่ในภวังค์แท้ๆ
นึกถึงฝันเมื่อคืนที่เต็มไปด้วยผู้คนล้มตาย ไม่ว่าข้าจะตะโกนเรียกขอความช่วยเหลืออย่างไร กลับไม่มีใครได้ยิน เมินเฉยดั่งว่าข้าเป็นอากาศธาตุ
แต่เพียงแค่กระพริบตาเพียงครั้งเดียว สิ่งที่ข้าเห็นดั่งฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน
ผู้คนต่างล้มลง กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เลือดมากมายกระเซ็นไปทั่ว พร้อมสิ้นลมหายใจในเวลาไม่กี่ชั่วครา ข้าได้แต่ตะลึงว่าเกิดอาเพศอะไรกันขึ้น
และแล้วข้าก็เห็นว่าตัวข้านั้นมีบาดแผล
บาดแผลที่ดูยังไงก็รู้ว่าหนึ่งในพวกเขาที่ล้มตาย ยกดาบสั้นขึ้นมาฟาดฟันใส่ข้าเพื่อป้องกันตัว
บาดแผลที่แสดงตนว่าข้านั้น 'ถูกสาปอย่างแท้จริง'
เลือดที่ซึมมาจากบาดแผลนั้นเป็นสีดำ
อา ... ฝันร้ายเอย
"ต่อจากนี้จะประหาร วารี เหมันตร์ บุตรชายอุปฌัมณ์บ้านเหมันตร์ ณ บัดนี้!!"
ข้าถูกกดให้นั่งลงกับพื้นประหาร มือของทหารหนุ่มกดลงที่หัวของข้าให้ติดผืนดิน
สิ่งที่ข้าเห็นเป็นเพียงแค่รองเท้าของหมู่คนจำนวนมากเพียงเท่านั้น
และหนึ่งในนั้นคือนักบวชที่เขากำลังสวดให้กับวิญญาณของข้า
"ซาตานเอ๋ย เจ้านั้นมีบาปอันหนักหนา ขอให้เจ้าจงเข้าสู่ภวังค์อันเป็นราตรีนิรันดร์ชดใช้บาปทั้งหมด"
ข้ายิ้มเย้ยหยันตัวเอง นี่มันเรียกว่าตีตราความผิดให้ข้ามากกว่า
มือเหี่ยวย่นสัมผัสกับหน้าผากของข้า เสียงอันอบอุ่นดังไปทั่วบริเวณ
"ขอให้ลูกจงชำระบาป หลับเสียเถิดซาตานเลือดสีดำ!!"
ข้าหลับตาลงช้าๆ ได้ยินเสียงของดาบที่แกว่งกับอากาศดังเป็นเสียงที่ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลย
ดาบนั่นคงจะแกว่งมาที่คอของข้าในไม่ช้านี่แล้วซินะ
อา...จุดจบของข้าช่างน่าสมเพชเสียหรือเกิน
ไร้เกียรต ถูกตีตราว่าเป็นผู้ปลิดชีพผู้มีพระคุณ
...ไม่ซิ มันเป็นเพราะเลือดสีดำที่บาทหลวงบอกมากกว่า
สายเลือดต้องสาป ..
"ประหาร !" ถูกสิ่งเงียบสงัดไร้แม้แต่เสียงกรีดร้อง
ตัวข้าชาวาบเหมือนถูกดึงไปอีกที่
กลิ่นอายของธรรมชาติรุมล้อม เสียงของจักจั่นและเสียงนกร้องเริ่มระงมไปทั่ว
แสงแดดที่แยงเข้าตามันช่างแสบตาจนต้องยกมือขึ้นมาบังเอาไว้
ปวดระบมไปทั่วทั้งตัว เหมือนถูกฉีกทึ้งซะจนหมดสภาพ
หายใจแผ่วเบา พยายามยันตนเองขึ้นมา สภาพรอบตัวที่เห็นคือป่าไม้พืชหลากพรรณที่ขึ้นตามโขดหินและผืนดินทำให้งุนงงไม่ใช่น้อย ว่าสถานที่แบบนี้มีอยู่ในดินแดนที่ข้าเคยอยู่หรือ ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนกันและข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อคอของข้าน่าจะขาดสะบั้นไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
ข้าลูบคอของตัวเอง และรู้สึกได้ถึงรอยแผลเป็นที่ทาบไปทั่วคอ
ข้าขมวดคิ้วแล้วเดินโซเซไร้เรี่ยวแรงไปตามริมธารใกล้ๆ ชะเง้อมองตัวเองว่ารอยแผลตรงคอนี่มันคืออะไร และเมื่อเห็นโฉมหน้าของตัวเองก็ต้องแหกปากร้องออกมาอย่างตระหนก
"บะ ใบหน้าของข้า!!" ผมและนัยน์ตาสีดำตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผมของข้าตอนนี้กลายเป็นสีเหลืองอ่อน นัยน์ตาสีฟ้าครามอมเทาที่ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะใช่ของดวงตาของ 'มนุษย์' ซักเท่าไหร่ มันทำให้ข้ากลืนน้ำลาย และพยายามเข้าใจสถานการณ์
ข้าโดนฟันคอ ...
ข้าลูบไปตามรอยแผลที่เกิดขึ้นรอบคอ ซึ่งข้าสันนิษฐานว่าเกิดจากการฟันครั้งนั้น
และจากการที่ข้าหมกตัวแต่ในห้องสมุด ข้าจำได้ว่าข้าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้
หนังสือของพวก 'สายเลือดบาป' ซึ่งเลือดสีดำเองก็เป็นหนึ่งในพวกสายเลือดบาป
กายของพวกสายเลือดบาปมีสองกาย
หากกายหนึ่งเกิดอันตรายจนมิอาจอยู่ได้ วิญญาณจะย้ายไปสู่อีกกาย
เป็นกระบวนการเอาตัวรอดที่ทั้งดีและแย่ เพราะอีกกายนั้นเรามิสามารถกำหนดว่าอยู่ที่ไหน ที่ใด หรือว่าอยู่ในความจริงหรือความฝันกันแน่
ข้านั่งหย่อนข้าลงในธารน้ำ พร้อมความคิดอีกหนึ่งความคิดดังขึ้นในหัว
แล้วถ้ากายนี้มันตายขึ้นมาล่ะ ? ...
"...ยิง!!" ข้าเบิกตากว้างเมื่ออยู่ดีๆ เสียงตะโกนของบุรุษก็ดังขึ้น ข้าหันหลังกลับไปและแล้วข้าก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อลูกธนูนั้นกำลังมาทางข้าด้วยความเร็ว ข้าหนีไม่พ้นแน่ๆ โชคดีที่ธนูลูกนั้นพลาดไป ข้าถอนหายใจแล้วลุกขึ้นกวาดสายตามองไปรอบๆ
มีคนกำลังลอบมองข้าจากที่ใดที่หนึ่งอยู่
ทางไหนกันล่ะ ...
ไม่ซิ ถึงจะรู้แล้วข้าจะทำอะไรได้ ออกวิ่งงั้นหรือ ? บุรุษนั่นมีธนู เพียงแค่ข้าเผลอเขาได้สอยข้าร่วงอีกแน่ ข้ากัดฟันอย่างอารมณ์เสีย
ไร้ประโยชน์เสียจริงๆเลยวารี ! นี่เจ้าเกิดมาเป็นคนตระกูลเหมันตร์ได้อย่างไรกัน ขนาดเอาตัวรอดยังทำไม่ได้เลย !!
"พลธนูพร้อม.." ข้าหยุดชะงักความคิดด่าตัวเอง แล้วทวนสิ่งที่ข้าได้ยินอีกรอบ
เมื่อกี้ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม คำว่า 'พลธนู' น่ะ
"ยิง !!"
ตัวของข้าเหมือนถูกสั่งให้ยืนนิ่ง ความเจ็บปวดที่เกิดบนต้นขาและตรงหน้าท้องด้านขวามันช่างเหมือนจริงจนข้าเลือกที่จะตัดไปได้เลยว่ากายของข้านี้อยู่ในความฝัน !
ข้าทรุดตัวลงกับผืนหญ้า หายใจรวยรินแล้วจับบาดแผลที่เลือดสีดำไหลออกมาไม่หยุด ลูกธนูสองลูกที่แทงเข้าไปในร่างกายของข้าบัดนี้ขนสีขาวตรงหางธนูนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีดำของข้า ช่างน่าสังเวช
ข้าพยายามที่จะยันตัวขึ้นแต่น่าเสียดาย ที่ร่างกายของข้ามันบอกให้ข้านอนนิ่งอยู่
ร่างกายของข้าช่างอ่อนแอ เหมือนในอีกร่าง
ร่างที่วันๆอยู่แต่ในห้อง บอกคำทำนายให้กับเหล่าผู้คน ช่วยเหลือในเรื่องคำสาปและโชคลาง
มันหงุดหงิดจริงๆ !!
เสียงของผู้คนที่เริ่มเข้ามาใกล้ข้า ทำให้สัญชาตญานป้องกันตัวของข้าตื่นขึ้น
พวกเขาอาจคิดจะเข้ามาฆ่าข้าก็ได้ ...
ข้าไม่อยากตาย ในฐานะของวารีนั้นข้ายอมตายด้วยเกียรต แต่ในเมื่อข้าอยู่ในโฉมหน้าของผู้ที่ตายไปแล้ว อยู่ได้ด้วยเลือดสีดำข้าก็ยังไม่พร้อมที่จะตาย !!
เลือดสีดำของข้าค่อยๆเคลื่อนตัว ก่อนจะกลายเป็นเข็มนับพันหมื่น ก่อนจะค่อยๆพุ่งไปที่เหล่าผู้คน!! ข้าตื่นตกใจนักแต่จะทำอะไรได้ เลือดของข้าอาจจะช่วยข้าต่อสู้แต่มันไม่ได้ช่วยข้าหนี ข้ายังทำได้แค่เพียงนอนหายใจรวยรินรอความตายอย่างน่าสังเวชอยู่ดี
"..." ยังมีคนรอดอีกหรือ?
ฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ข้าก่อนจะคุกเข่า มองข้าที่นัยน์ตาเริ่มจะปรือเพราะเสียเลือดไปมาก
ตาของข้าปรือ แต่ก็ยังเห็นว่าชายตรงหน้าข้าพูดคำๆหนึ่งที่ข้าต้องก่นด่าในใจ
"ให้ตายเถอะ กวางป่าตัวนี้ได้ราคางามแน่ "
... ข้าไม่ใช่กวาง ข้าเป็นแค่คนซวยโดนสายเลือดต้องสาปนี่เลือกต่างหากเล่า เจ้างั่งเอ๊ย !
เสียงพูดคุยตะเบ็งเสียงทำให้ข้านอนไม่เป็นสุข มันช่างเป็นสถานที่ๆหลับยากเสียจนข้าเลือกที่จะปรือตาแล้วขยับตัวที่สิ้นแรงของตัวเอง และข้าก็รู้สึกว่าตัวข้ามีสิ่งที่ผิดแผกไปอีกแล้ว
ผมของข้ายาวขึ้น...
แผลของข้าหายไปดั่งไม่เคยเกิดการหลั่งเลือด
ข้าเหม่อมองไปรอบๆบริเวณ มันเป็นเต็นทร์สีแสดที่กำลังฉายเงาของผู้คนจากนอกเต็นทร์ บ้างก็กำลังวิ่งวุ่นบ้างก็นั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น
มันอยู่ที่ว่าพวกเขาเป็น มิตร หรือ ศัตรู กับข้า
ถ้าหากเป็นมิตรก็ดีไป
แต่ถ้าหากเป็นศัตรูล่ะ ...
ข้าจ้องมองมือของข้าถ้าหากปล่อยให้เลือดสีดำหลั่งออกมา มันอาจจะช่วยจัดการทุกคนได้ และข้าก็จะปลอดภัยสามารถเดินออกจากที่นี่ได้อย่างผ่าเผย ในขณะที่ทุกคนที่นี่สิ้นลม
อย่าเลยวารี เจ้าควรจะเก็บความเป็นมนุษย์ของเจ้าไว้แม้ว่าเจ้ากลายเป็นพวกโดนสาปไปแล้วก็ตามที
"ตื่นแล้วรึ กวางป่า?" เสียงดังฟังชัดของคนที่ก้าวเท้าเข้ามาในเต็นทร์ ทำให้ข้าสะดุ้งหาของป้องกัน และสิ่งที่ข้าเจอน่ะหรือ มันคือมีดปอกผลไม้ แต่ก็ยังดีกว่าไร้สิ่งใดป้องกันตัวล่ะ ข้าคว้ามันแล้วชี้ไปที่ชายแปลกหน้าที่ดันปากไม่ดีเรียกข้าเป็นพวกสัตว์ ...'กวางป่า' คิดได้อย่างไรกัน
"เจ้าไม่ควรหันอาวุธใส่ผู้มีพระคุณ รู้ไหมกวางป่า" ข้าจ้องมองชายตรงหน้าอย่างพิจารณา นัยน์ตาสีเขียวอเมทิสต์ร่างกายกำยำผิวสีแทนและใบหน้าคมคายและสายตากรุ้มกริ่มบ่งบอกแววเจ้าชู้ ผมสีแดงยุ่งๆที่ยาวไปถึงกลางหลังและชุดแปลกๆที่เขาสวม
ดูอย่างไรก็ดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย ..
"ผู้มีพระคุณในความหมายของเจ้าคือการยิงทะลุที่ท้องกับขา ของข้าหรือ?" ชายตรงหน้าขยับยิ้มแล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆข้า ข้าไม่ขยับหนี ข้าไม่เคยเกรงกลัวพวกเดียวกันหรอก 'มนุษย์'น่ะ ข้าเข้าใจพวกเขาอย่างถ่องแท้ พลังทำนายของข้าล้วงเข้าไปถึงจิตใจที่แท้จริงของพวกเขา ความละโมภ ความริษยา อาฆาต ทุกๆอย่าง
"ข้าแค่ต้องการจะจับกวางป่า แต่บังเอิญเห็นบางอย่างขยับไปมาตรงธารน้ำ เลยเหมาว่าเป็นกวางป่า..."
"เลยบอกพลธนูให้ยิงเจ้า ข้าอยากยลโฉมกวางป่าตรงธารน้ำก็เท่านั้น" ข้าจ้องมองเขาด้วยแววตาไม่ชอบใจ ชายตรงหน้ามองว่าการที่ยิงข้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วถ้าหากว่ามันไม่ใช่ ถ้าหากว่าข้าเกิดตายขึ้นมาทั้งที่พึ่งฟื้นเข้าร่างไม่กี่นาทีล่ะ
ยิ่งเห็นชายตรงหน้าหัวเราะร่าเท่าไหร่ ข้าก็อยากจะเอามีดปอกผลไม้นี้แทงเขาจนมิดด้ามเสียจริงๆ..
"รู้ไหมการที่เจ้าเปรียบมนุษย์เป็นสัตว์ ตัวเจ้าก็มิได้ต่างกัน" ข้าพูดเสียงเรียบนิ่ง แต่นั่นก็ทำให้ชายผมแดงจองมองข้าด้วยแววตาแปลกๆ เขามองข้าเหมือนข้าเป็นตัวประหลาดไม่เคยพบใจ ข้ามองสบตากับเขาพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง
หากเขาเกิดหมั่นไส้แล้วตบหน้าข้าสักเปรี้ยงข้าก็มิแปลกใจเลย
หน้าตาอย่างข้าน่ะ ตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ พี่ข้าบอกประจำว่าหน้าข้าเวลาทำหน้าถือตัว มันช่างอภิมหาน่าหมั่นไส้
แต่ก็นั่นล่ะ ทุกคนในเหมันตร์ไม่เคยแตะตัวข้าโดยประสงค์ร้ายสักครั้ง พวกเขาให้ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ ทำเหมือนข้าเป็นนายเหนือหัว แม้แต่คุณปู่หัวหน้าตระกูลยังตามใจข้าเลย แต่ข้าคิดว่าหลังจากข้าเกิดประทุขึ้นเลือดสีดำเข้าสังหารลูกหลานของพวกเขา
ข้าว่าไม่ใช่แค่มือหรอกที่จะรุมทึ้งข้า พวกเขาอาจจะเผาข้าทั้งเป็นเลยด้วยซ้ำ
"แล้วเจ้าจะนึกขอบคุณข้าที่เก็บเจ้ามาได้นะเด็กใหม่" ข้าขมวดคิ้วเมื่อเขาเรียกข้าว่าเด็กใหม่ มองหน้าชายผมแดงด้วยความฉงน เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมคายนั้นไม่ได้หัวเราะอีกต่อไปแต่จ้องมองดูข้าด้วยความ 'เอ็นดู'
"เด็กใหม่?"
"เจ้าพึ่งโดนย้ายร่างมาใช่ไหมล่ะ ดูท่าเจ้าจะไม่รู้การใช้พลังของตนแถมยังไม่รู้จักข้า" ข้ามองชายตรงหน้า ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้ข้าอยากจะรู้จักเขา ถึงหน้าตาเข้าจะดีแต่ก็...สู้ข้าไม่ได้อยู่ดี ข้าเผลอส่งสายตาดูแคลนให้เขาอีกรอบหนึ่ง
"ถ้าเป็นอีรอส หมอนั่นจะสั่งให้สัตว์เลี้ยงของเขาขย้ำเจ้าได้ทุกเมื่อถ้าหากเจ้าทำอะไรไม่พอใจ
ซึ่งข้าขอยกตัวอย่างด้วย 'สายตา' ของเจ้าตอนนี้" ข้ากระพริบตาแล้วเปลี่ยนแปลงสายตาของตัวเองทันที
"ข้าไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ" แม้ว่าปากข้าจะเอ่ยคำขอโทษ แต่ก็อย่างเดิม หลังข้ายังตรงและมองสบกับชายตรงหน้าอย่างไม่หวาดกลัวเช่นเคย ชายผมแดงเพียงพยักหน้าแล้วพูดต่อไปเรื่อยๆ
"ถ้าเป็นเวหา หมอนั่นจะยกตัวเจ้าขึ้นไปบนจุดสูงสุดของภูผาแล้วเหวี่ยงตัวเจ้าลงมาให้สภาพศพไม่สวย ให้พวกอีแร้งมากัดกินจัดการศพ"
"หรือถ้าโรคจิตแบบ ซีตัส อย่างหมอนั่น..." เขามองหน้าข้าอย่างประเมิน แล้วก็ส่งยิ้มมาให้ข้า
"เขาอาจจะฝึกเจ้าให้เชื่อง แล้วโยนเจ้าเข้าหอโคมแดงไปเป็นนางบำเรอ ได้ทั้งเงินแถมได้ความสนุกภาษาผู้ชาย ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว" ข้าสบถแล้วตะโกนใส่หน้าเจ้าคนไร้มารยาท
"ข้าเป็นบุรุษเพศ! เจ้ามันไอ้ตาถั่ว"
"บุรุษเพศแล้วทำไม ที่นี่เราเป็นอิสระนักกวางป่า เจ้าออกไปจากเต็นทร์นี้เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง" เขาจับมือของข้าให้ลุกขึ้น ข้าสบถออกมาเพราะร่างกายของข้ายังไร้เรี่ยวแรง ข้าพยายามที่จะเดินให้สง่างาม แต่ช่างโชคร้าย ร่างกายของข้าทำได้แค่เพียงเดินโซเซอย่างไม่น่าให้อภัย ชายผมแดงเดินเข้ามาหวังจะช่วยพยุงข้า
และแน่นอน ข้าปัดมือเขาออก
"ข้าเดินเองได้ ข้ายังมีขาไม่ใช่คนพิการ"
"แต่หากข้าช่วยเจ้าก็เดินเร็วขึ้นกว่า หากเจ้ารู้จักประมวลผลคงจะคิดได้ว่าอันไหนได้กำไรและอันไหนมันงี่เง่า" ข้าตวัดสายตาไม่ชอบใจไปให้ชายผมแดง เขาคว้าข้อมือของข้าช่วยข้าพยุง และแนะนำตัวของเขาให้ข้ารู้จัก
"ข้าชื่อ 'อัสรัน' จ้าวสิงห์ป่าแห่งแคว้นพรรณ เจ้าล่ะเด็กใหม่"
"..." ข้ามองหน้าอัสรันนิ่ง
"ก่อนตาย เจ้าใช้ชื่ออัสรันหรือไม่ จ้าวสิงห์ป่า" เขามองสบตาข้า จากนัยน์ตากรุ้มกริ้มเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปวูบหนึ่ง
"ข้าทิ้งนามนั้นไปแล้ว ชีวิตของข้าเริ่มต้นใหม่ที่นี่"
"งั้นข้าก็เช่นเจ้า ข้ามีนามว่า 'ราตรี' ยินดีรู้จัก"
next chapter .
สหายสามารถแปรพรรคได้ทุกเมื่อ
อีกข้อหนึ่งที่ควรจะรู้ไว้เมื่อเหยียบเข้ามาในถิ่นนี้
ในเมื่อเราโดนทรยศ จะมาทำตัวเป็นนักบุญในเมืองเถื่อนก็ใช่เรื่อง .
"ของที่อัสรันเก็บไว้ ...เจ้ามีอะไรดีกันนะ จ้าวสิงห์ป่าถึงไว้ชีวิต"
เป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องแรกที่ วายตรงๆ ไม่ใช่แค่จิ้น -..-
ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่คลิกเข้ามาอ่าน ให้กำลังใจ ติ ชม ได้ค่ะ
หนึ่งกำลังใจของคุณสร้างสรรค์ผลงานและล้านกำลังใจให้นักเขียนค่ะ :D
คือเราไม่ได้กำหนดเม้นหรือซีเรียสหรอกนะคะ
แค่รู้สึกว่า อัพตั้งแต่เช้า เขียนเยอะ(ในค.คิดเรา) ขึ้นมาแค่เม้นเดียวเอง แต่แฟนพันธุ์แท้กลับขึ้นพึดๆ T__T;
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลยค่ะ ออกมาให้นักเขียนชื่อใจหน่อยดีไหมคะ >_< ?
อิมเมจ ตัวละคร
ราตรี
ผมสีเหลืองอ่อน ดวงตาสีครามเทาเหมือนหินอ่อน
สายเลือด : เลือดสีดำ
ชนิด : ?
อัสรัน
ผมสีแดงตาสีเขียวอเมทิสต์ ร่างกายกำยำ
แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรพรรณ
สายเลือด : สัตว์พยศ
ชนิด : สิงห์
อีรอส
ผิวสีขาว เส้นผมสีเทาดวงตาสีชา
แม่ทัพใหญ่แห่งสนามรบ เกรี้ยวกราด บ้าเลือด
สายเลือด : สัตว์พยศ
ชนิด : หมาป่า [เขี้ยวพิษ]
ฮูโร
เส้นผมสีขาว นัยน์ตาสีแดง ผิวขาวหิมะร่างเล็ก
สายเลือด : สัตว์พยศ
ชนิด : อสรพิษ
ต้าหลุน
สายเลือด: ยักษานิรันดร์
นัยน์ตาสีม่วง ผมยาวประไปถึงหลังที่เจ้าตัวชอบมัดไว้ข้าง (ตามรูป)
ชนิด: ความมืด
จองจำ
สายเลือด:
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น