คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อะไรนะ !!!
วันศุกร์ที่แสนสบาย(?) ... วันที่เรื่องวุ่นๆจะเกิดขึ้น ควอนยูริกลับเกาหลี !!
‘ซอฮยอนนักร้องสาวชาวเกาหลีใต้วัยยี่สิบสองปีที่ไปเดบิวต์และโด่งดังอยู่ที่ญี่ปุ่น ตอนนี้เธอเตรียมตัวกลับมาเดบิวต์ที่เกาหลีประเทศบ้านเกิดแล้วค้า !! หนุ่มๆทั้งหลายคงนั่งนับนิ้วเค้าท์ดาวน์วันที่เธอจะกลับมาอยู่ใช่ไหมล่ะค่ะ ? อีกไม่นานเกินรอแล้วล่ะค่ะ คาดว่าคงจะเป็นวันอาทิตย์นี้แน่ๆ ... บลาๆๆ’
เสียงจากโทรทัศน์ยังคงพูดอะไรต่อไปเรื่อยเปื่อย อิมยุนอาตักข้าวคำโตเข้าปากแล้วจ้องมองภาพของซอฮยอนที่ถูกฉายอยู่ในทีวีจอแบนขนาด 52 นิ้ว ใบหน้าขาวเนียนพร้อมดวงตากลมโตและส่วนประกอบจมูกปากที่จิ้มลิ้มนั่นอีก ยิ่งบวกกับการฉายเอ็มวีตัวใดตัวหนึ่งของเธอที่ยุนอาก็ไม่เคยติดตามด้วยแล้ว เวฟเซ็กซี่ที่ให้ความรู้สึกน่ารักนั่นมันคืออะไรกัน ??? แม่เจ้า ... อิมยุนอาพึ่งรู้ว่าพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์ลำเอียงก็วันนี้เอง ลำเอียงที่สร้างผู้หญิงคนหนึ่งให้แตกต่างจากคนอื่นและน่ารักน่าหลุ่มหลงถึงเพียงนี้ !! แต่ความคิดของยุนอาก็ต้องหยุดลงตรงนั้นก่อนที่จะไถลไปดาวพลูโตเพราะว่า ...
RRRRrrrrrr ….
ยุนอามองชื่อบุคคลที่โทรเข้ามาก็รีบนั่งนับนิ้วทันที “ตายแล้ว !! วันนี้นี่หว่า”ยุนอาสถบกับตัวเองก่อนจะกดรับสาย
“อันยองค่ะ พี่ยูล”
[วันนี้ฉันกลับเกาหลีนะ หวังว่าจะเห็นหน้าแกที่สนามบิน]
“ยะ ... อยู่แล้ว ยุนไปแน่ๆค่ะ”
[เออ ดีมากอย่างน้อยแกก็มีดีกว่าเที่ยวเล่นไปวันๆ]
“นี่โทรมาบ่นยุนหรอพี่ยูล ทำไมมีแต่คนมาขัดแต่ตอนที่ยุนกำลังกินข้าวเนี่ย”
[ไม่ได้โทรมาบ่นเว้ย ! แค่โทรมาเช็คความเรียบร้อยน่ะความเรียบร้อย]
ที่ต้องเกิดในวันนี้เป็นแน่แท้
[อย่าลืมมารับฉันที่สนามบินล่ะ มีคนจะแนะนำให้รู้จัก]
“แฟนหรอ !?”ยุนอาร้องเสียงหลงใส่โทรศัพท์ถ้าเป็นแฟนเธอต้องแย่แน่ เจสสิก้าต้องเอฟเฟกลงชัวร์
[ถ้าได้ก็ดี บ้า !! ไม่ใช่ๆ แค่นี้นะจะขึ้นเครื่องแล้ว]
“เออ แค่นี้นะ ทำตัวให้สบายล่ะ”ยุนอาพูดก่อนสายจะถูกตัดไป
“ทำตัวให้สบายทำใจให้โล่งนะพี่ยูล ก่อนเจอแจ๊กพอตเอฟเฟกตู้มใหญ่”ยุนอาพูดหลับตาแล้วส่งจิตอฐิษฐาน(?)สงบนิ่งเป็นเวลาสามวินาทีไปให้ยูริผู้ที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองแม้แต่น้อย !!
ยุนอารีบตักข้าวคำโตคำสุดท้ายที่ไม่อยากให้ท้ายสุดเขาปากทันทีแล้ววิ่งไปหยิบกุญแจรถบนห้องนอนก่อนจะตรงไปโรงจอดรถเพื่อเดินทางไปรับเจสสิก้า ...
.......................................................................
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งมันเป็นเสียงที่รบกวนต่อคนที่นอนหลับเป็นตายอยู่ในห้องนั้นเป็นอย่างมาก !! เจสสิก้าคว้าหมอนที่แต่ก่อนเคยใช้หนุนมาอุดหูไว้แทน
“สิก้า พ่อเรียกลูกรอบที่ห้าแล้วนะ”ชายวัยกลางคนทนไม่ไหวจึงถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องลูกสาวทันทีหลังจากปลุกมาแล้วห้ารอบแต่ไม่มีแม้เสียงตอบรับ ... กลัวเหลือเกินว่าสักวันลูกสาวคนนี้จะนอน ’มาก’ เกินไปจนไหลตาย –“-
“สิก้า !!”ชายวัยกลางคนคว้าหมอนที่ลูกสาวใช้อดหูออกมาก่อนจะโยนมันไปข้างๆเตียงพร้อมเขย่าตัวเจสสิก้าอย่างแรง
“อะไรค่ะเนี่ยพ่อ !”เจสสิก้าถามทั้งๆที่ตัวยังไม่ขยับและตายังไม่ลืม
“นี่ลูกลืมไปแล้วหรอว่าวันนี้วันอะไร ...”ชายวัยกลางคนถามลองเชิงคนที่นอนจะเป็นจะตาย
“นี่พ่อถามอะไรเนี่ยไร้สาระจริงๆ วันนี้วันเสาร์ไงค่ะ”
“แล้วลูกต้องไปทำอะไร หืม ? ตามที่สัญญากับพ่อไว้”ชายวัยกลางคนยังพูดไม่ทันจบประโยคเจสสิก้ากระเด้งตัวขึ้นมาเบิกตาเสียกว้างเองมือปิดปากตัวเองแบบตกใจสุดขีด ... ลืมไปรับลิง !!
“กี่โมงแล้วค่ะพ่อ !?”เจสสิก้าถามผู้เป็นพ่อก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดต่อสายหาซันนี่ทันที
“ยังไม่สายหรอกลูก เจ้ายุนเองมันก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้”
“ฟู่ว์ พระเจ้า ... โล่งอก !”เจสสิก้าพ่นลมหายใจออกมาลูกใหญ่แล้วเอามือทาบอกไว้
“พ่อชักจะมั่นใจขึ้นแล้วนะว่าเราเล่นตุกติกกับพ่อจริงๆ บอกตอนนี้ก็ยังไม่สายนะลูก”
“พ่ออ่ะ ! มันก็ต้องมีลืมบ้างแหละน่า”เจสสิก้าเบะปากใส่พ่อผู้ชอบจับผิดเธอเสียเหลือเกิน เธอลุกขึ้นแล้วดันตัวพ่อเธออกจากห้องไปทันที และพอดีกับที่ซันนี่รับสายจากเจสสิก้า
[ฮัลโหล ...]
“ฉันให้เวลาแกสิบนาทีจะคลานมาบินมาหรือจะเหาะมาก็เรื่องของแกแต่ต้องมาถึงภายในสิบนาทีนะ แค่นี้”เจสสิก้าพูดเองตัดบทเองเสร็จสรรพแล้ววางสายทันทีไม่คิดจะให้เพื่อนสาวพูดอะไรบ้างเลยนอกจากฮัลโหล เจสสิก้าโยนโทรศัพท์เครื่องหรูลงกับเตียงแบบไม่ได้ใส่ใจราวกับว่ามันเป็นเพียงเปลือกลูกอมก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
.............................................................
สนามบิน ...
“อีกห้านาทีนาทีพี่ยูลก็ลงเครื่องแล้วนะพี่สิก้าพี่ซันนี่ ไปกันเหอะ”เมื่อยุนอาหาที่จอดให้เจ้าแลมโบกินี่สีขาวคันหรูตรงลานจอดรถได้แล้ว เธอก็หันมารายงานความเคลื่อนไหวของพี่เธอให้เจสสิก้ารู้ทันที (มันทำเหมือนจะไปรบ -0-)
“ตั้งห้านาทีแน่ะ ไปหากาแฟกินเหอะซันนี่ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”เจสสิก้าทำท่าคิดก่อนจะพูดออกมา
“แต่ว่าพี่ยูลบอกว่ามีคนจะพามาให้รู้จักด้วยนะ ถ้าสายมันจะดูไม่ดีนะพี่สิก้า"ยุนอานึกถึงคำพูดของยูริที่โทรมาหาเธอเมื่อเช้านี้แล้วบอกเจสสิก้าทันที แต่มีหรอที่เจสสิก้าจะยอม
“ยุนก็ไปก่อนสิ ! พี่หิวเดี๋ยวตามไป”เจสสิก้าพูดก่อนจะลากซันนี่ลงจากรถแล้วตรงเข้าไปในสนามบินเพื่อหาร้านกาแฟรองท้องกันซักหน่อย
“แล้วฉันก็ต้องเป็นคนพูดสินะ ...”ยุนอาต้องกุมขมับเมื่อนึกถึงเรื่องที่เจสสิก้าขอให้ช่วย
“นี่สิก้า ฉันว่าแกไม่ควรทิ้งน้องเขาไว้คนเดียวนะ อีกอย่างห้านาทีมันก็แปปเดียวเอง”ซันนี่ที่ถูกลากลงจากรถและจำใจติดสอยห้อยตามเจสสิก้าเข้ามาในคอฟฟี่ช้อปอย่างเสียไม่ได้เอ่ยขึ้นถึงหลักความถูกต้อง
“โอ้ย ! ห้านาทีตั้งนาน กินเข้าไปเลยไป๊จะได้ไม่ต้องบ่นมาก”เจสสิก้าพูดอย่างหัวเสียแล้วหยิบขนมปังชิ้นนึงในจานตรงหน้าเธอยัดใส่ปากซันนี่ ซันนี่ได้เธอจ้องหน้าเจสสิก้าอย่างเอาเรื่องแต่พูดอะไรไม่ได้เพราะขนมปังยังเต็มปากอยู่ ซันนี่รีบเคี้ยวขนมปังแล้วกลืนลงคอทันที
“ย้า ! จองซูยอน”ซันนี่ชี้หน้าเจสสิก้าอย่างเอาเรื่องพลางจะหยิบขนมปังยัดปากเจสสิก้าบ้าง
“เธอทำฉันไม่ได้หรอกลีซุนคยู ฮ่าๆ”เจสสิก้าใช้มือนึงดันหัวซันนี่เอาไว้ ... แค่มือเดียวแค่นี้ก็จบด้วยขนาดความสูงที่ค่อนข้างแตกต่าง เอ่อ แม้จะไม่มากก็ตามก็ทำให้เจสสิก้ามีชัยเหนือกว่าซันนี่ ทั้งสองเล่นกันสนุกสนานเหมือนเด็กมัธยมต้นทั้งๆที่สองคนนี้เรียนจบกันมาตั้งสองปีแล้ว ข้างนอกร้านกาแฟที่ซันนี่และเจสสิก้าเล่นกันอยู่นั้นมีผู้คนมากมายที่ลงเที่ยวบินเดียวกับยูริเดินกันขวักไขว้ไปหมด ร่างสูงก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอขอแยกตัวกับเพื่อนเธอเพื่อมาเข้าห้องน้ำแล้วบังเอิญเห็นซันนี่และเจสสิก้าในร้านกาแฟเข้า ...
,,,, เธอสบายดีสินะ ,,,, ร่างสูงคิดเธอระบายยิ้มเศร้าๆออกมา ก่อนจะหันหลังกลับและเดินไปหาเพื่อนของเธอ
.......................................................
ยุนอาที่ต้องกุมขมับกับความดื้อด้านของเจสสิก้า จำใจเดินเข้าไปรอยูริในสนามบินคนเดียว
“มาแล้ว 0[]0”ยุนอาที่เห็นยูริเดินมาแต่ไกลกับชุดแฟชั่นสนามบินสุดเท่นั่นอีก แต่ที่เธอตกใจนั่นไม่ได้หมายถึงความหล่อแสนเท่ที่พุ่งออกมาจากตัวพี่สาวเธอหรอกแต่เป็น ... ถ้าพี่ยูลมาฉันก็ต้องบอกเรื่องพี่สิก้า
เฮือก ...
ไวเท่าความคิดยุนอาหันหลังกลับเพื่อสงบสติอารมณ์ทันที ตายแล้วยุนอา ... มีสติหน่อยๆ แต่ยุนอานั้นยังไม่ทันจะตั้งสติอะไรเลย สติที่ตอนนี้มีอยู่นิดเดียวแตกกระจายไปไกลแสนไกลอย่างกู่ไม่กลับเพราะ ...
“ไอ้ยุน”ยูริที่เห็นยุนอากำลังหันหลังกลับก็รีบเพิ่มความเร็วในการเดินจนแทบกลายเป็นวิ่งแล้วกอดหมับที่หลังยุนอาทันทีโดยไม่รู้เลยว่าอีกคนนั้นสติแตกไปแล้ว ...
“พี่ยูล ^^”ยุนอาทำใจดีสู้ลิงหันหลังกลับโผเข้ากอดยูริทันที
,,,, พี่สิก้ามาสักทีสิ !! ,,,, ยุนอาได้แต่หลับตาปี๋ขณะที่กอดยูริในใจก็ภาวานาให้เจสสิก้ากลับมาเร็วๆ แต่นกพิราบมันคงบินมาตัดโทรจิตของยุนอาเข้าซะก่อนเพราะเจสสิก้าน่ะสิเธอคงไม่มาง่ายๆหรอกเพราะเธอคิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงๆเธอก็จะไม่พูดเรื่องนี้ก่อนเป็นแน่ ... หึหึ
“สูงขึ้นนะเยอะเลยนะยุน”ยูริผละกอดออกจากน้องสาวแล้วหมุนตัวยุนอาไปรอบๆ
“พี่ยูลก็หล่อขึ้นนะเนี่ย”ยุนอาเอามือบีบแก้มของยูริเบาๆ ใบหน้าของยุนอายิ้มแย้มทั้งๆที่ในใจอกอีแป้นจะแตก !!
“อย่ามาชมกันให้ยากนะยุน อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าแปดปีที่พี่ไม่อยู่เราทำอะไรไว้บ้าง”ยุนอาตัวแข็งทื่อทันที อะไรกันนี่ !! วันนี่มันวันซวยอะไรของอิมยุนกัน !?
“ก็นิดหน่อยน่า”ยุนอายิมแห้งๆให้ยูริ
“นิดหน่อยเหรอ ? นิดหน่อย !! ไม่เคยเข้าห้องเรียนเอาแต่เหล่สาว ทำตัวเป็นคาสโนวี่ขี้หลี”
“ถึงยุนจะไม่เคยเข้าเรียนแถมเอาแต่เหล่สาวแต่ยุนก็จบมาแล้วนะ”ยุนเอาเหลือบตาขึ้นฟ้าเมื่อพี่สาวเธอพูดเรื่องเดิมอีกแล้ว
“นี่ก็เรียนจบมาเป็นปีแล้วไม่คิดจะไปทำงานในบริษัทมั้งหรอ”ยูริถามลองเชิง
“ไม่อ่ะ ไม่เลยสักนิด ไม่เคยคิดเลยแม้แต่สักกะนิด”ยุนอาส่ายหัวทันที
“ไอ้เด็กนี่ !! แกเตรียมตัวไว้เลยนะไม่เกินอาทิตย์หน้าแกสนุกแน่”ยูริพูดเหมือนบอกบางอย่างเป็นนัยน์ให้แก่น้องสาวแต่ยุนอาน่ะไม่ได้ฟังอะไรเลยได้แต่มองซ้ายเหลียวขวาหาเจสสิก้า
“นี่แกมองหาใครย่ะยุน ?”ยูริหรี่ตามองยุนอาซะจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“เอ่อ ... หาคนที่พี่ยูลบอกจะแนะนำให้รู้จักไง ! เนี่ยยุนยังไม่เห็นเลยนะเนี่ย”
"อ่อ มันไปเข้าห้องน้ำน่ะเดี๋ยวก็มา เออนี่ !!! ฉันว่าแกได้คู่หูแล้วล่ะไอ้หยองน่ะมันก็คาสโนวี่ขี้หลีพอๆกับแกเลยล่ะ กินกันไม่ลงเชียว"
"สวรรค์มาโปรดอิมยุน !!! เยส ไม่ต้องไปนั่งเหล่สาวคนเดียวเสียวโดนพวกผู้ชายหิ้วกลับบ้านแล้ว"ยุนอากระโดดดึ๋งๆทำท่าดีใจจนยูริอดถอนหายใจกับน้องสาวคนนี้ไม่ได้จริงๆ ... นี่มันสนามบินนะไอ้อิมยุน !!
"นั่นไงตายยากจริงๆ พูดถึงก็เดินมานู้นละ"ยูริพูดแล้วชี้คนร่างสูงกับแฟชั่นสนามบินเท่ๆให้ยุนอาดู
"อันยองค่ะ ^^"ยุนอาโค้งเก้าสิบองศาให้ซูยองพร้อมส่งยิ้มหวาน
"อันยองจ้ะ คนนี้หรอน้องแกลิง ?"ประโยคแรกซูยองตอบรับคำสวัสดีของยุนอาด้วยรอยยิ้ม แต่ประโยคหลังหันไปพูดกับยูริด้วยท่าทีสบายๆ ... สนิทกันจนรู้ไส้รู้พุงหมดแล้ว
"อื้ม คนนี้แหละมีอยู่คนเดียว ไม่รู้จะมีทำไม”ยูริพูดแล้วทำหน้าเบื่อโลก ยุนอาที่เห็นดังนั้นก็น้อยใจมุ้ยหน้าใส่ยูริ
“โอ๋ ไอ้เหม่งกวางนี่ขี้งอนไปได้ฉันน่ะรักแกที่สุดในโลกกกกก ..”ยูริยิ้มกับความขี้งอนของน้องสาวคนเดียว เธอเอามือกอดไหล่ยุนอาอน่างสนิทสนมแล้วลากเสียงยาวๆเพื่อให้อีกคนรับรู้ว่ารักน้องสาวคนนี้มากแค่ไหน
“ป่ะ กลับบานได้แล้วไอ้หยองไอ้ยุน”ยูริคว้าคอซูยองมากอดในวงแขนข้างนึงส่วนอีกข้างนั้นเป็นยุนอาพร้อมจะพาเหล่าสมุน(?)กลับบ้าน
“เห้ย !! ยังกลับไม่ได้นะ”ยุนอาขืนตัวไว้แล้วร้องเสียงหลง ย้า !! พี่สิก้าจะโยนให้ฉันพูดให้ได้เลยใช่มั๊ยเนี่ย !?
“ทำไมอีกเล่า ! ฉันเดินทางมาเหนื่อยๆก็อยากจะนอนพักบ้างนะ”ยูริพูด
“เอ่ออออ ...”
“ทำไมเล่าพูดมาฉันจะกลับบ้าน”
“ยุนมีเรื่องจะบอกพี่ยูลเรื่องของพี่สิก้า !!!”ยุนอาพูดรวดเดียวไม่เว้นวรรคจังหวะหายใจ สองตายังคงจ้องมองแต่พื้นสนามบิน
“ห๊ะ !? เรื่องของจองเจส อย่าบอกนะว่ายัยนั่นตายแล้ว”
“ไม่ใช่ ! พี่สิก้ามาคุยกับยุนว่าอยากให้พี่ยูลมาเป็นแฟนจำเป็นให้น่ะ”ยุนอายังคงพูดรัวเร็วอยู่เหมือนเดิม สองตาก็ไม่ได้เงยคิดมาเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ดีมั้ง ... จะว่าไปฉันก็อยากเจอจองเจสเหมือนกันนะ ไม่เจอตั้งแปดปีจะสวยขึ้นหรือเปล่านะ”ยูริให้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปมาแล้วคิดถึงใบหน้าของจองเจสสิก้าคู่กัดสมัยเด็ก
“อยากเจอฉันหรอ ไอ้ลิง ^^”เจสสิก้าที่ซุ่มรอให้ยุนอาพูดเรื่องทั้งหมดออกมาและถือว่ารอซันนี่เข้าห้องน้ำไปในตัวด้วยเลย ลากซันนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงไปหายูริ ซูยอง และยุนอาทันที
“ว้าว เธอสวยขึ้นเยอะมากเลยนะเนี่ยแต่ปากเนี่ยใช้ไม่ได้เหมือนเดิม”ยูริพูดแล้วเดินวนรอบตัวเจสสิก้าเหมือนพิจารณาความสวยของคนตรงหน้า ยุนอากับซูยองได้แต่มองสามคนตรงหน้าด้วยแววตาต่างกันไป
สำหรับอิมยุนอานั้นสายตาของเธอจ้องอยู่ที่ยูริและเจสสิก้าด้วยสายตา ... เอือมละอา
ส่วนชเวซูยองนั้นสายตาของเธอมองไปที่ซันนี่ด้วยสายตา ... หลากหลายอารมณ์ ในขณะที่ซันนี่นั้นไม่ได้สนใจสายตาของซูยองเลยแม้แต่น้อยเพราะเจ้าตัวเอาง่วนอยู่กับการทำฟาร์มในไอแพดเครื่องหรูอยู่
“นี่ไอ้ลิง โธ่เว้ย ! ซันแกเลิกปลูกผักเลี้ยงวัวในไอแพดแกซักแปปดิ ... ดูนั่นไอ้ลิงที่ฉันบอกแกไง”เจสสิก้าที่ทำอะไรไม่ได้จึงหันมาขอกำลังเสริมจากซันนี่ด้วยการกระชากไอแพดของซันนี่ไปต่อหน้าต่อตา
“ย้า ! ซูยอนน้องวัวของฉันยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะแก”ซันนี่ที่โดนดึงไอแพดไปก็มุ้ยหน้าทำท่างอนแบบแบ๊วๆกระทืบเท้าไปมา มันน่ารักมากสำหรับคนที่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกอย่างยูริและแม่สาวคาสโนวี่ขีหลีอย่างอิมยุนอา แต่ซูยองเธอกลับเบือนหน้าหนีซะงั้น แต่เจสสิก้านี่สิแทบจะเสยหมัดเข้าให้ นี่มันแอ๊บแบ๊วเรียกหมัดชะมัด !!
“ดู ! ดูนั่น เพื่อนแกกำลังเสียเปรียบอยู่นะเว้ยสนใจกันบ้างสิ”เจสสิก้าจัดเอฟเฟกชุดใหญ่ใส่ซันนี่แล้วชี้หน้ายูริ
“ซูยอง ...”สายตาของซันนี่ไม่ได้โฟกัสไปที่ยูริตามที่เจสสิก้าชี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับมองไปที่ร่างสูงที่อยู่ข้างๆแทน ริมฝีปากอวบของคนตัวเล็กเอ่ยชื่อคนตัวสูงออกมา ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำสีใสเอ่อล้นออกมา หากแต่มันไม่ใช่เพราะความเสียใจ ... ดีใจต่างหากล่ะ ซันนี่วิ่งเข้าไปกอดคนตัวสูงทันทีท่ามกลางความตกใจของยุนอา และเจสสิก้า แต่ยูรินั่นจ้องมองด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ทำไมเธอไม่ติดต่อกลับมาหาฉันบ้างเลยซูยอง ฉันคิดถึงเธอ คิดถึงเธอที่สุดเลย”ซันนี่พูดความในใจทั้งหมดออกมา น้ำสีใสแห่งความดีใจก็ยังไหลไม่หยุดเช่นกัน ซูยองนั้นได้พูดสิ่งที่ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของซันนี่เหมือนโดนเข็มนับพันเล่มจิ้มฉึก !!
.
.
.
“เธอเป็นใครกัน ? จำคนผิดแล้วล่ะ ฉันไม่เคยรู้จักเธอ”ซูยองพูดแล้วดันตัวซันนี่ออกห่างด้วยท่าทางบวกกับสายตาเฉยชา
“ทำไมเธอจะไม่รู้จักฉัน ซุนคยูของเธอไง ตัวเล็กของตัวโตไงค่ะ”ซันนี่ยังคงไม่ยอมแพ้ ไม่มีทางซูยองไม่มีทางลืมเธอแน่ๆ
“ฉันบอกว่าฉันไม่รู้จักเธอไงเล่า !!”ซูยองตะคอกใส่ซันนี่ด้วยท่าทางโกรธจัด
“มันไม่จริง”ซันนี่ทรุดลงกับพื้นสนามบินอย่างไม่สนใจผู้คนที่มองเธอเลยแม้แต่น้อย น้ำสีใสยังคงไหลออกจากดวงตาคู่สวยเพียงแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาของความเสียใจ !!
“ซัน”เจสสิก้าที่เพิ่งตั้งสติได้รีบลงไปพยุงเพื่อนของเธอขึ้นมาทันที ก่อนจะจ้องมองหน้าซูยองชัดๆอีกที
“เธอ ... คนในรูปนั่นที่อยู่ในกระเป๋ายัยซัน”เจสสิก้าพูดขึ้นมาลอยๆ เธอจำได้แล้วซันนี่เคยบอกเธอไว้ตอนเป็นเพื่อนกันใหม่ๆ คนๆนี้เป็นคนที่ทำให้เพื่อนเธอเงียบขรึมในบ้างครั้งหรือแม้แต่แอบร้องไห้คนเดียวเงียบๆก็มี
“เธออย่ามาพูดมั่วๆนะ ฉันไม่เคยรู้จักยัยนี่”ซูยองเริ่มโกรธเจสสิก้าอีกคน นี่ไม่มีใครพูดรู้เรื่องกันซักคนเลยรึไงกัน
“เธอไม่รู้หรอกว่าเพื่อนฉันเสียใจแค่ไหนกับเรื่องของเธอ ถึงฉันจะไม่เคยเห็นยัยซันอยู่กับเธอแต่ฉันก็มั่นจ่ายัยซันมันรักเธอมาก !!”เจสสิก้ากระแทกเสียงใส่ซูยอง ดวงตาแข็งกร้าวนั่นแทบจะแช่แข็งซูยองให้ได้เลย คำพูดของเจสสิก้าจิ้มจึกเข้าที่ดวงใจของซูยองเต็ม ดวงตาของร่างสูงเกิดแวววูบไหวสักครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาเชยฉาเช่นเดิม
“พอก่อนจองเจส !! เพื่อนฉันบอกไม่รู้จักก็ไม่รู้จักสิ”ยูริเข้ามาขวางไว้ระหว่างเจสสิก้ากับซูยอง
“เหอะ !! ยูริถอยไปไอ้โย่งคนนี้มันทำเพื่อนฉันร้องไห้”
“จองเจส !!!!!!!”ยูริตวาดลั่นทำเอาคนที่เดินอยู่แถวนั้นหันมามองที่ยูริเป็นตาเดียว และทำให้เจสสิก้าเกิดอาการหวาดกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ ตั้งแต่เด็กไม่เคยเห็นยูริน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย เจสสิก้าตันสินใจสะบัดก้นเดินออกไปนอกสนามบินพร้อมกับซัน่ที่ยังร้องไห้จนตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดจนเจสสิก้าเริ่มกลัวว่าซันนี่จะเป็นลมไปซะก่อน
“แท็กซี่ !”เจสสิก้าโบกแท็กซี่จากหน้าสนามบิน วันนี้เธอไม่ได้เอารถมาเพราะติดรถมาพร้อมกับยุนอาแต่ตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัวยูริ และเป็นห่วงเพื่อนสนิทของเธออย่างซันนี่เป็นอย่างมาก และที่สำคัญถ้าให้เธอขึ้นรถกับไปพร้อมยุนอาตอนนี้เธอคงจะอดใจไม่ได้ที่จะตั๊นหน้าซูยองคนที่ทำให้ซันนี่เป็นแบบนี้
คอนโดซันนี่ ...
“สะ...สิก้า ฉัน ฮึก ไม่อยากอยู่แล้ว”ตั้งแต่กลับมาถึงคอนโดซันนี่ก็ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้ซักที เจสสิก้าก็ทำให้อะไรไม่ได้เธอได้แต่กอดปลอบเพื่อนอยู่อย่างนั้น
“แกอย่าคิดโง่ๆแบบนั้นนะซัน ไม่เอาซิ”เจสสิก้าลูบหัวซันนี่ น้ำใสๆเอ่อล้นดวงตาของเจสสิก้า เธอกำลังเศร้าไปพร้อมเพื่อนของเธอ
“แต่ฉัน ... ซะ ซูเขาจำฉันไม่ได้”
“ไม่เอานะซันไม่เอา เธอยังมีฉันอยู่นะ”
……..……………………………………………..
ทางด้านยูริ ซูยองและยุนอา
“แกไม่เป็นไรนะหยอง”เมื่อยูริเห็นเจสสิก้าเดินออกไปไกลแล้วจึงหันมาหาซูยอง
“อื้ม สบายดี”ซูยองตอบว่าสบายทั้งๆที่น้ำตามันไหลออกมาจากดวงตาแล้วแท้ๆ ยุนอาได้แต่มองพี่ทั้งสองอย่างงงๆ
ยูริตบบ่าซูยองเหมือนให้กำลังใจเพื่อนไปสองสามที “กลับบ้านกันดีกว่า แกมาอยู่กับฉันนะหยอง” ยูริพูดแล้วกอดบ่าซูยองเดินตามเจ้าของรถอย่างยุนอาไป
……………………………………………………………….
คืนนั้นหลังจากทั้งสามคนกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ยูริก็ลากตัวยุนอาไปที่ห้องทำงานทันที
“อะไรของพี่ยูลเนี่ย ยุนง่วงนะ”ยุนอาเบ้ปากเล็กน้อย
“หรา ?? ง่วงนอนหรือหิวผู้หญิงกันแน่”ยูริหรี่ตามองน้องสาวอย่างรู้ทัน
“รู้สึกจะเป็นอย่างหลังมากกว่า แฮะๆ”ยุนอาหัวเราะแห้งๆที่ยูริรู้ทัน พร้อมยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ
“เข้าเรื่องดีกว่าฉันไม่อยากบ่นแก คืองี้ ... ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอ่ะ”
“เรื่องอะไรอีกล่ะพี่ยูล ช่วงนี้มีแต่คนมีเรื่องอยากมาคุยกะยุน”ยุนอาพูดหน้าตาเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้อย่างไงอย่างงั้น
“แต่เรื่องนี้แกปฎิเสธไม่ได้ เพราะไม่อย่างงั้นแกก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป”ยุนอาขมุบขมิบปากบ่นยูริแบบไม่มีเสียงใจความประมาณว่า ‘เรื่องพี่สิก้าฉันก็ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกันแหละ’
“เรื่องอะไรอีกล่ะ”ยุนอาพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“ฉันส่งแกไปเป็นเด็กในปกครองของรุ่นน้องฉัน เขาจะช่วยเปลี่ยนนิสัยแก”
“เห !!!???”ยุนอาถามซะเสียงหลง ยูริต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ไม่ต้องมาเห ฉันบอกแล้วว่าแกปฎิเสธไม่ได้ เข้าใจป่ะ ?”ยูริพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย
“ไม่อ่ะ โคตรไม่เข้าใจเลยพี่ยูล แล้วไอ้รุ่นน้องที่พี่ยูลพูดจะเป็นคนยังไงก็ไม่รู้ เข้ากับยุนได้รึเปล่าก็ไม่รู้ ที่สำคัญถ้าเป็นผู้ชายยุนจะตั๊นหน้ามันให้ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วเขาจะสวยหรือเปล่า”ยูริตบหัวยุนอาไปด้วยความแรงหนึ่งที ตอนแรกก็ดูดีนะพอหลังๆมันเริ่มเข้าเรื่องผู้หญิง
“ยุนเจ็บนะ”ยุนอาเบ้ปาก
“ก็ฉันตบให้เจ็บไง ถ้าไม่เจ็บจะตบทำไม ?”ยูริสวนกลับน้องสาว ตอนนี้เธอว่าเธอคิดถูกแล้วละที่จะส่งยุนอาไปเป็นเด็กในปกครองของรุ่นน้องเธอ ขืนถ้าปล่อยยุนอาไว้แบบนี้วันๆมันก็มีแต่กินข้าวกับกินผู้หญิงแค่นั้น รับรองว่าตระกูลควอนได้เจ๊งกันไปสักข้างแหละ ดีนะที่พ่อไม่เอาไอ้ยุนมาใช้สกุลควอนไม่งั้นยูริคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“งั้นพี่บอกมาก่อนว่ารุ่นน้องของพี่น่ะผู้ชายผู้หญิง ?”
“ผู้หญิง”ยุนอาเริ่มยิ้มทันทีที่ได้ยินว่าผู้หญิง
“สวยม่ะ ?”ถึงยุนอาจะชอบกินผู้หญิงแต่เธอก็เลือกนะ ไม่ใช่เป็นผู้หญิงแต่พอดูหน้าตุ๊กกี้ยังชิดซ้ายแบบนั้นไม่ไหวแน่
"เอ็กซ์หรือเปล่า ?"
"นิดนึง"ปากกว้างๆของยุนอาเริ่มยิ้มได้กว้างมากกว่าเดิม ... ผู้หญิง สวย เอ็กซ์ด้วย -..-
"แล้วเซ็กล่ะ จัดหรือเปล่า ?"ยุนอาถามแล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆยูริ
"ไอ้ - หื่น !!"ยูริจัดการกระชากหูยุนอาอย่างแรงตามจังหวะคำพูด
"ออนนี่ !!!"ยุนอาเอามือลูบหูที่จะหลุดไม่หลุดเล่(เว่อร์)แล้วพูดเสียงแอ๊บตามสไตล์
"อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนั้น เดี๋ยวปั๊ด !!!"ยูริพูดแล้วง้างมือขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่วนยุนอานั้นก็ถอยหลังให้ห่างจากยูริไปสามก้าวโดยอัติโนมัติเช่นกัน
"ไอ้พี่ลิงเอ้ย !!"ยุนอาพูดพร้อมแลบลิ้นใส่ยูริอย่างทะเล้นแล้ววิ่งออกจากห้องทำงานยูริไปได้ทันเวลาเส้นยาแดงผ่าแปดกับที่ทับกระดาษอันหนักอึ้งที่ลอยมาจากทางยูริ
หลังจากที่ยุนอาเดินออกไปแล้วยูริจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองออกมา พลางกดโทรออกหาใครบางคน
"สวัสดีค่ะน้องซอ ตกลงเรื่องที่พี่พูดไว้น้องสาวพี่ตกลงแล้วนะ ไว้เจอกันวันอาทิตย์นะค่ะ ค่ะ ยังไงก็ลงไม้ลงมือน้องสาวพี่ได้เต็มที่เลยนะ"ยูริพูดคุยกับปลายสายด้วยลอยยิ้ม ก่อนจะกดตัดสายเมื่อบทสนทนาจบลง ยูริได้แต่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกแล้วปล่อยหลังให้พิงไปเก้าอี้ทำงานทรงสูง
(ออนนี่ !! ที่ยุนอาพูดใส่ยูริ) ควรเปิดเสียงดังๆ
____________________________________________________________________________________________________
To Be Continued >>>
มาคุยกันดีกว่า ::
อ่า ... เรามาอัพอีกตอนแล้วนะ ^^ ไรท์เคอร์เรียนวันละตั้ง 10 คาบแน่ะ (ชดเชย)
ยังไงรีดเดอร์ทุกคนที่ติดตามนะค่ะ เลิฟๆ
ไรท์เตอร์ไม่เคยคิดเลยนะเนี่ยว่าจะมีแฟนคลับ -///- ขอบคุณค้า
ความคิดเห็น