คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : REVENGE : : CHAPTER 1
CHAPTER 1
ซอ จูฮยอน หญิงสาววัย 16 ที่ยังคงดูเหมือนเด็กน้อย เพราะดวงตาใสซื่อ และความไร้เดียงสาของเธอ เธอได้เรียนที่โรงเรียนเอกชนที่ราคาแพงแสนแพง สังคมรอบตัวเธอมีแต่พวกที่ใส่หน้ากากเข้าหากันตั้งแต่เด็ก แม้จะมีคนมากมายรายล้อม แต่เธอกลับคิดเสมอว่าเธออยู่ตัวคนเดียว ซอฮยอนไม่ค่อยเข้าไปสุงสิงคุยเรื่องเสื้อผ้าแฟชั่นกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ไม่เข้าไปคุยเรื่องปาร์ตี้เที่ยวกลางคืนกับพวกผู้ชาย นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่า..
ทำไมเธอถึงไม่มีเพื่อน
แม้จะเติบโตมาในตระกูลผู้ดีเก่าที่มีชื่อเสียง แต่เธอกลับมีแค่พี่เลี้ยงที่คอยอยู่กับเธอ พ่อกับแม่ไม่เคยกลับมาที่บ้านเพื่อทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเด็กคนอื่นๆ ไม่เคยไปเที่ยวพักผ่อนกันแบบครอบครัว ที่เธอจำได้ล่าสุดเมื่อตอนที่พวกท่านกลับมาก็แค่เอาเงินมายื่นให้จำนวนหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นก็หายไปอีกพักใหญ่ๆ
“เฮ้อ..”
เธอถอนหายใจก่อนจะเดินไปชิดรั้วไม้สักที่แกะสลักลวดลายสุดหรูก่อนจะแอบมองไปที่บ้านข้างๆ มีกลุ่มเด็กผู้ชายที่โตกว่าเธอกำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน มันช่างดูน่าอิจฉาชะมัด
พลั่ก!!
“โอ๊ย”
เธอเซจนตกขอบรั้วที่ปีนอยู่ก่อนจะคลำหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด
“คุณหนู!!!!”
บรรดาพี่เลี้ยงของเธอที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งกรูกันเข้ามาหาเธอราวกับว่าเธอกำลังจะขาดใจตายอย่างงั้นแหละ ซอฮยอนส่ายหน้าก่อนจะพูดกับพวกพี่เลี้ยง “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องเข้ามา”
“แต่หัวคุณหนู..”
“ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง!!!”เธอตะโกนเสียงแข็งก่อนจะหยิบลูกบอลที่มากระแทกหัวของเธอเมื่อกี๊แล้วเดินไปปีนที่รั้วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ทันทีที่เธอยืดตัวยืนตรง ใบหน้าของเธอก็อยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มที่ปีนมาจากอีกฝั่งเช่นกัน
โอ เซฮุน ลูกชายคนเดียวของบ้านข้างๆในวัย 20 ปี ยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบลูกบอลในมือเด็กสาวแล้วโยนกลับไปในวงเพื่อนๆ ก่อนจะหันมาแล้วหัวเราะกับท่าทางประหลาดๆกับสาวน้อยตรงหน้า
“เป็นอะไร”
“พี่”ซอฮยอนร้องเรียกเขาก่อนจะกระโดดลงมายืนบนพื้นก่อนจะก้มหน้างุด
เซอุนเห็นอย่างนั้นก็กระโดดจากรั้วบ้านของตัวเองเข้ามายังบ้านของเด็กสาวก่อนจะเชยคางเธอขึ้นมาสบตากับเขา “เป็นอะไรของเธอ ทำไมต้องหลบตาด้วย”
“-////-“
“แล้วทำไมต้องหน้าแดง”
“...”
เขามองหน้าเธอก่อนจะก้มลงมาใกล้อย่างจงใจแกล้ง ทำไมโอเซฮุนจะไม่รู้ล่ะว่าเด็กคนนี้เขินเรื่องเมื่อกี๊ ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าเธอน่ะ ไม่เคยมีแม้แต่จูบแรก ไม่สิ ไม่เคยมีแฟนเลยสักคนต่างหาก
“เธอกำลังทำอะไรอยู่ นั่งถักนิตติ้ง จิบชา ดูนิตยสารเสื้อผ้า หรือว่า..”
“พอเลย”ซอฮยอนพูดแล้วเอามือเล็กนั่นเอื้อมไปปิดปากเขาเอาไว้ “ฉันก็แค่กำลังนั่งเบื่ออยู่ต่างหาก”
“เพราะเธอไม่มีเพื่อนนี่เอง”เซฮุนพูดแล้วหัวเราะเมื่อได้เห็นสายตาโกรธๆของคนตรงหน้า “ฉันล้อเล่นน่า”
“ก็ใครจะไปเหมือนพี่ล่ะ พี่มีทุกอย่างที่พี่ต้องการนี่”
“เธอเองก็มีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แค่เธอบอก คนในบ้านเธอก็จะหามาให้เธอได้ทุกอย่าง”
“แต่พวกเขาหาเพื่อนที่ถูกใจให้ฉันไม่ได้นี่”เธอพูดแล้วเป่าลมเข้าปากจนแก้มใสๆของเธอมันพองขึ้น “ล่าสุดนายอเล็กซ์ที่เขาหามา เป็นเด็กผู้ชายอายุ 18 หมอนั่นมาเล่นกับฉัน แต่ว่าเอาแต่มอง..”
“มอง?”
“มองหน้าอกฉันน่ะสิ”
เซฮุนหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ทำอย่างกับว่าเธอมีให้มองอย่างงั้นแหละ
“พี่อ่ะ”
เซฮุนหยุดขำก่อนจะจับข้อมือเล็กๆของเธอขึ้นมา “งั้นไปสิ”
“ไปไหน”
“ไปเล่นด้วยกัน”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโอเซฮุนมักจะมาแอบพาซอฮยอนออกไปเล่นด้วยกันอยู่เสมอ เกิดความรู้สึกดีขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่ ซอฮยอนเองดูเป็นคนที่สดใสขึ้น เมื่ออยู่กับเซฮุน เซฮุนเองก็ดูอ่อนโยนขึ้นเมื่ออยู่กับซอฮยอน เป็นอย่างนี้เสมอ เรื่อยๆมา
3 ปีต่อมา
ชีวิตในวงการมายามันช่างน่าตลก คนบางคนตัวจริงกับที่แสดงออกให้คนทั่วไปรับรู้ช่างแตกต่าง แต่ไม่ใช่กับเธอแน่นอน จอง เจสสิก้า
หุ่นสมบูรณ์แบบ เรียวขางามที่ผู้หญิงทุกคนอิจฉาและอยากได้มัน ผิวขาวเนียนละเอียดเนื่องจากได้รับการบำรุงมาอย่างดีเยี่ยม ชุดราตรีเปรี้ยวเข็ดฟันสีแดงเพลิงที่เธอสวมใส่ ไม่ได้เข้ากันกับผู้หญิงทุกคน แต่สำหรับเธอ ไม่ว่าชุดไหนที่อยู่บนเรือนร่างเพอร์เฟ็คนี้ต้องยอมรับเลยจริงๆว่ามันเข้ากับเธอหมดทุกอย่าง
“เจสสิก้า พร้อมรึยัง”
ริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดยกยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืน เมื่อกี๊ถึงไหนแล้วล่ะ อ้อ เธอก็แค่อยากจะบอกว่าเธอน่ะ เป้นเหมือนกันทั้งนอกจอและในจอ
จอง เจสสิก้านางแบบความอดทนต่ำสุดเลิศ นั่นแหละคือฉายาที่ผู้คนมอบให้เธอ แม้เธอจะเป็นแบบนี้ แต่นิตยสารหลับฉบับ หรือแม้แต่ต่างประเทศก็อยากได้ตัวเธอไปร่วมงานทั้งนั้น
ไม่มีใครทนแรงดึงดูดได้นานหรอกน่า และบังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มีแรงดึงดูดที่เกินห้ามใจซะด้วยสิ
โรงแรม K
โรงแรมสุดหรูที่ต้อนรับเฉพาะแขกชั้นสูงเท่านั้น บริกรล้วนแต่เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกการบริการชั้นเยี่ยมมาทั้งนั้น ขายาวก้าวเข้ามาก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์ VIP แล้วกดไปที่ชั้นบนสุด
“วันนี้ยังเหลืองานอะไรอีกบ้างไหม”
“เอ่อ สักครู่นะคะ ดิฉันขอ..”
“พอแล้ว”
“คะ?”
“ไม่ต้องดู”เสียงทุ้มพูดก่อนจะปลดเนคไทออกแล้วปรายตามองเลขาที่เพิ่งจ้างมาเมื่อวาน “ฉันไล่เธอออก”
“คะ?”
“ได้ยินชัดแล้วนี่ ออกไปซะ”
คริส หรือวู อี้ฟาน เศรษฐีหนุ่มเจ้าของโรงแรมส่ายหน้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์ที่แสนคุ้นเคย ไม่นานนักปลายสายก็ตอบรับ
(ว่าไงวะเพื่อน)
“ช่วยหาเลขาให้ฉันใหม่ด้วย”
(นี่แกว่าไงนะ ฉันเพิ่ง..)
“ไม่ได้เรื่อง”คริสพูดก่อนจะแตะคีย์การ์ดแล้วเดินเข้าไปในห้องสุดหรูที่เหมาชั้นนี้เอาไว้ เขาเป้นคนไม่ชอบอยู่ร่วมกับใคร และต้องการความเป้นส่วนตัวอย่างที่สุด สถานที่นี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับเขามากที่สุด “ไม่ได้เรื่องทั้งเลขา และคนหา”
(เฮ้! นี่แกว่าฉันเหรอวะ)
“ฉันก็ไม่เห็นว่าคำว่าไม่ได้เรื่องจะเป็นการชมตรงไหนเลยนะ”เขาพูดแล้วนั่งลงบนโซฟาสุดหรูในห้อง “หาเลขาให้ฉันใหม่ ขอคนที่พูดรู้เรื่อง ทำงานเป็น และไม่น่ารำคาญ”
(แกนี่มันเรื่องมากชะมัด)
“แกเองก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกันจางอี้ชิง แค่นี้นะ”
(เออ)
“เดี๋ยว!!”
(อะไรอีก)
“ช่วยโทรนัดเจสสิก้าให้ฉันด้วย”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดได้จบประโยค ฝ่ามือเย็นเยียบก็มาแตะที่ต้นคอของเขา คริสยิ้มมุมปากก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงไปบนพื้นอย่างไม่ไยดี “คุณมาทำไมไม่บอกผมล่ะ”
“ถ้าฉันบอกคุณมันจะเป็นเซอร์ไพรส์เหรอ”เสียงหวานเอ่ยก่อนจะยื่นแก้วไวน์ที่เพิ่งรินให้กับเขา “ไวน์ที่คุณชอบ ของปี 1893 เชียวนะ”
“คุณเอามาจากไหนล่ะ”
“โจ ลาเวลลูกชายประธานาธิบดีอังกฤษให้ฉันมา”
“หมอนั่นคงเข้ามาจีบคุณสินะ”
“ก็แน่นอน”เธอยักไหล่ก่อนจะจิบไวน์แล้วเอาวางไว้บนโต๊ะ “ใครก็ทนแรงดึงดูดจากฉันไม่ได้ทั้งนั้นคุณก็รู้”
“ผมก็เช่นกัน”
พูดจบเขาก็ดึงตัวเธอลงมาก่อนจะกอดรัดตัวเธอเอาไว้ “ผมก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน”
“ฉันไม่ชอบตอบคำถามซ้ำซาก ไม่ชอบคนที่พูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจใช่ไหม”
คริสที่สวมชุดคลุมแบรนด์ระดับโลกที่ตัดขึ้นมาเพื่อเขาเท่านั้นพูดแล้วมองหน้าเลขาสาวที่อี้ชิงเพิ่งส่งมา คราวนี้เป็นผู้หญิงที่อายุไม่น่าจะมากนัก และดูท่าทาง ..จะพูดรู้เรื่องมากกว่าคนเก่า
“ค่ะ”เธอตอบก่อนจะหลบตาเขา
แน่นอน ผู้ชายคนนี้ดูดีทุกครั้งที่เคลื่อนไหวร่างกาย หรือต่อให้เขานั่งเฉยๆเขาก็ดูดีได้ หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาสวมเพียงแค่เสื้อคลุมเท่านั้น
มันดูจะสบายๆเกินไปสักหน่อย
ร่างบางที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่เดินงัวเงียออกมาจากห้อง คริสหันไปมองก่อนจะยิ้ม “ผมคุยเสียงดังเกินไปเหรอ”
“ไม่ค่ะ แต่ฉันต้องไปทำงานแล้ว”เจสสิก้าตอบก่อนจะมองหน้าหญิงสาวเป็นเชิงถาม
“เลขาคนใหม่ของผมน่ะ”เขาตอบเธอก่อนจะหันมองเลขาคนใหม่ “เธอกลับไปได้แล้ว ตารางงานทั้งหมดของฉัน อี้ชิงคงส่งให้เธอเรียบร้อยแล้ว อย่าให้ฉันต้องเปลี่ยนเลขาใหม่ในวันพรุ่งนี้ล่ะ”
“ค่ะ”เธอตอบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างเกร็งๆ
คริสมองประตูที่ปิดสนิทก่อนจะหันมามองร่างตรงหน้าที่น่าดูกว่าประตูเป็นไหนๆ เขาคว้าตัวเธอเข้ามาก่อนจะฝังจูบลงไปที่ขมับขวาของเธอ “ผมไม่อยากให้คุณไปเลย”
“เดี๋ยวฉันก็กลับมาหาคุณค่ะ แต่คุณนั่นแหละ จะว่างเจอฉันสักเท่าไหร่เชียว”
“คุณก็รู้นี่ว่าผมน่ะ..”
“ยุ่งมาก”เธอพูดก่อนที่เขาจะพูดจบ “ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจ”
“ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ผมถึงขาดคุณไม่ได้”เขาพูดก่อนจะหอมแก้มเธอเบาๆ “ขอโทษที่ผมคงไปส่งคุณไม่ได้ แต่เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไปเองได้นะ”เธอพูดแล้วชูกุญแจรถขึ้นมา “อาทิตย์นี้เราคงได้เจอกันวันนี้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้ฉันจะต้องเดินทางไปโตเกียวเพื่อถ่ายปกนิตยสาร”
“นั่นยิ่งทำให้ผมไม่อยากปล่อยคุณไปในตอนนี้นะ”
“แต่ฉันต้อง..”
“ก็แค่อีกนิดเดียวเท่านั้น”เขาพูดก่อนจะก้มลงแล้วจูบที่แก้มซ้ายของเธอหนักๆ
“คริสคะ”เจสสิก้าเรียกเขาและเตรียมจะดันเขาออก แต่ดวงตาแห่งความปรารถนาของเขาทำให้เธอสูญเสียการควบคุมตนเอง เธอต้องการเขาไม่ต่างจากที่เขาต้องการเธอ เขาเหมือนกับสารเสพติดที่เธอคงขาดไม่ได้ และเธอนึกภาพไม่ออกเลยว่าในช่วงเวลาที่ไม่เจอเขา เธอจะทุรนทุรายหนักมากแค่ไหน
คริสอมยิ้มก่อนจะก้มลงฝังจูบที่ต้นคอขาวเนียนของเธอ เขาดันเธอเข้าไปในห้องนอน และภายในพริบตาเดียว ร่างของทั้งคู่ก็อยู่บนเตียงกว้าง และเป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขา
ทนแรงดึงดูดของเธอไม่ได้
อิม ยุนอาผู้หญิงธรรมดาที่ใช้ชีวิตวัย 23 ปีอย่างน่าเบื่อมาตลอดกอดแฟ้มหนา 3 อันที่ถูกเจ้านายโยนมาให้ก่อนจะพยายามไขประตูห้องเช่าธรรมดาๆเข้าไปแต่ก็ไม่สามารถทำได้
“ทำแบบนั้นเมื่อไหร่จะได้เข้าไปล่ะ”
“มาพอดีเลย”เธอพูดก่อนจะโยนกุญแจให้ชายหนุ่มที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม “ไขให้หน่อย เร็วๆ”
ชายหนุ่มหยิบกุญแจขึ้นมาก่อนจะเดินไปไขประตูห้องก่อนจะแย่งแฟ้มในมือของยุนอามาถือเอาไว้ เขามองหน้าเธอก่อนจะหัวเราะเบาๆ “เธอได้งานแล้วเหรอ”
“ใช่”
“จะถูกไล่ออกตอนไหนน้า”
“นี่ ไม่ต้องปากมากเลยนะ”เธอพูดแล้วหยิบแฟ้มมาแล้วมองหน้าชายหนุ่มที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทที่ไม่สนิท “แต่ก็ไม่แน่หรอก เขาดูน่ากลัวยังไงไม่รู้สิ”
“เขา? เขาไหนกันล่ะ”
“วู อี้ฟาน ..คุณคริสน่ะ นายรู้จักไหม”
“ใครไม่รู้จักก็บ้าแล้ว”เขาพูดก่อนจะโยกหัวเธอ “ลาออกซะเถอะ ฉันไม่อยากให้เธอต้องมานั่งร้องไห้ฟูมฟายเพราะโดนไล่ออกเหมือนคราวที่แล้วน่ะ”
“ลาออก? เห๊อะ แล้วฉันจะเอาอะไรกินล่ะ ฉันต้องทำงานหาเงินนะ”ยุนอาพูดก่อนจะมองหน้าชายหนุ่ม “ใครจะไปเหมือนนายล่ะ ลี จงฮยอน ลูกชายคนเดียวของส.ส.ลีผู้ร่ำรวย ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินมีใช้ไปทั้งชาติ”
จงฮยอนหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า “ก็ฉันบอกเธอแล้วไง”
“อะไร”
“ไม่ต้องทำงาน แล้วก็แต่งงานกับฉันซะก็จบแล้ว”
เธอมองหน้าเขาก่อนจะหยิบกล่องกระดาษทิชชู่ใกล้มือขึ้นมาแล้วโยนใส่เขา “พูดเป็นละครเลย ออกไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
“ฉันจะรอดูเธอร้องไห้ขี้มูกโป่งนะยุนอา”
“ไปเลยไป๊”
เป็นยังไงบ้างกับตอนแรก พอไปได้อยู่ไหมกับแนวนี้ ติชมกันเยอะๆนะ เพราะมันเป็นแนวไม่ถนัดจริงๆ
แต่มีพี่ที่รู้จักแนะนำมาว่า นิยายที่ออกแนวดาร์คๆและดราม่าจะเน้นไปที่การบรรยาย แต่นิยายกุ๊กกิ๊กน่ารักๆแบบที่เค้าชอบแต่งจะเน้นไปที่คำพูดของตัวละคร
ไม่ค่อยชิน แต่จะพยายามบรรยายเยอะๆนะ พออ่านได้ชิมิ
ความคิดเห็น