ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO-SNSD]Love's Twin

    ลำดับตอนที่ #10 : Love's Twin : : Chapters 9

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 56


    JoopaJoop©








    Chapters 9


     
     
     

                ยุนอานั่งมองตัวเองผ่านกระจกเงียบๆก่อนจะถอนหายใจเบาๆอีกครั้ง เมื่อคืนกลับมานอนที่บ้านเพราะคริสโทรบอกว่าจะกลับวันนี้ทำให้ตอนนี้ต้องทำความกล้าที่จะเจอหน้ากับเซฮุนอีกครั้ง

     

                ทั้งๆที่รอให้เซฮุนพูดคำนั้นออกมาตลอด แต่เมื่อเซฮุนพูดกลับทำใจไม่ได้หลบหน้ากันซะงั้น

     

                “เฮ้อ จะทำยังไงดีวะเนี่ยยุนอา”

     

                “ยุนนนนนนนนนน”

     

                ยุนอาสะดุ้งเฮือกทันทีที่เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้น เธอสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูห้องนอนออก ซอฮยอนยืนอยู่หน้าห้องก่อนจะยิ้มบางๆเพื่อทักทายเธอ

     

                “หายหน้าหายตาไปนานเลย ทั้งๆที่เรียนห้องเดียวกันแต่ทำไมรู้สึกว่าไม่ค่อยได้เจอยุนเลยนะเนี่ย”

     

                “เอ่อ แหะๆ ขอโทษทีนะ พอดียุ่งๆ”

     

                “ไปเรียนกันเถอะ”

     

                “อื้ม”ยุนอาพยักหน้าก่อนจะชะเง้อมองไปด้านหลังซอฮยอนเผื่อว่าจะเจอกับใครอีกคนที่รู้สึกว่าช่วงนี้ห่างกันเหลือเกิน

     

                “มองหาอะไรเหรอ”ซอฮยอนถามตาใสทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่ายุนอามองหาใคร เพียงแต่แค่อยากจะลองใจเพื่อนดูเท่านั้น

     

                “เอ่อ เปล่าๆๆๆ ไม่ได้หาใคร ไปกันเถอะ วันนี้ฉันอุตส่าห์นอนเร็วตื่นเช้านะเนี่ย”

     

                “ฮ่าๆๆๆ”ซอฮยอนหัวเราะก่อนจะเดินออกไปข้างนอกพร้อมกันกับยุนอา

     

                ตลอดทางเดินซอฮยอนพยายามจะชวนยุนอาคุยแต่ก็ดูเหมือนว่ายุนอาจะแค่ยิ้มรับเท่านั้น

     

                เอายุนอาที่ร่าเริงของฉันกลับมาน้า ><

     

              ซอฮยอนคิดก่อนจะคอยมองไปด้านหลัง ทำไมเซฮุนยังไม่ออกมาอีกทั้งๆที่ปกติเขาจะออกมาแล้วนี่นา

     

                “ซอ ทำไมเดินช้าจังล่ะ”ยุนอาหยุดเดินก่อนจะมองซอฮยอนที่ดูจะเดินช้าผิดปกติ

     

                “เอ่อ เปล่าจ้ะเปล่า”ซอฮยอนตอบอึกอักก่อนจะเกาหัวตัวเอง รีบมาสิเซฮุน ยุนอาอยู่นี่แล้วนะ “โอ๊ะ ยุน เชือกรองเท้าหลุด ขอผูกแป็บนึง”

     

                ยุนอาพยักหน้าก่อนจะยืนรอซอฮยอนที่ก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าที่เจ้าตัวตั้งใจเหยียบให้มันหลุดเพื่อถ่วงเวลารอใครบางคน และนั่นไง ในที่สุดก็มาแล้ว

     

                “อ้าว! เซฮุน”ซอฮยอนลุกขึ้นยืนทั้งที่เชือกรองเท้ายังหลุดอยู่เธอตะโกนเรียกเซฮุนก่อนจะกวักมือเรียกอย่างตื่นเต้น “ทางนี้ๆ”

     

                ยุนอายืดตัวตรงก่อนจะกำมือแน่น ทำไงดี เซฮุนมาแล้ว เธอจะกล้าเผชิญหน้ากับเซฮุนได้ยังไง

     

                “ไง”เซฮุนเดินเข้ามาใกล้ทั้ง 2 คนก่อนจะทกทายซอฮยอนแล้วมองเลยไปที่ยุนอา “แกกลับมาบ้านแล้วเหรอไม่เห็นรู้เรื่อง”

     

                “เอ่อ อืม เพิ่งมาเมื่อคืนน่ะ”

     

                “อืม”

     

                “อืม”

     

                ซอฮยอนมองเพื่อนรักทั้ง 2 คนก่อนจะยิ้มอย่างมีแผน “ตายแล้ว!!!!

     

                “อะไรเหรอซอ”ยุนอาถามเมื่อจู่ๆซอฮยอนก็ตะโกนดังลั่น

     

                “ฉันเพิ่งนึกได้ว่าฉันไม่ได้ถอดปลั๊กเตารีดออก ถ้าไม่ไปถอดออกมีหวังไฟไหม้บ้านแหงๆเลย”ซอฮยอนพูดรัวๆก่อนจะดึงกระเป๋าเป้จากหลังยุนอาออกแล้วโยนให้เซฮุน “ทั้ง 2 คนไปเรียนกันก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ >< เจอกัน”

     

                เซฮุนรับกระเป่าของยุนอาที่ซอฮยอนโยนมาอย่างงงๆ ก่อนจะมองยุนอาที่ทำหน้างงไม่แพ้กัน

     

                “ซอ เดี๋ยวฉันปะ..”

     

                “ไม่เป็นไรยุน ฉันไปคนเดียวได้ ปรับความเข้าใจ เอ๊ย! ไปเรียนกันเถอะ”

     

                ซอฮยอนวิ่งกลับไปทางเดิมอย่างเร็วโดยที่ไม่หันกลับไปมองคนทั้งคู่ รีบๆปรับความเข้าใจกันล่ะ ซอฮยอนคนนี้อุตส่าห์ลงทุนโกหกเรื่องเตารีดเลยนะ

     

     

     

     

     

     

     

              “...”

     

                “...”

     

                ทันทีที่ซอฮยอนไป ยุนอาและเซฮุนต่างก็ทำตัวไม่ถูก ยุนอายื่นมือไปตรงหน้าเซฮุนก่อนจะพูดเบาๆ “เดี๋ยวสะพายกระเป๋าเองก็ได้”

     

                “ไม่เป็นไร ไม่ได้สะพายให้แกแบบนี้ตั้งหลายวันแล้ว”เซฮุนพูดก่อนจะเดินไปข้างหน้า “ไปเถอะ”

     

                “อืม”ยุนอาพูดเบาๆก่อนจะเดินตามเซฮุนไป “คนรอบคอบอย่างซอฮยอนลืมถอดปลั๊กเตารีดได้ยังไง”

     

                “เชื่อเหรอ”เซฮุนพูดก่อนจะหัวเราะเบาๆ “คนอย่างซอฮยอนน่ะนะ ไม่มีทางขี้ลืมแบบนั้นหรอก”

     

                หลังจากคุยกับซอฮยอนที่ระเบียงในหลายๆคืนที่ผ่านมาโดยไม่มียุนอา เขาพอจะรู้ว่าซอฮยอนคงรู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองเป้นต้นเหตุทำให้เขากับยุนอาทะเลาะกัน แถมไอ้คำพูดที่หลุดปากออกมาเมื่อกี๊อีก

     

                “ปรับความเข้าใจ”

     

              ฟังก็รู้แล้วว่าเป้นแผนของยัยตัวแสบคนนั้น

     

                “ฉันก็ว่างั้น”ยุนอาพูดก่อนจะหยุดเดินเมื่อถึงทางแยกที่ต้องข้ามถนน

     

                เซฮุนหยุดเดินก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้ายุนอา “แกยังจะจับมือกับฉันอยู่ไหม”

     

                “เอ่อ..”

     

                “ก็แค่ข้ามถนน”

     

                ยุนอาพยักหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือกับเซฮุน ทันทีที่มือของทั้ง 2 สัมผัสกัน ยุนอาก็ใจเต้นรัวขึ้นมา มันเป็นปกติ แต่วันนี้ดูเหมือนว่าใจจะเต้นแรงผิดปกติซะแล้ว

     

                “ฉันชอบแก”

     

              คำพูดของเซฮุนทำให้ยุนอารู้สึกอายขึ้นมา เธอดึงมือตัวเองออกทันทีที่ข้ามมาถึงอีกฝั่งของถนน เซฮุนมองยุนอาก่อนจะยิ้มบางๆ “แกจะไม่ทำตัวเหมือนเดิมจริงๆเหรอ”

     

                “ฮะ ฉะ ฉันก็เหมือนเดิมนี่”

     

                “ยุน ฉันรู้จักแกมานานมากนะเว้ย ดูก็รู้ว่าแกไม่เหมือนเดิม”เซฮุนพูดก่อนจะแตะไหล่ยุนอาเบาๆ “ถ้าคำพูดของฉันในวันนั้นมันจะทำลายความเป็นเพื่อนของเรา ฉันขอร้อง แกลืมมันไปได้ไหมถ้าแกไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับฉัน”

     

                “...”

     

                “แต่ถ้าแกรู้สึกแบบเดียวกับฉัน ..เราก็”

     

                “จะบ้าเหรอไอ้ฮุน”ยุนอาพูดก่อนจะชกไหล่เซฮุน “เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย อยู่ๆมาพูดอะไรแบบนั้นล่ะ ฉันก็เห็นแกเป็นเพื่อนแหละ เพื่อนน่ะเพื่อน”

     

                “..อืม ฉันเข้าใจแล้ว”

     

                ยะ ยุนอา เธอพูดอะไรออกไป!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “เออไอ้ยุน แกพูดอะไรออกไป ทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วยวะเนี่ย ไอ้บื้อเอ๊ย”

     

                แทยอนโวยวายทันทีหลังจากได้ยินเรื่องที่ยุนอาเล่า ยุนอาส่ายหน้าก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะ “ฉันก็ไม่รู้ว่ะ ปากมันพูดออกไปเอง”

     

                “งั้นนี่สรุปว่าแกก็ชอบไอ้ฮุนเหมือนกันใช่ไหม”

     

                ยุนอามองหน้าแทยอนก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “คงงั้น”

     

                “โธ่เอ๊ย ไอ้ฟอร์มเยอะ”

     

                “ไอ้แท ก็ฉันกลัวนี่หว่า ฉันกลัวว่าถ้าฉันพูดออกไปแล้วไอ้ฮุนมันบอกว่ามันพูดเล่น หรือว่าถ้าเกิดมันพูดจริงแล้วฉันไปกับมันไม่ได้ฉันจะเสียเพื่อนอ่ะ”

     

                “โอ๊ยยยยยยยย แกยังจะมาพูดว่าพวกแกจะไปกันไม่ได้อีกเหรอ คบกันมาขนาดรู้นิสัยกันแล้วยังไม่หนีไปไหนนี่ยังยืนยันไม่ได้อีกเหรอเนี่ย”

     

                “...”

     

                “แกจะให้ฉันไปบอกไอ้ฮุนให้ไหม ว่าแกพูดไปเพราะแกตกใจ หรือว่าเพราะแกอาย อะไรแบบนี้ เอาไหม”

     

                “อย่าเลย”ยุนอาพูดก่อนจะยืดตัวตรง “เอาไว้ฉันมีความกล้าพอเมื่อไหร่ ฉันจะบอกไอ้ฮุนเอง ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันไปก่อนละกัน”

     

                แทยอนมองหน้าเพื่อนก่อนจะส่ายหน้า พออีกคนกล้าพูด อีกคนก็ดันปากแข็ง เฮ้อ มันน่าจะตีจริงๆเล้ยยยยย




     

    50%

     

     

                “ไหนดู ทำไมถึงได้ซุ่มซ่ามแบบนี้ เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นาซอ”

     

                “โห่ลู่ อย่าบ่นมากสิ”ซอฮยอนพูดก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อสำลีชุบแอลกอฮอลล์สัมผัสโดนแผลที่หัวเข่า เหตุก็เพราะเมื่อเช้าตอนที่จะช่วยยุนอากับเซฮุน ดันลืมผูกเชือกรองเท้าตอนวิ่งกลับไปบ้านก็เลยเหยียบเชือกรองเท้าแล้วสะดุดล้ม

     

                “เจ็บมากไหมเนี่ย”

     

                “แผลน่ะไม่ค่อย แต่ว่าตอนลู่ทำแผลให้น่ะ เจ็บมากกกกกกกกกกกกก”

     

                ลูฮานหัวเราะก่อนจะแปะพลายเตอร์ยาที่หัวเข่าของซอฮยอนก่อนจะมองเธอแล้วดึงมือเธอขึ้นมา “ไปๆๆๆ สายมากแล้วนะ”

     

                ลูฮานยืนรอซอฮยอนที่หน้ามหาลัยอย่างเช่นทุกวันแต่เมื่อเช้ากลับเห็นแค่เซฮุนและยัยถึกยุนอาที่ดูบรรยากาศของทั้งคู่ออกจะแปลกๆไป ไม่เห็นซอฮยอน พอโทรไปถามก็เลยได้ความว่ายัยตัวแสบยังไม่ได้ออกจากบ้านเขาก็เลยกลับไปรับมาแล้วก็ดห็นว่าซอฮยอนนั่งรออยู่หน้าบ้านในสภาพหัวเข่าแตก เพราะว่าหกล้ม

     

                เขาก็เลยพามาที่มหาลัยแล้วแวะทำแผลที่ห้องพยาบาลก่อน

     

                “อื้อ ไปสิ”ซอฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเรียนพร้อมกัน “เอ๊ะ! นั่นเซฮุนนี่”

     

                “ไง”เซฮุนทักทั้ง 2 คนก่อนจะมองไปที่หัวเข่าของซอฮยอน “ไปโดนอะไรมา”

     

                จำได้ว่าเมื่อเช้ายังไม่มีนี่นา

     

                “สะดุดล้ม”ลูฮานตอบแทนก่อนจะมองหน้าเซฮุน “แล้วแทยอนกับยัยถึกไปไหนซะล่ะ”

     

                “ไปห้องแล้วมั้ง”เซฮุนตอบก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

     

                ซอฮยอนมองเซฮุนก่อนจะขมวดคิ้ว อย่าบอกว่ายังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันนะ โหย ไม่ไหวเลย ต้องให้ถึงมือซอฮยอนอีกแล้วเหรอเนี่ย

     

                “ลู่ ฉันอยากคุยกับเซฮุนนิดหน่อยน่ะ ไปรอที่ห้องก่อนได้ไหม”

     

                “ฮะ? อืมๆ”ลูฮานพยักหน้าก่อนจะปล่อยมือซอฮยอนแล้วมองหน้าเธอ “แล้วอย่าไปเดินซุ่มซ่ามล้มอีกล่ะ”

     

                “โธ่ลู่ บ่นอีกแล้ว บอกแล้วไงว่ามันแค่อุบัติเหตุ”ซอฮยอนพูดก่อนจะดันหลังลูฮานไปข้างหน้าแล้วหันมามองหน้าเซฮุน “เราคุยกันหน่อยได้ไหม”

     

                เซฮุนพยักหน้าก่อนจะเดินไปพร้อมกับซอฮยอน “สะดุดล้มตอนไหน”

     

                “เอ่อ ตอนไปถอดปลั๊กเตารีดน่ะ ลืมผูกเชือกรองเท้าก็เลยล้ม”

     

                “ยังจะเอาเรื่องปลั๊กเตารีดมาอ้างอีก”เซฮุนพูดแล้วมองหน้าซอฮยอน “เจ็บไหม”

     

                “นิดหน่อยน่า เออนี่! ตกลงว่านายกับยุนเคลียร์กันรึยัง ทำไมดูไม่มีความสุขเลยล่ะ”

     

                “...ก็อยากจะมีความสุขนะ แต่มันยิ้มไม่ออก”

     

                “อ้าว ทำไมล่ะ ยังไม่ได้คุยกันอีกเหรอ”

     

                “คุยแล้ว ยุนอาบอกว่า ..คิดกับฉันแค่เพื่อน”

     

                “!!!

     

                “เธอมองผิดไปแล้วล่ะที่คิดว่าไอ้ยุนมันก็คิดเหมือนกับฉัน ความจริงมันไม่ใช่เลย ..อย่างนี้ ควรจะให้ยิ้มดีรึเปล่า”

     

                “โธ่เซฮุน”ซอฮยอนพูดแล้วตบไหล่เซฮุนเบาๆ “อย่างน้อยยุนก็ไม่ได้เกลียดนายนะ พยายามเข้า แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่ายุนจะคิดแบบนั้นจริงๆ บางทียุนอาจจะอายก็ได้”

     

                “ไม่หรอก”เซฮุนพูดแล้วยิ้มบางๆ “ฉันรู้จักไอ้ยุนมานาน มันคงไม่ได้โกหกหรอก หรือถ้าจะโกหก ..ก็คงจะเนียนมาก”

     

                “...”

     

                “เนียนมากเกินไปด้วย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ลูฮานผลักประตูห้องเรียนเข้าไปก่อนจะเดินไปที่ด้านหลัง แทยอนไม่อยู่ มีแต่ยุนอาที่นั่งเหม่ออยู่คนเดียว เขาขยับไปใกล้ก่อนจะเรียกเบาๆ

     

                “เฮ้ ยัยถึก”

     

                “...”ไม่มีเสียงตอบรับ

     

                “นี่อิมยุนอา!!!

     

                “ไอ้บ้า ใครใช้ให้นายมาใกล้ฉันยะ”ยุนอาแหวก่อนจะผลักลูฮานออก “ไปเลยนะ อย่ามาใกล้”

     

                “แหม ฉันไม่ใช่เชื้อโรคนะ รังเกียจซะ”ลูฮานพูดก่อนจะถอยหลังกลับมานั่งที่เดิม “เห็นนั่งเหม่อ ไอ้เราก็เป็นห่วง ว่าเป็นอะไรรึเปล่า ถ้ายังด่าได้ ปากเก่งได้แบบนี้คงไม่เป็นสินะ”

     

                “...ฉันอาจจะเป็นก็ได้”ยุนอาพูดก่อนจะก้มหน้าลงมองต่ำอย่างซึมๆ “อาจจะเป็นก็ได้”

     

                ลูฮานเอียงคอมองยุนอาที่คอตกก่อนจะพูดเบาๆ “เป็นอะไร บอกได้นะ ถ้าช่วยได้จะช่วย แต่ถ้าให้ไปไล่กระทืบคน คงบอกฉันไม่ได้ ฉันไม่สู้คน”

     

                “หึ! ฉันก็พอจะรู้หรอกย่ะ”ยุนอาพูดก่อนจะหัวเราะแห้งๆ “ฉันมันเป็นโรคปากแข็งชะมัด ทำไงก็แก้ไม่หาย”

     

                “...”

     

                “ช่างมันเถอะ เอาไว้ถึงที่สุดเมื่อไหร่ ฉันคงหายเอง”ยุนอาพูดก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูฮาน “จริงไหม”

     

                “!!!”ลูฮานมองรอยยิ้มของยุนอราวกับคนตกอยู่ในภวังค์ก่อนที่สติจะกลับเข้าร่างอีกครั้ง “เอ่อ เอ้อ คงงั้นมั้ง”

     

                “เป็นอะไรของนาย”

     

                “เปล่า”

     

                “บ้า”

     

                “อย่ายิ้มแบบนี้ให้ฉันอีกล่ะ”

     

                “ทำไมยะ”

     

                “..จะอ้วก”

     

                “ย๊า ไอ้ตุ๊ด”

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

                ตกกลางวันทั้ง 5 คนมานั่งที่โต๊ะประจำก่อนจะพูดคุยกัน เซฮุนกับยุนอาก็ดูเหมือนว่าจะใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการจะทำตัวให้เป็นปกติ และในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะร่าเริงอยู่นั้น

     

                “อุ๊ย!

     

                ลูฮานก้มลงไปเก็บหนังสือที่หล่นอยู่ใกล้เขาก่อนจะส่งมันให้กับผู้หญิงที่ทำมันหล่น “อ้าวคุณ”

     

                “เจอกันอีกแล้วนะคะ”

     

                “เห๊อะ”ยุนอาหัวเราะแค่นๆก่อนจะมองหน้าเซฮุน “ดูเหมือนพี่ชายแกก็กำลังจะโดนรังควาน”

     

                “รังควานอะไรกันยุนอา”หญิงสาวพูดก่อนจะยิ้มทักเซฮุน “สวัสดีเซฮุน แล้วก็ ..ลูฮาน”

     

                “เอ่อ ครับ”ลูอานตอบก่อนจะมองเซฮุนอย่างงงๆ “รู้จักกันเหรอ”

     

                “ก็ต้องรู้จักสิคะ”เธอพูดก่อนจะมองหน้าลูฮานตาเยิ้ม “แล้วก็อยากจะรู้จักลูฮานให้มากกว่านี้ด้วย”

     

                “-o-

     

                “เอาไว้โอกาสหน้าคงได้เจอกันนะคะ”

     

                ทุกคนมองตามร่างบางนั่นไปด้วยความงุนงง แทยอนเป็นคนแรกที่ได้สติ “นี่อย่าบอกนะว่ายัยนั่นชอบอาลู่น่ะ”

     

                “เฮ้ย ไม่จริงมั้ง”ยุนอาพูดบ้างก่อนจะมองหน้าลูฮาน “นี่ถ้ายัยฮโยมินนั่นชอบลูฮานด้วยล่ะก็ พวกนาย 2 แฝดเจอของเข้าแล้วล่ะ”

     

                “อะไรกันเหรอ ใครคือฮโยมิน”ซอฮยอนที่ดูยังไม่เข้าใจสถาณการณ์ถามยุนอากับแทยอนอย่างงงๆ

     

                “ฮโยมินก็คือคนเมื่อกี๊แหละ ปกติยัยนั่นจะตัวติดกับยัยคุณหนูปาร์คจียอน และยัยจียอนที่ว่าเนี่ยก็ชอบไอ้ฮุนมากกกกกกกกกกก”แทยอนลากเสียงยาวก่อนจะหันไปมองลูฮาน “แล้วนี่นายไปเจอกับยัยนั่นได้ไงอาลู่”

     

                ลูอานมองหน้าทุกคนก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้า

     

     

     

     

     

     

     

                “นี่ขับรถยังไง ทำไมไม่รู้จักมองรถข้างหน้าบ้าง ถ้าเกิดว่ารถฉันเสียหายจะทำยังไง ลงมาคุยกันให้รู้เรื่องเลยนะ”

     

                ลูฮานปลดล็อคประตูก่อนจะเปิดประตูรถลงไป เพราะรถคันหน้าเบรกกะทันหันทำให้รถของเขาไปชนท้ายรถคันหน้าเข้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วนี่เจ้าของรถคันหน้ายังจะมาโวยวายอีก “ผมขอโทษนะครับ แต่คุณเบรกรถกะทันหัน ผมเลยชน”

     

                “นี่จะโทษว่าเป็นความผิดฉะ อ้าว นายเองเหรอฮุน”หญิงสาวโวยวายก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วเรียกเขาว่าเซฮุน

     

                “เอ่อ ผมไม่ใช่เซฮุนครับ”

     

                “บ้าน่า อย่ามาโกหกเลย”เธอพูดแล้วยิ้มบางๆ “ถ้าเป็นนายไม่เป็นไรก็ได้ เดี๋ยวยัยจียอนจะมาโวยวายฉันเอา”

     

                “???”

     

                “ทำไมฉันว่านายดูแปลกๆไปนะ”เธอพูดแล้วมองลูฮานอย่างสำรวจ “อย่างกับคนละคน”

     

                “ผมไม่ใช่เซฮุนครับ ผมเสี่ยวลูฮาน พี่ชายฝาแฝดของเซฮุน”

     

                “พี่ชายฝาแฝด!!!

     

                “ครับ”

     

                “เซฮุนมีแฝดด้วยเหรอ นี่ฉันไปญี่ปุ่นมาแค่ 2 อาทิตย์พลาดเรื่องนี้ไปได้ไงกันนะ”

     

                “..เอ่อ นี่นามบัตรผมครับ สรุปค่าเสียหายแล้วก็ติดต่อผมได้เลย ผมรับผิดชอบเอง”

     

                “เสี่ยวลูฮาน เสี่ยวลูฮาน ไม่ใช่เซฮุน”เธอพูดแบบนั้นซ้ำๆก่อนจะมองหน้าเขาอีกครั้ง “งั้นฉันก็ชอบคุณได้น่ะสิ”

     

                “ครับ?”

     

                “อย่างนี้ยัยจียอนก็ไม่ว่าฉันแล้วสินะ”

     

                “..???”

     

                “ฉันฮโยมินค่ะ เราคงได้เจอกันอีกบ่อยๆ เรื่องรถฉันไม่เอาผิดคุณหรอกค่ะ ส่วนนามบัตรนี่ ฉันขอเก็บไว้แล้วกันนะคะ ไปแล้วค่ะ >////<

     

                ลูอานมองหญิงสาวอย่างงงๆเมื่อเธอวิ่งกลับไปที่รถของตัวเองแล้วออกตัวรถไป “อะไรของเขานะ - -?”

                



     

    100%




    ยังคงเป็นคำถามว่าตกลงคู่ไหนกันแน่

    ฮ่าๆๆๆๆ เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน =[ ]=

    ลุ้นกันเองดีกว่านะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×