คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : FYIW : : CHAPTER 1
CHAPTER 1
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันหรูจอดเทียบที่หน้าทางเข้าของคลับชื่อดัง
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวยามราตรีระดับเกรดเอ
ถ้าหากคุณไม่มีหนึ่งในคุณสมบัติสองข้อนี้
ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าเข้าไปเลยเชียว
กฎของการเข้าคลับแห่งนี้มีอยู่แค่นั้น
แค่สองข้อ
หน้าตาดี(มาก) หรือ ฐานะดี(มาก)
หากว่าคุณมีทั้งสองอย่าง
คุณจะจัดให้อยู่ในระดับวีวีไอพีทันที และวีวีไอพีหนึ่งในไม่กี่คนก็คือเธอ
เจสสิก้า
จอง ลูกสาวคนเดียวของผู้มีอิทธิพลในย่านคังนัม และเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ คนขับรถที่อยู่ในชุดสูทสีดำ
และรูปร่างหน้าตาดีอย่างกับเป็นนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสารกุลีกุจอมาเปิดประตูให้เธอลง
เจสสิก้าเดินลงจากรถอย่างสง่าผ่าเผย
ปรายตามองไปรอบๆพรมแดงถูกปูทอดยาวมาทางเธอ
เป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกเจ้าของคลับ ซึ่งแน่นอนล่ะ ผู้จัดการต้องออกมาต้อนรับเพื่อหวังจะได้หน้าแน่นอน
“สวัสดีครับคุณหนู
ผมจองห้องไว้ให้คุณหนูแล้วครับ ทำความสะอาดใหม่ทั้งร้านพอรู้ว่าคุณหนูจะมา”
คิ้วสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับระบายรอยยิ้มแบบไม่มากเกินไป
“งั้นเหรอ”
ผู้จัดการยิ้มแป้น
รอรับคำชม หรือไม่ก็ทิปหนักๆสักหน่อย แต่..
“เวอร์ชะมัด”พูดจบเจสสิก้าก็หันไปมองผู้ติดตามของเธอ
“ไล่ออกแล้วหาผู้จัดการใหม่ด้วย”
“คะ
คุณหนู”
“ฉันเกลียดที่สุดคือพวกประจบสอพลอ”พูดจบก็เดินเข้าไปข้างในโดยไม่ลืมที่จะหันมากำชับ
“จัดการให้เรียบร้อย อย่าให้ฉันเห็นหน้าปลวกๆของนายคนนี้อีก”
“ครับคุณหนู”
ผู้ติดตาม
หรือที่เรียกกันว่าเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวอย่าง เสี่ยวลู่หาน รับคำ
แล้วมองผู้จัดการคลับที่ตอนนี้ลงไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ก็ตามนั้นนะครับ
ทางที่ดี คุณไม่ควรมาอยู่ในย่านนี้อีกเลย เพราะดูท่าทาง
คุณจะทำให้คุณหนูเกลียดเข้าแล้วล่ะ”
หลังจัดการเรื่องที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ร่างสูงก็เดินเข้าไปข้างในคลับ ไม่ได้ขึ้นไปบนชั้นสองซึ่งเป็นห้องวีไอพี
เพราะเขารู้ดีว่าควรยืนอยู่ตรงไหน
ที่คลับแห่งนี้คนเยอะเหมือนทุกวัน
ลู่หานมีโอกาสได้มาที่นี่อยู่บ่อยๆ เพราะเขาเป็นคนที่ท่านประธานไว้ใจที่สุด
เลยได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องสำคัญในหลายๆเรื่อง รวมไปถึงกิจการที่นี่ด้วย
“อ๊ะ
ขอโทษค่ะ”
เพราะคนที่เบียดกันจนแทบไม่เกลือที่ว่าง
พนักงานเสิร์ฟเลยทรงตัวไม่อยู่แล้วเซมาชนเขา ลู่หานกลอกตาอย่างเซ็งๆ
จับไหล่ที่ดูบอบบางทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วดันให้ออกจากตัว
เขาไม่ชอบที่ที่คนเยอะก็เพราะแบบนี้
“ขอโทษจริงๆนะคะคุณลูกค้า
ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ”
“ช่าง..”
ไม่รอฟังเขาพูดอะไรทั้งนั้น
พนักงานเสิร์ฟเดินผ่านเขาไปและไม่ได้หันกลับมาสนใจกันอีกเลย
และมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมองตามเธอไป
“ขอโทษที่มาช้านะคะ
เครื่องดื่มมาแล้วค่า”
ถึงเสียงเพลงจะดังสักแค่ไหน
แต่เขายืนอยู่ห่างเธอตั้งเยอะ ยังได้ยินเสียงเธออย่างชัดเจนเลย
ลู่หานถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ละสายตาจากเธอแล้วหันมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
แต่สายตามันกลับไม่ทำตามที่สมองสั่งเลย
เขาเอาแต่มองเธอ มองตามเธอไปทุกที่ และที่สำคัญ..
รอยยิ้มบนใบหน้ามันผุดขึ้นมาได้ยังไง
“ซอฮยอน
เอาอันนี้ไปเสิร์ฟบนห้องวีไอพีด้วย”
“ได้ค่า”
“แล้วระหว่างทางก็เอาอันนี้ไปเสิร์ฟตรงโต๊ะสิบเจ็ดด้วยนะ”
“ค่า”
“อันนี้ด้วย”
“อันนี้ด้วย”
ซอจูฮยอน
พนักงานเสิร์ฟคนใหม่ของคลับหันซ้ายหันขวารับของที่ส่งมาทางเธอทั่วสารทิศ จนที่สุด
ทุกอย่างก็มาอยู่ที่เธอทั้งหมด ทำเอาเธอเกือบหมดแรง
แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเหล้าพวกนี้ราคาแพงกว่าเงินเดือนเธอทั้งเดือนซะอีก มันก็เลยฮึดขึ้นมา
เลยเดินอย่างทุลักทุเลเพื่อเอาของไปเสิร์ฟให้กับลูกค้า
“อ๊ะ”
ทว่าถาดที่มือซ้ายของเธอถืออยู่ถูกแย่งไป
ซอฮยอนหันไปมองอย่างตกใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ตกใจหมดเลย พี่ชานยอล”
“เอาไปโต๊ะไหน”
“อ่า
อันนั้น สิบเจ็ด กับสิบห้าค่ะ”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร
แต่ถือถาดไปที่โต๊ะ ซอฮยอนยิ้มบางๆแล้วถือถาดของห้องวีไอพีไว้ให้แน่นที่สุด
ผู้ชายคนนั้นคือ
ปาร์คชานยอล ผู้แสนใจดี เขากับเธอรู้จักกันมานาน ชานยอลมาที่คลับนี้บ่อยๆ
และเป็นคนฝากเธอเข้าทำงานที่นี่ด้วย ถึงตอนแรกเขาจะคัดค้านก็เถอะ
แต่เธอยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าไม่ให้ทำที่นี่ก็จะไปหาทำที่อื่น นั่นแหละ เขาถึงยอม
เพราะเธออายุแค่
18 เป็นนักเรียนมอปลาย
แน่นอนล่ะ แค่เข้ามาในคลับก็ผิดกฎหมายแล้ว
ร่างบางเดินไปทางบันไดเพื่อจะเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ห้องวีไอพี
แต่ก่อนจะได้ขึ้นไป ผู้ชายที่อยู่ในชุดสูทสองคนก็ก้าวมาขวางหน้าเธอเสียก่อน
“เอ่อ..”
ซอฮยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ
เมื่อมือหนาของผู้ชายที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนด้วยซ้ำจับตามตัวของเธอ
เพราะไม่ได้เคยชินกับการถูกเนื้อต้องตัว เลยถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ
“จะ
จะทำอะไรเหรอคะ”
“มีพิรุธนะเธอน่ะ”
“ไปกับเราหน่อยสิ”
พูดจบหนึ่งในนั้นก็เอาถาดที่เธอถือมาไปวางไว้บนโต๊ะแถวๆนั้นก่อนที่อีกคนจะลากเธอออกมา
“ปะ
ปล่อยนะคะ ฉันต้องทำงาน”โวยวายก็ไม่มีท่าทีว่าผู้ชายคนนี้จะปล่อยมือเธอเลย
ซอฮยอนเลยเริ่มหันไปมองรอบๆ “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
ต่อให้เสียงดังกว่านี้อีกสักสิบเท่า คนที่นี่ก็ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด ซอฮยอนพยายามดิ้นหนี และออกแรงเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงของผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าเธอได้เลย
“ช่วยด้วยค่ะ
ช่วยด้วย!!”
“ร้องไปก็เหนื่อยเปล่าน่า
ไปกับเราซะดีๆ แล้วจะปล่อยให้กลับมาทำงาน ขอเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเอง”
“ไม่ค่ะ
ปล่อยนะ ปล่อยฉัน!!!”
“ถ้าผู้หญิงเขาขอร้องให้ปล่อย
ก็น่าจะปล่อยสิ”
ทุกๆคนหยุดการกระทำทันทีที่มีเสียงของบุคคลที่สี่ดังแทรกเข้ามา
ตอนนี้ซอฮยอนถูกลากมาถึงหลังร้านแล้ว รอบตัวทั้งมืด ทั้งเงียบ
มันน่ากลัวจนเธอแทบอยากจะร้องไห้ออกมา
“แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย”
ซอฮยอนพยายามบิดมือเพื่อให้รอดจากการจับ
ตาก็มองไปยังผู้ชายที่เป็นดั่งฮีโร่ของเธออย่างขอความช่วยเหลือ
ผู้ชายคนนั้นตัวเล็กกว่าสองคนนี้ตั้งเยอะ เขาดูอ่อนแอจะตาย แต่เขากลับเข้ามาช่วยเหลือเธออย่างกล้าหาญ
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ
ถ้าคนที่มึงกำลังจับอยู่ ไม่ใช่คนที่กำลังจะเอาเครื่องดื่มไปให้คุณหนู”
“แล้วไง
คนอื่นก็เอาขึ้นไปได้”
“งั้นเหรอ”ลู่หานยิ้มมุมปาก
ก่อนจะยักไหล่ “แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากว่าคุณหนูต้องรอนาน”
“ก็ไม่ใช่ความผิดของพวกกูสักหน่อย”คนที่จับมือซอฮยอนอยู่พูดแล้วผลักหัวซอฮยอนจนเซ
“ความผิดนังนี่ต่างหากล่ะโว้ย”
“หึ!”ลู่หานหัวเราะในลำคอ
ก่อนที่แววตานิ่งเฉยนั่นจะวาวโรจน์อย่างน่ากลัวขึ้นมา “อุตส่าห์ให้เวลาคิดแล้ว
แต่ก็คิดไม่ได้งั้นสินะ”
“พล่ามอะไรของมึง
คิดว่าเป็นคนโปรดของคุณหนูแล้วกูจะกลัวมึงเหรอ”
“งั้นก็ลองดู”
จบคำ
ร่างหนาก็พุ่งเข้าใส่ลู่หานแต่เขาพลิกตัวหลบแล้วถีบอีกฝ่ายจนล้มหน้าคะมำ
ก่อนจะหันมารับหมัดที่ถูกเหวี่ยงมาจากอีกคนนึงได้ทัน มือของลู่หานเล็กกว่าอีกฝ่ายเท่าตัว
แต่แรงบีบกลับเยอะจนคนที่ตัวใหญ่กว่าหน้าเหยเก
เห็นแบบนั้นขายาวๆเลยวาดเตะไปที่ขาอ่อนจนล้มทรุดลงไป
“ไม่ได้ขอให้กลัวเลย
แต่ถ้ายังสู้ไม่ได้ ก็อย่ามาทำปากเก่ง”
“มึง..”
“แล้วก็ลองคิดดูแล้วกัน
ระหว่างกูกับพวกมึง คุณหนูเขาจะเชื่อคำพูดใคร”
เจอคำขู่แบบนั้นเข้าไป
ทั้งสองที่รู้ผลล่วงหน้าแล้วว่ายังไงก็แพ้แน่ๆเลยได้แต่ชี้หน้าลู่หานแล้วพากันหนีไป
ซอฮยอนยืนมองภาพตรงหน้าด้วยตัวที่สั่นเทา
เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอมัน จากความกลัว
เปลี่ยนเป็นความโล่งอกเมื่อมีคนมาช่วย แต่แล้วความกลัวมันก็กลับมาอีกแล้ว
เมื่อคนที่มาช่วยเดินดุ่มๆเข้ามาหาทำหน้าเหมือนจะฆ่าเธอซะอย่างงั้น
“ยะ
อย่าทำอะไรฉัน”
สาบานได้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจพูดออกไปแบบนั้น
แต่ความกลัวและอยากป้องกันตัวเองมันสั่งให้ปากพูดไปเอง
“ฉันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง”อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ก่อนจะก้มมองหน้าเธอ “อายุเท่าไหร่”
“คะ
คะ”ซอฮยอนตะกุกตะกัก แต่เมื่อเจอสายตาคาดคั้น เธอก็เลยตอบไปตามความจริง “สะ สิบแปด”
“ฉันไล่เธอออก”
“ว่าไงนะคะ!!!”
“อายุเธอยังไม่ถึงนี่”
“แต่ว่าฉัน..”
“ไม่เห็นหรือไง
ว่างานนี้มันไม่เหมาะกับเธอ”เขาพูดแทรกขึ้นมาแล้วชี้หน้าเธอ “อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอกลับมาทำงานที่นี่อีก”
“ทะ ทำไมล่ะคะ”ตอนนี้บอกความรู้สึกของเธอไม่ถูก ซอฮยอนทั้งงง สับสน และโกรธ
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร
มีสิทธิอะไรมาบอกให้เธอออกจากงานกัน
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร แต่หันเดินกลับเข้าไปข้างใน แล้วพึมพำเบาๆ
“เพราะฉันไม่อยากต้องมาเฝ้าเธอที่นี่ทุกวันน่ะสิ”
ลู่หานนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ
แม้จะนั่งอยู่นิ่งๆ แต่มีไม่กี่คนหรอกที่มองออกว่าเขากำลังอึดอัดอยู่
และหนึ่งในไม่กี่คนนั้นก็คือเจสสิก้าซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง
และอยู่กับลู่หานมาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา
เธออายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี
เป็นคนที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาก็จะอยู่ข้างๆเธอไม่เคยห่าง
เป็นเหมือนเงาตามตัวของเธอ และวันนี้ก็เช่นกัน วันเปิดเทอมวันแรก เขาก็ยังต้องมา
ทั้งที่เธอเรียนมาก็ตั้งหลายปี ไม่เคยต้องมีบอดี้การ์ดตามมาคุมแบบนี้
นั่นเป็นเพราะพ่อของเธอกำลังเริ่มธุรกิจใหม่
ในฐานะลูกสาวคนเดียวเลยตกอยู่ในอันตราย เพราะงั้น..
“ไปเรียนกับคุณหนูซะ
แล้วก็ช่วยดูแลคุณหนูด้วย”
“แต่ประธานครับ
ผม..”
“แกเองก็ยังเรียนไม่จบไม่ใช่หรือไง
เรียนอยู่ที่บ้านมันจะไม่ได้เรื่องอะไรล่ะลู่หาน”
“...”
“ไปเรียนที่เดียวกับคุณหนูซะ
ฉันจัดการให้แล้ว เพราะงั้นก็ทำหน้าที่ของแก แล้วก็เรียนไปด้วย”
เขาคงจะรู้สึกแปลกๆล่ะมั้ง
ไม่เคยเรียนเลย แล้วจู่ๆต้องมาเรียน มาใส่ชุดนักเรียนทั้งที่อายุยี่สิบเข้าไปแล้ว
“ทำตัวตามสบายเถอะน่าลู่หาน”
“ครับคุณหนู”
“ตอบรับแล้วก็ทำด้วย
ไม่ใช่แค่ครับไปส่งๆ เห็นนายอึดอัดแบบนั้นแล้วฉันก็อึดอัดเหมือนกัน”เจสสิก้าพูดเสียงเรียบแล้วหันไปหยิบกระเป๋า
“จอดตรงนี้แหละ ให้เขาลงไปก่อน”
“ครับ?”ลู่หานหันไปมองอย่างแปลกใจ
“ถ้านายเข้าไปพร้อมฉัน
คนเขาก็จะรู้น่ะสิว่านายมากับฉัน ทำตัวตามปกติ
ดีที่สุดคือไม่ต้องให้ใครรู้จะดีกว่า ว่านายเป็นคนของคุณพ่อ แล้วก็ตั้งใจเรียนไป
ไม่ต้องมาพะวงเรื่องของฉัน ใช้ชีวิตแบบเด็กนักเรียนมอปลายน่ะ เข้าใจไหม”
“แต่ผมต้องดูแลคุณหนู”
“ฉันกับนายเรียนกันคนละห้อง
อีกอย่าง ที่โรงเรียนน่ะ พวกฉันเยอะแยะ ไม่มีใครกล้าทำอะไรฉันหรอก”
“แต่..”
“นายก็มีแต่กับฉันเหรอเสี่ยวลู่หาน”
“ไม่ครับ
ขอโทษครับคุณหนู”
เจสสิก้ายิ้มมุมปากแล้วหยิบกระจกมาส่อง
ไม่สนใจอะไรบอดี้การ์ดของเธออีก “ลงไปได้แล้วไป เดี๋ยวก็เข้าเรียนสายพอดี”
“ครับ”
“แล้วก็มั่นใจเข้าไว้ล่ะ
หน้านายน่ะ ยังเด็กมอปลายอยู่เลยนะ”
ลู่หานก้มหัวให้กับเจสสิก้า
แอบยิ้มออกมาบางๆไม่ให้เธอเห็น แล้วเปิดประตูรถ โดยไม่ลืมที่จะหันมากำชับ
“ตั้งเบอร์โทรของผมเป็นเบอร์โทรด่วนนะครับ
ถ้ามีเรื่องอะไรให้โทรมา ไม่ว่าอยู่ไหนผมจะรีบไป”
“รู้แล้วน่า
ไปได้แล้ว”เจสสิก้าไล่อีกครั้งอย่างรำคาญ เมื่อเสียงประตูปิด
ใบหน้าที่แสดงออกมาว่ารำคาญก็เปลี่ยนเป็นอมยิ้ม “นายไม่บอก
เบอร์นายก็เป็นเบอร์โทรด่วนของฉันอยู่แล้วล่ะน่า บ้าเอ๊ย”
รถขับผ่านเขาไป
ลู่หานมองตามแล้วถอนหายใจเบาๆ ก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุกนักเรียนอีกครั้ง
ไม่ว่าจะทำใจให้ชินยังไง มันก็ไม่ชินสักที
เมื่อเช้ากว่าจะกล้าออกมาจากห้องก็ใช้เวลาตั้งนาน
ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้กลับมาเรียนหนังสืออีกเลย นับตั้งแต่ตอนนั้น..
ที่ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป
และคงเปลี่ยนไปตลอดกาล
ร่างสูงเดินเข้าไปในโรงเรียน
มีนักเรียนเริ่มมาโรงเรียนกันแล้ว เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก
ก็เลยมีเสียงพูดคุยจอแจไปหมด ลู่หานมองบรรยากาศรอบๆอย่างแปลกตา
เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสมัน อาจจะเคย แต่มันก็นานมากแล้ว
ใช้เวลาเดินสำรวจอยู่สักพักใหญ่
ลู่หานก็เข้าไปในห้องเรียนซึ่งเป็นห้องของตัวเอง เมื่อเข้ามา
นักเรียนทุกคนในห้องต่างจับจ้องมาที่เขา
ลู่หานเลยยืดตัวตรงแล้วเดินไปนั่งข้างหลังห้องที่ยังไม่มีใครมานั่ง
แล้วหลับตาเพราะไม่อยากมองเห็นอะไรทั้งนั้น เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องซื้อหูฟังมาอีกสักอันสินะ..
“เด็กใหม่เหรอแก ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ”
“ใหม่ไม่ใหม่แต่รู้ว่าหล่อมากว่ะ
โอ๊ย ฉันรักเขาอ่ะแก”
“อย่ามาพูดมั่วย่ะ
นั่นน่ะอนาคตพ่อของลูกฉัน”
หรือไม่ก็..
“หมั่นไส้แม่งว่ะ
ขี้เก๊กชิบหาย”
“เออนั่นดิ
ทำเป็นเข้ม แม่งเอ๊ย หน้าอ่อนๆแบบนั้น ท่าทางจะกระจอก”
ลู่หานถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
อยากจะลุกออกไปจากห้องซะเดี๋ยวนี้ แต่อาจารย์ที่น่าจะเป็นอาจารย์โฮมรูมอะไรนั่นก็เข้ามาซะก่อน
“อ่ะ
นั่งที่กันเงียบๆได้แล้ว นั่นจะไปไหนน่ะ จองยูริม”
“เอ่อ
หนะ หนูจะย้ายไปนั่ง..”
“ไม่ต้องเลย
นั่งอยู่ตรงไหนก็นั่งตรงนั้นไป”อาจารย์ส่งสายตาดุๆมาให้
นักเรียนยูริมเลยเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองอย่างจ๋อยๆ
กะจะย้ายไปนั่งข้างเด็กใหม่ซะหน่อย เฮ้อ
“อย่างที่พวกเธอหลายคนเห็นกันแล้ว วันนี้เปิดเทอมวันแรก
และห้องของเรามีนักเรียนเข้ามาใหม่ นักเรียนใหม่ ออกมาแนะนำตัวกับเพื่อนหน่อยสิ”
ลู่หานมองอาจารย์นิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแต่ไม่ได้เดินออกไป
“ชื่อเสี่ยวลู่หาน”
“...”
ทุกสายตาในห้องต่างมองตรงมาที่เขา
ลู่หานมองไปรอบๆ สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาอีก ก่อนจะพูดด้วยเสียงเนือยๆ “ครับ”
แล้วก็นั่งลงตามเดิมท่ามกลางสายตาอึ้งๆของทุกคนในห้อง
ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ซึ่งเงียบไปสักพักก่อนจะหันมาทำหน้าดุอีกครั้ง
“เอาล่ะๆ
เอาเป็นว่าแบบนั้น เสี่ยวลู่หานเป็นเพื่อนใหม่ของพวกเธอ
มีอะไรก็คอยช่วยเหลือเพื่อนใหม่ด้วย แล้วก็ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเข้าใจนะ”
“ครับ/ค่ะ”
“งั้นอาจารย์จะ..”
“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะอาจารย์!!!”
“เกือบจะสายตั้งแต่วันแรกเลยนะคุณซอ”
“ขอโทษค่ะ”
“ไปๆ
ไปนั่งที่ อาจารย์จะเช็คชื่อแล้ว”
“ค่ะ”
หญิงสาวก้มหัวให้อาจารย์
เอาผมที่ตกมาปรกหน้าทัดหูอย่างเขินๆ เดินไปทางหน้าห้องซึ่งเป็นที่ประจำของเธอ
แต่ที่ตรงนั้นกลับมีคนนั่งแล้ว เพราะมาสายนี่แหละ เลยอดนั่งข้างหน้าเลย
“โห่
รู้งี้ฉันมาสายแบบแกบ้างดีกว่า”
“ฮะ
อะไรนะยูริม”
“แกน่าอิจฉาอ่ะซอ เหลือที่ว่างแค่ที่เดียวแล้วย่ะ”
“อะไรอ่ะ”เมื่อเห็นเธอยังทำท่าทีไม่เข้าใจเสียที
เพื่อนก็เลยชี้ไปทางด้านหลัง
“นู่น
เดินไปนั่งเลยค่า แจ็คพอตดันมาลงที่แกซะงั้น”
ซอฮยอนมองตามไป
ถึงจะยังไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่ร่างบางก็ตรงไปหลังห้อง
ซึ่งเป็นที่ที่เธอไม่เคยคิดอยากจะนั่งเลย เพราะมันทำให้มองกระดานไม่ค่อยเห็น
ริมหน้าต่างมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอเลยนั่งลงข้างๆซึ่งยังเป็นที่ว่าง
เมื่อเธอนั่งลงอาจารย์ก็เริ่มเช็คชื่อ
มือเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อตามหน้าออกเพราะวิ่งมา
ก่อนจะแอบมองคนข้างๆซึ่งเธอไม่คุ้นตาเลย คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนใหม่
“เอ่อ
หวะ หวัดดี”
“...”
ไม่มีเสียงตอบ
คนข้างๆยังฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ ทำเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนมานั่งข้างๆ
เห็นแบบนั้นซอฮยอนเลยไม่สนใจ หยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋าแล้วมองตรงไปยังกระดาน
จนเมื่ออาจารย์เช็คชื่อเสร็จเรียบร้อย อาจารย์ที่มาสอนวิชาแรกก็เข้ามาแทน
ลู่หานที่ได้ยินเสียงอาจารย์ก็เลยเงยหน้าขึ้นช้าๆ
ขอแค่ดูหน้าอาจารย์เท่านั้นแหละ แล้วเขาก็จะลงไปนอนต่อ แต่กลับทำแบบนั้นไม่ได้
เพราะหางตาของเขามันเห็น..
เห็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆเข้าเสียก่อน
มองแค่ไม่ถึงวินาที เขาก็รู้ได้เลย ว่าเป็นเธอ
ซอฮยอนที่กำลังตั้งใจ
รู้สึกว่ากำลังถูกมองอยู่ เลยกระแอมสองสามครั้งก่อนจะหันไปข้างๆ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างมากกว่าเก่า
“นี่คุณ!!!!”
“มีอะไรหรือเปล่าคุณซอ”
ซอฮยอนทำหน้าเลิ่กลั่ก
แล้วหันไปหาอาจารย์ก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ “มะ มะ ไม่มีค่ะอาจารย์”
ไม่จริงน่า
ทำไมเขาถึงกลายเป็นนักเรียนใหม่ซึ่งมานั่งอยู่ข้างๆเธอแบบนี้ได้ล่ะ!!!
เอามาลงเป็นช่วงๆ เพราะยังเคลียร์เรื่องนู้นไม่จบ รออีกหน่อยเน๊อะ
นี่เป็นแค่น้ำจิ้มเล็กๆ พอให้อยากอ่าน หุหุ
ความคิดเห็น