ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The tale of warrior

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 กาลวินาศแห่งเจนไลยาร์ (ช่วงที่ 1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 17
      0
      7 มี.ค. 47

                                                                                           บทที่ 1

                                                                               กาลวินาศแห่งเจนไลยาร์



                                                                                           ช่วงที่ 1



        แสงไฟสีทองทอผ่านหน้าต่างบานแคบ ของหอคอยสูงเทียมฟ้า

        ระเบียงมุกขาวยังงามยิ่ง แม้เปรียบกับดวงจันทร์อันลอยเด่นบนผืนราตรี

        

        หญิงงามผู้หนึ่ง ยืนนิ่ง ณ ระเบียงแห่งนั้น เส้นผมหยักศกสีดำ สลวยดุจใยไหม ยาวเลื้อยคลุมบ่าแคบ

        นัยน์ตาสีฟ้าเจือประกายเศร้าสร้อย ขณะนางเพ่งมองพระจันทร์



        ...พระจันทร์ ซึ่งในคืนนี้ มีสีแดงดุจสีเลือด...



        เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังจากเบื้องหลัง ขณะหญิงสาวคนใช้ผิวคล้ำผู้หนึ่งก้าวเข้ามา ก่อนกล่าวกับผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม

        “พระนางเรวีน เด็กทั้งสองถูกนำตัวออกจากประสาทแล้วเพคะ”



        “...มีนัส...” เรวีน กล่าวเสียงแผ่วเบา “เจ้าเห็นอะไรในพระจันทร์หรือไม่?”



        ชั่วครู่หนึ่ง มีนัสมีสีหน้างงงัน นางเบือนมองพระจันทร์แดงโลหิต ก่อนกลับมามองเรวีนอีกครั้ง

        “เพียงแค่คืนนี้ พระจันทร์มีสีที่น่ากลัวเหลือเกินพระนาง”



        “ใช่ น่ากลัว” หญิงงามขยับกายหันไปยังมีนัส สีหน้าเรียบเฉย และว่างเปล่า ขัดกับดวงตาที่เจือประกายโศกอย่างยิ่ง “มันเป็นลางร้าย บอกถึงกาลเวลาที่ใกล้เข้ามา”

        นางเหลียวมองดวงจันทร์อีกเพียงกาลสั้นๆ ก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องน้อย

        “...กาลเวลาแห่งสงคราม...”



        ชนวนแห่งความขัดแย้งภายในอาณาจักรเจนไลยาร์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเกิดการกบฏในหมู่ประชาชน ผู้ต้องการโค่นล้มระบอบการปกครองแบบเก่า ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ เปรียบเสมือนตระกูลผู้สืบเชื้อสายมาแต่เทพ เป็นผู้ปกครองมีอำนาจเด็ดขาดสูงสุด มิว่าคิดสั่งประหารใครย่อมได้

        ประชาชนไม่ต้องการการปกครองเยี่ยงนี้

        เมื่อเกิดความแตกร้าวในอาณาจักร ความอ่อนแอง่ายต่อการถูกโจมตี ย่อมเกิดขึ้น

        ดังนั้น อาณาจักรใกล้เคียงจึงเริ่มประกาศสงคราม เข้าโจมตีชายแดนของเจนไลยาร์ ซึ่งพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย



        แม้ราชวงศ์จะพยายามแก้ไขความยุ่งยาก เพื่อพร้อมรับสงคราม เพียงไร ก็ไม่ได้ผลเลย

        เจนไลยาร์เริ่มสั่นคลอนแล้ว

        อีกไม่นาน คงถึงการณ์ล่มสลาย ตามคำพยากรณ์ที่ผู้วิเศษท่านหนึ่งได้พยากรณ์ไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน



        พระนางเรวีน เป็นนัดดาของพระมหากษัตริย์ นางยังเป็นเชื้อราชวงศ์เพียงคนเดียว ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เวทมนตร์ของนางเป็นเวทศักดิ์สิทธิ์ หยิบยืมจากพลังของพระผู้เป็นเจ้า

        แต่เวทของนาง นับว่ายังด้อยค่ามาก เกินกว่าจะนำมาใช้ได้อย่างจริงๆ จังๆ เหมือนผู้วิเศษ หรือจอมเวทคนอื่น

        ถึงกระนั้น ...นางยังมีเวทหนึ่ง...



        เวทที่นางเชื่อ ว่าแม้เจนไลยาร์จะพินาศไปแล้ว แต่เวทนี้จะกอบกู้เจนไลยาร์คืนสู่ความรุ่งเรืองดังเดิมได้แน่นอน

        

        ...เพียงเวทนี้ ต้องแลกมาด้วยชีวิตหนึ่ง

        เพื่อเวทนี้ จะได้สิงสู่ยังอีกชีวิต...



        “เด็กสองคนนั้น ออกไปจากปราสาทแล้วใช่ไหม?”

        เรวีนถามมีนัส ขณะนางเปลี่ยนอาภรณ์จากชุดสีม่วงกรอมเท้า เป็นชุดสีขาวพิสุทธิ์



        “เพคะ เพียงแต่พระนาง... พระนางแน่ใจแล้วหรือ? ไม่มีทางอื่นอีกแล้วหรือเพคะ?”

        

        “ข้าแน่ใจในการตัดสินครั้งนี้ของข้า มีนัส เจ้าเองก็เชื่อข้ามาโดยตลอด ครั้งนี้ ก็ขอให้เจ้าเชื่อต่อไป”



        มีนัสก้มหน้าลง ไหล่เริ่มสั่นเทา



        “มีนัส เมื่อข้าตายแล้ว เจ้าจงดูแลเด็กทั้งสองเอาไว้ให้ดี พวกเขาจะมีความหมายมากต่อการฟื้นคืนของเจนไลยาร์ เมื่อถึงเวลานั้น” เนตรงามหลุบลง ขณะมือเรียวบางเกล้าเส้นผมนุ่มสลวยขึ้น “ครั้งสุดท้ายแล้ว เชื่อมั่นในตัวข้าเถิด ทั้งเจ้า ทั้งชายผู้นั้น...”



        กาลเวลาผ่านพ้นไป เร่งมหาอาณาจักรเข้าสู่สงครามเข้าทุกที

        กองกบฏหันไปสวามิภักดิ์ แก่อาณาจักรเคลมิเรสแล้ว พร้อมนำความลับมากมายเกี่ยวกับช่องทางในอาณาจักรไปด้วย



        เหล่าขุนนางผู้ซื่อสัตย์ อ้อนวอนระคนเร่งเร้า ให้กษัตริย์ทรงหลบหนีจากมหาภัยครั้งนี้

        แต่พระองค์หาทรงยอมไม่



        “หากข้าหนีไปแล้วล่ะก็ เท่ากับข้าทรยศประชาชนที่ยังศรัทธาในตัวข้าด้วย”

        คำพูดสุดท้ายของพระองค์ ก่อนเข้าสู่สมรภูมิ



        พระนางเรวีน ไม่ได้อยู่เคียงข้างพระมหากษัตริย์ ในฐานะพระนัดดา

        แต่นางกลับเร่งทำพิธีในลานศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีบ่อน้ำพยากรณ์อยู่ใจกลาง รายล้อมด้วยเสาหินสูงใหญ่

        เหล่าผู้วิเศษทั้งสิบสองคน เปรียบเสมือนตัวแทนจากจักรราศี ประกอบพิธีพร้อมนางด้วย



        ท้องฟ้ามืดครึ้ม พร้อมสายฝนโปรยปรายลงมา สายฝนอันเป็นผลพวงจากการประกอบพิธี ชะล้างมลทินจนหมดจด

        แต่สงครามยังคงดำเนินต่อไป

        

        พลันแสงสว่างวาบเจิดจ้าปรากฏวูบหนึ่ง พร้อมพิธีที่สิ้นสุดลง

        พระนางเรวีนสิ้นชีพลงในพิธี พร้อมพลังศักดิ์สิทธิ์อันไหลเวียนเข้าสู่อีกสองชีวิต



        ...อีกสองชีวิตที่ห่างไกลออกไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×