ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF KHR] 0027 Home Sweet Home ✿ { Tsuna x Enma }

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Excursion ♥ , part 1/2 { 0027 & 8059 (?) }

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.95K
      11
      15 เม.ย. 55

    Excursion 1/2

    Photobucket






    เกลียวคลื่นสาดซัดเข้าฝั่งเป็นระลอก ฟองสีขาวขุ่นของน้ำทะเลที่ยังเกาะติดกับผืนทรายเนียนละเอียดถูกร่างบางเดินย่ำไปมาเบาๆ ก่อนที่ดวงหน้ามนจะแหงนมองผืนนภาสีครามสดใสซึ่งถูกประดับประดาไปด้วยหมู่เมฆลอยละล่องอยู่เป็นหย่อมๆ  แสงอาทิตย์ยามบ่ายคล้อยส่องกระทบกับผืนน้ำตรงหน้าเป็นประกายระยิบระยับชวนมอง

    เพราะว่าการต่อสู้ต่างๆสิ้นสุดลงแล้ว ทั้งตัวเขาและเพื่อนๆถึงได้มาทัศนศึกษากันอย่างสบายใจ

     

    และแล้วในหัวก็นึกย้อนไปถึงการต่อสู้ในครั้งนั้น ...ถึงแม้จะผ่านมานานหลายเดือน แต่ทุกสิ่งอย่าง ทุกภาพยังจดจำฝังลึกในมโนนึก ...

    การต่อสู้เพราะความเข้าใจผิดของพวกชิม่อนลงเอยอย่างที่ไม่มีฝ่ายใดต้องสูญเสีย ถึงแม้จะทำให้หลายคนต้องพักรักษาตัวอยู่หลายสัปดาห์ แต่ทุกอย่างก็ถือว่าจบลงด้วยดี

    สึนะระบายยิ้มบางออกมา จากนี้ไปเรื่องวุ่นวายทั้งหมดคงจะจบลงแค่ตรงนี้ ...ถ้ารีบอร์นไม่ขยันหาเรื่องมาให้อีกน่ะนะ ..

     

    หากแต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ... เรื่องบางเรื่อง  ความรู้สึกบางอย่างที่ตนไม่สามารถทำความเข้าใจกับมันได้ ...

     

    ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่รู้หรอกว่าระยะหลังๆมานี้ ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มและดวงตาที่อบอุ่นคู่นั้น ทำไมถึงไม่กล้าสบตา ทำไมหัวใจถึงเต้นแรง และทำไม ...ถึงต้องเป็นนาย ...

    ... เอ็นมะ ?

     

    .

    .

     

     

     

    “ส ....สึนะคุง ...”

    “......”

    “สึนะคุง ..!

    “ห ...หา ??!” 

    เวลาบ่ายแก่ๆในระหว่างคาบเรียนที่แสนจะน่าเบื่อช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะแก่การเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นั่งนับก้อนเมฆ ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราช้าๆ ...


    สึนะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำมันประจำ แต่คราวนี้กลับมีเสียงทุ้มของคนที่นั่งข้างๆกระซิบปลุก

     

    “อาจารย์เขาให้นายตอบคำถา...”

    “ซาวาดะ !  ตอบคำถามข้อนี้ !”  ไม่ทันที่เอ็นมะจะได้อธิบายเหตุการณ์ให้คนที่กำลังงัวเงียฟัง อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนก็ตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้ไปยังโจทย์ปัญหาที่แสนซับซ้อนบนกระดานดำ

     

    มาถึงจุดนี้ ซาวาดะ สึนะโยชิ ถึงได้สำเหนียกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ซวยขั้นสุดยอด

     


     

    ร่างบางทำสายตาเลิกลักเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา กวาดสายตามองหาตัวช่วยรอบๆห้องหากแต่โชคร้ายหนักเข้าไปอีกที่วันนี้โกคุเดระหยุดเรียนเพราะไปทำธุระกับเบียงกี้ ส่วนยามาโมโตะที่พึ่งได้เสมอแม้ในยามยากแต่ยกเว้นวิชาคณิตศาสตร์ก็ส่งยิ้มแห้งๆมาให้ ...จะเหลือก็แต่คู่หูคู่ห่วยอย่างเอ็นมะที่นั่งอยู่ข้างๆ


    “ม ...มันตอบอะไรเหรอ ? แห่ะๆ”  กระซิบถามคนข้างๆซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย เอ็นมะชักสีหน้ากระอักกระอวนขึ้นมาทันที เกรงว่าตัวเองจะทำให้คนที่กำลังขอความช่วยเหลืออยู่นั้นซวยหนักยิ่งกว่าเดิม

    “ค ..คือฉัน...”  ในเมื่อท่าทีของอีกฝ่ายดูขัดเขิน สึนะจึงชะโงกมองดูในสมุดโน้ตของอีกฝ่าย และเป็นไปตามคาด เขาเจอคำตอบที่เอ็นมะเขียนลงบนนั้น

     

    “00.27 ครับ ...” 

    ตอบไปมั่วๆตามที่เห็น และไม่วายโดนอาจารย์แว่นหนาส่งสายตาถมึงทึงมาให้ก่อนจะเทศนายาวเหยียดกับคำตอบที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับความถูกต้องเลยแม้แต่น้อย

    แต่ก็นะ ชักจะชินกับชีวิตแบบนี้ซะแล้ว ...

     

     

    หลังออดพักกลางวันดังขึ้น นักเรียนที่กำลังคร่ำเคร่งกับตำราเรียนต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก สึนะเลื่อนโต๊ะและลากเก้าอี้ของตนให้เข้ามาชิดกับโต๊ะของเอ็นมะที่เจ้าตัวกำลังนั่งหาวหวอดๆอยู่  โดยปกติแล้วมื้อกลางวันของสึนะมักจะมีผู้ร่วมแจมมากกว่านี้ แต่เพราะโกคุเดระที่หยุดเรียน และยามาโมโตะที่ออกไปซ้อมเบสบอลทำให้ต้องนั่งกินมื้อกลางวันอย่างเหงาๆอยู่กับเอ็นมะสองต่อสอง

     

    “เดี๋ยวไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ”  ร่างโปร่งที่นั่งข้างๆลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะรีบเดินออกไป แต่สึนะกลับนึกอะไรบางอย่างออกจึงเรียกตัวเพื่อรั้งไว้

    “อ ..เอ็นมะ ! เดี๋ยวขอยืมแลคเชอร์เมื่อกี้หน่อยได้ไหม ...พอดีว่าหลับอยู่ แห่ะๆ”  หัวเราะร่วนแก้เก้อให้กับอีกฝ่ายที่ยืนพิงขอบประตูห้อง เอ็นมะพยักหน้ารับก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วเดินออกไป

    “เอาสิ อยู่ในกระเป๋าน่ะ”

     

    หลังจากที่เจ้าของอนุญาตแล้ว มือบางก็จัดการรูดซิบกระเป๋าเป้ของเอ็นมะก่อนจะควานหาสมุดแลคเชอร์ที่ว่า ในกระเป๋าของเอ็นมะค่อนข้างรกพอสมควร ในนั้นมีทั้งหนังสือเรียน หนังสือการ์ตูน ขนมกรุบกรอบอีกสองสามห่อ และซองหมากฝรั่งที่เคี้ยวหมดแล้ว

    ด้วยความซุ่มซ่ามของสึนะ ตัวเองเกิดพลาดท่าทำของในเป้ของอีกฝ่ายหล่นพื้นเทกระจาด สารพัดของรุงรังที่ตนเพิ่งจะรื้อค้นกระจายเต็มพื้น สึนะเลือกเก็บหนังสือทีละเล่มจนไปสะดุดเข้ากับสมุดโน้ตเล่มหนึ่ง หน้าปกของมันเป็นสีเทาและถูกเขียนด้วยปากกาเมจิกเป็นอักษรโรมันจิว่า Enma

     

    บางทีนี่อาจจะเป็นบันทึกลับฉบับ โคซาโตะ เอ็นมะ ก็ได้ ใครจะไปรู้ ...

     

     

    มือไวกว่าความคิด สึนะไล่เปิดไปทีละหน้าอย่างรวดเร็ว... ในแต่ละหน้ามีแค่แลคเชอร์ย่อยๆรวมไปถึงการบ้านของแต่ละวิชา จะว่าไป ดูๆแล้วมันก็แค่สมุดจดการบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรอื่นที่น่าสนใจ ...

    หากแต่ก่อนที่จะได้เก็บสมุดเล่มนี้เข้ากระเป๋า สึนะเปิดไปถึงหน้าหลังๆของสมุด มีตัวการ์ตูนที่เอ็นมะวาดเล่นๆในคาบระหว่างที่ฟังอาจารย์แต่ละวิชาสอน มีทั้งรูปล้อเลียนอาจารย์ เพื่อนคนอื่นๆในห้อง รวมถึงตัวสึนะเอง แต่ส่วนมากจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า

    สึนะลอบยิ้มบางๆเมื่อเห็นลายเส้นการ์ตูนรูปตัวเองในอิริยาบถต่างๆกันออกไป มีทั้งตอนที่ทำหน้าห่วย ตอนที่นั่งกินข้าว และตอนที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยข้างใต้ของรูปภาพนั้นมีลายมือหวัดๆของเอ็นมะเขียนวันที่และคำบรรยายกำกับไว้ทุกภาพ

     

    -ชอบที่นายทำหน้าแบบนี้จัง-

    -ไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ?-

     

    หน้าต่อๆมาเป็นภาพที่เขากำลังฟุบหลับในห้องเรียน กำลังคุยอยู่กับโกคุเดระและยามาโมโตะ แม้กระทั่งตอนที่กำลังบิดขี้เกียจ เอ็นมะก็ได้วาดเอาไว้ด้วย

     

    -อยากจะสนิทกันให้มากกว่านี้ รู้สึกว่าสึนะคุงเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ-

    -บางทีเราอาจจะบ้า  ทำไมเวลาอยู่ใกล้สึนะคุงถึงต้องมีอาการแปลกๆทุกที ?-

     

    อ่านมาจนถึงตรงนี้ ลางสังหรณ์ขั้นสุดยอดของสึนะเริ่มบอกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างที่แปลกๆ ถึงเขากับเอ็นมะจะสนิทกันมากแล้วก็ตาม แต่มันจำเป็นมากหรือที่ต้องคอยเขียนบันทึกเรื่องราวของอีกฝ่ายมากมายขนาดนี้ ?

     

    จะว่าไป ...หัวใจของตัวเอง รู้สึกว่ามันสั่นๆยังไงชอบกล ...

     

    หน้าหลังๆนั้นเริ่มเน้นไปทางการเขียนบ่นกับตัวเองมากกว่าวาดการ์ตูนล้อเลียน ...

     

    -16 July กลับบ้านพร้อมสึนะคุง-

    -19 July สึนะคุงเลี้ยงไอติม-

    -23 Julyไปนอนค้างบ้านสึนะคุงกับพวกยามาโมโตะ สนุกมากๆ-

    -24 July ทำไมถึงเผลอไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่องเข้านะ !-

     

    มาจนถึงประโยคนี้ เมื่อเดาจากเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ เอ็นมะอาจจะกำลังทำผิดต่อใครสักคนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากสึนะเอง 

    ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าเอ็นมะทำอะไรลงไป แต่เขาจะต้องหาโอกาสสืบจากเจ้าตัวให้ได้ !

     

    -3 August ระบายกับยามาโมโตะไปแล้ว บอกไปหมดทุกอย่าง สุดท้ายมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ยามาโมโตะเข้าใจทุกอย่างดี เผลอๆจะเข้าใจมากกว่าอาเดลด้วยซ้ำ-

     

    เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ยามาโมโตะรู้ อาจจะง่ายขึ้นถ้าลองถามจากเพื่อนคนนี้ดู

    หน้าถัดๆไปเป็นบันทึกเรื่องราวหลายอย่างไล่เลี่ยกันตามวันที่ และในบรรทัดสุดท้าย ...

    สิ่งๆนี้เองทำให้หัวใจของสึนะกระตุกวูบ มันเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

     

     

    -ฉันคงจะชอบนาย... สึนะคุง-

     

    สึนะรู้สึกว่าตัวเองชาไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่แรงสูบฉีดจากหัวใจจะเพิ่มมาขึ้นเป็นทวีคูณ  เป็นครั้งแรกที่อาการแปลกๆที่ว่านี้เกิดขึ้น แก้มทั้งสองข้างของตนขึ้นสีสุกปลั่งและร้อนผ่าว เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามอุ้งมือ

     

    หากแต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่ากลับอยู่ตรงหน้า

     


    “... สึนะคุง ?!”  เจ้าของสมุดโน้ตยืนตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกับสิ่งที่เห็น ...ความลับที่เพียรพยายามจะรักษามัน สุดท้ายอีกฝ่ายกลับรู้จนหมดเปลือก !

    สึนะถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ได้แต่ครางเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยเสียงแผ่วหลังจากที่หาลิ้นของตัวเองเจอ

    “อ...เอ็นมะ ...นาย ..?”  

     


    .

    .

     

     

    “รุ่นที่สิบคร้าบบบบบบ ~~  และแล้วเสียงของโกคุเดระที่ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้สึนะหลุดจากภวังค์ ร่างบางหันไปตามเสียงเรียกของว่าที่มือขวาของตน โกคุเดระวิ่งหอบมาแต่ไกลพร้อมกับยามาโมโตะที่ตามมาห่างๆ

    “สึนะ เขาเรียกไปรวมที่ห้องประชุมแล้วล่ะ”  ยังไม่ทันที่โกคุเดระจะบอกกำหนดการกับร่างบางตรงหน้า ยามาโมโตะก็ชิงเอ่ยขึ้นก่อน สร้างความหงุดหงิดให้แก่คนที่มาถึงก่อนเป็นอย่างมาก

    “นี่ แกน่ะ ! ไม่ได้บอกให้ตามมาซักหน่อย !” 

    “เอาน่า เอาน่า ...ยังไงฉันก็ตัวติดกับนายตลอดอยู่แล้ว ฮะๆๆ”  เป็นไปตามสเต็ป  โกคุเดระมักจะวีนแตกก่อนเสมอ และตามด้วยยามาโมโตะที่จะเอาแต่หัวเราะและไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดของอีกฝ่ายสักนิด ...ก็เป็นกันแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่เนอะ

     

    “อย่ามาทำตัวว่าแกสนิทกับฉันจะได้มั้ยฮะ เจ้าบ้าเบสบอล !

    “ฮะๆๆๆ”

     



    .

    .


     

    จากการเรียกประชุมนั้นเป็นอันว่า นักเรียนจะได้พักในบ้านซึ่งมี 2 ห้อง อยู่กับรูมเมทอีกคนในห้องซึ่งเป็นใครก็ได้ตามความสมัครใจ แต่ปัญหาคือ ...

    “รุ่นที่สิบคร้าบ คู่ผม แล้วผมจะดูแลรุ่นที่สิบเป็นอย่างดี ให้อาบน้ำก่อน ให้นอนเตียงฝั่งที่ชอบ หรือถ้าอึดอัดเดี๋ยวผมนอนพื้นได้สบายมากครับ !

    “เอ่อ ....”  ถึงกับพูดไม่ออกที่มือขวาของตนเสนอตัวและพรรณาสรรพคุณของโปรโมชั่นที่มากเอาเรื่อง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม บอสอย่างเขาไม่ต้องการมาเป็นภาระใครอยู่แล้ว อีกอย่าง ถ้าโกคุเดระคู่กับเขา ...แล้วยามาโมโตะล่ะ ?

    “ฮะๆ น่าสนุกดีแฮะ ฉันอยากคู่กับโกคุเดระบ้างจัง”  ว่าแล้วบุคคลที่ร่างบางกำลังเป็นห่วงก็พูดขึ้น และแน่นอนว่าจากที่พูดนั้นโกคุเดระหันขวับไปหาอีกฝ่ายด้วยสีหน้าฉุนกึก

    “นี่ ...มือขวาอย่างฉันต้องดูแลรุ่นที่สิบ จะมาคู่กับไอบ้าเบสบอลอย่างแกได้ยังไง ?!

    “เอ่อ เอาน่า ยามาโมโตะคู่กับโกคุเดระคุงไปก็ได้นะ ห่ะๆ”  ท่ามกลางความปั่นป่วนที่กำลังจะก่อตัวขึ้น เสียงแผ่วๆของสึนะทำให้อาการของโกคุเดระเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

    “เอ๋ ? จะดีเหรอครับ รุ่นที่สิบยังไม่มีคู่เล ...”


    “อ้าว ! เอ็นมะ ...ยืนอยู่คนเดียวแบบนี้แสดงว่ายังไม่มีคู่สินะ ฮะๆ”  เสียงของยามาโมโตะตะโกนแทรกขึ้น ร่างสูงเดินเข้าไปลากตัวเอ็นมะที่ยืนโดดเดี่ยวเข้ามาร่วมวง ...และจากเหตุการณ์นี้ สึนะเริ่มจะเห็นเค้ารางของความอึดอัดแล้ว

     

    “รูมเมทกับสึนะมั้ยล่ะ โกคุเดระเขามาคู่กับฉันแล้วน่ะ”  ยิ้มกว้างตามสไตล์ของยามาโมโตะ ท่าทางยิ้มแย้มทำเป็นทองไม่รู้ร้อนแบบนั้นทำให้โกคุเดระอดจะบ่นพึมพัมกับตัวเองไม่ได้

    “ได้ข่าวว่าแกเองไม่ใช่เรอะที่ยัดเยียดเนี่ย ฮะ ?!

     



     

    สุดท้ายก็เป็นไปตามลางสังหรณ์ของสึนะ ...เขาได้คู่กับเอ็นมะจริงๆ  ทั้งสี่คนต่างแยกย้ายกันขนสัมภาระส่วนตัวจากรถทัวร์มายังบ้านพัก จัดแจงข้าวของเครื่องใช้ไว้ในที่ที่สมควร

     

    ห้องฝั่งซ้ายเป็นห้องของยามาโมโตะกับโกคุเดระซึ่งทั้งคู่ได้เดินเข้าไปแล้วก่อนหน้านี้ ทิ้งเขากับเอ็นมะไว้กับบรรยากาศอึดอัดแปลกๆนี้ ...

     

    เพราะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สึนะพยายามหลบหน้าอีกฝ่ายมาตลอด พยายามหลีกเลี่ยงการสนทนาหากไม่จำเป็น ...ไม่ใช่เพราะรู้สึกรังเกียจอีกฝ่ายแต่อย่างใด หากเพราะกลัวใจตัวเองขึ้นมาดื้อๆเสียมากกว่า ...

    ยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนั้น ไออาการของโรคหัวใจก็กำเริบมาก่อนแล้ว และยิ่งมาเจอเหตุการณ์ชวนหวั่นไหวแบบนี้ ใครมันจะไปกล้าคุยด้วยกันเล่า ?!

    ก็แค่ทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ด้วยกัน... มันก็เท่านั้นเอง

     

     

    “อ่า ...สึนะคุง ... ?”  เสียงทุ้มของอีกฝ่ายที่เอ่ยขึ้นทำให้สึนะถึงกับสะดุ้งโหยง ไอความรู้สึกอึดอัดที่บีบรัดนี่มันคืออะไร มาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้

    “ห ...หือ ?”  ขานตอบด้วยสีหน้าหวั่นๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลโอ๊ควูบไหวไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

    “เป็นอะไรรึเปล่า ...ฉันเรียกนายสามครั้งแล้ว”  รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเอ็นมะ มันเป็นรอยยิ้มที่เหมือนเดิมทุกประการ แต่ความอบอุ่นที่เคยมีอยู่ในแววตานั้นหายไปเสียดื้อๆ เหลือเพียงนัยน์ตาสีทับทิมที่ฉายแววเศร้าหมอง

    “อ๋า เปล่าหรอก แห่ะๆ”

     

    “........”

    “........”

     

    การหาเรื่องมาคุยโต้ตอบกันว่าอึดอัดแล้ว แต่การเงียบโดยไม่พูดอะไรกลับอึดอัดยิ่งกว่า ...นับว่านี่อาจจะเป็นโอกาสแรกและโอกาสเดียวที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันเพียงหลังพังหลังจากที่ร่างบางเอาแต่หลบหน้าตลอด

    แต่ท้ายที่สุดแล้ว สึนะได้เป็นฝ่ายพูดก่อน

     

    “ทำไมเหรอ ...?”  ถามขึ้นในขณะที่ก้มหน้า มือบางแสร้งทำเป็นหยิบฉวยสัมภาระในกระเป๋าตัวเองเพื่อจัดให้เข้าที่

    “นายอยากนอนเตียงไหน สึนะคุง”  ถ้าเป็นแต่ก่อนคงพูดขำๆไปแล้วว่า เตียงเดียวกับนาย  แต่ในสถานการณ์แบบนี้คงไม่ใช่  สึนะส่ายศีรษะเบาๆเพื่อไล่ความคิดบ้าๆนี้ออกไป นิ้วเรียวชี้ไปที่เตียงฝั่งริมหน้าต่างอย่างมั่วๆ แค่ชี้ให้มันจบๆไป ลำพังก็อยากจะเดินออกไปจากห้องเพื่อหลีกหนีความอึดอัดนี้เต็มที ถ้าไม่ติดที่กลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจเป็นอื่นไปน่ะนะ ...

    และทันทีที่ร่างบางนั่งลงบนเตียง ร่างสูงโปร่งก็ขยับกายลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงของอีกฝ่าย จับจองพื้นที่กว่าครึ่งเตียงเป็นของตัวเอง

    “ทำอะไรของนายเนี่ย ?!” เสียงหวานแหวขึ้นทันทีเมื่ออีกฝ่ายกลิ้งตัวมาใกล้ๆและเอาศีรษะหนุนลงบนตักของตน นัยน์ตาสีโอ๊คเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนกับแปลกใจ เจ้าของใบหน้าคมคายซึ่งนอนหนุนบนหมอนจำเป็นหลับตาพริ้มลงช้าๆ หัวเราะหึในลำคอก่อนที่ริมฝีปากจะขยับยิ้มจางๆออกมา

    “กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วสินะ”

    “เอ๋ ?”  อุทานออกมาด้วยความสงสัย ...อะไรที่ว่าเหมือนเดิม ?

     

    “นายน่ะ เย็นชากับฉันจังเลย ...”  พูดในขณะที่ยังหลับตาอยู่ สึนะเหล่ตามองเสี้ยวหน้าคมของอีกฝ่าย แพขนตาเรียงตัวเป็นระเบียบยามที่เจ้าตัวหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบางเฉียบซึ่งข้างแก้มนั้นมีพลาสเตอร์เล็กๆแปะอยู่

     

    ก็เห็นแปะมันทั้งปีทั้งชาติ ซุ่มซ่ามไม่มีใครเกินจริงๆสินะ โคซาโตะ เอ็นมะ

     


     

    “พ ...พูดเรื่องอะไรของนาย ?!”  เสียงหวานโพล่งออกมาทันทีที่ได้สติ  “แล้วก็ช่วยเอาหัวออกไปจะได้มั้ยเล่า หนักนะ”

    มือบางทั้งสองข้างกุมศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีแดงเพลิง พยายามดันหัวกลมๆของอีกฝ่ายออกไป หากแต่ไม่ได้ผล จึงลุกขึ้นยืนทันทีและเป็นไปตามคาด เอ็นมะที่เกือบจะตกเตียงอุทานและลืมตาขึ้นอย่างตกใจ

    ร่างบางส่ายหัวหน่ายๆให้อีกฝ่ายก่อนจะก้าวเดินออกมา หากแต่กลับรู้สึกถึงแรงกระตุกที่ข้อมือ เอ็นมะกำลังดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้ ... ท่าทางอ้อนๆนี้เองทำให้ร่างบางหรี่ตาลง เบ้ปากอย่างนึกขันปนหมั่นไส้ พยายามออกแรงดึงแขนของตัวเองหนี แต่มือปลาหมึกของร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงทำให้สึนะหนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น

    “จะออกไปหาโกคุเดระกับยามาโมโตะ ปล่อยก่อนซี่”  ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะปฏิเสธเช่นไรก็คงจะไม่เป็นผล เอ็นมะลุกขึ้นคว้าเอวบางเอาไว้ได้ ก่อนจะใช้นิ้วจี้ที่เอวของอีกฝ่ายซึ่งบ้าจี้เป็นทุนเดิม สึนะเด้งตัวหลบไปมาอย่างน่าขัน สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนแกล้งได้เป็นอย่างดี

    “น ...นี่ ! เหวออ ไม่ ! พอน่า โอ๊ย ! มันจั๊กจี้นะ !

    “ฮ่าๆๆๆ”  หัวเราะร่วนให้กับสึนะที่เอาแต่ดิ้น ร่างสูงลุกขึ้นยืนและคว้าเอวบางมาไว้ในอ้อมกอดอย่างนึกเอ็นดู ไม่ได้คิดจะล่วงเกิน ไม่ได้คิดเป็นอื่นจริงๆ เพียงแค่รู้สึกหมั่นเขี้ยวก็เท่านั้น

    เอ็นมะมุดใบหน้าลงบนเรือนผมของอีกฝ่ายก่อนจะเอาคางวางไว้บนไหล่บาง กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แล้วพลันข้างแก้มก็ชักสีระเรื่อ หัวใจเต้นแรงเมื่อนึกขึ้นได้ นี่เราเผลอเล่นกับสึนะคุงจนกอดกันแบบนี้น่ะเหรอ ?!

    ร่างบางมุ่ยหน้าและขบกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความเกร็ง ขอบคุณสวรรค์ที่เขายืนหันหน้าให้อีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นแล้วคนขี้แกล้งคงได้เห็นใบหน้าสีมะเขือเทศสุกปลั่งของอีกฝ่ายแน่นอน

     




    ปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ สรรพสิ่งต่างๆเงียบงัน จะมีก็แต่เสียงหัวใจที่แข่งกันเต้นระรัวของคนทั้งสองกับเสียงหายใจรวยริน

     

    “อ ..เอ็นมะ ...”  เสียงหวานกระซิบเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออกมาเสียงผะแผ่ว มือบางทาบทับลงบนแขนแกร่งของอีกฝ่าย จับเบาๆเพื่อเตือนให้คลายอ้อมกอดนี้หากแต่ร่างสูงกลับเบียดแผงอกเข้ามาจนชิดกับแผ่นหลังของอีกฝ่าย ใกล้ชิดพอให้ได้รู้สึกถึงก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายซึ่งเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

     

    “สึนะคุง ...”  กระซิบเสียงแหบพร่าข้างๆหูของร่างบาง ลมหายใจรวยรินที่เป่ารดต้นคอทำให้สึนะขนลุกเกรียว ความรู้สึกอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดจากอ้อมกอดนี้เขารับรู้ได้เป็นอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึกๆในใจแล้วตนก็ไม่อยากผละออกไปจากอ้อมกอดนี้สักเท่าไหร่

     

    เอ็นมะโน้มใบหน้าคมคายเข้ามาใกล้จนริมฝีปากชิดกับใบหูของร่างบาง สูดกลิ่นไอหอมหวานของคนตรงหน้าและซึมซัมมันเข้าสู่ทุกอณู เขารู้ว่าหากทำเช่นนี้ร่างบางตรงหน้าอาจจะเปลี่ยนไปเลยตลอดกาลก็ได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็อยากจะบอกสิ่งที่ค้างอยู่ในใจให้อีกฝ่ายรู้จากปากตัวเอง ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้แล้วก็ตาม

     

    “... ฉันชอบนาย ...มากๆ ... คือฉั ...”


    “รู้อยู่แล้วล่ะน่า”

     

    “....?!”  เสียงหวานที่พูดเร็วๆห้วนๆแทรกขึ้นทำให้เอ็นมะชะงักไปชั่วครู่ มือบางดึงอ้อมแขนของอีกฝ่ายออกก่อนจะหันมาเผชิญหน้าตรงๆ

     

    “... คือ ฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไร ไม่รู้ว่านายรู้สึกยังไง แต่เห็นท่าทีของนายแล้วอาจจะเป็นแค่ฉันที่คิดเกินเลยอยู่ฝ่ายเดียว ...”  เสียงทุ้มของเอ็นมะเจือปนความเศร้าสร้อย นัยน์ตาสีทับทิมที่เคยสุกสว่างนั้นหม่นแสงลง  เพียงแค่แว้บแรกที่ร่างบางสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น ความปวดร้าวของอีกฝ่ายก็ถาโถมเข้ามาทันที ...สึนะกำลังเจ็บปวดกับท่าทีของอีกฝ่าย หากแต่สิ่งที่น่าปวดใจกลับเป็นประโยคถัดไปที่ร่างสูงเอื้อนเอ่ย

     

    “แต่ไม่ต้องห่วงหรอก นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะรู้สึกดีๆกับนาย และหลังจากวันนี้ ...เราจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม



    .


    .



    TBC.
    - - - - - - -

    +ทอล์ก
    เวิ่นเล็กน้อย ฮี่ๆๆ ในที่สุดเราก็ได้อัพตอนแรกของบทความนี้ล้าววว เย่ !
    มันเป็นอะไรที่นั่งแต่งมาหลายวันสุดๆ
    ที่ตัดมาสองพาร์ทเพราะว่ามันยาวอ่า (สำหรับเราว่ายาวนะ TT') เลยกลัวคนอ่านจะเบื่อกันซะก่อน ไรเง้
    พาร์ทที่2ยังไม่มีกำหนดการเน่อ เราไม่ค่อยว่างด้วยล่ะจ้า T[]T
    และก็ ... ถึงจะฉับแบบดราม่า แต่เรื่องนี้มันไม่ได้ดราม่าอะไรเลยน้า อย่าเพิ่งเศร้าหรือนอยด์กันไป คริ ♥


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×