ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF 2PM] For a short time : Khun x Dong

    ลำดับตอนที่ #2 : [OS] Heart's Secret {Khun ♥ Dong} ,,

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      2
      15 มี.ค. 54




    author : CloudWorld
    pairing : khunwoo

    Heart's SECRET.
    ----------------------








    ให้เลือก จะเลือกได้ไหม ...
    ระหว่าง ‘เพื่อน’ กับ ‘คนรัก’  อะไรที่เราไม่อยากเสียมันไปมากที่สุด ?


    .

    .

    .



    จิตใจชองชายหนุ่มเหม่อลอย ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในห้วงความคิด สายตาทอดไปยังตำแหน่งเดิมเหมือนทุกครั้งที่สติหลุด 
    ที่มุมห้อง ... ร่างบางกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ


    ถึงแม้บรรยากาศในห้องเรียนช่วงรอยต่อระหว่างคาบจะเป็นไปอย่างอึกทึก นักศึกษาสาวนั่งจับกลุ่มเมาท์เสียงดังโหวกเหวก นักศึกษาชายนั่งอ่านการ์ตูนหรือไม่ก็ดูคลิปโป๊กันตามประสาผู้ชายวัยคะนอง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นิชคุณสนใจสิ่งรอบตัวแต่อย่างใด ตาเรียวยังคงมองไปที่เป้าหมายเดิมอย่างไม่แคร์สรรพสิ่งใด ๆ ในโลก




    ยิ่งมอง ก็ยิ่งอยากมอง ... ยิ่งอยากมอง ก็ยิ่งอยากมองนาน ๆ

    เพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ... ทุกวันนี้ได้แค่มอง



    ... ทำได้เพียงเท่านี้จริง ๆ

    ให้ตายสิ ทำไมถึงละสายตาจากนายไม่ได้ซักทีนะ, อูยอง






    อูยองกำลังนั่งอ่านหนังสือ เปิดพลิกหน้ากระดาษไปหน้าแล้วหน้าเล่า
    ไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนอยู่

    แก้มอูมที่ซับสีเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติทำให้นิชคุณยากจะละสายตาหันไปสนใจสิ่งอื่น ปากอิ่มสีหวานราวกลีบกุหลาบเม้มเบา ๆ อย่างทุกครั้งที่เจ้าของมักชอบทำเวลาเผลอ 

    ยิ่งมองแล้วมันน่า ...



    ... น่ามองต่อจริง ๆ





    เอ๊ะ ... ทำไมเอะอะอะไรกูได้แค่มองวะครับ ? =_=;;




    และมันอาจจะนานพอที่ชายหนุ่มเอาแต่มองอย่างไม่วางตา เขาสะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อเป้าหมายปิดหนังสือและเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาตรง ๆ

    ชิบหาย ... เขารู้แล้วว่ากูมองอยู่อ้ะ !! >O<



    แต่มันคงสายไปเสียแล้วหากจะเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มองอย่างอื่นไปซะ ...
    และอีกครั้งที่เขาอดจะใจหายวาบไม่ได้เพราะร่างบางกำลังส่งยิ้มมาให้เขา  แก้มอูมที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ของอูยองยิ่งบานขึ้นเมื่อเจ้าตัวยกยิ้ม เอียงคอมองนิชคุณเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไร ?’
    นิชคุณส่ายหน้าช้า ๆ แทนคำตอบ  มองภาพตรงหน้าแล้วมันอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม

    อย่า ... อย่ายิ้มแบบนี้ ,  แค่นี้นายยังทำฉันหลงไม่พออีกหรือ ?


    หลง
    สำหรับนิชคุณในที่นี่ไม่ใช่ความหลง หากแต่เป็นหลงรัก ...
    ... จนโงหัวไม่ขึ้น



    วินาทีนี้อยากจะเดินไปหอมแก้มซักฟอดให้หายอยาก แต่มันคงจะเป็นเรื่องน่าแปลกที่เพื่อนเขาทำกัน ยิ่งเพื่อนผู้ชายด้วยกันแบบนี้ด้วยนี่สิ ...
    ทุกอย่างจะง่ายกว่านี้หากอูยองไม่ใช่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนิชคุณ ...



    ความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถแสดงออกไปได้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย  ไม่รู้ว่าเขาเผลอคิดกับอูยองเกินกว่าเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกที เจ้าหนุ่มแก้มยุ้ยก็จองพื้นที่นั่งอยู่ในหัวใจของนิชคุณไปเรียบร้อยแล้ว
    ช่วงแรก ๆ ก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่ารักเพื่อนคนนี้เต็มเปา เขาไม่ใช่พวกเบี่ยงเบน ทุกวันนี้สามารถยืนยันได้เต็มร้อยว่าเขาชอบผู้หญิง

    ... แต่สำหรับอูยองคนนี้กลับพิเศษ  ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้กับใครมาก่อนเลยสาบาน


    ทั้งเขาและอูยองเป็นเพื่อนกันมากว่าสามปี อูยองเป็นคนเกาหลีโดยกำเนิดอยู่แล้วแต่นิชคุณที่อิมพอร์ตมาจากนอกเพิ่งย้ายมาอยู่และเรียนที่เกาหลีตอนมัธยมปลายปีหนึ่งพอดีและด้วยความที่อูยองที่ปกติเป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนง่ายเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับนิชคุณก่อน
    หลังจากนั้นเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อย ๆ แน่นแฟ้นขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับบางอย่างในใจของนิชคุณที่กำลังก่อตัวขึ้นช้า ๆ



    “พี่คุณ ..”  เสียงหวานที่คุ้นหูดังใกล้ ๆ  มือขาวโบกไปมาที่หน้าของนิชคุณหวังให้อาการเหม่อของเขาหายไป  ถึงแม้นิชคุณกับอูยองจะเรียนอยู่ชั้นเดียวกันแต่เขาเกิดก่อนอูยองหนึ่งปีและที่เกาหลีค่อนข้างซีเรียสเรื่องการเรียกคนที่อายุมากกว่า นิชคุณเลยกลายเป็นพี่ของเด็กน้อยอูยองไปโดยปริยาย

    “เหม่อถึงใครอยู่ฮะ ?” 

    ‘นายไง ...’  ตอบในใจ ไม่ได้พูดให้คนตรงหน้าได้ยิน

    มันจะมีซักกี่เรื่องกันเชียวที่นิชคุณกำลังคิด ปกติไม่ใช่คนใจลอยอะไรเลย แต่ที่พักหลัง ๆ ชอบนั่งใจลอยแบบนี้มันเป็นเพราะใครกัน ?!
    ปล่อยให้นั่งโทษคนตัวเล็กได้ไม่นาน ไอคนตัวเล็กที่ว่าก็เขย่าแขนนิชคุณเป็นพัลวัน

    “พี่คุณ .. แทแทอ่ะ ! > < น่ารักมากเลยยย ~” 
    บอกทีซิว่ามันไม่ใช่ชื่อผู้หญิง .. อีกแล้วที่อูยองบ้าผู้หญิงต่อหน้าต่อตานิชคุณ
    อยากจะตะโกนใส่หูแม่งให้รู้แล้วรู้แรด

    ‘เออออ !! กูรู้แล้วว่ามึงชอบบบบ !!~’


    อูยองเป็นคนประเภทที่ว่าเห็นสาว ๆ น่ารักหน่อยไม่ได้ จะต้องมาเขย่าแขนนิชคุณแก้เขินทุกครั้งไป ลำพังนิชคุณก็แอบจี๊ดในใจเล็ก ๆ  หากแต่ท่าทางเพ้อฝันของอูยองที่มากเกินเหตุทำให้ความหมั่นไส้เข้ามาแทนที่ทุกครั้งไป
    แทแทนี่ชื่อผู้หญิงคนล่าสุดที่อูยองมันเรียก เพราะก่อนหน้านี้จะมีทั้งน้องทิฟ น้องยุน น้องคิตตี้ น้องบลายท์ น้องบาร์บี้ สารพัดสาวน้อยในคลังผู้หญิงของอูยองที่กำลังตามบ้าอยู่ในขณะนี้ ...



    ถามว่า นิชคุณเซ็งไหม ?

    .... เซ็ง


    เอือมไหม ?

    .... เอือม


    หมั่นไส้ไหม ?

    .... โคตร ๆ อ่ะ -0-



    แล้วเจ็บล่ะ ?

    .... อันนี้คงไม่ต้องถาม รีดเดอร์รู้อยู่เต็มอก


    บางทีก็อดน้อยใจไม่ได้
    เขาอยู่ตรงนี้แท้ ๆ แต่ทำไมอูยองถึงไม่เคยสนใจ

    ... รู้สึกว่าอูยองอยู่ไกลเกินเอื้อมจริง ๆ





    .


    .





    ในบ่ายแก่ ๆ วันหนึ่งหลังเลิกเรียนแล้ว นิชคุณนั่งทำงานในแลปทอปเงียบ ๆ ที่ม้าหินใต้ต้นไม้ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า 
    ไอรายงานบ้านี่ปั่นมาสามคืนสามวันแล้วเต็ม ๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้า ... ในระหว่างรออูยองไปห้องสมุดก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการนั่งปั่นงานต่อไป กำหนดส่งวันมะรืนอยู่แล้วยังลุยไม่ถึงครึ่งทางซักที !


    “รอนานมั้ย”  สะดุ้งแทบตกเก้าอี้เพราะร่างบางเล่นเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแถมเข้ามากระซิบอยู่ข้างหูกะแกล้งให้ตกใจเล่น
    ลำพังแค่กระซิบมันยังไม่เท่าไหร่ แต่ไอลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดคอบวกกับกลิ่นสบู่เด็กอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของอูยองกำลังจะทำให้เขาคลั่งตายซะตรงนี้
    รีบปรับสีหน้าและอารมณ์ให้กลับมาอยู่ในจุดที่เป็นปกติโดยไวแล้วถามกลับ


    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? = =^”

    “เมื่อเห็น ^___________^”  ฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารักทำเอาสายตาของร่างสูงเบลอไปชั่วขณะ
    เที่ยวทำตัวน่ารักพร่ำเพรื่อแบบนี้ถ้าวันใดวันหนึ่งนิชคุณเกิดอดใจไม่ไหวขึ้นมาล่ะยุ่ง


    “คุณฮยองงงง ~~~”  จากที่ยืนหัวโด่อยู่อูยองก็ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างสูง  มือขาวบีบนวดต้นแขนของนิชคุณเป็นเชิงอ้อน  มาอีหรอบนี้อีกแล้ว ... นิชคุณรู้เลยทันทีว่าอูยองกำลังจะมีเรื่องให้เขาช่วยเป็นแน่ -0-



    “ติวอังกฤษให้หน่อยน้า ~  เรียนไม่รู้เรื่องเลย” 
    ทีแท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ติวอังกฤษให้คนที่อ่อนพื้นฐานด้านภาษาต่างประเทศมากถึงมากที่สุด
    ด้วยความที่นิชคุณเคยเรียนที่อเมริกาช่วงนึงก่อนจะมาต่อม.ปลายที่เกาหลีจึงมีภาษีด้านนี้อยู่มาก ถูกยกให้เป็นติวเตอร์ส่วนตัวของอูยองไปโดยปริยาย ... ถ้านี่ไม่ใช่อูยอง จะไม่มีทางถ่ายทอดวิชาขั้นเมพให้หรอกน่ะจะบอก -.-


    “รายงานเสร็จยังล่ะ ถ้ายังไม่ว่างงั้นเอาไว้ก่อนก็ได้”  หากแต่ตาของอูยองกลับมองเห็นไฟล์งานที่อยู่หน้าจอแลปทอปทำให้อดที่จะลังเลไม่ได้

    ว่างงงงงงงงงงงงงงงงงงง ตอนนี้โคตรว่างอ่ะ ให้ติวตอนไหน ยังไง บอกมาเลย !” 
    ความจริงคือสารพัดงานกองพะเนินเทินทึกแทบจะหล่นทับหัวเจ้าของมันเข้าซักวัน  แต่เมื่ออูยองคือที่สุด  งานจุกตูดที่ว่าจึงโดนพับเก็บไป(ชั่วคราว)อย่างช่วยไม่ได้ ...

    ถ้าไม่ใช่อูยองที่ขอให้ช่วย เขาคงไม่มีทางทิ้งงานมาตะรันตันตันแบบนี้แน่


    “อ้า >~< ขอบคุณมาก ... งั้นเดี๋ยววันนี้ผมไปคอนโคพี่นะ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง ^ ^” 
    เข้าทาง ... เข้าทางคนอย่างนิชคุณที่สุด

    ให้ตาย ซ่อนรอยยิ้มแทบไม่ทัน >///<


    .

    .






    ปั่กก !
    “งืมมม =___________=” 
    อูยองครางเบา ๆ เมื่อนิชคุณใช้ปลายด้ามปากกาตีลงบนหน้าผากมนอย่างจงใจ
    เพราะนั่งทบทวนแบบฝึกหัดด้วยตาที่หรี่ปรือลงเรื่อย ๆ เลยโดนร่างสูงทำโทษเข้าให้ ร่างเล็กพึมพัมงึมงัมอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตั้งท่าอ่านทบทวนต่อไปและหาวหวอด ๆ เนื่องจากความง่วงที่เข้าครอบงำ


    “ตั้งใจหน่อยซี่ ... ติวเตอร์น้อยใจแย่เลยรู้มั้ย ^ ^”  เจ้าของมือใหญ่ว่าพลางดันไหล่เล็กแรง ๆ เป็นเชิงหยอก ทั้งหมดที่สอนไปแม่งเข้าหัวมั่งป่ะหว่ะ ? คุ้มมั้ยที่ทิ้งงานมาสอนคนขี้เกียจอย่างจางอูยองเนี่ย -_-;;


    แต่เมื่อเห็นท่าทีของอูยองที่นั่งหัวโงนเงนสัปหงกจะโขกโต๊ะอยู่มะรอมมะร่อจึงล้มเลิกความคิดที่จะติวต่อ เล่นติวกันมาสามชั่วโมงติดแถมไม่ได้พัก อูยองคงรับอะไรไม่ไหวแล้ว -.- 
    แล้วความรู้สึกกิ่ว ๆ ก็แล่นเข้ามาที่ท้องโดยฉับพลัน มือหนาลูบท้องตัวเองที่เริ่มจะรู้สึกหิวขึ้นมาตงิด ๆ พลางคิดถึงร่างบางว่าคงรู้สึกแบบเดียวกันแน่ ๆ


    ทิ้งร่างบางให้นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงของตน อ้าแขนรับลมของแอร์ที่เย็นฉ่ำในห้องนอนให้ชื่นใจ นิชคุณเดินออกมาเข้าครัวครั้งแรกในรอบสามเดือน จำได้ว่าล่าสุดที่เข้ามาเหยียบในนี้เพราะอูยองมาทำรายงานแล้วค้างที่นี่ เจ้าบ้านต้องแสดงตนเป็นเจ้าภาพที่ดีโดนจัดอาหารมื้อพิเศษเป็นมาม่าคนละห่อ -0-  ในตู้กับข้าวไม่มีอะไรตุนไว้มากกว่านี้แล้วจริง ๆ  และเมนูวันนี้คงไม่พ้นมาม่าอีกตามเคย ...






    กลิ่นหอมโชยคลุ้งไปทั่วห้องเมื่อนิชคุณเดินถือชามมาม่าที่เพิ่งต้มเสร็จเข้ามา ทั้งที่ปกติแล้วอูยองจะต้องวิ่งเข้าหาของกินแต่เขากลับอยู่ในอิริยาบถเดิม นอนหงายเอามือก่ายหน้าผากนิ่งไม่ไหวติง คงจะเพลียจนหลับไปแล้ว 
    นิชคุณยิ้มน้อย ๆ กับภาพตรงหน้า เขาวางชามสองใบไว้บนโต๊ะข้าง ๆ อูยอง  นิ้วเรียวรัวแป้นพิมพ์เล็ก ๆ ที่แลปทอปของตน รีบปั่นงานให้เสร็จ ๆ ไปซะท่าจะเป็นความคิดที่ดี


    เข็มนาฬิกาเรือนเล็กบนหัวเตียงบอกเวลาห้าทุ่ม งานของเขารุกหน้าไปได้เกินครึ่งจวนจะเสร็จแล้ว
    พอก่อนดีกว่าสำหรับวันนี้  ตาคมเหลือบมองร่างบางที่นอนอยู่ข้าง ๆ  เห็นแล้วมันอดไม่ได้หากจะยิ้มบาง ๆ 
    มีแววว่าคืนนี้อูยองคงต้องค้างคืนที่นี่ซะแล้ว ...


    อุณหภูมิในห้องยิ่งหนาวเย็นเมื่อดึกขึ้นเรื่อย ๆ  นิชคุณที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มแต่ก็ไม่ลืมที่จะมองอูยองในขณะหลับ ...





    ... ไม่มีใครรู้ ว่าฉันรักนายทุกวัน ...

    ตอนนี้อูยองอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ก็ไม่มีทางที่จะเอื้อมถึงซักที  ร่างสูงถามตัวเองอยู่บ่อยครั้ง สายตาที่มองไปแบบนั้นฝ่ายตรงข้ามจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นรึเปล่า  แล้วเขาเคยแสดงท่าทีแปลก ๆ ที่อีกฝ่ายจะจับได้หรือไม่ ... ?
    เคยคิดอยู่หลายครั้งว่าอยากจะสารภาพความรู้สึกของตัวเองให้ร่างบางรู้อย่างหมดเปลือก แต่แค่คำ ๆ เดียวก็สามารถทำให้ทุกอย่างพังลงได้ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอย่างที่เขาคิด

    สำหรับอูยองแล้ว คงไม่ได้มองนิชคุณเกินไปกว่าเพื่อนที่ดีคนนึง ไม่มีทางเลยจริง ๆ ที่จะมีอะไรมากกว่านั้น
    อึดอัดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะทนและเก็บความลับนี้ไว้ได้นานแค่ไหน ...

    ความลับไม่มีในโลก ซักวันอูยองก็ต้องรู้ ... แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่
    ที่ทำได้ตอนนี้คือแค่แอบมองและคิดถึงนายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สินะ 
    ถึงมันจะทรมานแต่ยังดีกว่าหากอูยองรู้ความจริงแล้วเปลี่ยนไป ...



    ในตอนนั้น ‘ความเป็นเพื่อน’ คงไม่มีหลงเหลืออยู่เลย

    ไม่เหลืออะไรสักอย่าง



    มือใหญ่ค่อย ๆ เอื้อมไปลูบผมนิ่มของอูยองอย่างแผ่วเบา
    ปล่อยให้เป็นแบบนี้แหล่ะดีแล้ว นายไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันรู้สึกยังไง  เพราะทุกวันที่ได้อยู่ข้างนาย หัวใจก็พองโตมาก ๆ แล้ว ...




    หากไม่พูด ก็ไม่มีทางรู้ …

    ... และเพราะไม่อยากให้รู้ เลยไม่มีทางพูด




    ให้เลือก จะเลือกได้ไหม ...
    ระหว่าง ‘เพื่อน’ กับ ‘คนรัก’  อะไรที่เราไม่อยากเสียมันไปมากที่สุด ?



    ตัวผม ...
    ผมคงเลือกเพื่อน

    ฉันรักนาย, อูยอง ... รักมาก ๆ  แต่ฉันพูดออกไปไม่ได้





    ************************************************
    ****************************************
    ******************************
    **********************
    *************
    ******











    เก็บรักเอาไว้ในใจบอกใครไม่ได้ ...
    และคือความรักที่ฉันต้องซ่อนเอาไว้

    ตั้งแต่รู้ตัวเองว่าความสัมพันธ์เปลี่ยนไป
    ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจอย่างเดิม


    ปล่อยวันเวลาให้เดินและเวียนหมุนผ่าน
    ปล่อยที่ว่างตรงกลางกั้นเราให้อยู่อย่างนั้น

    อาจเป็นเพราะทุกวัน ที่มีเธอเคียงข้างฉัน
    ... เพียงแค่นั้นที่ฉันได้พออุ่นใจ ...




    .

    .

    .


    บ่อยครั้งที่อูยองใช้เวลาส่วนมากนั่งคิดถึงเรื่องของใครบางคนอยู่บนเตียงตัวเอง มือเล็กเอื้อมไปเปิดลิ้นชักใต้เตียงก่อนจะหยิบรูปถ่ายขนาดโปสการ์ดหลายใบขึ้นมาดู ไล่พลิกไปทีละรูปอย่างหลงใหลและอดจะยิ้มตามคนในภาพไม่ได้ ...

    ไม่มีใครทำให้อูยองยิ้มกับตัวเองได้นอกจากนิชคุณ



    รูปทุกใบที่อยู่ในมืออูยองล้วนเป็นรูปนิชคุณหลากหลายอิริยาบถที่เขาถ่ายเองทั้งสิ้น มีทั้งช็อตที่ถ่ายอย่างจงใจและแอบถ่ายแต่ส่วนมากจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ...
    จะให้ใครรู้ไม่ได้ทั้งนั้นว่าสำหรับอูยองแล้ว นิชคุณพิเศษกว่าเพื่อนธรรมดา ๆ คนนึง
    ความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินเพื่อนนั้นเกิดขึ้นมานานปี

    ... ความรู้สึกหวั่นไหวแบบแปลก ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนิชคุณ  เสี้ยวหน้าคมของนิชคุณเมื่อครั้งแรกที่ได้มองแม้ในระยะไกลก็สามารถทำให้หัวใจของอูยองวูบไหวอย่างประหลาดได้  ในทีแรกก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมแต่ในตอนนั้นขาของเขากลับเดินตรงเข้าไปหาร่างสูง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจให้รู้สึกอยากคุยด้วย ...


    มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อ ๆ ไป ...
    ประโยคสนทนาของคนทั้งคู่ดำเนินไปอย่างไม่รู้เบื่อ ไม่น่าเชื่อว่านิชคุณและอูยอง เพื่อนใหม่ต่างสัญชาติจะสนิทกันได้ในเร็ววัน




    ปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างเมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวในวันวาน ความทรงจำเกี่ยวกับนิชคุณนั้นมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน 
    ไม่ปล่อยให้สมองคิดเรื่องอื่น เขาหันกลับมาสนใจกับรูปถ่ายในมือ ในรูปคือนิชคุณที่กำลังเหม่อในท่านั่งเท้าคาง

    ... อยากจะรู้นักว่ากำลังคิดถึงอะไรหรือกำลังเหม่อถึงใครกันแน่ ?


    อูยองเคยตั้งข้อสงสัยและอดแปลกใจกับมันไม่ได้ ... นิชคุณมีสาว ๆ หลายคนมาติดแต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จะว่าหล่อเลือกได้ก็ไม่ใช่เพราะแต่ละนางก็ใช่ว่าจะหน้าตาพื้น ๆ เสียเมื่อไหร่  ดีไม่ดียังมีบางรายที่หอบตำแหน่งดาวคณะพ่วงมาด้วย
    แต่ถึงกระนั้น นิชคุณก็ยังยืนกรานที่จะปฏิเสธ ...

    ทำไมนะ ทำไม ?
    หรือเพราะเขามีใครอยู่ในใจแล้ว !!?

    ... อาจจะใช่


    คิดได้ดังนั้นสีหน้าของร่างบางก็หมองลงอย่างเห็นได้ชัด ทำไมต้องมาอยู่ในสถานการณ์แอบรักเพื่อนแบบนี้ด้วยนะ อึดอัดเป็นบ้า !  จะทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่างต้องคอยเก็บอารมณ์และท่าทางหวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้เสมอ และถ้าวันดีคืนดีนิชคุณเกิดรู้เรื่องนี้ขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
    ... การเก็บความรู้สึกไว้ในใจเพียงคนเดียวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด







    .

    .


    .




    ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามอื้ออึง ก่อนเมฆตั้งเค้ามีทีท่าว่าฝนกำลังจะตกในไม่ช้า
    ช่วงเวลาบ่ายกลับดูคล้ายยามเย็นเพราะหมู่เมฆได้บดบังแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังผืนโลก 
    สองสหายหันมามองหน้ากัน ... ถ้าฝนตกขึ้นมาจะกลับบ้านยังไง ?!

    “พี่คุณ วันนี้ขับรถมาใช่มั้ย”  อูยองถามร่างสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  ... ถ้าฝนเกิดตกขึ้นมาตอนนี้จะได้ใจชื้นขึ้นบ้างว่าอย่างน้อยก็ได้ติดรถพี่คุณกลับบ้านสบาย ๆ  ไม่ต้องมายืนเบียดกับประชากรที่หนาแน่นบนรถเมล์ในสภาพที่เสื้อผ้าเปียกแฉะ


    “ไม่” 
    ฝันที่คาดไว้ในตอนแรกกลับสลายลงเมื่อร่างสูงตอบ

    เวร ... ร่มก็ไม่ได้หยิบมาซักคัน กลับไปมีหวังเปียกแน่ T^T


    “งั้นรีบกลับก่อนที่ฝนตกดีกว่า”

    “อื้อ” 

    ว่าแล้วสองร่างก็ลุกขึ้น หวังจะออกจากคอฟฟี่ชอปเล็ก ๆ ข้างมหาลัยนี้ทันที แต่ยังไม่ทันทีประตูจะถูกดันออกกลับมีฟ้าผ่าเปรี้ยงเสียงดังลั่นทำเอาผงะไปชั่ววูบ




    แหมะ ..
    แหมะ ..  

    หยดน้ำจากฟากฟ้าเกาะพราวที่ด้านนอกของประตูร้านพร้อมกับพื้นถนนที่เป็นรอยด่างดวงอย่างรวดเร็ว 
    จู่ ๆ หยาดฝนก็เทกระหน่ำลงมาซะดื้อ ๆ  สองร่างถอนหายใจยาวพร้อมกันและยอมเดินกลับไปนั่งในตำแหน่งเดิมแต่โดยดี มองด้านนอกร้านด้วยสีหน้าปลงไม่ต่างกัน ฝนห่าใหญ่ไม่พอแถมลมกระโชกแรงยังพัดพาใบไม้ที่ร่วงตามพื้นถนนปลิวว่อนไปทั่ว



    “เอาไง ?”  ร่างบางหันไปตามผู้ร่วมชะตากรรมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  แต่เมื่อเห็นสภาพนอกร้านแล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าฝนจะตกอีกยาว

    “เรื่อย ๆ เหอะ ...”  พยักหน้าเห็นด้วยกับนิชคุณ  เอาวะ รอต่อไปจนกว่าฝนจะซา พอถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันอีกที






    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า บรรยากาศในร้านค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงลูกค้าหลงหลืออยู่ในร้านแค่สองสามโต๊ะต่างกำลังรอเวลาที่ฝนจะซาลงเหมือนคนทั้งคู่เช่นกัน 
    อูยองนั่งเท้าคางมองไปนอกร้านเห็นรถขับผ่านไปคันแล้วคันเล่า เห็นแล้วมันน่านัก !

    “พี่คุณอ่ะ !! ไม่เอารถมา เลยติดแหงกกันอยู่นี่เห็นมะ”  ปากก็บ่นไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจอยากใช้เวลาอยู่กับร่างสูงใจแทบขาด

    “(กู)จะไปรู้มั้ยครับว่าฝนมันจะตกแบบนี้ แล้วเราล่ะ ไม่รู้จักเตรียมร่มมาเอง”  สวนกับด้วยสีหน้าไม่พอใจเช่นกันแต่ในใจนี่ปลื้มสุด ๆ 
    นิชคุณปล่อยให้เวลาผ่านไปกับการนั่งปั่นงานที่คั่งค้างของตนให้เสร็จ  แอร์เย็นฉ่ำในร้านบวกกับอากาศเย็นจากฝนตกยิ่งทำให้อากาศในคอฟฟี่ชอปแห่งนี้หนาวขึ้นเป็นทวีคูณหากแต่ยังสู้ความเย็นข้างนอกที่ฝนเทลงมาไม่ได้อยู่ดี
    ด้วยอุณหภูมิด้านในที่เย็นกว่าทำให้กระจกใสตรงหน้าอูยองที่มองออกไปด้านนอกร้านนั้นฝ้าจับหน้าขึ้นเรื่อย ๆ  อูยองใช้มือถูวนกับกระจกเพื่อให้ฝ้าหายไปจากนั้นก็ใช้นิ้วเขียนข้อความบนกระจกแก้เบื่อ
    เสียงฝืด ๆ ของนิ้วที่ถูกับกระจกทำให้นิชคุณเงยหน้าขึ้นมาสนใจกับสิ่งที่อูยองกำลังเขียน

    ‘เฮ้อออ ~’  นิชคุณมองและอ่านคำนั้นในใจ  จู่ ๆ ก็นึกสนุกอยากเขียนตอบขึ้นมา 
    ร่างบางที่เมื่อเห็นนิ้วของนิชคุณกำลังเขียนข้อความต่อจากที่ตนเพิ่งเขียนก็อ่านตาม

    ‘ทำไมล่ะ ?’
    แล้วร่างบางก็เขียนตอบตามที่ตัวเองคิด  ‘อยากให้ฝนหยุดตก’


    ‘แต่ฉันไม่’
    เลิกคิ้วอย่างแปลกใจก่อนจะเขียนประโยคถัดไป


    ‘เพราะ .. ?’



    อยากอยู่กับนายต่อไง ฮ่า ๆๆๆๆ’


    แล้วหน้าของอูยองก็ร้อนผ่าวขึ้นมากะทันหัน อดคิดไปไกลกับประโยคล่าสุดที่นิชคุณเป็นคนเขียนไม่ได้
    ... ร่างบางชะงักไปหลายวิจนคนข้าง ๆ สังเกตได้

    เสียงนิ้วถูกับกระจกทำให้อูยองเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง 

    ‘ทำไมเงียบไป ?’ 

    ‘หิวน่ะ’ 

    ตอบกลบเกลื่อนไปงั้นทั้งที่ในใจกำลังว้าวุ่น เมื่อเหลือบสายตาไปอ่านมันอีกทีก็อดใจเต้นไม่ได้

    หยุดซักทีเจ้าหัวใจบ้า ! 
    ไร้สาระน่ะ มันแค่ประโยคนึงที่ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย หยุดคิดเข้าข้างตัวเองซะทีจางอูยอง !



    “สั่งไรกินมะ หิวเหมือนกัน”  เป็นนิชคุณที่เริ่มพูดก่อน  ไม่รอฟังคำตอบจากร่างบาง เขาเดินไปที่เคาท์เตอร์เพื่อสั่งคาปูชิโนร้อนให้ตัวเองแต่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งโอวันตินเย็นเพิ่มวิปครีมให้อูยอง
    ไม่ต้องถามก็รู้ว่าอยากกินอะไร ...

    นับเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับอูยองที่นิชคุณรู้ดี



    แก้วของโอวันตินเย็นถูกยื่นให้ร่างบาง มือเล็กรับมันมา ก้มหัวขอบคุณแล้วเร่งจัดการกับวิปครีมทันที
    นิชคุณจิบกาแฟอึกเล็ก ๆ แล้วหันไปสนใจกับงานในแลปทอปของตัวเองต่อ

    "ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ให้ผมช่วยได้น่ะ *U*"  อูยองเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้กับร่างสูงมากขึ้นแล้วชะโงกหน้ามองที่หน้าจอแลปทอป
    นิชคุณหันมามองอูยองโดยไม่รู้ว่าระยะห่างจากใบหน้าของอูยองนั้นมีมากแค่ไหนเป็นผลให้ต่างฝ่ายต่างมองใบหน้าซึ่งกันและกันในรยะประชิด
    ตาเรียววูบไหวเล็กน้อยเมื่อฝ่ายตรงข้ามมองลึกเข้าไปในดวงตา ทั้งคู่ต่างสะกดกลั้นอารมณ์และท่าทีหวั่นไหวในใจก่อนจะรีบผละออกจากกันในไม่กี่วินาทีถัดมา


    "อ่า ... เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ"  นิชคุณถามก่อนจะก้มหน้าลงไปสนใจกับแลปทอป พยายามทำตัวให้เป็นปกติ

    "รายงาน ให้ผมช่วยได้"  ราวกับแข่งกันว่าหากใครแสดงท่าทีส่อไปในทางว่ากำลังหวั่นไหวก่อนคนนั้นจะแพ้  อูยองตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แพ้นิชคุณ


    "ไม่เป็นไร จะเสร็จอยู่แล่ว"  ตอบพร้อมกับหันไปยิ้มบาง ๆ ให้อูยอง


    "ปากนาย ... ฮ่า ๆๆ กินเลอะเทอะอีกแล้วนะ ^ ^"  นิชคุณหัวเราะร่าเมื่อริมฝีปากแดงอิ่มของอูยองถูกแต้มไปด้วยสีขาวของวิปครีม ร่างสูงเอี้ยวตัวไปใกล้คนข้าง ๆ แล้วใช้ทิชชู่ซับเบา ๆ ที่มุมปกาของอูยอง
    ร่างบางที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์หวาดเสียวเมื่อครู่เจอนิชคุณเทคแคร์เข้าหน่อยก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมา 

    ขอบคุณสวรรค์ที่นิชคุณหันกลับไปพิมพ์งานแล้วจึงไม่เห็นรอยยิ้มที่อูยองพยายามจะซ่้อน



    ... เกือบไปแล้วมั้ยจางอูยอง
    เก็บกลับไปยิ้มกว้างดีใจรวดเดียวที่บ้านไม่ได้หรือไงกันนะ ?!


    แต่เมื่อคิดถึงหลักความเป็นจริง ... ปกตินิชคุณก็เป็นคนเทคแคร์คนรอบข้างอยู่แล้ว
    ที่เขาทำแบบนี้มันออกจะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขาทำกันไม่ใช่หรือ ?


    ไม่ว่าเขาจะทำอะไรนิชคุณก็จะคอยช่วยอยู่เสมอ เพราะเป็นแบบนี้บางครั้งจึงอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้
    โทษร่างสูงอยู่บ่อยครั้ง ... ทำไมถึงชอบทำอะไรที่มันคลุมเครือแบบนี้นัก ! 
    ตัวเองไม่ได้คิดอะไรก็อย่ามาทำให้คนอื่นเขาคิดแบบนี้สิ T_T

    รู้อยู่แก่ใจว่านิชคุณไม่มีทางคิดกับเขาเกินเพื่อนแน่ แต่ก็อย่ามาทำตัวดีจนมันน่าคิดไม่ได้หรือไง
    เพราะความจริงแล้ว ... มันไม่มีอะไรเลย

    ... ไม่อยากคิดไปเองฝ่ายเดียวน่ะ



    ในสายตาพี่ เคยมองเห็นผมบ้างมั้ยนะ ?

    ถ้าวันใดวันหนึ่งนิชคุณรู้ความจริง คงเกิดบาดแผลรอยใหญ่ในมิตรภาพของคนทั้งคู่  ไม่มีความโล่งใจเหมือนแต่ก่อนจนอาจกลายเป็นจุดจบของมิตรภาพเลยก็ได้ ...

    เพราะหัวใจที่ไม่รักดีเผลอพลั้งคิดเกินกว่าเพื่อนจึงต้องอึดอัดและทรมาน ในเมื่อไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองก็ควรได้รับบทลงโทษที่สาสม ...
    แต่ถึงยังไง อูยองคนนี้ก็ยังยืนยันที่จะรักนิชคุณ ...




    ให้เลือก จะเลือกได้ไหม ...
    ระหว่าง ‘เพื่อน’ กับ ‘คนรัก’  อะไรที่เราไม่อยากเสียมันไปมากที่สุด ?


    แน่นอนว่าเลือกจะที่รักษามิตรภาพของเราต่อไป ...
    แค่ได้เห็นพี่ทุกวันผมก็สุขใจจนบอกไม่ถูกแล้ว


    ผมรักพี่ ... รักมาก ๆ  แต่ผมขอเลือกที่จะพูดมันในใจดีกว่า



    .

    .

    .




    ไม่รู้ว่าพายุลงเกาหลีหรืออย่างไีร ฝนห่าใหญ่ยังคงเทลงมาจากท้องฟ้า ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะซาลงเมื่อไหร่
    ... ราวกับเป็นใจให้สองหัวใจได้มีเวลาเคียงข้างกันนานแสนนาน ...


    ใคร ๆ ก็ว่า 'ความลับไม่มีในโลก'
    ... ถึงสองคนนั้นจะเลือกเก็บมันไว้ในใจแต่สักวันความนัยก็ต้องถูกเปิดเผยอยู่วันยังค่ำไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ณ เวลานี้หากยืนยันที่จะปิดมันไว้ต่อไป ... แล้วเมื่อไหร่กันนะที่สองหัวใจจะได้เชื่อมโยงถึงกันซักที ?


    "มรสุมเข้าหรือไงน่ะ"  ร่างบางเริ่มกล่าวโทษฝนฟ้าที่ตกนานหลายชั่วโมง  "อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว = =;;"
    ถึงคนข้าง ๆ จะเอาแต่บ่นอย่างหงุดหงิดใจแต่นิชคุณกลับรู้ซึ้งถึงประโยชน์ของฝนตกในครั้งนี้ ...

    ประการแรก มันทำให้งานของเขาเสร็จในเวลาไม่นาน
    และประการที่สอง ... เขาได้มีเวลาอยู่กับอูยองนานกว่าทุกวัน

    แต่มันติดตรงที่ว่านี่ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว ขืนรอให้ฝนหยุดตก มีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องนอนค้างที่นี่
    คิดบางอย่างได้ร่างสูงจึงเดินออกไปที่เคาท์เตอร์และพูดบางอย่างที่อูยองไม่ได้ยินก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับร่มคันหนึ่ง


    "ไม่รู้ว่าฝนจะหยุดเมื่อไหร่ ถ้ารอฉันว่าพรุ่งนี้เช้าคงไม่ได้กลับแน่ ..."

    "เอ๋ .. ?"

    "ไปยืมร่มเจ้าของร้านมาน่ะ ... เรากลับกันเถอะ"  เหตุผลของนิชคุณทำให้อูยองสงสัยนัก
    ปากกำลังจะถาม  'ทั้ง ๆ ที่ในตกขนาดนี้อ่ะนะ ?'  แต่เมื่อภาพของเขากับนิชคุณเดินตากฝนกลับบ้านด้วยกันสองต่อสองถูกฉายเข้ามาในหัวทำเอาอูยองรีบตกปากรับคำแทบไม่ทัน


    "อืม .. กลับก็ดี ^ ^"








    เจ้าแลปทอปเครื่องโปรดของนิชคุณถูกยื่นให้กับเจ้าของร้าน ร่างสูงเลือกที่จะฝากมันไว้ที่นี่ซักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมารับ
    งานก็เสร็จแล้ว คงไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป ...

    มือหนาของร่างสูงผลักประตูกระจกของร้าน ก้าวขาเดินนำออกไปพร้อมกับกางร่มให้ร่างบางที่เดินตามออกมา 
    ละอองฝนกระทบกับใบหน้าพร้อมกับอากาศเย็นที่บาดผิวของคนทั้งสอง 
    ทั้งเสื้อและกางเกงชื้นด้วยละอองฝนอย่างรวดเร็ว
    นิชคุณโอบไหล่เล็กของคนข้าง ๆ ให้เข้ามาแนบชิดก่อนจะเดินลุยฝนไปพร้อม ๆ กัน 

    และเป็นอีกครั้งที่ฟ้าฝนช่างเป็นใจปล่อยหยาดละอองฝนปรอย ๆ ลงมาจากฟากฟ้าแทนที่จะเป็นฝนห่าใหญ่แบบเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
    นิชคุณลอบมองเสี้ยวหน้าหวานเป็นระยะในขณะที่อูยองกำลังก้มหน้าเหลือบมองไหล่ด้านซ้ายของตัวเองที่มีมือของนิชคุณวางอยู่


    ... ปล่อยให้เป็นแบบนี้ล่ะดีแล้ว
    ไม่ต้องรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามรักเราหรือไม่




    "พรุ่งนี้ผมเป็นหวัดแน่เลย ..."

    "หัวแข็งอย่างนายไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก -0-"

    "แต่ผมอยากป่วยอ่ะ ขี้เกียจไปเรียน > <"


    "ถ้าอู้จนเรียนไม่ทันคนอื่นจะขำให้"

    "กลัวอะไร ยังไงพี่ก็ติวให้ผมอยู่แล้ว *U*"





    "... เออ ! ... รู้ดีนี่เรา ^ ^"


    .

    .



    มีความสุข ... ที่ได้เคียงข้างกัน
    แม้จะได้ใช้เวลาด้วยกันแค่ช่วงสั้น ๆ หากแต่มันจะตราตรึงในใจไปนานแสนนาน ...


    .

    .




    END



    +Talk
    ถามรีดเดอร์ ... งงมั้ยค้าาา มันมาจากไหนวะเรื่องนี้ > <
    ไรเตอร์ตอบ ... นั่นสิ มันมาจากไหน(วะ) = =;;
    ช่วงเวลาที่เพื่อน ๆ กำลังอ่านหนังสือสอบอย่างหน้าดำคร่ำเครียด แต่้เรากลับมาตะรันตันตันกับฟิค
    ไม่ได้มาต่อเรื่องไหน แต่ได้เรื่องใหม่มาเลย ซะงั้น - -

    เอาเถอะ รวบให้มันเป็นone shotเป็นการบังคับตัวเองไปในตัวว่้่า "มึงต้องจบน่ะ !!"
    วันช็อตเรื่องแรกในชีวิตและจบอย่าง .... (จะบอกว่าสมบูรณ์ก็ไม่ได้เพราะมันดวกเอาการอยู่ -0-)




    Qreaz. 10 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×