คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 05
05.
แพขนตาค่อยๆปรือขึ้นเมื่อรู้สึกถึงยามรุ่งอรุณที่เคลื่อนคล้อยเข้ามาใกล้ แม้จะบอกว่าเป็นยามรุ่งอรุณแต่บรรยากาศโดยรอบกลับไม่ได้มีแสงสว่างและเสียงนกร้องสดใสดั่งเช่นบนโลกเหนือพิภพไม่...สภาพด้านนอกยังคงมืดครึ้มไปด้วยท้องฟ้าสีแดงเลือด...เสียงสัตว์เลื้อยคลานและเสียงนกรูปร่างหน้าตาพิลึกพิลั่นดังแว่วผ่านกรอบหน้าต่างเข้ามาชวนให้รู้สึกวังเวง...การที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมาได้คงเป็นเพียงความเคยชินของร่างกายที่มักตื่นในเพลานี้เสมอเมื่อครั้งยังอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น
จีอ็อตโต้ลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย ภาพตรงหน้าพร่าเลือนในคราแรกจนเจ้าตัวต้องกระพริบเปลือกตาถี่เพื่อปรับโฟกัสให้แจ่มชัด และภาพแรกที่สะท้อนเข้าในลานสายตาก็ทำให้ใบหน้าขาวๆขึ้นสีร้อน
เจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงบัดนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่เคียงข้าง ใบหน้าหล่อเหลาคมคายอยู่ห่างจากสายตาของเขาเพียงแค่เซนต์จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่แผ่ซ่านมากระทบใบหน้าอยู่เป็นจังหวะ
จีอ็อตโต้เพ่งพินิจใบหน้าของยมฑูตหนุ่มตรงหน้า...ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนเขาก็ช่างเป็นคนที่มีเสน่ห์และหล่อเหลาเอามากๆ...จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากได้รูป ใบหน้าเรียวแต่กลับได้รูปสมชายชาตรี นัยน์ตาคู่สวยที่ราวกับมีแรงดึงดูดให้คนถูกจับจ้องเคลิบเคลิ้มราวกับต้องมนต์ และยังรูปร่างสูงโปร่งที่มีกล้ามเนื้อขนาดพองาม...หากสตรีใดได้มีโอกาสได้ชิดใกล้คงมิพ้นต้องตกอยู่ในบ่วงเสน่ห์จากเขาเป็นแน่
ทำไมผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้ถึงมาเป็นยมฑูตได้น้า...จีอ็อตโต้ลอบคิดในใจพลางระบายรอยยิ้มออกมา
จีอ็อตโต้ได้แต่จ้องมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น เนื่องเพราะร่างของตนถูกแขนแกร่งของชายตรงหน้ารวบเอาไว้จนไม่สามารถขยับไปไหนได้ เขาจึงได้แต่นอนอยู่นิ่งๆจ้องมองโคซาร์ทหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะโดยที่ไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย...
แม้เขาจะไม่รู้เหตุผล...ว่าทำไมชายตรงหน้าถึงต้องยึดร่างเขามากอดแทนหมอนข้างอยู่ทุกค่ำคืนก็ตาม...
แต่จีอ็อตโต้กลับไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด...ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยด้วยซ้ำเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายเช่นนี้ อันที่จริงการได้นอนอยู่เคียงข้างใครสักคนในสถานที่อันน่าวังเวงและน่าหวาดผวาเช่นโลกใต้ภิภพแห่งนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอันใดนัก...และยมฑูตหนุ่มตรงหน้าก็มิได้มีท่าทีจะล่วงเกินอะไรเขามากไปกว่าการกอดอีกด้วย...
ใบหน้ายามนิทราของอีกฝ่ายช่างดูไร้เดียงสาราวกับเด็กหนุ่มแรกรุ่นจนจีอ็อตโต้อดนึกขำไม่ได้...ใครเล่าจะมาล่วงรู้ว่า บุรุษรูปงามที่นอนขี้เซาราวกับเด็กเช่นเขาจะกลายร่างเป็นยมฑูตจอมโหด แถมยังขี้แกล้งและทำตัวลามกเมื่อยามตื่นไปเสียได้
แต่ไม่ช้าดวงเนตรสีอำพันก็เบิกกว้างเมื่อสายตากวาดไปเห็นอะไรบางอย่างที่ห้อยอยู่ที่คอของอีกฝ่าย
สร้อยซึ่งร้อยจากโซ่เหล็กสีเงินหม่นที่ตรงกลางประดับด้วยวัตถุทรงกระบอกขนาดจิ๋ว รอบๆวัตถุถูกหล่อเป็นรูปพญานาคที่มีศรีษะเหลือเพียงโครงกระดูกพันกระหวัดรัดอยู่โดยรอบ แม้จะเป็นงานศิลปะที่งดงามประณีตแต่ก็ชวนให้รู้สึกหวาดผวาและขนลุกขนพองเหลือเกินในสายตาของจีอ็อตโต้
“เอาแต่จ้องคนอื่นหลับเนี่ย นายนี่เป็นมนุษย์ที่เสียมารยาทชะมัด”
เสียงทุ้มที่ดังแว่วขึ้นทำเอาร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือก เมื่อเบือนสายตากลับไปหาก็พบว่าอีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ่นมาเสียแล้ว
“อะ...เอ่อ...” จีอ็อตโต้เอ่ยเสียงติดขัดพลางส่งยิ้มแห้งๆออกไปขัดตาทัพ...แต่ร่างสูงกว่ากลับเอาแต่ใช้สายตาอันเปี่ยมเสน่ห์จ้องมองมาที่เขาจนแทบจะหลอมละลายอยู่รอมร่อ
“อืม..” โคซาร์ทเอ่ยพลางซุกหน้าลงกับเรือนผมนุ่ม กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆจากร่างบางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย “นอนนิ่งๆซี่...หมอนข้างอะไรไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย”
“นี่..แต่วันนี้คุณบอกว่าต้องไปแต่เช้าไม่ใช่หรอ?” ร่างเล็กกว่ารีบเอ่ยขัด เมื่อรู้สึกถึงแรงกอดรัดที่มากขึ้นจนเริ่มหายใจอึดอึด...ใบหน้าของเขาประชิดเข้ากับแผ่นอกกว้างจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายได้แจ่มชัด....เสียงหัวใจของยมฑูตหนุ่มนั้นเต้นหนักหน่วงแต่กลับเป็นจังหวะสงบนิ่ง
“ขออีกเดี๋ยวเถอะนะ...” ยมฑูตหนุ่มกระซิบเสียงแผ่ว ริมฝีปากคู่สวยระบายรอยยิ้มบาง
ได้ยินเช่นนั้นจีอ็อตโต้ก็ได้แต่ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนเอื้อมมือออกไปกอดตอบร่างสูงตรงหน้าแต่โดยดี...เขาได้แต่ระบายยิ้มอย่างอ่อนใจกับยมฑูตหนุ่มสุดโหดที่บางครั้งก็แสนเอาแต่ใจแถมยังขี้อ้อนราวกับเด็กๆ...
แล้วทำไม...เขาถึงทำแบบนี้กับเรา?
คำถามเวียนวนอยู่ภายในมโนคิด...เสียงหัวใจเต้นรัวจังหวะเมื่อนึกคาดเดาคำตอบที่ราวกับเข้าข้างตัวเองไว้ในใจ...ก่อนเจ้าตัวจะซบหน้าลงกับอกกว้างแล้วเอ่ยถามเสียงอู้อี้ ใบหน้าขาวนวลแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อ
“คุณ...ทำไมถึงนอนกอดผมทุกคืนแบบนี้ล่ะ?”
จีอ็อตโต้รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรัวของอีกฝ่ายหลังจากที่เขาได้ยินคำถาม...แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงนิ่งเงียบ...
นัยน์เนตรสีทับทิมปรือขึ้นจ้องมองร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยสายตาอันอบอุ่นอ่อนโยนนัก...ก่อนเจ้าตัวจะโน้มใบหน้าลงซบกับต้นคอขาวเนียนของอีกฝ่ายแล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของอีกฝ่ายด้วยความลุ่มหลง
ไม่รู้ว่ามันผ่านมาเนิ่นนานเท่าไรแล้วที่เขาต้องเฝ้าห้ามใจตนเองมิให้ล่วงเกินร่างบางตรงหน้ามากไปกว่าการนอนกอด...ทว่านับวันมันกลับต้องใช้ความอดทนอดกลั้นมากขึ้นทุกทีจนเขาแทบจะทนไม่ไหว...
แล้วยิ่งอีกฝ่ายกอดตอบสนองกับการกระทำของเขาแล้วยังซุกหน้าลงถามความในใจอย่างคาดหวัง...มันยิ่งทำให้ความอดทนที่เป็นประหนึ่งเส้นด้ายบางที่จวนเจียนจะขาดจำต้องแหลกสลายไปโดยมิอาจห้าม
เรือนร่างบอบบาง ผิวขาวเนียนราวอิสตรี ใบหน้าหมดจดที่ประดับรอยยิ้มสดใสน่ารักอยู่เสมอ...ไม่ว่าบุรุษหรือสตรีใดมีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดคงล้วนต้องศิโรราบให้กับความเจิดจ้าของคนผู้นี้เป็นแน่
โคซาร์ทสัมผัสริมฝีปากลงบนต้นคอระหงนั้นอย่างแผ่วเบาจนร่างบางในอ้อมกอดสะดุ้งเฮือกเผลอหลุดเสียงครางออกมา..มือบางทั้งสองออกแรงบีบแผ่นหลังของเขาจนเป็นรอยแดงก่อนเจ้าตัวจะกอดรัดร่างสูงตรงหน้าให้แนบแน่นขึ้นอีกตามสัญชาติญาณ
การตอบสนองของร่างเล็กเป็นราวกับการราดน้ำมันลงกองเพลิงอันร้อนรุ่มให้โหมกระหน่ำไปด้วยกิเลสตัณหา...ที่เฝ้าถาโถมแผดเผาสติสัมปชัญญะและความเป็นเหตุเป็นผลทั้งหมดให้มลายหายไปเหลือเพียงแค่เถ้าถ่าน
“จีอ็อตโต้....” ยมฑูตหนุ่มครางออกมาเสียงต่ำ
ทำไม...ฉันถึงนอนกอดนายทุกคืนงั้นหรือ...?
นั่นเพราะว่าฉัน...
“อือ...” จีอ็อตโต้เผลอส่งเสียงออกมาอย่างมิอาจห้าม ใบหน้าขาวแดงซ่านเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายเข้าซุกไซร้ไปทั่วบริเวณต้นคอไล่ลามมาจนถึงแผงอกขาว สัมผัสของปลายลิ้นที่ชื้นเปียกและมือกร้านที่ซอกซอนสำรวจยังทุกซอกทุกมุมของร่างบางทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนหัวสมองมิสามารถคิดเหตุผลอะไรได้อีก...จึงได้แต่ปล่อยให้อารมณ์ที่หยั่งลึกอยู่ภายในคุกรุ่นให้ร้อนรุ่มไปกับการโลมเล้าของร่างแกร่งตรงหน้า
มือหนาสัมผัสวนไปวนมาอยู่ตรงหน้าท้องขาวเนียนก่อนเลื่อนลงไปจนถึงขอบกางเกง...เขาลูบสัมผัสบริเวณนั้นอย่างอ้อยอิ่งแล้วค่อยๆสอดแทรกนิ้วมือผ่านเข้าไปภายใต้อาภรณ์ตัวบางแล้วเลื่อนลงต่ำเข้าไปหาตรงจุดกึ่งกลางตรงหว่างขานั้น...
“..อะ...โคซาร์ท...” เสียงครวญอันแผ่วเบาของร่างบางดังขึ้น..เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอันเนิบนาบที่แผ่ซ่านบริเวณหว่างขา...
“อย่าได้ริอาจรักกับทาสมนุษย์ของเจ้าเป็นอันขาด...”
คำพูดของผู้เป็นใหญ่ดังแว่วเข้ามาในมโนคิดทำให้มือกร้านที่ล่วงล้ำอยู่เบื้องล่างหยุดชะงัก...
ดวงเนตรสีทับทิมเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก นัยน์ตาที่ฉายแววลุ่มหลงในเพลิงราคะบัดนี้กลับมามีสติแจ่มชัดอีกครั้ง...
โคซาร์ทปรือเปลือกตาปิดลงแน่น...ก่อนเจ้าตัวจะรีบลุกขึ้นจากเตียงโดยฉับพลันจนร่างบางในอ้อมแขนเซถลาไปด้านหลัง...
“โคซาร์ท?” จีอ็อตโต้เอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจกับท่าทีที่แปรเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของชายตรงหน้า แต่คนถูกเรียกกลับเพียงยืนหันหลังให้เขาแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าที่พาดอยู่บนเก้าอี้เข้ามาสวมลวกๆแล้วเดินไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก” ยมฑูตหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ...มือกร้านเอื้อมไปบิดลูกบิดตรงหน้าแล้วแง้มประตูให้เปิดออก
“คุณ...เป็นอะไรไป?” คำถามของจีอ็อตโต้ทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก...เขายืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้นพร้อมกับความเจ็บปวดที่ฉายชัดในจิตใจ...
จีอ็อตโต้...
“วันหลัง...อย่าเข้ามากอดฉันแบบนั้นอีก” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ...ดวงเนตรสีทับทิมตวัดกลับมามองจีอ็อตโต้อย่างเย็นชา
นายอยากรู้ทำไมฉันถึงอยากกอดนาย...อยากสัมผัสนาย...อยากทำแบบเมื่อครู่กับนายมาตลอดงั้นหรอ...
“เอ๋?” จีอ็อตโต้ใจหายวาบเมื่อเห็นสายตาเชือดเฉือนต่างกับความอบอุ่นที่ตนเพิ่งได้รับเมื่อครู่จากชายตรงหน้า ก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกบีบรัดที่ตรงหัวใจจนนัยน์เนตรสีอำพันสั่นไหว...
บางที...ฉันอาจจะรู้คำตอบนั้นแล้ว...
“นายไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องร่างกายของฉัน...แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ถามว่าทำไมฉันต้องสัมผัสร่างกายของนายด้วย...” โคซาร์ทเอ่ยพลางก้าวเดินผ่านกรอบประตูห้องออกไป
นั่นเป็นเพราะว่าฉัน
“เพราะนาย...เป็นเพียงทาสรับใช้ของฉัน...ก็แค่นั้น...จำใส่หัวไว้”
ฉันรักนาย...จีอ็อตโต้...
ร่างสูงเดินออกไปแล้ว...ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกสับสนวุ่นวายและความเจ็บปวดที่มียังร่างบางซึ่งบัดนี้ได้แต่นั่งนิ่งจ้องมองบานประตูที่ถูกกระแทกจนปิดสนิทอย่างไร้จุดหมาย...
ทาส...?
ใช่สิ...เราก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว..รู้อยู่แล้วว่าที่เขาทำไปเป็นเพียงเพราะอารมณ์แบบนั้น..ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับเราเลยสักนิด
...แต่ทำไม...มันถึงรู้สึกเจ็บปวดผิดหวังถึงเพียงนี้กัน...
นัยน์เนตรสีอำพันปรือลงเมื่อล่วงรู้คำตอบที่ฉายชัดอยู่ในใจ..การกระทำอันอ่อนโยนและสัมผัสอันใกล้ชิดของคนผู้นั้นทำให้เขาหลงนึกไปว่าอีกฝ่ายก็คงมีความรู้สึกให้เขาบ้างแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตามที...
ทว่า....ถึงอย่างไรคนผู้นั้นก็คงมิอาจตอบรับความรู้สึกของเขาได้...
เพราะเขา...เป็นเพียงทาสจากการทำพันธสัญญา....
โคซาร์ท...เป็นนายชีวิต...
เพราะเขา...เป็นเพียงมนุษย์ผู้ต่ำต้อย...
โคซาร์ท...เป็นยมฑูตใต้ภิภพ...
ไม่ว่าจะคิดหวังเช่นไรความหวังของเขาที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับยมฑูตตนนั้นเพียงแค่สองคนอย่างมีความสุขก็คงเป็นเพียงแค่ฝัน...
จีอ็อตโต้ถอนใจยาว...เขาไม่ควรนึกหวังอะไรกับความสัมพันธ์ของเขาและโคซาร์ทมากไปกว่านี้อีก...สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือตัดใจจากคนผู้นั้นเสีย และกลับมาทำหน้าที่ทาสให้บรรลุข้อตกลงตามพันธสัญญาจนกว่าชีวิตนี้จะดับสูญ
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเตรียมทำธุระส่วนตัวประจำวันของตน..แต่ไม่ช้าเจ้าตัวก็ได้ยินเสียงราวกับของแข็งบางอย่างร่วงหล่นลงบนพื้น จึงรีบก้มลงกวาดสายตามองบริเวณพื้นเบื้องล่าง...
สร้อยของ...โคซาร์ท...ที่เขาเห็นเมื่อครู่นี้?
นัยน์เนตรสีอำพันฉายแววประหลาดใจ ก่อนรีบหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาพิจารณาอย่างถ้วนถี่...สร้อยเงินมีรอยขาดสะบั้น...จี้ทรงกระบอกที่สลักลายพญานาคสะท้อนแสงเทียนภายในห้องจนเปล่งแสงวาววับ...
ของสิ่งนี้คงจะหล่นระหว่างที่โคซาร์ทรีบผลุนผลันลุกออกจากเตียง...แม้จีอ็อตโต้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เขาคาดเดาว่ามันคงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยจนอีกฝ่ายถึงต้องนำมาห้อยคอติดตัวไว้ตลอด...หากไม่รีบเอาไปคืนล่ะก็อาจทำให้โคซาร์ทต้องเดือดร้อนก็เป็นได้
เร็วเท่าความคิด...ร่างบางก็รีบผลุนผลันออกจากห้องนอนแล้ววิ่งลงบันไดไปยังชั้นล่างของบ้าน เพียงเพื่อหวังจะคืนสร้อยเส้นนี้ให้อีกฝ่ายก่อนที่เขาจะออกจากบ้านออกไปทำงานเสียก่อน
“โคซาร์ท! คุณลืมของ!” ชายหนุ่มตะโกนเรียก แต่ชั้นล่างของบ้านกลับว่างเปล่า...นัยน์เนตรคู่สวยกวาดมองดูโดยรอบ ก่อนขาทั้งสองจะรีบก้าวไปที่ประตูทางออกแล้วแง้มบานประตูออกจากบ้านไปโดยไม่ทันคิด
“โคซาร์ท....รอเดี๋ย...ว..”
กระแสเสียงของจีอ็อตโต้หยุดชะงัก...เมื่อได้เห็นสภาพที่ควรจะเป็นเพียงทางเดินและสวนหน้าบ้านของโคซาร์ทดั่งเช่นที่เคยเห็นเมื่อครั้งมาที่นี่เป็นคราแรก...
ที่นี่คือ...ที่ไหน?
เขายืนอยู่ในทุ่งโล่งกว้างที่มีผืนดินเป็นสีดำปนสีโลหิตอันแดงคล้ำราวกับเศษเลือดเก่าๆ...ท้องฟ้าเบื้องบนเต็มไปด้วยเมฆานิลกาฬโอบล้อมไปด้วยเพลิงโลกันต์สีแดงสด นกและสัตว์เลื้อยคลานรูปร่างแปลกประหลาดบินฉวัดเฉวียนส่งเสียงร้องอื้ออึงกึกก้องผ่านเพลิงโลกันต์บนฟากฟ้าราวกับแมงเม่าที่บินเล่นแสงไฟ
สัตว์นรกตนหนึ่งบินโฉบลงมาผ่านเหนือศรีษะของเขาไปเกาะอยู่เหนือต้นไม้ใหญ่ที่มีเพียงกิ่งก้านแห้งกรัง เพลิงโลกันต์ที่นกตัวนั้นนำมาจากท้องฟ้าเบื้องบนลุกลามต้นไม้ต้นนั้นจนมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าถ่านในช่วงเสี้ยววินาที
จีอ็อตโต้ตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง...ครั้นเมื่อหันหลังกลับ...บ้านของโคซาร์ทที่ตนเพิ่งผลุนผลันออกมาก็พลันหายวับไปเสียแล้ว...
“อย่าอยู่ห่างจากฉัน”
คำพูดของยมฑูตหนุ่มที่เคยเอ่ยเตือนเขายามที่ได้ลงมาในนรกภูมิแห่งนี้เป็นครั้งแรกดังแว่วเข้ามาในมโนคิด...จีอ็อตโต้เพิ่งรู้เหตุผลของคำพูดนั้นชัดแจ้งในตอนนี้...ที่แห่งนี้เป็นโลกใต้ภิภพซึ่งคงมีมิติที่แตกต่างซ้อนทับกันอยู่มากมาย...หากไม่อาศัยพลังยมฑูตจากโคซาร์ทเขาก็คงหลงวนเวียนอยู่ในมิติต่างๆจนมิสามารถหาทางออกเองได้
โคซาร์ทห้ามเขา...ไม่ใช่เพราะอยากกักขังเขาเยี่ยงทาส...
แต่เป็นเพราะห่วง...ไม่อยากให้เขาต้องมาเผชิญอันตรายเช่นนี้ต่างหาก...
“บ้าจริง..” ชายหนุ่มสบถเขารู้สึกโมโหกับการทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังของตนเองนัก...แถมยังหลงเข้าใจคนผู้นั้นผิดๆ...ทั้งๆที่อีกฝ่ายคอยพร่ำเตือนเขาตลอดว่าอย่าออกไปจากบ้านหลังนี้โดยพลการแต่เขาก็ไม่รู้จักจำ
จีอ็อตโต้ก้าวเดินสำรวจรอบๆที่โล่งแห่งนี้อย่างระแวดระวัง...พื้นดินเบื้องล่างทั้งนุ่มทั้งชื้นไปด้วยของเหลวสีแดงคล้ำ ตามซอกพื้นดินที่แตกระแหงปรากฎโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะของมนุษย์แซมอยู่เป็นระยะชวนให้ขนลุกยิ่ง
ร่างบางเดินตัดทุ่งโล่งไปจนถึงแอ่งน้ำแห่งหนึ่งทีดู่คล้ายกับโอเอซิสท่ามกลางทะเลทรายสีเลือด ตรงกลางประกอบด้วยแอ่งน้ำสีเขียวใสซึ่งรายล้อมไปด้วยแมกไม้รูปร่างพิลึกพิลั่น เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ แอ่งน้ำนิ่งตรงหน้าก็กระเพื่อมเป็นวงกว้างจนร่างบางต้องรีบหยุดชะงัก
ทันใดนั้นโครงกระดูกสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำสีมรกต...นัยน์ตาสีแดงที่ประทับอยู่บนช่องลูกตาที่กลวงโบ๋จับจ้องมายังร่างของจีอ็อตโต้อย่างหมายชีวิต...ก่อนมันจะโถมตัวเข้าโจมตีร่างบางอย่างรวดเร็ว
จีอ็อตโต้เบี่ยงตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด..เขาพยายามเร่งพลังไฟดับเครื่องชนจากภายในร่างกายแต่มันกลับไม่เป็นผล...ดูเหมือนว่าตั้งแต่มาอยู่ในนรกแห่งนี้พลังทั้งหมดที่เขาครอบครองเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์นั้นพลันมลายหายไปสิ้น
เมื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้...เขาเป็นเพียงมนุษย์อ่อนแอธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น...
หากไม่มีโคซาร์ท...เขาก็คงอยู่ในโลกอันเลวร้ายแห่งนี้ไม่ได้..
จีอ็อตโต้กระโดดหลบการโจมตีของสัตว์เดรัจฉานตรงหน้าอย่างเฉียดฉิวอีกครั้ง แต่ครานี้กรงเล็บของมันได้ทิ้งรอยแผลฉีกขาดเป็นทางยาวไว้ที่บั้นเอวด้านขวาของเขา...โลหิตสีแดงสดพุ่งกระฉูดลงบนพื้นดินเบื้องล่างคละเคล้ากับของเหลวสีชาดที่เจ่อนองแผ่นดินของนรกภูมิแห่งนี้จนมิสามารถแยกออกได้ว่านั่นคือเลือดของเขาหรือเลือดของผืนนรกแห่งนี้กันแน่
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกดแผลของตนเองไว้แน่น ก่อนรีบกระโดดหนีหลบร่างยักษ์ของกระดูกเดรัจฉานที่เฝ้าไล่ตามเขาราวกับสัตว์กินเนื้ออกล่าเหยื่อ
เขาหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนเร่งฝีเท้าไปจนถึงป่ารกชักแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยไม้ยืนต้นที่ไร้ใบ...เขารีบรุดเข้าไปด้านในหมายจะหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น
ตูม!!
เสียงกระดูกขนาดยักษ์หล่นกระทบพื้นดินดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ร่างของสัตว์ประหลาดตนนั้นจะพุ่งถลาเข้ามาหาจีอ็อตโต้จนต้นไม้น้อยใหญ่ล้มระเนระนาดเป็นทางยาว
ร่างบางถูกไล่ต้อนออกไปเรื่อยๆจนแผ่นหลังประชิดต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง..นัยน์ตาสีอำพันกวาดมองดูโดยรอบอย่างตื่นตระหนก เมื่อพบว่าตนเองยืนอยู่ตรงซอกหินซึ่งเป็นทางตันเสียแล้ว
โครงกระดูกยักษ์คืบคลานเข้ามาใกล้ร่างอันอ่อนแรงของจีอ็อตโต้...เขาได้แต่ทรุดลงนั่งกับพื้นรอคอยความตายที่คืบคลานเข้ามาใกล้...จงอยปากของสัตว์ประหลาดตรงหน้าพุ่งตรงเข้ามายังศรีษะของเขาอย่างรวดเร็วโดยมิอาจหลบ...ร่างบางจึงได้แต่หลับตาอย่างยอมรับชะตาชีวิตก่อนกำจี้ห้อยคอในมือเอาไว้แน่น...
โคซาร์ท....
ฉัน....
ทันใดนั้นแสงสีขาวสะอาดก็สว่างวาบขึ้นมาจากจี้ห้อยคอทรงกระบอก...ลำแสงที่เจิดจ้าราวกับแสงตะวันทำให้นัยน์ตาของจีอ็อตโต้พร่าเลือนจนมิอาจมองเห็นสิ่งรอบนอกใดได้...เขาได้ยินเสียงสัตว์ประหลาดร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่สรรพสิ่งทั้งหมดจะกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง...
ร่างบางค่อยๆปรือเปลือกตาขึ้นช้าๆ...แสงสว่างสีขาวเจิดจ้าเริ่มอ่อนแสงลงแล้ว...ภาพเบื้องหน้าเริ่มปรากฎชัดเจนในลานสายตา
นัยน์เนตรสีอำพันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง...เมื่อพบว่าตนเองกำลังนั่งอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดที่หนึ่ง...
เขานั่งอยู่บนพื้นไม้เก่าคร่ำคร่า...เมื่อกวาดสายตาดูโดยรอบก็พบว่าเขากำลังอยู่ในห้องโถงของบ้านไม้ที่เก่าและทรุดโทรมหลังหนึ่ง...เก้าอี้และเครื่องเรือนโดยรอบถูกทำลายจนเหลือแต่เศษไม้ล้มระเนระนาดไปทั่ว
บ้านหลังนี้....?...บ้านของใครกัน?
จีอ็อตโต้ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน..เขาสอดส่องสายตาไปรอบทิศทางอย่างระแวดระวัง และไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นรอยเลือดสายหนึ่งไหลหยดเป็นทางยาวจากตรงใจกลางห้องไล่ลามไปจนถึงประตูบานหนึ่งซึ่งน่าจะเชื่อมต่อกับอีกห้องหนึ่งของบ้าน
ชายหนุ่มค่อยๆเดินไปตามรอยเลือดนั้น...ยิ่งเข้าใกล้ต้นตอมากเท่าใดเลือดที่หยดเปื้อนบนพื้นก็ทวีจำนวนมากขึ้นจนขังตัวเป็นแอ่งของเหลวสีแดงสด...เขาสังเกตเห็นรอยเลือดเปรอะเป็นปื้นใหญ่ราวกับมีใครลากร่างหรือวัตถุที่เปื้อนเลือดอะไรบางอย่างผ่านทางเดินแห่งนี้ไปไม่นาน
“คาเรล....คาเรล...ไม่!”
เสียงร้องของเด็กชายคนหนึ่งเรียกความสนใจจากร่างบาง ดวงเนตรสีอำพันตวัดไปยังบานประตูของห้องหนึ่งที่ถูกแง้มเปิดไว้ แสงเทียนสีเหลืองนวลลอดผ่านร่องประตูออกมาทำให้เขาเห็นเงาของใครคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้อีกฟากหนึ่งของบานประตู
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตายๆๆๆพวกมันตายแล้ว!!!ดี!!!ตายกันไปให้หมด!!!!” เสียงคำรามของชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง
จีอ็อตโต้เดินเข้าไปประชิดบานประตูก่อนแอบมองสถานการณ์ภายในห้องผ่านช่องประตูที่แง้มเปิดออกและไม่ช้าดวงเนตรสีอำพันก็เบิกกว้าง
เด็กชายอายุไม่เกินต้นสิบกำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่กับพื้น...เรือนผมสีแดงเพลิงและดวงตาสีทับทิมที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาดึงความสนใจของจีอ็อตโต้ตั้งแต่แรกเห็น....ในอ้อมแขนของเด็กชายผู้นี้ปรากฎร่างของเด็กหญิงอายุประมาณห้าขวบคนหนึ่งนอนแน่นิ่งด้วยร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือด
“ทำไม!!! ทำไมพ่อต้องฆ่าแม่กับคาเรลด้วย!!!” เด็กชายตวาดใส่ร่างสูงกว่าที่ยืนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ไม่ไกล...หยดน้ำตาไหลรินลงกระทบรอยเลือดบนพื้นจนเป็นวงชื้น..
“เพราะพวกมันไม่เอาเงินมาให้ฉัน!!!” ชายคนนั้นตวาดใส่เด็กน้อยอย่างกราดเกรี้ยว”ฉันต้องการเงิน ฉันต้องการเหล้า!!เอามา เอาเงินมา!!”
“อย่า!” จีอ็อตโต้ตะโกนลั่นก่อนรีบผลุนผลันเข้าไปในห้องแล้วพุ่งตัวเข้าไปหาเด็กชายบนพื้น แต่วินาทีที่เขาพุ่งตัวเข้าไปโอบกอดร่างเล็ก...แขนของเขาก็คว้าได้แต่เพียงความว่างเปล่าราวกับที่ตรงนั้นไม่มีสสารที่จับต้องได้วางอยู่เลย
“เอ๋?” ร่างบางก้มมองมือตนเองอย่างประหลาดใจ...ภาพของชายบ้าคลั่งและเด็กน้อยยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีใครสังเกตถึงการปรากฎตัวของเขาแม้แต่น้อย
“หึหึหึ...ถ้าแกไม่อยากตายเหมือนแม่กับน้องแกล่ะก็...เอาเงินมาให้ฉันซะ!โคซาร์ท!!”
โคซาร์ท....?!
คำพูดของชายคนนี้เป็นราวกับหอกแหลมทิ่มแทงที่กลางใจของจีอ็อตโต้ ดวงเนตรสีอำพันตวัดมามองเด็กชายที่บัดนี้นั่งกอดศพของน้อยสาวร้องไห้อยู่ข้างเขา...
เด็กคนนี้...คือโคซาร์ทหรอ?
ดวงเนตรสีทับทิมของเด็กน้อยจับจ้องไปยังผู้เป็นบิดาด้วยความอาฆาต แล้วเจ้าตัวก็ตวาดก้องออกมาอย่างไม่เกรงกลัวว่า “ไม่มีทาง!!!ไปตายซะ!!ผมไม่มีพ่ออย่างคุณ!!”
“ปากดีนัก! งั้นก็ไปตายซะ!ไอ้ลูกอกตัญญู!” ผู้เป็นบิดาตวาดอย่างกราดเกรี้ยว ก่อนกระชับมีดในมือเอาไว้แน่นแล้วพุ่งตัวเข้าหาเด็กชายหมายเอาชีวิต
“อย่า..ไม่!!หยุดนะ!” จีอ็อตโต้ร้องตะโกนห้ามแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ยิน แขนบางเอื้อมเข้าไปโอบกอดร่างเล็กของเด็กน้อยแม้จะรู้ว่าคงคว้าได้เพียงอากาศธาตุ...ดวงเนตรสีอำพันจ้องมองโชคชะตาของเด็กชายผู้โชคร้ายด้วยความหวั่นพรึงและตื่นตระหนก
ฉัวะ!!
เสียงของมีคมกระซวกผ่านเนื้อสดๆดังกลบทุกสรรพสิ่งในโสตประสาทของจีอ็อตโต้...ภาพตรงหน้าทำให้ดวงเนตรคู่สวยเบิกกว้างพร้อมกับหัวใจที่ถูกบีบรัดจนรู้สึกเจ็บ..
เจ็บปวดแทนเด็กชายผู้นี้...ที่จำต้องสังหารบิดาของตนเอง...
เด็กชายหอบหายใจด้วยใบหน้าที่ฉายแววตื่นตระหนกอย่างสุดหัวใจ...ดาบยาวในมือขวาทิ่มแทงตัดขั้วหัวใจของผู้เป็นบิดาอย่างตรงเป้า...ส่วนปลายมีดสั้นในมือของผู้เป็นพ่อจ่อห่างจากคอหอยของเด็กน้อยเพียงแค่ไม่ถึงเซนต์...
หากดาบเล่มนี้สั้นกว่านี้อีกแม้เพียงหนึ่งเซนติเมตร...คนที่ต้องตายก็คงเป็นเด็กชายคนนี้....
เด็กชายที่มีนามว่าโคซาร์ท....
โลหิตสีแดงสดไหลรินผ่านคมดาบลงมาเปื้อนมือน้อยแล้วหยดลงบนพื้น...ร่างสูงของผู้เป็นบิดาหอบหายใจอย่างขาดห้วง ก่อนจะสิ้นสติแล้วล้มลงบนพื้นเข้าสู่ห้วงนิทราอันเป็นนิรันดร์
จีอ็อตโต้จ้องมองเด็กชายด้วยอารมณ์มากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก...เด็กน้อยยังคงนิ่งอึ้งถือดาบในมือเอาไว้อยู่อย่างนั้น...ดวงเนตรสีทับทิมที่ฉายแววตื่นตระหนกบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นหมองหม่นไปด้วยความว่างเปล่า...
“โอ้....มาช้าไปหน่อย...ก็มีคนมาช่วยจัดการหรือนี่...”
เสียงนุ่มทุ้มของใครคนหนึ่งทำให้ทั้งจีอ็อตโต้และเด็กน้อยตวัดสายตาไปมองยังต้นเสียง...และไม่ช้าบรรยากาศที่ว่างเปล่าก็บิดเบี้ยวไปมาก่อนร่างสูงร่างหนึ่งที่สวมชุดคลุมสีดำสนิทจะปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขา...
นัยน์เนตรสีเลือดหมู...เรือนผมสีดำสนิท....ท่าทีหยิ่งทรนงราวกับไม่กลัวสิ่งใดในโลกแม้แต่เทพเจ้า...
“ไม่เสียทีที่ข้ามาออกสนามด้วยตนเอง...ถึงได้เจอเรื่องราวน่าสนใจแบบนี้กับตา” ชายผู้นั้นเอ่ยกลั่วเสียงหัวเราะ
“คุณ...เป็นใคร....” เด็กน้อยเอ่ยด้วยกระแสเสียงติดขัด...ร่างทั้งร่างของเขาแข็งทื่อเมื่อได้สัมผัสกับจิตสังหารอันมหาศาลของผู้มาเยือน
“ข้ามีนามว่าฮาเดส...” ชายผู้นั้นเอ่ยพลางคุกเข่าลงนั่งตรงหน้าเด็กชาย “ตอนแรกข้าคิดจะมาเอาชีวิตคนบาปหนาเช่นพ่อของเจ้า...นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถฝืนโชคชะตาลงมือฆ่าบิดาของตนเอง...แม้แต่ยมฑูตก็ยังคาดเดาการกระทำของเจ้าไม่ได้”
“ผ...ผม...” เด็กน้อยมีท่าทีตื่นกลัว...เขาจ้องมองมือทั้งสองของตนเองที่เปื้อนเลือด ก่อนเลื่อนสายตาไปมองร่างที่ไร้วิญญาณของผู้เป็นบิดา “ผม...ฆ่า...พ่อ...”
“อย่ากลัวไปเลย...โคซาร์ท” การที่อีกฝ่ายล่วงรู้ชื่อของตนเองโดยที่ยังไม่เคยรู้จักทำให้เด็กน้อยตาเบิกกว้าง “การฆ่าคนชั่วแบบนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว...หากเจ้าไม่ทำ...ยมฑูตของข้าก็คงต้องเป็นฝ่ายฆ่ามันอยู่ดี...”
“เล่นการพนัน...กินเหล้า..ซ้อมภรรยาและลูกเป็นอาจิณ...สุดท้ายพอไม่ได้ดั่งใจก็ฆ่าตาย...คนแบบนี้อยู่ไปก็รกโลก...จริงไหม? โคซาร์ท...” ฮาเดสเอ่ยพลางส่งยิ้มเย็นไปให้เด็กน้อย ก่อนเอื้อมมือไปลูบเรือนผมสีแดงเพลิงอย่างเอ็นดู
“คุณ...จะมาเอา..ชีวิตผมหรอ...” โคซาร์ทเอ่ยด้วยความหวาดกลัว...แต่อีกฝ่ายกลับเพียงส่ายหน้าไปมาแล้วเอ่ยด้วยกระแสเสียงทรงพลังอำนาจ
“หากเป็นคนอื่น...การทำปิตุฆาตถือเป็นโทษหนักที่ควรจับวิญญาณไปขังในนรกชั่วกัปป์ชั่วกัลป์....” ฮาเดสหยุดพูดไปชั่วเวลาหนึ่ง
“ทว่า...สำหรับเจ้า...คงไม่ใช่...”
“ผม...” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นไปสบกับผู้เป็นใหญ่ ดวงเนตรสีทับทิมที่เปื้อนคราบน้ำตาฉายแววสับสน
“มนุษย์ที่ยมฑูตมิสามารถคาดเดาการกระทำได้เช่นเจ้า...เป็นผู้เหมาะสมที่จะเป็นยมฑูตอันยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต...” ฮาเดสหัวเราะในลำคอ “แถมเจ้ายังมีความกล้าหาญ..เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแม่และน้องอยู่หลายครั้งหลายครา...และเมื่อบิดาสมควรถูกลงทัณฑ์...เจ้าก็กล้าที่จะเป็นฝ่ายลงโทษเองอีกด้วย...”
พูดจบเจ้าตัวก็ลุกขึ้นยืน...ก่อนส่งมือมาให้เด็กน้อยตรงหน้า...
“มากับข้าสิ...โคซาร์ท...มาอยู่กับข้าในฐานะยมฑูต”
“ยมฑูต....?” เด็กน้อยทวนถามราวกับไม่แน่ใจว่าเรื่องตรงหน้าเป็นความฝันหรือไม่
“มันเป็นเรื่องจริง..มิใช่ความฝันหรอก” ฮาเดสตอบอีกฝ่ายราวกับอ่านใจได้ “หากเจ้าเป็นยมฑูต เจ้าก็จะได้ละเว้นโทษในการทำปิตุฆาตในครั้งนี้...และนอกจากนั้นเจ้าจะยังช่วยผดุงความยุติธรรมในโลกใต้ภิภพ..คอยกำจัดเหล่าคนชั่วที่อำนาจรัฐมิสามารถเอื้อมถึงได้อีกด้วย”
“จริงหรอ...” เด็กน้อยมีท่าทีเปลี่ยนไปราวกับเห็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวอยู่ท่ามกลางความมืด “ผม...จะช่วยกำจัดคนชั่ว...ช่วยคนอื่นได้จริงหรือ?”
“จริงสิ” ฮาเดสเอ่ยด้วยกระแสเสียงอ่อนลง ดวงเนตรสีเลือดหมูฉายแววเอ็นดูอย่างที่มิเคยแสดงให้ใครเห็น “ทว่า...เจ้าจักต้องละทิ้งความทรงจำของเจ้ายามที่เป็นมนุษย์ไปเสีย...กลายเป็นยมฑูตที่ไม่มีจิตใจ..ไม่มีความรัก...ไม่มีความเห็นใจ...มีเพียงแต่ความมั่นคงกับการลงทัณฑ์เท่านั้น”
ความเงียบสงัดโรยตัวอยู่รายล้อมหนึ่งเจ้านรกและหนึ่งเด็กชายที่กำลังอยู่ในห้วงคำนึง...
“ว่าไง..เจ้าจะทำได้หรือเปล่า?” จ้าวนรกเอ่ยพลางกระตุกรอยยิ้มเย็น
เด็กน้อยก้มหน้าลงมองพื้น...เขาเหลือบไปมองร่างไร้วิญญาณของน้องสาว...เลยไปยังร่างไร้ชีวิตของผู้เป็นมารดาที่นอนกองอยู่ตรงริมห้อง...ก่อนจะจบด้วยศพของผู้เป็นบิดาที่บัดนี้นอนนิ่งอยู่แทบเท้าของผู้เป็นใหญ่ตรงหน้า...
“ผม..จะละทิ้งทุกสิ่ง..เพื่อเป็นยมฑูต...” เด็กน้อยเอ่ยด้วยสายตาฉายแววแน่วแน่...
ยมฑูตที่ไร้จิตใจ...ไร้อารมณ์...ไร้ความรัก...
ยมฑูตผู้มีนามว่าโคซาร์ท....
และไม่ช้าแสงสว่างเจิดจ้าเช่นเดียวกับตอนเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดก็พวยพุ่งขึ้นมาจากจี้ทรงกระบอกในมือของจีอ็อตโต้...ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนไปด้วยแสงสีขาวแสบตา...ก่อนแสงสว่างจะค่อยจางหายเผยให้เห็นทิวทัศน์ในป่าไร้ใบเหมือนเช่นเมื่อก่อนหน้านี้...
ดวงเนตรสีอำพันกวาดมองไปรอบๆ...เขายังนั่งอยู่ที่เดิมตอนที่เผชิญหน้ากับสัตว์นรกตัวนั้น...ผิดที่เบื้องหน้าของเขาไม่มีโครงกระดูกขนาดยักษ์ที่จ้องเอาชีวิตเขาเช่นเมื่อครู่อีกแล้ว...ภาพตรงหน้ามีเพียงต้นไม้สูงไร้ใบและผืนดินอันแห้งเผือดไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตเท่านั้น...
จีอ็อตโต้พิงศีรษะกับต้นไม้เบื้องหลัง...หยาดโลหิตยังคงไหลซึมจากแผลที่บั้นเอวจนเขาเริ่มรู้สึกสะลึมสะลือจากการเสียเลือด...ดวงเนตรสีอำพันค่อยๆปรือปิดลงพร้อมกับสติที่พลันจะดับวูบ...
นั่นคือความทรงจำของโคซาร์ทงั้นหรือ....?...
อดีตของโคซาร์ท...เมื่อครั้ง...ยังเป็นมนุษย์....
.
.
TBC.
.
.
มาแว้ววววว หายไปหลายวัน (หลายวัน ??) รีดเดอร์บ่นคิดถึงกันน่าดู (หรา ? 5555)
มีปมแล้ว เรื่องเริ่มมีปม และโคซาร์ทมีปม -3-
แบบสปอยนิดนึง ตอนหน้าเตรียมหมูกบานกันให้เต็มที่เถอะ ฮ่าๆๆๆ >OO<
ความคิดเห็น