ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] Be my SLAVE ♡ {Cozart x Giotto}

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 04

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 55


    04.


    มือเรียวบางปาดเหงื่อที่ผุดพรายตามไรผมและต้นคออย่างลวกๆพร้อมกับถอนหายใจหอบเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า นัยน์ตาสีอำพันที่หมองลงด้วยความเพลียกวาดมองไปยังมุมต่างๆภายในบ้าน

     

    จากเครื่องเรือนที่สภาพเก่าคร่ำครึจับหนาไปด้วยฝุ่นและหยากไย่บัดนี้กลับสะอาดเอี่ยมเหมือนกับของใหม่ พื้นไม้ที่เคยเต็มไปด้วยรอยเท้าของเจ้าของบ้านนั้นมันวาวแลดูสะอาดตา ...ทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านนั้นจีอ็อตโต้เป็นคนจัดการกับมันทั้งหมดตั้งแต่ทำความสะอาดไปจนถึงจัดมันให้เข้าที่เข้าทาง ...

     

    ชายหนุ่มถอนใจอย่างโล่งอก...เมื่อเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเช่นนี้แล้วเขาค่อยรู้สึกคุ้มแรงเหนื่อยหน่อย

     

    จีอ็อตโต้คิดว่าเขาเริ่มต้นกับโคซาร์ทไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก...

     

    จริงอย่างที่ร่างสูงบอกทุกประการว่าหนทางนี้เขาเป็นคนเลือกเองทั้งสิ้น...ดังนั้นถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายมากเพียงไรก็ตาม...เขาก็คงต้องกล้ำกลืนฝืนทนทำให้มันลุล่วงและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้

     

    เขาจะต้องปรับตัวให้ชินและเตรียมรับกับทุกๆเรื่องให้จงได้

     

    จากการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาของโคซาร์ททำให้จีอ็อตโต้เริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติต่ออีกฝ่ายเสียใหม่...เรื่องที่โคซาร์ททำร้ายเขานั้น..เขาคิดว่าที่อีกฝ่ายทำไปคงเพราะอารมณ์ชั่ววูบที่เข้าครอบงำจนทำให้ลืมตัวจนเผลอทำรุนแรงกับเขาเสียมากกว่า...

     

    ดังนั้นมันจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะจีอ็อตโต้จะไม่ทำผิดเป็นครั้งที่สอง

     

    แม้คราแรกจะดูเหมือนว่าโคซาร์ทเป็นคนที่น่ากลัว...หากแต่ความจริงนั้นกลับไม่ใช่เลยสักนิด ...นัยน์ตาสีทับทิมที่ลุกโชนไปด้วยแรงโทสะนั้นอาจเป็นเพียงแค่เปลือกนอก เพราะแท้จริงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นคือความอบอุ่นในแบบที่ไม่ว่าใครในโลกคงไม่เคยได้พานพบ

     

    และยิ่งไปกว่านั้น ...เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ฉายออกมาทางแววตาของอีกฝ่าย แม้บางครั้งจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม

     

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยก็คือ โคซาร์ทคือบุคคลที่ลึกลับและแฝงไปด้วยความหลังมากมาย ซึ่งสิ่งนี้เองก็เป็นเรื่องน่าค้นหาสำหรับจีอ็อตโต้ไม่น้อย

     

    เข็มของนาฬิกาเดินไปอย่างเชื่องช้าจนไม่รู้ว่าตนคิดไปเองหรือเปล่า ...ทว่าตั้งแต่ที่จีอ็อตโต้ถูกพาตัวมาที่ยมโลกแห่งนี้...เขารู้สึกว่าเวลามันเดินช้าลงกว่าที่ควรจะเป็นมากเหลือเกิน...

     

    ซ้ำร้ายกว่านั้นเวลาของที่นี่กลับเดินตรงข้ามกับของบนโลกเหนือภิภพโดยสิ้นเชิง...โดยเข็มของนาฬิกานั้นเดินถอยหลัง..แถมที่หน้าปัดยังมีเลขที่ไม่ควรจะมีอย่างเลข 13 ปรากฎอยู่ด้วย

     

    ถือเป็นเรื่องอันดับต้นๆเลยล่ะมั้งที่จีอ็อตโต้ควรจะปรับตัวให้ชิน

     

    ทันทีที่เข็มยาวและเข็มสั้นของนาฬิกาบรรจบกันที่เลข 13  ม่านหมอกสีดำทมิฬเฉกเช่นเดียวกับที่ตรอกนั้นก็ปรากฏขึ้นและค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยซึ่งพลันมาปรากฎอยู่ตรงหน้า ทั้งสีหน้าและแววตาที่ไร้อารมณ์ของโคซาร์ททำให้ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออย่างเตรียมรับมือ

     

    นัยน์ตาสีทับทิมมองนิ่งมาที่ร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าก่อนจะเบนไปทางซ้ายที ขวาที กวาดสายตาสำรวจรอบๆห้อง

     

    “อย่าบอกนะว่าฝีมือนาย ?”  เสียงทุ้มนั้นเอ่ยนิ่งๆ ไร้ซึ่งอารมณ์ใดเจือปน

     

    และจากท่าทีของร่างสูงนั้นทำให้จีอ็อตโต้ถึงกับเหงื่อตก บางทีเขาอาจจะพลาดที่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องเข้าให้แล้ว !

     

    “ข... ขอโทษที่ยุ่งกับของของคุณ ขอโทษที่ย้ายของโดยไม่ได้รับอนุญาต ...”  ร่างบางพูดชัดถ้อยชัดคำด้วยเสียงดังฟังชัด ก้มหน้าหลับตาปี๋ไม่กล้าสบสายตากับคนตรงหน้า

     

    “... อ ..เอ่อ ...แล้วก็...ขอโทษที่ไม่ได้เตรียมมื้อเย็น”  ประโยคสุดท้ายแทบจะเป็นการกระซิบ แต่หูเทพระดับโคซาร์ทนั้นมีหรือที่จะไม่ได้ยิน...คำพูดและการสารภาพผิดอย่างน่าเอ็นดูของร่างบางตรงหน้าทำให้โคซาร์ทถึงกับหัวเราะพรืดออกมา

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ !

     

    เสียงหัวเราะดังลั่นของโคซาร์ททำให้จีอ็อตโต้ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆด้วยความลุ้นระทึก นี่ตัวเขาคงจะหลุดพ้นจากการลงโทษแล้ว ...ใช่ไหม ?

     

    “ม ...มีอะไรหรอครับ ?”  เอ่ยถามชายตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ

     

    “ขำนายน่ะ ฮ่าๆ”  โคซาร์ทยังคงขำไม่เลิก “ดูทำหน้าเข้าสิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรเลยซักคำ”

     

    “ก็ตอนแรกคุณมองนิ่งๆเหมือนกับไม่พอใจนี่ ...”  ไอ้คนที่ทำหน้าก่อน เป็นคุณไม่ใช่หรือไงกันเล่า ?!  ประโยคหลัง จีอ็อตโต้พูดต่อเองในใจ

     

    “เพราะฉันมีเรื่องให้ต้องคิด ... แต่ก็นะ ...”  โคซาร์ทเว้นช่วงไว้ก่อนจะเอนตัวบิดขี้เกียจ “ไปธุระเหนื่อยๆ กลับมาเจอบ้านตัวเองเป็นระเบียบเรียบร้อยมันก็ต้องชื่นใจเป็นธรรมดา”

     

    “........”

     

    “แล้วก็มื้อเย็น ...ชีวิตทั้งชีวิต ถึงไม่ต้องกินมันฉันก็อยู่ได้”

     

    จีอ็อตโต้พยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้  แต่ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแทบไม่มีแรงยืนซ้ำยังรู้สึกเสียดท้องด้วยความหิว

     

    “โอ้ ...”  โคซาร์ทอุทานอย่างลืมตัว ทันทีที่เห็นท่าทีของร่างบางจึงเข้ามาประคองไว้

     

    “นายยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่มาที่นี้งั้นสินะ”  สายตาห่วงใยของโคซาร์ทถูกส่งผ่านมาให้ ร่างบางในอ้อมแขนยิ้มบางๆก่อนจะหลุบสายตาต่ำลง

     

    “ขอโทษที่ตัวเป็นภาระกับคุ ...”  และก่อนที่ร่างบางจะได้พูดอะไรต่อจากนั้น โคซาร์ทจัดการเชยคางมนของคนตรงหน้าและเลื่อนริมฝีปากเข้ามาประทับจูบอย่างแผ่วเบา

     

    จีอ็อตโต้เบิกตากว้างอย่างตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ภายในหัวสมองนึกถึงบทลงโทษที่โหดร้ายนั้นขึ้นมาทันที หากแต่สัญชาติญาณบางอย่างกลับบอกว่าครั้งนี้มันกลับไม่ใช่เช่นนั้น...

     

    ร่างบางรู้สึกว่าตนได้ถูกถ่ายทอดพลังบางอย่างมาจากโคซาร์ท ทั้งความเหนื่อยล้าและความหิวนั่นมลายหายไปในพริบตา เขากลับรู้สึกถึงความอบอุ่นอันทรงพลังที่พลันแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

     

    โคซาร์ทถอนริมฝีปากออกในที่สุด แย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงนุ่มทุ้ม

     

    “ยมโลก ไม่ใช่ที่ของมนุษย์ ...เราอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไรดังนั้นที่นี่จึงไม่มีอาหาร ...”  โคซาร์ทเว้นช่วงพูดไปก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น ใบหน้าคมคายมีสีแดงระเรื่อแต่งแต้มอยู่จางๆ

     

    “ที่ทำเมื่อกี้เป็นการให้นายดูดพลังในตัวฉัน ...มันก็เหมือนกับการกินข้าวเป็นมื้อๆของพวกมนุษย์นั่นล่ะ เพียงแต่ ...ฉันไม่เคยให้ใครดูดพลังเลย ...นี่เป็นครั้งแรก ...”  เสียงในประโยคช่วงหลังของร่างสูงแผ่วลงเรื่อยๆ

     

    ... ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นในเรื่องที่ตนไม่เคยทำและไม่เคยคิดจะทำกับใคร หรือเพราะกำลังเขินอายคนตรงหน้าอยู่กันแน่

     

    จากท่าทางของคนตรงหน้าทำให้ร่างบางระบายยิ้มออกมาอย่างนึกขอบคุณ ...ลางสังหรณ์ของเขาไม่ผิดจริงๆ โคซาร์ทไม่ใช่คนที่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกเลย

     

    .

    .

     

    ยามค่ำคืนในยมโลกยิ่งน่ากลัวกว่าในโลกมนุษย์หลายเท่านัก เสียงจิ้งหรีดที่ร้องกันเซ็งแซ่และบรรยากาศชวนขนหัวลุกภายในบ้านไม้หลังเก่าๆทำให้จีอ็อตโต้มองซ้ายมองขวาแล้วเร่งสวดภาวนาในใจ

     

    เขานั่งอยู่ในห้องโถงเพียงลำพังโดยที่ร่างกายนั้นไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ  มีเพียงผ้าขนหนูผืนใหม่ของโคซาร์ทที่ปกคลุมร่างกายอันบอบบางอยู่เท่านั้น...แสงไฟจากเทียนเพียงเล่มเดียวทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางปราสาทผีสิงก็ไม่ปาน

     

    หลังจากทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จกันทั้งคู่ โคซาร์ทก็ปล่อยให้จีอ็อตโต้อยู่ข้างล่างคนเดียว ส่วนตนเองขึ้นไปเตรียมเสื้อผ้าที่คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพอใส่ได้มาให้

     

    ใบหน้าของจีอ็อตโต้ขึ้นสีระเรื่อทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

     

    “อาบน้ำมั้ย” เสียงเรียกของโคซาร์ทดังขึ้น ร่างบางที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดการดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านหันไปตามเสียงเรียกแล้วถึงกับต้องชะงัก

     

    ร่างสูงโปร่งกับผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว...แล้วไหนจะแผ่นอกแกร่งขาวเนียนและหน้าท้องแบนราบที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ภาพตรงหน้าทำให้จีอ็อตโต้รีบเบือนสายตาหนีไปอีกทางทันที

     

    “ช ...เชิญคุณก่อนเลย ...”  จีอ็อตโต้พูดอ้อมแอ้มเสียงแผ่วด้วยความเขิน ...ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เถอะแต่ ...ทำไมต้องมาในสภาพที่เกือบโป๊แบบนี้ด้วยเล่า ?!

     

    แล้วจีอ็อตโต้ก็รู้สึกถึงแรงบีบที่ต้นแขนของตน เมื่อคนตรงหน้าเดินเข้ามาประชิด 

     

    “นี่ ฉันอยู่ทางนี้ จะเบือนหน้าหนีทำไม ?!  ท่าทีเขินอายของคนตรงหน้านั้นทำไมโคซาร์ทจะดูไม่ออกกันเล่า...แต่เมื่อได้เห็นความใส่ซื่อบริสุทธิ์และท่าทีกระอักกระอ่วนของร่างเล็ก..เขาก็รู้สึกอยากจะแกล้งอีกฝ่ายให้มากขึ้นอย่างนึกสนุก

     

    “ไปอาบพร้อมกันทีเดียวเลยนี่แหละ”  จากนั้นร่างบางก็ถูกดึงกึ่งลากโดยไม่สามารถขัดขืนใดๆได้ทั้งสิ้น

     

    เมื่อมาถึงบริเวณที่อาบน้ำ โคซาร์ทรู้ก็สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ร่างบางเอาแต่ยืนนิ่งๆ

     

    “ถอดเสื้อสิ ฉันไม่ให้นายลงบ่อทั้งๆที่ใส่ชุดแบบนี้หรอก”  และไม่รอให้จีอ็อตโต้ทำอะไรอย่างงุ่มง่าม ตัวเขาเองจัดการแกะกระดุมเสื้อของร่างบางอย่างว่องไวก่อนที่อาภรณ์ชิ้นอื่นๆจะถูกถอดออกจนไม่เหลือ...

     

    ….

     

    การอาบน้ำพร้อมกับเจ้านายสำหรับจีอ็อตโต้นั้นผ่านพ้นไปด้วยดี ...

     

    เสียงฝีเท้าของโคซาร์ทที่เดินลงบันไดมาทำให้จีอ็อตโต้หลุดจากภวังค์  ก่อนที่มือหนาของอีกฝ่ายจะโยนชุดเสื้อและกางเกงมาให้เขา

     

    “รีบๆใส่ซะ ...เห็นนายในสภาพนี้เดี๋ยวได้อดใจไม่ไหวกันพอดี ” ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ นัยน์ตาสีทับทิมฉายแววระริกอย่างที่ทำให้จีอ็อตโต้รู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด

     

    ...ดูคำพูดของเขาสิ...

     

    ในห้องน้ำก็รู้ว่าจงใจจะแกล้งกันไปทีหนึ่งแล้ว...ยังจะพูดจาลามกแบบนี้อีก !

     

    .

    .

     

    กลางดึกเป็นเวลาที่เงียบสงัดที่สุดของวัน..จีอ็อตโต้เดินตามร่างสูงโปร่งขึ้นไปยังบริเวณชั้นสองของตัวบ้าน ...ด้านบนนั้นมีเพียงห้องนอนเพียงห้องเดียวที่เขาสังเกตเห็นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาถึง...ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดนั่นคงจะเป็นห้องนอนของโคซาร์ท

     

    แสงเทียนหลายเล่มถูกจุดขึ้นพร้อมกันในทันทีที่โคซาร์ทก้าวเดินเข้ามา ภายในห้องที่กว้างขวางนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรอยู่เลยนอกจากเตียงนอนขนาดคิงไซส์กับตู้เสื้อผ้าไม้เก่าๆ หลังหนึ่งเท่านั้น

     

    โคซาร์ททิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตนก่อนจะหลับตาพริ้มไม่สนใจจีอ็อตโต้ที่มองอย่างเก้ๆกังๆ อยู่เพียงลำพัง...ร่างบางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าก่อนจะเปิดและหยิบผ้านวมผืนใหญ่ออกมาและปูลงบนพื้นข้างๆเตียงเพื่อทำเป็นฟูกนอนแบบชั่วคราว

     

    “ทำอะไรของนายอยู่”  โคซาร์ทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ถึงจะไม่ได้ลืมตาอยู่แต่ก็พอจะรู้ว่าจีอ็อตโต้กำลังทำอะไร

     

    “... ปูที่นอนครับ”

     

    “........”

     

    “.......”

     

    “ฉันไม่ได้สั่งให้นายนอนข้างล่าง ไม่ได้พูดซักคำว่าห้ามนายขึ้นมานอนบนนี้ ...”  จีอ็อตโต้ผงกหัวรับ แต่ก็ยังยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

     

    โคซาร์ทลืมตาขึ้น ก่อนมุ่นหัวคิ้วอย่างหงุดหงิดที่ร่างบางทำอะไรชักช้าไม่ได้ดั่งใจ

     

    “รีบๆขึ้นมาซะสิ”

     

    เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันพยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างระแวดระวัง...และไม่ช้าร่างสูงก็จัดการคว้าเอวบางเข้ามาประชิดก่อนดึงร่างของอีกฝ่ายให้ลงมานอนข้างๆตน ...

     

    กลิ่นกายที่หอมละมุนของโคซาร์ททำให้จีอ็อตโต้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง...บัดนี้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่ไม่ถึงเซ็นต์...นัยน์ตาสีทับทิมสุกสว่างแม้ในยามต้องแสงเทียนอันริบหรี่  ก่อนเจ้าของดวงเนตรจะยื่นใบหน้าเข้ามาประชิดมากขึ้นทำให้จีอ็อตโต้ตัวแข็งทื่อ หลับตาปี๋ ก่อนรีบเม้มริมฝีปากเป็นการป้องกันตัวไว้ก่อน...

     

    แต่แล้ว...สัมผัสอุ่นๆที่หน้าผากก็ทำให้คิ้วที่ขมวดอยู่ของจีอ็อตโต้ค่อยๆคลายลง ...

     

    มือแกร่งเอื้อมมากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ซุกหน้าลงกับเรือนผมนิ่มดุจแพรไหมของร่างบางก่อนจะทิ้งสติให้ดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทราอันแสนหวานที่มิได้อยู่เพียงลำพังอีกต่อไป...

     

    จีอ็อตโต้ถอนใจอย่างโล่งอกก่อนระบายรอยยิ้มบางออกมา...แล้วปรือเปลือกตาลงอย่างผ่อนคลาย ยอมเป็นดั่งหมอนข้างให้ผู้เป็นนายตระกองกอดแต่โดยดี...

     

    บางที....นี่อาจจะเป็นคืนที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยพานพบเลยกระมัง...

     

    .

    .

     

    สามวันของการใช้ชีวิตอยู่ที่ยมโลกผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่จีอ็อตโต้สามารถปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมได้ภายในเวลาอันสั้น ...

     

    ทุกๆวันเขาจะคอยเฝ้าดูแลบ้านในระหว่างที่โคซาร์ทออกไปทำงาน ก่อนจะเฝ้ารอให้อีกฝ่ายกลับมาตอนเย็นพร้อมกับเสบียงอาหารจากโลกมนุษย์

     

    ทั้งสองมักจะทานมื้อเย็นด้วยกันในเวลากลางคืนภายใต้แสงเทียน แม้จะฟังดูออกจะโรแมนติกเกินไปหน่อยแต่ความจริงแล้วมันเป็นเพราะว่าที่ยมโลกแห่งนี้ไม่ได้มีไฟฟ้าใช้เหมือนอย่างโลกมนุษย์ ดังนั้นที่นี่จึงไม่แตกต่างอะไรเลยกับโลกมนุษย์ในยุกดึกดำบรรพ์ซึ่งอาศัยแสงเทียนหรือเศษฟืนเพื่อให้แสงสว่าง

     

    โคซาร์ทนั่งเท้าคางมองจีอ็อตโต้ที่ค่อยๆตักอาหารเข้าปากอย่าเชื่องช้าอีกทั้งยังรับประทานอย่างเป็นระเบียบอย่างเพลิดเพลิน...การได้ใช้ชีวิตร่วมกับจีอ็อตโต้แบบนี้ก็ดีไม่น้อยเพราะมันทำให้เขาเข้าใจการใช้ชีวิตของมนุษย์มากขึ้น

     

    จากชีวิตของยมทูตที่อยู่ในเงามืด...ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังและทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง...มันคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีเพื่อนคู่ชีวิตนั้นก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย..

     

    แม้จะเป็นในฐานะนาย – ทาสก็ตามที...

     

    “เคี้ยวเอื้องอย่างนั้นเมื่อไหร่จะเสร็จหา ฉันไม่มีเวลามานั่งรอนายกินทั้งคืนหรอกนะ”  โคซาร์ทบ่นพึมพำให้คนตรงหน้าได้ยิน แต่แล้วร่างบางก็สวนทันควัน

     

    “คุณไม่ต้องนั่งเฝ้าผมตลอดเวลาหรอกครับ”  จีอ็อตโต้พูดยิ้มๆในขณะที่เคี้ยวตุ้ยๆ แต่คำพูดนั้นทำให้ร่างสูงฉุกคิดขึ้นมาได้ ...

     

    เออ แล้วนี่เราจะมานั่งรอทำไม ?

     

    จีอ็อตโต้เห็นโคซาร์ทเอาแต่ขมวดคิ้วมุ่นราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง...เขาจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความระแวดระวัง

     

    “ผ ..ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่า ?” 

     

    สีหน้าลังเลของอีกฝ่ายทำให้โคซาร์ทยิ้มเย็นๆออกมา  “ที่นั่งเฝ้าเพราะถ้าเกิดนายคิดหนี ...ฉันจะได้รีบลงโทษสถานหนัก” 

     

    หากแต่เหตุผลที่แท้จริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น...เขาเพียงอยากจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับจีอ็อตโต้ให้ยาวนานที่สุดต่างหาก...แต่ละวันที่เลยผ่านนั้นเขาเอาแต่ออกไปทำงานในขุมนรกและตามเก็บกวาดคนชั่วในโลกมนุษย์ จึงไม่ค่อยได้เห็นอะไรที่มันเจริญหูเจริญตาซักเท่าไร...

     

    แต่ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขานึกอยากจะถามร่างบางตรงหน้า

     

    ถ้าสมมติฉันให้โอกาสนายหนี ...นายจะหนีฉันไปไหม ...จีอ็อตโต้ ? 

     

    เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่ายทันทีที่ได้ยินความคิดของโคซาร์ทถ่ายทอดเข้ามาในหัว ...เร็วเท่าความคิด จีอ็อตโต้ก็ตอบกลับออกไปทันที

     

    “แต่ก่อนคงทำ แต่ตอนนี้คงไม่ ...”

     

    “.......”

     

    “หากหนีไป คุณก็จะตามหาผมจนเจออยู่ดี...สู้อยู่ที่นี่ รับใช้คุณไปจนวันตาย ไม่ดีกว่าเหรอครับ” 


     

    รอยยิ้มอันสดใสดั่งแสงอาทิตย์ของร่างบางตรงหน้าทำให้โคซาร์ทรู้สึกตาพร่ามัวไปชั่วครู่ราวกับต้องมนต์สะกด จมดิ่งลงไปสู่การเริ่มต้นครั้งใหม่ของอะไรบางอย่าง ...

     

    บางทีเขาชักจะไม่แน่ใจแล้วกับคำถามที่ถามตัวเองในตอนแรก

     

    ฉัน...จะรักนายหรือเปล่า...จีอ้อตโต้...?

    .

    .

     

    ได้โปรดเถิด ...

     

    หัวใจที่เย็นชาดวงนี้... จงอย่าหลอมละลายให้กับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าตรงหน้าไปมากกว่านี้เลย ...


    .

    .


    TBC.


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×