คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 01
01.
สายฝนโปรยปรายลงมาจากผืนนภายามรัตติกาลบดบังสรรพสิ่งให้เลือนลางราวกับม่านหมอก หยดน้ำใสไหลรินลงอาบย้อมพื้นถนนในตรอกแคบแห่งหนึ่งจนเปียกชื้นบังเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อมกระจายอยู่เป็นระยะ
แอ่งน้ำที่เคล้าไปด้วยของเหลวสีแดงชาด...
เสียงฟ้าร้องคำรามคละเคล้ากับเสียงโอดครวญขอชีวิตของใครคนหนึ่งดังแว่วมากระทบโสตประสาท...ตามด้วยเสียงของมีคมขนาดใหญ่ที่ฟาดฟันลงบนเนื้อสดๆ โลหิตฉีดพุ่งกระจายลงกระทบกำแพงหิน แล้วร่างไร้วิญญาณของใครคนหนึ่งก็หล่นลงกระทบพื้นถนนอันเย็นเยียบ ปล่อยให้ของเหลวสีแดงชาดไหลรินผ่านแอ่งน้ำฝน ที่ไม่ว่าจะชะล้างเช่นไรคราบโลหิตและกลิ่นคาวเลือดก็ไม่ยอมจางหายไปเสียที...
ชายหนุ่มยืนจ้องมองร่างไร้วิญญาณบนพื้น ..ไพลินน้ำงามฉายแววสมใจและชั่วร้ายเหลือคณานับ ริมฝีปากคู่สวยเหยียดยิ้มเมื่อกวาดสายตาไปมองซากศพอีกเกือบสิบร่างซึ่งนอนกองอยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน...
เขาเก็บอาวุธคู่ใจไว้ในเสื้อโค้ทสีเดียวกับท้องฟ้ายามรัตติกาล ก่อนเจ้าตัวจะหมุนร่างหมายจากไปจากตรอกอันอับชื้นไปด้วยกลิ่นคาวเลือดราวกับเป็นขุมนรก
แต่แล้วดวงเนตรสีไพลินก็เบิกกว้าง...เมื่อพบว่ามีใครคนหนึ่งมายืนขวางทางเขาเอาไว้...
นัยน์เนตรสีอำพันจับจ้องมายังบุรุษตรงหน้าด้วยความสับสนและรวดร้าวเหนือประมาณ...ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยกระแสเสียงอันแหบพร่า
“ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย....เดมอน”
นัยน์ตาสีไพลินฉายแววประหลาดใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง...ก่อนจะวาวโรจน์ไปด้วยโทสะที่เจ้าตัวเพียรกลบซ่อนมาตลอด... ริมฝีปากบางของเขาขยับรอยยิ้มเย็น
“ก็เพราะนายไม่ยอมทำ...ฉันถึงต้องทำให้ไง จีอ็อตโต้”
“คนพวกนี้เขาทำอะไรให้นาย!” จีอ็อตโต้คำรามอย่างกราดเกรี้ยว แต่กระนั้นนัยน์เนตรคู่คมก็ยังทอประกายรวดร้าวและรู้สึกผิดกับชายหนุ่มเบื้องหน้า “ที่เอลิน่าตายก็เพราะฉัน...ทำไมนายไม่ฆ่าฉันซะ! ไปทำร้ายคนบริสุทธิ์พวกนี้ทำไม...คนพวกนี้เป็นคนของพวกเรานะ!”
“เพราะพวกมันทำให้วองโกเล่อ่อนแอและตกต่ำ...” เดมอนเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความเคียดแค้น...นัยน์เนตรคู่คมเต็มไปด้วยแรงโทสะและรอยแผลเป็นอันเจ็บปวดจากอดีตที่ยากจะสมาน “ถ้าไม่กำจัดพวกนี้ซะ! พวกเราก็ต้องถูกพวกศัตรูฆ่าเสียแทน!!”
“นายมันบ้าไปแล้ว!” จีอ็อตโต้ออกแรงผลักร่างสูงกว่าตรงหน้าจนอีกฝ่ายถลาไปด้านหลัง นัยน์เนตรสีอำพันที่เคยสุกสว่างราวกับท้องฟ้ายามรัตติกาลบัดนี้หม่นหมองราวกับมีม่านหมอกสีนิลกาฬคล้อยเข้ามาบดบัง เขาได้แต่จับจ้องไปยังพื้นถนนที่เจิ่งนองไปด้วยแองน้ำฝนและสายโลหิต ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ฉันขอร้อง...อย่าเป็นแบบนี้อีกเลยนะเดมอน...” ขอบตาทั้งสองของเขาร้อนผะผ่าว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือนจากหยาดน้ำใสที่เอ่อล้นเข้ามาบดบัง
“กลับมาเป็นแฟมิลี่อันอบอุ่นของพวกเรา...กลับมาเป็นวองโกเล่เหมือนเช่นแต่ก่อนเถิด...”
ได้ยินเช่นนั้นดวงเนตรสีไพลินก็วาวโรจน์ไปด้วยเพลิงพิโรธที่โหมกระหน่ำ...ก่อนเจ้าตัวจะออกแรงกระชากร่างบางตรงหน้าจนแผ่นหลังของอีกฝ่ายกระแทกเข้ากับกำแพงหินอย่างแรงจนร่างเล็กไอกระอักออกมา แล้วคมเคียวในมือก็ถูกวาดเข้ามาทาบทับกับลำคอระหงอย่างหมายชีวิต
“ทุกอย่างมันเพราะความอ่อนแอของนาย!!” เดมอนตวาดเสียงก้อง คมเหล็กรูปจันทร์เสี้ยวอันคมกริบถูกกดลงบนเนื้อนวลจนของเหลวสีชาดไหลซึมออกมาเป็นทาง
“เพราะนายทำให้วองโกเล่อ่อนแอ!!! เอลิน่าถึงต้องตาย!!”
ซ่า....ซ่า....
เสียงสายฝนเทกระหน่ำลงมากระทบร่างของทั้งสอง...ความกรุ่นโกรธเป็นของร่างสูงโปร่ง...ความสงบนิ่งเป็นของร่างบาง...อำพันอันหมองหม่นเงยขึ้นมาสบกับไพลินที่สุกร้อนราวกับโดนเพลิงแผดเผาโดยมิได้คิดขัดขวางหรือต่อสู้อะไรแม้แต่น้อย...
“งั้นก็ลงมือเลยสิ...” ผู้นำแห่งวองโกเล่แฟมิลี่เอ่ยเสียงเรียบ
“ฆ่าฉันซะ...ถ้าเกิดมันจะทำให้นายกลับไปเป็นนายคนเดิม...”
เดมอนขบฟันแน่นจนโลหิตไหลซึมออกจากมุมปาก...นัยน์เนตรสีไพลินฉายแววพิโรธแต่กระนั้นก็ยังมีความลังเล เขาออกแรงกดคมเคียวในมือให้บาดลึกลงไปบนคอระหงอีกนิดแต่ก็ยังมิอาจตัดใจปลิดชีวิตอดีตสหายรักตรงหน้าได้
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือของใครคนหนึ่งดังแว่วขึ้นมาเรียกให้นัยน์เนตรทั้งสองคู่ตวัดมามองด้วยความประหลาดใจ
เงาร่างสูงโปร่งสีดำทมิฬปรากฎกายอยู่เบื้องหลังม่านแห่งสายฝนที่พรั่งพรู...ก่อนภาพของเจ้าของร่างจะค่อยๆปรากฎชัดขึ้น
สิ่งแรกที่จีอ็อตโต้เห็นคือนัยน์เนตรสีทับทิมที่แม้จะสุกสว่างราวกับดาวระยับแต่ก็กลับระคนไปด้วยความลึกลับชวนให้ค้นหา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีแดงเพลิงราวกับไฟโลกันต์แห่งนรกอเวจีปรากฎขึ้นอยู่ตรงหน้า เขาสวมชุดคลุมสีดำที่ปกปิดเรือนร่างตั้งแต่ต้นคอจนถึงปลายเท้าจนมิอาจทราบได้ว่าคนผู้นี้เดินใกล้เข้ามาหรือสามารถลอยเข้ามาในตรอกแห่งนี้ได้กันแน่
เจ้าตัวคลี่รอยยิ้มบางก่อนเอ่ยด้วยกระเซ้าทั้งที่ยังไม่หยุดปรบมือ
“น่าสนุกจริงๆ...ต้องขอปรบมือให้ดังๆ...กับละครตลกของเพื่อนพ้องที่หักหลังกันเองแบบนี้” ริมฝีปากคู่สวยขยับรอยยิ้มหยัน
“สมกับเป็นพวกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา”
“แกเป็นใคร?ต้องการอะไร...?” เดมอนขมวดคิ้วมุ่น ก่อนถอนอาวุธออกจากคอระหงของร่างบางตรงหน้าแล้วหันหน้ากลับมาเผชิญกับผู้มาเยือน
“ฉันหรอ...” ชายผู้มาเยือนยังคงระบายยิ้ม...เขาเดินเข้ามาประชิดร่างของเดมอนอย่างรวดเร็วภายในไม่ถึงเสี้ยววินาที ก่อนเเอื้อมมือเข้ามากำคมเคียวของเดมอนไว้ด้วยมือเปล่า แล้วอาวุธคู่ใจของชายตรงหน้าก็สลายหายไปเหลือเพียงเศษผงอย่างง่ายดาย
“ฉัน...มาเพื่อรับชีวิตของนายในฐานะยมฑูต...เดมอน สเปด...”
นัยน์เนตรสีไพลินเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเห็นอาวุธคู่กายถูกทำลายจนเหลือเพียงเศษเสี้ยวด้วยมือเปล่าของคนตรงหน้า
“ยมฑูต? แกอย่ามาพูดพล่อยๆ!” เดมอนตวาดกร้าวก่อนเตรียมใช้พลังมายาของตนเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม
ทันใดนั้นร่างสูงของผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกก็หยุดชะงัก...ดวงเนตรสีทับทิมที่จับจ้องเข้าไปยังนัยน์ตาสีไพลินส่งกระแสพลังบางอย่างพุ่งผ่านเส้นประสาทไล่ลามไปทั่วร่างราวกับไฟลามทุ่ง..ร่างสูงรู้สึกชาวาบหนักอึ้งราวกับเป็นอัมพาต ก่อนสติของเจ้าของร่างจะเริ่มพร่าเลือนเมื่อพลังบางอย่างพวยพุ่งขึ้นทำลายล้างถึงระบบประสาทส่วนกลาง แล้วในที่สุดร่างของเดมอนก็สิ้นสติล้มลงกระแทกกับพื้นถนนอันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด...
ดวงเนตรสีอำพันเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ก่อนเจ้าตัวจะรีบพุ่งเข้าไปพยุงร่างของผู้พิทักษ์ของตน “เดมอน!”
“ฉันได้รับคำสั่งให้มาเอาชีวิตของชายผู้นี้...เขาเป็นมนุษย์ผู้ก่อบาปมากจนยากที่ยมโลกจะละเว้น...โปรดถอยไปซะ”” ชายหนุ่มผู้อ้างตัวว่าเป็นยมฑูตเอ่ยเสียงเรียบ พลางขยับร่างเข้ามาใกล้
“อย่าฆ่าเขาเลย...ไม่ว่าคุณจะเป็นยมฑูตหรืออะไรก็ตาม “ ร่างบางเอ่ยขออย่างร้อนรน...
เขารู้ดีถึงพลังอำนาจที่ชายผู้นี้ครอบครองถึงกับจัดการกับเดมอนได้โดยเพียงแค่ใช้สายตาจับจ้อง...แต่ทว่า...
“นายจะปกป้องเขาทำไมกัน...เมื่อครู่เขาพยายามจะฆ่านาย” ยมฑูตหนุ่มเอ่ยพลางขมวดคิ้วมุ่น ดวงเนตรสีทับทิมฉายแววประหลาดใจ
จีอ็อตโต้นิ่งเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง...ดวงเนตรสีอำพันที่ฉายแววอ่อนโยนกลับมีประกายเศร้าโศกฉายออกมาแทนที่ ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยออกมาพร้อมกับจ้องมองร่างไร้สติในอ้อมแขน
“เพราะผม...ไม่อยากเห็นใครต้องตายไปต่อหน้าต่อตาอีกต่อไปแล้ว..”
คำพูดของชายตรงหน้าทำให้ดวงเนตรสีทับทิมเบิกโตขึ้นเล็กน้อย...ก่อนเจ้าตัวจะกระตุกรอยยิ้มหยัน
“แม้ว่า...การช่วยชีวิตของชายคนนี้..จะทำให้นายต้องตายด้วยมือฉันน่ะหรอ?”
จีอ็อตโต้นิ่งเงียบ...เขาเหลือบสายตาลงไปมองร่างไร้สติของบุรุษในอ้อมแขน...ก่อนเงยกลับขึ้นมาสบกับยมฑูตหนุ่มตรงหน้า นัยน์ตาสีอำพันฉายแววอ่อนโยนและเด็ดเดี่ยวโดยไม่เกรงกลัวพลังอำนาจที่อีกฝ่ายพึงมีเลยแม้แต่น้อย
“ผม...ขอแลกชีวิตของผมกับเขาด้วยเถอะครับ...” ผู้นำแห่งวองโกเล่เอ่ยเสียงแผ่วเบา “โปรดเอาชีวิตผมไปแทนเถิด...”
สรรพนิ่งเงียบสงัด...มีเพียงเสียงสายฝนที่โปรยปรายลงกระทบพื้นสลับกับเสียงคำรามของผืนฟ้าเบื้องบน...ดวงเนตรสีอำพันสอดประสานกับนัยน์ตาสีทับทิมอย่างเนิ่นนานจนจีอ็อตโต้ไม่อาจรู้ถึงเวลาที่ล่วงเลยผ่าน...
และไม่ช้าจีอ็อตโต้ก็สังเกตเห็นประกายอันอบอุ่นที่ฉายวาบอยู่ในดวงเนตรสีทับทิมตรงหน้าแม้นั่นจะเป็นเพียงชั่วขณะ...ก่อนที่ร่างจะเคลื่อนตัวเข้ามารวดเร็วประดุจสายลมแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าจีอ็อตโต้
“นายเป็นคนประหลาดจริงๆ...” ยมฑูตหนุ่มยิ้มพราย “ฉันชักจะสนใจแล้วสิ”
เอ่ยเสร็จมือหนาก็ถูกเอื้อมออกไปคว้าเอวบางให้เข้ามาแนบชิด...ก่อนเจ้าตัวจะโน้มใบหน้าคมคายลงจนอยู่ห่างกับร่างเล็กในอ้อมแขนเพียงไม่ถึงคืบ...
จีอ็อตโต้รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่แผ่ซ่านลงกระทบใบหน้านวล...นัยน์ตาของบุรุษตรงหน้านั้นช่างเปี่ยมด้วยเสน่ห์อย่างประหลาดจนเขาแทบมิอาจละสายตาไปไหนได้ ใบหน้าขาวนวลแดงซ่านพร้อมด้วยเสียงหัวใจของเขาที่บัดนี้เต้นแรงราวกับกลองรัวจนโสตประสาทมิอาจสดับฟังเสียงอื่นใดได้อีกนอกจากเสียงหายใจของบุรุษตรงหน้าและเสียงจังหวะหัวใจอันดังสนั่นของตนเท่านั้น...
ยมฑูตหนุ่มยิ้มละไมเมื่อเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาของอีกฝ่ายขึ้นสีระเรื่อ เขากัดริมฝีปากตนเองจนโลหิตสีแดงไหลออกมาเป็นทาง แล้วกระชับอ้อมแขนดึงร่างเล็กตรงหน้าให้เข้ามาแนบชิดกับแผงอกแกร่ง ก่อนโน้มริมฝีปากลงประกบกับกลีบกุหลาบอันบอบบางตรงหน้า
นัยน์เนตรสีอำพันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง...เมื่ออีกฝ่ายล่วงล้ำปลายลิ้นเข้ามาควานหาความหวานล้ำในช่องปากของเขาอย่างช่ำชอง รสจูบของชายตรงหน้าทั้งร้อนแรงทั้งหวานชื่นเคล้าระคนกับกลิ่นคาวโลหิตที่ถูกส่งมอบเข้ามาผ่านริมฝีปากที่เปื้อนเลือด...มือหนาซุกไซ้เข้ามาลูบไล้รอบเอวบางก่อนเลื่อนขึ้นไปสัมผัสบนหน้าท้องและแผงอกจนลมหายใจของจิออตโต้แทบขาดห้วง...หัวสมองขาวโพลน...ร่างบางรู้สึกราวกับไร้เรี่ยวแรงจนต้องจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้เป็นหลักยึด
ยมฑูตหนุ่มโน้มดวงหน้าออกห่างอย่างแช่มช้า ก่อนเลียเลือดที่เปรอะเปื้อนริมปากออกไปจนพ้นทาง เจ้าตัวกระตุกรอยยิ้มเย็นแล้วเลื่อนไปกระซิบข้างใบหูของร่างบางที่บัดนี้แดงซ่านไปด้วยสีเลือด
“ฉันชื่อโคซาร์ท...เมื่อครู่นี้เราได้ทำพันธสัญญากันแล้ว...” โคซาร์ทเอ่ยพลางจุมพิตลงบนต้นคอระหงจนร่างบางสั่นสะท้าน
“จงมาเป็นทาสของฉันไปชั่วนิรันดร์เถิด...จีอ็อตโต้...”
TBC.
ความคิดเห็น