คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : ตอนที่ 12/4
สลินลดาอยู่พักผ่อนที่ไร่ชากรวนิษต่ออีกสองวันแล้วจึงเดินทางกลับกรุงเทพ
แต่เธอก็ยังไม่ได้กลับไปยังบ้านของวายุ เธอเดินทางมาที่บ้านของเธอเอง
และจะอยู่ที่บ้านอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะกลับไปยังบ้านของวายุ
“พี่ลดา
มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอตั้งนาน” วรรณนดาที่เพิ่งจะกลับจากมหาวิทยาลัย
พอเห็นพี่สาวนั่งอยู่ในห้องรับแขกก็โผเข้าไปกอดทันที
“พอแล้ว
พี่หายใจไม่ออกแล้ว” สลินลดาบอกกับน้องสาว วรรณนดาจึงจำต้องคล้ายอ้อมกอดออก
“มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ทำไมไม่เห็นบอกนดาเลยว่าจะมา” หญิงสาวซักไซ้ผู้เป็นพี่สาวที่ไม่ยอมบอกว่าจะกลับจากเชียงใหม่วันนี้
ทั้งๆที่บอกกับเธอว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกหนึ่งสัปดาห์
“พอดีที่โรงงานมีปัญหานิดหน่อยนะ
พี่เลยกลับมาจัดการก่อนนะ” สลินลดาบอกกับน้องสาวก่อนที่จะพากันเดินไปยังโซฟา
“แล้วพี่ลดาจะกลับบ้านโน้นตอนไหนคะ
อยู่ทานข้าวเย็นกับนดาก่อนนะแล้วค่อยกลับ นดาไม่อยากทานข้าวคนเดียว”
วรรณนดาบอกกับพี่สาวเนื่องจากว่าทั้งบิดาและมารดาเดินทางไปต่างประเทศทำให้เธอต้องอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง
“จ๊ะ
พี่ไม่รีบกลับบ้านโน้นหรอก ว่าจะมาอยู่ที่นี่สักอาทิตย์หนึ่ง พี่คิดถึงบ้านมากเลย
แต่น่าเสียดายที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่ เลยไม่ได้เจอกันเลย” หญิงสาวบอกออกไป
“ดีเลยค่ะ
นดาจะได้อยู่กับพี่ลดานานๆ ไม่ได้เจอกันตั้งเกือบสามเดือน” วรรณนดาบอกกับพี่สาว เนื่องจากหลังที่สลินลดาแต่งงานออกไปเธอก็มัวแต่ยุ่งเกี่ยวกับการทำจุลนิพนธ์เพื่อจบการศึกษาจึงทำให้ไม่ได้เจอกับผู้เป็นพี่เลย
“ใช่พี่ก็คิดถึง
ก็เลยกะว่าจะมาอยู่ด้วย อืมจริงสิพี่มีของมาฝากด้วยนะแต่อยู่บนห้องนะ
เอาเป็นว่าหลังทานข้าวค่อยตามพี่ไปเอานะ”
“ได้เลยค่ะ เอาอะไรมาฝากน้องนะ
อยากรู้แล้วสิคะเนี่ย” บอกกับพี่สาวออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
“เดี๋ยวก็รู้
เอาเป็นว่าเรานะขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่า กลับมาเหนื่อยๆนะ”
หญิงสาวบอกกับน้องสาวที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไป
ด้านวายุหลังจากที่กลับมาจากเชียงใหม่ก็มาคอยดูแลดาราพรที่โรงพยาบาลทุกวัน
โดยตอนกลางวันเขาก็จะไปทำงานและเมื่อถึงตอนเย็นเขาก็จะขับรถมายังโรงพยาบาลเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว
แม้ว่าดาราพรจะออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็ยังมาหาเธอที่บ้านทุกวัน
“วันนี้พี่ยุอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะคะ
แล้วค่อยกลับ วันนี้คุณแม่เข้าครัวเองเลยนะคะ”
ดาราพรบอกกับชายคนรักเพื่อชวนทานอาหาร
“ได้ครับ
วันนี้พี่ไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว อยู่กับดาราได้นานเลยครับ” วายุบอกกับคนรัก
เนื่องจากวันนี้เขาไม่มีนัดกับลูกค้าที่ไหนจึงทำให้วันนี้เขาสามารถมาหาเธอและอยู่กับเธอได้นานขึ้น
“ดีเลยค่ะ
เห็นคุณแม่บอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับพี่ยุด้วยนะคะ แต่ดาราไม่รู้ว่าเรื่องอะไร”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
เดี๋ยวท่านก็บอกเองล่ะ” เขาบอกกับเธอออกไปพร้อมรอยยิ้ม
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำ ทั้งสองนั่งคุยกันต่อจนกระทั่งได้เวลาอาหารเย็น คุณภัทรา ก็ให้เด็กรับใช้เดินไปตามสองหนุ่มสาวมาทานอาหาร
ระหว่างที่รับประทานอาหารกันนั้นทั้งสามต่างก็คุยกันอย่างออกรส
แม้ว่าจะจบมื้ออาหารแล้วทั้งสามก็ยังนั่งคุยกันต่อ
แต่คุณภัทราก็ยังไม่ได้ออกปากเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการคุยกับวายุออกไป
จนวายุต้องออกปากถามเมื่อเห็นว่ามารดาของคนรักมีเรื่องจะคุยด้วยแต่ก็ยังไม่ออกปาก
“เออ...เห็นดาราบอกว่าคุณแม่มีเรื่องจะคุยกับผม
ไม่ทราบว่าเรื่องอะไรหรอครับ”
วายุที่เห็นท่าทางไม่ค่อยสบายใจของคุณภัทราก็เกิดอาการไม่สบายใจแปลกๆ
แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร
“จ๊ะ
แต่แม่ว่ามันไม่ควรนะ แม่ก็เลยจะไม่ถามยุนะ” คุณภัทราบอกออกไปแบบนั้น
แต่ภายในใจนั้นกลับว้าวุ่น ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เพื่อไม่ให้วายุผิดสังเกต
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
คุณแม่มีอะไร ก็ถามได้เลยครับ ผมยินดีตอบครับ”
วายุบอกกับมารดาของคนรักเมื่อท่านมีอาการไม่สบายใจ
“ถ้ายุไม่คิดมาก
แม่ก็จะถาม” คุณภัทราบอกด้วยท่าทางคนคิดหนัก
ซึ่งเพิ่มความกดดันให้กับวายุเป็นอย่างมาก “คือ
แม่อยากถามว่าเมื่อไหร่ยุจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แล้วมาแต่งงานกับลูกสาวของแม่
แม่ไม่อยากให้คนอื่นเขามองลูกสาวของแม่ไม่ดีนะ ยุเข้าใจแม่นะ” คุณภัทราทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้กับวายุ
เธอหมายมาดเอาไว้แล้วว่าวายุจะต้องเป็นของลูกสาวของเธอ
ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้
ด้านวายุที่ถูกคำถามแทงใจดำก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ด้วยก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่อย่างคุณภัทรา
แต่เขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ใจคิด
“ผม...ผมขอเวลาอีกหน่อยนะครับคุณแม่
ไม่เกินหนึ่งปีแล้วผมจะหย่ากับผู้หญิงคนนั้นครับ” วายุตอบคำถามนั้นอย่างมาดมั่น
เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะหย่าขาดจากสลินลดา
แต่ก็ติดอยู่ตรงที่คุณพ่อและคุณแม่ของเขาที่ไม่ยอมรับในตัวของดาราพรนั่นเอง
“จริงนะตายุ
แม่จะรอนะ แม่ไม่อยากให้คนอื่นมาว่าลูกของแม่นะ” คุณภัทราบอกด้วยความดีใจ
แม้ภายในใจจะแสนเสียดายที่วายุยังไม่ยอมหย่าขาดกับผู้หญิงคนนั้นง่ายๆอย่างที่เธอคาดคิดเอาไว้
“ดาราก็จะรอนะคะ
แต่ระหว่างที่รอ ดาราจะขอไปทำงานที่ฝรั่งเศสนะคะ พอดีมีโมเดลลิ่งที่โน่นเขาติดต่อมานะคะ แล้วถ้าครบหนึ่งปี ดาราจะกลับมาค่ะ” ดาราพรบอกกับคนรักและผู้เป็นแม่ว่าตนเองต้องการไปทำงานตามที่ตนเองใฝ่ฝันเอาไว้
“ทำไมดาราไม่เคยบอกพี่เลยละครับ”
วายุถามคนรักกับด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ตอนแรกดาราก็ไม่คิดที่จะไปหรอกค่ะ
แต่ที่ดาราไปก็เพราะว่าดาราอยากจะพิสูจน์ค่ะว่าพี่ยุจะรอดาราได้หรือเปล่า เพราะดาราก็จะรอพี่ยุเหมือนกันค่ะ”
หญิงสาวบอกกับคนรักและมารดาด้วยท่าทางจริงจัง
จนทำให้วายุที่ได้ฟังถึงกับสะอึกเขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจเช่นนั้น
จากนั้นทั้งสามก็คุยกันต่ออีกไม่นานวายุก็ขอตัวกลับ
แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะขับรถออกไป ดาราพรก็ไม่ลืมที่จะย้ำกับเขาอีกครั้งถึงการรอคอยของเธอ
“พี่ยุอย่าลืมนะคะ
ว่าพี่ยุขอเวลาดาราหนึ่งปี ดาราจะรอพี่ยุนะคะ แล้วเราจะแต่งงานกันค่ะ”
เธอบอกย้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
และเพื่อย้ำเตือนว่าเขายังมีเธอที่รออยู่ ระหว่างทางที่ขับรถกลับไปยังบ้านเศวษภัคดี
วายุก็ได้แต่คิดถึงเรื่องของดาราพรที่เธอต้องการจะไปทำงานที่ต่างประเทศ
และเรื่องของภรรยาแต่งที่พ่อแม่ของเขาปลื้มเป็นหนักหนา
ถ้าเขาขอเธอหย่าเธอจะว่ายังไง จะยอมหย่าง่ายๆหรือเปล่า
แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะจะยอมให้เขาหย่ากับเธอหรือเปล่า
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาและดาราพรต่างก็เป็นคนรักที่ดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน
แต่ตอนนี้เขาและเธอกับกำลังจะต้องห่างกันเพราะเขาเองที่ไม่สามารถหย่าจากภรรยานอกหัวใจมาแต่งงานกับเธอได้อย่างที่เธอต้องการ
หลังจากที่วายุขอตัวกลับไปคุณภัทราก็รอที่จะพูดคุยกับผู้เป็นลูกสาวเรื่องที่เธอจะไปทำงานที่ต่างประเทศ
แม้จะเป็นเวลาแค่เพียงปีเดียวก็ตาม
“ดารา
ลูกจะไปจริงๆหรือ แล้วแม่จะอยู่กับใครล่ะลูก”
คุณภัทราถามลูกสาวออกไปเมื่อเห็นเธอเดินกลับมาในบ้านหลังจากที่ออกไปส่งวายุที่รถ
“ค่ะ
ดาราตัดสินใจแล้วค่ะ ที่ดาราไปก็เพราะคุณแม่นะคะ ที่นั่นเขาให้ค่าตอบแทนสูงมากค่ะ
เดินแบบแต่ละครั้งได้เงินเกือบๆล้านเลยนะคะ คุณแม่จะได้มีเงินไปใช้หนี้ไงคะ”
หญิงสาวบอกกับผู้เป็นแม่
ความจริงเธอเองก็ไม่อยากที่จะไปหรอกเพราะไม่อยากทิ้งให้วายุได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนั้นมากเกินไป
แต่ตอนนี้ครอบครัวของเธอกำลังมีปัญหา คุณแม่ของเธอเป็นหนี้เป็นจำนวนมากจากการเล่นการพนัน
และอีกอย่างตอนนี้ข่าวของเธอและวายุก็กำลังเป็นกระแสมากว่าเธอเป็นมือที่สาม
ที่ต้องการทำให้สามีภรรยาต้องแตกแยกกัน ดังนั้นการไปในครั้งนี้ของเธอก็จะเป็นผลดีเอามากๆ
“จริงหรอลูก
แม่ขอโทษนะที่ทำให้ลูกต้องเดือดร้อน แม่สัญญาจ๊ะว่าแม่จะเลิกเล่นการพนัน”
คุณภัทราเมื่อได้ยินคำตอบของลูกสาว ก็ถึงกับน้ำตาซึม ลูกของเธอยอมทิ้งความสุขของตัวเองเพื่อไปหาเงินมาให้เธอใช้หนี้
เธอนี่เป็นแม่ที่แย่เอามากๆที่ทำให้ลูกต้องมาเดือดร้อนไปด้วย
คุณภัทราเดินเข้าไปกอดดาราพร ก่อนที่จะย้ำคำสัญญาว่าจะเลิกเล่นการพนันอย่างจริงจังอีกครั้ง
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น