คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1/2
อีกด้านของซีกโลก นิโคลัส เรดฟรั่งซ์
มาเฟียหนุ่มในมาดนักธุรกิจกำลังนั่งอ่านเอกสารที่นักสืบส่งมาให้อย่างเคร่งเครียด
เอกสารหลายแผ่นและรูปภาพหลายใบถูกเขาดูแล้วดูอีกเพื่อความแน่ใจ
“ไมค์นายรีบจัดการจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทยให้เร็วที่สุดเลยนะ พรุ่งนี้ได้ยิ่งดี
ฉันมีเรื่องที่ต้องรีบไปจัดการ” เขาบอกกับเลขาหนุ่มที่พวงด้วยตำแหน่งหัวหน้าบอดี้การ์ด
“ครับคุณนิค” ไมค์รับคำก่อนที่จะเดินออกจาห้องไป
“แล้วเราจะได้พบกัน ดาราพร” นิโคลัสรำพึงกับตัวเองเบาๆก่อนจะยิ้มออกมาแต่รอยยิ้มนั้นมันช่างดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน
ด้านดาราพรที่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนก็กลับมาที่บ้านทันที
เธอตรงเข้าเปิดส่วนที่จัดเป็นร้านกาแฟเล็กๆแต่น่านั่งเพราะถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม
ร้านกาแฟและเบเกอรี่เล็กๆแต่น่านั่งนี้เป็นรายได้หลักของครอบครัวของเธอหลังจากที่ย้ายมาอยู่แม่ฮ่องสอน
“เปิดร้านแล้วหรอลูก”
คุณภัทราที่ได้ยินเสียงรถก็เดินออกมาที่ร้านทันที
“ค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนที่จะเดินเข้าไปจัดเก้าอี้ภายในร้าน
“วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ” ท่านถามออกไปเพราะปกติดาราพรจะใช้เวลาไปส่งลูกสาวตัวน้อยเพียงยี่สิบนาที
แต่วันนี้ผู้เป็นลูกไปเกือบชั่วโมง
“พอดีคุยกับคุณครูประจำชั้นนะคะใกล้จะปิดเทอมแล้วทางโรงเรียนจะจัดงานนะคะ
ยัยตัวน้อยของเราเขาได้ร่วมกิจกรรมด้วย คุณครูก็เลยมาขออนุญาตนะคะ
เพราะจะต้องซ้อมกับเพื่อนๆก็เลยจะต้องกลับบ้านช้านะคะคุณแม่”
เธอตอบผู้เป็นแม่ออกไป
“จริงหรือลูก”
“ค่ะ ได้เป็นนางรำนะคะ ต้องซ้อมรำตอนเลิกเรียนนะคะ”
เธอบอกขณะเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อหยิบขนมที่เตรียมไว้มาจัดใส่ตู้
“ก็ดีนะสิลูก ได้เป็นนางรำซะด้วย” คุณภัทราบอกออกมาอย่างชื่นชมที่หลานสาวตัวน้อยได้เป็นนางรำสำหรับงานโรงเรียนที่จะจัดขึ้น
“ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าแม่ตัวดีของเราจะรำเป็นยังไงบ้างนะคะ” ดาราพรพูดขำๆ
เพราะปกตอลูกสาวของเธอก็ไม่ค่อยจะอยู่นิ่งอยู่แล้ว
แต่เมื่อได้รับคัดเลือกให้ร่วมกิจกรรมเธอก็ไม่รู้ว่าลูกสาวตัวดีของเธอจะทำได้ดีขนาดไหน
“แรกๆก็คงจะกลับมาบ่นให้ฟังนั่นแหละ ก็เคยรำซะที่ไหนล่ะ”
คุณภัทราตอบออกมา
เมื่อท่านมองเห็นภาพว่าหลานสาวตัวน้อยจะต้องกลับมาบ่นให้ฟังเป็นแน่
“ดาราก็ว่าอย่างนั้นค่ะ”
“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว หนูจัดของไปเถอะลูก”
บอกจบคุณภัทราก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ดาราพรจัดของต่อไป
ด้านดาราพรที่เมื่อได้อยู่ลำพัง
หญิงสาวก็ลงมือทำอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพราะไม่อยากให้สมองไปคิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นอีก
แม้จะบอกกับมารดาว่าวันนึงเธอจะลืมมันให้ได้
แต่ฝันร้ายนั้นก็ยังคงตามหลอกหลอนเธอไม่มีวันหยุด พักหลังมานี้เธอฝันถึงเรื่องเลวร้ายนั้นบ่อยครั้ง
จนทำให้เธอหวาดกลัว
ตลอดหกปีที่หนีกลับมาเมืองไทยไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่คิดถึงเรื่องของอดีต
“ลืมมันได้แล้วดารา เธอต้องลืมมันให้ได้” เธอบอกกับตัวเองวันละหลายครั้งเมื่อยามที่อยู่ลำพัง
“กริ๊ง” เสียงระฆังที่ถูกแขวนไว้ดังขึ้นทำลายความเงียบภายในร้านของเธอ
“สวัสดีครับคุณดารา” กฤตดนัย
ร้องทักหญิงสาวทันทีที่เปิดประตูเข้ามาภายในร้านของเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณดนัย วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ”
เธอทักทายเขากลับไปพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขา
“วันนี้จะรับอะไรดีคะ”
“ผมขอเหมือนเดิมครับ” ดนัยตอบกลับมาพร้อมกับเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำที่เคยนั่ง
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
ดาราพรรับคำก่อนที่จะไปจัดการตามความต้องการของลูกค้าประจำของเธอ
“วันนี้ไม่มีงานหรอค่ะ ถึงได้มาแต่เช้าเลย”
ดาราพรถามขณะที่นำกาแฟมาเสิร์ฟให้กับกฤตดนัย
“ตอนเช้าไม่มีครับแต่มีตอนบ่าย วันนี้ที่รีสอร์ทคนน้อยนะครับก็เลยมาแต่เช้า”
เขาตอบออกมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเจ้าของร้านคนสวย
“แล้ววันนี้เด็กฟ้าใสไม่มาหรอครับ”
เขาถามออกไปเมื่อเห็นว่าภายในร้านมีเพียงเจ้าของคนสวยเพียงคนเดียว
“มาค่ะ แต่มาตอนสายๆนะคะ เห็นว่าต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลก่อน
ก็เลยขอมาช้านะคะ” เธอตอบออกไปก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อหยิบขนมเค้กสูตรใหม่ที่เธอเพิ่งจะลองทำมาให้กับกฤตดนัยได้ลอง
“คุณดนัยค่ะ ลองขนมสูตรใหม่ของดาราหน่อยนะคะ
แล้วบอกด้วยว่ารสชาติเป็นยังไงพอจะทำขายได้ไหม”
“ครับผม”
กฤตดนัยยื่นมือมารับเค้กชิ้นนั้นก่อนที่จะใช้ช้อนตักมันเข้าปาก “อร่อยครับ
แต่ผมว่ามันหวานไปหน่อยนะครับ
หรือเป็นเพราะว่าผมเป็นผู้ชายไม่ค่อยทานหวานก็ไม่รู้นะครับ”
“จริงหรอค่ะ เดี๋ยวถ้าฟ้าใสมาก็ให้ช่วยชิมอีกทีแล้วกันค่ะ
ขอบคุณคุณดนัยมากนะคะที่ช่วยแสดงความคิดเห็น”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” กฤตดนัยตอบออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้สาวสวยตรงหน้าของเขา
ก่อนที่จะจ่ายเงิน เพราะว่ามีธุระด่วน
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณดารา
พรุ่งนี้ผมอาจจะไม่ได้มาต้องลงไปกรุงเทพด่วนนะครับ ยังไงดูแลสุขภาพด้วยนะครับ”
“ค่ะ เช่นกันค่ะคุณดนัย” หญิงสาวบอกและเดินตามมาส่งเขาที่หน้าร้าน เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปจาหน้าร้านหญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปภายในทันที
ตลอดสี่ปีที่ผ่านมากฤตดนัยมาที่ร้านของเธอแทบทุกวัน
เธอรับรู้มาตลอดถึงสิ่งที่เขาพยายามสื่อมาถึงเธอแต่หัวใจที่เคยเจ็บปวดและอดีตที่พบเจอทำให้เธอยังไม่อาจเปิดใจรับใครได้
เธอจึงให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนที่ดีกับชายหนุ่มเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเธอยังไม่อาจลืมผู้ชายคนนั้นได้จริงๆสักที
อีกซีกโลกหนึ่งนิโคลัสเมื่อทำงานเสร็จแล้วเขาก็ตรงกลับบ้านทันที
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กินเนื้อที่เกือบยี่สิบไร่กลางกรุงปารีสก็ตรงเข้าไปภายในบ้านทันที
โดยมีไมเคิลเดินตามหลังเข้ามาติดๆ
“ผมจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วนะครับคุณนิค พรุ่งนี้ตอน 13.00 นาฬิกาครับ”
ไมเคิลรายงานทันทีเมื่อเห็นนิโคลัสทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก
“ดีมาก ฉันอยากไปถึงเมืองไทยให้เร็วที่สุด”
นิโคลัสบอกพร้อมยิ้มออกมาอย่างมีความหมาย
“คุณนิคครับ สายของเราที่อยู่ใน แก๊งอัลแบโร รายงานมาว่าตอนนี้
ไอ้อัลเบิร์ตมันกำลังวางแผนทำอะไรสักอย่างอยู่นะครับ
แต่ยังไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับเราหรือเปล่า”
ไมเคิลรายงานสิ่งที่รับรู้มาจากลูกน้องให้เจ้านายได้รับทราบ
เพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ศัตรูกำลังจะทำนั้นจะเกี่ยวข้องมาถึงเจ้านายของเขาหรือไม่
“งั้นก็จับตาดูมันเอาไว้ให้ดี
คราวนี้นายอยู่ดูแลที่นี่ไม่ต้องไปเมืองไทยกับฉันให้ไมกี้ไปคนเดียวพอ”
นิโคลัสเมื่อได้ฟังสิ่งที่ลูกน้องบอกก็ทำให้คิดหนักก่อนจะตัดสินใจให้ไมเคิลอยู่ดูแลงานที่นี่แทนที่จะตามเขาไปเหมือนทุกครั้ง
“ได้ครับคุณนิค”
“ดีมาก นายไปพักผ่อนเถอะ”
“ครับ”
ไมเคิลรับคำก่อนที่จะโค้งให้เจ้านายเพื่อทำความเคารพก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องไป
พอคล้อยหลังไมเคิล นิโคลัสก็เดินไปยังเคาน์เตอร์บาร์
หยิบเหล้าออกมาเทใส่แก้วก่อนที่จะกระดกมันรวดเดียวจนหมดแล้วก็เดินขึ้นห้องไป
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น