คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ต้นเหตุของเรื่อง,,,,,,
Rising Sun สะดุดฝัน แสงตะวันแห่งความรัก
ท่ามกลางสายฝนที่ร่วงหล่นลงมาจากฝากฟ้า ร่างกายอันบอบบางของฉันสั่นเทาอยู่เบื้องหน้าของคุณพ่อ บรรยากาศภายในบ้าน คละคลุ้งไปด้วยความตึงเครียด ตั้งแต่คุณแม่จากไป คุณพ่อที่เคยอ่อนหวานก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังจากที่คุณแม่จากไปได้ไม่นาน คุณพ่อก็ต้อง แต่งงานใหม่ เป็นไปตามธรรมเนียมของทูต ที่จำเป็นต้องมีคุณหญิงอยู่เคียงคู่เสมอ สิ่งนี้ไม่ได้กระทบต่อชีวิตของฉันเลยแม้แต่น้อย เพราะ คุณแม่คนใหม่ของฉันก็เป็นคนจิตใจดี แถมยังมีน้องชายตัวเล็ก ๆ น่ารักให้ฉันอีกหนึ่งคน แต่ที่ฉันไม่ชอบ ก็คือความเย็นชาของคุณพ่อที่มีให้กับฉัน คุณพ่อบงการชีวิตของฉันทุก ๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเรียน ท่านก็ให้ฉันเรียนทางด้านการทูตโดยตรงทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้มีใจชอบแม้แต่นิด และเรื่องนี้ก็เช่นกัน
“ไม่ค่ะ ไม่ว่ายังไงหนูก็ไม่มีวันแต่งานกับคนที่หนูไม่ได้รักเป็นอันเด็ดขาด คุณพ่อบงการชีวิตหนู จนมันจะพังพินาศไปหลายเรื่องแล้วนะค่ะ เรื่องคู่ครองหนูขอเถอะค่ะ ให้หนูได้มีโอกาสเลือกเองบ้างไม่ได้เหรอค่ะ”
ฉันกระแทกเสียงใส่คุณพ่ออย่างหนัก ทุกอย่างที่ฉันอัดอั้นฉันจะพูดมันออกมาให้หมด
“ลูกว่าไงนะ ลูกคิดว่าสิ่งที่พ่อทำกับหนู มันเป็นสิ่งที่พ่อบงการหนูงั้นเหรอ ลูกคิดว่าสิ่งที่พ่อทำกับลูกมันทำให้ชีวิตหนูพังพินาศ พินาศ มาก จนได้เป็นทูตฝ่ายวัฒนธรรมเนี่ยนะ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เหรอลูก อีกอย่างนะ การที่ลูกจะได้ไปแต่งงานกับลูกชายของท่านทูตเกาหลี มันก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ ประเทศของเรา กับเกาหลี จะได้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นไงลูก อีกอย่าง แจซอง เค้าก็เป็นคนดี มีธุรกิจตั้งหลายอย่าง แถมยังเป็นจำของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ลูกชอบไม่ใช่เหรอลูก”
คุณพ่อพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงใจเย็น
“งั้นเหรอค่ะ คุณพ่อคิดว่าคุณพ่อไม่เคยบงการหนูงั้นเหรอค่ะ ที่หนูได้ดี มาเนี่ย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าหนูพลักดันตัวเองต่างหาก พ่อค่ะ ทุกอย่างที่พ่อส่งเสริม ก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ หนูก็ขอขอบคุณนะค่ะ แต่การที่พ่อจะให้หนูไปแต่งงานกับใครไม่รู้ แล้วก็ไม่ใช่คนที่หนูรักหนูทำไม่ได้ค่ะ”
ฉันพูดพรางทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา
“พ่อรู้ พ่อเข้าใจนะลูก แต่ไม่เห็นแก่พ่อ ก็เห็นแก่ ประเทศชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนะลูก”
คุณพ่อพูดก่อนจะทรุดตัวลงมานั่งข้าง ๆ ฉัน พรางใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวฉันเล็กน้อย
“เหมือนที่พ่อก็เคยแต่งกับคุณแม่เพราะเงื่อนไขนี้เหรอค่ะ หนูว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์หรอกค่ะ แต่มันเป็นเรื่องธุรกิจมากกว่า อีกอย่างนะค่ะ หนูไม่อยากใช้ความเป็นทูตมาผูกโยงเข้ากับชีวิตส่วนตัวของหนูหรอกค่ะพ่อ ถ้าคุณพ่ออยากให้มันเป็นเช่นนั้น คุณพ่อก็หาผู้หญิงคนอื่นไปแต่กับคุณ แจซง แจซองอะไรนั่นแทนหนูละกันค่ะ แต่ถ้าเป็นหนู ต้องไปแต่งงานกับหนุ่มเกาหลี หนูก็ขอเลือกเองละกันนะค่ะ”
ฉันทำหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อย คุณพ่อยังคงใจเย็น พูดกับฉันต่อ
“เห็นแก่พ่อเถอะนะลูก พ่อให้หนูทำอย่างที่หนูพูดไม่ได้หรอก”
คุณพ่อพูดพรางลุกขึ้นยืน
“งั้นหนูคิดว่า เราเอาเรื่องนี้ไว้พูดกันทีหลังละกันค่ะ ตอนนี้หนูยังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจอะไรทั้งนั้น เอาเป็นว่าให้หนูได้เจอตัว คุณ แจวางอะไรนั่นก่อนละกันนะค่ะ หนูขอตัวค่ะพ่อ”
ฉันยุติการพูดกับคุณพ่อ ไว้เท่านั้น ก่อนจะขอตัวออกไปข้างนอก ระหว่างทางที่ฉันขับรถ BMW คู่ใจแล่นไปบนถนน เหตุการณ์ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ รถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่ง บังเอิญ ขับตัดหน้ารถของฉันอย่า งกระทันหัน เป็นเหตุให้ฉันหักหลบ จนรถคู่ใจของฉันเล่นไปชนกับเสาอะไรสักอย่างข้างถนน ศีรษะของฉันกระแทกกับถุงลงนิรภัยอย่างจัง และเหตุนี้คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่น่าตื่นเต้นของฉัน เมื่อชายคนหนึ่งได้ช่วยเหลือฉันไว้ อุบัติเหตุครั้งนี้ที่บ้านของฉันไม่มีใครรับรู้ เพราะมันเกิดที่ต่างจังหวัด บวกกับเป็นช่วงเวลากลางคืน ตลอดเส้นทางก็แทบจะไม่มีรถแล่นผ่านเลยด้วยซ้ำ เท่าที่ฉันรู้ ฉันกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ไหนสักที แต่ตอนนี้ ในหัวของฉันแทบจะจำอะไรไม่ได้ เพราะแรงกระแทกเมื่อครู่ แล้วนี่ฉันเป็นใคร ฉันเป็นใครกัน
“คุณครับ คุณ”
ชายคนหนึ่งพยายามเขย่าร่างของฉันที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียง
“ฉันอยู่ ที่ไหน แล้ว แล้ว คุณ คุณ เป็นใครกัน”
ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เพื่อจะได้มองหน้าชายคนนั้นได้ชัด ๆ
“รถคุณประสบอุบัติเหตุ ผมก็เลยพามาส่งที่โรงพยาบาล”
ว้าว น้ำเสียงของเค้านะ นุ่มนวลมากเลย เอะ รู้สึกว่าเค้าจะยิ้มให้ฉันด้วยนะ แต่เท่าที่ดูแล้ว ผู้ชายคนนี้ท่าทางจะอายุมากกว่าฉันไปประมาณ 3-4 ปีก็เป็นได้
“ค่ะ แล้ว แล้ว ที่นี่ที่ไหนค่ะ แล้วคุณเป็นใคร แล้วฉันเป็นใครค่ะเนี่ย”
ฉันทำท่างุนงงกับตัวเองเล็กน้อย ก็ตอนนี้ฉันแทบจะไม่รู้เลยว่า ชื่อของฉันชื่ออะไร ผู้ชายคนนั้นจ้องหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปหาพยาบาลแสนสวย
“เดี๋ยวเรื่องค่ารักษาพยาบาล ผมจะเป็นคนออกให้ละกันครับ ดูเหมือนว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้เลย เอาเป็นว่า ผมขออาสารับดูแลคนไข้คนนี้เองละกันครับจนกว่าเธฮจะหายดี”
“ค่ะ งั้นวันพรุ่งนี้ก็สามารถกลับบ้านได้เลยนะค่ะ แต่ว่าต้องกลับมาที่โรงพยาบาล ทุกอาทิตย์ เพื่อให้คุณหมอตรวจดูอาการนะค่ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
ว้าว รอยยิ้มของเค้าดูอบอุ่นจังเลยละ ผู้ชายคนนั้นโค้งคำนับให้พยาบาลเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับมาทางฉัน แล้วนั่งตรงข้าง ๆ เตียงที่ฉันนอนอยู่
“ผมถามคุณจริง ๆ นะ คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
ฉันส่ายหน้าเล็กน้อย เป็นเชิงบอกว่า ฉันจำอะไรไม่ได้
“แม้แต่ชื่อ หรือว่า อะไรเกี่ยวกับตัวคุณ คุณ ก็จำไม่ได้เลยงั้นเหรอครับ”
ฉันยังคงส่ายหน้า แทนคำพูดเหมือนเดิม
“ถ้าหากคุณไม่ว่าอะไร หากคุณไว้ใจผม ผมจะดูแลคุณจนกว่า คุณจะจำอะไรได้บ้าง แล้วผมรอให้ผมตรวจสอบดูก่อนว่าคุณเป็นลูกเต้าของใคร แล้วผมจะพาคุณกลับละกันนะครับ”
ฉันได้แต่พยักหน้า หงึกหงึก เป็นการตอบกลับว่าเป็นอันตกลง
“คุณเป็นคนเกาหลีเหรอค่ะ”
ฉันจ้องหน้าผู้ชายคนนั้นเล็กน้อย เป็นเชิงตั้งคำถาม ผู้ชายคนนั้นถึงกลับผงะเล็กน้อย ที่เห็นฉันถามเค้าเป็นภาษาเกาหลี
“คุณพูดเกาหลีได้เหรอครับ”
เค้าทำหน้างุนงงใส่ฉันเล็กน้อย
“ค่ะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดได้ไง ฉันดูท่าทางหน้าตาคุณเป็นคนเกาหลีใช่มั้ยค่ะ”
ชายคนนั้นไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นฉันเรียกคุณว่า โอบ้าได้มั้ยค่ะ เพราะดูแล้วคุณน่าจะอายุมากกว่าฉัน”
เค้าไม่ตอบคำถามฉันอย่างเคย ได้แต่พยักหน้าเป็นการตอบว่าตกลง
“คุณพยักหน้าเป็นอันว่าตกลงนะค่ะ แต่ว่าฉันยังไม่มีชื่อเลยค่ะ ในเมื่อคุณจะเป็นพี่ชายฉันแล้วอีกทั้งคุณสัญญาว่าจะดูแลฉันจนกว่าฉันจะหาย ระหว่างนี้ฉันจะเป็นน้องสาวที่น่ารักของคุณ จนกว่าคุณจะหาครอบครัวฉันเจอนะค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ พี่ชาย”
พี่ชายคนใหม่ของฉันจ้องหน้าฉันเล็กน้อย พรางคิดอะไรอยู่
“ซอนยอน”
พี่ชายจ้องหน้าฉันเล็กน้อย แล้วก็หันมาบอกฉัน คำหนึ่งว่า นางฟ้า
“เธอชื่อ ซอนยอนนะ”
ฮะ อะไรเนี่ย ชื่อฉันสูงส่งขนาดนั้นเลย นางฟ้าเนี่ยนะ อะ เอาก็เอา ชื่อนี้แหละ
“ค่ะ น้องชื่อ ซอนยอน แล้วพี่ชายละ”
พี่ชายหันหลังให้ฉันพร้อมเอยชื่อตัวเองออกมาเบา ๆ ว่า
“ ดาฮยอน”
“ว้าว ชื่อของพี่ชายเพราะจังค่ะ พี่ดาฮยอน”
ฉันพูดพรางกระโดดโลดเต้นไปมาบนเตียง นี่อะไรกัน ฉันน่าจะเศร้ากับการที่ฉันต้องความจำเสื่อม แต่นี่ฉันกลับมายืนกระโดดโลดเต้นเป็นเด็กอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล สมองฉันต้องกลับแน่นอนเลย ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกสุขใจยังไงชอบกล หวังว่า ชีวิตหลังจากวันนี้ของฉันคงจะมีเรื่องสนุก ๆ แน่นอนเลยละ
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
“คุณค่ะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ค่ะ อีกไม่นานลูกคงกลับมาค่ะ คุณพักผ่อนเถอะนะค่ะ”
ที่บ้าน คุณพ่อกำลังวิตกกังวลกับการที่ฉันหายตัวไป
“ดิฉันคิดว่า ไม่แน่ลูกอาจจะบินกลับไปเกาหลี แล้วไม่ได้บอกก็ได้นิค่ะ เป็นไปได้มั้ยค่ะ ที่ อาริน จะกลับไปที่บ้านเกิดของคุณ
โบจองริน นะค่ะคุณลองโทรไปถามญาติทางโน้นรึยังค่ะ”
คุณพ่อได้แต่นั่งทำหน้าเครียดก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ โทรหาญาติ ๆ ที่เกาหลีทันที
“คุณพี่เหรอฮะ อารินไปที่บ้านรึเปล่าครับ”
“ไม่นะ ไม่เห็นมานิ พี่ไม่ได้เจอหน้าเค้ามาตั้งหลายวันแล้ว ทำใมเหรอ เกิดอะไรขึ้น”
“อารินครับ อารินหายไป”
“ตายแล้ว แบบนี้ต้องให้พี่บอกบ้านแจซองด้วยมั้ย เค้าจะได้ช่วยบ้านเราตามหาหนูอาริน”
“ครับพี่ ก็ดีครับ ขอบคุณครับ”
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ว่าการที่ฉันหายตัวไปนั้นมันจะทำให้เรื่องราวมันเดือดร้อนได้ขนาดนี้เลย และที่สำคัญ
“อะไรนะค่ะ ท่านประธานหายตัวไป แล้วอย่างนี้เรื่องคอนเสิร์ต แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างศิลปินไทยกับเกาหลี ก็ต้องยกเลิกสิค่ะท่านทูต”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พวกเธอก็จัดเตรียมงานไปละกัน เด่วฉันจะรีบตามหาตัวลูกสาวให้เจอ”
“อีกนานมั้ยค่ะท่าน เพราะท่านประธานต้องเป็นคนเซ็นอนุมัติค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตั้งแต่ การเดินทางของศิลปินเกาหลี จนไปถึงค่าใช้จ่ายเบ็ดเล็ด อีกหลายอย่างนะค่ะ แล้วศิลปินกลุ่มที่จะมาก็ใช่ว่า กระจอก ๆ นะค่ะ ถือได้ว่าเป็นกลุ่มศิลปินSuper Star ของเอเชียเลยนะค่ะ หากเราตอนรับได้ไม่ดี อาจจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ได้นะค่ะท่าน”
“ใจเย็น ๆ น่า คุณแพรว ผมว่าคุณน่าจะห่วงลูกสาวผมก่อนนะ เรื่องคอนเสิร์ต ก็เตรียมต่อไป ถ้ามีปัญหายังไงเดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง อีกอย่างไงก็ดูแล แล้วก็ตอนรับพวกเค้าดี ๆ ละ”
“ค่ะท่านทูต แต่ท่านค่ะ คุณแพรวก็เป็นห่วงท่านประธานเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้คุณแพรวเครียด มาก ๆ ค่ะ กลัวว่า จะทำงานชิ้นนี้ออกมาไม่ดี ทุกครั้งที่มีท่านประธาน งานทุกอย่างก็ออกมาราบเรียบหมด แต่ครั้งนี้มันเป็นงานใหญ่มากเลยนะค่ะ แพรวเกรงว่า...”
“ไม่ต้องเกรงอะไรทั้งนั้น ผมมั่นใจว่าคุณแพรวทำได้ เหมือนที่ลูกสาวผมก็มั่นใจในตัวคุณแพรวเช่นกัน”
“คะ ค่ะ ค่ะ ท่านทูต แพรวจะทำงานครั้งนี้ให้ดีที่สุดละกันค่ะ”
โอ้โห ไม่ยักรู้เลยว่าขาดฉันแล้วอะไรมันจะยุ่งเหยิงขนาดนี้ ทำไงดีละ ช่วยไม่ได้นิ ก็ตอนนี้ฉันไม่ใช่อารินอย่างที่ใครๆ เรียกแล้วนิ ตอนนี้ฉันคือ ซอนยอน และหลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็ออกจากโรงพยาบาล มาพักอยู่ที่บ้านของพี่ดาฮยอน ที่บ้านหลังใหม่ ใหญ่โตไม่แพ้บ้านของฉันเลย ที่ฉันรู้มา ก็คือ พี่ดาฮยอน เป็นประธานค่ายเพลงเล็ก ๆ ค่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นหุ่นส่วนกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ทำหน้าที่ออดิชั่นศิลปินหน้าใหม่ ป้อนเค้าสู่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา พี่ดาฮยอนมีปัญหากับค่ายเพลงเล็กน้อย จึงตัดสินใจลาพักร้อนมาอยู่ที่เมืองไทยประมาณ หนึ่งเดือน ช่วงเวลาที่ฉันอยู่ที่บ้านของพี่ดาฮยอน มันช่างเป็นอะไรที่ผ่อนคลายที่สุด ทุก ๆ วัน พี่ดาฮยอนจะดีดเปียโน แล้วให้ฉันร้องเพลง บางวันก็พาออกไปเดินเล่นแถว ๆ ชายหาดใกล้บ้าน ใช่ๆ ฉันลืมบอกไปว่า บ้านของพี่ดาฮยอนอยู่ติดกับชายหาด ว้าว ๆ โรแมนติกดีมั้ยละ แล้วอาทิตย์ไหนที่ถึงคราวหมอนัดฉันไปตรวจ พี่ดาฮยอนก็จะพาฉันไป เป็นแบบนี้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้วละจนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่ฉัน กำลังออกไปซื้อส้มตำที่หาดบางแสน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนักและแล้ว
“กรี๊ดดดดดดดดดดด ยูโน ยูโน จุ๊บ ๆ รอด้วยค่ะ ยูโน”
แค่นี่ก่อนนะจ๊ะ อิ อิ
ความคิดเห็น