คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ชีวิตที่ได้รับ(แก้ไข)
เฮือก!!
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้งภายในหลอดทดลอง สายตาสีฟ้าของผมลาดส่องไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าที่ๆผมอยู่ตอนนี้นั้นไม่ใช่สถานที่ที่ผมคุ้นเคยเลยสักนิด มันเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัยหลากหลายไปหมด
เดี๋ยวสิ เราตายไปแล้วนี่....
ผมที่นึกได้ดังนั้นจึงเอามือลูบคลำที่ลำคอของตนเอง ก่อนจะพบว่าบาดแผลที่ควรจะมีอยู่มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
และก่อนที่ผมจะทำได้คิดอะไรต่อนั้น ก็ได้มีเสียงแหลมๆของใครบางคนดังขึ้นก่อน
“พื้นแล้วสินะ”เธอกล่าวออกมาด้วยทีท่าเย็นชา ผมล่ะเกลียดอิหรอบนี้จริงๆ เพราะคนประเภทนี้แหละเวลาจะดูว่าคิดอะไรออกมันแทบจะทำไม่ได้เลย
“ที่นี่ที่ไหน? แล้วทำไมผมถึงมาที่นี่ล่ะ”ผมตัดสินใจถามไปด้วยท่าทีที่ดูเป็นมิตรที่สุด โดยที่ตัวเองก็ยังตั้งท่าเตรียมจะตอบโต้หากเกิดอะไรขึ้นอยู่ หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆในทำนองสงสัยถึงคำถามที่ผมถาม ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ที่นี่คือSACMIS การทำงานของที่นี่จะเป็นการนำวิทยาการขั้นสูงมาใช้ ส่วนงานของนายก็คือการล่าวิญญาณน่ะ””คำตอบนั้นทำเอาผมชะงักไปพักหนึ่ง แต่ก็ยังเก็บอาการเอาไว้ได้
“เอ่อ...งั้น ทำไมฉันยังอยู่ที่นี่ล่ะ ฉันน่าจะตายไปแล้วนี่”ผมถามอีกครั้ง
“ใช่ และตอนนี้นายกำลังใช้ชีวิตที่สองอยู่”เธอตอบพลางก้าวนำผมไปสู่เครื่องจักรขนาดใหญ่ มันดูเหมือนกับเครื่องวาร์ปที่เคยเจอหนังไซไฟไม่ผิดเพี้ยน
“เดี๋ยวสิ นั่นไม่....”
“นายน่ะได้ตายไปแล้ว และตอนนี้นายก็ทำสัญญากับเราแล้ว ดังนั้นเงียบแล้วก็ตามมาได้แล้ว”เธอพูดขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงอันเฉียบขาด ทำให้ผมตัดสินใจไม่ทำบรรยากาศที่แย่ให้แย่กว่าเดิมอีก ก่อนเธอจะหยุดตรงหน้าเครื่องจักร แล้วชี้ไปที่วงแหวนตรงกลางทำนองว่าให้เข้าไปในนั้น
“ถึงจะไม่เชื่อใจ แต่ก็ทำตามเกมไปก่อนละกัน”ผมคิดในใจเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าเครื่องวาร์ปไป ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนฉากโดยรอบกำลังบิดเบี้ยวอย่างบ้าคลั่ง ก่อนภาพปราสาทร้างจะปรากฏขึ้นตรงหน้า พร้อมๆกับเสียงสะอื้นของเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง ทำให้ผมลังเลใจเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง
แต่ทว่าทันใดนั้น เด็กสาวก็ได้หันมาจ้องผมเขม็ง ก่อนจะหยิบมีดสีเงินวาวขึ้นมาแล้วพุ่งตรงมายังผมทันที ซึ่งผมก็หลบการปาดครั้งแรกของเธอได้อย่างหวุดหวิด
“เฮ้ ใจเย็นสิครับ มีอะไรก็คุยกันก่อน”ผมพูด ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวเพื่อแสดงว่าตนเองไม่มีอันตราย ซึ่งมันก็ทำให้เด็กสาวสงบลงเล็กน้อย
“ใจเย็นๆนะครับ...ไม่เป็นไร”ผมตรงเข้าไปลูบหัวเด็กสาวคนนั้นด้วยท่าทีมั่นใจเพื่อที่จะแสดงว่าตนไม่กลัวเธอ
“มีดนี่ผมขอนะครับ”ไวเท่าคำพูด ผมนั้นได้จับข้อมือของเธอแล้วจัดการปลดอาวุธทันที ทำให้มีดสีเงินวาวนั้นมาอยู่ในมือของผมในที่สุด ผมมองมีดในมือ สลับกับเด็กสาวที่กำลังถอยห่างด้วยความหวาดกลัวนั้น เพราะตามเกณฑ์ของเขาแล้ว คนที่แสดงอาการคุกคามต้องกำจัดทิ้ง
“แต่วันนี้ซวยมาเยอะแล้วนี่นะ ทำบุญซักหน่อยคงไม่เป็นไร”ผมคิดในใจ ก่อนจะโยนมีดเล่มนั้นลงไปในบ่อน้ำลึกทันที แล้วเดินเข้าไปหาเด็กสาวช้าๆแล้วค้นตัวเธอเผื่อว่าเธอจะมีอาวุธที่คุกคามผมได้อีก และเมื่อไม่พบอะไรอีกแล้ว ผมจึงลุกขึ้นพลางบิดขี้เกียจ
“คราวหน้าอย่าเล่นของมีคมล่ะ เดี๋ยวจะปักตัวเองเข้า”
ผมทิ้งท้ายก่อนจะเดินต่อไปอย่างสบายอารมณ์ ก่อนความเจ็บแปลบปลาบจะเล่นเข้าสู่แผ่นหลัง แล้วทุกอย่างก็มืดลง...
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองอยู่ที่เครื่องจักรเครื่องเดิม เพียงแต่ผู้หญิงที่ดูเย็นชาคนนั้นไม่ได้อยู่แล้ว
“ว้า ทำบุญไม่ขึ้นจริงๆแฮะ”ผมพูดพลางหัวเราะในชะตากรรมเบาๆ ก่อนจะหยิบมีดพับออกมาเตรียมไว้ในมือ แล้วเดินเข้าเครื่องจักรไปอีกครั้ง
สิ่งที่ผมเห็นก็คือปราสาทแห่งเดิม และก็เด็กผู้หญิงคนเดิมที่สะอื้นอยู่มุมห้อง
ซึ่งก็เป็นไปตามเดิมคล้ายเดจาวู เธอวิ่งเข้ามาหาผมอย่างมุ่งร้าย ผมหลบการปาดครั้งแรกได้...
ฉัวะ!
มืดพับในมือของผมวาดฟันเข้าตรงข้อมือของเธอทันที ทำให้มีดเล่มนั้นตกลงบนพื้นทันที ผมจึงถือโอกาสนั้นจับตัวของเธอเอาไว้แล้วเอาเสื้อคลุมของตนเองพันแขนของเธออย่างแน่นหนาทันที
“เออนี่ คุณอยากรู้ไหมครับว่าผมตายยังไง”ผมพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวและเยือกเย็น ก่อนฉากที่ผมตายจะย้อนกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่เหยื่อของมันคือเด็กสาวเท่านั้นเอง
แล้วเสียงกรีดร้องก็ดังต่อไปอย่างช้าๆ ก่อนจะเงียบลงในที่สุด
“เห้อ ผมดีใจนะครับที่ในที่สุดก็มีคนเข้าใจความรู้สึกผมน่ะ แต่รู้สึกจะใช้ความแค้นตัดสินมากไปหน่อย โทษทีนะเด็กน้อย”ผมพูดกับสภาพเด็กสาวที่ดูไม่สมประกอบ ก่อนจะส่งมีดของเธอแล่นเข้าปักลำคอทันที แล้วเดินจากไปเงียบๆ
“ก็ผมอุส่าห์เตือนแล้วนะครับ ว่าให้ระวัง”
ความคิดเห็น