คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เหตุเกิดจากความเหงา
ที่ป้ายรถประจำทางคงจะเหมือนเดินทุกวันที่เธอจะต้องมารอขึ้นรถประจำทางเพื่อไปทำงานทุกวัน
แต่ทว่าวันนี้เมื่อเธอกำลังนั่งรออยู่นั้นรถเบนซ์คันหรูก็จออยู่ตรงหน้าเธอนั้น
หนุ่มหล่อเปิดประตูลงมาแล้วกล่าวออกไป
“คุณมุก จะไปทำงานใช่ไหม?”
หญิงสาวทำหน้างง ก่อนจะทำท่าทางที่เขินอายและแสดงออกที่ใบหน้าอันสวยงานของเธอแล้ว
“ค่ะ”
ชายหนุ่มเปิดประตูให้ก่อนที่หญิงสาวจะขึ้นรถแล้วชายหนุ่มก็ขับตรงไปทางโรงแรมนั้น
รถเบนซ์คันหรูมาจอดที่หน้าโรงแรม สายตาของพนักงานแถวนั้นต้องออกอาการถึงความอิจฉาที่ประตูทางซ้ายของคันรถนั้นเป็นมุกประกายเพื่อนที่ทำงานที่นั้นเอง
“ขอบคุณมากนะค่ะ”
เธอเอ่ยออกไปพร้อมกับทำท่าทางเขินอาย
“ไม่เป็นไรครับ ตอนเจอกันนะครับ”
สิ้นเสียงคำพูดของชายหนุ่ม เมื่อหญิงสาวหันหลังให้ เขาจึงออกรถไป
ในใจของหญิงสาวในตอนนี้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ตามมาหลอกหลอนเขาตลอดเวลา แต่มันอาจจะเรียกว่าความรักสำหรับเขานั้นเอง
เลิกงาน
เธอเดินอออกมาหน้าโรงแรม มองซ้ายมองขวาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมารอเธออยู่จริง
“คุณมุกทางนี้ครับ”
เธอหันหน้าไปทางเสียงที่เรียกเธอนั้น จึงพบว่าเขานั่งรออยู่ในรถและมารอรับเขาจริง
“ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมารับจริงๆ”
“ขึ้นรถเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปส่ง”
เขาชวนเธอไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรู ซึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอมากนัก ทั้งสองทานข้าวอย่างสนิทสนมเหมือนคู่รักกำลังคบหากันใหม่เลยทีเดียว
เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วชายหนุ่มจึงไปส่งเธอที่บ้าน แต่ก็เป็นเวลาสักสองทุ่มได้แล้ว
“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
เธอบอกชายหนุ่มเพราะขืนไปจอดหน้าบ้านของเธอกลัวว่าผู้เป็นแม่จะเห็นเข้า
“ขอบคุณมากนะค่ะ ที่เลี้ยงข้าวและขับรถมาส่ง”
“ได้ความเต็มใจครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ”
ชายหนุ่มกล่าวออกไป หญิงสาวรีบเดินเข้าบ้านด้วยความเขินอาย
“กลับมาดึกไปไหนมา”
เสียงผู้เป็นแม่ดุขึ้น
“พอดีไปกินข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”เธอรีบตอบผู้เป็นแม่ออกไป
“อย่าให้รู้นะว่าไปข้างนอกกับผู้ชาย ไม่งั้นแม่เอาแกตายแน่”
“ค่ะแม่”
เธอเดินก้มหน้าไปในห้องของเธอด้วยความไม่สบายใจ
เจ็ดโมงเช้า
เธอมองหารถเบนซ์คันหรูที่จะมารับเธอและก็ได้เห็นจริงๆ และการคบหาของชายหนุ่มนักธุรกิจกับพนักงานโรงแรมก็เกิดขึ้นจริงจัง
ชายหนุ่มต้องคอยตักเจอเพื่อที่จะมารับและมาส่งเธอทุกวันที่เขาจะมาอยู่ที่เมืองไทย
และจนวันหนึ่งที่แม่ของเธอสังเกตเห็นว่าบุตรสาวของเธอผิดปกติจึงได้ออกมาตักรอบุตรสาวของเธอและเห็นว่ามีผู้ชายมาส่งบุตรสาวของเธอจริงๆ
เมื่อเข้าบ้านผู้แม่จึงตวาดเสียงดังขึ้น
“เดียวนี้ริอาจคบผู้ชายใช่ไหม ไอ้ลุกไม่รักดี เดียวก็ท้องไม่มีพ่อหลอด”
“ทำไมค่ะแม่ หนูโตแล้วแล้วนะค่ะ นี่หนูจะคบกับใครเลยไม่ได้เลยใช่ไหมค่ะ”
“เดี๋ยวนี้แกอาจเถียงฉันเหรอ”
ฝ่ามืออันหนักกระทบที่ใบหน้าทางซ้ายของผู้เป็นบุตรจนทำให้ใบหน้าอันงามนั้นต้องหันไปตามทิศทางาของฝ่ามือ
ด้วยความเสียใจทำให้ผู้เป็นบุตรสาวหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
“กลับมาเดียวนี้นะ ยัยมุก ยัยมุก ไอ้ลูกไม่รักดีกลับมาเดียวนี้”
เธอร้องเรียกตามหลังของบุตรสาว โดยที่เธอไม่คิดว่าบุตรสาวจะกล้าวิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
มุกประกายเธอวิ่งออกมาตามถนนจนมาถึงที่รอรถประจำทาง ในใจรู้สึกสับสน เธอหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเธอมากดโทรหาภาคภูมิ
“คุณภูมิค่ะ ฉันอยากพบคุณ”
เธอพูดไปพร้อมกับร้องให้ไปด้วย
“คุณมุกคุณเป็นอะไร คุณรอผมอยู่ตรงนั้นนะครับ”เขารีบกลับรถไปยังป้ายรถประจำทางที่เขามารับเธอในตอนเช้าหลายวันที่ผ่านมา พอเขาขับมาจึงได้เห็นร่างของหญิงสาวที่อยู่ในชุดทำงานที่เขากับเธอพึ่งจะแยกกันเมื่อกี่ แต่ตอนนี้สภาพอาจต่างกัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ บออกผมมาเถอะครับ”
“คือฉัน
ฉันกับแม่ทะเลาะกัน แม่เห็นคุณไปส่งฉันเมื่อครู่นี้ จึงทะเลาะกันกับแม่”
“คุณขึ้นรถก่อนเถอะครับ”
ว่าแล้วเขาก็ประคองร่างของเธอไปที่รถ พร้อมกับเปิดประตูให้กับเธอแล้วจึงขับออกไป
“นี่คุณอยากไปที่ไหนเหรอครับ”
“แล้วแต่คุณแล้วกันค่ะ ฉันคิดอะไรไม่ออก”เขาขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงทรายหาดทะเล เขาพาเธอเดินเล่นเพื่อจะให้สบายใจขึ้น
“คุณมีปัญหากับแม่แบบนี้บ่อยไหมครับ”
“อืม
ปกติก็ไม่ค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก”
“ผมคงเป็นต้นเหตุสินะ”
“เปล่าหรอกค่ะ ไม่ว่าคุณหรือใครก็ตามที่จะเป็นผู้ชาย แม่ก็คอยจะกีดกันตลอด แม่คงไม่อยากให้ฉันเสียใจเหมือกันกับเขา”
เธออธิบายเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ให้กับเขาฟัง
ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆ ตามทรายหาด เสียงคลื่นที่ไม่มีวันสงบของทะเลยังคงชัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง บวกกับลมทะเลที่เย็นสบาย
“มุกครับ”
เขาเรียกชื่อของเธอพร้อมกับยกมือทั้งสองของเขามาจับที่หัวไหล่นุ่มของหล่อ
“ค่ะคุณภูมิ”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งนะครับว่า คุณยังมีผม”
“ขอบคุณมากนะค่ะ ที่คุณไม่รังเกียจฉัน”
“ผมจะไปรังเกียจคุณทำไม่ละครับ ก็ผมชอบคุณ”
คำพูดของเขาทำให้เธอต้องยืนทึ่งไปพักหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยออกไป
“ค่ะ คุณพูดว่าอะไรนะ”
เธอยังไม่แน่ใจคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่
“อืม
คือผมรักคุณ ผมรักคุณครับมุก”
“ฉันก็รักคุณค่ะ คุณภูมิ”
“ถ้าอย่างนั้น”
“อะไรค่ะ”
เขาดึงร่างบอบบางนั้นเข้ามากอดในอ้อมอกที่ใหญ่หนาของเขา และเธอก็ยกมือทั้งสองมาจับที่แผ่นหลังนั้น
“ฉันรักคุณค่ะคุณภูมิ”
เธอบอกกับเขาขณะที่กอดอยู่ในอ้อมอกนั้นอยู่
ชายหนุ่มผลักร่างเธอออกมาพอให้มีช่องว่าง จากนั้นเขาจึงก้มหน้าลงไปจุมพิตที่ริมผีปากที่อวบอิ่มของเธอ ทำให้หล่อสะดุ้งไปพักหนึ่งจนเธอตัวแข็ง เพรานั้นเป็นจูบแรกของเธอ
เธอผลักร่างของเขาออกมาแล้วกล่าวออกไป
“ฉันว่าเรากลับกันเถอะค่ะ”
เธอบอกเขาเพื่อเป็นการหยุดการกระทำของเขาขณะนั้น
“ครับ ผมก็ว่าอยู่เหมือนกัน อากาศเริ่มเย็นแล้ว เดี๋ยวคุณจะไม่สบาย งั้นคืนนี้คุณไปค้างที่ห้องของผมก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
เขารีบเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งแล้วเขาจึงขับไปยังที่โรงแรมที่เขาพักอยู่และก็เป็นโรงแรมเธอทำงานอยู่นั้นเอง
เขารีบขับรถจนมาถึงโรงแรมและประคองเธอขึ้นไปที่ห้องของเขา เขาเปิดประตูห้องแล้วผลัดประตูเปิดเข้าไปในห้อง
“เข้ามาข้างในเลยครับ เดี๋ยวคุณใช้ผ้าเช็ดตัวผืนนี้นะครับ ห้องน้ำทางโน่นเลยครับ”
“ค่ะ แล้วคุณพอมีชุดสำรองบ้างไหม ฉันของยืมก่อน”
“อ้อ มีครับ”เขารีบตอบแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเอาชุดเสื้อผ้ามาให้เธอ
เธอรีบรับชุดที่เขายื่นให้แล้วไปอาบน้ำในห้องน้ำจนเสร็จ ชายหนุ่มมองเธอในชุดผู้ชายที่ให้กับเธอใส ซึ่งเป็นเสื้อชุดนอนของเขา
จากนั้นเขาจึงไปอาบน้ำและเธอก็ได้ไปนั่งที่โต๊ะแต่งตัวในห้องพัก เมื่อชายหนุ่มออกมาจากห้องอาบน้ำในชุดผ้าเช็ดผัวสีขาวผืนเดียว
ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปจับหวีที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกแล้วหวีผมให้เธออย่างเป็นระเบียบ
“คุณดูสวยมากเลยนะครับ ผมไม่เคยเจอเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ผู้ชายปากหวานอย่างนี้ทุกคนไหมค่ะ”
ชายใช้มือหนุ่มจับหัวไหล่ทั้งสองข้างของเธอในชุดนอนของเขา เขาจับตัวของเธอให้ลุกขึ้นแล้วหอมแก้มไปทางด้านหลังของเธอ จนทำให้เธอต้องหมุนตัวแล้วใช้มือปิดปากของ
“ไม่เอานะค่ะคุณภูมิ”
“คุณไม่รักผมเหรอ”
“รักสิค่ะ แต่มันไม่ใช่แบบนี้”
“ยังนี้หรือเปล่าครับ”
เขากระซิบใกล้ใบหน้าหวานของเธอ ก่อนจะฉกริมฝีปากที่สวยได้รูปมาครอบครองเรียวปากอันชื้นของเธอที่เผยออกหมายจะเอื้อนเอ่ยคำพูดอออกมา แต่กลับต้องเงียบกริบกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ซาบซ่านจนทำให้หัวใจของเธอต้องหวั่นผวา
ชายหนุ่มดูดซับเรียวปากหวานที่เอิบอิ่มหอมหวาน พร้อมกับวางมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนุ่มและเนียนของเธออย่างคลั่งไคล้จนยากจะหักห้ามความรู้สึกที่เพริศแพร้วเอาไว้ได้
เธอพยายามผลักร่างของเขาออก แต่ก็ต้องหยุดชะงักไป และเปลี่ยนจากการผลักที่หน้าอกของเขากลับย้ายไปเป็นแตะเบาๆ และค่อยๆ เลือนไปจับที่ไหล่ของชายหนุ่มอย่างนุ่มนวล
เขาจูบเธออย่างดุจดื่ม ผสานกับการเรียกร้องและเชิญชวนอยู่ในที จนทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนต้องหวั่นไหวและเตลิดไปด้วยอาการเคลิ้มฝันและถวินหาความสุขไปพร้อมๆ กัน
ปลายนิ้วเรียวสะอาดที่แข็งแรงของเขาสอดไปยังใต้เสื้อของสาวน้อยและดึกเสื้อของเธอออกจนเห็นร่างบางอรชร เผยให้เห็นเรือนกายงามละเมียดที่เนียนสะอาดและยวนตาของเขาอย่างเด่นชัด
เขาพยายามยกร่างที่บอบบางไปยังที่นอนที่ใหญ่นุ่มสีขาวดูสะอาดและฝ่ามือใหญ่ที่สะอาดและนุ่มละมุนวางลูบไล้ไปตามผิวกายที่ขาวเนียนผุดผ่องสะอาดทุกสัดส่วนที่เปิดเผยให้เห็นเรือนร่างและสะโพกเอวเรียวของเธอ
ชายหนุ่มใช้ปลายลิ้นที่อุ่นซ่านคค่อยๆ แทรกผ่านไรฟันที่สะอาดเข้าไปแตะสัมผัสปลายลิ้นเล็กๆ ที่ทำทีเหมือนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะสัมผัสกับปลายลิ้นของเขา
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้หลีกเลี่ยงเมื่อถูกเกียวกวัดรัดรึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว หัวใจองสาวน้อยหวีดหวิวแผ่ซานไปทั่วร่างก่อนจะวิ่งแล่นผาดลงไปยังหน้าท้องเกิดอาการปั่นป่วนและโหยหาอย่างไม่เคยรูปสึกมาก่อน
ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ลูบลงไปหาหน้าอกที่เต่งตึงของสาวน้อยจนทำให้เธอต้องเกร็งจนแทบจะหยุดหายใจในขณะนั้น ส่วนฝ่ามืออีกข้างสอดเข้าไปอยู่ใต้ท้ายทอยนุ่มของเธอ เพื่อบังคับให้เธอรับรอยจูบที่ชุ่มหวานของเขาไม่ให้บิดเบียนเลื่อนหนีอยู่ในทีฝ่ามือ ส่วนมืออีกข้างที่ลูบไร้บนหน้าอกของเธอก็ทำหน้าที่สำรวจตรวจตราเรือนกายงานไปทุกส่วนทุกซอกมุมเหมือนเป็นการจุดประทุนและกระตุ้นอารมณ์ใคร่ให้เธอไม่ว่างเว้น
เรือนร่างบอบบางระหงบิดไปมาด้วยความเขินอาย และกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รู้รสมาก่อน
เขายังคงจูบไซ้ปทุมถันที่อวบสล้างเย้ายวนของเธออย่างหนักหน่วง ฝ่ามือหนักทั้งสองยังคงลูบไล่ไปทั่วผิวกายที่ไร้เสื้อผ้า ก่อนจะจูบลงมาตามร่องอกต่อด้วยหน้าท้องที่เรียนนุ่มนวล
เรียวขาขาวทั้งสองข้างหนีบเข้าหากันด้วยความขวยเขิน แต่กลับถูกเขาจูบลงมายังกลางหัวใจของหญิงสาว ทำให้เธอเผยอร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไปทั้งกาย
อาการนุ่มนวลและใจเย็นของเขายิ่งทำให้เธอยิ่งเสี่ยวซ่านไปทั่วกายมากขึ้น เธอร้องครางออกมาเบาๆ เป็นการบอกให้เขาเร่งจังหวะความรักมากยิ่งขึ้น จนร่างกายที่บอบบางของเธอและร่างที่กล้ามแข็งแกร่งต้องอ่อนแรงไปนอนกอดกันอย่างกลมเกลียว
ทั้งสองนอนหลับสนิทบนที่นอนหนานุ่มสีขาว จนกระทั้งแสงอรุ่นสาดส่องเข้ามาในห้องกระทบกับเปลือกตาของเธอทำให้เธอรู้สึกตัวแล้วหันมาข้างเจอกับชายหนุ่ม ทำให้เธอตกใจและคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็นึกได้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ จนทำให้น้ำตาของเธอไหลลงสู่ที่นอน
เขารู้สึกตัวและลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าเธอกำลังร้องให้จึงได้กล่าวออกไป
“ผมขอโทษนะครับ”
“ขอโทษฉันเรื่องอะไรหรือค่ะ”
“ก็เรื่อง
”
“ไม่เป็นไรคะ ในเมื่อฉันก็รักคุณนี่ค่ะ”
“ครับ ผมมีความสุขมากเลย”
เขากระซิบที่ใบหูของเธอเบาๆ และจูบที่หน้าฝากของเธอ
เขาและเธอแต่งตัวออกไปข้างนอกห้องเขาไปเธอไปเที่ยวหลายวัน เพื่อให้เธอลืมเรื่องราวต่างๆ จนกระทั้งกลับมาที่ห้อง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เขาต้องใจหายไปพักหนึ่ง เมื่อรายชื่อบนหน้าจอนั้นเป็นเจนจี่ ทำให้เขาต้องหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปคุยให้ห่างจากจุดที่เธออยู่
“ครับเจนนี่”
“ภูมิค่ะ ทำงานเสร็จหรือยังค่ะ เจนคิดถึงจะแย่แล้วนะ หรือว่าจะให้ฉันไปหาคุณที่นั้นเอาไหม”
“ก็ใกล้เสร็จแล้วจ๊ะ”
“ถ้าอาทิตย์นี้ภูมิไม่กลับ เจนนี่จะไปหาคุณนะค่ะภูมิ หรือว่ามีอะไรที่นั้นหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ เสร็จงานแล้วผมจะรีบกลับนะ แค่นี้ก่อนนะผมกำลังยุ่งอยู่นะ”
ขณะที่ภาคภูมิคุยโทรศัพท์อยู่นั้น มุกประกายก็แอบๆ ที่จะได้ยินว่าคุยกันเรื่องอะไร จึงทำให้เธอรู้สึกว่าภาคภูมิไม่ได้มีเขาคนเดียว และที่สำคัญก็คือ เธอมาทีหลัง
เมื่อเขาเสร็จจากการรับโทรศัพท์และจึงเดินกลับมาหาเธอที่นั่งอยู่ที่นอนในห้อง ทำให้เธอสงสัยในใจจึงเอ่ยถามออกไป
“ภูมิค่ะ ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมค่ะ”
“อะไรเหรอจ๊ะ”
“คือ”
เธออ้ำอึ้งไม่กล้าถามเขา
“เปล่าหรอกค่ะ ฉันอยากกลับบ้านแล้วค่ะ ฉันเป็นห่วงแม่”
“งั้นพรุ่งนี้ผมเช้าผมจะไปส่งคุณที่บ้านนะ”
คืนนี้เป็นอีกคืนที่ทั้งคู่บรรเลงความสวาทอีกครั้งแต่การตอบโต้ของฝ่ายหญิงไม่เหมือนกลับคราวที่แล้วจนทำให้เขาเกิดความสงสัยเมื่อเสร็จภารกิจนั้น
“มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ บอกผมได้นะ”
“ฉันกลัวค่ะภูมิ ฉันกลัวว่าสักวันคุณจะทิ้งฉันไป”
คำพูดของเธอทำให้เขาต้องหลบตาไปครู่ใหญ่ก่อนที่จะเอ่ยออกไป
“ไม่หรอกจ๊ะ ผมจะทิ้งคุณไปทำไม”
“จริงนะค่ะ”
สิ้นสุดเสียงของเธอเขาจึงดึงตัวที่บอบบางนั้นมาโอบที่หน้าอกอันหนา พลางคิดว่าสักวันเขาต้องกลับไปที่ต่างประเทศและอาจจะทำให้เธอนั้นต้องเสียใจเป็นแน่
“จริงสิครับ”
ความคิดเห็น