ป่วนรัก อสูรร้าย

ลำดับตอนที่ #1 : ชีวิตที่อยู่กับงานเบื่อๆ

ในความมืดสนิท มิดราวกับแสงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยอสูรร้าย มันมืดจนไม่มีแสงอะไรเลย ไม่มีแสงดวงที่ส่องสว่างจากท้องฟ้าลงมาบนพื้นแผ่นดินแม้แต่น้อย

แต่ทว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่กำลังเคลื่อนตัวเหมือนกับเจ้าของร่างนั้นจดจำเส้นทางได้เป็นอย่างดี ปลายเท้าทีละข้างค่อยๆ บรรจงลงก้าวสู่พื้นอย่างระมัดระวังโดยไม่ต้องการให้ใครผู้ใดรู้ว่ามีคนกำลังเดินเข้ามา 

“อย่าเสียงดังเชียวนะ…” มุกประกายหญิงสาวที่พึ่งจะกลับจากไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บอกกับตัวเองขณะที่กำลังเปิดประตูเข้าบ้าน โดยไม่ให้แม่ที่เธอคิดว่ากำลังหลับสบายอยู่ในห้องได้ยิน หลังจากที่หญิงสาวออกไปเทียวนอกบ้านกับเพื่อนๆ ในรอบหกเดือน

มุกประกายปีนี้เธอมีอายุยี่สิบห้าปี เรียนจบมาสามปีแล้วแต่ผู้เป็นแม่ก็ยังหวงและห่วง ลูกสาวคนเดียวจนเกินไป ทำให้บางครั้งอดที่จะอึดอัดใจขึ้นมาไม่ได้

หญิงสาวเดินด้วยฝีเท้าที่คิดว่าตัวเองได้พยายามเงียบกริบอย่างที่สุดลงบนพื้นกระเบื้องเนื้อหยาบสีน้ำตาลเข้มแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงตวาดขึ้นมา

“ยัย…มุก! กลับดึกๆ ดื่นๆ ไปไหนมา”

เสียงดุดังขึ้นตรงหน้าพร้อมๆ กับที่สวิตซ์ไฟถูกกดจนได้ยินเสียง ความมืดที่ถูกบดบังมานานถูกกลืนกินด้วยแสงประดิษฐ์จากหลอดไฟฟูออเลตเซนสว่างวาบขึ้นทำให้เธอร้องอุทานลั่นอย่างตกใจ หัวใจแทบว่าจะหยุดเต้น เมื่อเห็นใบหน้าดุของผู้เป็นมารดาเผยให้เห็นท่ามกลางแสงสว่างเรืองรอง

“เออ” หญิงสาวมีน้ำเสียงอ้ำอึ้งพลางหลบสายตาด้วยความกลัว “คือ…พอดีวันนี้วันเกิดเพื่อนนะค่ะ หนูเลยไปงานเลี้ยงมา งานเพิ่งเลิกก็เลยพึ่งกลับ” หญิงสาวยังคงก้มหน้าอยู่

แก้วใจแม่ของมุกประกายเป็นคนดุ ปากร้ายแต่ทว่าใจดี แก้วใจหย่ากับสามีมาตั้งแต่ลูกสาวอย่างมุกประกายยังมีอายุแค่ขวบเศษ เพราะเขามีผู้หญิงคนอื่น ทำให้นางไม่เชื่อมั่นและศรัทธาในความรักอีกต่อไป

ความรักและความกดดันทั้งหมดที่มีต่อสามีจึงได้ถูกเอามาลงที่ผู้เป็นลูกสาวอย่างมุกประกาย เพราะถือว่าเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของเธออย่างแท้จริง

รักมากก็หวงมาก ดังนั้นมุกประกายจึงแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ เธอเรียนมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับการอนุญาตให้พักหอพักร่วมกับเพื่อนคนอื่น ทั้งที่บ้านกับที่เรียนห่างไกลกันมากแม่ยังต้องให้เธอกลับมาที่บ้านทุกวัน

“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามออกไปไหนดึกๆ ดื่นๆ แล้วนี้เกิดอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ” เสียงต่อว่าต่อขานนั้นแสดงถึงความห้ามปรามจริงจังแต่ลึกๆ แล้วแฝงด้วยความเป็นห่วงใยอย่างลึกซึ้งนางคิดแต่ว่า ปกป้องลูกสาวสุดที่รักจากการถูกผู้ชายมาหลอกเหมือนอย่างนาง ดีกว่าให้ลูกต้องเจ็บปวดและเจ็บช้ำเพราะผู้ชาย

ผู้ชายนั่นหรือ…เป็นเพศที่มักมากและไม่รู้จักพอ ให้กินเท่าไหร่ก็ไม่มีวันอิ่ม

“ค่ะแม่ ทีหลังหนูจะไม่ไปไหน” เสียงอ่อยของเธอกล่าวออกไป ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักที่แม่ของเธอมีแต่จะห้ามปรามไปเสียทุกเรื่อง

เธออายุจนปูนนี้แล้ว ยังไม่ได้รับอนุญาตให้คบผู้ชาย แต่ละคนที่เข้ามาชอบพอก็ล้วนแต่หนีหน้าไปหมดในเวลาไม่นาน

ก็ใครเล่าจะไปทนวาจาดูถูกและคำด่าทอของแม่เธอได้

“ไปอาบน้ำ เข้านอน พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า แล้วอย่าให้เห็นนะว่าพรุ่งนี้แกกลับดึกอย่างนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันจะให้แกลาออกจากงาน” ผู้เป็นแม่ออกคำสั่งและคาดโทษ

“ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเนิบ

หลังจากที่มุกประกายรับปากผู้เป็นมารดาแล้วก็เดินผ่านหน้าขอมแก้วใจผู้เป็นมารดารเข้าไปในห้องนอนด้วยกิริยาเซื่องซึม

แก้วใจมองตามหลังผู้เป็นลูกสาว แม้จะแฝงไปด้วยความเห็นใจอยู่มากแต่นางก็คิดว่าได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกแล้ว

สักวัน…สักวันลูกจะรู้ว่าแม่นั้นรักและหวังดีมากมายเพียงใด

มุกประกายเดินทอดน่องเข้ามาในห้องด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะปิดประตูห้องนอนแรงๆ แทนการระบายอารมณ์ที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

มือเรียวยาวคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พับเก็บเป็นระเบียบยู่ในตู้เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวอาบน้ำราดรดเข้าตัวเองแรงๆ เพื่อหวังว่าความชุ่มฉ่ำของสายน้ำจะช่วยพัดพาความหงุดหงิดและความเหนื่อยหน่ายในหัวใจของเธอให้ออกไปให้พ้นตัว

ในใจของหญิงสาวตอนนี้กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจนักหนาว่าทำไมแม่ของเธอคอยแต่จะห้ามปรามหลายๆ เรื่อง ทั้งที่เธอโตเป็นสาวจวนจะกลายเป็นสาวแก่ทึนทึกแล้วก็ตาม

หลังจากอาบน้ำจนพอใจและเปลี่ยนเป็นชุดนอนเนื้อบางเบาแล้ว หญิงสาวจึงได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่ก็หลับๆ ตื่นๆ เพราะมีความคิดสับสนวุ่นวายอยู่ในหัวใจ กว่าจะหลับสนิทก็เกือบค่อนรุ่ง

จวบจนกระทั่งถึงเวลาเช้าตรู่ แสงแดดสีทองส่องทอลอดเข้าไปภายในห้องของมุกประกายตามรอยแยกของขอบหน้าต่างและผ้าม่าน เป็นการบอกเตือนเธอว่าถึงเวลาที่จะต้องตื่นขึ้นมาเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานของเช้าวันนี้

มุกประกายเรียนจบปริญญาตรีสาขาการโรงแรม และเธอก็โชคดีที่ได้ทำงานตรงตามสาขาที่เธอเรียนมาโดยตรง แต่ทว่าช่วงนี้พนักงานทุกคนต่างก็ต้องเร่งกันหาลูกค้าเข้ามาพักเพราะวิกฤตการณ์ทางด้านเศรษฐกิจไม่สู้ดีเท่าไหร่นักบวกกับความวุ่นวายทางด้านการเมืองเข้าไปอีก

“มุกลงมากินข้าวได้แล้ว สายแล้ว กับข้าวแม่เตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้วนะ เร็วๆ”

เสียงเรียกของผู้เป็นมารดาดังมาจากชั้นล่างของบ้านของเธอ ขณะที่เธอกำลังแต่งตัวและแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกในห้องนอนของตัวเอง

“ค่ะแม่”

หญิงสาวเป็นคนรูปร่างสมส่วนสูงประมาณ 170 เซนติเมตร อันเป็นความสูงที่ออกจะเกินมาตรฐานอยู่สักหน่อยหากเทียบกับผู้หญิงไทยคนอื่นๆ

ยิ่ง อยู่ในชุดพนักงานโรงแรมสีเทาที่แนบลู่เข้ากับรูปร่างสมส่วนของเธอยิ่งส่งผลให้เอนร่างนั้นไม่ต่างจากนางแบบมืออาชีพ

หญิงสาวออกไปหน้าปากซอยเพื่อยืนรอรถประจำทางในการอกไปทำงานเป็นประจำทุกๆ วัน กว่าจะมาถึงที่ทำงานได้ก็ช้าไปกว่าสิบนาทีเมื่อมาถึงก็รีบตรงเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเกวลินเพื่อนสาวของเธอทันทีโดยไม่รอช้า

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการห้องพักกี่ห้องค่ะ”

หญิงสาวยกมือไหว้แขกที่กำลังเดินเข้ามาทางประตูหน้าโรงแรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของเธอกับปรานใส ในฐานะพนักงานต้อนรับแขก

“ห้องเดียวครับ…ขอบคุณมากครับ”

ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเธอและพนักงานชายคนที่ช่วยยกกระเป๋าของเขามาให้อย่างสุภาพ

“ผมของจองห้องพัก 1 ห้องนะครับ และคิดว่าจะอยู่ประมาณ 1 เดือน” เขากล่าวย้ำ

“ค่ะ”

หญิงสาวยิ้มรับ บุคลิกของเขาช่างดูสุภาพเหลือเกินแถมหน้าตาของชายหนุ่มผู้นี้ก็หล่อเหลาราวกับดาราหนังที่เธอชอบดู ยิ่งอยู่ในชุดสูทหรูราคาแพงแม้เพียงมองเผินๆ ด้วยตาเปล่าก็ดูออก ส่งผลทำให้สาวๆ ในบริเวณนั้นต่างละทิ้งงานที่กำลังทำอยู่หันมาให้ความสนใจเขาแต่เพียงผู้เดียว

                ไม่เว้นแต่มุกประกายที่พลอยลอบมองเขาอีกคนด้วยความชื่นชมอยู่ภายในใจจนกระทั่งชายผู้นั้นลับหายเข้าไปในห้องพักของเขาไปแล้ว

                ภาคภูมิทรุดตัวลงนั่งพักเหนื่อยบนโซฟาตัวใหญ่และงีบหลับราวครึ่งชั่วโมงจึงได้ตื่นขึ้นแบะลุกออกไปอาบน้ำ

                เสียงโทรศัพท์มือถือกรีดร้องดังขึ้นอยู่นานหลายนาทีก่อนที่มือหนาเปรอะเปื้อนไปด้วยฟองสบู่ของเขาจะกดรับ

                “ฮัลโล ดาร์ลิ้ง…ถึงแล้วเหรอค่ะ”

เจนนี่หญิงสาวสวยเปรี้ยวเข็ดฟัน แฟนสาวของเขาดังมาตามสายอย่างอ่อนหวาน ซึ่งเธอเองก็กำลังอาบน้ำอย่างสบายอกสบายใจในห้องอาบน้ำอันหรูหราของเธอเช่นเดียวกัน

                “ครับ เจนนี่ ตอนนี้ผมถึงเมืองไทยแล้วนะและได้ที่พักแล้วจ๊ะ กำลังอาบน้ำอยู่พอดี”

                “ภูมิรีบทำธุระให้เสร็จไวๆ นะเจนนี่คิดถึง”

“จ๊ะ เอาไว้แค่นี้ก่อนนะ อาบน้ำเสร็จแล้วจะโทรหาใหม่ บายครับ”

ภาคภูมิเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังมาแรงและได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ และที่สำคัญความหล่อของเขาก็ไม่แพ้พระเอกหนังในละครทีวีเลยทีเดียว จึงทำให้เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ มากมายรวมทั้งเจนนี่คู่ควงคนล่าสุดของเขา