ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✎ {os/sf}'BTS - holding hopega ( all홉all슈가 )

    ลำดับตอนที่ #1 : (os) - Feel so sweet. /hopega

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 61


    Title; Feel so sweet.

    Paring; Jhope x Suga

     

     

     

    อา ก็ไม่ได้อยากจะดื่มหรอกนะ แต่ว่ามัน

    ถ้าแลกมากับความรู้สึกที่ได้ดื่มดำกับรสหวานแบบนั้น

    ต่อให้เมามายจนพรุ่งนี้ตื่นมาจำอะไรไม่ได้

    ก็ยังเลือกที่จะดื่มอยู่ดี

     

     

     

     
     

     

    มันเป็นอีกครั้งที่ขวดแก้วทรงสูงบรรจุของเหลวสีแดงเข้มถูกนำมาตั้งบนโต๊ะไม้ขัดเรียบ ของที่เดิมวางกระจัดกระจายบนแผ่นแข็งสีน้ำตาลถูกกวาดไปกองรวมกันตรงมุมเพื่อสะดวกที่จะวางแก้วไวน์แสนบอบบางโดยไม่เสี่ยงว่ามันจะตกลงมาแตกแล้วทำร้ายผิวสีซีดของเขา

     

    ภาชนะสีใสได้ถูกบรรจุด้วยเครื่องดื่มฤทธิ์มึนเมาในปริมาณพอเหมาะ ซึ่งนั่นหมายถึงเมื่อประมาณชั่วโมงที่แล้ว ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้นละก็ ตอนนี้ก็ยังพอมีไวน์หลงเหลืออยู่ในแก้วพอๆกับ60นาทีที่แล้ว ต่างกันตรงว่านี่อาจจะการถูกเติมรอบที่เท่าไหร่คนรินเองก็ลืมมันไปเสียสนิท แต่ไม่ใช่แค่จำนวนรอบการเทของเหลวลงในแก้วที่หายไปจากความทรงจำ

     

    สิ่งที่เขาจำเป็นต้องอดทนต่อผู้ชายที่ชื่อ จองโฮซอก มันหายไปเช่นกัน

     

     

    “โฮซอกอา เมื่อไหร่นายจะกลับมาที่ห้องซักทีนะ เจ้าเด็กบ้า ” ปลายนิ้วเคาะลงจนจอมืดสนิทของสมาร์ทโฟนราคาแพงเป็นจังหวะซ้ำๆ “พี่รอนายอยู่ไม่รู้หรือไง” ดวงตาหรี่ลงจ้องโทรศัพท์ค้างไว้ราวกับว่าเขาจะสามารถสื่อสารกับคนที่กำลังคิดถึงอยู่ได้อย่างนั้นล่ะ

     

    ใบหน้าขาวเอนลงซบกับโต๊ะไม้ตรงหน้า เศษขี้ยางลบบางส่วนจากการทำงานที่ไม่ทันได้กวาดออกจากโต๊ะแนบติดกับแก้มนิ่มอย่างเลี่ยงไม่ได้

     
     

    แกร๊ก

     
     

    เสียงเปิดประตูเบาๆดังขึ้น มันฟังดูเหมือนเกรงใจคนที่อาจจะนอนอยู่ในห้อง แต่เพราะคนที่ถูกเกรงใจนั้นกลับไม่ได้หลับอยู่ เสียงนั่นจึงเรียกความสนใจจากมินยุนกิได้เป็นอย่างดี ร่างที่สติถูกควบคุมด้วยน้ำองุ่นหมักเด้งตัวมามองบุคคลที่เข้ามาใหม่ ริมฝีปากสีอ่อนคลี่ยิ้มบางออกมา

     

     

    “จองโฮซอกก-- นายไปไหนมา กลับช้าจัง ดูซิ นี่มันกี่โมงแล้ว ห๊ะ?” ยุนกิลากเสียงเรียกชื่อคนที่เขากำลังรออยู่ แขนบางยันตัวเองขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับยื่นแขนข้างที่สวมนาฬิกาเรือนแพงไปตรงหน้าอีกคน คิ้วบนใบหน้าขมวดลงเล็กน้อยพอน่าดู

     
     

    จริงๆเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้หรอกว่ามันน่าดูไหม แต่โฮซอกขอสรุปให้ว่ามันน่าดูแล้วกัน

     

    น่ารักด้วย

     
     

    “ผมไปดูหนังรอบดึกกับนัมจุนมานี่ครับ เลยดึกน่ะ พี่ยังไม่นอนอีกหรอ” ร่างสูงกว่ามินยุนกิไม่กี่ซนติเมตรเมินการกระทำนั้น เพียงแต่ตอบพลางถอดเสื้อคลุม จากนั้นโค้ทตัวหนาก็ถูกนำพาดบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด

     

    พี่รอนา

     

    “ นี่พี่ดื่มอีกแล้วหรอครับ ” หลังจากเหลือบตาไปเห็นขวดสีเขียวเข้มกับแก้วใสบนโต๊ะทำงานคนแก่กว่า โฮซอกพูดก็ขัดอีกคนโดยไม่รอให้พูดจบ ใจความประโยคดูเหมือนว่าจะดุอยู่หรอกนะ แต่น้ำเสียงอ่อนโยนที่ส่งมาถึงยุนกิมันก็ไม่ใช่เรื่องโกหกหรือหูฝาดไปแน่นอน เขามั่นใจ

     

    “ ทำไมล่ะ เป็นห่วงฉันหรอหื้ม” ร่างดูบอบบางก้าวประชิดตัวคนถาม ยิ้มตาหยีจนเหมือนกำลังหลับตา ฟันขาวเรียงสวยปรากฏแก่สายตาคนถูกถาม นั่นล่ะฮะ คนถูกถามทนไหวก็บ้าแล้วล่ะฮะคุณ

     

    “ห่วงสิครับ ดูซิแก้มมีเศษขี้ยางลบยังไม่รู้ตัวเลย คิดดู”

     

     

    เมาแหง พี่ยุนกิเมาแน่นอน 100% จองโฮซอกคนนี้รับประกัน

     

    หลังจากหันมามองใบหน้าเล็กตรงๆ เขาก็สังเกตได้ว่านอกจากเสียงที่แหบและทุ้มกว่าปกติฟังดูอ้อนเหลือเกินนั้น ดวงตาเรียวมันฉ่ำจนเขาไม่แน่ใจว่าของจริงหรือเปล่า ไม่ใช่แค่แก้มเนียนใสที่แดงระเรื่อ บริเวณอื่นบนใบหน้าและลำคอก็มีสีเลือดฝาดเช่นกัน รอยยิ้มหวานซึ่งปกติเขาจะได้รับมันอยู่เสมอ แต่ไม่น่าใช่ในสถานการณ์ที่โฮซอกน่าจะยังไม่ได้ทำให้พี่ชายคนสนิทยิ้มแม้แต่นิดเดียว


     

    รวมถึงประโยคชวนคิดจากปากบางนั้นอีก ให้ตายเถอะ เป็นแบบนี้อีกแล้ว

     
     

    โฮซอกไม่ได้ตกใจอะไรมากมายหรอก เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อยอยู่พอสมควร และทุกครั้งพี่ยุนกิก็จะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ตลอด

     

    ฝ่ามือขนาดตามมาตราฐานชายทั่วไปจับเข้าที่แก้มคนตัวขาวก่อนใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเศษยางลบสีเทาออกเบาๆ ตอนแรกเขาก็มองที่แก้มอยู่หรอก แต่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนกลับดึงดูดสายตาเขาไปอย่างง่ายดาย

     

    ถ้านี่คือฟิคชั่นเรท NC-17 ที่เขาเคยเห็นผ่านตามาบ้างตามโซเชี่ยล พี่ยุนกิจะไม่ยืนอยู่ตรงนี้หรอก ป่านนี้คงจบด้วยการที่เขาก้มหน้ากดจูบอีกคนอย่างร้อนแรง หรืออาจจะเป็นฉวยโอกาสพาคนแก่กว่าไปที่เตียง หรือทำอะไรทำนองนั้นแต่เป็นสถานที่อื่นๆน่ะนะ

     

    แต่ ณ จุดนี้เวลานี้เขาเป็นคนดีมากพอจะไม่ทำอะไรแบบนั้น มันไม่ได้ง่ายหรอก การจะเริ่มต้นจูบรุ่นพี่ของตัวเองทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันน่ะ จองโฮซอกทำได้เพียงละสายตาออกจากใบหน้าหวานราวเด็กผู้หญิง ออกแรงดึงข้อมือยุนกิให้เดินไปนั่งตรงขอบเตียง คนยืนค้ำหัวรุ่นพี่กดไหล่มินยุนกิให้นั่งดีๆก่อนเอ่ยเสียงเรียบ

     
     

    “ พี่นั่งตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ ขี้ยางลบมันสกปรก” ไม่รอช้าโฮซอกก็เดินห่างจากตัวยุนกิบนเตียงไปทางห้องน้ำในตัวห้องพัก

     
     

     

    ในขณะที่กำลังเปิดน้ำอุ่นจากก็อกตรงอ่างล้างมือ อ้อมกอดปริศนาก็เกิดขึ้นจากด้านหลัง ลมหายใจร้อนกำลังเป่ารดต้นคอเขาอยู่ นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญใดๆ เขารู้ว่าเจ้าของสัมผัสนี้คือใคร ต่อให้ไม่มีกระจกตรงหน้าที่สะท้อนภาพพี่ยุนกิกอดเขา เขาก็รู้อยู่ดี

     

    “พี่ครับไม่เล่นแบบนี้สิ” ร่างสูงดุ ตอนนี้คนเมาที่น่ารักกำลังแนบปากนิ่มลงมาบนต้นคอเขาในจุดเดิมซ้ำๆ ยอมรับล่ะว่ามันสยิวกิ้วพอสมควร แต่เพราะอีกคนกำลังเมา ฉะนั้นเขาจะไม่ถือสาอะไรทั้งนั้น

     

    “นายไม่สนใจพี่อีกแล้วนะ”

     

    “ไม่สนใจอะไรล่ะครับพี่” ผ้าชุบน้ำอุ่นไล่ไปตามกรอบหน้ามินยุนกิ “พี่ครับหลับตาหน่อย” พูดจบผ้าผืนนิ่มก็เช็ดเข้ากับเปลือกตาสวยอย่างอ่อนโยน

     

    “นายชอบพี่ไหมโฮซอก” เสียงติดหวานเอ่ยออกมาทั้งที่ยังไม่ลืมตา

     
     

    ร่างสูงกลั้นหายใจชั่วครู่ เขากำลังชั่งใจว่าจะพูดมันออกไปดีหรือไม่ดี และแน่นอน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ยุนกิถามแบบนี้ และเช่นกัน มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาชั่งใจแบบนี้ ถึงจะรู้อยู่ว่าต่อให้พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาร่างเล็กจะจำอะไรไม่ได้ว่าตัวเองถามอะไรหรือว่ารุ่นน้องตอบอะไร โฮซอกก็ยังไม่ค่อยมั่นใจที่จะตอบประโยคเสี่ยงทำลายความสัมพันธ์ของเราและรุ่นพี่ตัวขาว

     
     

    ชอบสิครับ

     
     

    โฮซอกเลือกจะตอบแบบนั้น คำตอบที่ไม่ใช่คำโกหก คำตอบที่ให้ผลลัพธ์ออกมาในทางที่ดีกว่าสำหรับเวลานี้ พี่ยุนกิไม่เคยตื่นมาถามเขาเกี่ยวกับคำตอบที่เขาตอบไป เขาไม่ได้มั่นใจนักหรอกว่าอีกคนจะจำไม่ได้ แต่ทุกครั้งคุณมินก็ไม่เคยเปลี่ยนไป พี่น้องคือพี่น้อง ไม่ไปไกลกว่านั้น เลยค่อนข้างมั่นใจว่าคำตอบนี้คือคำตอบที่ใช้ได้

    ไม่ใช่ว่าอีกคำตอบนึงเขาจะไม่เคยพูด เขาเคยแล้ว แต่มันจบด้วยการที่คนตัวเล็กร้องไห้โวยวายว่าทำไมจองโฮซอกถึงใจร้ายกับมินยุนกิ พี่เขาเป็นคนไม่ดีหรอ รวมถึงอาการงอน พูดจาประชดต่างๆ เหมือนกับคนที่ทะเลาะกับแฟนอย่างงั้นล่ะ ซึ่งโฮซอกเองทนไม่ได้ที่จะเห็นรุ่นพี่ทำท่าเจ็บปวดใจแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าคนตัวขาวคนนั้นทำไปโดยไม่รู้ตัวก็เถอะ นี่คือเหตุผลที่เขาบอกอีกคนไปว่าชอบ นั่นล่ะ

     

    “แล้วรักพี่ไหมโฮซอก” คราวนี้ขนตาเรียงเป็นแพขยับนิดหน่อยก่อนลืมตาขึ้นจ้องเขา

     

    “ถ้าพี่ถามแบบนี้อีกผมจะไม่ตอบแล้วนะ”

     

     

    รักสิครับ รักที่สุดเลย ผมรู้นะว่าพี่เมา แต่ขอร้องล่ะ อย่าให้ผมใจอ่อนแล้วรักพี่ไปมากกว่านี้ได้ไหม” โฮซอกถอนหายใจ

     

    “เฮ้อ ถ้าเกิดผมทนไม่ไหวแล้วอยากได้พี่มาอยู่ในฐานะที่มากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง พี่ยุนกิจะลำบากเอานะครับ เพราะผมมันเป็นคนไม่ดี แล้วผมไม่มั่นใจกับตัวเองมากพอว่าจะทำให้พี่มีความสุขได้ด้วย ผมไม่อยากทำร้ายพี่ หยุดให้ความหวังผมซักที”

     
     

    ไม่ดีที่คิดจะอยากได้รุ่นพี่ตัวเล็กเป็นของตนเอง
     

     

    ร่างสูงพายุนกิออกจากห้องน้ำมานอนบนเตียงพร้อมห่มผ้าให้เสร็จสรรพ แต่ก่อนจะไปจัดการเรื่องของตัวเอง คิ้วขมวดลงเล็กน้อยตอนมองคนสติไม่ได้100%ที่นอนใช้ตาเล็กๆนั่นมองเขาเชิงอ้อนวอน

     

    จริงๆแล้วจองโฮซอกเป็นคนใจอ่อนนะ และมากด้วยถ้ามันเป็นเรื่องของพี่มินยุนกิ

     

    “ว่าไงครับหื้ม อยากได้อะไรไหม” ร่างโปร่งนั่งลงบนขอบเตียงก่อนเอ่ยถาม

     

    “พี่อยากได้นาย”

     

    “พี่กำลังจะทำให้ผมทนไม่ไหวนะครับ” จองโฮซอกหายใจเข้าลึกๆ กรามของเขากำลังขบกันแน่น

     

    “แล้วพี่ก็ชอบนาย”

     

     

    “รักนายด้วยโฮซอกอา”

     

    “พี่จะบอกรักใครซี้ซั้วแบบนี้ไม่---

     
     

    จุ๊บ

     
     

    “และพี่จะใช้ปากนิ่มๆของพี่มาแตะปากผมตามใจชอบไม่ได้ด้วย”

     

    ใบหน้าแดงอยู่ห่างจากใบหน้าเขาไปกี่เซนติเมตร ระยะห่างของมันคือศูนย์เมื่อสองสามวิที่แล้ว สัมผัสอุ่นนิ่มยิ่งกว่ามาร์ชเมลโล่วเผานั่นยังติดอยู่ที่ปากโฮซอก มินยุนกิคงยังยิ้มกว้างอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก้อนเนื้อสีแดงข้างในอกกำลังเต้นรัวจนร่างสูงได้ยินเสียงของมัน และเขาก็ได้ยินเสียงแบบเดียวกันมาจากตัวอีกคนตรงหน้า

    แต่คุณยุนกิก็ไม่ได้ปล่อยให้โฮซอกหายใจหายคอ แขนเรียวโอบรอบตัวเขา เอาแก้มนุ่มมาแนบบนบ่ากว้าง

     

    “แต่พี่ชอบปากของนายนะ” คนตัวขาวผละออกมาจ้องหน้าโดยทีเปลี่ยนแขนโอบรอบตัวมาเป็นรอบคอแทน

     
     

    ใครก็ได้ฆ่าจองโฮซอกที จะให้เขาทนกับรุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้ได้ยังไง!

     
     

    รอยยิ้มที่สดใสพอกับดวงอาทิตย์ในยามเช้ามันไม่ควรเกิดขึ้นในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆมืดๆที่มีพี่ยุนกิและคนใจบางอีกหนึ่งคนอยู่ตรงนี้

     
     

    “บางทีพี่ก็อยากให้ผมเอาไวน์บนโต๊ะพี่มาดื่มให้เมาแล้วทำตามใจตัวเองนะครับ..” โฮซอกบ่นเบาๆ แต่เขาคงทำตามที่บ่นไม่ได้หรอก มันคงเป็นผลเสียกับพี่ยุนกิน่าดู ถ้าเกิดเขาผู้นี้ไม่มีสติน่ะ ฮ่า

     

    จริงๆการที่คนอายุมากกว่าเมาจนไม่มีสติเนี่ย เป็นผลเสียอันใหญ่หลวงต่อจองโฮซอกเหมือนกันนะ


    จุ๊บ

     


    “นอนได้แล้วครับพี่ยุนกิ พี่คงเมามากแล้วล่ะ”

     
     

    เสียงริมฝีปากสัมผัสกันนั่นเริ่มต้นโดยโฮซอก มันเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มก่อน ใช่ เขาเคยพูดว่าการที่เขาจะเริ่มต้นจูบรุ่นพี่ที่ไม่ได้เป็นอะไรกันมันยาก

     

    แต่นี่เขาไม่ได้เริ่ม พี่ยุนกิเริ่ม

    และที่สำคัญ สิ่งนี้มันไม่ได้เรียกว่าจูบด้วยซ้ำ

     

    ก็แค่อยากจะทำตามใจตัวเองบ้างเท่านั้นเอง

     

    ระหว่างที่คิดอะไรในหัว คนตัวสูงกว่าสังเกตว่ายุนกิชะงักไปแล้วที่เขาทำอะไรแบบนั้นลงไป ดวงตาเรียวเล็กเบิกโพล่งนิดหน่อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่สภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นแท้ๆ ชั่วพริบตาท่าทางตกใจนั่นก็หายไป เหลือแต่ท่าทางมึนๆอย่างตอนแรก

     

    ร่างบางในเสื้อแขนยาวขยับตัวเอนนอนซบหมอนแต่โดยดี มันทำให้โฮซอกประหลาดใจ แต่เขาก็ได้แค่คิดว่า ดีแล้วล่ะที่ไม่ต้องมาอดทนการกระทำบางอย่างที่ให้เขาสติขาดได้ทุกเมื่อ ความน่ารักของพี่ยุนกิที่เขาว่าอันตราย มันจะมีอนุภาพx2เมื่อพี่เขาเมา

     

    ความรู้สึกเหมือนกำลังตีบอสที่เลเวลมากกว่าเขาอีกเท่านึง

     

    มันไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ มันทำได้ แต่มันก็ยากและเหนื่อยนิดหน่อย แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่ารุ่นพี่ตัวขาวเมาน่ะหรอ ก็คือจองโฮซอกเมายังไงล่ะ

     

    ถ้าพูดใหม่ละก็ คงประมาณว่าเขาเลเวล1ไปตีบอสมินยุนกิเลเวล100ล่ะมั้ง

     

    นี่คือพูดในแง่ของความอดทนนะครับคุณ ;) เขาว่าสกิลต้านทานของเขาคงลดลงมากกว่า80%ได้ แพ้ราบคาบเลยล่ะ

     


    ทันทีที่หัวถึงหมอน ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะเข้าสู่นิทราไปแล้ว สังเกตจากเปลือกตาปิดสนิทและลมหายใจที่เข้าออกเป็นจังหวะ


    “ฝันดีนะพี่ยุนกิ และช่วยลืมเรื่องทุกอย่างในคืนนี้ไปด้วยละกันครับ” เรียวปากที่ก่อนหน้าสัมผัสอวัยวะเดียวกันของคนที่หลับอยู่ ตอนนี้กำลังทาบอยู่บนหน้าผากเนียนใส


    “...


    “ขอโทษนะที่วันนี้ผมล่วงเกินพี่ไปเยอะเลย” โฮซอกพูดชิดหน้าผากอีกคนเบาๆก่อนผละออกมาแล้วเดินไปตู้เสื้อผ้าหวังว่าจะไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วค่อยกลับมานอนที่เตียงของตนเอง

     
     

    ปัง

     


    เสียงประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมกับคนบนเตียงที่ลืมตาขึ้นช้าๆ นิ้วเรียวยกขึ้นมานอกผ้าห่มเพื่อแตะริมฝีปากตัวเอง สัมผัสนั่นยังค้างอยู่ในความทรงจำเขา ยุนกิเองก็ไม่ได้อยากจะเชื่อเลยว่าจองโฮซอกจะทำอะไรแบบนั้น ได้กำไรเห็นๆเลยล่ะวันนี้ เสียอย่างเดียวก็คงที่เขารู้สึกต้องการเจ้ารุ่นน้องคนนั้นมากขึ้นอีกแล้ว

     

    ใช่ มินยุนกิไม่ได้เมา โฮซอกเป็นคนโง่คนนึงที่ไม่เคยสังเกตว่าเขาไม่ใช่คนคออ่อน แต่ด้วยหน้าตาที่ดูง่วงตลอดเวลาและผิวขาวที่แดงง่ายของตัวเอง การจะหลอกอีกคนว่าเขาไม่ได้สติไม่ใช่เรื่องยากนัก เขารู้ว่าตัวเองกำลังทำผิด แต่ยุนกิรู้ตัวดี ว่าถ้าขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ไป เขาคงไม่มีความกล้ามากพอจะพูดอะไรไปตรงๆกับจองโฮซอกหรอก ฝันไปเถอะ ของเหลวราคาแพงที่ตอนนี้คงอยู่บนโต๊ะทำงานนั่นแหละ เป็นเครื่องกระตุ้นชั้นดีเลย

     

    มินยุนกิชอบดื่มตอนอยู่กับโฮซอก มินยุนกิชอบที่อีกคนตอบสนองการกระทำเขาอย่างน่ารักและเอาใจใส่เขาอยู่เสมอ แต่มินยุนกิเป็นคนปากแข็งและฟอร์มจัดเกินไปที่จะขอให้คนเด็กกว่าทำอะไรแบบนั้นให้ขณะมีสติ100% หรือทำตัวออดอ้อนอย่างที่ทำไปช่วงชั่วโมงที่ผ่านมานี้

     

    คนที่รู้ว่าระหว่างพวกเขาสองคนเกิดอะไรขึ้นมีแค่ยุนกิเท่านั้น โฮซอกรู้เพียงว่ารุ่นพี่ร่วมห้องพักคนนี้ทำแบบนั้นไปเพราะเมาและต้องการความรักชั่ววูบ แต่สำหรับเขาเองนั้นไม่ใช่ เขารู้ว่า ตัวเองรู้สึกยังไงกับโฮซอกและรุ่นน้องคนนั้นรู้สึกยังไงกับเขา มินยุนกิพูดมันออกมาไม่ได้ว่าจริงๆแล้วเขารู้ทุกอย่าง

     

    ไม่ต้องการจะคบกัน โฮซอกพูดจาทำนองนั้นบ่อยๆตอนเขาแสร้งทำเป็นเมา มินยุนกิเห็นด้วยกับความคิดนั้น รู้สึกยินดีที่จะบอกรักและแสดงความรักกันในเวลาแบบนี้ ไม่รู้ว่าเหตุผลของคนตัวสูงกว่าเขานั่นคืออะไร สำหรับยุนกิเองมันแปลกนิดหน่อย เขาไม่ได้ต้องการสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของผู้ชายคนนั้นตลอดเวลา (แต่เขาก็ไม่ได้ชอบที่จะให้โฮซอกตกเป็นของคนอื่นหรอกนะ)  ไม่อยากให้ตัวเองได้สิทธิ์นั้นมาแล้วใช้ในทางที่ผิด ทำให้คนที่ตอนนี้กำลังอาบน้ำอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียใจจากอารมณ์แปรปรวนของเขา

     

    เรียกง่ายๆคือถ้าคนเราได้อะไรที่อยากได้มาเป็นของตัวเอง ปฏิเสธได้ยากว่าหากเวลาผ่านไปของชิ้นนั่นจะได้รับการดูแลเท่าเดิม มันอาจจะน้อยลง หรืออาจจะเยอะขึ้นจนเรียกว่ามากเกินไป การทำอะไรอย่างสม่ำเสมอ มันไม่ง่ายเลย

     

    คนตัวขาวรู้ ว่าการทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัว เขามีความสุขดีที่ได้รับรู้ว่าอีกคนคิดเหมือนกัน ได้ฟังคำบอกรักบ่อยๆ แต่สำหรับจองโฮซอก มันคือการรักข้างเดียว ฝั่งนู้นคงเข้าใจว่าทุกการกระทำของตัวเองไม่เคยส่งมาถึงเขาเลย จริงๆมันถึงนะ

     

    ส่งถึงหัวใจดวงเท่ากำปั้นที่เต้นอยู่ในอกเลยล่ะ

     

    มินยุนกิกำลังพยายาม เขาอยากแสดงให้โฮซอกเห็นว่าเขาเองก็ใส่ใจดูแลอีกคนอยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่กล้าพอที่จะแสดงตรงๆหรือบอกไปตรงๆ ยุนกิทำได้แค่ให้รอยยิ้มที่เขาทำมันได้เวลาอยู่กับโฮซอกเพียงคนเดียว

     


    เจ้าเด็กทึ่มนั่นจะรู้ไหมนะว่ารอยยิ้มนั่นมันสเปเชี่ยลขนาดไหนน่ะ

     

    ร่างเล็กหลับตาลงอีกครั้ง ยุนกิหวังว่าคืนนี้เขาจะฝันดี

     

    แล้วก็หวังว่าต้นเหตุที่ทำให้เขาฝันดีคืนนี้จะไม่ฝันร้าย

     

     

    ฝันดีนะโฮซอกอา

     

     

     

     

    “ ตื่นแล้วหรอครับพี่ยุนกิ ผมจะออกไปเที่ยวข้างนอกกับจีมิน พี่จินด้วย อยากได้อะไรไหม” โฮซอกก้มหน้ารูดซิปโค้ทตัวใหญ่ตัวเดียวกับเมื่อคืนตรงหน้าประตู

     
     

    “อา นายนี่มันติดเที่ยวจริงโฮซอกยา” ร่างเล็กในชุดนอนนอนไขว้ขากอดอกบนเตียงเหลือบมองอีกคน เสียงแหบบ่นมุบมิบ ดวงตาเล็กปรืออย่างคนเพิ่งตื่นนอน

     


    “ใครจะไปนอนเก่งแบบพี่ล่ะครับ เมื่อคืนผมกลับมาพี่ก็หลับไปแล้วแหนะ”

     



    หึ หลับหรอ

     

     

    “ก็พี่ง่วงนี่หว่า เมื่อคืนดื่มด้วย” ยุนกิพยักหน้าเบาๆ “พี่ไม่ได้ละเมอเผลอไปทำอะไรนายใช่ปะ” เสียงกวนๆเปล่งออกมาจากปากเรียวของคนบนเตียง

     
     

    จองโฮซอกชะงักขณะนั่งใส่ถุงเท้านิดหน่อย แต่มันก็แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ

     
     

    “ใช่ เมื่อคืนพี่ละเมอขึ้นมาปล้ำผมอะ ท้องแล้วเนี่ย รับผิดชอบลูกผมเลยนะ! ลูกสาวหรือลูกชายดีน้า วันนี้ไปเช็คกับจีมินดีกว่า” ไอ้เด็กกวนประสาทหยุดการใส่รองเท้าแล้วยืดตัวขึ้นแอ่นหลังลูบหน้าท้องแบนราบนั่นราวกับมีเด็กอยู่ข้างใน เบะปากทำหน้าทำตาน่าสงสารเต็มประดา ...เดี๋ยวเหอะ

     

    “เห็นฉันโง่หรอโฮซอก นายเป็นผู้ชายไม่ใช่รึไง ท้องอะไร ไร้สาระ” หมอนสีขาวใบใหญ่กระแทกหน้าคนแต่งตัวพร้อมเที่ยวเข้าอย่างจัง ฝีมือมินยุนกิเองล่ะ เก่งค่ด “จะไปไหนก็ไปเลยไอ้เด็กนี่ ชิ่ว” คนตัวขาวตีหน้านิ่งขณะใช่นิ้วเล็กๆชี้ไปที่ประตูทางออกใกล้ตัวโฮซอก

     

    “ไป”

     

    “โห่พี่ ใจร้ายจังอะ ไปแล่ว งอนพิยุงเกะแล้วนะ!

     
     

    โอ้ยรำคาญเสียงเล็กดัดๆของมันเหลือเกิน จองโฮซอกคนละมุนที่จูบหน้าผากเขาเมื่อคืนมันไปไหนวะเนี่ย

     
     

    “ไปงอนกับจีมินนู้น ไปได้แล้ว” หมอนอีกใบลอยไปกระแทกเอวโฮซอกอย่างแม่นยำ พอเห็นผลลัพท์ที่น่าพอใจ คนปาจึงล้มตัวลงนอนอีกรอบ พยายามทำเป็นเมินอีกคนไป

     
     

    ปัง

     
     

    เสียงปิดประตูดังขึ้น มินยุนกิไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องแสร้งทำเป็นนอนต่อ เขามีแพลนสำหรับวันนี้แล้วล่ะ

     



    ขาเล็กลากตัวเองไปถึงห้องน้ำช้าๆ อาบน้ำช้าๆ แต่งตัวช้าๆ เดินจากห้องพักช้าๆ ก้าวเข้าร้านสะดวกซื้อช้าๆ ก้มหยิบตะกร้าใบนึงแล้วมาหยุดอยู่ตรงตู้ขายน้ำด้วยขาเล็กคู่เดิม

     

     

     

    เหตุการณ์ที่กล่าวไปข้างต้นใช้เวลาไปเกือบ2ชั่วโมง

     

    ถ้าเป็นโฮซอกคงทำหมดนี่ได้ภายในสามสิบนาทีละมั้ง

     
     

    มือนุ่มนิ่มเปิดตู้กระจกใสตรงหน้าออก ไอความเย็นกระทบใบหน้าขาวเล็กน้อย มือซ้ายคว้าขวดสีเขียวเข้มออกมา ส่วนมือขวาหยิบกระป๋องเย็นเฉียบบรรจุของเหลวสีเหลืองมีฟอง คนตัวเล็กอ่านชื่อของสินค้าอยู่นานสองนาน ไม่ใช่ว่าอ่านไม่ออกหรืออะไร มินยุนกิแค่กำลังคิด

     

     

     

     

    คืนนี้โซจูหรือเบียร์ดีนะ?

     

     

     

     

    ________________

    งงเด้งงเด้ 5555555555 เรากลัวเขียนงงจังเลย เพราะเราเขียนเราก็งง (เอ๊ะ)
    ตอนแรกว่าอยากให้หน่วงแต่ก็หน่วงไม่เป็น จะแต่งให้บาปใจก็ยังไม่กล้าพอ เห้อ
    55555555555 จะฮาก็ไม่ไหว คราวหน้าจะแต่งเบาสมองแล่ว เราไม่เก่งอะ เหนื่อย แง ,_, ใส่ธีมไม่เป็นด้วยล่ะ ใส่ยังไงก็ไม่ขึ้น... หวังว่าจะชอบกันนะเตง 


    (
    03052017) #โฮลดิ้งโฮปก้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×