ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยมารร้ายกับนายหงุมหงิม

    ลำดับตอนที่ #3 : กรี้งมรณะ

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 48












    เวลาเจ็ดโมงเช้าที่ ณบ้านของพินนภา

    “กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………” เสียงนาฬิกาปลุกคิตตี้เรือนหัวเตียงของพินดังขึ้น



    “อื่ม……………โอ้ย……ทำไมวันนี้มันเช้าเร็วจัว……..อีกห้านาทีนะ…..อื่ม……อีกห้านาที……”พินลุกขึ้นไปกดปิดนาฬิกาปลุกด้วยความงัวเงีย พร้อมกับบ่นกับตัวเอง อย่างหงุดหงิด ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทุกเช้า





    “กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………”เสียงนาฬิกาปลุกคิตตี้เรือนหัวเตียง เรือนที่2ดังขึ้นของพินดังขึ้น



               (ความจริงแล้วที่ห้องของพินมีนาฬิกาปลุกเธอทั้งหมด5เรือน ซึ่งจะปลุกเธอไม่พร้อมกัน เนื่องจากเธอเป็นคนที่ตื่นยาก นาฬิกาเหล่านี้ถูกตั้งเวลาโดนคุณระเบียบ แม่นมของเธอ แต่มันก็มักจะถูกพินถอดถ่านออกเสมอเพื่อจะได้ไม่รบกวนเวลานอนของเธอในตอนเช้า  แล้วทุกครั้งที่พินหลับคุณระเบียบก็จะย่องมาใส่ถ่านเสมอ แต่ก็มักจะใส่ไม่ครบทุกเรือน และวันนี้ก็เหมือนกัน)



    “อะไรอีก………….เนี๊ยย……คูนนนนนนนนนนเบียบ………เมื่อคืนพินไม่ได้นอนเลยนะค่ะะะะะะะะะะะะะะ”

    พินบ่นพลางยื่นมือไปกดปิดนาฬิกาอีกเรือน



    “กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………”





    “อะไรกันนักกันหนาเนี๊ยยยยยยยยยยยย……………………..”พินควาหมอนตบนาฬิกาทุกเรือนกระแทกพื้นจนมันกระจุยกระจายไม่เป็นชิ้นดี



    “กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………”





    เสียงนาฬิกาที่ปรกติมักจะหยุดไปเนื่องจากการทำลายล้างเมื่อสักครู่ แต่ไหงมันยังคงดังอยู่และดังต่อไปเรื่อยๆจนพินทนไม่ไหว



    “พอที….!!!!!!!!!!!!!!      *-*           ………..ทนไม่ไหวแล้วโว้ย”  ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นมาหยิบนาฬิกาทุกเรือน ที่ตอนนี้ดูราวกับว่ามันเป็นเศษขยะมากกว่าทิ้งลงไปทางหน้าต่าง  เอาหมอนอุดหูทั้ง2ข้าง แล้วเธอก็กระโดดขึ้นบนเตียงเพื่อนอนต่อ

    “กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………กรี๊ง…………………..กรี๊ง………………….กรี๊ง…………”



    โอ้เสียงเจ้ากรรมยังคงดังอย่างไม่ลดละ  เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงดั้วยสภาพที่ดูแล้วเหมือนซามาร่าก็ไม่ปาน  เธอลุกขึ้นเพื่อตามหานาฬิกา  ที่เธอคิดว่าคุณระเบียบอาจนำมันมาซ่อนไว้ตามห้อง เพื่อปลุกเธอ   แต่แล้ว



    “ไม่มี…..ไม่มี……………………..นี่ก็ไม่มี    ……………..        นี่ก็ไม่มี   …………ไม่มีเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”        เธอตะโกนด้วยน้ำเสียงของคนที่ใกล้บ้าแล้ว มันดังจนมะม่วงที่บ้านที่อยู่ข้างๆเธอที่ไม่เคยออกผลเลยซักครั้งหนึ่ง  กลับออกดอกและผลในเวลาไม่ถึง2วินาที



    ตอนนี้พินน้อยของเราก็เริ่มหอบเนื่องจากเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีไปกับการหาโทรศัพท์ และเสียงตะโกนหมื่นล้านหลอดของเธอ   พินจึงเอามือที่ดูแล้วช่างหนา และหนาบกระด้างยิ่งกว่าฝอยขัดหม้อของเธอไปเท้าที่โต๊ะข้างหัวเตียง ซึ่งมันทำให้เธอพบต้นเหตุของเสียง………………..โทรศัพท์ที่หัวเตียงของเธอนี่เอง  ตอนนี้ กาลเวลาเหมือนจะหยุดอยู่ที่ เธอกับโทรศัพท์คิตตี้  และแล้ว…….……



    “กูเป็นบ้าอะไรตั้งนานวะเนี้ยยยยยยยย………………….”เธอพูดพร้อมทั้ง ยีหัวตัวเองจนเหมือนนางเอกภาพยนต์เรื่องต๊กแกผี    แต่เสียงตะโกนของเธอครั้งนี้ก็ดังพอที่จะทำให้ต้นมะม่วงบ้านข้างๆกลับสภาพเป็นเหมือนเดิม

    หญิงชราที่นั่งอยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงนั้นมองภาพเหตุการณืนั้นด้วยความตกใจ แต่อย่างน้อนแกก็ยังเก็บมะม่วงไว้ได้สิบลูกก่อนที่มันจะหายไป



    พินรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเหมือนคนกินช้างตกมันไปทั้งตัว



    “เฮย………..ไอ้เวร………….พ่อแม่ไม่สั่งสอนไง…..  มะรึงโทรมาทำไมว่ะ    ……..คนจะหลับจะนอน………………”แล้วเธอก็ใส่เครื่องต้มยำชุดใหญ่แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากโทรศัพท์  จนกระทั่งสิบห้านาทีผ่านไป   เธอก็เริ่มหอบด้วยความเหนื่อย   แล้วเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น





    “หุบปากต่ำช้าไม่มีสบบัติผู้ดีของเธอเดี๋ยวนี้นะ    …………..นี่เธอคงไม่รู้สินะว่าฉันเป้นใคร……….”



    “เออ…….กรูไม่รู้……โทษทีนะเผอิญว่า……นี่คนนะโว้ย….ไม่ใช่อับดุลจะได้รู้ทุกอย่าง…….ไอ้บ้า   ……”



    “งั้นฉันจะบอกให้เธอรู้เดี๋ยวนี้ว่าชั้นเป็น……..แล้วเธอจะต้องหนาวจนจับขั้วหัวใจเลยทีเดียว…..”



    “โอ้ย……จ้า….หนาว….จ้า…นี่ตอนนี้นะ…กรูร้อนจนตับ….ม้าม….ไส้…จะระเบิดอยู่แล้วววววววววววววววววว…………ถ้าแกทำให้หนาวได้…….จะลงไปกราบอาส้นตีนของแกงามๆสัก3หนเลย….555555555555555555555555555”   แล้วเธอก็ระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นบ้าน



    “ฟังให้ดีนะยัยเด็กไม่มีสัมมาคาราวะ  ฉันคือ หม่อมสุดประเสริฐเลิศประไพ ทีนี้เธอยังจะหัวเราะได้อีกไหม”



    “5555555555…สาธุจ้า  แค่ชื่อยังไม่เคยได้ยินเลยยยย…….จะมาทำให้อีพินกลัวเรอะ….ฝันเปล่าเจ๊…..อ้อแต่ขอบอกว่าชื่อเจ๊เนี๊ยนะโค-ตระโวร์เลยอะ……”พินพูดพร้อมกับลงไปชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นห้อง



    “งั้นเธอก็รู้ไว้ซะว่าชั้นรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ เธอและพ่อแม่ของเธอด้วย”



    “เช่นไรอะเจ๊……”      พินเริ่มนั่งแคะขี้เล็มที่ดูจะทำให้มือเธอยิ่งน่าเกลียดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ก็ดูไม่ได้อยู่แล้ว +_+    



    “01-111-9999 เบอร์พ่อเธอ”



    “นี่ยัยกระเดียดรู้ไดไงยะ…..” (กระแดะ+อีเดียด)



    “ฉลาดไง………..”หม่อมยายหัวเราะร่านด้วยความสะใจ



    “เธอต้องทำตามที่ชั้นบอก ไม่อย่างนั้นพ่อเธอรู้แน่ว่าเธอเป็นอย่างไรที่โรงเรียน เธอคงไม่อยากให้พ่อผิดหวังในตัวลูกสาวสุดที่รักหรอกนะ”



    (แม่ของพินตายตั้งแต่พินยังเด็กๆ  ทำให้ที่บ้านของพินตอนนี้เหลือเพียงแต่พ่อกับพิน และพินเองก็เคยสัญญากับแม่พินไว้ก่อนตายว่าจะไม่ทำให้พ่อต้องผิดหวังและเสียใจในตัวเธอ และหลังจากที่แม่ของพินจากไป  พ่อของพินก็เอาแต่ฟังเพลงที่แม่พินร้องก่อนตายไว้ทุกวัน  จนหระบบประสาทหูไม่ดีจะได้ยินแต่เสียงค่อยๆเท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องนี้เพราะมันเป็นโรคที่ประหลาดมากนอกจากพิน เพราะเธอมีเสียงที่ดังกังกาลไปไกลถึงดาวอังคารแบบแม่ของเธอ)



    “ได้ทามไรอะเจ๊….”



    “เธอยังจำบรรเจิดหลานชายของฉันได้ไหม”



    “อ๋อไอ้ลิเกนั่นนะหรอ”



    “หยุดใช้วาจาแบบคนไร้การศึกษาแบบนั้นซะที…..ชั้นทนไม่ได้ทีเธอจะมาเรียกหลานชั้นแบบนั้น”

    “แหลวไงล่ะเจ๊ฟูฟ่องเป็นยองใย”



    “ฟังนะวันนี้เธอต้องไปโรงเรียนกัยชายบรรเจิดในฐานะที่เธอเป็นคู่หมั้นของเขา   เดี๋ยวอีกประมาณสิบนาทีรถที่ชั้นให้ไปรับเธอคงไปถึง”



    “หาาาาาาาาาาาาาาาา……………………..”และแล้วต้นมะม่วงบ้านข้างๆก็ติดผลน่ากินอีกครั้ง



    หม่อมยายวางโทรศัพท์ลงแล้งยิ้มแบบมีเลสนัย



    “หม่อมยายเจ้าขา…..ให้คุณชายบรรเจิดไปหมั้นกับคนแบบนั้นจะดีหรอเจ้าค่ะ”เสียงของมาลัย สาวใช้ที่แอบมีใจให้กับคุณชายบรรเจิดดังขึ้น



    “ก็ดีกว่าหล่อนแล้วกัน……….แม่คนนั้นนะคงจะสามารถช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในตัวหลานชั้นได้”พูดจบหม่อมยายก็ถอนหายใจเบาๆ



    “คอยดูนะชั้นไม่มีวันให้คุณชายบรรเจิดเป็นของใครหรอกยะอีแก่หน้าโง่”หญิงสาวพูดกระซิบกับตัวเอง



    ในเวลาต่อมาที่หน้าบ้านของพิน



    “คุณพ่อ    มะม่วงนี่ของใครหรอค่ะ”เสียงพินถามพ่อเพราะตกใจกับเข่งมะม่วงที่วางขวางบันไดทางลงไว้นับสิบเข่ง



    “อ้อข้างบ้านนะลูก เค้าเอามาให้ เค้าบอกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเสียงของพิน เค้าคงไม่ได้มีมะม่วงกินแน่เลยลูก”



    “ปี๊น………….ปี๊น………”เสียงแตรรถดังขึ้น



    “พ่อค่ะ วันนี้พินต้องไปโรงเรียนกับเพื่อนนะค่ะ บังเอิญว่าที่โรงเรียนพินมีนโยบานประหยัดพลังงานหารสองนะค่ะ”



    “จ้า……….แม่ลูกสาวคนเก่งตั้งใจเรียนนะลูก” พ่อลูบหัวพินเหมือนว่าพินยังเป็นเด็กตัวน้อยๆแม้ว่าในตอนนี้พินจะสูงกว่าพ่อแล้วก็ตาม เพราะในสายตาของพ่อไม่ว่าพินจะเปลี่ยนไปอย่างไรพินก็ยังคงเป็นลูกสาวตัวน้อยๆเสมอมา



    “พินไปนะค่ะพ่อ”        เมื่อพินลับตาไปพ่อตะโกนเรียกคูณระเยบผู้ที่ใกล้ชิดพินมากที่สุด



    “คุณเบียบ……….คุณเบียบ…………..”



    “ขาคุณผู้ชาย”



    “ลูกฉันมันไปทำอะไรที่ข้างบ้านหรอ มะม่วงมันถึงติดผล   อื้มระเบียบ”



    “ร้องเพลงมั้งค่ะ………”คุณระเบียบตอบแล้วขำที่พ่อของพินไม่รู้เรื่องมี่พินมีเสียงหมื่นหลอด



    ขณะเดียวกันที่หน้าบ้าน   พินก็เห็นรถเลมูซีนคันงามมาจอดอยู่ราวกับว่าจะมารอเธอให้ขึ้นไปนั่งทันใดนั้นกระจอรถก็เปิดออก



    “ขึ้นมาสิครับ เธอผู้เป็นที่รักของผม คุณพินนภา”



    “บ้านนายขายยาบ้าหรือไงวะ…..ไอ้เจิด…..ถึงรวยแบบ…โค-คระพ่อโค-ตระแม่แบบนี้”





    “มาเถอะครับเดียวจะไปโรงเรียนสายเปล่าๆ”



    พินวิ่งไปที่รถแล้วเปิดประตูเพื่อที่จะนั่งแต่แล้ว



    “โอ้ย………โคตรพ่อโคตรแม่ไหมพรมหรอวะเนี้ย   โหมาสิงสถิตอยู่นี่หมดเลย”



    “นั่งสิครับ”



    “หงิก…หงิก” +_+



    “นายจาถักไปครุมโลกหรอวะเนี้ย   โหอลังการงานสร้างม๊ากๆเลย  ขอบอก……..”



    “เปล่าครับ คือกระผมปลูกคุณเห็ดหอมไว้นะครับ แล้วช่วงนี้ก็หน้าร้อน กระผมเลยต้องนั่งถักผ้าครุมไหมพรมไว้กันไม่ให้แสงแดดส่องเรือนเห็ดหอมของกระผมมากจนเกินไปนะครับ แถมไหมพรมยังซับน้ำได้ดี ทำให้อากาศภายในเรือนเห็ดหอมเย็นสบายด้วยครับ”



    “เออ…แกคือ..แล้วรานะไม่ขึ้นเรอะ”



    “ไม่ครับเพราะเรามี  ยาฆ่าหญ้าตราลิงสามหัว ฆ่าทั้งหญ้า รา และแบททีเรีย ต้องยาฆ่าหญ้าตรลิงสามหัววววววววววววววววววว”



    “เออ….โทดนะคือ…เมื่อเช้าหมอลืมให้ยาแกเรอะ….!!!!    หุบปากไปเลยยยยย!!!!!!!!!!!”





















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×