ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยมารร้ายกับนายหงุมหงิม

    ลำดับตอนที่ #2 : ไม่เหมือนละคร

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 48








                



    ตอน๒

    ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังห้องเรี ยน5/3-2ซึ่งเป็นห้องเรียนที่พินเรียนอยู่ในขณะนี้



    “ตุ๊บ…………………..”พินพลักคุณชายบรรเจิดเข้าไปในซอกตึก



    “จำไว้นะ      -o-            ….เรื่องระหว่างฉันกับนายต้องเป็นความลับที่จะไม่มีใครรู้ แล้วไอ้แหวนที่ฉันรับมาจากป้าสิงโตนี่ก็ไม่ใช่การหมั่น นายต้องรับรู้ไว้   และฉันรับมันมาก็เพราะความจำยอมต่ออีฟูเท่านั้นเข้าจ๊าย  และขอให้นายใส่มันไว้ในสมองกลวงๆของนาย  ที่ดูจะมีแต่เศษผมของป้าฟูของนาย ถ้านายฝ่าฝืนคำสั่งฉัน  นายตายแน่”       พินลวงหยิบมืดสปาต้ายาว6นิ้ว ลายมังกร แต่ดันมีสติกเกอร์คิตตี้แปะอยู่ มาแกว่งฉวัดเฉวียนไปมารอบๆหน้าของคุณชายบรรเจิด



    “เข้าใจไหมไอ้เจิด”



    “ครับ เชื่อใจกระผมเถอะครับเพราะผมคือลูกผู้ชายตัวจริง…….”  0_0          พร้อมทั้งชูมือขึ้นเป็นรูปควายซึ่งตัวเค้านั้นคิดว่ามันเท่มาก   เพราะตั้งแต่เกิดมาหม่อมยายก็พูดกรอกหูเขามาโดยตลอดว่า     ผู้ชายที่เท่ที่สุดคือป๋าแอดคาราบาว



    “เออ……”พินตอบด้วยความเอือมละอากับท่าทางที่พิลึกพิลั่นของคุณชายบรรเจิด  แล้วเดินออกมาจากมุมตึกไปยังห้องเรียนของเธอ ที่วันนี้ต้องนั่งเรียนกับคุณชายบรรเจิดเพราะคำสั่งครูใหญ่ ซึ่งตลอดทางก็มีสายตานับล้านคู่มองมาที่ทั้งสอง เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาไกลเธอเกิน3ก้าวนับตั้งแต่เธออยู่ป.3



    “พินครับ………แต่ผมขอบอกจากก้นบึ้งของหัวใจผมนะครับว่า ผมประทับใจคุณพินตั้งแต่แรกเห็น ดังนั้นคุณพินไม่ต้องกลัวนะครับ ว่าจะรักผมเพียงข้างเดียว เพราะหัวใจและร่างกายผมขอมอบแด่พินสุดที่รักของผมคนเดียวครับ”  คุณชายบรรเจิดพูดพร้อมทำตาโตเท่าไข่นกกระจอกเทศ  ซึ่งเป็นท่าประจำที่พระเอกลิเกมักจะทำ



    “เออ…….กูดีใจเหลือเกินที่มะรึงมอบใจให้”        *_*          

    พิมพูดด้วยน้ำเสียงประชดแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายกลับเข้าใจเป็นอีกอย่างหนึ่งซะแล้ว



    “ขอบพระคุณครับ………..นี่นับเป็นเกียรติอันสูงสุด ของกระผม  ตั้งแต่กระผมได้เกิดมาเลยทีเดียวครับ”คุณชายบรรเจิดพูดพร้อมถ่างตาให้โตขึ้นอีก มันโตราวกับว่าจะเป็นประตูทะลุมิติได้เลย



    “หยุดนะ……………หยุดถ่าง   ตาแกจะกินฉันอยู่แล้วเห็นไหม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  แกไปทำตาหนุมานของแกใส่ต้นไม้โน่น……..ไป๊………………..”  พินเริ่มเดินเร็วขึ้นแต่คุณชายบรรเจิดก็วิ่งตามหลอกหลอนเธอได้ตลอดทางทั้งที่เธอสูง178 แต่ช่วงขาที่สั้นของคุณชายบรรเจิดนั้นไม่เป็นอุปสรรค ในการไล่ตามพินเลยแม้แต่น้อย



    “ตัวของคุณพินช่างสูงสง่ามีบารมี ช่างงามชดช้อยละเมียดละไมคล้ายนางวันทองสองใจ”



    “เงียบ……………”พินด่า   (แม่รง ชมกูหรือด่าวะ) พินคิด



    “โอ้ดูเอวเธอสิ  โค้งเว้าได้รูปวงกลมดีจริงๆๆ กลมดิ๊กๆๆๆ   เสมือนว่ามีห่วงยางไฟสโตนมาพันไว้เลย งดงามมากๆๆๆ โอ้………งามเกินคำบรรยาย”





    (ความจริงแล้วพนน้ำหนัก55ซึ่งเมื่อเทียบกับส่วนสูงแล้วเธอผอมมาก แต่คุณชายไม่เคยเข้าสังคมมาก่อนจึงคิดเอาเองเพราะดูจากละครน้ำเน่าว่าการด่าเป็นการหยอกล้อเพื่อสร้างความสนิทสนม และเดี๋ยวนางเอกคงตีพระเอกเบ)



    “ฉันจะนับถึงแค่สามนะ” พินพูดพร้อมแผ่รังสีอำมหิตไปทั่ว ขนาดสามารถท้องฟ้าที่มีแดดส่องก็ดูมืดไปในทันตา



    “ผม……….รักคุณเข้าแล้วจริงๆ….รักคุณจนซึ้งกินใจ………………………..”คุณชายร้องเพลงสุนทราภรณ์ที่มักจะได้คำชมจากหม่อมย่าเสมอๆ               (มันไม่หยุดครับท่าน สงใสไม่เคยตาย อิอิอิ)



    “1………….”  เสียงพินราบเรียบแต่น่ากลัว



    “รักจริงๆให้ติ้งนัง………..ติ๊งนัง……………ติ้งนั๊งจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ………………..”



    “2………………………”



    “01-440-2785 เบอร์นี้พี่เคยโทรมา ………ติดต่อเธอมาเป็นแรมปี…………………”



    แล้วก็เป็นตามที่คุณชายคาด เธอตีคุณชายแต่ไม่เหมือนในหนัง



    “โครมมมมมมมมมมมมมมมม……………………………”



    “ใครทุ่มต้นกระบองเพชร ครูหาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”



    ใช่แล้วค่ะ ต้นกระบองเพชรสูง4เมตรกระถางหนาตัก6เมตรถูกทุ่มใส่กระหม่อมของคุณชายบรรเจิดของเรา



    “ฮ้อ  ………เฮอ      ………………หา………..”เสียงฮือฮาของเหล่านักเรียนและครูที่เห็นเหตุการณ์ปนไปกับเสียงหอบแฮกๆๆๆๆๆของพิน



    “มองอะไรอยู่ได้วะ…………..ไม่เคยเห็นผัวเมียทะเลาะกันไง……………………”พินตะโกน



    เหมือนผีลุกขึ้นมาจากป่าช่าวัดดอนค่ะ  ไอ้คุณชายบรรเจิดมันเด้งขึ้นมา  ทำตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศอีกแล้ว



    “จริงจ๊ะ ….ที่ร๊ากกกกกกกกกกกกกจ้าพี่ไม่เป็นไรเลยซักนิด” แต่ไอ้เลือดที่ไหลลงมาเนี้ยมันเป็นอะไรที่ไม่เข้ากับคำพูดของคุณชายบรรเจิดเลยจริงๆ



    “พินนภา……………………เธอทำอะไรเพื่อนอีกแล้วใช่ไหม๊………”เสียงสูงปรี๊สสส ยิ่งกว่าตึกเอมไพรมเสรตของป้ากบดังขึ้น ที่เรียกเช่นนี้เพราะเธอเป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์  ที่มักใส่แว่นที่ทำให้ตัวเองดูเหมือนเกโระปี้อยู่เสมอ



    “เปล่าครับ……….หญิงสาวที่บอบบางอ้อนแอ้นอรชร เช่นนี้จะมีความสามารถทำอะไรที่โหดร้ายปานนางมาร กับชายที่มีความบึกบึนแข็งแรงเช่นผมได้ละครับ…………..”



    “เอออออออออออ……………………….ยัยพินเนี้ยนะ”ป้ากบงงงวยงงงันและงงงายอยู่พักใหญ่ ที่มีคนมาพูดอะไรได้แปลกหูตั้งแต่เคยได้ยินมาจากท้องพ่อท้องแม่!!!!!!!!!!!!    เพราะแค่มองก็รู้ถึงความน่ากลัวคล้ายไมค์ไทสันของพิน       และแล้วจึงเลิ่กแว่นเพื่อดูหน้าของคุณชายบรรเจิดของเรา



    “เธอ………พินนภา   ……………….เอาเพื่อนแปลกๆของเธอไปห้องพยาบาลซะก่อนที่มันจะตาย    แล้วหยิบซาร่ามาด้วย……ไป๊……สงใสวันนี้อากาศจะร้อนจัด”



    “แล้วป้าคิดว่าหนูอยากเป็นเพื่อนกับไอ้บ้านี่หรอค่ะ………………………………”พินตะโกนเหมือนว่าเธอมีความแค้นกับคุณชายบรรเจิดมาหมื่นปีหมื่นๆปี



    “ใช่……….เพราะเราต้องแต่งงานกาน………..หุหุหุหุ”คุณชายบรรเจิดคิดพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วก็สลบไปเพราะเสียเลืดมาก พินจึงแบกคุณชายบรรเจิดไปที่ห้องพยาบาล





    “นายทำตัวดีๆละ  เดี๋ยวนางมารในชุดขาวเล่นเอา………ฉันขี้เกียจพานายไปโรงพยาบาลอีก”



    “ช่างซาบซึ้งตราตรึง ประทับใจกระไรถึงเพียงนี้ คุณพินนภา   แม่สาวน้อยร้อยช่างของผมที่แท้ก็เป็นห่วงผมด้วย”คุณชายบรรเจิดพูดด้วนน้ำเสียงแหบแห้งใกล้ตายเต็มทน  



    “ตุ๊บ………………”พินเหวี่ยวคุณชายลงเตียงเต็มแรงเหมือนว่าตอนนี้บิ๊กโชกำลังเข้าสิงเธออยู่   (นักมวยปล้ำ)แล้วเธอก็ออกมารอที่หน้าห้อง



    และขณะเดียวกันที่ในห้อง



    “เฮย กรู…..ว่างานนี้นางมารพินทองของเราเจอเนื้อคู่แล้วว่ะ   5555555555555555…………..”นักเรียนที่มาทำแผลก่อนหน้านี้ระเบิดหัวเราะออกมาราวกับไม่รู้ว่ามัจุราจร้ายจะมาเยือนในไม่ช้า





    “ปึ๊ง……………….โครม……………….อักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”และแล้วก็มาจริงๆสองคนนั้นถูกหามส่งโรงพยาบาล  หนึ่งชั่วโมงภายหลังเพราะอาการเกินเยียวยาพร้อมกับร่างที่ดูเหมือนเลือดคงหมดตัวแล้วของคุณชายบรรเจิด



    พินกลับไปนั่งเรียน.ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  และในห้องเรียนก็คงมีแต่แพรเพื่อนสมัยประถมทีดูจะรู้เรื่องทั้งหมดของพิน เพราะแพรเป็นคนเพียงคนเดียวที่พินไม่เคยมีความลับ



    “พินแกจะทำมันตายไหมวะ……………”



    “ไม่มั้ง………….แมร่งอึดกว่าคางคกอีกไอ้บ้านั่นอะ……….แกก็รู้ว่าโดนขนานนั้นสลบเหือกตั้งแต่ทีแรกแล้ว……..แต่ไอ้เปตรนี่ดันพูดได้ฉอดๆๆๆๆเลยวะ………..อย่างเซ็งอะ สงใสว่าพักนี้ฝีมือมานจาตก”



    “แก๊สสสสสสสสสสสส    แล้วจาทามไงกาบแหวนนี่ล่ะ……..”



    “โยนทิ้ง………”พินตอบเสียงเรียบและหันมามองสบตาแพรด้วยหน้าตาปรกติ



    “เฮย………….!!!!!!!!!!!!!!1     ไม่ชอบก็เรื่องของแก     แต่นี่เพชรนะโว้ย    โคตรเพชรแน่ๆเลขเมตรเท่าไข่ห่านขนาดนี้!!!!!!!      น้ำเอกด้วยมะรึง     ไม่ชอบเอาไปขายซื้อมีด  ปืน  ระเบิด   ไว้ใช้พรุ่งนี่ที่เราจะดีกับ  อีพวกแก๊งจักรราศีไม่ดีกว่าหรอ”



    “เออจริง………….งั้นแกเอามันไปจำนำแล้วไปหาอาวุธมา      คราวนี้ไอ้พวกนั้นจะได้รู้สักทีว่าแถวเนี้ยใครที่มันเป็นนัมเบอร์วัน”



    “….เจ้าคือทายาทคนต่อไป………..”เสียงโทรศัพท์ของพินดังขึ้น



    “ไอ้พิน……………เมื่อไรแกจะเปลียนริงโทนซะทีฟะ………..สยองวะ       ขอบอกหน่อยเหอะ”



    “แล้วแกยุ่งไรอะ……แปลกดีกรูชอบ……………….หุหุหุหุหุ”พินทำหน้าผีแกล้งเพื่อน



    “ไรวะ………….ข้อความแกอะ”



    “พรุ่งนี้เจอมันที่สวนหลังโรงเรียน…………….อื่ม……………….แกบอกเพื่อนๆด้วยว่าพรุ่งนี้เตรียมตัว”



    “เออแก………..นี่เป็นแก็งที่เป็นผู้ชายกลุ่มแรกที่เราจะลุย……….เรา….อื่ม….จะทำได้ไหมวะ….เออ…คือ……………”



    “แกไม่ต้องห่วงฉันแน่ใจว่าเราทำได้………..ถ้าแพ้ก็แค่รวมเป็นกลุ่มเดียวกับพวกมันเท่านั้นเอง”



    “แล้วแกทนได้หรอที่แกต้องเป็นแฟนกับ  ไอ้หน้าปลาดุกหัวหน้าแก็งนั่นอะ”



    “ไม่รู้ดิ…..ก็ตามดวงแล้วกัน……………”



    ที่โรงพยาบาลหม่อมยายนั่งเฝ้าคอยดูแลหลานรักไม่ห่าง  ถึงต้องพลาดลิเกไชยามิตรชัย ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อนว่าหม่อมยายจะพลาดการชมลิเกสุดหล่อมาก่อน



    “หม่อมยายค่ะ  กระผมได้ตระหนักแล้วว่าชีวิตจริงไม่เหมือนในนิยายเลยนะค่ะ”



    “ทำไมล่ะหลานรัก              มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ที่เจ้าไม่บอกยายรึ”   ความจริงแล้วคุณชายบรรเจิดได้เล่าให้หม่อมยายว่าโดนกระบองเพชรที่ตกมาจากเครื่องบินทับหัว หม่อมย่าเองก็รู้สึกประหลาดๆแต่ก็ไม่ได่เอะใจอะไรเพราะเมื่อสามปีก่อนเคยมีเก้าอี้เครื่องบินหล่นใส่หัวหลานชายสุดที่รักรักที่สุดมาแล้ว



    “เปล่าค่ะกระผมแค่คิดว่า ชีวิตจริงมันรุนแรงกว่ามากน่ะค่ะ”  พลางนึกถึงตอนที่พินคว้างต้นกระบองเพชรใส่เขา ว่าแล้วก็ลูบหัวตัวเองคล้ายวิตกจริตว่าจะมีอะไรตกมาอีกรึเปล่า



    และคืนนั้นเองที่บ้านพิน



    “ออกไปนะ………ไอ้เวร”พินด่าพร้อมถีบคุณชายบรรเจิด



    “ไหนๆเราก็เข้าพิธีกันแล้วนะครับ………….มามะ…..มามะ………มาเป็นของเจิดซะดีๆๆๆ….มามะๆๆๆๆๆ”



    “ไม่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม…………..”พินกรีดสุดเสียงแล้วตื่นขึ้น  เธอรู้สึกดีมากที่เธอแค่ฝันไป



    “พินเอ้ย.........แค่ฝันโว้ย….นี่เราแค่ฝันนะ……พินทำใจดีๆไว้….ทำไมไอ้หนุมานนั่นมันตามมาหลอกเราถึงในฝันได้เนี้ย       โค-ตระซวยจริงๆ…..พรุ่งนี้ต้องไปอาบน้ำมนต์ล้างซวยแล้วมั้งเนี้ยเรา………เฮย”เธอพูดพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วจึงเดินลงมาที่ห้องครัวเพื่อจะดื่มนม เพราะแม่ของเธอเคยบอกไว้ว่าถ้ากินนมแล้วจะฝันดีซึ่งเธอเองก็เชื่อเรื่องนั้นมาโดยตลอด หลังจากที่เธอกินนมแล้วเธอก็เดินกลับไปยังห้องนอนของเธอ



    แต่ที่ร้ายก็คือไม่ว่าเธอจะพยายามนอนอย่างไรก็นอนไม่หลับซักที เพราะภาพของคุณชายบรรเจิดยังตามมาหลอกหลอนเธออยู่ตลอด ยิ่งกว่าปลิงทะเล





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×