ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้าม กับการหนีตาม...

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3:จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 53




    Chapter 3:จุดเริ่มต้น



    ก็อกๆ

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งก่อนที่ร่างสูงของชางมินจะก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดกว้าง

    “ท่านเรียกหาผมมีอะไรหรอครับ” ร่างสูงก้มหัวทำความเคารพเจ้าพ่อปาร์คที่นั่งอยู่บนทำงาน

    “นั่งก่อนสิ”

    “เอ่อ ครับ” ชางมินตอบรับแล้วก้าวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเจ้านายใหญ่

    “ช่วงนี้ยุ่งรึเปล่า”


    “ไม่หรอกครับ นอกจากช่วยคุณชีวอนที่บริษัทค่ายเพลงแล้ว ผมก็แค่ดูแลเรื่องส่วนตัวของคุณหนูอีกเล็กน้อย”

    “อย่าง นั้นก็ดีแล้ว ชั้นอยากให้เธอช่วยไปดูแลเรื่องโรงเรียนให้ยูฮวานกับเพื่อนเขาหน่อย นี่ก็มาอยู่เป็นอาทิตย์แล้ว ชั้นยังไม่ได้จัดการอะไรให้เลย”

    “ครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะจัดการให้ครับท่าน” ชางมินพยักหน้ารับคำ

    “ยังไงก็ช่วยๆดูเด็กสองคนนั้นด้วยนะ เขายังไม่ชินกับสังคมอย่างนี้หรอก ช่วงนี้ชั้นก็ไม่ค่อยว่าง”

    “ไม่ต้องห่วงครับท่าน ผมจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้”

    “อืม งั้นเธอก็ไปพักผ่อนได้แล้วหล่ะ” เจ้าพ่อปาร์คกล่าวกก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์เอกสารบนโต๊ะต่อ

    ชางมินโค้งหัวให้ประมุขของบ้านก่อนจะเดินออกจากห้องไป


    ---------------

    เช้า วันใหม่ของวันได้เริ่มต้นขึ้น ภายในบ้านฝั่งซ้ายถัดจากเรือนใหญ่ ยูชอนในชุดเสื้อเชิ้ตขาวตัดกับเน็กไทน์ลายทางสีเข้มเดินถือเสื้อสูทสีเทา คล้องแขนลงบันไดมามาอย่างสง่างาม เขาเป็นคนตื่นเช้าแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีเหลวไหลเรื่องผู้หญิงหรือเรื่องเที่ยวบ้างแต่ว่ายูชอนก็ ทุ่มเทให้กับงานที่ดูแลเช่นกัน

    ร่างสูงกำลังจะเดินไปทานอาหารเช้า อย่างเช่นทุกวัน ทว่ายังมาทันจะได้ก้าวเดินไปไหน เขาก็ต้องแปลกใจที่มีคนใช่สองสามคนกำลังขนข้าวของมาวางอยู่หน้าบ้านเขา

    “นี่มันอะไรกัน เอาอะไรมาวางเกะกะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยสีหน้าตึงๆ จุนซูที่เดินยกของเข้ามาใหม่เลยช่วยหันไปตอบ

    “คือ คุณนายให้ผมย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้หน่ะครับ”


    “ถ้าเป็นคนใช้ใหม่ก็ไปอยู่ที่เรือนเล็กด้านหลังสิ มายุ่งอะไรกับบ้านชั้น” ร่างสูงตวาดทำหน้านิ่ว

    “ก็คุณนายบอกว่าให้ผมอยู่ที่ห้องเก็บของด้านบนหนิครับ” ร่างเล็กตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ คุณยูชอนนี่เสียงดังจริงๆเลย

    “ว่าไงนะ มานี่เลย”ยูชอนพูดอย่างโมโหก่อนจะคว้าข้อมือร่างเล็กออกไป

    “คุณ ยูชอนเดี๋ยวครับ...” ร่างเล็ก พูดห้ามอย่างตกใจแต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่สนใจฟังซะแล้ว จุนซูโดนฉุดกระชากลากดึงมาจนถึงเรือนใหญ่ สายตาคมมองหาตัวมารดาก่อนจะเดินต่อไปที่ห้องอาหารซึ่งคุณนายชิมกำลังนั่งทาน อาหารเช้าอยู่


    “แม่ครับ เรื่องเด็กคนนี้มันอะไรกัน ทำไมต้องให้ไปอยู่บนบ้านผมด้วย” ร่างสูงถามเสียงดังพร้อมกับเหวี่ยงจุนซูไปอีกทางจนร่างเล็กเซ

    “เสียงดังแต่เช้าเลยนะ เห็นมั้ยว่าแม่กำลังกินข้าวอยู่” คุณนายคิมตอบเสียงเรียบ

    “ก็แล้วเรื่องเด็กนี่มันอะไรกันหละครับ”

    “แม่ แค่อยากให้แกอยู่สบายๆไง พวกคนใช้ผู้หญิงพวกนั้นมันน่ารำคาญแม่ก็เลยไล่ออกไปเยอะแล้ว ต่อไปนี้ทุกอย่างในบ้านแกจะให้จุนซูเป็นคนดูแล”

    “ไอ้เรื่องคนใช้แม่ จะเอาไงก็ได้ แต่ผมไม่ให้ใครมาอยู่ชั้นบนแน่ๆ” ยูชอนพูดเสียงแข็ง เรื่องอะไรเขาจะยอมให้ใครก็ไม่รู้มาอยู่ในบ้านเดียวกับเขา แม้ว่ามันจะเป็นห้องเก็บของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรแต่มันก็เชื่อมติดกับ ห้องของเขา

    “ ก็แม่จะให้จุนซูเค้าดูแลเรื่องของแกทั้งหมดนั่นแหละ รวมถึงไปรับไปส่งที่ทำงานด้วย”คุณนายคิมยังคงพูดหน้าตาเฉยไม่สนใจกับท่าที ร้อนรนของลูกชายคนโต

    “แม่ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะครับที่จะให้มาเดินตามตูดตลอดแบบนั้น”ยูชอนโวยวาย


    “เรียก ว่าสะดวกสบายจะดีกว่านะ เอ่อ ไหนๆแกก็ลากจุนซูมาด้วยแล้ว ถ้างั้นก็เริ่มไปส่งคุณยูชอนนั้นวันนี่เลยล่ะกัน จะได้ค้นๆกันไว้”คุณนายคิมหันไปพูดกับจุนซูที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่อย่างไม่ อาทรร้อนใจ

    “ครับ”

    “แม่”ยูชอนตะโกนค้านเสียงดังจนจุนซูตัวสั่น

    “พอๆหยุดโวยวายสักที เอาตามนี้แหละนะ แม่มีธุระต้องไปทำต่อ”คุณนายคิมกล่าวก่อนจะเดินออกไปจากบ้านอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของยูชอน

    ร่างสูงหงุดหงิด หันหน้าเอามือไปทุบกับเสาอย่างแรงจนจุนซูมองตาโต อยากจะเข้าไปถามว่าเจ็บมั้ยก็ไม่กล้า

    ยูชอนปรายตามองร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ก่อนจะฮึดฮัดเดินออกไป

    “คุณยูชอนจะไปไหนครับ” ร่างเล็กรีบถาม


    “ก็ไปทำงานหน่ะสิ ถามมาได้” ยูชอนพูดอย่างอารมณ์เสียเดินต่อไปโดนไม่สนใจร่างเล็ก จุนซูเมื่อได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งตามไปทันที

    ----------------------------------


    ภาย ในบ้านหลังขนาดปานกลางตกแต่งตามสไตล์ยุโรป บ้านหลังนี้เดิมแล้วเป็นที่พักของแขกทว่าตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้ก็กลาย เป็นที่อยู่ของริคกี้และมินโฮ แม่บ้านบ้างส่วนถูกส่งมาดูแลเจ้านายใหม่ทั้งสอง ความจริงเจ้าพ่อปาร์คก็จะให้แม่บ้านมามากกว่านี้ทว่าริคกี้ก็ปฏิเสธเพราะ เห็นว่าพวกเขาก็ทำงานบ้านกันเองได้

    ยูฮวานเดินออกจากห้องนอนที่เขา ชอบเหลือเกินอย่างสุขใจ ตลอดชีวิตของเขาต้องอยู่อย่างลำบากมาตลอด จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เองที่สวรรค์เหมือนจะเห็นใจเขา ส่งลูกน้องของพ่อมาจเอเขาจนได้


    ชีวิตของเขาในตอนนี้เปลี่ยนจาก หน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนกับอยู่ในความฝัน ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้มีบ้านสวยๆเป็ฯของตัวเอง ตื่นขึ้นมาก็คอยมีคนดูแลเอาใจใส่หาอาหารให้ทาน
    ร่างเล็กคิดยิ้มๆก่อนจะเดินไปที่ห้องข้างๆซึ่งเป็นห้องของมินโฮ ริคกี้กำลังคิดจะเคาะประตูแต่ว่ามินโฮก็เดินออกมาพอดี


    “สวัสดีตอนเช้ามินโฮ”ริคกี้พูดพร้อมกับยิ้มอย่างสดใส

    “หวัดดี” มินโฮตอบเสียงเบา

    “นอนหลับสบายมั้ย”

    “อืม” มินโฮพยักหน้า

    “งั้น เราไปกินข้าวกันนะ”ริคกี้ถามยังไม่ทันรอคำตอบจากเพื่อนสนิทก็คล้องแขนมินโฮ แล้วเดินไปเลย มินโฮนั้นเป็นคนเฉยๆ ยังไงก็ได้ ปกติจะเงียบขรึมจนบางครั้งน่ากลัวแต่ว่าจริงๆแล้วเป็นคนจริงใจ

    ทั้งสองเดินมาจนถึงห้องอาหารก็เห็นว่ามีร่างสูงยืนรออยู่แล้ว

    “สวัสดีครับ คุณยูฮวาน คุณมินโฮ” ชางมินหันมาทักร่างเล็กทั้งสองด้วยใบหน้าเรียบๆ

    “สะ..หวัดดีครับ ว่าแต่คุณเป็นใครหรอครับ” ริคกี้ถามตะกุกตะกักเล็กน้อย

    “ผมชิม ชางมินครับ เป็นบอร์ดี้การ์ดของคุณแจจุง วันนั้นที่โต๊ะอาหารค่ำเราก็ได้แล้วนี่ครับ”

    “อ๋อ คุณนั่นเอง ผมจำได้แล้วฮะ ว่าแต่มีอะไรหรอครับ”ริคกี้ถามต่ออย่างสงสัย ในขณะที่มินโฮได้แต่ยืนฟังนิ่งๆ

    “คือว่าผมรับคำสั่งจากท่านประธานปาร์คให้หาจัดการเรื่องที่เรียนกับคุณทั้งสองหน่ะครับ”

    “แบบนั้นเองหรอครับ ถ้างั้นเราจะไปกันตอนไหนหรอครับ”

    “ให้คุณทั้งสองทานข้าวกันแล้วเราก็ไปกันได้เลยครับ ผมเอารถมาจอดรอไว้แล้ว”

    “ครับๆ เอ่อ ว่าแต่ คุณเรียกชื่อพวกเราเฉยๆเถอะครับ คือ มันรู้สึกแปลกๆหน่ะครับ”ริคกี้พูดยิ้มบางๆออก

    “เข้าใจแล้วครับ”ชางมินพยักหน้าแล้วยิ้มให้ตอบ

    “ถ้าอย่างนั้นผมไปรอด้านนอกนะครับ” ชางมินโค้งตัวให้

    “ครับ” คกี้ตอบรับ ส่วนมินโฮนั้นได้ก้มหน้าให้เล็กน้อย

    “นี่ มินโฮ ทำไมเงียบไปเลยหล่ะ” ริคกี้หันมาถามหลังจาดที่ร่างสูงคล้อยหลังไปแล้ว

    “ก็ เราไม่รู้จะพูดอะไรหนิ”

    “อืม ปกติกมินโฮก็ไม่ค่อยจะเข้ากับคนง่ายๆอยู่แลวนี่เนอะ ไม่ต้องกังวลมากหรอกนะ อีกพักก็คงชินไปเอง

    “อือ”

    “ว่าแต่ ชั้นว่าคุณบอร์ดี้การ์ดเมื่อกี้เค้าหล่อดีนะ นายว่ามั้ย”

    “อะ อือๆ”มินโฮพยักหน้าตอบตามเรื่องไปงั้นเอง สายตามองแผ่นหลังที่คล้อยไปแล้วก็เอื้อมมือจับสร้อยข้อมือลูกปัดสีขาว ตอนนี้เสียงริคกี้กำลังพูดถามอะไรเขาไปไม่หยุดแต่มินโฮก็ได้ยินไม่ชัด

    “มินโฮ ฟังชั้นอยู่รึเปล่า” ริคกี้ถามเพื่อนรักเมื่อเห็นมินโฮได้แต่มองไปทางประตู

    “ฟังๆ ริคว่าอะไรหรอ”มินโฮหันหน้ามาถามเมื่อรู้สึกตัว

    “ไม่ มีอะไรแล้ว รีบกินข้าวเถอะ” ริคกี้เมื่อเห็นว่ามินโฮไม่ได้ฟังคำถามก็เลยขี้เกียจพูดซ้ำ บรรยากาศการกินข้าวของทั้งสองจึงเงียบลงตั้งแต่นั้นจนจบ

    -------------------------


    แสง แดดสาดส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างทุกบาน ภายในห้องนอนที่มีพนังเป็นสีขาวล้วน เครื่องใช้ทุกอย่างจะเป็นสีครีมหรือไม่ก็สีเหลืองอ่อน ท่ามกลางความเงียบสงบกับบบรรยากาศน่าที่แสนจะเหมาะแกการนอน เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงไม้สีเหลืองอ่อนก็ดังขึ้น

    “แจจุงคร้าบ แจจุงของพี่ชีวอน ตื่นได้แล้วน้า ลุกขึ้นมาเร็วๆเข้า จะได้มาเจอหน้าหล่อของพี่ไง.....”เจ้านาฬิกายังคงทำหน้าที่พูดประโยคเดิมๆ ที่คู่หมั้นแสนดีอัดเอาไว้ให้อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดคุณหนูหน้าสวยบนเตียงก็ทนเสียงอ้อนไม่ไหวต้องตื่นขึ้น

    แจ จุงถอดที่ปิดตารูปแมวน้อยออกด้วยท่วงท่าสะลลึมสะลือก่อนจะเอื้อมมือไปปิด นาฬิกาปลุกอย่างเซ็งๆ เขาไม่อยากจะตื่นเลยแต่พอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาและพี่ชีวอน ด้วยก็เลยต้องรีบเอื้อมมือไปกดปุ่มบางอย่างบนหัวเตียง

    สักพักนึงสาวใช้ก็เดินมาเคาะประตูห้องพร้อมกับอ่างล้างหน้าและแปรงสีฟัน

    “สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณหนู”

    “อืม” ร่างเล็กตอบอย่างไม่ใส่ใจมาก เอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันเข้าใส่ปาก

    “วันนี้อาหารเช้าเป็นอะไรหรอ”คุณหนูสุดสวยถามหลังจากที่แปรงฟันเสร็จแล้ว

    “ซีซ่าสลัดของโปรดคุณหนู ส่วนผลไม้เป็นเชอรี่กับองุ่นค่ะ”

    “จริงหรอ ดีจังเลยชั้นเบื่อข้าวต้มกุ้งจะแย่แล้ว”ร่างเล็กพูดยิ้ม

    “ถ้างั้นดิฉันรีบไปยกมาให้นะค่ะ”

    “เดี๋ยวก่อน วันนี้ชางมินไปไหนอ่ะ ทำไมไม่เห็นเลย” คณหนูสุดสวยถามเพราะว่าปกติแล้วชางมินจะต้องมาคอยดูแลเขาตอนเช้าด้วย

    “นายท่านให้ไปทำธุระพาคุณยูฮวานไปโรงเรียนหน่ะค่ะ”

    “งั้นหรอ”ร่างเล็กพยักหน้าตอบ พ่อนี่นะ บอร์ดี้การ์ดเขาแท้ๆ ยึดตัวไปให้คนอื่นได้ไงกัน

    “เอ่อคุณหนูค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ”สาวใช้หันมาพูดขณะกำลังจะหันหลังออกจากห้องไป

    “อืม ขอบใจนะ” ร่างเล็กพูดยิ้มหน้าบาน เขาจะมีความสุขมากกว่านี้แน่ๆถ้าหากว่าเมื่อวานคืนไม่ทะเลาะกับพี่ชีวอนซะก่อน

    แจ จุงคิดหน้าบูด สักพักนึง สาวใช้คนเดิมก็เดินมาพร้อมกับถาดอาหารเช้าแสนอร่อย มันเป็นกิจวัตรประจำวันของแจจุงที่จะต้องแปรงฟันและกินอาหารเช้าบนเตียงแสน อุ่น จากนั้นถึงค่อยลุกไปล้างหน้าแล้วก็แต่ตัวที่ห้องถัดไป

    ร่างเล็กนั่งกินข้าวไปได้สักพักโทรศัพท์มือถือสีขาวล้วนรุ่นใหม่ล่าสุดก็ดังขึ้น

    “ครับ คุณพ่อ” ร่างเล็กพูดเสียงใส

    “สุขสันต์วันเกิดนะลูก”

    “ขอบ คุณฮะคุณพ่อ แจรักคุณพ่อที่ซู้ดเลย” ร่างเล็กพูดอ้อนๆ แจจุงมักจะเป็นที่รักของทุกคนในบ้านไปหมดเพราะว่าความน่ารัก ขี้อ้อนของเจ้าตัวนี่เอง

    “อืม โตขึ้นอีกปีแล้วก็เป็นเด็กดีนะ” เจ้าพ่อปาร์คพูดเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย

    “แจหน่ะเป็นเด็กดีอยู่แลวฮะ แต่คุณพ่อหน่ะใจร้าย ยกชางมินให้คนอื่นไปได้ยังไง”

    “อะไรกัน พ่อไปยกชางมินให้ใครตอนไหน”เจ้าพ่อปาร์คถามแบบงงๆ

    “อ้าว ก็คุณพ่อใช้ให้ชางมินไปหาโรงเรียนอะไรนั่นอ่ะ” ร่างเล็กงอแง

    “อ๋อ ก็แค่นิดหน่อยเองน่า ก็ยูฮวานกับเพื่อนเค้ามาใหม่ยังไม่รู้อะไรพ่อก็เลยวานชางมินไป เราก็ดูแลตัวเองได้แล้วยังจะโวยวายอะไรอีก”

    “อะไรกันฮะ แจยังเด็กอยู่เลยนะ ไม่รู้หล่ะต่อไปคุณพ่อหาคนใหม่นะฮะ ชางมินหน่ะ ของผมคนเดียว”

    “ตกลงๆ ว่าแต่วันนี้จะไปไหนเที่ยวที่ไหนหล่ะ พ่อให้งบประมาณเต็มที่เลยเอ้า ชดเชยเรื่องชางมิน”คนเป็นพ่อถามเพราะปกติหลายปีมานี้ตั้งแต่แจจุงเริ่มเข้า มหาลัยเป็นต้นมาที่บ้านก็ไม่เคยจัดงานวันเกิดให้เลย ยิ่งงานใหญ่ๆที่ต้องเชิญแขกมาเยอะๆ เจ้าพ่อปาร์คก็ยิ่งไม่สนับสนุนเพราะเห็นว่าสิ้นเปลืองเปล่าๆ

    “จริงนะฮะ คุณพ่อน่ารักจังเลย แต่ว่าก่อนจะใช้เงินแจคงต้องไปง้อพี่ชีวอนก่อนหล่ะ”

    “อ้าวทำไมหล่ะ ทะเลาะกันหรอ”

    “นิดหน่อยฮะ”

    “เดี๋ยวก็หายหรอก ชีวอนหน่อะโกรธไม่ไดนานหรอก”

    “ฮะ”แจจุงตอบเสียงจ๋อยลงไป

    “แล้วก็อย่าลืมเอาของติดไม้ติดมือไปด้วยหล่ะ”

    “ฮะ เข้าใจแล้ว บายๆฮะพ่อ” ร่างเล็กวางสายแล้วนั่งถอนหายใจ กินข้าวไม่ลงแล้ว ถึงจะเป็นของโปรดก็เถอะนะ

    คิดได้แบบนั้นก็เลยเดินไปที่ห้องแต่งตัว

    ผนังพื้นของห้องนี้ก็ยังคงเป็นสีขาว ตู้ใส่เสื้อขนาดใหญ่และชั้นวางของก็ยังคงเป็นสีเหลืองอ่อนตามแบบที่แจจุงชอบ

    ดูๆ ไปแล้วห้องของเขาก็ไม่ได้เหมือนคนที่จะชอบนักร้องอะไรเลย มันช่างแตกต่างจากห้องลับของเขาเสียใจ จะว่าไปนั่นก็เพราะว่าแทบไม่มีใครรู้เลยว่าเขาชอบนักร้องดังที่ชื่อยุนโฮ ยกเว้นชางมินและพี่ชีวอนที่สนิทกันจนปิดไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะปิดบังอะไรหรอกนะ แต่ว่ามันมีเหตุจำเป็นต่างหากละ ถ้าคุณพ่อเขารู้ว่าชอบยุนโฮที่เป็นนักร้องต่างค่ายคู่แข่งตัวสำคัญของบริษัท ละก็ เขาคงต้องโดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ


    -------------------------------


    ห้องนอนขนาดกว้างตกแต่งอย่างหรูหราด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน บนเตียงสะเทาอ่อนๆร่างสูงเปลือยท่อนบนเจ้าของวันเกิดอีกคนนึงกำลังอยู่ใน นิทราอย่างสุขใจ ภายในห้องเงียบสงบ เสียงเดียวที่ดังอยู่ภายในห้องตอนนี้คือเครื่องปรับอากาศ ทว่าและแล้วนิทราแสนสุขของชีวอนก็ต้องจบลงเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น

    “ก็อกๆ พี่ชีวอนฮะ แจเอง ก็อกๆ พี่ชีวอน...” ร่างสูงงัวเงียตื่นขึ้นมานั่ง สายตาคมรีบหันไปมองที่ด้านข้างก็พบว่าว่างเปล่า

    “พี่ชีวอน ตื่นรึยัง แจจะเข้าไปแล้วนะ” เสียงร่างเล็กที่เร่งอยู่ข้างนอกทำเอาชีวอนรีบลุกขึ้นไปคว้าเสื้อคลุมมาใส่แทบไม่ทัน

    “ครับๆ”ร่างสูงตอบรับ แจจุงเลยเปิดประตูเข้ามาทันที

    “สุข สันต์วันเกิดฮะ” ร่างเล็กในชุดกางเกงขายาวสีขาวเสื้อสีครีมและที่สำคัญมีผ้าฟันขอคนสัตว์ ฟูฟ่องพาดอยู่ที่ลำคอระหง บนใบหน้าหวานยังมีแว่นตาสีเหลืองอ่อนอันโตอีกอัน มือบางข้างหนึ่งถือช่อดอกไม้กับกระเป๋าหลุยส์เอาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งมีจานเค้กช็อกแลตขนาดเล็ก

    “แจ...”ชีวอนจ้องร่าง บางอย่างงงๆ ที่ร่างเล็กมาได้ยังไงเนี่ย ของเต็มมือแถมยังแต่งตัวซะเต็มยศแบบนั้นอีก แต่ก็นั้นแหละนะ นี่แหละ คุณหนูแจจุง คู่หมั้นสุดที่รักของเขา

    “ทำไมฮะ จ้องแจอยู่ได้ มาเป่าเค้กเร็ว” ร่างเล็กพูดวางกระเป๋ากับช่อดอกไม้ลงที่เก้าอี้

    “เป่ายังไงละ ก็ไม่เห็นมีเทียน มีไฟอะไรเลยหนิ” ร่างสูงถามทำหน้างงเข้าไปอีก

    “เดี๋ยวแจจะบอก พี่ชีวอนอธิษฐานก่อนสิ”ร่างเล็กพูดยิ้มๆจับจานมาไว้เบื้องหน้าระหว่างตัวเองกับชีวอน

    ร่างสูงได้ยินอย่างนั้นก็หลับตาลงตามใจคนสวยตรงหน้า สักพักพอเขาจะลืมตาขึ้นก็ต้องตกใจเมื่อร่างเล็กเขย่งเท้าขึ้นมาจูบเขาแทน

    “อือ...” ชีวอนเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความหวานของช็อกโกแลตจากริมฝีปากบาง

    “ชอบ มั้ยฮะ การเป่าเทียนแบบนี้” ร่างเล็กยิ้มหน้าบาน บนกลีบปากยังคงหลงเหลือร่องรอยชอคโกแลตอยู่ ก็เมื่อกี้ตอนที่ชีวอนกำลังหลับตาอยู่เขาแอบก้มตัวลงไปจูบเจ้าเค้กนี่ก่อน หน่ะสิ


    “อืม อยากจะเป่าเทียนทุกวันแล้วสิ” ร่างสูงพูดเดินไปลากคนตัวเล็กมานั่งที่เก้าอี้

    “แจ ซื้อดอกไม้มาด้วยน้า สวยมั้ย”

    “จร้าๆ พี่ก็ต้องบอกสุขสันต์วันเกิดแจเหมือนกันนะ” ร่างสูงบอกก่อนจะโอบไหล่เล็กแล้วก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากมน

    “ พี่ชีวอนฮะ คือ เรื่องนั้นอ่ะ...”

    “พอ เถอะแจ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว พี่ไม่อยากพูดถึงมันอีก อีกอย่างนี่ก็เป็นวันเกิดของเราสองคน ต่อไปนี้เราก็อย่าพูดถึงมันอีกล่ะกัน พี่จะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”

    “ตกลงฮะ แจจะไม่พูดถึงมันอีกแล้ว แจ...ขอโทษนะฮะ” ร่างเล็กพูดอย่างรู้สึกผิดสุดๆ

    “ทำหน้าอย่างนั้นทำไม เดี๋ยวแก่เร็วนะ” ชีวอนพูดยิ้มๆเอานิ้วไปจิ้มที่คิ้มโก่งของคนรัก

    “แจรักพี่ชีวอนนะ รักคนเดียวคนเล้ย”ร่างเล็กตะโกนกอดชีวอนเอาไว้แน่น

    “ขี้อ้อนจริงๆนะ แล้ววันนี้อยากจะทำอะไรจ๊ะ”

    “แจ แพลนเอาไว้แล้วไม่ต้องห่วงเลยฮะ” ร่างเล็กพูดอย่างอารมณ์เด้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาวปลายเตียง”ตอนแรกเลยนะ เราก็จะไปทำสปาคู่กันให้ร่างกายมันสดชื่นก่อน จกานั้นก็ไปช้อปปิ้งมารธอน ถ้าหิวก็อาจจะมีคั่นด้วยอาหารญี่ปุ่นร้านโปรดของเรา เป็นไงฮะ” ร่างเล็กพูดอย่างมีความสุขก่อนจะหันหน้ามาถามความเห็น

    “ฟังดูดีนะ แต่เริ่มทำสปาตอนนี้เลยได้มั้นเนี่ย หืม” ชีวอนพูดเดินเข้าไปกอดเอวเล็กแล้วสูดดมความหอมจากซอกคอขาว

    “อื้อ ไม่ได้ฮะ ต้องไปทำที่ร้านนะ แจจองเอาไว้”ร่างเล็กผละออกจากลำตัวหนา”แล้วตอนนี้พี่ชีวอนก็ต้องไปแต่งตัว ก่อน ไปเร็ว” แจจุงพูดอย่างอารมณ์ดันแผ่นหลังหนาให้เข้าไปในห้องแต่งตัวซึ่งเชื่อมติดกับ ห้องนอน


    เสียงคู่รักแสนหวานดังห่างออกไปจากห้องนอนเรื่อยๆ ที่มุมมืดหลังผ้าม่านของห้องนอน สายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามทั้งสองไปอย่างไม่ลดละ รอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นบนใบหน้า


    ---------------------------------------


    คราวหน้าเจอยุนแจแน่ๆๆค่ะ  อร้ายย ส้มตื่นเต้นแทนแจ  จะโดน...อีกรอบมั้ยเนี่ย  อิอิ(แกขำไรฟร่ะ)

    ถ้ามีน้ำใจก็เม้นกันหน่อยค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×