ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2:ประโยชน์ของคิม จุนซู
Chapter2:ประโยชน์ของคิม จุนซู
+++++
++++
+++
++
+
“แจ ไปเร่าร้อนกับคนอื่นมา”ร่างเล็กหลับตาตอบอย่างรู้สึกผิดสุดๆ มือบางกำเข้าหากันแน่น
“วะว่าไงนะแจ” ชีวอนหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ
“อย่าโกรธแจเลยนะฮะ มันเป็นเรื่องบังเอิญ แจไม่ได้ตั้งใจเลยนะพี่ชีวอน” ร่างเล็กพูดเสียงอ่อนเดินไปกอดร่างสูงเอาไว้แน่น
“นี่ ไปกันถึงขั้นนั้น แล้วจะไม่ให้พี่โกรธได้ยังไง”ชีวอนยังคงรักษาน้ำเสียงเอาไว้ได้แม้ว่าในใจจะ แทบเป็นฝืนไปไฟก็ตาม ร่างสูงผละตัวออกมาจาอ้อมกอดของแจจุง
“แต่ มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนะฮะ คือ แจไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นใครอ่ะ ตอนนั้นแจปวดหัว หน้ามืดมากเลยเพราะว่าแดด พี่ชีวอนก็รู้นี่ฮะว่าแจแพ้แสงอ่ะ อีกอย่างพอเสร็จจาก..ไอ้...เอ่อ แล้วเค้าก็หายตัวไปเลย”ร่างเล็กพูดตะกุกตะกัก มันทั้งน่าอาย ทั้งรู้สึกผิดที่ต้องมาสารภาพเรื่องแบบนี้ให้พี่ชีวอนฟัง จะว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่รู้เลย ว่าตานั่นใช่ยุนโฮรึเปล่า
เฮ้อ
ชีวอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับคู่หมั้นสุดที่รักของเขาดีและในช่วงนั้นเอง
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
“ฮัล โหลครับคุณพ่อ” ร่างสูงหันหน้าไปรับโทรศัพท์อีกทาง ปล่อยให้แจจุงโยนทำหน้าเบ้อย่างเศร้าสร้อย ทำยังไงดี ทำยังไงดีเนี่ย พี่ชีวอนต้องโกรธเรามากแน่ๆ
ร่างเล็กยืนเครียดอยู่คนเดียวสักพัก ชีวอนก็เดินกลับมา
“แจ พี่คงต้องกลับก่อนนะคุณพ่ออยากได้เอกสารอะไรนิดหน่อย ไอ้เรื่องนั้นหน่ะเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลังล่ะกัน”ร่างสูงพูดหน้าตึงๆ กำลังจะเดินออกไป
“เอ่อ เดี๋ยวฮะ..” ร่างเล็กพูดเดินไปฉุดแขนหนาเอาไว้
“แจ ยังไมได้จุ๊บกู๊ดไนท์เลย” แจจุงพูดแล้วก็หอบแก้มร่างสูงไปหนึ่งที ชีวอนพยักหน้ารับรู้แล้วก็เดินหายไปในความมืด ถึงพี่ชีวอนจะไม่ได้ตะโกนวายวายโมโหใส่เขา แต่แจจุงรู้ดีว่าข้างในของร่างสูงนั้นเจ็บปวดและโกรธมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วหนิ
ร่างเล็กคิดอย่างปวดหัว แก้มใสๆพองลมออกมาเล็กน้อยอย่างคนที่มีเรื่องกลุ้มใจ แจจุงไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่เดินคนตกกลับไปยังบ้านอีกของเขา ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือของเรือนหลังใหญ่ เท้าเล็กก้าวเดินเหยียบพื้นหินอ่อนสีเนื้อมุ่งตรงขึ้นไปชั้นบน มือบางเปิดประตูอย่างไม่ใส่ใจ เดินเข้าไปในภายในทันที
ที่ที่ แจจุงอยู่ตอนนี้คือห้องนั่งเล่นขนาดย่อมถัดจาดนี้ไปนั้นคือห้องนอนสีเหลือง อ่อนขนาดกว้าง ร่างเล็กเดินไปที่หน้าต่างที่บานกว้างซึ่งมีม่านปักลายสีน้ำตาลปิดอยู่ มือบางเอื้อมไปเปิดแผ่นกล่องพลาสติกขนาดเล็กที่เชื่อมกับเชือกรูดผ้าม่าน ก่อนจะเห็นแป้นกดรหัส นิ้วเรียวกดตัวเลขไปสามครั้งกระจกบานทึบที่อยู่เบื้องหลังม่านก็ถูกเปิดออก แล้วก็ปิดทันทีหลังจากที่ร่างเล็กเข้าไป
กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดัง โชยเข้ามาแตะจมูกทันที เบื้องหน้าของแจจุงตอนนี้คือบันไดหินแคบๆที่ถูกปูด้วยพรมสีแดง ท้าวเล็กก้าวเดินลงไปด้วยความเคยชินก่อนจะพบกับประตูเหล็กขนาดใหญ่ มือเล็กหยิบกุญแจอันเล็กที่ห้อยอยู่ตรงข้อมือมาไขก่อนที่ประตูเล็กบานยักษ์ จะถูกเปิดออกเผยให้เห็นห้องนั่งเล่นขนาดกว้าง หรือที่แจจุงเรียกมันว่าห้องลับของเขา
สิ่งแรกเลยที่เห็นคือโซฟาสี แดงเลือดหมูสองตัวซึ่งหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์จอแบน รอบด้านมีเครื่องเสียงและเครื่องเล่นซีดีครบครัน หากสังเกตดูให้ดีๆจะเห็น ป้ายเหล็กสีทองที่สลักด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า YUNHO
ถัดจาก มุมนั้นเป็นก็เป็นชั้นวางของซึ่งมีทั้งซีดีของนักร้องดังยูโนว ยุนโฮและนิตยสารต่างๆที่ร่างสูงไปออก ตรงข้ามจากชั้นนั้นมีรูปขนาดใหญ่ของยุนโฮที่กำลังเอามือจับคางเอาไว้ แจจุงมองเห็นมันแล้วก็ถอนหายใจออกา ปกติเขาจะยิ้มกับภาพนั้นทุกครั้งที่เจอแต่ว่าคราวนี้มันไม่มีอารมณ์ มือสวยๆบนรูปนั่นไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
ร่างเล็กเดินต่อไป เรื่อยๆก็เห็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สองสามเครื่องที่กำลังเปิดทำ งานอยู่ เยื้องกับมุมนั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริงของยุนโฮที่แจจุงแอบลักลอบ สั่งให้คนทำแล้วก็ช่วย
กันขนเข้ามาตอนกลางดึกกับชางมินสองคน รอบเจ้าหุ่นขี้ผึ้งที่เหมือนจริงนั่นเป็นกระจกใส
แจ จุงเดินไปที่กระจกด้านข้างซึ่งสามารถเปิดออกให้เข้าไปข้างใน ร่างเล็กยืนจ้องมองเจ้าหุ่นนั่นอยู่สักพักก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด คนที่เขาเจอแล้วก็...ด้วยนี่มันใช่ยุนโฮรึเปล่านะ ทำไมเขาถึงได้โง่แบบนี้นะ เพราะไอ้แสงนั่นทีเดียวทำให้เขาแสบตาและปวดหันจนมองไม่เห็นอะไรเลย
“คุณหนูทำอะไรอยู่ครับ”เสียงชางมินบอร์ดีการ์ดคู่ใจของแจจุงที่พึ่งจะเดินเข้ามาถามขึ้น
“เปล่า”
“แล้วคุณชีวอนกลับไปแล้วหรอครับ”ชางมินซึ่งเป็นบอร์ดีการ์ดคู่ใจของเขาเดินมาถามอย่างเป็นห่วง
“กลับแล้ว ถ้ายังไม่กลับ ชั้นก็คงไปอยู่กับเค้าแล้วสิ” แจจุงพูดตอบอย่างไม่สบอารมณ์
ชางมินได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังหงุดหงิด
“ไฟล์ ซับที่ยุนโฮไปออกรายการญี่ปุ่นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมโหลดไว้ให้แล้วนะครับ” ชางมินเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยนึกว่าร่างเล็กอาจจะอารมณ์ดีขึ้นถ้าได้ยินว่ามี ไฟล์ใหม่ๆของนักร้องคนโปรดมาให้ดู
“ชั้นเห็นแล้วหล่ะ”ร่างเล็ก พูดอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินผ่านชางมินไป อาการแบบนั้นเล่นเอาร่างสูงงงๆ ไม่รู้ว่าคุณหนูของเขาไปสร้างเรื่องอะไรเอาไว้อีกถึงได้เป็นแบบนี้ ปกติแค่พูดถึงนักร้องนั่นหรือถ้าได้เห็นภาพมือของตายุนโฮก็อารมณ์ดีแล้ว คุณหนูแจจุงของเขานี่แปลกมาก ดูคนตรงไหนไม่ดูมาดูเอาตรงมือ บางครั้งยังเคยบอกเลยว่าที่ชอบพี่ชีวอนก็เพราะว่ามือสวย แต่ถ้าจะให้พูดถึงมือที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาก็คงเป็น มือของตายูโนว ยุนโฮ และนั่นก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมคุณหนูของเขาถึงได้ชอบนักร้องคนนั้นหนักหนา
“ชางมินนนนนน” แจจุงเดินกลับมาเรียกคนตัวสูงอย่างร้อนใจ
“ครับ” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ลองเรียกแบบนี้คงตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟังได้แล้ว
“ช่วยชั้นคิดหน่อยสิ ชั้นจะทำไงดี” นั่นไง มาแล้ว ไอ้เรื่องกลุ้มใจ
“เรื่องอะไรหล่ะครับ”
“คือ..ชั้น...ไปเร่าร้อนกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ชีวอนอ่ะ”ร่างเล็กสารภาพทำหน้ายู่
“ฮะ”ชา งมินทำตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ว่านอกเหนือจากนั้นก็น่าขำด้วย ดูใช้คำศัพท์เข้าสิหน่ะ ‘ไปเร่าร้อน’ จะพูดให้มันดีๆหน่อยก็ไม่ได้นะ คุณหนูของเขา นี่ถ้าไม่รู้จักกันคงจะงง
“แล้วคุณชีวอนรู้เรื่องนี้หรือยังครับ คุณหนูต้องห้ามพูดเลยนะ” ร่างสูงรีบสั่งการใหญ่
“ชั้นบอกไปแล้วเมื่อกี้”
“ห๊า...”ชางมินทำหน้าตกใจสุดๆ
“คุณหนูบอกไปได้ไงครับ เรื่องแบบนี้มันใช่สิ่งที่ควรจะบอกกับคู่หมั้นซะไหนเล่าครับ”
“ก็ชั้นไม่อยากปิดบังเค้าหนิ แล้วถ้าสักวันพี่ชีวอนไปรู้เข้าไม่แย่หรอ” ร่างเล็กทำหน้ากลุ้มใจเดินวนไปมา
“มัน ก็ใช่ แต่ถ้าไม่รู้จะดีกว่านะครับ หรือไม่อย่างนั้นเอาไว้ผ่านไปสักพักแล้วค่อยๆบอกจะดีกว่า”ชางมินพูดยืดยาว เขาล่ะเซ็งกับความจริงใจและตรงไปตรงมาของคุณหนูแจจุงจริงๆ เรื่องพึ่งจะเกิดขึ้นสดๆร้อนๆก็บอกเขาไปซะแล้ว
“ก็..ชั้นไม่สบายใจหนิ”
“เฮ้อ แล้วคุณหนูรู้มั้ยครับ ว่าคนนั้นเป็นใคร”
“ชั้นก็ไม่แน่ใจนะ แต่..คิดว่า..น่าจะเป็น...ยุนโฮ”
“ห๊า” ชางมินทำตาโตด้วยความตกใจเป็นครั้งที่สอง
“คุณหนูบอกว่ายุนโฮงั้นหรอครับ”
“อืม”
“ยูโนว ยุนโฮ ผู้ชายมือสวยที่สุดในโลกของคุณหนูหน่ะหรอครับ”ชางมินถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ไม่อยาจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“อืม นายอย่าถามมากสิ ชั้นแค่คิดว่าอาจจะใช่ แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ชั้นเห็นชัดอ่ะ”
“อะไรกันครับ ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว..มีอะไรกับเขาได้ไง”
“โอ๊ย นายอย่าพึ่งมาตอกย้ำได้มั้ย นี่ให้มาช่วยนะ”แจจุงโวยวายหน้าแดงก่ำ
“ครับๆ แต่ถ้าเป็นยุนโฮจริงคุณหนูก็น่าจะจำมือเขาได้สิ ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าชัดก็เถอะนะ”
“ก็ ถูกนะ ชั้นไม่มั่นใจอ่ะ คือ นายเข้าใจมั้ยว่าเวลาเห็นภาพผ่านโปสเตอร์ ทีวี คอมพิวเตอร์และอื่นๆ มันไม่เหมือนกับเห็นของจริงนะ แล้วยิ่งตอนนั้นแดดมันก็ส่องตาชั้นจนงงๆไปหมดด้วย”แจจุงพูดปากเบ้ ท่าทางกลุ้มใจ สายตาของเขามีปัญหาเริ่มสู้แสงแดดไม่ได้มาเป็นปีแล้ว สาเหตุก็เพราะว่าเล่นคอมพิวเตอร์มากเกินไป ก็ตั้งแต่ยังเล็กๆแล้วแจจุงก็ติดคอมมาตลอด พอ
หลังๆที่มีปัญหาจึงถูกบังคับให้งดเล่น ถ้าอยากดูอะไรก็ให้ชางมินหาโหลดมาให้แทน
“ถ้า งั้นคุณหนูก็อย่าคิดมากเลยครับ คิดไปคุณหนูก็ไม่รู้อยู่ดี ผมว่าเดี๋ยวคุณชีวอนก็หายโกรธเอง ยังไงเค้าก็ไม่เคยโกรธคุณหนูได้นานอยู่แล้วหนิครับ”ชางมินหันมาพูดในด้านดี
“มันก็จริง แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ”แจจุงพูดทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“อย่าเครียดเลยครับ ผมว่าคุณหนูน่าจะดีใจนะ ที่ได้ใกล้ชิดกับนักร้องสุดที่รักแบบใจถึงใจอย่างนั้นอ่ะ”
“บ้า รึเปล่า ชั้นไม่ได้ชอบยุนโฮแบบนั้นนะ แค่ชื่นชมเค้าเฉยๆที่มีมือสวย แล้วชั้นก็บอกแล้วไงว่าอาจะไม่ใช่ยุนโฮก็ได้”แจจุงหันไปโวยวายใส่ชางมิน
“ชั้น ไปนอนดีกว่า คุยกับนายแล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย” ร่างเล็กทำหน้าบึ้งแล้วเดินออกไปทิ้งให้ชางมินยืนขำอยู่คนเดียว บอร์ดี้การ์ดของเขาคนนี้เนี่ยนะ ดูภายนอกก็เหมือนจะเป็นคนเงียบๆแต่ทำไมเวลาพูดจาอะไรกับเขาทีเนี่ยมันถึงได้ กวนแบบนี้ ขนาดคนกำลังเครียดอยู่นะเนี่ย เซ็ง
---------------------------------------------------
ชั้น บนสุดของคฤหาสหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านของแจจุงกับยูชอน ภายในห้องทำงานขนาดกว้างที่เชื่อมต่อไปถึงห้องนอนและห้องแต่งตัว คุณนายกับเจ้าพ่อกำลังนั่งสืบสวนเจ้าลูกชายคนโตของบ้านด้วยสีหน้าเคร่ง เครียด
“แกเห็นข่าวนี่มั้ย มันว่อนเน็ตไปหมดแล้ว”เจ้าพ่อคิดพูดเสียงดังโยนกระดาษที่มีหัวข้อข่าวของยูชอนเขียนอยู่
“ก็แค่ข่าวเองนี่ครับ ผมก็เห็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว” ร่างสูงพูดเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
“นี่ แกยังจะมาพูดอีกรึไง ควงผู้หญิงไปทั่วแบบนี้จนมีข่าวแดงหลาออกมาอย่างนี้แกก็ยังไม่รู้สึกอีก หัดเห็นแกหน้าพ่อแม่แกบ้างสิ อย่าลืมว่าแกหน่ะมีคู่หมั้นแล้วนะ แบบนี้แกจะให้พ่อเอาหน้าไปเจอกับท่านรัฐมนตรีกับหนูมิราได้ยังไง” ประมุขของบ้านตะโกนจนหน้าแดง
“ พ่อก็อย่าไปเจอเขาสิครับ ผมก็บอกพ่อแต่แรกแล้วว่าไม่ชอบให้คลุมถุงชน” ยูชอนยังคงตอบเสียงเรียบเหมือนไม่เดือดร้อนอะไร
“แก ไอ้ยูชอน นี่แกบ้าไปแล้วรึไง ไม่รู้หรอว่าพ่อหนูมิราเค้าเป็นใคร ต่อไปเค้าจะมีประโยชน์กับเราแค่ไหน ผู้หญิงดีๆ เพียบพร้อมแบบนี้แกจะไปหาได้ที่ไหน ฮะ ไอ้ลูกไม่รักดี”
“ผู้หญิงดีหรอครับ หึ ก็แค่ตัวเงินตัวทองเท่านั้นเอง”
“นี่แก...”
“พอ เถอะค่ะ คุณ อย่าโมโหเลยนะค่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้ชั้นจะจัดการเองดีกว่า” คุณนายคิมพูดแทรกขึ้นก่อนที่สามีจะโมโหไปมากกว่านี้ มือบางเดินไปคว้าตัวลูกชายคนโตให้เดินออกไปจากห้อง
ทั้งสองมุ่งหน้าเดินลงไปที่ห้องรับแขกด้านล่างซึ่งตอนนี้ว่างเปล่าไม่มีคนอยู่
ยูชอนเดินไปนั่งที่โซฟาส่วนคุณนานคิมได้แต่ถอนหายใจแล้วยืนมองลูกชาย
“ยู ชอนแม่ไม่อยากบังคับแกหรอกนะ แต่ว่าช่วยทำเพื่อแม่หน่อยเถอะ ช่วงนี้เลิกยุ่งกับสาวๆพวกนั้นบ้างได้มั้ย”คนเป็นแม่กล่าวเสียงอ่อนเดินไป นั่งข้างๆร่างสูง
“โธ่แม่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ให้ยุ่งกับใครเลยเดี๋ยวก็ตายด้านกันหมดพอดี”ยูชอนพูดอย่างสบายๆมากขึ้น เขาสนิทกับแม่มากกว่าพ่อ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเขาจะเชื่อฟังไปหมดหรอกนะ แม่เขาหน่ะ ถึงจะผ่อนผันให้บ้างแต่โดยมากแล้วก็เป็นคนเฉียบขาด เจ้าวางแผนสุดๆ
“เดี๋ยวแกแต่งงานก็ได้ยุ่งกับหนูมิราจนเบื่อเลยหล่ะ แม่จะให้แกมีลักสักโหลนึงเป็นไง”
“ไม่ เอาหรอกครับแม่ ผมอยู่กับใครนานๆแบบนั้นไม่ได้หรอก แม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ขนาดหน้าเค้าผมยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” ยูชอนบ่นแล้วก็ถอนหายใจยาวออกมา เรื่องนี้เนี่ยเขาฟังมาเป็นพันๆรอบแล้ว เบื่อผู้หญิงที่ชื่อมิราเนี่ยเหลือเกิน แค่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นเขาตั้งแต่อยู่ประถมก็จะมาผูกมัดเขาให้แต่งงาน ด้วยรึไง
“แหม ด้วยอยู่ๆไปก็รักกันเองแหละ ดูอย่างพ่อกับแกสิ แล้วไหนจะน้องแกอีกหน่ะ เห็นมั้ยว่าชีวอนเค้าดีกับแจจุงแค่ไหน”
“ก็ นั่นเค้าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วหนิครับ ส่วนผมเนี่ยได้เห็นหน้าอยู่สามครั้งจะไปให้มีความรู้สึกอะไรได้ อีกอย่างนะครับ เท่าที่ผมจำได้นะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สเป็คเลย” ยูชอนบอกแล้วเบนหน้าไปอีกทางนึง นึกถึงหน้าเด็กผู้หญิงแห้งๆหน้าตอบๆตอนที่ ไปส่งที่สนามบินเมื่อเจ็ดปีที่แล้วเข้ายังขนลุกอยู่เลย ป่านนี้คงจะแข็งตายอยู่ที่อเมริกาแล้วมั้งอ่อนแอขนาดนั้นจะเรียนต่อไหวเมือง นอกไหวหรอ
“เฮ้อ เอาเป็นว่าแม่จะหาทางช่วยแกก็แล้วกัน แต่ขอร้องเถอะนะว่าช่วงนี้อย่าให้มีข่าวอะไรออกมาอีก จะทำอะไรก็ให้มัน เงียบๆหน่อย ตอนนี้หน่ะไม่ใช่แค่แกกับแจจุงเท่านั้นหรอกนะที่จะได้สมบัติ อย่าลืมสิว่าแกยังมีน้องมาจกไหนอีกคนก็ไม่รู้” คุณนายคิมกล่าวเสียงเย็นชาขึ้น เธอไม่ชอบหน้าเด็กที่ชื่อยูฮวานอะไรนั่นเลย ขนาดนางมารแม่ของมันตายหายไปตั้งนานแล้ว ก็ยังมีลูกมาอีกจนได้
“แม่ครับ เด็กนั่นจะทำอะไรได้สักเท่าไหร่เชียว แค่อ่านหนังสือยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำมั้งเนี่ย”ยูชอนบอกอย่างไม่สนใจ
“หยุด คิดตื้นๆได้แล้ว ยังไงแกก็ต้องทำตัวให้ดีๆ ทุ่มเทกับงานแล้วเลิกสร้างเรื่องคาวๆสักทีไม่งั้นแม่จะขังแกไว้ในบ้าน อย่าคิดว่าแม่ไม่กล้านะ” คุณนายคิมยื่นคำขาดสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ยูชอนนั่งถอนหายใจเซ็งอยู่คนเดียว ร่างสูงขว้างหมอนที่อยู่ใกล้ๆไปจนสุดแรงด้วยความโมโห เขาไม่ใช่เด็กๆแล้วนะถึงต้องมานั่งบังคับกันแบบนี้
ความจริง ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขา สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แค่หาความสนุกอย่างเดียวเขากำลังพยายามต่อต้านการ แต่งงานบ้าๆนั่นต่างหาก มันใกล้เข้ามาแล้ว ข้อผูกมัดอันนั้น บ่วงอันใหญ่ที่จะมารัดคอเขาเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด
---------------------------------------------------
ภายในห้องนอนขนาดกว้างของคฤหาสหลังใหญ่ที่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงกลาง ที่ชั้นหนังสือเล็กๆซึ่งมีโต๊ะกลมตั้งเคียงข้างอยู่ด้วย บนพื้นพรมสีขาวล้วน คุณนายคิมเดินลากเท้าย่ำไปย่ำมาอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด
เธอ กำลังคิดหนักเรื่องของยูชอนอยู่ ตอนนี้ธุรกิจค่ายเพลงนั้นตกไปอยู่ในมือของแจจุงแล้วอย่างแน่นอนเพราะว่าตอน นี้ชีวอนที่เป็นคู่หมั้นและก็หุ้นส่วนในบริษัทก็ช่วยดูแลอยู่ อีกด้านนึงธุรกิจด้านโรงแรมก็มียูชอนคอยดูแลอยู่ แต่ว่านั่นมันก็ยังมีอีกหลายกิจการทั้งห้างสรรพสินค้าและสำนักพิมพ์ที่เจ้า พ่อปาร์คยังไม่วางมือยอมให้ใครจัดการดูแล ถึงแม้ว่ายูชอนจะเป็นลูกชายคนโตแต่ถ้าหากว่ายังทำตัวแบบนี้ก็คงจะโดนเจ้าพ่อ ปาร์คละเลยในไม่ช้าแน่ๆ
นึกแล้วมันก็แค้นจริงๆ ทำไมเด็กยูฮวานนั่นต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้น่าจะตายๆไปพร้อมกับนังแม่ มันซะเลย ถึงจะแบบนั้นก็เถอะนะ แม้ว่าจะไม่มีเด็กคนนั้นเขาก็ต้องให้ยูชอนแต่งงานกับนัม มิราให้ได้ ได้ลุกสะใภ้เป็นถึงลูกท่านรัฐมนตรี งานนี้เธอคงหน้าบานนอนตายตาหลับซะแล้วหล่ะ
ปัญหาตอนนี้ก็คือเจ้า ยูชอนมันดันโง่ไม่ได้รู้จักอดทนรอสิ่งที่ดีเอาซะเลย จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดีนะ ขืนปล่อยไปนานๆยูชอนก็คงได้ออกไปหาใครมาควงเล่นจนเป็นข่าวอีก คราวนี้คงได้เกิดเหตุการณ์ล้มเลิกงานแต่งของจริงแน่ๆ จะหาใครมาคอยควบคุมยูชอนได้นะ
คุณนายคิมใช้สมองคิดอย่างหนักจนหัวแทบจะระเบิดและในขณะนั้นเองเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“ก๊อกๆ”
“ใครหน่ะ”
“จุนซูครับ ผมเอาชาเชียวร้อนมาให้”
“เข้ามาสิ” คุณนายคิมตอบทันทีอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร ร่างบางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะกลมก่อนจะใช้สมองคิดเรื่องเดิมต่อไป
จุน ซูเดินถือถาดถ้วยชาเข้ามาอย่างช้าๆ ร่างเล็กนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าโต๊ะกลมเยื้องกับคุณนายคิมก่อนจะยกถ้วยวางลงบน โต๊ะกระจกด้วยท่าทางนุ่มนวลอย่างที่สุด เขาพยายามอย่างมากที่
จะไม่ให้ มือสั่น ทุกครั้งที่อยู่ใกล้คุณนายคิมเค้ารู้สึกเหมือนมีพลังน่ากลัวบางอย่างพุ่งมา ใส่ตัวเขา ทำให้รู้ตื่นตระหนกจนแทบจะปิดเอาไว้ไม่ได้
ทุกท่วง ท่าของจุนซูตั้งแต่นั่งคุกเข่าลงอยู่ภายใต้สายตาของคุณนายคิมทั้งหมด เธอคอยสังเกตดูจุนซูอย่างละเอียด หน้าตาเด็กคนนี้ดีใช้ได้เชียวนะ ขนาดเธอที่ไม่ค่อยจะชมใครยังอดคิดไม่ได้ว่าน่ารัก การทำงานก็ใช้ได้ถึงจะไม่ค่อยประสีประสาเท่าไหร่แต่ก็เป็นคนใจเย็น ถ้าอย่างนั้น.... ชั้นก็คิดอะไรออกแล้วหล่ะว่าเธอควรจะทำอะไรดี ชั้นรู้แต่แรกแล้วแหละ จุนซู ว่าเธอจะต้องทำประโยชน์อะไรสักอย่างให้ชั้นได้
“จุนซู...” เสียงของคุณนายคิมกล่าวขึ้นในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะเดินก้มหลังออกไปจากห้อง
“ครับ” ร่างเล็กเสียวสันหลังวาบเดินกลับมาหาคุณนายคิมตัวสั่น คลื่นพลังจากตัวคุณนายคิมแรงขึ้นจนร่างเล็กเหงื่อตก รังสีน่ากลัวที่เขาอ่านไม่เข้าใจแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งดี
“ตอนนี้หัวหน้าแม่บ้านเค้าจัดให้เธออยู่ที่ไหนหน่ะ”เสียงมีอำนาจกล่าวถาม
“อะเอ่อ ที่เรือนคนใช้ด้านหลังครับ” ร่างเล็กก้มหน้าตอบเสียงสั่น รังสีนั้นแรงมากจนจุนซูแทบจะทนไม่ไหวแล้ว มันปวดหัว
“ถ้างั้นเตรียมเก็บของนะ.... ชั้นจะหาที่ให้เธออยู่ใหม่”
----------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าคู่มินริคและมินโฮจะออกนะค่ะ ยุนแจอาจจะได้เจอกัน แต่ที่แน่ๆ ยูซูเค้าได้อยู่ร่วมบ้านกันแน่ ฮ่าๆๆๆ
+++++
++++
+++
++
+
“แจ ไปเร่าร้อนกับคนอื่นมา”ร่างเล็กหลับตาตอบอย่างรู้สึกผิดสุดๆ มือบางกำเข้าหากันแน่น
“วะว่าไงนะแจ” ชีวอนหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ
“อย่าโกรธแจเลยนะฮะ มันเป็นเรื่องบังเอิญ แจไม่ได้ตั้งใจเลยนะพี่ชีวอน” ร่างเล็กพูดเสียงอ่อนเดินไปกอดร่างสูงเอาไว้แน่น
“นี่ ไปกันถึงขั้นนั้น แล้วจะไม่ให้พี่โกรธได้ยังไง”ชีวอนยังคงรักษาน้ำเสียงเอาไว้ได้แม้ว่าในใจจะ แทบเป็นฝืนไปไฟก็ตาม ร่างสูงผละตัวออกมาจาอ้อมกอดของแจจุง
“แต่ มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนะฮะ คือ แจไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นใครอ่ะ ตอนนั้นแจปวดหัว หน้ามืดมากเลยเพราะว่าแดด พี่ชีวอนก็รู้นี่ฮะว่าแจแพ้แสงอ่ะ อีกอย่างพอเสร็จจาก..ไอ้...เอ่อ แล้วเค้าก็หายตัวไปเลย”ร่างเล็กพูดตะกุกตะกัก มันทั้งน่าอาย ทั้งรู้สึกผิดที่ต้องมาสารภาพเรื่องแบบนี้ให้พี่ชีวอนฟัง จะว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่รู้เลย ว่าตานั่นใช่ยุนโฮรึเปล่า
เฮ้อ
ชีวอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับคู่หมั้นสุดที่รักของเขาดีและในช่วงนั้นเอง
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
“ฮัล โหลครับคุณพ่อ” ร่างสูงหันหน้าไปรับโทรศัพท์อีกทาง ปล่อยให้แจจุงโยนทำหน้าเบ้อย่างเศร้าสร้อย ทำยังไงดี ทำยังไงดีเนี่ย พี่ชีวอนต้องโกรธเรามากแน่ๆ
ร่างเล็กยืนเครียดอยู่คนเดียวสักพัก ชีวอนก็เดินกลับมา
“แจ พี่คงต้องกลับก่อนนะคุณพ่ออยากได้เอกสารอะไรนิดหน่อย ไอ้เรื่องนั้นหน่ะเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลังล่ะกัน”ร่างสูงพูดหน้าตึงๆ กำลังจะเดินออกไป
“เอ่อ เดี๋ยวฮะ..” ร่างเล็กพูดเดินไปฉุดแขนหนาเอาไว้
“แจ ยังไมได้จุ๊บกู๊ดไนท์เลย” แจจุงพูดแล้วก็หอบแก้มร่างสูงไปหนึ่งที ชีวอนพยักหน้ารับรู้แล้วก็เดินหายไปในความมืด ถึงพี่ชีวอนจะไม่ได้ตะโกนวายวายโมโหใส่เขา แต่แจจุงรู้ดีว่าข้างในของร่างสูงนั้นเจ็บปวดและโกรธมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วหนิ
ร่างเล็กคิดอย่างปวดหัว แก้มใสๆพองลมออกมาเล็กน้อยอย่างคนที่มีเรื่องกลุ้มใจ แจจุงไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่เดินคนตกกลับไปยังบ้านอีกของเขา ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือของเรือนหลังใหญ่ เท้าเล็กก้าวเดินเหยียบพื้นหินอ่อนสีเนื้อมุ่งตรงขึ้นไปชั้นบน มือบางเปิดประตูอย่างไม่ใส่ใจ เดินเข้าไปในภายในทันที
ที่ที่ แจจุงอยู่ตอนนี้คือห้องนั่งเล่นขนาดย่อมถัดจาดนี้ไปนั้นคือห้องนอนสีเหลือง อ่อนขนาดกว้าง ร่างเล็กเดินไปที่หน้าต่างที่บานกว้างซึ่งมีม่านปักลายสีน้ำตาลปิดอยู่ มือบางเอื้อมไปเปิดแผ่นกล่องพลาสติกขนาดเล็กที่เชื่อมกับเชือกรูดผ้าม่าน ก่อนจะเห็นแป้นกดรหัส นิ้วเรียวกดตัวเลขไปสามครั้งกระจกบานทึบที่อยู่เบื้องหลังม่านก็ถูกเปิดออก แล้วก็ปิดทันทีหลังจากที่ร่างเล็กเข้าไป
กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดัง โชยเข้ามาแตะจมูกทันที เบื้องหน้าของแจจุงตอนนี้คือบันไดหินแคบๆที่ถูกปูด้วยพรมสีแดง ท้าวเล็กก้าวเดินลงไปด้วยความเคยชินก่อนจะพบกับประตูเหล็กขนาดใหญ่ มือเล็กหยิบกุญแจอันเล็กที่ห้อยอยู่ตรงข้อมือมาไขก่อนที่ประตูเล็กบานยักษ์ จะถูกเปิดออกเผยให้เห็นห้องนั่งเล่นขนาดกว้าง หรือที่แจจุงเรียกมันว่าห้องลับของเขา
สิ่งแรกเลยที่เห็นคือโซฟาสี แดงเลือดหมูสองตัวซึ่งหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์จอแบน รอบด้านมีเครื่องเสียงและเครื่องเล่นซีดีครบครัน หากสังเกตดูให้ดีๆจะเห็น ป้ายเหล็กสีทองที่สลักด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า YUNHO
ถัดจาก มุมนั้นเป็นก็เป็นชั้นวางของซึ่งมีทั้งซีดีของนักร้องดังยูโนว ยุนโฮและนิตยสารต่างๆที่ร่างสูงไปออก ตรงข้ามจากชั้นนั้นมีรูปขนาดใหญ่ของยุนโฮที่กำลังเอามือจับคางเอาไว้ แจจุงมองเห็นมันแล้วก็ถอนหายใจออกา ปกติเขาจะยิ้มกับภาพนั้นทุกครั้งที่เจอแต่ว่าคราวนี้มันไม่มีอารมณ์ มือสวยๆบนรูปนั่นไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
ร่างเล็กเดินต่อไป เรื่อยๆก็เห็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สองสามเครื่องที่กำลังเปิดทำ งานอยู่ เยื้องกับมุมนั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริงของยุนโฮที่แจจุงแอบลักลอบ สั่งให้คนทำแล้วก็ช่วย
กันขนเข้ามาตอนกลางดึกกับชางมินสองคน รอบเจ้าหุ่นขี้ผึ้งที่เหมือนจริงนั่นเป็นกระจกใส
แจ จุงเดินไปที่กระจกด้านข้างซึ่งสามารถเปิดออกให้เข้าไปข้างใน ร่างเล็กยืนจ้องมองเจ้าหุ่นนั่นอยู่สักพักก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด คนที่เขาเจอแล้วก็...ด้วยนี่มันใช่ยุนโฮรึเปล่านะ ทำไมเขาถึงได้โง่แบบนี้นะ เพราะไอ้แสงนั่นทีเดียวทำให้เขาแสบตาและปวดหันจนมองไม่เห็นอะไรเลย
“คุณหนูทำอะไรอยู่ครับ”เสียงชางมินบอร์ดีการ์ดคู่ใจของแจจุงที่พึ่งจะเดินเข้ามาถามขึ้น
“เปล่า”
“แล้วคุณชีวอนกลับไปแล้วหรอครับ”ชางมินซึ่งเป็นบอร์ดีการ์ดคู่ใจของเขาเดินมาถามอย่างเป็นห่วง
“กลับแล้ว ถ้ายังไม่กลับ ชั้นก็คงไปอยู่กับเค้าแล้วสิ” แจจุงพูดตอบอย่างไม่สบอารมณ์
ชางมินได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังหงุดหงิด
“ไฟล์ ซับที่ยุนโฮไปออกรายการญี่ปุ่นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมโหลดไว้ให้แล้วนะครับ” ชางมินเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยนึกว่าร่างเล็กอาจจะอารมณ์ดีขึ้นถ้าได้ยินว่ามี ไฟล์ใหม่ๆของนักร้องคนโปรดมาให้ดู
“ชั้นเห็นแล้วหล่ะ”ร่างเล็ก พูดอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินผ่านชางมินไป อาการแบบนั้นเล่นเอาร่างสูงงงๆ ไม่รู้ว่าคุณหนูของเขาไปสร้างเรื่องอะไรเอาไว้อีกถึงได้เป็นแบบนี้ ปกติแค่พูดถึงนักร้องนั่นหรือถ้าได้เห็นภาพมือของตายุนโฮก็อารมณ์ดีแล้ว คุณหนูแจจุงของเขานี่แปลกมาก ดูคนตรงไหนไม่ดูมาดูเอาตรงมือ บางครั้งยังเคยบอกเลยว่าที่ชอบพี่ชีวอนก็เพราะว่ามือสวย แต่ถ้าจะให้พูดถึงมือที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาก็คงเป็น มือของตายูโนว ยุนโฮ และนั่นก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมคุณหนูของเขาถึงได้ชอบนักร้องคนนั้นหนักหนา
“ชางมินนนนนน” แจจุงเดินกลับมาเรียกคนตัวสูงอย่างร้อนใจ
“ครับ” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ลองเรียกแบบนี้คงตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟังได้แล้ว
“ช่วยชั้นคิดหน่อยสิ ชั้นจะทำไงดี” นั่นไง มาแล้ว ไอ้เรื่องกลุ้มใจ
“เรื่องอะไรหล่ะครับ”
“คือ..ชั้น...ไปเร่าร้อนกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ชีวอนอ่ะ”ร่างเล็กสารภาพทำหน้ายู่
“ฮะ”ชา งมินทำตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ว่านอกเหนือจากนั้นก็น่าขำด้วย ดูใช้คำศัพท์เข้าสิหน่ะ ‘ไปเร่าร้อน’ จะพูดให้มันดีๆหน่อยก็ไม่ได้นะ คุณหนูของเขา นี่ถ้าไม่รู้จักกันคงจะงง
“แล้วคุณชีวอนรู้เรื่องนี้หรือยังครับ คุณหนูต้องห้ามพูดเลยนะ” ร่างสูงรีบสั่งการใหญ่
“ชั้นบอกไปแล้วเมื่อกี้”
“ห๊า...”ชางมินทำหน้าตกใจสุดๆ
“คุณหนูบอกไปได้ไงครับ เรื่องแบบนี้มันใช่สิ่งที่ควรจะบอกกับคู่หมั้นซะไหนเล่าครับ”
“ก็ชั้นไม่อยากปิดบังเค้าหนิ แล้วถ้าสักวันพี่ชีวอนไปรู้เข้าไม่แย่หรอ” ร่างเล็กทำหน้ากลุ้มใจเดินวนไปมา
“มัน ก็ใช่ แต่ถ้าไม่รู้จะดีกว่านะครับ หรือไม่อย่างนั้นเอาไว้ผ่านไปสักพักแล้วค่อยๆบอกจะดีกว่า”ชางมินพูดยืดยาว เขาล่ะเซ็งกับความจริงใจและตรงไปตรงมาของคุณหนูแจจุงจริงๆ เรื่องพึ่งจะเกิดขึ้นสดๆร้อนๆก็บอกเขาไปซะแล้ว
“ก็..ชั้นไม่สบายใจหนิ”
“เฮ้อ แล้วคุณหนูรู้มั้ยครับ ว่าคนนั้นเป็นใคร”
“ชั้นก็ไม่แน่ใจนะ แต่..คิดว่า..น่าจะเป็น...ยุนโฮ”
“ห๊า” ชางมินทำตาโตด้วยความตกใจเป็นครั้งที่สอง
“คุณหนูบอกว่ายุนโฮงั้นหรอครับ”
“อืม”
“ยูโนว ยุนโฮ ผู้ชายมือสวยที่สุดในโลกของคุณหนูหน่ะหรอครับ”ชางมินถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ไม่อยาจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“อืม นายอย่าถามมากสิ ชั้นแค่คิดว่าอาจจะใช่ แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ชั้นเห็นชัดอ่ะ”
“อะไรกันครับ ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว..มีอะไรกับเขาได้ไง”
“โอ๊ย นายอย่าพึ่งมาตอกย้ำได้มั้ย นี่ให้มาช่วยนะ”แจจุงโวยวายหน้าแดงก่ำ
“ครับๆ แต่ถ้าเป็นยุนโฮจริงคุณหนูก็น่าจะจำมือเขาได้สิ ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าชัดก็เถอะนะ”
“ก็ ถูกนะ ชั้นไม่มั่นใจอ่ะ คือ นายเข้าใจมั้ยว่าเวลาเห็นภาพผ่านโปสเตอร์ ทีวี คอมพิวเตอร์และอื่นๆ มันไม่เหมือนกับเห็นของจริงนะ แล้วยิ่งตอนนั้นแดดมันก็ส่องตาชั้นจนงงๆไปหมดด้วย”แจจุงพูดปากเบ้ ท่าทางกลุ้มใจ สายตาของเขามีปัญหาเริ่มสู้แสงแดดไม่ได้มาเป็นปีแล้ว สาเหตุก็เพราะว่าเล่นคอมพิวเตอร์มากเกินไป ก็ตั้งแต่ยังเล็กๆแล้วแจจุงก็ติดคอมมาตลอด พอ
หลังๆที่มีปัญหาจึงถูกบังคับให้งดเล่น ถ้าอยากดูอะไรก็ให้ชางมินหาโหลดมาให้แทน
“ถ้า งั้นคุณหนูก็อย่าคิดมากเลยครับ คิดไปคุณหนูก็ไม่รู้อยู่ดี ผมว่าเดี๋ยวคุณชีวอนก็หายโกรธเอง ยังไงเค้าก็ไม่เคยโกรธคุณหนูได้นานอยู่แล้วหนิครับ”ชางมินหันมาพูดในด้านดี
“มันก็จริง แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ”แจจุงพูดทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“อย่าเครียดเลยครับ ผมว่าคุณหนูน่าจะดีใจนะ ที่ได้ใกล้ชิดกับนักร้องสุดที่รักแบบใจถึงใจอย่างนั้นอ่ะ”
“บ้า รึเปล่า ชั้นไม่ได้ชอบยุนโฮแบบนั้นนะ แค่ชื่นชมเค้าเฉยๆที่มีมือสวย แล้วชั้นก็บอกแล้วไงว่าอาจะไม่ใช่ยุนโฮก็ได้”แจจุงหันไปโวยวายใส่ชางมิน
“ชั้น ไปนอนดีกว่า คุยกับนายแล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย” ร่างเล็กทำหน้าบึ้งแล้วเดินออกไปทิ้งให้ชางมินยืนขำอยู่คนเดียว บอร์ดี้การ์ดของเขาคนนี้เนี่ยนะ ดูภายนอกก็เหมือนจะเป็นคนเงียบๆแต่ทำไมเวลาพูดจาอะไรกับเขาทีเนี่ยมันถึงได้ กวนแบบนี้ ขนาดคนกำลังเครียดอยู่นะเนี่ย เซ็ง
---------------------------------------------------
ชั้น บนสุดของคฤหาสหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านของแจจุงกับยูชอน ภายในห้องทำงานขนาดกว้างที่เชื่อมต่อไปถึงห้องนอนและห้องแต่งตัว คุณนายกับเจ้าพ่อกำลังนั่งสืบสวนเจ้าลูกชายคนโตของบ้านด้วยสีหน้าเคร่ง เครียด
“แกเห็นข่าวนี่มั้ย มันว่อนเน็ตไปหมดแล้ว”เจ้าพ่อคิดพูดเสียงดังโยนกระดาษที่มีหัวข้อข่าวของยูชอนเขียนอยู่
“ก็แค่ข่าวเองนี่ครับ ผมก็เห็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว” ร่างสูงพูดเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
“นี่ แกยังจะมาพูดอีกรึไง ควงผู้หญิงไปทั่วแบบนี้จนมีข่าวแดงหลาออกมาอย่างนี้แกก็ยังไม่รู้สึกอีก หัดเห็นแกหน้าพ่อแม่แกบ้างสิ อย่าลืมว่าแกหน่ะมีคู่หมั้นแล้วนะ แบบนี้แกจะให้พ่อเอาหน้าไปเจอกับท่านรัฐมนตรีกับหนูมิราได้ยังไง” ประมุขของบ้านตะโกนจนหน้าแดง
“ พ่อก็อย่าไปเจอเขาสิครับ ผมก็บอกพ่อแต่แรกแล้วว่าไม่ชอบให้คลุมถุงชน” ยูชอนยังคงตอบเสียงเรียบเหมือนไม่เดือดร้อนอะไร
“แก ไอ้ยูชอน นี่แกบ้าไปแล้วรึไง ไม่รู้หรอว่าพ่อหนูมิราเค้าเป็นใคร ต่อไปเค้าจะมีประโยชน์กับเราแค่ไหน ผู้หญิงดีๆ เพียบพร้อมแบบนี้แกจะไปหาได้ที่ไหน ฮะ ไอ้ลูกไม่รักดี”
“ผู้หญิงดีหรอครับ หึ ก็แค่ตัวเงินตัวทองเท่านั้นเอง”
“นี่แก...”
“พอ เถอะค่ะ คุณ อย่าโมโหเลยนะค่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้ชั้นจะจัดการเองดีกว่า” คุณนายคิมพูดแทรกขึ้นก่อนที่สามีจะโมโหไปมากกว่านี้ มือบางเดินไปคว้าตัวลูกชายคนโตให้เดินออกไปจากห้อง
ทั้งสองมุ่งหน้าเดินลงไปที่ห้องรับแขกด้านล่างซึ่งตอนนี้ว่างเปล่าไม่มีคนอยู่
ยูชอนเดินไปนั่งที่โซฟาส่วนคุณนานคิมได้แต่ถอนหายใจแล้วยืนมองลูกชาย
“ยู ชอนแม่ไม่อยากบังคับแกหรอกนะ แต่ว่าช่วยทำเพื่อแม่หน่อยเถอะ ช่วงนี้เลิกยุ่งกับสาวๆพวกนั้นบ้างได้มั้ย”คนเป็นแม่กล่าวเสียงอ่อนเดินไป นั่งข้างๆร่างสูง
“โธ่แม่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ให้ยุ่งกับใครเลยเดี๋ยวก็ตายด้านกันหมดพอดี”ยูชอนพูดอย่างสบายๆมากขึ้น เขาสนิทกับแม่มากกว่าพ่อ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเขาจะเชื่อฟังไปหมดหรอกนะ แม่เขาหน่ะ ถึงจะผ่อนผันให้บ้างแต่โดยมากแล้วก็เป็นคนเฉียบขาด เจ้าวางแผนสุดๆ
“เดี๋ยวแกแต่งงานก็ได้ยุ่งกับหนูมิราจนเบื่อเลยหล่ะ แม่จะให้แกมีลักสักโหลนึงเป็นไง”
“ไม่ เอาหรอกครับแม่ ผมอยู่กับใครนานๆแบบนั้นไม่ได้หรอก แม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ขนาดหน้าเค้าผมยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” ยูชอนบ่นแล้วก็ถอนหายใจยาวออกมา เรื่องนี้เนี่ยเขาฟังมาเป็นพันๆรอบแล้ว เบื่อผู้หญิงที่ชื่อมิราเนี่ยเหลือเกิน แค่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นเขาตั้งแต่อยู่ประถมก็จะมาผูกมัดเขาให้แต่งงาน ด้วยรึไง
“แหม ด้วยอยู่ๆไปก็รักกันเองแหละ ดูอย่างพ่อกับแกสิ แล้วไหนจะน้องแกอีกหน่ะ เห็นมั้ยว่าชีวอนเค้าดีกับแจจุงแค่ไหน”
“ก็ นั่นเค้าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วหนิครับ ส่วนผมเนี่ยได้เห็นหน้าอยู่สามครั้งจะไปให้มีความรู้สึกอะไรได้ อีกอย่างนะครับ เท่าที่ผมจำได้นะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สเป็คเลย” ยูชอนบอกแล้วเบนหน้าไปอีกทางนึง นึกถึงหน้าเด็กผู้หญิงแห้งๆหน้าตอบๆตอนที่ ไปส่งที่สนามบินเมื่อเจ็ดปีที่แล้วเข้ายังขนลุกอยู่เลย ป่านนี้คงจะแข็งตายอยู่ที่อเมริกาแล้วมั้งอ่อนแอขนาดนั้นจะเรียนต่อไหวเมือง นอกไหวหรอ
“เฮ้อ เอาเป็นว่าแม่จะหาทางช่วยแกก็แล้วกัน แต่ขอร้องเถอะนะว่าช่วงนี้อย่าให้มีข่าวอะไรออกมาอีก จะทำอะไรก็ให้มัน เงียบๆหน่อย ตอนนี้หน่ะไม่ใช่แค่แกกับแจจุงเท่านั้นหรอกนะที่จะได้สมบัติ อย่าลืมสิว่าแกยังมีน้องมาจกไหนอีกคนก็ไม่รู้” คุณนายคิมกล่าวเสียงเย็นชาขึ้น เธอไม่ชอบหน้าเด็กที่ชื่อยูฮวานอะไรนั่นเลย ขนาดนางมารแม่ของมันตายหายไปตั้งนานแล้ว ก็ยังมีลูกมาอีกจนได้
“แม่ครับ เด็กนั่นจะทำอะไรได้สักเท่าไหร่เชียว แค่อ่านหนังสือยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำมั้งเนี่ย”ยูชอนบอกอย่างไม่สนใจ
“หยุด คิดตื้นๆได้แล้ว ยังไงแกก็ต้องทำตัวให้ดีๆ ทุ่มเทกับงานแล้วเลิกสร้างเรื่องคาวๆสักทีไม่งั้นแม่จะขังแกไว้ในบ้าน อย่าคิดว่าแม่ไม่กล้านะ” คุณนายคิมยื่นคำขาดสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ยูชอนนั่งถอนหายใจเซ็งอยู่คนเดียว ร่างสูงขว้างหมอนที่อยู่ใกล้ๆไปจนสุดแรงด้วยความโมโห เขาไม่ใช่เด็กๆแล้วนะถึงต้องมานั่งบังคับกันแบบนี้
ความจริง ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขา สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แค่หาความสนุกอย่างเดียวเขากำลังพยายามต่อต้านการ แต่งงานบ้าๆนั่นต่างหาก มันใกล้เข้ามาแล้ว ข้อผูกมัดอันนั้น บ่วงอันใหญ่ที่จะมารัดคอเขาเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด
---------------------------------------------------
ภายในห้องนอนขนาดกว้างของคฤหาสหลังใหญ่ที่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงกลาง ที่ชั้นหนังสือเล็กๆซึ่งมีโต๊ะกลมตั้งเคียงข้างอยู่ด้วย บนพื้นพรมสีขาวล้วน คุณนายคิมเดินลากเท้าย่ำไปย่ำมาอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด
เธอ กำลังคิดหนักเรื่องของยูชอนอยู่ ตอนนี้ธุรกิจค่ายเพลงนั้นตกไปอยู่ในมือของแจจุงแล้วอย่างแน่นอนเพราะว่าตอน นี้ชีวอนที่เป็นคู่หมั้นและก็หุ้นส่วนในบริษัทก็ช่วยดูแลอยู่ อีกด้านนึงธุรกิจด้านโรงแรมก็มียูชอนคอยดูแลอยู่ แต่ว่านั่นมันก็ยังมีอีกหลายกิจการทั้งห้างสรรพสินค้าและสำนักพิมพ์ที่เจ้า พ่อปาร์คยังไม่วางมือยอมให้ใครจัดการดูแล ถึงแม้ว่ายูชอนจะเป็นลูกชายคนโตแต่ถ้าหากว่ายังทำตัวแบบนี้ก็คงจะโดนเจ้าพ่อ ปาร์คละเลยในไม่ช้าแน่ๆ
นึกแล้วมันก็แค้นจริงๆ ทำไมเด็กยูฮวานนั่นต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้น่าจะตายๆไปพร้อมกับนังแม่ มันซะเลย ถึงจะแบบนั้นก็เถอะนะ แม้ว่าจะไม่มีเด็กคนนั้นเขาก็ต้องให้ยูชอนแต่งงานกับนัม มิราให้ได้ ได้ลุกสะใภ้เป็นถึงลูกท่านรัฐมนตรี งานนี้เธอคงหน้าบานนอนตายตาหลับซะแล้วหล่ะ
ปัญหาตอนนี้ก็คือเจ้า ยูชอนมันดันโง่ไม่ได้รู้จักอดทนรอสิ่งที่ดีเอาซะเลย จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดีนะ ขืนปล่อยไปนานๆยูชอนก็คงได้ออกไปหาใครมาควงเล่นจนเป็นข่าวอีก คราวนี้คงได้เกิดเหตุการณ์ล้มเลิกงานแต่งของจริงแน่ๆ จะหาใครมาคอยควบคุมยูชอนได้นะ
คุณนายคิมใช้สมองคิดอย่างหนักจนหัวแทบจะระเบิดและในขณะนั้นเองเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“ก๊อกๆ”
“ใครหน่ะ”
“จุนซูครับ ผมเอาชาเชียวร้อนมาให้”
“เข้ามาสิ” คุณนายคิมตอบทันทีอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร ร่างบางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะกลมก่อนจะใช้สมองคิดเรื่องเดิมต่อไป
จุน ซูเดินถือถาดถ้วยชาเข้ามาอย่างช้าๆ ร่างเล็กนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าโต๊ะกลมเยื้องกับคุณนายคิมก่อนจะยกถ้วยวางลงบน โต๊ะกระจกด้วยท่าทางนุ่มนวลอย่างที่สุด เขาพยายามอย่างมากที่
จะไม่ให้ มือสั่น ทุกครั้งที่อยู่ใกล้คุณนายคิมเค้ารู้สึกเหมือนมีพลังน่ากลัวบางอย่างพุ่งมา ใส่ตัวเขา ทำให้รู้ตื่นตระหนกจนแทบจะปิดเอาไว้ไม่ได้
ทุกท่วง ท่าของจุนซูตั้งแต่นั่งคุกเข่าลงอยู่ภายใต้สายตาของคุณนายคิมทั้งหมด เธอคอยสังเกตดูจุนซูอย่างละเอียด หน้าตาเด็กคนนี้ดีใช้ได้เชียวนะ ขนาดเธอที่ไม่ค่อยจะชมใครยังอดคิดไม่ได้ว่าน่ารัก การทำงานก็ใช้ได้ถึงจะไม่ค่อยประสีประสาเท่าไหร่แต่ก็เป็นคนใจเย็น ถ้าอย่างนั้น.... ชั้นก็คิดอะไรออกแล้วหล่ะว่าเธอควรจะทำอะไรดี ชั้นรู้แต่แรกแล้วแหละ จุนซู ว่าเธอจะต้องทำประโยชน์อะไรสักอย่างให้ชั้นได้
“จุนซู...” เสียงของคุณนายคิมกล่าวขึ้นในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะเดินก้มหลังออกไปจากห้อง
“ครับ” ร่างเล็กเสียวสันหลังวาบเดินกลับมาหาคุณนายคิมตัวสั่น คลื่นพลังจากตัวคุณนายคิมแรงขึ้นจนร่างเล็กเหงื่อตก รังสีน่ากลัวที่เขาอ่านไม่เข้าใจแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งดี
“ตอนนี้หัวหน้าแม่บ้านเค้าจัดให้เธออยู่ที่ไหนหน่ะ”เสียงมีอำนาจกล่าวถาม
“อะเอ่อ ที่เรือนคนใช้ด้านหลังครับ” ร่างเล็กก้มหน้าตอบเสียงสั่น รังสีนั้นแรงมากจนจุนซูแทบจะทนไม่ไหวแล้ว มันปวดหัว
“ถ้างั้นเตรียมเก็บของนะ.... ชั้นจะหาที่ให้เธออยู่ใหม่”
----------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าคู่มินริคและมินโฮจะออกนะค่ะ ยุนแจอาจจะได้เจอกัน แต่ที่แน่ๆ ยูซูเค้าได้อยู่ร่วมบ้านกันแน่ ฮ่าๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น