ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปราบมาร

    ลำดับตอนที่ #8 : จิ้งจอกโสมหิมะ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 55


    จับซา และ เม่ยเม่ย พักอยู่ในร้านขายผ้าไหมของ ชิงชิง มาได้สองเดือนแล้ว ตลอดเวลาสองเดือน จับซาก็ศึกษาตำราการแพทย์ อย่างจริงจัง ทั้งส่วนที่นำมาจาก สำนักภูตดูดวิญญาณ และบางส่วนที่ ชิงชิง จัดซื้อหามาให้  จุดประสงคืของการศึกษาตำราแพทย์ของจับซา ส่วนนึงเพื่อรักษา ชิงชิง และ อีกส่วนเพื่อ ทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรใช้ในธุรกิจ สปาร์ ที่จับซาและ เม่ยเม่ยได้วางแผนที่จะร่วมกันทำ โดยจับซารับหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนเม่ยเม่ย รับหน้าที่บริการจัดการ ดังนั้น เม่ยเม่ยจึงได้ขอเรียนรู้ศึกษาการบริการจัดการธุรกิจ กับ ชิงชิงไปด้วย

    ตูม  เสียงระเบิดดังเกิดขึ้นในห้องทดลองเล็กๆ ที่ชิงชิงจัดสร้างให้ จับซาใช้ทำการค้นคว้าทดลอง ทุกคนในบ้านย่อมได้ยินเสียงระเบิด และพากันออกมาดูว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่แปลกใจตื่นเต้นอะไรมากนักเพราะมันเกิดขึ้นเป็นประจำแทบทุกวันก็ว่าได้ แต่ยังไงก็ยังคงอยากรู้อยากเห็นว่า จับซา จะมีสภาพอย่างไร

    ฮ่าๆๆๆ เสียงหัวเราะดังลั่นบ้าน หลังจากที่ทั้งสาวใช้ และเจ้านาย เห็นสภาพของจับซาที่เดินออกมาจากห้องทดลอง คราครั้งนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวของจับซาเต็มไปด้วยสีเขียว หน้าตามอมแมมยิ่ง  จับซาเดินตรงมายัง เม่ยเม่ย และ ชิงชิง พร้อมยิ้มเจื่อนๆ และกล่าวว่า

    -น้องหญิง พี่พบวิธีชะลอความแก่และรักษารูปโฉมผิวพรรณแล้ว

    -อ้า วิเศษยิ่ง ข้าขอทดลองเป็นคนแรกได้หรือไม่ // ชิงชิง กล่าว

    -ย่อมได้น้องหญิง แต่เราต้องไปหาตัวยาสำคัญตัวยานึง นั่นคือ โสมหิมะ ซึ่งขึ้นอยู่ทางแถบเทือกเขาหิมะแห่งแคว้นโกกุระยอ ทางทิศตะวันออก

    -งั้นเราไปกัน // ชิงชิงกล่าวชวนอย่างไว

    ในรุ่งเช้า จับซา เม่ยเม่ย ชิงชิง ได้ออกเดินทางจากแคว้นสิบสองปันนา มุ่งไปยังแคว้นโกกุระยอ โดย ชิงชิงได้ว่าจ้าง รถม้า ทำให้นาง จับซาและเม่ยเม่ยเดินทางกันอย่างสะดวกสบายยิ่ง

    หนึ่งเดือนผ่านไป ในที่สุด รถม้าก็ได้เยียบย่างเข้าสู่แคว้นโกกุระยอ จับซาสั่งให้รถม้ามุ่งไปทางหุบเขาด้านทิศเหนือ รถม้าได้มุ่งสู่เมืองเล็กๆใกล้เทือกเขาหิมะ เมื่อรถม้าเข้าไปในเมืองก้ได้ ไปหยุดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมแห่งเดียวของเมือง จับซาและ สาวๆก็ได้พากันลงมาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อเช่าห้องพัก ทั้งสามได้จับจองห้องพักที่แพงที่สุดของโรงเตี๊ยม พร้อมทั้งจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ถึงหนึ่งเดือน หลังจากพนักงานโรงเตี๊ยมได้ขนสำภาระ ขึ้นไปไว้บนห้องพักหมดแล้ว จับซาและสาวๆก็ได้เลือก โต๊ะมุมห้อง เพื่อนั่งรับประทานอาหาร และเมื่อทุกคนรับประทานอาหารจนอิ่นหนำแล้ว จับซาก้ได้เดินมาคุยกับเถ้าแก่โรงเตี๊ยมสอบถามถึงโสมหิมะ บนเทือกเขาหิมะ

    -อะไรนะ นายท่าน ที่ท่านเดินทางมานี่เพื่อที่จะขึ้นเขาไปหาโสมหมิมะรึ ข้าว่าอย่าเลย ท่านเอาชีวิตมาทิ้งเป่าๆ

    -ทำไมละเถ้าแก่

    -ก็เพราะบนเขาหิมะ มี ปีศาจจิ้งจอกหิมะ และ จิ้งจอกฟ้า คอยเฝ้ารักษาโสมหิมะอยู่ไง และไม่เคยมีผู้ใดที่ขึ้นไปแล้วสามารถนำกลับมาได้เลย ใครที่บุกรุกเข้าไปล้วนตกตายหมดสิ้น

    -ถึงอย่างไรข้าก็จะขอขึ้นไปดู

    -เฮ้อ ตามใจ พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา // เถ้าแก่กล่าวเบาๆ

    จับซาย่อมได้ยินแต่หาสนใจไม่ จึงเดินมาที่โต๊ะและชวนสาวๆขึ้นห้องนอน

    -ท่านพี่ท่านจะขึ้นไปเมือกเขาหิมะเมื่อไหร่ // ชิงชิงถาม

    -ข้าว่าจะขึ้นไปพรุ่งนี้เช้า แต่ข้าขอขึ้นไปแค่คนเดียวนะ ให้น้องหญิงทั้งสองรออยู่ที่นี่

    -อ้าวทำไมล่ะ // สองสาวกล่าวขึ้นพร้อมกัน

    -ข้าไม่อยากให้พวกท่านได้รับอันตรายและการที่ข้าไปคนเดียวจะทำให้ดำเนินการทำอะไรได้คล่องตัวกว่า

    -เช่นนั้นก็ได้ // ชิงชิงกล่าว

    -ถ้างั้นคืนนี้ท่านพี่ต้องถนอมกำลังไว้ คงไม่สามารถซุกซนได้มากกระมัง // เม่ยเม่ยกล่าวเตือนสติ

    จับซายิ้มกว้าง พร้อมกล่าวว่า

    -หาเป็นเช่นนั้นไม่

     

    เช้าของวันใหม่จับซาจัดเตรียมห่อผ้าเสร็จก็จับขึ้นสพายบ่า พร้อมทั้งหอมแก้ม สาวๆ ก่อนที่จะกล่าวอำลาเพื่อขึ้นไปหาโสมหิมะ ในเวลาไม่กี่อึดใจ ร่างจับซาก้ขึ้นมาถึงเทือกเขาหิมะ ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ ขาวโพลนไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วโสมหิมะอยู่ตรงไหนล่ะ แน่นอนว่าจับซาก็ไม่ทราบ หลังจากยืนนึกเพื่อกำหนดแหล่งที่จะทำการเริ่มค้นหา จับซาก้ปิ้งไอเดียขึ้นมาไอเดียหนึ่ง จึงเอามือป้องปาก ส่งเป็นสำเนียงเสียงสุนัขเห่าหอนดังไปทั่ว หุบเขา และ ในอีกไม่กี่อึดใจ จับซาก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าตอบดังแว่วกลับมา ซึ่งนั่นก็เพียงพอให้ จับซาจำแนกทิศทางได้แล้ว ร่างของจับซา หายวับไปปรากฏอยู่ที่ภูเขาลูกที่สาม พร้อมกับยืนเผชิยหน้ากับสุนัขจิ้งจอกขาวราวหิมะตัวหนึ่ง เมื่อเจ้าสุนัขเห็นจับซาปรากฏกายขึ้นมาก็ไม่รอช้าพรุ่งกระโจนเข้ามากัดแขนจับซาอย่างว่องไวสุดที่จับซาจะหลบเลี่ยงได้ ไม่นาน จับซารู้สึกชาไปทั้งตัวร่างล้มดัง ตึงไปบนผืนหิมะ และเจ้าสนุนัขจิ้งจอกตัวนั้นก้ปล่อยปากจากแขนซ้ายของจับซา พร้อมทั้งเดิน มาที่หัวของจับซา และยกขาขวาขึ้น ฉี่ใสหน้าจับซา เสร็จยังไม่หนำใจ มันยังเอาขาหน้าด้านขวา เหยียบที่หน้าฝากของจับซาพร้อมสแยะยิ้มเยาะเย้ยในความพ่ายแพ้ของจับซา

    -เจ้าขาว // จับซายังไม่หมดสติ จึงได้ยินเสียงสตรีร้องเรียก เข้าใจว่าเป็น สุนัขจิ้งจอกตัวนี้ดังแว่วๆมา และในไม่นานก็ปรากฏร่างสตรีสวมชุดสีทอง ผิวขาวราวสโนไว้ งดงามดังนางฟ้าจากสรวงสวรร

    -เจ้าขาวเจ้าลงมือฆ่าคนอีกแล้ว

    เจ้าขาวหันมามองเจ้านาย พร้อมส่งเสียงเห่าโฮ่งๆ เหมือนดังจะบอกว่า ใช่แล้ว เจ้าโง่นี่สมควรตาย จากนั้น นางก้เดินเข้ามาดูใกล้จึงยังเห้น จับซายังนอนลืมตาอยู่

    -เอ๊ะ ท่านยังไม่ตาย

    -ข้ายังไม่ ตาย // จับซาตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

    -แปลกมาก ไม่เคยมีผู้ใดรอดชีวิตจากพิษของจิ้งจอกฟ้า // นางพุดพร้อมทั้ง เดินเข้าไปแตะสำรวจปราณชีพจรของ จับซา

    -ท่านไม่รอกแน่ ยังไงท่านก็ต้องตายแน่ๆ ไม่เกินพรุ่งนี้ ท่านตายแน่ๆ

    จับวาได้ยินนางพูดย้ำๆเช่นนั้นก็ทำให้รู้สึกเศร้าใจ มีน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตายอย่างห้ามไม่ได้

    -ท่านเสียใจ // นางถาม

    -ใช่ ข้าเสียใจข้ายังไม่อยากตาย ข้ายังไม่ได้อำลาลูกเมียข้าเลย

    -ท่านทำใจเถอะ ยังไงท่านต้องตายแน่ๆ ท่านไม่มีโอกาสไปพบ ลุกเมียท่านได้ทันกาลหรอก เอาเถอะเห็นแก่ท่านที่ใกล้ตายและเป็นคนเดียวที่ยังรอดชีวิต  ท่านต้องการสั่งเสียให้ข้าทำอะไรให้เป็นพิเศษหรือไม่

    -ก่อนตายข้าขอหลับนอนกลับท่านได้หรือไม่

    แม่นางเมื่อได้ฟังคำขอของจับซาก่อนตายก็ได้ขวดคิ้ว จับซารู้สึกใจหายวาบเกรงว่า นางจะลงมือทำให้มันตายเร้วขึ้น แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่นางกลับกล่าวว่า

    -ตกลง เห็นแก่ท่านที่ยังทนพิษจิ้งจอกฟ้าได้ และข้าก็ไม่ได้หลับนอนกับผู้ใดมาเป็นเวลาหลายปีแล้วตั้วแต่สามีข้า ถูกเจ้าจิ้งจอกฟ้ากัดตาย ว่าแต่ท่านมีนามเรียกว่ากระไร

    -ข้าชื่อ ฮั่นคงจับซา แม่นางเรียกข้าสั้นๆว่า จับซาก็พอ

    -อ้อ จับซา ข้าชื่อ จังกรึม

    -เจ้าขาว เจ้าหลบไปก่อนได้หรือเมื่อ ข้าจะกระทำการตามคำร้องขอครั้งสุดท้ายของคุณชายท่านนี้

    -โฮ่งๆ  // เจ้าขาวเห่าตอบอย่างเข้าใจ พ้อมทั้ง ยกขา ตีลงบนหน้าผาก จับซาอีกหนึ่งครั้งก่อนหายตัวไปอย่างว่องไว

    หลังจากแม่นางจังกรึมหันสำรวจตรวจตราจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าขาวไม่ได้แอบซุ่มมองอยู่ นางจึงเปลืองชุด เช้ดคราบฉี่เจ้าขาวที่ใบหน้าจับซา จากนั้นค่อยๆเปลื้องผ้าจับซา และเริ่มกอดจูบเขาอย่างเร่าร้อน

    หิมะเริ่มโปรยปรายลงมา จังกรึมเริ่มสวมเสื้อผ้าตกแต่งให้เข้าที่พร้อมทั้งสวมใส่เสื้อผ้าให้จับซาเหมือนเดิม แน่นอนว่าจับซายังไม่ตาย หรือถ้าจะต้องตายมันก็คงตายตาหลับแล้ว หลังจาก จังกรึม สวมใส่เสื้อผ้าให้จับซาเสร็จ นางก็เริ่มทำการสำรวจปรารชีพจรของจับซาอีกคราว

    -เอ๊ะ

    -มีอะไรหรือแม่นาง

    -แปลกยิ่ง ทำไมข้ารู้สึกว่า ปราณชีพจรท่าน ยิ่งกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ

    -แสดงว่าข้าไม่ต้องตายแล้ว

    -อันนี้ข้าไม่แน่ใจ แต่ท่แน่ๆท่านยังไม่ตายไวนัก

    ว่าแล้ว นางก็ยกร่างจับซาขึ้น พร้อมพุ่งทะยานตัวกลับไปยังที่พัก

    ด้านหลังของเขาลูกที่สาม มีถ้ำเร้นลับแห่งนึง หากมองผิวเผินจะไม่รู้ว่ามีถ้ำอยู่ด้วยหย้าถ้ำมีหินที่คุมไปด้วยหิมะบดบังอยู่อย่างสลับซับซ้อน เมื่อ จังกรึมพาจับซาเข้าไปในถ้ำ จับซาก้สัมผัสได้ถึงอากาศที่อบอุ่น ภาในถ้า สว่างไหวไปด้วนแสงสว่างจากต้นโสมหิมะ ที่ขึ้นเบียดเสียดกันอยู่เต็มผนังถ้ำ จังกรึมวางร่างจับซาช้าๆลงบนเตียงที่ปูด้วยหนังสุนัขจิ้งจอก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบรรพบุรุษของเจ้าขาว โฮ่ง เสียงเจ้าขาวดัง พร้อมร่างปรากฏอยู่บนเตียง มันขมวดคิ้วมองจับซาอย่างงุนงง คงคิด ว่า ทำไมเจ้านี่ยังไม่ตาย จับซาก็มองจ้องมันตอบพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้ ประมาณจะบอกมันว่า เสียใจข้ายังไม่ตายโว้ย วะฮ่าๆ จากนั้น เจ้าขาวก้พ่มลมออกจมูก ดังฮึ ก่อนหันก้น ตดใส่ หน้า จับซาดังป๊าด แต่โชคดีของจับซาที่ไม่มีเสษอาหารหลุดออกมาจากก้นเจ้าขาว จังกรึมที่มองพฤติกรรมของทั้งคู่ก้อดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้

    – อิอิ

    เมื่อเจ้าขาวได้เยาะเย้ยจนหนำใจแล้วก็ได้กระโดลงจากเตียงไป ส่วแม่นาง จังกรึม ก้เดินไป ถอนเอาโสมหิมะ ออกมาต้นนึก ส่งเข้าปากเคี้ยวอย่างละเอียดก่อนคายออกมาป้อนให้จับซา เมื่อจับซาได้กลืนโสมหิมะลงไปแล้ว แม่นางจังกรึมก้ได้เดินลมปราณเพื่อ กระตุ้นให้โสมหิมะออกฤทธิ์ จับซาก้รู้สึกมีความร้อนแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย จนสามารถทำให้เขาเดินลมปราณเพื่อขับพิษต่อได้ จับซาได้พยายามขับพิษให้มารวมกันที่แขนซ้ายเพื่อขับออกมา แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่พาที่มาสะสมอยู่ที่แขนซ้ายกลับปรากฏเป็นลายเปลวเพลิงสีดำขึ้นที่ผิวของจับซา ตลอดทั้งแขนยาวมาถึงต้นคอ แต่กระนั้น พาร้ายของเจ้าขาวก้ได้ค่อยๆลดลงและหมดสิ้น ในอีกสามชั่วยามต่อมา

    -ยินดีด้วยท่านปลอดภัยแล้ว

    -ขอบคุณน้องหญิงที่ช่วย

    -เอ๊ะ ท่านเรียกข้าว่าอะไรนะ

    -น้องหญิง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราได้เป็นของกันและกันแล้ว

    -ท่านพี่ // จังกรึมกล่าวพร้อมโน้มตัวลงโอบกอดจับซา

    -โฮ่งๆ (โชคดีมากนะแกรอดจากพาข้าได้)

    จับวารู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงเจ้าขาวเห่าพร้อมทั้งยังสามารถเข้าใจสิ่งที่มันพูดได้

    -โฮ่งๆๆ (คนดีฟ้าคุ้มครองโว้ย) จับซาเห่าตอบ

    -โฮ่ง(เออ)

    -ท่านพี่ทำอะไน // จังกรึม ถาม

    -พี่กำลังคุยกับเจ้าขาวอยู่

    -หาท่านพี่เข้าใจ และพูดกับเจ้าขาวได้

    -ใช่แล้วน้องหญิง พี่เองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

    -อาจจะเป็นเพราะท่านพี่ได้รับและรอดจากพาของเจ้าขาว

    -อาจเป็นเช่นนั้น

    จับซาใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำกับ จังกรึมต่ออีกสองวัน เมื่อเริ่มรู้สึกปกติแล้ว ก้ได้เก็บโสมหิมะพร้อมทั้ง พานางกลับมายังโรงเตี๊ยม จับวาชวนเจ้าขาวมาด้วยแต่มันบอกว่ามันมาไม่ได้ มันมีหน้าที่ที่ต้องเฝ้าโสมหิมะไม่ให้ผู้ที่ไร้วาสนาได้ไปครอบครอง มันยังกล่าวเตือนจับซาอีกว่า พลังที่ยิ่งใหญ่ ย่อมมากลับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่

    เมื่อจับซามาถึงโรงเตี๊ยมก้แนะนำ จังกรึมให้สาวๆทั้งสองรู้จัก ทั้งหมดพักที่โรงเตี๊ยมต่ออีกสามวันก็พากันเดินทางต่อไปยังบ้านเกิดของ จังกรึม ซึ่งอยู่ที่กรุงเปียงยาง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×