ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปราบมาร

    ลำดับตอนที่ #6 : สำนักภูตดูดวิญญาณ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    บทที่ ๖ สำนักภูตดูดวิญญาณ

    ฮั่นคงจับซา เดินเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย ค่ำไหนนอนนั่น จนในที่สุดมาถึงเมืองชายแดนตะวันตกเมืองหนึ่ง เมืองดูสงบเงียบยิ่ง ไม่มีเสียงผู้คน จับซาค่อยๆเดินเข้าไปในเมืองเพื่อหาโรงเตี้ยมที่พัก แต่เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเข้าไปก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าตกตะลึง มองไปทุกทิศทางภายในเมืองพบแต่สภาพศพมนุษยืแห้งกัง หนังติดกระดูก ไม่มีวีแววของผู้คนอาศัยอยู่เลย จากการตรวจวิเคราะห์สภาพศพอย่างละเอียด ประมาณการได้ว่า ทั้งหมดเสียชีวิตพร้อมกัน ในระยะเวลา ไม่นานน่าจะเพียงเดือนเศาเท่านั้น จากรูปการเหมือนดังคนทั้งเมืองโดยแพร่พิษแล้วถูกสูบเอาพลังชีวิตไปจนหมดสิ้น เพราะภายในตัวเมือง สิ่งมีวิต สัตว์แมลงต่างๆก็หามีไม่ นี่จึงเหตุการฆ่ากรรมที่น่าสยองขวัญสั่นสะเทือนบู๊ลิ้มคดีหนึ่ง หลังจากสำรวจทั่วแล้ว จับซาก็ได้พบแผนที่ฉบับหนึ่งซึ่งเป็นแผนที่ของเมืองต่างๆ ฝั่งชายแดนตะวันตก จึงได้จำแนกทิศทางแล้วใช้วิชาตัวเบา เต่าไต่เมฆา  มุ่งไปทันใด

    ในไม่ช้า จับ ซาก็มาถึงตัวเมือง เดินเข้าประตูเมืองก็เห็นผู้คนใช้ชีวิตปกติ ดูเหมือนว่าหาทราบเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเมืองก่อนหน้านั้นไม่ จับซาจึงเลือกหาโรงเตี้ยมที่พัก แต่ดูเหมือนโชคไม่ดีที่โรงเตี๊ยมได้ถูกจับจองหมดแล้ว เหลือแต่โรงเตี๊ยมมังกรทองซึ่งเป็นโรงเตี๊ยมที่ราคาแพงสุดในเมือง ซึ่งแน่นอนว่าจับซาไม่ยอมใช้จ่ายเงินทองฟุ่มเฟือยเพื่อการรี้ จึงตัดสินใจจะไปหาวัดล้างเพื่อพักผ่อน แต่ระหว่างทางออกจากเมือง จับซาก็ต้องตกตะลึงหยุดอยู่กับที่เมื่องมองเห็นสาวงามนางนึงที่กำลังเดินเข้าเมืองมากับขบวนสาวงามนางรำขบวนใหญ่ ด้วยการอาจพึงตาต้องใจจน  ทำให้จับซาจับจ้องมองนางจนตาไม่กระพริบ ทำให้แม่นางคนนั้นรู้สึกตัว จนหันมามองและถลึงตาใส่ด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่จับซาหาสนใจไม่มันกับเดินตรงเข้าไปขวางทางขบวนนางรำกลุ่มนั้น พร้อมกับกล่าวทักทาย

    - หยุดก่อนแม่นางทั้งหลาย ข้าพเจ้า มีนามว่า ฮั่นคงจับซา ไม่ทราบว่า ข้าขอสอบถามนามแม่นางผู้นั้นได้หรือไม่

    -บังอาจ เจ้าเป็นใครกล้ามาขัดขวางขบวน และยังมีหน้ามากล่าวเกี้ยวพาราสีกับพี่ใหญ่เราอีก หากยังรักชีวิตจงใสหัวออกไปซะ

    แต่จับซาหาได้เคลื่อนไหวไปไหนไม่ มันกับยิ่งจ้องนางงามไม่ละสายตาพร้อมทั้งพยายายามส่งยิ้มให้ ขวับ ขวับ เสียงเหล่าอาวุธลับระดมพุ่งใส่ร่างจับซาอย่างเร่งร้อน แต่ในพริบตาร่างของจับซาก็หายไปจากที่ยืนเดิมก่อนอาวุธลับเหล่านั้นไปถึงซะแล้ว จับซาหายไปไหน แม่นางที่เป็นพี่ใหญ่ของขบวนสะดุ้งตัวเล็กน้อยพร้อมทั้งยกมือขึ้นมารูปข้างแก้ม นางก็ตกใจกับเหตุการที่เพิ่งได้พบเพราะไม่เห็นว่า ซับซาใช้ท่วงท่าอะไรกับเคลื่อนตัวมาหอมแก้มนางก่อนจะสูบหายไปอย่างไร้ร่องรอย

    โรงเตี้ยมมังกรทอง ขบวนสาวงามนางรำ มีหมดทั้งสินสิบสองนาง ต่างล้วนเดินทางมายังโรงเตี๊ยมมังกรทองเพื่อพักค้างแรม หลังจากที่ทุกนางได้จับจองห้องพักและแยกย้ายกันเข้าพักแล้ว จับซาก็ค่อยๆเดินออกมาจากที่ซ่อนเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อจับจองห้องพัก

    เมื่อยามค่ำคืนมาบรรจบในเมืองก็ถูกประดับประดาด้วยโคมไฟ หลากสีสรร ผู้คนพากันเดินเที่ยวงานประจำเมือง กลุ่มสาวงามนางรำต้องประดับตกแต่งร่างกายก่อนทะยอยออกมารวมกันเพื่อพากันไปร่ายรำที่เวทีกลางเมือง จับซาหลังจากสั่งอาหารมากินจนอิ่มแล้วก็ค่อยออกสะกดรอยตามพวกนางไป

    เมื่อถึงเวลาเวลาท่านเจ้าเมืองก็ขึ้นเวลากล่าวปราศัย พร้อมเปิดโชว์การระบำรำฟ้อน เมื่อสาวงามทั้งสิบสองทยอยขึ้นเวทียืนประจำตำแหน่งของแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว เครื่องดนตรีก็ทำการบรรเลง จากนั้นสาวงามทั้งสิบสองก็ทำการร่ายรำอย่างวิจิตรการตา เมื่อการร่ายรำจบสิ้น ก็มีการจุดพลุไฟสวยงามทั่วทั้งเมือง และในไม่ช้า จับซาก็เริ่มเห็นชาวเมืองล้มตัวลงสลบสไหลที่ละคนสองคน จนในไม่ช้าก้หมดสิ้นทำให้เขาต้องแกล้งสลบสไหลคล้อยตามไป

    นางงามทั้งสิบสองบนเวทีเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นต่างก้ยิ้มแย้ม กระจายแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆของเมืองเพื่อลงมือดูดพลังชีวิตชาวเมืองที่สลบไสล

    เป็นเวลาชั่วครู่ นางามทั้งหลายก็กลับมารวมตัวกันที่เดิม

    -เอะ พี่ใหญ่ทำไมท่านยังไม่สูบพลังชีวิตเจ้าหนุ่มผู้นี้อีก

    -น้องเล็ก เจ้าหนุ่มนี่มีพลังฝีมือสูงเยี่ยมยิ่ง ข้าอยากจะคุมขังมันไว้ก่อนเพื่อจะได้รีดเค้นสุดยอดวิชาจากมัน พวกเจ้ากลับมากันครับแล้วใช่หรือไม่

    -ค่ะ // ทุกคนตอบ

    -ดีงั้นเรากลับสำนัก ไปหลอมรวมลมปราณกัน

    ว่าแล้วนางงามทั้งสิบสองก็ทะยอยใช้วิชาตัวเบาอันยอดเยี่ยมหายวับไปจากเวทีกลางเมือง โดยนางงามผู้เป็นพี่ใหม่ไม่ลืมที่จะคว้าคอเสื้อ ซับซาติดมือไปด้วย

    ตุบ ร่างซับซาถูกเหวี่ยงลงไปในคุกใต้ดิน

    -คารวะท่านเจ้าสำนัก

    -ลุกขึ้น พวกเจ้าปฏิบัติงานได้สำเร็จลุล่วงหรือไม่

    -เรียนเจ้าสำนักทุกอย่างสำเร็จลุล่วงดีเจ้าค่ะ

    - ดีงั้นไปทำพิธีหลอมรวมลมปราณกัน

    ว่าแล้วเจ้าสำหนักภูตดูดวิญญาณก็นำพาศิษย์ทั้งสิบสองนางไปยังห้องฝึกวิชา ทั้งสิบสองนางก็ต่างนั่งแยกย้ายล้อมวงเจ้าสำนักไว้ แล้วเดินลมปราณปลดปล่อยพลังชีวิตที่ดูดซับมาให้เจ้าสำนักนำไปหลอมรวมกับพลังลมปราณของตนเอง

    สำนักภูตดูดวิญญาปัจจุบันมีเจ้าสำนักหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายเจ้าสำนักรุ่นก่อน มีภรรยา ชื่อเม่ยเม่ย วึ่งเป็นพี่ใหญ่สุดของสาวงามทั้สิบสองคน ด้วยเจ้าสำนักยังหนุ่มจึงยังมีปราณไม่พอฝึกวิชาขั้นสูงสุดยังได้ให้เหล่าศิษย์พรรคที่เป็นสาวงามฝึกวิชาดูดพลังชีวิตไปรวบรวมพลังปราณจากผู้คนเพื่อมาหลอมรวมกับของตน วึ่งในครั้งนี้มันก้ได้รับพลังมากเพียงพอต่อการฝึกยอดวิชาขั้นสูงสุดแล้ว

    -เอาหละ ขอบใจพวกเจ้ามาก จากนี้ข้าจะเก็บตัวฝึกวิชาขั้นสูง หนึ่งอาทิตย์ ห้ามมีผู้ใดมารบกวน

    -ระบทราบค่ะเจ้าสำหรับ // ทั้งหมดกล่าวพร้อมเพียงกัน

    จับซารู้สึกตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นแสงตะเกียงพุ่งตรงมายังที่ห้องขัง ประตูห้องขังถูกเปิดออก ผู้ที่เข้ามาคือนางงามของเขานั่นเอง

    -เจ้าเป็นศิษย์สำนักไหน

    -ข้าไม่บอก จนกว่าแม่นางจะบอกชื่อให้ข้าทราบ

    เพี๊ยะ เพี้ยะ เสียงฝ่ามือตบเข้าแก้มซ้ายขงาของจับซา

    -ยังไงข้าก็ไม่บอก

    เพี๊ยะ เพี้ยะ เพี๊ยะ เพี้ยะ เพี๊ยะ เพี้ยะ  จับซาถูกตบจนแก้มแดงเป็นรอยฝ่ามือ

    -เฮ้อ ดื้อด้านจริงๆ ข้าชื่อ เม่ยเม่ย ทีนี้บอกได้ยังว่าเจ้าเป็นศิษย์สำนักไหน

    -ข้าเป็นศิษย์ของตำหนักหงส์

    -อ้อ ไม่น่าเชือว่าศิษยืของตำหนักหงส์ที่แสนจะลึกลับกับมีฝีมืออยู่ท่าสองท่า เจ้าสามารถถ่ายทอดวิชาตัวเบา ที่เจ้าใช้ที่ในเมืองให้ข้าได้หรือไม่

    -ได้แต่มีข้อแลกเปลี่ยน

    -เจ้าต้องการอะไร

    -ข้าขอนอนกับท่านหนึ่งคืน

    -เจ้าคนต่ำช้า

    เพี๊ยะ เพี้ยะ เพี๊ยะ เพี้ยะ และแล้วซับซาก็ถูกตบอีกสี่ครั้งก่อนที่ แม่นางเม่ยเม่ย จะเดินจากไปอย่างอารมณ์เสีย

    ราตรีที่เงียบสงบ มีบุคคลลึกลับผู้หนึ่งกำลังเคลื่อนไหวสำรวจตึกต่างๆของสำนักภูตดูดวิญญาณ คนผู้นั้นเข้าห้องนั้นออกห้องนี้กระโดจากตึกหลังนั้นไปหลังนี้ จนไปหยุดอยู่ที่ตึกปรุงยา ร ห้องปรุงยาของสำนักภูตดูดวิญญาณ ได้เก้บรวมรวมตัวยาหายากไว้มากมายยิ่ง แต่สายตาบุคคลลึกลับกับจ้องมองไปยังขวดเคลือบใบหนึ่งซึ่งมีป้ายกำกับไว้ว่า ผงราคะ บุคคลดังกล่าวได้หยิบขวดยาดังกล่าวใส่อกเสื้อพร้อมยิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนจะทยานร่างด้วยวิชาตัวเบาสั้นสูงหายลับไป

    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เม่ยเม่ยที่เข้านอนแล้วจึงต้องตื่นมาจุดตะเกียงแล้วถามว่า

    -ผู้ใด

    เงียบ ไม่มีคำตอบ แต่ก็ยังมีเสียงเคาะดังมา ก๊อกๆ

    -บัดซบ // เม่ยๆพูดพลางทะยานร่างไปเปิดประตู

    ฟู่ๆๆๆ เมื่อประตูเปิดออก เม่ยๆก็พบว่าผิดท่า เพราะ ผู้ที่เคาะประตูได้พ่นผงยาบางอย่างใส่นาง นางก็ไหวตัวถอยหลังไปที่เตียงทันใด แต่ผู้นั้นก้ได้ทะยานร่างตามติดมาพร้อมกับปิดประตูเป็นที่เรียบร้อย

    -เป็นเจ้า

    -ใช่ข้าเอง

    -เจ้าไม่ได้สุญเสียพลังและโดนจี้จุด

    -ย่อมไม่

    -เจ้าต้องการอะไร แล้วเจ้าเป่าผงอะไรใส่ข้า ใช้ยาพิษหรือไม่

    -ข้าย่อมต้องการท่านและผงที่ข้าเป่าใส่ท่านข้าก็โดนด้วยนั้น ไม่ใช่ยาพิษแต่มันคือ ผงราคะ ที่ข้าค้นได้จากหอปรุงยาของสำนักท่าน

    -เจ้า .....

    รุ่งเช้า อากาศสดใสเสียงกรุณาร่ำร้อง ร่างเปลือยเปล่าของเม่ยเม่ยก็นอนหลับอย่างสุขสบายใจในอ้อมกอดของ จับซา

    ครบเจ็ดวัน เจ้าสำนักภูตตดูดวิญญาณ ก้ได้ออกจากห้องฝึกวิชา บัดนี้มำสำเร็จวิชาสูงสุดของสำนักแล้ว มันจึงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ต่อไปนี้ ยุทธภพจะอยู่ย่างไม่สงบสุขแล้ว

     

    แอ๊ดเสียงผลักประตูห้องนอนของเจ้าสำนัก แต่ภาพที่มันเห็นบนเตียงทำให้มันต้องตกตะลึง และรู้สึกโกรธอย่างมาก

    -นางแพศยา อย่าอยู่เลย

    เจ้าสำหนักพุ่งพลังฝ่าสือขั้นสุดยอดนามฝ่ามือสลายวิญญาณสู่เม่ยเม่ยเมียรัก ตูม เสียงระเบิดดังกึกก้อง เจ้าสำนักถุกรงปราณผลักดันให้ลอยไปชนกับประตูห้องตนหลุดกระจาย

    เม่ยเม่ย กับ จับซาก้ลุกขึ้นจากเตียงสวมใส่เสื้อผ้าอย่างรีบร้อน

    -เจ้าเป็นใคร

    -ข้า ฮั่นคงจับซา ขออภัยที่ล่วงเกินท่าน

    -เจ้าเป็ชู้กับเมียข้า อย่าอยู่เลย // เจ้าสำนักพูดพร้อมเก็งพลังร้อยส่วนคิดฟาดฟัน จับซาให้แหลกเหลวตกตายในฝ่ามือเดียว

    ตูม ร่างเจ้าสำนักกระเด็นกลับมาอีกครั้ง และได้รับการประครองจาก สาวงามทั้ง ๑๑ ที่ได้ยินเสียงระเบิดและพากันมาดู

    -เจ้าสำนักมีเรื่องอะไร

    -พวกเจ้ามาได้เวลาพอดี

    พูดจบเจ้าสำนักก็ใช้วิชา ดูพลังขั้นสุดยอด ดูดเอาพลังชีวิตของสาวงามทั้ง ๑๑ คนไปหมดสิ้น

    -ไม่ๆๆๆๆๆ ท่านพี่ ท่านโหดร้ายเกินไปแล้ว

    -นังแพศยา เจ้าไม่มีสิทธิมากล่าวตำหนิข้า เจ้าเตรียมตัวตายไปกับชายชูของเจ้าเถอะ

    พลังฝ่ามือสลายวิญญาขั้นสุดยอดของสุดยอด เจ้าสำนักรีดเร้นพลังปราณทั้งหมดที่เพิ่งดูซับมาและที่มีอยู่ มั่นใจว่าซัดทำลายร่างของทั้งคู่ได้แหลกรานแน่นอน

    ตูมๆๆๆๆๆ ชิ้นส่วนเตียงปลิวกระเด็นกระจายแล้วค่อยแหลกเป็นผุยผง แต่ จับซาและ เม่ยเม่ย หาได้อยู่ที่นั้นไม่ จับซาเคลื่อนย้ายเม่ยเม่ยออกมาด้วยวิชา ผ่านมิติ มายืนอยู่ที่กลางสวนด้านนอกตึกแล้ว เมื่อเจ้าสำนักรับรู้จึงพุ่งทะยานร่างรวบรวมพลังฟาดฝ่ามือใส่ทั้งคู่อีกครา

    พลัก ตูมมมม ร่างเจ้าสำหนักถูกเท้าของจับซาเตะกระเด็นไปชนกับเก๋งกลางสวนพลังทลาย และเจ้าสำนักก็ได้ขาดใจตายในบัดดลโดยไม่สามารถทำอะไรจับซาได้แต่แต่ปลายขุมขน

    -ท่านพี่

    จับซาโอบกอดเม่ยเม่ยไว้พร้อมปลอบใจ

    -          อย่าไปเสียใจให้คนโหดร้ายเช่นนั้นเลยน้องหญิง

    -          แต่ ถ้าไม่มีท่านพี่ ข้าต้องใช้วิชาดูดพลังทุกเดือน ก็จะไม่มีใครช่วยสลายพลังให้ในทีสุดก็ต้องระเบิดตายเช่นกัน

    -          หาเป็นเช่นนั้นไม่น้องหญิง พี่ฝึกลมปราณหงส์ฟ้ามาจนถึงขั้นรวมลมปราณได้ปราณบริสุทธ์ข้าจะสามารถหลับนอนกับท่านเมื่อท่านมีอาการช่วงที่ต้องดูดซับพลัง และข้าจะค่อยๆหลอมรวมย่อยสลายวิชานอกรีตนี้ให้หมดไปจากตัวท่านเอง

    -          ขอบคุณท่านพี่

    เม่ยเม่ยโอบกอด จับซาด้วยความรัก

     

    -แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี // เม่ยเม่ย ถาม

    -เราเดินทางไปท่องยุทธภพเพื่อปราบมารร้ายกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×