คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ใจนารี
ตำหนักภูษาสวรรค์ อยู่ทางตอนใต้ของตงง้วน(จงหยวน) ที่แคว้นหูหนาน เมืองฉางชา มีชื่อเสียงด้านการผลิตไหมฟ้า ซึ่งนำมาถักทอเป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบา เหนียวนุ่ม มันวาว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ต้องการของเหล่าบรรดาเศรษฐี ขุนนางอำมาตย์และราชวงชั้นสูง เจ้าตำหนักมีนามว่า ไป๋หลิน เป็นสตรีวัยกลางคนที่งดงาม และมีวรยุทธที่สูงส่งยิ่ง
หยวนจง หมิงเอ๋อ และ เอี้ยนเอ๋อ อาศัยอยู่ฉางชา ได้ สองสามวันแล้ว หมิงเอ๋อ และเอี้ยนเอ๋อ ปลอมแปลงรูปโฉมอยู่ในคราบชายหนุ่ม ทั้งหมดจึงได้เช่าโรงเตี๊ยมนอนห้องเดียวกัน เหตที่หยวนจง ต้องเดินทางมาฉางชาเพราะว่า สองสาวพูดคุยเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์กันแล้วเกิดอยากได้ ผ้าจากไหมฟ้า ของตำหนักภูษาสวรรค์ จึงได้ชักชวนโน้มน้าว หยวนจงให้เดินทางมา ฉางชา หลังจากได้เดินเที่ยวทั่วเมืองสองสามวันจนเป็นที่พอใจแล้ว สองสาวก็ได้ชวนหยวนจง ไปยังตำหนัก ภูษาสวรรค์ เพื่อขอซื้อ ผ้าจากไหมฟ้า
ก๊อกๆ // หมิงเอ๋อ เคาะประตูของตำหนักภูษาสวรรค์
อู๊ดดดดดด // เสียงเปิดประตู
-ท่านเป็นใคร มาเคาะประตู ด้วย มีธุรอะไรมิทราบคะ // สาวใช้กล่าวถาม
-พวกข้าต้องการมาซื้อ ผ้าจากไหมฟ้า ครับ // เสี่ยวหมิงกล่าว
หลังจาก ที่สาวใช้ มองสำรวจทั้งสามแล้ว เห็นว่า หยวนจงเป็นหนุ่มรูปงามหน้าตาดี จึงกล่าว
-รบกวนรอสักครู่ ค่ะ ข้าน้อยจะไปเรียน ผู้จัดการตำหนักให้ทราบ
สักครู่ ก็ปรากฏผู้จัดการ สาวสวยรูปงามเดินออกมาพบ
-ทราบว่าท่านทั้งสามจะมาขอซื้อผ้าจากไหมฟ้า ใช่ไหมคะ
-ครับ // เสี่ยวหมิงตอบ
-มิทราบว่าผู้ใด แนะนนำท่านมา
-เจ้าตำหนักจันทรา ครับ // เสี่ยวหมิงตอบ
-อ้อ ถ้างั้นก้เชิญที่เรือนรับรอง ก่อนค่ะ
ว่าแล้วนางก็เดินนำ ทั้งหมดไปยังเรือน รับรอง ณ เรือนรับรอง มีการจัดแสดง ผ้าที่ทำจากไหมฟ้า ลวดลายสีสรรต่างๆ งดงามยิ่ง ทั้งที่ตัดเย็บเป็นชุดแล้วและที่เป็นผืนผ้า เสี่ยวหมิง เสี่ยวเอี้ยน เห็นแล้ว ตาลุกวาว ชักชวนกันเดินชมดู หยิบจับขึ้นมา ทาบตัวกันอย่างมีความสุข สอบถามผู้จัดการตำหนักถึงสิ่งต่างๆมากมาย
ส่วนหยวนจง รู้สึกเบื่อหน่ายยิ่ง หลายครั้งที่มันเดินชมตลาด กับพวกนางก็ต้องเสียเวลา รอพวกนาง เลือกชมข้าวของ เป็นเวลานาน มันจึงคิดปลีกตัวออกจากห้องรับรองไปเงียบ เพื่อไปหาที่ สงบๆ พักผ่อน
ใกล้ๆกับ เรือนรับรอง ในตำหนักภูษาสวรรค์ มีสวนหย่อมเล็กเล็ก ปลูกพืชพันธ์ไม้ใบไม้ดอก ไว้หนาแน่น มีเก๋ง ให้นักพักผ่อนชมฝูงปลาคลาฟหลากสีในสระ ที่เวียนว่ายหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน หยวนจงจึงได้เดินมา นั่งพัก ในเก๋ง และ ล้วงขลุ่ยออกมาบรรเลง เพลงการเคลื่อไหวของฝูงปลา เกิดเสียงดนตรีที่ไพเราะเพราะพริ้งดังก้องกังวานไปทั่วตำหนัก ผู้คนที่ได้ยินก้ต่างรับฟังและทำงานไปอย่างมีความสุข
แปะๆๆๆ เสียงปรบมือดังเมื่อ หยวนจงบรรเลงเพลงขุ่ยจบลง
-ไพเราะ ยิ่ง มิทราบว่าคุณชายมีนามว่ากระไร // สาวสวยวัยกลางคนกว่าถาม
หยวนจงลุกขึ้นกล่าว
-ข้าน้อยนาม หยวนจง ไม่ทราบว่าแม่นาง มีนามว่ากระไร
-ข้า ไป๋หลิน เป็น เจ้าตำหนัก ภูษาสวรรค์แห่งนี้
-โอ้ว หยวนจง ขอ คารวะเจ้าตำหนัก
-มิทราบว่า คุณชาย ทำไมถึงได้มานั้งเป่าขลุ่ย อยู่ที่นี่ได้ คะ
-ขอ อภัยแม่นางหากเป็นการล่วงเกิน ข้า มากับสหายซึ่งตอนนี้กำลังเลือกซื้อผ้าจากไหมฟ้าอยู่ที่เรือนรับรอง ขอรับ
-อ้อ เป็นเช่นนั้น
ไปหลินเดินเข้ามาหาหยวนจง ใช้มือจัดเสื้อผ้าให้หยวนจงพร้อมกล่าว
- เพลงขลุ่ยท่านช่างไพเราะซาบซึ้งกินใจยิ่งนัก มิทราบว่าเพลงเมื่อกี้เรียกว่ากระไร
-ขอบคุณแม่นางที่ชอบ เพลงเมื่อกี้ยังไม่มีชื่อ ข้าเพียงแค่เล่นไปตามการแหวกว่ายของฝูงปลา
-อ้อเป็นเช่นนั้น คุณชายนั่งลง เป่าขลุ่ยให้ข้าฟังได้อีกหรือไม่
-ย่อมได้
หยวนจง ก็นั่งลง แล้วเริ่มเปล่าขลุ่ย ตามท่วงทำนองการโบยบินของผีเสื้อ ที่บินหยอกล้อและหาน้ำหวานจากดอกไม้หลาสีสรรอยู่
-โอ้ ช่างไพเราะ ยิ่ง
ไป๋หลินกล่าวพร้อมทั้งเอนตัวแนบพิงด้านข้างของ หยวนจง
-อื้อ นี่ไม่ทราบว่าเป็นกลิ่มหอม ของดอกอะไรครับ ช่างหอมยิ่งหนัก
หยวนจง กล่าวเมื่อเป่าเพลงขลุ่ยจบลง แต่ทว่า หลังจาก กล่าวได้ไม่นานก้รู้สึก ง่วงนอนเป็นอย่างยิ่ง และ ค่อยๆหมดสติสลบสไสลไปในที่สุด
-คุณชายคะ สหายท่านอีกคน ที่มา ด้วย ให้ ข้ามาแจ้งท่านว่า เบื่อที่จะอยู่รอ ขอไปรอท่านทั้งสองที่ โรงเตี๊ยมในเมือง เจ้าค่ะ
สาวใช้เดินเข้ามารายงาน เสี่ยวหมิง เสี่ยวเอี้ยน ให้ทราบ
-อ้อ ขอบคุณค่ะ // เสี่ยวหมิงกล่าว รับ ทราบ ก่อนที่จะหันหน้าไปเลือกซื้อผ้าที่ทำจากไหมฟ้าต่อไป
หยวนจง ลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนร่างกายเปลือยเปล่า บนเตียงนอนสีขาวหนานุ่มใหญ่โตมีเสาสี่มุมและมีผ้าไหมสีขาวนวลบางๆประดับเป็นหลังคาและม่านโดยรอบ
-ท่านรู้สึกตัวแล้ว
ไป๋หลินกล่าวทัก เมื่อเห็น หยวนจงลืมตาขึ้นมา หยวนจง จึง หยันไปมอง เห็น ไป๋หลินสวมชุดแพรสีขาวนวลบางราวปีกจั๊กจั่น เดินช้าๆตรงมายังเตียงที่มันนอน อยู่
-แม่นางไป๋หลิน มิทราบว่าข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
หยวนจงถาม
-ข้าเห็นท่านเป็นลมหมดสติไปจึงได้นำท่านมาพักผ่อนยังที่นี่
-อ้อเป็นเช่นนั้น แล้ว สหายของข้าที่มาด้วยมิทราบว่าอยู่ที่ใด
-พวกนาง ล้วนกลับไปที่โรงเตี๊ยมแล้ว
-เอ๊ะท่านทราบ ว่า สหายข้าเป็น สตรี
-ย่อมทราบ เพราะมิมีชายใดสนใจผ้าที่ทำจากไหมฟ้า ไปกว่าสตรี คุณชายหิวหรือไม่
นางกล่าว พร้อมทั้ง นั่งลงบนเตียง โน้มตัวลงมาใกล้ชิดใบหน้าของ หยวนจง พร้อม เอามือลูบแผงหน้าอกของมัน
หยวนจงค่อยๆยกมือข้างซ้ายลูบที่หัวไหล่ของนางแล้วดึงตัวนางเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อน
หนึ่งสัปดาหืแล้ว ที่ หมิงเอ๋อ เอี้ยนเอ๋อ ออกตามหา หยวนจง แต่ หาได้เบาะแสหรือเงือ่นงำอันใดไม่ หลังจากที่ได้รับทราบว่า หยวนจงกลับมารอ นางทั้งสองที่โรงเตี๊ยม เมื่อนางกลับมาถึงก้ไม่พบ นอนรอ นั่งรออยู่นานสองนานก็ยังไม่เจอ เดินสอบถามชาวเมืองก็ไม่มีใครเห็น จึงยังคิดไม่ตกว่า หยวนจงหายไปที่ใด
-เอี้ยนเอ๋อ เอายังไงดี
-ข้าก็ไม่รู้เหมือน กัน แปลกมาก ไม่สามารถพบร่องรอยอะไรเลย
-งั้นข้าว่าเรากับไปปรึกษา พ่อแม่ข้า ที่ตำหนัก จันทราก่อนดีหรือไม่
-ก็ดี
และแล้วสองสาวก็เก็บข้าวของ คืนห้องพักและเดินทางกลับไปยัง ตำหนักจันทรา
หยวนจงอาศัยอยู่ในตำหนักภูษาฟ้าสามเดือนกว่าแล้ว ก้เริ่มเบื่อหน่าย จึง ขออำลา ไป๋หลิน เพื่อออกไปท่องเที่ยวยังเมืองหลวง ไป่หลินก็มิได้ขัดข้องอัดใด ก่อนออกเดินทาง ไปเมืองหลวงหยวนจงก็ได้แวะมายังโรงเตี๊ยมเพื่อถามหาเบาะแส ของสองสาว จึงได้ทราบว่า นางทั้งสองได้คืนห้องและเดินทางจากไปตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว โดยฝากบอกว่าถ้า มีคนมาถามให้บอกว่าทั้งสองกลับไปยังตำหนักจันทรา
ความคิดเห็น