ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขุนช้าง ขุนแผน

    ลำดับตอนที่ #9 : ขุนช้างขอนางพิม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.23K
      10
      8 ต.ค. 50

    ขุนช้างขอนางพิม

     

    ขุนช้างมีความรัญจวนใจถึงนางพิมมาก จนนั่งนอนไม่เป็นสุข ไม่ยอมกินข้าวกินปลา จนนางเทพทองสงสัย ขุนช้างบอกว่า ตั้งแต่เมียตายไป ก็ให้เป็นทุกข์ตลอดมา ซ้ำเงินทองที่มีอยู่มากมายก็ไม่มีใครจะช่วยดูแล เห็นอยู่แต่นางพิมพิลาไลย ขอให้นางเทพทองไปสู่ขอมาให้ นางเทพทองจึงว่า นางพิมนั้นเป็นหญิงรูปงามเกินกว่าใครในสุพรรณบุรี คงจะไม่มารักขุนช้างที่รูปชั่ว แล้วให้ขุนช้างไปหาเมียที่กรุงศรีอยุธยาแทน ขุนช้างเห็นว่าแม่ไม่ยอมไปขอให้ จึงแต่งตัวไปหานางพิมที่บ้าน พบนางพิมอาบน้ำอยู่ที่ท่าน้ำ ก็อ่านเพลงยาวลวนลามนางพิม แล้วก็ขึ้นมาหานางศรีประจันบนบ้าน เล่าเรื่องที่เมียตาย แล้วทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมายก็ไม่มีคนดูแล อยากจะให้นางพิมไปช่วยดูแลให้ เมื่อฟังถึงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง นางศรีประจันเกิดความโลภขึ้นมา อยากจะยกนางพิมให้ ขุนช้างได้ฟังก็ดีใจแล้วบอกว่า นางพิมนั้นไม่ใช่คนอื่นไกล เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมา รักกันเหมือนพี่น้อง หลังปลงศพบิดาก็จะให้แม่มาขอ แต่กลัวนางศรีประจันจะโกรธ แต่เมื่อนางศรีประจันตกลงก็จะให้ผู้ใหญ่ พร้อมทั้งวัว ควาย ไร่ นา มาสู่ขอ

    ฝ่ายนางพิมรู้ว่าขุนช้างมาขอตนกับนางศรีประจัน และนางศรีประจันก็มีท่าทีจะยกให้ เพราะเห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองของขุนช้าง ก็กลุ้มใจมาก ทั้งเณรแก้วก็หายหน้าไปหลายวัน จึงปรึกษากับนางสายทอง นางสายทองรับปากว่าจะช่วย

    รุ่งเช้านางสายทองก็แกล้งไปบอกนางศรีประจันว่า เมื่อคืนนางพิมฝันว่าไฟไหม้ ไม่รู้ว่าดีร้ายอย่างไร จึงจะไปถามท่านสมภารวัดป่าเลไลย

    นางศรีประจันก็ให้นางสายทองไปถามสมภารดู นางสายทองก็จัดอาหารคาวหวานไปถวายพระที่วัด ระหว่างฉันอาหาร นางสายทองก็แอบไปหา เณรแก้วในห้องแล้วบอกว่า นางพิมคิดถึงมาก แล้วเมื่อวานขุนช้างไปทำหยาบช้ากับนางพิมที่ท่าน้ำ และได้ไปสู่ขอนางพิมอีกด้วย เณรแก้วบอกว่าตนก็คิดถึงนางพิมอยู่ทุกวัน แต่ติดขัดอยู่ที่จะต้องร่ำเรียนวิชากับท่านสมภารตั้งแต่เช้าจนดึกดื่น ขอให้นางสายทองไปช่วยปลอบใจนางพิมให้ด้วย เมื่อตนว่างก็จะรีบไปหา แล้วเณรแก้วก็เป่าคาถามหาละลวยไปที่นางสายทอง และเสกหมากให้กินอีกด้วย เมื่อนางสายทองกินหมากเสกแล้ว ก็ให้รัญจวนใจมาก เณรแก้วเห็นดังนั้นก็เข้าเล้าโลม ขณะนั้นมีเถรรูปหนึ่งเดินผ่านห้องเณรแก้ว ได้ยินเสียงผู้หญิง เมื่อเห็นผู้หญิงอยู่ในห้องเณรแก้ว ก็รีบไปบอกสมภาร สมภารโกรธมาก รีบมาที่ห้องเณรแก้ว แต่ไม่พบ เพราะทั้งเณรแก้วและนางสายทองหลบหนีไปเสียก่อน

    นางสายทองเมื่อหนีมาถึงบ้านแล้ว นางศรีประจันก็ถามว่าฝันของนางพิมนั้นดีร้ายประการใด นางสายทองบอกว่าเป็นฝันร้ายจะต้องระวังตัวไว้ภายในสามเวลา หากพ้นไปแล้วก็จะดี แล้วก็เข้าไปบอกนางพิมว่าไปพบกับเณรแก้วแล้ว เณรแก้วให้สัญญาว่า จะสึกมาหาโดยเร็ว

    ฝ่ายเณรแก้วนั้น เมื่อหนีสมภารไปก็คิดว่าตนอยู่ที่ วัดป่าเลไลยมานานก็ยังไม่เชี่ยวชาญในวิชาใดเลย แล้วนางทองประศรีเคยบอกว่าเพื่อนพ่อเป็น สมภารวัดแคที่สุพรรณบุรี ชื่อ คง มีวิชาดี จึงเดินทางไปหา เมื่อสมภารคงรู้ว่าเป็นลูกขุนไกร ก็รับไว้เป็นศิษย์ ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ หลายอย่าง

     

    สะกดทัพจับพลทั้งปลุกผี                   ผูกพยนต์ฤทธีกำแหงหาญ

    ปัถมังกำบังตนทนทาน                                      สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ

    ทั้งพิชัยสงครามทั้งความรู้                                 อาจจะปราบศัตรูสู้ไม่ได้

    ฤกษ์ผานาทีทุกสิ่งไป                                          ทั้งเสกใบมะขามเป็นต่อแตน

    ชำนาญทั้งกลศึกลึกลับ                                       คุมพลแม่ทัพนับตั้งแสน

    สู้ศึกได้สิ้นทั้งดินแดน                                        มหาละลวยสุดแสนเสน่ห์ดี

    จังงังขลังคะนองล่องหน                                   ฤทธิรณแรงราวกับราชสีห์

    ถอนอาถรรพ์กันประกอบประกับมี                 เลี้ยงผีพรายกระซิบทุกสิ่งไป..."

     

    ฝ่ายขุนช้าง เมื่อกลับจากบ้านนางศรีประจันคราวก่อนก็ให้รัญจวนถึงแต่นางพิม จนทนอยู่ไม่ได้ ก็ได้มาหานางศรีประจันอีกครั้ง เพื่อขอนางพิมอีก นางศรีประจันก็เรียกนางพิมมาไหว้ขุนช้าง นางพิมก็ด่ากระทบขุนช้าง เมื่อขุนช้างกลับไปแล้ว นางศรีประจันก็ตีนางพิมด้วยความโกรธ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×