ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Casper B #ผีน้องแบค Chabaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #3 : ผีเด็ก ตอนที่2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 59


    2.


     

    “ผมเป็น……วิญญาณ”

     

    ปาร์คชานยอลยังคงทบทวนกับตัวเองอยู่ว่าระหว่างผีกับวิญญาณมีอะไรบ้างที่ต่างกัน แต่ทันทีที่เจ้าผีเด็กพูดจบก็เกิดเสียงฟ้าฝ่าดังสนั่น พร้อมกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำเทลงมาไม่ขาดสาย ขายาวออกวิ่งเร่งหาที่หลบฝนก่อนที่มันจะเปียกไปมากกว่านี้

    ประตูทางหนีไฟชั้นดาดฟ้าตึกถูกปิดลงกันสายฝนที่สาดเข้ามา ในบริเวณที่มืดและแคบชวนอึดอัด เสียงห่าฝนด้านนอกที่แว่วเข้ามาเพิ่มความวังเวงมากขึ้นไปอีก

    “คุณครับ!

    เสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับใบหน้าขาวลอยพุ่งเข้ามาหาตัวทำเอาชายหนุ่มผงะถอยร่นจนแผ่นหลังแนบชิดกำแพง

    “ตะ ต้องการอะไรอีก ออกไปให้พ้นๆจากฉันซักทีเถอะหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว”

    “อย่าทำท่าเหมือนกลัวผมขนาดนั้นสิ ผมไม่ใช่ผีสักหน่อย” แบคฮยอนยู่หน้าแล้วลอยมาใกล้ๆคนตัวสูงที่บัดนี้นั่งหน้าซีดเผือดท่าทางหวาดกลัวเสียเต็มประดา

    “มะ ไม่ใช่ผีแล้วเป็นตัวอะไร คนงั้นเหรอ คนทำธรรมดาที่ไหนเขาลอยไปลอยมาขาไม่แตะพื้นแบบนี้กันห้ะ?”

    “วิญญาณ บอกแล้วไงว่าผมเป็นวิญญาณ”

    “ผีกับวิญญาณนี่มันไม่ได้เหมือนกันเหรอวะ” ชายหนุ่มสบถกับตัวเองเบาๆ

    “ไม่!!! ไม่เหมือน เราไม่ใช่ผี ไม่ใช่!!!!! เราไม่ได้อยากตายเลยนะ!!!!!” เจ้าผีเด็กตวัดเสียงใส่ พอเสียงยิ่งดังใบหน้าก็ยิ่งบึ้งตาเล็กๆนั่นก็ถลึงเหลือกกว้างขึ้นช่างน่ากลัว

    “มีผีตัวไหนมันอยากตายบ้างวะ” ขายาวพูดไปพร้อมกับเดินหนีลงบันได แต่ผีเด็กไวกว่าลอยมาดักหน้าเอาไว้

    “คุณไง…..เมื่อกี๊คุณพยายามจะฆ่าตัวตาย”

    อึ่ก แทงใจดำ

    ร่างสูงหยุดชะงักได้แต่ทบทวนตัวเอง ว่าเขาได้ล้มเลิกความตั้งใจจะกระโดดตึกไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    “คนเราน่ะเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียวก็จริง แล้วผมก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงได้อยากทำอะไรโง่ๆแบบนั้น แต่ชีวิตมันมีค่ามากนะครับ การให้คุณค่ากับชีวิตตัวเองสำคัญที่สุดนะ ดูอย่างผมสิทั้งที่กำลังก้าวสู่ความสำเร็จแต่ไปไม่ถึง ไม่รู้คุณเคยเห็นข่าวบ้างไหม อีกไม่กี่วันความฝันผมกำลังจะเป็นจริงแล้วแท้ๆ แต่ว่า….” เจ้าวิญญาณก้มหน้าลงท่าทางเศร้าสร้อย

    อดีตโปรดิวเซอร์หนุ่มเพ่งมองร่างโปร่งแสงชัดๆ อ่าเขาคุ้นหน้าเด็กคนนี้จริงๆ

    ใช่แล้ว..ไม่กี่วันก่อนรูปเจ้าเด็กนี่กับเพื่อนอีกสี่ห้าคนติดหราไปทั่วทั้งเมืองทั้งบิลบอร์ดทั่งสื่อต่างๆประโคมข่าวกันเสียยกใหญ่ นี่มันวงใหม่ที่กำลังจะเดบิวต์นี่

    “นายคือ..

    “แบคฮยอนฮะ บยอนแบคฮยอนสมาชิกวงExodus ไม่สิ จริงๆต้องเรียกว่าอดีตสมาชิกต่างหากเกิดเรื่องนี้ขึ้นค่ายคงหาคนใหม่มาแทนผมแน่”

    “เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายถึง

    “เมื่อตอนบ่าย ผมออกจากหอกำลังจะไปซ้อมที่ตึก แต่ว่ารถบ้านั่นมาจากไหนไม่รู้ชนผมอัดกำแพงแล้วทุกอย่างก็มืดดำไปหมด รู้ตัวอีกทีตัวผมกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว” ถึงตอนนี้น้ำตาสีใสค่อยๆร่วงริน น่าสงสาร ผีเด็กนี่น่ะช่างน่าสงสารเสียจริงๆ

    “เอ่อ…..แล้วทำไมนายถึงมาหาฉัน” ทำไมไม่เป็นคนอื่น

    “ไม่รู้สิครับ ผมเห็นคุณกำลังจะกระโดดตึกแล้วอยู่ก็มีลมแรงๆดึงดูดผมไปที่ดาดฟ้า บางอย่างบอกกับผมว่าให้รั้งคุณไว้”

    ชานยอลยังไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกลึกๆบอกว่าเขาต้องช่วยเจ้าเด็กนี่แม้ยังมองไม่เห็นทางเลยว่าคนจนตรอกอย่างเขาสามารถช่วยเหลือวิญญาณที่น่าสงสารนี่ได้อย่างไร

    “เสียใจด้วยนะแบคฮยอน ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยนะแต่ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะช่วยนายยังไง เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะทำบุญไปให้นะ โอเคไหม?” เขาช่วยได้มากที่สุดแค่นี้

    “ไม่!!!! วิญญาณไม่ต้องการส่วนบุญ!

    เอาอีกแล้วเจ้าวิญญาณเกรี้ยวกราดเหลือกตามองอย่างน่ากลัวอีกแล้ว

     “ละ แล้วจะให้ฉันทำยังไง?”

    “ชีวิตของคุณผมขอได้ไหม ให้ชีวิตคุณกับผมนะครับ ผมจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ” ร่างกายโปร่งแสงอ้อนวอน

    “จะบ้าเหรอ ชีวิตคนทั้งคนนะเว้ยไม่ใช่ผักใช่ปลาในตลาดขอกันง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง”

    “แต่เมื่อกี๊คุณจะฆ่าตัวตาย ในเมื่ออยากตายก็เอาร่างกายของคุณมาให้ผมทีนี้คุณจะได้ตายสมใจ ส่วนผมก็ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป แฟร์ๆ” โอ้โหพูดง่ายจัง

    “แฟร์ที่หน้า ไม่อยากตายแล้วโว้ย ไม่เอา!!!” ปาร์คชานยอลตะโกนอัดหน้าร่างโปร่งแล้ววิ่งหนีไป

    “แต่คุณครับ! เดี๋ยวก่อนซี่ กลับมาก่อนนน” เจ้าผีเด็กก็ไม่ล้มเลิกลอยตามไปติดๆ

    “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ผีหลอกช่วยด้วยยยยยยยยยย”

    ผีตัวนี้น่ากลัวจริง

    #

                ที่ห้องเช่าเล็กๆในอพาร์ทเมนต์กลางเก่ากลางใหม่ย่านฮงแด ชายร่างสูงนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงขนาด3ฟุตครึ่งด้วยความหวาดกลัว ร่างกายร้อนผ่าวราวกับคนจับไข้

                เหลือเชื่อจริงๆเมื่อสักครู่เขาพูดคุยอยู่กับผี ไม่สิ เจ้านั่นเรียกตัวเองว่าวิญญาณ

    เป็นครั้งแรกตลอดชีวิต27ปีของปาร์คชานยอลที่เขาเชื่อในเรื่องลึกลับอย่างสนิทใจ ถึงแม้ว่าร่างกายที่พบเห็นนั้นมีส่วนคล้ายมนุษย์ธรรมดาไปเสียทุกอย่างแตกต่างจากเรื่องผีที่เคยวาดฝันไว้สมัยเด็กๆ แต่เมื่อยามโกรธเกรี้ยวตาเล็กๆถลึกกว้างขึ้นใบหน้าจิ้มลิ้มซีดเผือดลงน่าสยดสยอง ปาร์คชานยอลได้บอกคุณแล้วหรือยังว่าตอนที่มือเล็กปัดป่ายทะลุตัวเขานั้นเสียวสันหลังเพียงใด

                มือหนาเลิกชายผ้าห่มที่คลุมหัวขึ้นเล็กน้อยนัยน์ตาสีเข้มกวาดมองไปทั่วห้อง แสงอาทิตย์สีส้มเข้มลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นภายในห้องเกิดแสงและเงาสวยงามราวกับภาพวาด เวลา5โมงครึ่งหลังฝนตกใหม่ๆใครบางคนเคยบอกกับเขาว่าเป็นช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุดในรอบวัน ซึ่งปาร์คชานยอลคิดว่ามันก็โอ

                โอ…..กับผีน่ะสิ

    ผีตัวเป็นๆ นั่งเอียงคอมองตาแป๋วอยู่ปลายเตียง!!!

                แสงสีส้มลอดทะลุร่าง  ไม่มีแสงหรือเงาตกกระทบกายนั้นแม้แต่เฉดเดียว ให้ตายเถอะบยอน แบคฮยอนจะตามหลอกหลอนเขาไปถึงไหนกันนะ

     

                “ออกมาจากผ้าห่มซักทีเถอะครับ คุณอยู่ในนั้นมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วผมกลัวคุณจะหายใจไม่ออก”

                “ไม่!! ฉันไม่ออกถ้านายไม่เลิกรังควาญฉันซักที” ชานยอลตะเบ็งเสียแล้วมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง

                “โถ่..คุณครับบอกกี่ทีแล้วว่าผมมาดี”

                “ดีที่หน้าสิ!! นายจะเอาชีวิตฉันอ่ะ”

                “ก็ตอนแรกคุณอยากตายนี่นา ผมแค่เสนอทางเลือกให้เฉยๆเอง”

                “แต่ตอนนี้ไม่อยากแล้ว อยากได้ร่างกายก็ไปหาเอาที่อื่นเถอะ!!”ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงชอบพูดตะคอกนักนะไม่เจ็บคอบ้างหรือไง

                “ผมสื่อสารกับใครไม่ได้เลย……..นอกจากคุณ” เสียงใสค่อยๆแผ่วลงช้าๆด้วยความเศร้า จะว่าไปชานยอลก็สงสารเจ้าเด็กนี่อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเทียบกับความกลัวยังไงอย่างหลังก็มีแนวโน้มมากกว่าอยู่ดี

     

                ราวครึ่งนาทีที่ทั้งคู่ปล่อยให้ทุกอย่างเงียบอยู่อย่างนั้น เจ้าวิญญาณตัวซนก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสเช่นเดิม “นี่ เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ”

                “มีใครเขาอยากเป็นเพื่อนกับผีกันบ้างวะ” ชานยอลพึมพำ

                “เป็นเพื่อนกับวิญญาณดีแค่ไหนไม่รู้ล่ะสิ นี่ๆผมมีพลังวิเศษด้วยนะอย่างกับแฮรี่ พอตเตอร์เลยล่ะ”

    มือเล็กยื่นออกไปกลางอากาศปลายนิ้วชี้ไปยังหนังสือเล่มหนาที่วางเกะกะตามพื้นห้องบังคับทิศทางเคลื่อนย้ายกลับเข้าสู่ที่ที่มันควรอยู่ทีละเล่มๆจนหมด จากนั้นปลายนิ้วก็สั่งการกับเจ้าไม้กวาดที่นอนแอ้งแม้งอยู่มุมห้องให้กวาดเอาเศษฝุ่นผงตามพื้นจนสะอาดหมดจด

     

                คิ้วเรียวได้รูปยักขึ้นน้อยๆพร้อมกับส่งยิ้มกว้างๆไปให้คนตัวสูงที่ยังคงนั่งตะลึงค้างอยู่บนเตียง หึ ไงล่ะเจ๋งใช่ม้า

                ชานยอลที่เรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้แล้วกึ่งหนึ่งกวาดตามองรอบๆห้องที่บัดนี้สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบกว่าแต่ก่อนมากโข ไม้กวาดดอกหญ้าที่เขามักจะจับมันนานๆทียังวุ่นวายจัดการเศษผงฝุ่นตามซอกโดยไร้มือกวาดอยู่อย่างนั้น เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อน

                ดวงตาคมกริบหันกลับมามองวิญญาณที่เคยกลัวนักหนา บัดนี้ความรู้สึกของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป บางทีถ้าลองเป็นเพื่อนกับผีเด็กนี่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ดีเสียอีกอย่างน้อยก็มีคนช่วยทำความสะอาดบ้านละน่า

                “โอเค ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนกันครับ ถึงแม้คุณจะอยากหาประโยชน์จากผมก็เถอะ” แบคฮยอนเอ่ยอย่างรู้ทัน

                เดี๋ยวนะ 

                “นายแอบอ่านความคิดฉันงั้นหรือ?”

                “ช่วยไม่ได้คุณคิดดังเอง” ร่างเล็กยักไหล่จึ้กๆซึ่งชานยอลคิดว่ามัน….กวนตีน

                “เอาเถอะๆยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน อะไรที่มันไม่ดีผมจะพยายามมองข้ามมันไปละกัน ว่าแต่คุณไม่เห็นจะแนะนำตัวกับผมมั่งเลยอ่ะ”

                “ฉันชื่อชานยอล รู้แค่นี้พอ”ชานยอลบอกไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก ตอนนี้เขาเริ่มชินกับเจ้าวิญญาณนี่บ้างแล้ว อย่างที่ว่าแหละอะไรที่มันไม่ดีมองข้ามได้ก็ทำเป็นลืมๆมันไปซะ

                “โอ้วววว คุณเป็นโปรดิวเซอร์นี่  โปรดิวเซอร์ปาร์คมือทอง  ว้าวววววมีรูปคู่กับรุ่นพี่ซูจู รุ่นพี่โบอา ทงบังชินกิ นี่ข้ามค่ายไปทำเพลงให้2NE1ด้วยหูยยยยยโคตรเจ๋งอ่ะ”

    #

                ตัวโปร่งแสงลอยไปลอยมาสำรวจไปทั่วห้องปากก็ตะโกนโหวกเหวกเสียงดังเมื่อพบเข้ากับงานที่ชานยอลทำแล้วก็รูปถ่ายคู่กับบรรดาศิลปินที่เคยผ่านมือ แม้ดวงตาจะไร้แสงแต่คนตัวสูงมั่นใจทีเดียวว่าหากเจ้าเด็กนี่ยังมีชีวิตอยู่ดวงตาเรียวรีนั่นต้องเปล่งประกายมากแน่ๆ แบคฮยอนฝังตัวเองอยู่กับกองงานของเจ้าของห้องได้สักพักก็ย้ายตัวเองมาอยู่ใกล้ๆร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง

     

                “แบคฮยอนฉันหิวอ่ะ เสกอาหารให้หน่อยสิ”

                “หืมม”

                ( “ )+ *ส่งสายตาอย่างมีความหวัง

                “อยากกินราเมงอร่อยๆ เอาร้านที่เคยไปแข่งรายการทีวีแชมป์เปี้ยนอ่ะ ได้แมะ”

                ป๊อก!

                สันหนังสือจากไหนไม่รู้ลอยมากระแทกหัวชานยอลอย่างพอดิบพอดี คงไม่ต้องเดากันให้ยากว่าเป็นฝีมือใคร คนที่ทำแบบนี้ได้มีอยู่คนเดียว

                ไอ้ผีเด็ก!!!

                “ย่าส์ไอ้เด็กบ้าลามปามใหญ่แล้วนะ เคาะมาได้เจ็บนะโว้ย” ร่างสูงตวาดมือใหญ่ก็คอยลูบหัวตัวเองป้อยๆคลายความเจ็บปวด

                “เรียกสติไงคุณปาร์ค ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ยห้ะว่าผมจะเสกอะไรพวกนั้นให้คุณได้ นี่วิญญาณนะไม่ใช่พ่อมด”แบคฮยอนแหวกลับ

                ก็ไม่รู้นี่หว่าเห็นสั่งไม้กวาดให้กวาดห้องสั่งหนังสือกลับเข้าที่ได้ก็นึกว่าจะเสกของได้ด้วย โถ่..ขอโทษได้ป่ะล่ะ

                “เออๆไม่ได้ก็ไม่ได้ ต้มมาม่าเอาก็ได้วะ” ว่าแล้วก็มุ่งหน้าไปยังครัวเล็กๆจัดการต้มน้ำหย่อนเส้นบะหมี่และเครื่องปรุงแล้วปิดฝารอเดือด  บอกหรือยังว่าชานยอลนี่เป็นผู้ชำนาญการด้านมาม่านะ พอเหลือตัวคนเดียวคนไม่เคยเข้าครัวเลยอย่างเขาก็ต้องพึ่งเจ้านี่ล่ะเป็นอาหารหลัก

                “คุณปาร์คอายุเท่าไหร่อ่ะ” แบคฮยอนเอ่ยถามตาแป๋วหลังจากย้ายตัวเองมาที่เคาท์เตอร์ห้องครัวเรียบร้อยแล้ว

                “อยู่ห่างกันบ้างก็ได้เถอะ แล้วนี่โตมาได้ยังไงไม่มีใครสั่งใครสอนเหรอว่าไม่ให้ถามเรื่องอายุ มันเสียมารยาท”

                “ขี้บ่นจัง”วิญญาณสบถ

                “ย่าส์….. *มองแรง

                “ก็แค่อยากสนิทไงเราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานนี่นา เอาเป็นว่าคุณปาร์คน่าจะแก่กว่าน้องแบคเยอะงั้นเรียกคุณปาร์คว่าพี่ชานยอลละกันเนอะ ส่วนพี่ชานยอลจะเรียกน้องแบคว่าน้องแบคก็ได้นะน่ารักดี” แบคฮยอนร่ายยาวเหยียดพูดเองเออเองเสร็จสรรพแล้วก็หายวับไปกับตา

     

                น้องแบคเหรอ

                น่ารักมากมั้ง

                เหอะ!

               

    TBC

    #ผีน้องแบค

    มอบความรักให้ผีเด็กตัวน้อยกันเยอะๆนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×