ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Beware of the darkness

    ลำดับตอนที่ #1 : FIRST - SECOND

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 54


     

    บทนำ

    FIRST

     

    ...ใกล้ถึงแล้ว?” ร่างสูงใหญ่รำพันกับตัวเองเบาๆ ขณะค่อยๆลากขาตัวเองเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด มุ่งสู่เงาเลือนรางของบ้านเมืองที่เขาคิดว่าคงยู่ข้างหน้า สายฝนที่กระหน่ำลงมาชำระล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายออกไป แม้ความเจ็บปวดยังคงเกิดขึ้นทุกขณะที่ก้าวเดิน แต่ในจิตใจของเขาไม่ได้แยแสต่อมันเลย เพราะเป้าหมายยิ่งใหญ่ยังคงอยู่ข้างหน้า... เป้าหมายที่จะได้รับมันมากจนความ เจ็บปวดนั้นไร้ค่า!

     

    มือของเขากุมแผลที่ท้องตัวเองไว้แน่น.. กัดปาก ฝืนต่อความรู้สึกปวดนั้น ขณะเหยียดยิ้มช้าๆ

     

    อีกนิดก็ยังดี... ทนมาได้ตั้งเกือบวันแล้ว... ขอให้ได้เข้าไปก็ยังดี

                แต่ความเย็นยะเยือกของสายฝนไม่ได้ปรานีใคร แม้ร่างของเขาจะโดนบาดแผลจากอาวุธมาก็ตาม ถึงอย่างนั้นในใจเขาก็ไม่เคยคิดจะอยากร้องขอความกรุณา ถ้าไม่เพราะว่าแค่อีกไม่กี่ก้าว... อีกไม่กี่ก้าวก็คงจะถึง

     

    ชายหนุ่มหอบรุนแรงกว่าเดิม.. ประตูเมืองอยู่ไม่ไกล แต่ร่างกายก็ฝืนความรู้สึกเจ็บปวดแทบสาหัสไม่ได้ อีกแล้ว เขาทรุดลงไปกับพื้น ...ทั้งที่ก่อนดวงตาจะปิดลง แววตายังคงแข็งกร้าวและมั่นคงไม่เปลี่ยน..

     

    มันไม่จบแค่นี้แน่..!

     

    -           -           -           -

     

    องค์หญิงเอ่อ ..ท่านหญิง! โปรดรอข้าด้วย!”

    คนถูกเรียกหันขวับกลับไปตามเสียงเรียกเพียงชั่วขณะ ก่อนจะยิ้ม แล้วรีบกระตุกบังเหียนม้าให้หนีนางกำนัลอย่างนึกสนุก

    เอาซี้! แต่เจ้าต้องเจ้าตามข้าให้ได้ก่อน!”

    ท่าน! แต่ท่านจะออกนอกกำแพงเมืองแล้วนะ!!”

     

    แล้วใครสนเล่า!” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาแสดงออกถึงความดื้อรั้นของเจ้าตัวชัดเจน จนนางกำนัลที่ตามมาอ่อนใจ พาลขี้เกียจจะวิ่งตามเอาดื้อๆ เพราะรู้ว่าคงตามไม่ได้ แต่ถ้าไม่ตามก็ยิ่งแย่ใหญ่!

    แน่ล่ะ แรงม้ากับแรงคน นางก็รู้ดีว่าอะไรจะชนะ! ยิ่งแย่ไปใหญ่ที่เมืองเป็นเมืองนี้ค้าขาย แขกจะไปใครจะมาก็เปิดอ้ารับ เรื่องตรวจตราของประตูเมืองแทบไม่มี...

     

    ฉะนั้น... ม้าขององค์หญิงในคราบหญิงสาวธรรมดา ก็ผ่านประตูเมืองสวนกับผู้คนออกไปได้อย่างสะดวกโยธิน! โดยที่นางกำนัลได้แต่มองตามด้วยสายตาละห้อย ได้แต่รำพึงกับตัวเอง

    อา.... อนาคตข้าคงหายไปพร้อมๆกับม้าขององค์หญิงที่ออกนอกประตูเมืองแล้วล่ะ

     

    -           -           -           -

     

    สะใจนัก ฮ่าๆๆ... นานๆทีนะเราจะได้ออกมา

     

    ทันทีที่พ้นเขตประตู... ร่างบางขององค์หญิงก็มองไปรอบๆกายเพื่อจะซึมซับเอาทัศนียภาพเหล่านั้น ....นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ออกมาสูดอากาศนอกวัง? กลิ่นไอดินไอหญ้ามันออกจะหอมกว่ากลิ่นน้ำหอมของคนในวังเป็นไหนๆ อย่างน้อยที่นี่ มันก็เต็มไปด้วยสิ่งที่ธรรมชาติ ไม่ใช่ใส่มีแต่สิ่งปรุงแต่งแบบสังคมนั้น!

    ผมสีทองเป็นลอนปลิวไปตามแรงลม... กลิ่นฝนยังไม่จางไปนัก เมื่อคืนฝนตกหนักจนนางเองก็นึกกลัวว่าเช้านี้จะไม่หยุด แล้วจะอดออกมาเที่ยวดูนอกวังอีก

     

    ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นนอกประตูเมืองไปแล้ว..

     

    สเตลล่าควบม้าช้ากว่าเดิมไปตามทาง สวนกับชาวบ้านเดินเท้าและเกวียนค้าขายเป็นพรรคๆ ใจก็อยากจะออกไปดูทุ่งดอกไม้แบบคราวนั้น แต่ก็รู้ว่ามันไกล... ถ้ากลับวังไม่ทัน มีหวังนางกำนัลของตนจะเป็นฝ่ายรับโทษแทนอีก ...ถึงจะไม่ชอบที่นางกำนัลพวกนี้ที่ชอบตามติดนักก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะให้ใครมาเดือดร้อนแลกกับความสุขตัวเองหรอก

     

    ลมเย็นๆของฤดูใบไม้ผลิ กับแดดอุ่นๆยามเช้าทำให้องค์หญิงสดชื่นกว่าเดิมหลายเท่า.. ถึงไม่ได้ไปดูทุ่งดอกไม้พวกนั้นอีกก็ช่างเถอะ ได้ออกมานอกวังก็ของรางวัลใหญ่แล้ว!

    ยิ่งควบม้าออกมา ถนนยิ่งโล่ง เลยรู้ว่าคงจะไม่ไปไกลกว่านี้ ..แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ..

               

                สเตลล่ากำลังจะควบม้ากลับไปตามทางเดิม... หากแต่สายตาก็ไปสะดุดกับร่างหนึ่งใต้ต้นไม้! นางรีบชักม้าหนีด้วยความตกใจ ก่อนที่มันจะเหยียบเอาร่างคนๆนั้นเข้า

                ดวงตาสีเทาจ้องมองร่างที่ฟุบอยู่อย่างแปลกใจ... มองเผินๆไม่มีใครเห็นแน่ ชุดสีดำยาวคลุมตั้งแต่ศีรษะจนถึงขา เรียกได้ว่าคลุมไปทั้งร่าง.. แต่มือสีขาวซีดที่โผล่ออกมาเท่านั้นทำให้องค์หญิงรู้ว่านั่นคือคน

                ร่างบางกระโดดลงจากม้า เข้าไปหาอย่างอยากรู้

     

                ศพเหรอ? ช่างน่าอนาถนักที่ต้องมาตายตรงนี้.... อย่างน้อยข้าก็ได้เจอเจ้า งั้นข้าจะฝังให้เอง..

     

                มือของนางเปิดผ้าที่คลุมไปถึงศีรษะออก ทำให้เห็นผมสั้นสีทองที่เปียกไปด้วยน้ำ.. คงจะเป็นน้ำฝนเมื่อคืน... สเตลล่าเลยใช้มือพลิกร่างนั้นหงายขึ้น..

     

                หนักซะจริง! ผู้ชายแน่ๆ!!

     

                ทันทีที่พลิกร่างขึ้นมาได้.. ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำของชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้น.. เสื้อขาวภายใต้เสื้อคลุมดำเปรอะเปื้อนคราบน้ำและฝุ่นจนมอมแมม ...แต่ยังมีสีแดงเข้มของเลือดซึมออกมาเป็นรอยชัดเจน

     

                นางกัดปากตัวเอง.. ไม่ว่าคนๆนี้จะเป็นใคร แต่ใจก็นึกสงสารไม่ได้...

                มือขององค์หญิงเลื่อนไปจับที่คอ... ถ้าเป็นเมื่อคืน เขาอาจจะยังไม่ตาย

     

                องค์หญิง!!”

               

                เสียงของนางกำนัลดังลั่นทำให้สเตลล่าหันไปมอง

                เจน! เจ้ามาช่วยข้าหน่อยสิ!!”

     

                นางรู้สึกดีใจที่ลำคอของชายคนนั้นยังคงมีการเต้นของชีพจร... แถมตัวยังอุ่นๆอยู่เลยด้วย

                สวรรค์คงส่งมาให้ข้าได้ช่วยเขาสินะ...

             

    SECOND

     

     “ฮึบ !

    ร่างของใครคนหนึ่งเกาะอยู่ที่กำแพงอิฐสูงราว 3 เมตร ดวงตาสีฟ้าเข้มทอดมองลงมายังเบื้องล่างและชะงักไปนิดหนึ่งกับระดับความสูงซึ่งเขาไม่น่าจะปีนขึ้นมาได้ มือที่เคยขาวสะอาด บัดนี้กลับเต็มไปด้วยเศษดินที่ติดอยู่ตามกำแพง ไม่นานนัก ความพยายามก็ทำให้เขาขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนขอบกำแพงนั้นได้ หากแต่นั่นยังไม่ใช่เป้าหมาย

     

    การออกมาในยามค่ำมืดเช่นนี้ ไม่ใช่เพื่อดูดาว ชมวิว หรือนั่งรับลมเย็นบนนั้น แต่มันคือการข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของกำแพงต่างหาก !

    อัลเฟร็ดมองลงไปอีกฝั่งหนึ่งของกำแพงด้วยแววตาตื่นเต้น มีเรื่องราวน่าสนุกมากมายที่รอเขาอยู่หลังจากข้ามผ่านกำแพงนี้ไป แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น บางที เขาอาจจะต้องเจ็บตัวก่อนก็เป็นได้ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อนึกถึงความสูงของกำแพง

     

    เอาวะ !!!” เขาบอกกับตัวเอง ค่อย ๆ ยกขาอีกข้างขึ้นมาให้อยู่ในฝั่งเดียวกัน ก่อนจะทำการกระโดลงไปทันที  ไม่ได้สนใจถึงสภาพพื้นด้านล่างที่เป็นตัวรองรับ

     

    ตุบ !!  

    โอ๊ย !!!!!” เด็กหนุ่มร้องลั่น แม้จะเป็นพื้นหญ้า แต่ก็เจ็บไม่ใช่เล่น สาบานได้เลยว่าคราวหน้าเขาจะไม่มีทางกระโดดลงมาจากกำแพงสูง 3 เมตรอีกเป็นอันขาด !!!

     

    อา.... ให้ตายสิ !!!!

    อัลเฟร็ดนอนตัวงออยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง หลังจากความเจ็บปวดจากการกระแทกอย่างแรงค่อย ๆ หายเป็นปกติแล้ว เด็กหนุ่มก็ยันตัวลุกขึ้น มือก็พลางปัดเศษหญ้าที่ติดอยู่บนศีรษะออกจนหมด เหลียวมองซ้ายมองขวาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคงไม่มีใครตามมาและไม่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินไปตามทางที่ลาดยาวข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน

     

    เขาเดินไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านค้าต่าง ๆ ผู้คนมากมายยังคนเดินสวนกันไปมาอยู่ตลอด แม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้วก็ตาม

    เฮ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงเฮดังสนั่นจากฟากหนึ่งของเมือง เรียกความสนใจจากเจ้าของดวงตาสีฟ้าเข้มที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ได้มากทีเดียว อัลเฟร็ดตัดสินใจเดินไปทางต้นเสียงด้วยความสงสัย

     

    ผู้คนมากมายกำลังล้อมวงกว้างและดูบางสิ่งที่อยู่ในวงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ เด็กหนุ่มค่อย ๆ แทรกตัวเองเบียดเสียดผ่านวงล้อมของผู้คนเข้าไปยืนอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอย่างยากลำบาก

    และภาพที่เห็นทำเอาเขาอึ้งไป

     

    ผู้หญิงตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย ผมสีบลอนซ์ทองถูกมัดรวบไว้อย่างดี ดวงตาสีฟ้าเทาเยือกเย็นเข้ากับคิ้วหนาได้รูป และสิ่งที่ทำให้อัลเฟร็ดไม่สามารถละสายตาไปได้คือ ภาพที่เธอกำลังล้มคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าได้สบาย...จนเขาเองยังนึกแปลกใจว่าเธอทำอย่างไร มันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขนาดนี้จะทำได้ ...แม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะล้มไอ้ยักษ์นั่นได้ !

    แต่เธอ...ทำให้หมอนั่นนอนแน่นิ่งไปแล้ว !!

     

    เฮ !!!!!!!!!!!!!! วู้ !!!!” เสียงคนโห่เชียร์ดังก้องกว่าเดิม เด็กสาวกำหมัดแล้วยกแขนขึ้นข้างหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนค่อย ๆ เผยยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ

    อัลเฟร็ดเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะส่งเสียงเฮตามคนอื่น ๆ เช่นกัน

     

    เด็กสาวชูกำปั้นขึ้นเหนือศีรษะ ส่งรอยยิ้มให้คนที่ล้อมอยู่รอบ ๆ พลันสายตาก็เหลือไปเห็นใครคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าเอาซะเลย บางทีเขาอาจไม่ใช่คนแถวนี้ก็เป็นได้ ผมสีน้ำตาลเข้มกระทบกับแสงไฟจากคบเพลิงเพียงเล็กน้อยก็เป็นประกายเงางาม จมูกโด่งเป็นสัน และดวงตาที่มีแววสดใส ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นเต้นกับการต่อสู้ของเธอกับคู่ต่อสู้ที่ตัวอย่างกับยักษ์คนนั้นมากทีเดียว

     

    แองกัสทำหน้างง ๆ เมื่อจู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ยิ้มให้เธอ เธอจึงเพียงส่งยิ้มบาง ๆ กลับไปเท่านั้น เด็กสาวหมุนตัวกลับไปด้านหลัง เดินตรงไปที่ที่ผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งนานแล้ว เขายิ้มให้เธออย่างชอบใจ เอื้อมมือไปหยิบถุงเล็ก ๆ ใบหนึ่งส่งให้เธอ และในนั้นมีเงินอยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียว

     

    เจ้านี่สุดยอดจริง ๆ แองกัส ฮ่าฮ่า !!!

     

    ขอบใจ เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม แล้วเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนออกมา ได้ยินเสียงชื่นชมอยู่ไม่ขาด

     

    สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และก็ต้องชะงัก เมื่อรู้สึกถึงใครอีกคนที่เดินตามเธอมา เด็กสาวทำหน้าแปลกใจ รึบางทีเธออาจจะคิดไปเอง

    แต่หลังจากเดินวนไปวนมาอยู่ในเมืองผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีเธอก็เริ่มมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง มีคนแอบตามเธอจริง ๆ ด้วย !

     

    อัลเฟร็ดหยุดนิ่งอยู่กับที่ ผู้หญิงคนนั้นเดินเลี้ยวไปทางซ้ายแต่พอเขาเดินตามไป เธอก็หายไปแล้ว เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างเสียดาย อุตส่าห์คิดว่าเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปแล้วอาจจะเจออะไรสนุก ๆ แต่ดันพลาดซะได้

    เด็กหนุ่มหันหลังเตรียมจะเดินกลับ หากแต่วัตถุมีคมบางอย่างที่กำลังจ่อมาที่คอทำให้เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่

     เจ้าเดินตามข้าทำไม !!!"



    Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×