คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : FIRST - SECOND
บทนำ
FIRST
“...ใกล้ถึงแล้ว?” ร่างสูงใหญ่รำพันกับตัวเองเบาๆ ขณะค่อยๆลากขาตัวเองเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด มุ่งสู่เงาเลือนรางของบ้านเมืองที่เขาคิดว่าคงยู่ข้างหน้า สายฝนที่กระหน่ำลงมาชำระล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายออกไป แม้ความเจ็บปวดยังคงเกิดขึ้นทุกขณะที่ก้าวเดิน แต่ในจิตใจของเขาไม่ได้แยแสต่อมันเลย เพราะเป้าหมายยิ่งใหญ่ยังคงอยู่ข้างหน้า... เป้าหมายที่จะได้รับมันมากจนความ เจ็บปวดนั้นไร้ค่า!
มือของเขากุมแผลที่ท้องตัวเองไว้แน่น.. กัดปาก ฝืนต่อความรู้สึกปวดนั้น ขณะเหยียดยิ้มช้าๆ
อีกนิดก็ยังดี... ทนมาได้ตั้งเกือบวันแล้ว... ขอให้ได้เข้าไปก็ยังดี
แต่ความเย็นยะเยือกของสายฝนไม่ได้ปรานีใคร แม้ร่างของเขาจะโดนบาดแผลจากอาวุธมาก็ตาม ถึงอย่างนั้นในใจเขาก็ไม่เคยคิดจะอยากร้องขอความกรุณา ถ้าไม่เพราะว่าแค่อีกไม่กี่ก้าว... อีกไม่กี่ก้าวก็คงจะถึง
ชายหนุ่มหอบรุนแรงกว่าเดิม.. ประตูเมืองอยู่ไม่ไกล แต่ร่างกายก็ฝืนความรู้สึกเจ็บปวดแทบสาหัสไม่ได้ อีกแล้ว เขาทรุดลงไปกับพื้น ...ทั้งที่ก่อนดวงตาจะปิดลง แววตายังคงแข็งกร้าวและมั่นคงไม่เปลี่ยน..
มันไม่จบแค่นี้แน่..!
- - - -
“องค์หญิง
เอ่อ ..ท่านหญิง! โปรดรอข้าด้วย!”
คนถูกเรียกหันขวับกลับไปตามเสียงเรียกเพียงชั่วขณะ ก่อนจะยิ้ม แล้วรีบกระตุกบังเหียนม้าให้หนีนางกำนัลอย่างนึกสนุก
“เอาซี้! แต่เจ้าต้องเจ้าตามข้าให้ได้ก่อน!”
“ท่าน! แต่ท่านจะออกนอกกำแพงเมืองแล้วนะ!!”
“แล้วใครสนเล่า!” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาแสดงออกถึงความดื้อรั้นของเจ้าตัวชัดเจน จนนางกำนัลที่ตามมาอ่อนใจ พาลขี้เกียจจะวิ่งตามเอาดื้อๆ เพราะรู้ว่าคงตามไม่ได้ แต่ถ้าไม่ตามก็ยิ่งแย่ใหญ่!
แน่ล่ะ แรงม้ากับแรงคน นางก็รู้ดีว่าอะไรจะชนะ! ยิ่งแย่ไปใหญ่ที่เมืองเป็นเมืองนี้ค้าขาย แขกจะไปใครจะมาก็เปิดอ้ารับ เรื่องตรวจตราของประตูเมืองแทบไม่มี...
ฉะนั้น... ม้าขององค์หญิงในคราบหญิงสาวธรรมดา ก็ผ่านประตูเมืองสวนกับผู้คนออกไปได้อย่างสะดวกโยธิน! โดยที่นางกำนัลได้แต่มองตามด้วยสายตาละห้อย ได้แต่รำพึงกับตัวเอง
อา.... อนาคตข้าคงหายไปพร้อมๆกับม้าขององค์หญิงที่ออกนอกประตูเมืองแล้วล่ะ
- - - -
“สะใจนัก ฮ่าๆๆ... นานๆทีนะเราจะได้ออกมา”
ทันทีที่พ้นเขตประตู... ร่างบางขององค์หญิงก็มองไปรอบๆกายเพื่อจะซึมซับเอาทัศนียภาพเหล่านั้น ....นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ออกมาสูดอากาศนอกวัง? กลิ่นไอดินไอหญ้ามันออกจะหอมกว่ากลิ่นน้ำหอมของคนในวังเป็นไหนๆ อย่างน้อยที่นี่ มันก็เต็มไปด้วยสิ่งที่ธรรมชาติ ไม่ใช่ใส่มีแต่สิ่งปรุงแต่งแบบสังคมนั้น!
ผมสีทองเป็นลอนปลิวไปตามแรงลม... กลิ่นฝนยังไม่จางไปนัก เมื่อคืนฝนตกหนักจนนางเองก็นึกกลัวว่าเช้านี้จะไม่หยุด แล้วจะอดออกมาเที่ยวดูนอกวังอีก
ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นนอกประตูเมืองไปแล้ว..
สเตลล่าควบม้าช้ากว่าเดิมไปตามทาง สวนกับชาวบ้านเดินเท้าและเกวียนค้าขายเป็นพรรคๆ ใจก็อยากจะออกไปดูทุ่งดอกไม้แบบคราวนั้น แต่ก็รู้ว่ามันไกล... ถ้ากลับวังไม่ทัน มีหวังนางกำนัลของตนจะเป็นฝ่ายรับโทษแทนอีก ...ถึงจะไม่ชอบที่นางกำนัลพวกนี้ที่ชอบตามติดนักก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะให้ใครมาเดือดร้อนแลกกับความสุขตัวเองหรอก
ลมเย็นๆของฤดูใบไม้ผลิ กับแดดอุ่นๆยามเช้าทำให้องค์หญิงสดชื่นกว่าเดิมหลายเท่า.. ถึงไม่ได้ไปดูทุ่งดอกไม้พวกนั้นอีกก็ช่างเถอะ ได้ออกมานอกวังก็ของรางวัลใหญ่แล้ว!
ยิ่งควบม้าออกมา ถนนยิ่งโล่ง เลยรู้ว่าคงจะไม่ไปไกลกว่านี้ ..แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ..
สเตลล่ากำลังจะควบม้ากลับไปตามทางเดิม... หากแต่สายตาก็ไปสะดุดกับร่างหนึ่งใต้ต้นไม้! นางรีบชักม้าหนีด้วยความตกใจ ก่อนที่มันจะเหยียบเอาร่างคนๆนั้นเข้า
ดวงตาสีเทาจ้องมองร่างที่ฟุบอยู่อย่างแปลกใจ... มองเผินๆไม่มีใครเห็นแน่ ชุดสีดำยาวคลุมตั้งแต่ศีรษะจนถึงขา เรียกได้ว่าคลุมไปทั้งร่าง.. แต่มือสีขาวซีดที่โผล่ออกมาเท่านั้นทำให้องค์หญิงรู้ว่านั่นคือคน
ร่างบางกระโดดลงจากม้า เข้าไปหาอย่างอยากรู้
ศพเหรอ? ช่างน่าอนาถนักที่ต้องมาตายตรงนี้.... อย่างน้อยข้าก็ได้เจอเจ้า งั้นข้าจะฝังให้เอง..
มือของนางเปิดผ้าที่คลุมไปถึงศีรษะออก ทำให้เห็นผมสั้นสีทองที่เปียกไปด้วยน้ำ.. คงจะเป็นน้ำฝนเมื่อคืน... สเตลล่าเลยใช้มือพลิกร่างนั้นหงายขึ้น..
หนักซะจริง! ผู้ชายแน่ๆ!!
ทันทีที่พลิกร่างขึ้นมาได้.. ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำของชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้น.. เสื้อขาวภายใต้เสื้อคลุมดำเปรอะเปื้อนคราบน้ำและฝุ่นจนมอมแมม ...แต่ยังมีสีแดงเข้มของเลือดซึมออกมาเป็นรอยชัดเจน
นางกัดปากตัวเอง.. ไม่ว่าคนๆนี้จะเป็นใคร แต่ใจก็นึกสงสารไม่ได้...
มือขององค์หญิงเลื่อนไปจับที่คอ... ถ้าเป็นเมื่อคืน เขาอาจจะยังไม่ตาย
“องค์หญิง!!”
เสียงของนางกำนัลดังลั่นทำให้สเตลล่าหันไปมอง
“เจน! เจ้ามาช่วยข้าหน่อยสิ!!”
นางรู้สึกดีใจที่ลำคอของชายคนนั้นยังคงมีการเต้นของชีพจร... แถมตัวยังอุ่นๆอยู่เลยด้วย
สวรรค์คงส่งมาให้ข้าได้ช่วยเขาสินะ...
SECOND
“ฮึบ !”
ร่างของใครคนหนึ่งเกาะอยู่ที่กำแพงอิฐสูงราว
การออกมาในยามค่ำมืดเช่นนี้ ไม่ใช่เพื่อดูดาว ชมวิว หรือนั่งรับลมเย็นบนนั้น แต่มันคือการข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของกำแพงต่างหาก !
อัลเฟร็ดมองลงไปอีกฝั่งหนึ่งของกำแพงด้วยแววตาตื่นเต้น มีเรื่องราวน่าสนุกมากมายที่รอเขาอยู่หลังจากข้ามผ่านกำแพงนี้ไป แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น บางที เขาอาจจะต้องเจ็บตัวก่อนก็เป็นได้ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อนึกถึงความสูงของกำแพง
“เอาวะ !!!” เขาบอกกับตัวเอง ค่อย ๆ ยกขาอีกข้างขึ้นมาให้อยู่ในฝั่งเดียวกัน ก่อนจะทำการกระโดลงไปทันที ไม่ได้สนใจถึงสภาพพื้นด้านล่างที่เป็นตัวรองรับ
ตุบ !!
“โอ๊ย !!!!!” เด็กหนุ่มร้องลั่น แม้จะเป็นพื้นหญ้า แต่ก็เจ็บไม่ใช่เล่น สาบานได้เลยว่าคราวหน้าเขาจะไม่มีทางกระโดดลงมาจากกำแพงสูง 3 เมตรอีกเป็นอันขาด !!!
“อา.... ให้ตายสิ !!!!”
อัลเฟร็ดนอนตัวงออยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง หลังจากความเจ็บปวดจากการกระแทกอย่างแรงค่อย ๆ หายเป็นปกติแล้ว เด็กหนุ่มก็ยันตัวลุกขึ้น มือก็พลางปัดเศษหญ้าที่ติดอยู่บนศีรษะออกจนหมด เหลียวมองซ้ายมองขวาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคงไม่มีใครตามมาและไม่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินไปตามทางที่ลาดยาวข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน
เขาเดินไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านค้าต่าง ๆ ผู้คนมากมายยังคนเดินสวนกันไปมาอยู่ตลอด แม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้วก็ตาม
“เฮ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงเฮดังสนั่นจากฟากหนึ่งของเมือง เรียกความสนใจจากเจ้าของดวงตาสีฟ้าเข้มที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ได้มากทีเดียว อัลเฟร็ดตัดสินใจเดินไปทางต้นเสียงด้วยความสงสัย
ผู้คนมากมายกำลังล้อมวงกว้างและดูบางสิ่งที่อยู่ในวงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ เด็กหนุ่มค่อย ๆ แทรกตัวเองเบียดเสียดผ่านวงล้อมของผู้คนเข้าไปยืนอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอย่างยากลำบาก
และภาพที่เห็นทำเอาเขาอึ้งไป
ผู้หญิงตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย ผมสีบลอนซ์ทองถูกมัดรวบไว้อย่างดี ดวงตาสีฟ้าเทาเยือกเย็นเข้ากับคิ้วหนาได้รูป และสิ่งที่ทำให้อัลเฟร็ดไม่สามารถละสายตาไปได้คือ ภาพที่เธอกำลังล้มคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าได้สบาย...จนเขาเองยังนึกแปลกใจว่าเธอทำอย่างไร มันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขนาดนี้จะทำได้ ...แม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะล้มไอ้ยักษ์นั่นได้ !
แต่เธอ...ทำให้หมอนั่นนอนแน่นิ่งไปแล้ว !!
“เฮ !!!!!!!!!!!!!! วู้ !!!!” เสียงคนโห่เชียร์ดังก้องกว่าเดิม เด็กสาวกำหมัดแล้วยกแขนขึ้นข้างหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนค่อย ๆ เผยยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
อัลเฟร็ดเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะส่งเสียงเฮตามคนอื่น ๆ เช่นกัน
เด็กสาวชูกำปั้นขึ้นเหนือศีรษะ ส่งรอยยิ้มให้คนที่ล้อมอยู่รอบ ๆ พลันสายตาก็เหลือไปเห็นใครคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าเอาซะเลย บางทีเขาอาจไม่ใช่คนแถวนี้ก็เป็นได้ ผมสีน้ำตาลเข้มกระทบกับแสงไฟจากคบเพลิงเพียงเล็กน้อยก็เป็นประกายเงางาม จมูกโด่งเป็นสัน และดวงตาที่มีแววสดใส ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นเต้นกับการต่อสู้ของเธอกับคู่ต่อสู้ที่ตัวอย่างกับยักษ์คนนั้นมากทีเดียว
แองกัสทำหน้างง ๆ เมื่อจู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ยิ้มให้เธอ เธอจึงเพียงส่งยิ้มบาง ๆ กลับไปเท่านั้น เด็กสาวหมุนตัวกลับไปด้านหลัง เดินตรงไปที่ที่ผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งนานแล้ว เขายิ้มให้เธออย่างชอบใจ เอื้อมมือไปหยิบถุงเล็ก ๆ ใบหนึ่งส่งให้เธอ และในนั้นมีเงินอยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียว
“เจ้านี่สุดยอดจริง ๆ แองกัส ฮ่าฮ่า !!!”
“ ขอบใจ “ เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม แล้วเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนออกมา ได้ยินเสียงชื่นชมอยู่ไม่ขาด
สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และก็ต้องชะงัก เมื่อรู้สึกถึงใครอีกคนที่เดินตามเธอมา เด็กสาวทำหน้าแปลกใจ รึบางทีเธออาจจะคิดไปเอง
แต่หลังจากเดินวนไปวนมาอยู่ในเมืองผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีเธอก็เริ่มมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง มีคนแอบตามเธอจริง ๆ ด้วย !
อัลเฟร็ดหยุดนิ่งอยู่กับที่ ผู้หญิงคนนั้นเดินเลี้ยวไปทางซ้ายแต่พอเขาเดินตามไป เธอก็หายไปแล้ว เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างเสียดาย อุตส่าห์คิดว่าเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปแล้วอาจจะเจออะไรสนุก ๆ แต่ดันพลาดซะได้
เด็กหนุ่มหันหลังเตรียมจะเดินกลับ หากแต่วัตถุมีคมบางอย่างที่กำลังจ่อมาที่คอทำให้เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่
ความคิดเห็น