คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Only you ; Chapter 3
Only you ; Chapter 3
“อีกไม่นานก็จะเป็นวันเฟรชชี่เดย์ ซึ่งทุกๆคนคงรู้กันอยู่ว่าต้องมีตัวแทนของแต่ละคณะในการคัดเลือกเฟรชชี่บอยเพื่อไปแข่งกับคณะอื่น”
เมื่อสิ้นเสียงของประธานคณะอย่างซูโฮได้สิ้นสุดลง ทุกคนภายในตึกมนุษย์ศาสตร์พากันเสียงดังขึ้นทันที ด้วยความตื่นเต้นที่จะมีการคัดคนหน้าตาดีที่สุดของคณะ เพื่อไปแข่งกับคณะอื่น
ไม่ต่างจากผมเช่นกันที่ตอนนี้ยืนรวมอยู่กับกลุ่มรุ่นพี่หรือเพื่อนๆผมนั่นเอง
“มึงคิดว่าใครจะได้เป็นเฟรชชี่บอยของคณะเราหว่ะ ?” เสียงคนข้างๆที่เงียบอยู่นานได้เอ่ยขึ้น
“ไม่รู้หว่ะ หาคนหน้าตาดีปีนี้ยากแท้” = = มันจริงหนิคับ
“แต่กูว่าน่ะ ไอเด็กนั่นอ่ะน่ะ ต้องเป็นเฟรชชี่บอยแน่” ซิ่วหมินพูดลอยขึ้นมาเฉยๆจึงทำให้ผมงงว่าเขาพูดถึงใคร
“เด็กคนไหน ?” ผมทำหน้าสงสัยเป็นอย่างมาก
“ก็ที่เมื่อเช้าเข้ามหาลัยมาพร้อมมึง มาถึงแล้วตัวติดมึงอย่างกับปลิง ที่มัวแต่เรียกมึงว่าฮยองๆๆๆๆๆๆ ฮยองทั้งวี่ทั้งวัน -,- กูว่ามันหล่อดีน่ะ” อาเปาพูดพลางมองหาไอเด็กแสบนั่น
“หน้าตาดีตรงไหน หน้าตาอย่างกับเด็กสองขวบ ดูดีตรงขาวอย่างเดียวนั่นแหละ” ผมรีบเถียงกลับไปทันที
ไอเด็กเนี่ยน่ะ หน้าตาดี ดีกับผีหล่ะสิ -3-
“โฮ่ ถ้าหน้าตาไม่ดีจริงน่ะ ก็คงไม่โดนโหวตจนได้ขึ้นชื่ออยู่บนกระดานนั่นหรอก”
ผมมองตามที่มือซิ่วหมินชี้ไป
เห้ยย - -‘ เขาโหวตกันตอนไหนหว่ะ ตอนนี้ผมกำลังมองไปที่กระดานแผ่นใหญ่สีขาวตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า พร้อมกับมีรายชื่อของนักศึกษาสามคนอยู่ในนั้น
คิมจงอิน
โดคยองซู
และ…
โอเซฮุน !!!!! -0-
สงสัยผมไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเริ่มโหวตนักศึกษาหน้าตาดีที่สุดในคณะสามคน - - ซึ่งหนึ่งในนั้นมีไอเด็กบ้าโอเซฮุนอยู่ด้วย
“เอาหล่ะ ทุกคนฟังทางนี้!!” เสียงของซูโฮดังขึ้นอีกรอบ
“พี่จะให้นักศึกษาปีหนึ่งทุกคน เขียนชื่อคนที่เราจะโหวตลงใบกระดาษแล้วนำมาหย่อนลงในกล่องใบนี้”
ประธานคณะชี้ไปที่กล่องตรงหน้าก่อนจะพูดขึ้น
“แต่เขียนชื่อได้แค่คนล่ะหนึ่งชื่อเท่านั้น เอาหล่ะเริ่มเขียนกันได้”
นักศึกษาทุกคนต่างกระวนกระวายในการหาปากกากันใหญ่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันกิจกรรมหลายคนเลยไม่ได้ติดปากกามาเรียน
“เอาหล่ะ เมื่อเขียนเสร็จกันทุกคนแล้วให้เดินต่อแถวมาหย่อนกระดาษลงในกล่องนี้น่ะ”
นักศึกษาทุกคนต่างพากันลุกขึ้นและต่อแถวกันด้วยความตื่นเต้น ไม่ต่างจากผมที่ตอนนี้ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ผมรอลุ้นที่จะได้รู้ว่าใครจะเป็นเฟรชชี่บอยหรือเดือนมหาลัยคนต่อไป !! ยิ่งใหญ่เนอะ - -?
ไม่นานนักกล่องใบนั้นก็เต็มไปด้วยแผ่นกระดาษที่นักศึกษาทุกคนต่างพากันเขียนชื่อของคนที่ต้องการให้เป็นเดือนคณะ
ผมยืนมองร่างของผู้ชายทั้งสามคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าแถว ดูเหมือนจะลุ้นมากๆด้วย
สายตาของเซฮุนมองมาที่ร่างเล็กพร้อมกับยิ้มจนแทบจะเห็นครบ32ซี่
“มันเป็นอะไรของมัน ??” ผมบ่นกับตัวเองที่เห็นการกระทำแปลกๆของร่างสูง
กล่องใบนั้นถูกพี่ปีสี่ยกไปนั่งนับคะแนนอยู่ด้านหลัง
“ตอนนี้ผมโหวตทั้งหมดอยู่ที่มือผมแล้ว” ซูโฮพูดขึ้น ทำให้ฟิลของทุกคนเหมือนดูรายการเดอะสตาร์ยังไงยังงั้น
“เฟรชชี่บอยของคณะมนุษย์ศาสตร์คนถัดไปคือ …… !!!!!!!”
ทุกคนต่างลุ้นกับคำตอบที่จะออกมาจากปากของประธานคณะ ไม่ต่างจากผมที่ตอนนี้ลุ้นไม่แพ้ไอสามคนที่อยู่ข้างหน้านั้นเลย
“คือ !!!”
ก้นทุกคนกำลังขมิบ
“คือ!!!”
ผมเห็นเซฮุนยืนหลับตาอยู่
“คือ!!!!!!”
“มึงคิดว่ามันจะคืออีกนานป่าวหว่ะ ??”
ซิ่วหมินที่ยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้น
“นั่นน่ะสิ = =” ผมหล่ะ เอือมจริงๆ สามคนข้างหน้าคงขี้เรดกันแล้วมั้งนั้น ลุ้นจนตัวโก่งเลยทีเดียว
“โอ เซ ฮุน !!!!!”
หลังจากคำประกาศทุกคนใต้ตึกคณะต่างร้องเสียงเฮด้วยความดีใจ พร้อมกับร่างของคนสามคนกอดกันอยู่ข้างหน้าแถว เอิ่มม มึงคิดว่าประกวดรายการเดอะสตาร์หรือไร ?? กอดกันอย่างกับจะจากกันไปไกล
….
เวลาล่วงเลยมานาน ตอนนี้คนในคณะต่างพากันแยกย้ายกลับบ้านหลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้นลง
“ฮยองงง !!”
เสียงคุ้นหูดังมาจากข้างหลัง เห้อออออ ไอเด็กบ้านี่อีกล่ะ
“อะไร ??” ผมถามไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ผมได้เป็นเดือนของคณะแล้วน้า ดีใจป่าวววว ??” ยิ้มแป้นแล้นน หมั่นไส้จริงๆ
“แล้วไงอ่ะ” ผมตอบเสียงเรียบ
“โห่ อุตส่าน้องรหัสได้เป็นเดือนคณะเลยน่ะ ไม่ให้ร่างวัลกันหน่อยเลยหรอออ??”
“รางวัลอะไรของนาย”
“ก็รางวัลที่ผมชนะไง ,, งั้นเย็นนี้ไปดูหนังกันน่ะ” ร่างสูงดึงชายเสื้อคนตรงหน้าด้วยท่าทีที่ออดอ้อน
โอ้ยย อยากจะถีบ !
“นายไปดูเองสิ” ผมปัดมือหนาของไอเด็กบ้าออก
“โห่ ผมอยากได้รางวัลบ้างงงง แค่ดูหนังเอง” อีกแล้วว ท่าทางอย่างนั้น - -‘
“….”
“น่ะ แค่ดูหนังเองอ่ะ’
“…”
“น่ะ”
“….”
“น่ะ”
“ก็ได้ๆๆๆๆๆ กี่โมงหล่ะ” ที่ผมตกลงไปเพราะรำคาญหรอกน่ะ
“เย้ !!!! เจอกันสี่โมงเย็น ที่megabox เดี๋ยวผมจะไปรออยู่ที่ร้านเนื้อย่าง กินข้าวก่อนเข้าโรงน่ะฮยองงงง” ผมหยักหน้าตอบกลับไป
“งั้นผมไปหาเพื่อนก่อนน่ะค้าบบบบบ”
จากนั้นเด็กชายร่างสูงรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่กันเป็นกลุ่ม
หลังจากเซฮุนเดินออกไปจนลับสายตา ผมรีบหันกลับมาและเดินไปตรงที่เพื่อนๆผมยืนกันอยู่ พวกเราช่วยยกข้าวของที่ทำกิจกรรมกันวันนี้เข้าไปเก็บ
“ลู่หานนนน” ผมหันไปตามเสียงเรียก ไม่ใช่ใครหรอกกก ไอซาลาเปาสุดที่รักผมนั่นเองง -0-
“ว่าไงง” ยิ้มกลับไปพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ถือกล่องผลโหวตวันนี้
“แม่ฉันให้ชวนนายไปกินข้าวที่บ้านหน่ะ เขาคิดถึงนายมากกเลยยย เย็นนี้ว่างไหมม ???”
“ว่างสิ !!!! กำลังเบื่อๆเลย ไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่” จริงๆไม่ใช่ไม่อยากกลับหรอกคับบ แต่อยากไปกับซิ่วหมินมากกว่า
“โอเค !! งั้นเก็บของเสร็จแล้วไปกันเลยย !!!” ซิ่วหมินยิ้มแก้มปริ ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน
“สวัสดีค้าบคุณแม่” เมื่อถึงบ้านหลังที่ผมค่อนข้างคุ้นเคยดี เนื่องจากมาหลายครั้งจนตอนนี้ผมเปรียบเหมือนลูกอีกคนนึงของบ้านนี้เลยแหละ
“อ่าวลู่หานนน”
หญิงสาวมีอายุเข้ากอดผมพร้อมลูกหัวไปมาเหมือนเป็นเด็กน้อย
“เป็นไงบ้างจ๊ะไม่ได้เจอกันนานเลยย”
“สบายดีคับบบ” ผมตอบกลับพร้อมรอยยิ้มหวาน
“จ้า งั้นเดี๋ยวขึ้นไปบนห้องกับซิ่วหมินก่อนเนอะ แม่กำลังทำอาหารอยู่เลย เดี๋ยวเสร็จแม่จะเรียกลงมาทานกันน่ะ”
“ค้าบบบบ”
ผมเดินตามหลังซิ่วหมินแล้วขึ้นห้องไป
ตุ้บบบ !!
เสียงของร่างทั้งสองกระทบลงบนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าสีฟ้าสดใส ลายโดราเอม่อน ช่างเหมาะกับเจ้าของเตียงนี้จริงๆ =_=
“เหนื่อยจังเลยหว่ะ” เมื่อหัวผมตกลงหมอน ความง่วงบวกกับความอ่อนเพลียเริ่มเข้าครอบงำ
“ก็แหงล่ะ ทำกิจกรรมทั้งวันขนาดนี้”
ผมหันไปมองร่างของเพื่อนที่นอนพูดอยู่ข้างๆ
“เอ้ออ งั้นกูนอนก่อนแล้วกัน ถ้าแม่มึงทำกับข้าวเสร็จเมื่อไหร่ ปลุกกูด้วย”
“เออๆๆๆ”
ทั้งสองร่างได้จมเข้าสู่นิทราทันทีหลังการสนทนาครั้งนี้ได้สิ้นสุดลง
เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปไวเสียจนร่างเล็กคงลืมไปว่ากำลังมีใครหนึ่งคนรอเขาอยู่
ท่ามกลางความเงียบสงัดภายในร้านสวยหรูที่ออกแบบเป็นสไตล์ยุโรป โดยมีเพียงคนร่างสูงนั่งอยู่ภายในร้านพร้อมพนักงานสองสามคนที่กำลังนั่งจัดการทำความสะอาดร้านให้เรียบร้อย น
“เอ่อออ .. น้องค่ะ ร้านปิดแล้วน่ะค้ะ” เสียงของพนักงานสาวดังขึ้น
“อ๋อคับๆๆ ผมขอรออีกแปปนึงน่ะคับ เดี๋ยวพี่ผมก็คงมาแล้ว” ร่างสูงตอบกลับด้วยใจที่ยังคงมีความหวัง
“ขอโทษน่ะค่ะ พนักงานของเราก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน รบกวนออกไปรอข้างนอกด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ ”
ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นและก้าวเท้าออกจากร้านไปพร้อมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ
“สี่ทุ่มครึ่งแล้วหรอเนี่ย” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ
เขามองไปรอบๆ ตอนนี้เหลือเพียงความมืดเข้าครอบงำ มีเพียงแสงไฟตามทาง
ร่างสูงยกโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาหวังเพียงว่าจะมีสายเรียกเข้าจากคนที่เขารออยู่
“โทรไปแทบจะร้อยสายแล้ว ทำไมถึงปิดเครื่อง” ร่างสูงยังคงพูดกับตัวเอง สายตายังคงจ้องเบอร์โทรของคนที่เขารอ
เขาเดินไปที่ม้านั่งสารธารณะตัวนึง ก่อนจะทิ้งร่างตัวเองลงไป ร่างสูงเงยหน้ามองท้องฟ้าในความมืดที่ปกคลุมอยู่ พร้อมกับความเงียบสงัดที่มีในขณะนั้น
“ผมจะรอฮยองอยู่ตรงนี้น่ะฮ่ะ”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เย้ !! จบไปอีกตอนนนน
ขอโทษน้าาที่มาอับช้ามากกก ตอนนี้เป็นช่วงที่งานเข้า ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ยังไงก็จะพยายามมาอับตอนต่อไปให้เร็วที่สุด ^0^
ช่วยแสดงความคิดเห็นกันด้วยเน้อออ
เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างผลงานต่อไป ..
ความคิดเห็น