คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Mutator Gene สงครามมนุษย์กลายพันธ์ : Chapter 1
Mutator Gene
Chapter 1
6 month ago (6 เดือนที่แล้ว)
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเด็กมัธยมปลายอย่างผม เด็กตัวเล็กๆที่โตมากับสังคมแย่ๆ มีแต่การกลั่นแกล้ง มองไปทางไหนก็เจอแต่ไอพวกเก๋าตัวใหญ่ไล่เตะตูดคนไม่มีทางสู้ ขโมยแม้กระทั่งคนไม่มีตังจะกินข้าว .. ไม่มีหรอกความสงบสุขในชีวิตเด็กมัธยม แต่ยังดีที่ผมมีเพื่อน เพื่อนที่อยู่กันมาสิบกว่าปี และยังเป็นเพื่อนคนเดียวของผม ไม่ใช่ผมเข้ากับคนได้ยากนะครับ แต่พวกเขาไม่ยอมรับผมต่างหาก หาว่าอ่อนแอบ้าง หาว่าปวกเปียกบ้าง ถ้าตอนนี้ผมมีขี้หมาสักหนึ่งก่อน .. จะปาใส่หน้าพวกมันให้หมดเลย
“นี่ๆ แบคฮยอน เหม่ออะไรอยู่?” หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุดสะกิดไหล่ร่างบาง ย้ำ คิดว่าตัวเองสวยที่สุด….ในบริเวณนี้ เพื่อนคนนี้ไงครับที่ผมพูดไปเมื่อครู่
“หืมม อะไร ฉันไม่ได้เหม่ออ… ”
“หรออออออออ ฉันตะโกนเรียกนายจนคนทั้งซอยโรงเรียนจะได้ยินหมดแล้วมั้งเนี่ย”
บยอนแบคฮยอนนั่งนิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งนั้น คุยกันยังไงก็ไม่รู้เรื่องกับเจ้าแม่แห่งการเวิ่นเว้อ ขออยู่อย่างสงบดีกว่า ร่างบางหาววอดรอบนึงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะไม้ที่มีเศษอาหารหล่นเกลื่อนเต็มไปหมด
“แบค ฮยอนนนนน ฉันคุยกับนายอยู่นะ!!!!!!!” เธอคนนั้นตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง คนรอบข้างหันมามองกันเป็นตาเดียวกับเสียงแปดหลอดของหญิงสาวหน้าสวย ? คนรอบข้างที่ผมว่าก็คือเพื่อนๆมัธยมปลายรุ่นเดียวกันที่ต่างพากันมาเลี้ยงฉลองวันสุดท้ายที่จะอยู่กันอย่างมีความสุข มีความสุขตายหละ ผมเคยเห็นวันสุดท้ายของชีวิตเด็กมัธยมอย่างนี้จากรุ่นพี่ พวกเขาต่างร้องไห้พร้อมกับคำบอกลาความเป็นเพื่อนที่คบกันมานานหลายปี กับมิตรภาพที่สร้างด้วยกันมาเนิ่นนาน.. แต่ในความจริงของผม พอมาอยู่ในช่วงเวลานั้น วันที่ผมจะได้อยู่กับเพื่อนๆ? เป็นวันสุดท้าย มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีแปลกๆ นี่สินะความรู้สึกของการหลุดพ้น
“ไม่เอาหน่าเจสสิก้า ฉันขออยู่เงียบๆได้ไหม?” ร่างเล็กถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นมือข้างนึงเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำเปล่าที่วางอยู่ขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันมา หิวน้ำ”
พูดจบแบคฮยอนก็เดินออกมาจากที่ตรงนั้นไปยังโซนอาหารจากงานเลี้ยงที่ทางโรงเรียนได้จัดเตรียมไว้ให้ ทีแรกก็คิดว่าเป็นอาหารจากโรงแรมหรูระดับสี่ดาวห้าดาว แต่พอเขาเดินมาเห็น .. นี่เอามาจากตลาดนัดกันใช่ไหม ?
ร่างเล็กยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินผ่านอาหารมากมายที่วางกองอยู่ ถึงจะล่อตาล่อใจแค่ไหน แต่ก็ไม่ทำให้เขาอยากเขมือบสักนิด แบคฮยอนเดินไปหยุดอยู่หน้าโถแก้วขนาดใหญ่ที่ภายในมีน้ำสีข้นแดงสุดโปรดของเขารออยู่
เมื่อจัดการเทน้ำเฮลูบอยลงแก้วตัวเองเสร็จแล้ว ชายหนุ่มร่างบางเลือกจะไม่กลับไปที่โต๊ะทานข้าว ที่มีหญิงสาวเสียงสิบแปดหลอดรออยู่ เขามองเห็นทางสงบสุขของตัวเอง จึงเดินไปหน้าระเบียงขนาดใหญ่ที่ทำให้เห็นบรรยากาศโดยรอบของโรงเรียนในเวลานี้ ลมเย็นๆกับแสงไฟสีส้มเหลืองที่เปิดสลับกันมากมายภายล่างทำให้โรงเรียนที่เขาอยู่มาหกปีดูสวยขึ้นไปทันตา มันทำให้เขาอยากอยู่คนเดียวสักพัก
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง
ร่างเล็กไม่ได้หันไปตามเสียงนั่นแม้แต่น้อย เขายังคงให้ความสนใจกับบรรยากาศอันงดงามด้านล่าง
ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อทักซิโด้สีดำเดินมาหยุดยืนข้างแบคฮยอน แขนทั้งสองข้างท้าวไว้กับราวระเบียง มือข้างนึงถือแก้วที่ภายในมีน้ำเฮลูบอยไว้เช่นเดียวกับร่างเล็ก
“นายชื่อแบคฮยอนใช่ไหม?” ร่างสูงถามพร้อมกับหันไปมองเสี้ยวหน้าของแบคฮยอน
“อืมม” คนตัวเล็กยังคงให้ความสนใจกับบรรยากาศข้างล่างไม่คิดที่จะหันไปมองเจ้าของคำถามนั้น
“แบคฮยอนนน !!!!!!!!” เสียงสิบแปดหลอดอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นมาแต่ไกล ร่างเล็กละความสนใจกับบรรยากาศข้างล่างก่อนจะหันไปเพื่อมองหน้าชายเจ้าของเสียงทุ้มนั่น แต่แล้ว ..
“นี่นายเป็นอะไรหะ มองหน้าฉันอย่างกับเห็นผี”
“ธะ ..เธอมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
"ก็พึ่งเดินมาถึงเนี่ยย"
"หรออ เธอเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้ไหม ?"ร่างเล็กถาม ไม่พอยังพยายามชะเง้อหาชายปริศนาคนนั้น
“ผู้ชายอะไรรร ฉันเป็นผู้หญิงยะ!” หญิงสาวทำเสียงฟึดฟัด
“ไม่ๆ ฉันหมายถึงก่อนหน้านี้"
“จะบ้าหรออ ฉันเดินมาก็เห็นนายยืนอยู่คนเดียว”
“…” แบคฮยอนยืนงงเป็นไก่ตาแตก ร่างเล็กทอดสายตามองไปรอบข้าง แปลก แล้วเมื่อกี้คนที่คุยกับเขาคือใคร จะหาว่าผมบ้าก็ได้ แต่เมื่อกี้มีผู้ชายเสียงทุ้มร่างสูงมายืนอยู่ข้างๆเขาจริงๆสาบานได้! ยังไม่ทันเห็นหน้าตาของคนนั้นด้วยซ้ำ ชายกับเสียงปริศนานั่นคือใคร …
“กลับมาแล้วครับ !” ร่างเล็กตะโกนบอกทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน บ้านทรงสไตล์ยุโรปที่แม่เขาชอบ ชั้นวางรองเท้าที่จัดอย่างเป็นระเบียบถูกเติมเต็มด้วยรองเท้าอีกคู่นึงของเขา ห้องรับแขกที่จะถึงเป็นห้องแรกเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน เป็นห้องที่ครอบครัวของเขามักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะที่สุด มีทีวีจอใหญ่ยักษ์ที่ติดไว้บนฝาผนังพร้อมกล่องสัญญาณทีวีดิจิตอลที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง
“กลับมาแล้วหรอลูก ไปอาบน้ำอาบท่าล้างเนื้อล้างตัวไป ดูสิกลิ่นเหม็นลอยมาเชียว”
“แม่อะ !” ร่างเล็กทำหน้าย่นเล็กน้อยหลังโดนแซว
“โถถถ ล้อเล่นนิดหน่อยเองง ทำไมต้องทำหน้าตาเป็นตูดลิงขนาดนั้นด้วยหละหืม” คุณแม่เห็นหน้าลูกรักของตัวเองก็อดที่ยิ้มกับท่าทางนั้นไม่ได้ เด็กน้อยยังไงสิบแปดปีผ่านมาก็ยังอยู่อย่างนั้น
‘ผมจะไม่ยอมให้คนพวกนั้นมาแปดเปื้อนความเป็นมนุษยชาติของพวกเรา คนเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อครอบครัว ต่อลูกหลานพวกท่าน คนพวกนั้นผิดปกติ !! มันจะทำให้ประเทศชาติเดือดร้อน ซึ่งตั้งแต่วันนี้ผมจะมีการลงทะเบียนการจับมนุษย์กลายพันธ์ !....’ หลักจากเสียงท่านประธานาธิบดีจบลง ตามมาด้วยเสียงของประชากรมากมายโห่ร้องด้วยความสะใจ
“ข่าวอะไรอะแม่” ผมยืนอยู่นิ่งสายตาจดจ้องอยู่บนจอโทรทัศน์อย่างสนอกสนใจ
“ก็วันนี้นะสิ เขาบอกกันว่ามีพวกกลายพันธ์พยายามจะสังหารประธานาธิบดี เขาคงทนไม่ไหวเลยต้องออกแถลงการณ์ขนาดนี้ เห้ออ แม่หละกลัวคนพวกนี้จริงๆ เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ”
จริงๆตัวผมเองก็ไม่ได้ติดตามเรื่องอย่างนี้มากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามนุษย์กลายพันธ์เป็นยังไงเพียงแต่เคยได้ยินบ่อยๆ แต่แม่ผมนี่สิ แอนตี้ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เธอมักจะพูดกับผมให้ระวังตัวจากคนพวกนี้ แต่คิดดูแล้วตั้งแต่เกิดมา ผมก็ยังไม่เคยเจอมนุษย์กลายพันธ์อะไรนั่นตัวเป็นๆเลย
“นี่ก็ดึกมากแล้ว ไปอาบน้ำได้แล้วไป” แบคฮยอนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะขอตัวขึ้นมาบนห้องเพื่อทำธุระส่วนตัว
หลังจากที่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว ร่างเล็กรีบตรงไปยังเตียงนอนและล้มตัวลงทันที แบคฮยอนจัดท่าทางตัวเองให้อยู่ในท่าที่สบาย ร่างเล็กหลับตาลงในหัวของเขากำลังเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนนั่น เรื่องของผู้ชายคนนั้น อดคิดไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน .. หลังจากยืนคุยกับเจสสิก้าสักพักผมก็ขอตัวกลับก่อนเพราะมันก็ดึกมาก ยอมรับว่าตลอดทางที่ผมกลับมาผมนึกถึงแต่ชายปริศนาคนนั้น เห้อออ ไม่เอา ไม่คิดและ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว คนพิลึก
ปึก !!
เสียงสิ่งของบางอย่างตกลงพื้น ทำให้ร่างเล็กที่กำลังเข้าสู่นิทราต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหาต้นกำเนิดเสียง
“ฟูวว ก็แค่ปากกา” ปากกาด้ามสีทองตกลงมาจากโต๊ะทำการบ้านของเขา เห็นดังนั้น ร่างเล็กจำต้องรวบผ้าห่มไปอีกทางเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นได้สะดวก เขามองไปบนโต๊ะ มันน่าแปลกใจ ลมก็ไม่มี มันตกลงมาได้ยังไง แบคฮยอนเลิกสนใจก่อนจะก้มลงไปเก็บปากกาแต่ว่า ..
ครืดด .. ปากกามันสั่นเล็กน้อย
ร่างเล็กยืนนิ่ง จ้องไปที่ปากกาด้ามสีทองที่ตอนนี้มันนิ่งไปเรียบร้อย ถามว่าช็อคไหม .. อาจมีบ้าง แต่เขามั่นใจว่ายังไงก็คงไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ วิญญาณ เรื่องผีๆอะไรนั่นหรอก ใช่ไหม? ร่างเล็กสะบัดหัวรอบนึงเพื่อเตือนสติตัวเองก่อนจะเอื้อมมือเพื่อไปหยิบปากกา แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ..
พรึบบบ !
ปากกาด้ามสีทองที่เชื่อว่าหนักกว่ากระดาษ มันพุ่งมาใส่มือเขาเอง ด..โดยไม่มีใครหยิบมันขึ้นมา บรรยากาศในห้องนอนสีฟ้าขาวก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างเล็กยืนอึ้งมองสิ่งที่อยู่ในมือ…
เขาเขวี้ยงปากกาด้ามนั้นทิ้ง ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วกดไปเบอร์ปลายสายทันที
“ฮัลโหล เจสสิก้า … พรุ่งนี้เธอว่างไหม…”
แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาในกระจกห้องรับแขกที่มีเพียงร่างเล็กและเพื่อนสนิท ไม่มากนักที่คนอย่างแบคฮยอนจะไปบ้านเพื่อนหรือเที่ยวที่ไหนก็ตาม ถึงตัวเขาเองจะเป็นคนมีเพื่อนน้อย แต่สำหรับเพื่อนสนิทของเขาก็ยังนับครั้งที่มาบ้านหลังนี้ได้ .. และตั้งแต่ร่างเล็กมาที่นี่ก็ยังไม่เอ่ยปากพูดอะไรสักคำ
“นี่แบคฮยอน นายมีอะไรก็พูดสิ เงียบอย่างนี้ฉันจะรู้ได้ไงเล่า” หญิงสาวพูดอย่างเป็นห่วง จากสีหน้าของแบคฮยอนที่ดูไม่ดีนัก
“…”
เงียบ……………..กริบ
“ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ มีอะไรเธอบอกฉันได้หมดแหละ”
ร่างเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิทตรงหน้า
“คือว่า … ”
“คือ?”
“คืออออออ …..” แบคฮยอนลากเสียงยาว ใจก็อยากจะพูดแต่กายมันสั่งให้เก็บเอาไว้
“คืออะไร?”
“คือว่าาา…”
“โอ้ยย ไว้คิดออกเมื่อไหร่ไปตามฉันบนเตียงแล้วกัน” พูดจบสาวร่างบางลุกขึ้นทันที
“ฉันคิดว่าฉันมีพลังพิเศษ !!!”
เงียบกริบอีกครั้ง....
“ฮึ ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของหญิงสาวดังขึ้นทันที “นี่นายเล่นมุขอะไรเนี่ยยย ฉันโครตขำเลยย” เจสสิก้าจับท้องตัวเองด้วยอาการที่ขำจนเหมือนคนบ้า
่“เห็นไหม บอกไปเธอก็ไม่เชื่อ”
“เรื่องนี้มันน่าเชื่อถือที่ไหนกันเล่าแบคฮยอนนน วันนี้ที่นายมาจะมาเล่นมุขให้ฉันขำสินะ จะบอกว่าตัวเองเป็นสไปเดอร์แมนที่โดนแมงมุมกัดแล้วตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังพิเศษอะนั่นน ฮ่าๆๆ ฉันขำอะแบค นี่ วันหลังนะถ้าจะขอคำแนะนำ นายควร ห…” ร่างบางเงียบลงทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ปากอ้าออกกว้างด้วยความตกใจ
แก้วน้ำที่ลอยขึ้นมาเหนืออากาศ โดยไม่มีใครไปสัมผัสมัน
“ทีนี้เชื่อฉันได้รึยัง ?”
"นะ ..นายเป็นมนุษย์กลายพันธ์"
แบคฮยอนเดินเตะฝุ่นโซซัดโซเซอยู่ข้างถนน จริงๆตัวผมไม่ควรมาเดินอยู่อย่างนี้ ถ้าผมไม่ทำสิ่งนั้นให้เพื่อนคนนั้นดู หลังจากที่ผมพยายามพูดเรื่องที่คิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษให้เจสฟัง เขาดันหาว่าเป็นเรื่องตลก ตัวผมเองเลยต้องพยายามแสดงอะไรบางอย่างให้เขาเชื่อ แต่ไม่คิดว่าเมื่อทำสิ่งนั้นไปแล้ว เขาจะบอกว่าผมเป็นมนุษย์กลายพันธ์และตอบกลับว่า “เอ่ออ แบคฮยอน คือ พ่อแม่ฉันบอกว่าจะกลับมาแล้วว ความจริงนายควรกลับบ้านได้แล้วนะ” ตัดบทกันดื้อๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมาเดินโดดเดี่ยวอยู่แบบนี้
เมื่อร่างเล็กเดินมาถึงบ้านก็ต้องตกใจ เมื่อหน้าบ้านของเขามีรถตำรวจสามสี่คันจอดอยู่ เห็นดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งเข้าบ้านทันที ..
“ฉันบอกแล้วว่าบ้านเราไม่มี !!” เสียงแม่ของเขาตะโกนเถียงกับผู้ชายในเครื่องแบบ มีตำรวจมากมายยืนรายล้อมเต็มไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นอะแม่” เห็นสีหน้าของแม่ตัวเองก็อดที่จะตกใจไม่ได้
แบคฮยอนรีบวิ่งเข้าไปหาตัวแม่สุดที่รักอย่างรวดเร็ว ในใจเอาแต่คิดว่าเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น
“คนพวกนี้บอกว่าบ้านเรามีมนุษย์กลายพันธ์ แม่บอกไปแล้วว่าไม่มีพวกเขาก็ไม่เชื่อ !” ร่างเล็กชะงักทันทีเมื่อได้ยิน … แบคฮยอนเกิดอาการกลัวขึ้นมา สายตากวาดไปรอบๆเห็นคนในชุดเครื่องแบบเต็มไปหมด คนพวกนี้ ..
“มีคนแจ้งพวกเรามา ดังนั้นผมคงต้องเชิญพวกคุณสองคนไปสอบสวนกันหน่อยนะครับ” ชายคนนึงพูดขึ้นเขายืนจ้องคนสองคนอย่างจับพิรุธ แววตาของตำรวจพวกนั้นทำให้แบคฮยอนกลัวจนตัวสั่น
“ม..ไม่ ผมไม่ไป” เหงื่อซึมออกมาเป็นจุดๆ ความกลัวเริ่มครอบงำจิตใจ ทุกอย่างกดดันตัวเขา
ครืดด ….. ทุกอย่างในบ้านเริ่มสั่นสะเทือน โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานโยกไปมา ดวงไฟทุกดวงกระพริบถี่ๆ เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
ตำรวจทุกนายมองหน้ากัน สื่อสารกันด้วยสายตาประมาณว่ารู้แล้วว่าใครคือคนที่พวกเขาต้องการ นายตำรวจคนนึงพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหยิบกระบองออกมาจากเข็มขัดด้านหลัง และฟาดลงบนตัวของร่างเล็ก แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสโดนตัวของเขา ร่างของชายคนนั้นกระเด็นไปกระแทกกับเสากลางบ้านด้วยแรงบางอย่างที่มองไม่เห็น
แม่ของเขายกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ น้ำตาใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาพร้อมมองหน้าลูกตัวเอง
“แม่คร…”
“ไม่ ไม่ๆๆๆ" เขาสายหัวไปมาด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกของเขาจะ ... เหมือนใครคนนั้น ... คนที่เขาพยายามหลีกหนี
"แม่...."
"แก ไม่ ใช่ ลูก ของ ฉัน ” หญิงวัยชราพูดเน้นเป็นคำๆให้ได้ยินอย่างชัดเจนพร้อมเดินถอยหลังหนีด้วยความกลัว
เห็นดังนั้นตัวเขาเองจำต้องหยุดมองแม่ตัวเองอยู่เฉยๆ ความไม่เข้าใจเกิดขึ้นมากมายอยู่ในหัว
“อยู่นิ่งๆ!!” ตำรวจหญิงคนนึงพูดขึ้น เขาหันกระบอกปืนไปทางร่างเล็กที่พร้อมจะยิงได้ทุกเมื่อ
“….” อยู่ๆน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากตา ความสับสนเกาะกินหัวใจ มันต้องไม่เป็นอย่างนี้ มันต้องไม่เป็นอย่างนี้ มันต้องไม่เป็นอย่างนี้ !!! ร่างบางเอาแต่พูดคนเดียวอยู่ในใจ ก่อนที่ไฟทั้งบ้านจะดับ และมีเสียงฝีเท้าใครคนนึงเดินเข้ามาในบ้านของเขา คนๆนั้นไม่ใช่ตำรวจ คนๆนั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่
ใครคนนั้นที่ผมรู้สึกคุ้นเคย
เขาไม่ได้เพียงก้าวเข้ามาในบ้าน แต่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตผมด้วย
To be continue ..
Chapter 1 สำเร็จแล้วเย้ !! ทั้งตอนนี้พูดถึงแบคฮยอนหมดเลยยย อย่าพึ่งเบื่อกันก่อนเน้ออ ตอนหน้าๆรับรองมีตัวละครอื่นเข้ามาอีกเยอะแน่
ติดแท็ก #ฟิคมนุษย์กลายพันธ์
Twitter: @Lolicandy_blue
อ่านจบแล้วรบกวน Comment ด้วยนะฮับ เพื่อกำลังใจในการสร้างผลงานต่อไป
ความคิดเห็น