คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จิระราชดำรง
โนวาร์ เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่และเป็นเมืองที่ประชากรในประเทศอะลามอาศัยอยู่หนาแน่นมากที่สุด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ราบเรียบติดกับทะเลอันกว้างใหญ่ จากทิศตะวันออกไปจนถึงทิศตะวันตกมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เป็นภูเขาขนาดใหญ่สามลูกสลับกับที่ราบ ทิศเหนือและใต้ติดกับพื้นแผ่นดินของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เมืองหลวงมีฤดูกาลที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ใจกลางเมืองมีการแบ่งกระจายอำนาจออกได้ถึงยี่สิบสามเขตอำนาจ หรือที่ชาวเมืองเรียกกันว่า ‘เขตแบ่งโนวาร์’
หากจะกล่าวถึงผู้ที่มีอำนาจกว้างใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วละก็คงไม่พ้นตระกูลจิระราชดำรง ผู้ที่มีอิทธิพลกว้างขวางในด้านธุรกิจ และกองทัพของประเทศ ทุกคนในตระกูลต่างก็มีอาชีพหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ตำแหน่งหน้าที่การงานแต่ละคนก็สูงส่งไม่แพ้กัน ทำให้สื่อต่างๆชอบมาจัดเก็บข้อมูลทรัพย์สินของแต่ละตระกูลที่ทำธุรกิจที่ต่างกันเพื่อหาสี่ตระกูลที่มีอำนาจที่สุดในประเทศทุกๆสี่ปี
ภายในเวลาไม่นานอำนาจของสี่ตระกูลก็ออกมาเป็นที่สนใจของมวลประชากรของเมืองและรัฐบาลที่เป็นผู้ปกครองประเทศยังต้องให้ความสนใจกับการจัดอันดับของสื่อด้วย เพราะสี่ตระกูลนี้คือบริษัทที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองให้เติบโตมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปี และทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของเมืองโนวาร์ก้าวขึ้นมาอยู่ลำดับหนึ่งของประเทศในระยะเวลาสามปีกว่าเท่านั้น
ตระกูลจิระราชดำรง เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแพลนนิ่ง เอ็นเตอร์เทนเมน ผู้ที่เป็นคนผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ รถยนต์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ตระกูลอิศรา เจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์ ผลิตเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ส่งออกไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ตระกูลจันทราวงศ์ เจ้าของบริษัทเครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เครื่องนอน
และตระกูลธานินทร์ เจ้าของบริษัทเหล็ก เหล็กกล้า เรือ น้ำมันเชื้อเพลิง และอาหารแปรรูป
หากแต่ลูกชายคนเล็กของตระกูลจิระราชดำรงกับทำงานแตกต่างจากคนในตระกูล แม้ทุกคนจะมีอาชีพที่ต่างกัน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันก็คือตำแหน่งหน้าที่และชื่อเสียงที่โด่งดัง เขาคนนี้กับไม่ชอบการเป็นที่สนใจ ไม่ชอบที่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังว่าจะมีคนเห็นแล้วเอาไปทำให้ตระกูลเสียหาย เขาเลยตัดสินใจที่จะมาเป็นนักแข่งอีสปอร์ตในสโมสรที่เขากับเพื่อนก่อตั้งขึ้น
นับตั้งแต่วันที่เขากับเพื่อนรวมกลุ่มกันไปแข่งขันในรายงานเกมส์เพื่อความสนุก ตอนนี้ก็ผ่านมาสามปีแล้วที่พวกเขาชนะการแข่งขันรายการ Super Novar Esports Game 2020 จนจับมือกันก่อตั้งบริษัทเกมส์เมอร์อีสปอร์ตขึ้น ใครบ้างจะคิดว่าชายหนุ่มที่อายุยี่สิบสองปีจะมาเอาจริงเอาจังจนก่อตั้งบริษัทขึ้น จากการเล่นเกมส์เพื่อคลายความเครียดจากการเรียนกับกลุ่มเพื่อน คิดแล้วก็อยากจะหัวเราะจริงๆ เขาไม่อยากคิดเลยจริงๆว่าจะมีวันนี้ที่ต้องมาเป็นซีอีโอบริษัท ทั้งๆที่เขาพยายามจะผลักไสมันมาตั้งแต่เด็ก สุดท้ายก็ต้องวนกลับมาเจอมันอีกครั้ง
‘คนนั้น’ ชื่อในวงการเกมส์ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อที่จะปิดบังตัวตนของตัวเองจากตระกูลจิระราชดำรง ที่ไม่ว่าคนในตระกูลจะทำอะไรก็ต้องขึ้นข่าวหน้าหนึ่งของอีกวันในทันที เขาไม่ชอบความวุ่นวายที่เขาพบเจอมาตั้งแต่เด็กจนต้องปิดบังใบหน้าเมื่อออกไปข้างนอก ความรู้สึกที่โหยหาอิสระของเขานั้นแรงขึ้นเมื่อถูกปาปารัสซี่แอบซุ่มติดตามในขณะที่เขาไปโรงเรียนและออกไปเที่ยวนอกบ้าน ทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลานานนับปี แต่ก็ยังมีเพื่อนที่เข้าใจและช่วยให้กำลังใจเขาตลอดเวลาที่เขาตัดสินใจเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน
ชื่อเกมส์เมอร์คนนั้นโด่งดังขึ้นมาชั่วข้ามคืน หลังจากการแข่งขันจบสิ้น ทุกคนต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้าหมาป่าสีดำลายทองเหลืองอร่ามว่าจะมีรูปลักษณ์เป็นแบบไหน แต่ก็ยังไม่มีใครได้เห็นใบหน้านั้นนอกจากกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยกัน และสาวน้อยที่มีหน้าตาเหมือนกระต่ายน้อยที่อยู่ข้างบ้านของร่างสูง
เวลานานนับวันคนนั้นยิ่งเปร่งประกายขึ้นมาในวงการสตรีมเมอร์หลังจากที่เขาเอ่ยบอกลาการเป็นนักแข่งอีสปอร์ตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ความโด่งดังของเขาก็ไม่ใช่ว่าทุกคนชอบนัก บางคนก็มีอาการแซะถึงเขาเบาๆในสตรีมของตัวเอง และยังมีแฟนคลับของนักแข่งบางคนมาด่าว่าเขาเป็นประจำ จนเขาต้องมีทนายความประจำบริษัทเพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์ต่างไม่ให้มันร้ายแรงจนเกินเหตุ ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นลำดับ
“ลงมาแล้วเหรอ”เสียงแหบแห้งที่แฝงไปด้วยความดุดันดังลอยมาจากทางห้องอาหารเอ่ยขึ้น
“สายป่านนี้แล้ว ทำไมเพิ่งจะลงมา”สายตาจับจ้องอ่านหนังสือพิมพ์ อีกมือหนึ่งก็หยิบแก้วชาที่โต๊ะยกขึ้นมาดื่ม
“ผมลงมาเวลานี้ประจำนะครับ” ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะยกมือส่งสัญญาณให้แม่บ้านยกอาหารมาเสริฟ
สิ้นเสียงหลานชาย ชายยชราก็ขมวดคิ้วแสดงสีหน้าขุ่นเคืองใจให้กลับหลานชายเล็กน้อย ก่อนจะวางหนังสือพิมพ์และแก้วชาลง แล้วเอื้อมมือไปจับข้อมือข้างขวาของหลานชายขึ้นมามองดู ออกแรงกดบริเวณนั้นแรงๆทีหนึ่ง
“โอ๊ย! ปู่”แสดงสีหน้าเจ็บปวดขึ้นมาทันที
ด้านข้างของโต๊ะอาหารที่มีเลขาของคนเป็นปู่อยู่ด้วยก็รีบเดินเข้ามาดูอาการของคุณชายเล็กของบ้านทันที
“คุณทาวเวอร์เป็นยังไงบ้างครับ”เลขาคนสนิทสอบถามอาการ
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับคุณลุง ผมก็แค่โดนคนแก่แกล้งก็เท่านั้นแหล่ะครับ”ชายชราที่ถูกหลานบอกว่าตัวเองแก่ก็แสดงสีหน้าขุ่นมัว ก่อนจะพยายามเอื้อมมือเพื่อบิดหูของชายหนุ่ม แต่เขาก็หลบไปได้ คนเป็นเลขานั้นได้แต่ส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมการยอกล้อของปู่หลานคู่นี้ ทุกคนในบ้านต่างเคยชินกับการที่ปู่หลานยอกล้อเล่นกันราวกับเด็ก
ทาวเวอร์ยกมือขึ้นมานวดข้อมือพรางหมุนข้อมือสองสามรอบ พูดต่อว่า
“ทำไมวันนี้ปู่ว่างล่ะครับ ปกติเดือนนี้ผมเห็นว่าปู่ชอบไปตรววจงานเองไม่ใช่เหรอครับ”
“ฉันเป็นประธานบริษัท อยากจะหยุดบ้างไม่ได้หรือไงกัน”ชายชราหันหน้ามองหลานชาย
“ว่าแต่แกเถอะ ตอนนี้ทำบริษัทอะไรนั้นของแกไปถึงไหนแล้ว ไม่ใช่ทำมาแล้วเจ๋งนะ”
“แต่ผมว่าคุณทาวเวอร์น่าจะพาบริษัทไปได้ไกลมากกว่านะครับ จากที่ผมดูหุ้นต่างๆมา ถือว่าดีมากเลย”เลขาตอบคำถามเจ้านายตัวเองทันที
“เอ๊ะ! นี่นายเป็นคนของใครกันแน่เนี่ยฮะนพ”
“ผมเป็นคนของคุณท่านครับ แต่ผมแค่พูดตามสิ่งที่ผมหาข้อมูลมาเท่านั้นเองครับ”
“นายนี่มัน…”
“พอเถอะครับ ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก ปู่ก็แค่ยอมรับความจริงที่ผมทำบริษัทมาได้ดีก็พอแล้วครับ”ชายหนุ่มพูดห้ามปราม ใบหน้าภูมิใจที่แสดงออกว่าตัวเองเก่งแค่ไหน
“แกนี่มัน…”ปู่พิบูลมีสีหน้าเหนื่อยใจ
“แต่สมัยมัธยมคุณทาวเวอร์ก็สอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนตลอดเลยนะครับ ถึงแม้ว่าช่วงสองสาปีหลังจากไม่ได้ไปโรงเรียนกับเพื่อนก็ยังทำได้ขนาดนี้ นับว่าเป็นยอดอัจฉริยะได้เลยนะครับคุณท่าน”
ชายชราตีหน้านิ่ง“มันก็แค่สุ่มทายคำตอบถูกแค่นั้นแหละ”
ทาวเวอร์ยกยิ้มมุมปาก “ปู่อยากปากแข็งไปหน่อยเลย ผมแค่เก่งกว่าปู่ตอนสมัยหนุ่มๆ”
บทสนทนาของปูหลานเรียกรอยยิ้มให้กับเลขาคนสนิทและแม่บ้านที่อยู่ในห้องได้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะชอบเห็นคนเป็นหลานจะกวนคนปู่อยู่เป็นประจำก็ตาม
พิบูล จิระราชดำรง คุณปู่ที่ปีนี้อายุอานามเกือบจะครบหกสิบปี อดีตเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบกที่เมืองโนวาร์ นายทหารที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุดที่เคยมีมา ปัจจุบันได้ลาออกมาพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนจะผันตัวมาดูแลกิจการด้านต่างๆของตระกูล
“อย่าลืมไปตรวจกับชวินทร์ล่ะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ผมว่าปู่คิดมากเกินไปแล้ว”ทาวเวอร์พูดตอบ มองข้อมือขวาของตัวเองที่เป็นรอยแดงและยังหลงเหลือความเจ็บปวดจากการที่ปู่บีบข้อมือ
ปู่พิบูลได้ยินดังนั้นก็หันมองทาวเวอร์ที่แสดงสีหน้าเจ็บปวด แต่ยังพยายามอดทนกล้ำกลืนไม่อยากให้เขาเห็น หากเมื่อก่อนเขาใส่ใจหลานชายมากกว่านี้ หลานคนนี้คงไม่ต้องปิดบังตัวตนอยู่ยาวนานจนถึงปี
“บอกให้ไปก็ไปเถอะ”
“ครับๆ ผมไปบริษัทก่อนนะครับ”ทาวเวอร์เอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่ทาวเวอร์เดินออกไป ยังมีสายตาของชายชราคนหนึ่งจ้องมองชายหนุ่มจากทางด้านหลัง ดวงตาคมสั่นระริกฟ้องให้เห็นชัดว่ารู้สึกผิดและขอโทษ ก่อนจะหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆซ้ำแล้าซ้ำเล่า สกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ร่วงล่นลงมาอาบแก้ม
เขาไม่รู้เลยว่าหลานชายคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ สีหน้าท่าทางอารมณ์ช่วงวัยเด็กที่แสดงออกมาอย่างสดใส น่ารัก หลานชายที่ชอบทำอะไรใหม่ๆมากมายในช่วงนั้นหายไปตั้งแต่ตอนไหน แม้เขาจะแสดงอารมณ์ให้กับคนในครอบครัว สำหรับคนภายนอกแล้วนั้นเขาคือหลานชายที่ไม่มีตัวตนของตระกูล
…
บริษัทเกมส์เมอร์อีสปอร์ตของทาวเวอร์ตั้งอยู่เมืองโนวาร์ทางฝั่งที่ติดกับทะเล ในช่วงฤดูหนาวของเมืองมีอากาศหนาวเย็นไม่ค่อยมีหิมะตกโปรยปรายตามเมือง
เวลาสี่ทุ่มบนถนนเต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา ตึกลาข้างถนนเต็มไปด้วยแสงสีจากหลอดไฟที่ประดับประดาเต็มไปหมดทั่วทุกที่ โดยเฉพาะย่านช้อปปิ้งชื่อดังต่างๆ ทำให้เมืองโนวาร์ดูมีชีวิตชีวามากที่สุดในช่วงนี้ ยิ่งเมื่อใกล้เวลาเทศกาลคริสต์มาสยาวไปจนถึงช่วงปีใหม่ เมืองทั้งเมืองจะยิ่งสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงยาว ท่าทางที่ดูเหน็ดเหนื่อย ให้ความรู้สึกเบื่อหน่าย สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบง่าย
เขาเอียงตัวยืนพิงกระจกใสห้องทำงาน พรางก้มหน้ามองถนนที่มีรถติดกันมากมาย แสงสีไฟนีออนของรถส่องสว่างจ่อไปตามทางของเมือง ไหนจะเมืองที่คึกคะนองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย
มือแกร่งเรียวยาวดุจไข่มุก หมุนแหวนเงินที่มีลายเรียบง่ายเล่นไปพรางกรุ่นคิดถึงเจ้าของแหวนที่ชอบโทรมาในช่วงดึกดื่นของทุกวัน เจือไปด้วยรอยยิ้มโค้งมนยั่วยวนที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น
หน้ากากหมาป่าที่แฟนคลับตั้งฉายาให้ว่าเป็นหมาป่าเดียวดาย ยามที่เล่นเกมส์ชอบแสดงสีหน้าออกถึงความรู้สึกสนุกสนาน แต่ในยามที่เกมส์จบลงเขากลับปลีกตัวออกมาจากสนามอย่างรวดเร็ว
ตรื๊ด ตรื้ด ตรื๊ด ติ๊ด
“ฮัลโหลครับ”ชายหนุ่มขานรับปลายสายเสียงอ่อนนุ่ม ขาเรียวยาวก้าวเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานอย่างเชื่องช้า เชิดหน้าขึ้นนิดหน่อยเพื่อรับลมเย็นจากครื่องปรับอากาศ
ใบหน้าที่ไม่ว่าจะมองไปทางมุมด้านไหนก็ดูดีจนหลายคนอิจฉาตาร้อน ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนองศาหรือกรอบรูปใบหน้าล้วนสมบูรณ์แบบสมกับเป็นคนจากตระกูลจิระราชดำรง
“เธออยู่ไหนเหรอ เรามาหาที่คอนโดไม่เจอเลย”น้ำเสียงเหนื่อยล้าจากปลายสายเอ่ยถาม
“ตอนนี้อยู่ที่บริษัทครับ หาอะไรทานก่อนได้เลย”
“งึ เทียอยากกินกับทาวอะ เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ”
“ไม่ต้องรอครับ เดี๋ยวก็เจ็บท้องอีก อย่าดื้อเข้าใจไหมหืม”ดวงตาคมกริบก้มหน้ามองดูนาฬิกาหรูที่ข้อมูล
“งือ แต่เทียอยากกินข้าวกับแฟนอ่ะ”
“แต่พี่ยังทำงานอยู่ น่าจะได้นอนที่นี้ เดี๋ยวพี่รีบเคลียร์งานแล้วหาวันว่างไปเที่ยวด้วยกัน”
“แต่เทียยังไม่แน่ใจตารางเลยนะ ว่าจะมีวันว่างช่วงไหน”หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่รอได้”ทาวเวอร์พูดออกมาด้วยความเข้าใจอาชีพของแฟนสาว
“โอเคค่ะ พี่อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ ถ้าหนูรู้ว่าพี่ไม่กินแล้วล่ะก็หนูจะไม่คุยด้วยสามวันเลย”
“รับทราบครับคุณแฟนสาว”แล้วเขาก็วางสาย
อาชีพไอดอลนักร้องของแฟนสาวของเขานั้น เป็นอะไรที่มีข้อจำกัดมากมายสำหรับนักร้องรุ่นใหม่ กว่าเธอจะทำตามความฝันของตัวเองได้ เธอต้องผ่านการฝึกฝนนานนับหลายปี เพื่อที่จะเติบโตเป็นไอดอลที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะฝึกด้านการร้องเพลง การเต้น การแสดง การออกรายการและการฝึกบุคลิกภาพที่ทางต้นสังกัดจัดทำขึ้น
ในช่วงที่เธอตัดสินใจไปตามความฝัน เขาเฝ้ามองดูเธอฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนเข้าไปเป็นเด็กฝึก และได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวอย่างที่ตั้งใจไว้
ในอดีตภาพลักษณ์ของไอดอลสาวที่แฟนคลับมองเห็นหญิงสาวคนผ่านทางสื่อสังคมโซเซียลออนไลน์นั้น ดูเหมือนมันจะเป็นนิสัยที่แท้จริงของสาวๆ แต่แทบไม่มีใครรู้เลยว่าตัวตนจริงๆ ของพวกเขาเป็นยังไง เพราะส่วนใหญ่พวกเขาทำไปตามสคริปต์ที่บริษัทให้มา จึงทำให้แฟนคลับหลายคนมองเห็นเฉพาะภาพลักษณ์ที่ดี และหลายวงมีบริษัทชอบสร้างตัวตนให้พวกเธอเป็นสาวน้อยน่ารักสดใส เพราะหลายบริษัทชอบเดบิวต์วงที่สมาชิกมีอายุเฉลี่ยสิบแปดปี
Moon Star เดบิวต์ขึ้นมากับมินิอัลบั้ม ‘New Gen’ พร้อมกับภาพลักษณ์ที่แตกต่างมีสไตล์ที่หลากหลายของแต่ละเมมเบอร์ที่จะมารันวงการเพลงของประเทศ
ความคิดเห็น