P R I V A T E .

ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

แคมเปญ 2 ถ่ายรูปกับสัตว์

ชื่อเล่น :  ตามฝัน

TEAM : พี่พิชญ์ชี่

ความรู้สึกเมื่อได้รับโจทย์ :  บ้าไปแล้วววววววววววว *ตะโกนในใจแบบดังให้ถึงหูทุกคน 555  แต่ฝันคิดแบบนี้จริงๆนะ อะไรยังไง เราจะไปถ่ายกับสัตว์ที่พูดๆมาทั้งหมดได้ยังไง จะบ้าหรอ!  ถ้าเป็นสัตว์แบบนี้จะไม่ว่าเลย…
https://upic.me/i/49/article-2310929-195d33ee000005dc-524_634x613.jpg
           อุ๊ป! ฝันผิดไปแล้วค่ะฝันขอโทษ ฝันแค่อยากเห็นคนไทยอารมณ์ดี(เหมือนมันจะออกทะเลไปไกลแล้ว =_=) คือฝันดูสติแตกไหมล่ะ? เพราะสติแตกนิดๆไงเลยทำให้ฝันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ 555  กลับ มาเข้าเรื่องกันเถอะ  นั่นแหละค่ะอย่างที่บอก  ฝันไม่คิดว่าจะถ่ายกับมันได้เลยนะตอนแรกอ่ะ  กลัวสิงโตงาบหัวบ้าง  กลัวลิงมันอยู่ไม่เฉยบ้าง  และอื่นๆอีกหลายแบบที่ตอนนั้นหัวมันจะคิดได้  แต่แบบโลกโซเชี่ยลเดี๋ยวนี้มันกว้างไกลอ่ะเนาะ ฝันเลยไปหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมา  ก็เห็นเขาก็ถ่ายกันเยอะแยะนะ  ถ่ายกับจระเข้เลยยังมี  เพราะฉะนั้นกับอิแค่สัตว์ที่อยู่ในแคมเปญเหล่านี้แค่นั้นเอง  ทำไมฝันจะทำเหมือนที่ทุกคนทำไม่ได้ ก็เลยพยายามแข็งใจสู้กับสัตว์เหล่านี้ค่ะ  จริงๆที่น่ากลัวๆน่ากลัวก็มีแค่สิงโตนะ  อย่างอื่นดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่สำหรับฝัน

อธิบายการทำแคมเปญสำหรับภาพเดี่ยว :
            เนื่องจากฝันเป็นคนตัวไม่ค่อยใหญ่มาก  ชุดที่ฝันได้จึงเป็นชุดแบบที่หนึ่งซึ่งเป็นชุดคลุมปิดไหล่ทั้งหมด ทำให้ดูไหล่กว้างจากเดิมเข้ามาเล็กน้อย  ส่วนกระโปรงนั้นมีลูกเล่นพรางตาให้ดูเอวเล็กลง  ฝันสวมถุงน่องลายดอกไม้โทนสีครามซึ่งคล้ายๆโทนสีน้ำเงินของกระโปรง  ก่อนจะสวมร้องส้นสูงสีน้ำเงินเข้ม  ส่วนทรงผมในวันนี้ฝันยกผมส่วนหน้าตีกระบังเป็นรูปสามเหลี่ยม  ผมที่เหลือรวมตึงยกสูงเป็นหางม้า ยีปลายผมเล็กน้อยให้มันฟู เพื่อที่ลักษณะจะได้คล้ายสัตว์ของฝันในวันนี้
            เมื่อถึงเวลาทำแคมเปญของฝัน  สัตว์ที่ถูกเลือกให้มาร่วมแคมเปญกับฝันในวันนี้คือม้าลายค่ะ  ตอนรู้ว่าตัวเองได้ม้าลายฝันถึงขนาดไปหาข้อมูลเกี่ยวกับม้าลายมาเลยนะว่ามัน นิสัยเป็นยังไงบ้าง  แต่ถ้าถามว่ารู้มากกว่าเดิมมากขึ้นไหม  คำตอบก็คือไม่ เอาจริงๆข้อมูลมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับอารมณ์ของมันในตอนนี้เลยค่ะ   
            ฝันค่อยๆเดินเข้ามาในฉาก  ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ต้องค่อยๆย่องดูเชิงม้าลายนิดนึง กลัวไปทำม้ามันตกใจ ถ้ามันตกใจขึ้นมา  ฝันนี่แหละจะตกใจยิ่งกว่ามันซะอีก ซึ่งก็ดูท่าทางแล้วมันก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก  ฝันจึงเอามือขวาลูบหน้าของม้าลายเบาๆเพื่อทำความคุ้นเคย  เมื่อเห็นว่ามันยอมให้จับจึงเอื้อมมือไปลูบแผงคอของมันอีกที  ฝันไม่รู้หรอกว่าวิธีนี้ทำให้ม้าลายดื้อกับฝันน้อยลงไหม  แต่ฝันได้คุ้นเคยกับมันก็พอ
            ธีมของวันนี้คือเรียบๆแต่ดูหรูได้  นอกจากนั้นยังต้องดูมีพลัง ฝันเลยคิดว่าจะโพสท่าให้คม และจะพยายามให้ดวงตาของฝันมองทะลุผ่านเลนส์เพื่อสื่อความรู้สึกออกมาให้ได้ มากที่สุด ซึ่งฝันพยายามคิดว่าตัวเองเป็นม้าลายให้ได้มากที่สุด
            ท่าแรกของวันนี้ม้ายืนหันหน้าไปทางกล้อง ซึ่งท่านี้เป็นท่าเดิมตั้งแต่ฝันเดินเข้ามา ม้ายืนยังไงก็ยังคงยืนอยู่ท่าเดิมเลยค่ะ เพราะความคุ้นเคยยังมีไม่มากฝันเลยยังไม่ค่อยกล้าถูกเนื้อต้องตัวมันเท่าไหร่นัก  ท่าแรกของฝันจึงเข้าไปยืนใกล้ๆม้า ใกล้จนแทบจะติดเลยก็ว่าได้ และเลือกที่ย่อเข่าทั้งสองข้างลงเล็กน้อย  กางขาให้ขาซ้ายอยู่ข้างหน้า ขาขวาอยู่ข้างหลัง ตัวยืดตรงขึ้น  ไหล่ยกสูงเล็กน้อย  มือทั้งสองข้างจับเอว  ยื่นหน้าไปข้างหน้า  หดคอเล็กๆ แต่หน้ายังคงเชิดมองไปตรงๆ  ไม่ยื่นหน้าแล้วไปปิดคอ เพราะรู้สึกว่าการทำแบบนั้นจะให้บังคอและท่าจะออกมาดูไม่สง่า  หน้านิ่ง  ดวงตาจ้องมองผ่านเลนส์กล้อง พยายามออกแบบท่าทางของตัวเองให้ดูมีลักษณะคล้ายม้าให้มากที่สุด
            ต่อจากนั้นฝันก็ยังไม่จัดท่าทางให้ม้าใหม่ ม้ายังคงยืนหันหน้าให้กับกล้อง ระหว่างนั้นฝันก็พยายามลูบหน้าลูบแผงคอของม้าลายไปด้วยเพื่อทำความคุ้นเคยให้มากกว่าเดิม    ส่วนตัวฝันยืนเอามือจับเอว  กางขาประมาณ 60 องศา  ยืดตัวตรงก่อนจะเอี้ยวตัวหันหน้ามามองกล้อง หน้าเชิดขึ้นนิดหนึ่ง  ดวงตามองจิกไปข้างหน้า  แล้วยิ่งตาของฝันดุอยู่แล้ว  ท่านี้ฝันคิดว่าตัวเองคล้ายๆจ่าฝูงของม้าอยู่เหมือนกันนะ *หัวเราะ

https://upic.me/i/6r/n94mm.jpg
        ท่าที่สามฝันคิดว่าฝันพอจะคุ้นเคยกับมันนิดหนึ่งแล้ว  ฝันจึงพยายามหลอกล่อจัดท่าทางให้ม้าลายหันเอียงตัวไปทางด้านซ้าย หน้าและตัวเอียงให้กล้องเล็กน้อย  ส่วนตัวฝันเข้าไปยืนเกือบชิดลำตัวของม้าลาย  แขนซ้ายยกทำท่าเหมือนท้าวแขนลงไปที่หลังของมัน  ทำท่าเหมือนจะลงน้ำหนักแต่ไม่ได้ลงน้ำหนักลงไปมากนักเพราะกลัวม้าตกใจ  ตัวฝันยืนเอียงตัวแต่ไม่ถ่ายน้ำหนักลงไปที่ม้าลายเช่นเดิม เพียงแค่เอียงตัวให้ชิดม้าลาย  ทั้งแขนและตัวของฝันพยายามให้มุมกล้องในการช่วยให้ดูเหมือนลงน้ำหนักแต่ความ จริงแล้วไม่ได้ลงน้ำหนักไปที่ตัวม้าเลย  แขนขวาจับที่สะโพก  ขาขวาเป็นหลักในการยืนเพื่อทรงตัวให้แข็งแรง  ขาซ้ายยกงอเข่ามาทางด้านหน้า  อาจเพราะฝันมีสกิลการเต้นอยู่นิดหน่อย  ท่ายืนแบบนี้ของฝันจึงสมดุลในตัวของมัน  ทำให้ฝันยืนได้โดยไม่ล้ม  ส่วนหน้านั้นฝันเชิดเอียงไปทางขวามือคนละด้านกับหน้าของม้าลาย  ดวงตามองออกไปข้างหน้า  พยายามจัดท่ายืนให้ดูแข็งแรง  หลังจากท่านี้เสร็จฝันก้มลงเอาจมูกแตะกับหน้าของม้าลายและไม่ลืมลูบหน้าลูบแผงคอมันเช่นเดิม  เพื่อให้ตัวฝันและทั้งตัวม้าลายรู้สึกสนิทกันมากกว่าเดิม  เพราะท่าต่อไปฝันต้องใกล้ชิดม้าลายมากกว่าทุกท่า
          คราวนี้ฝันพยายามหลอกล่อม้าลายอีกครั้ง ฝันจัดให้มันยืนหันข้างให้กล้อง  โดยหันไปทางขวา  ส่วนตัวฝันยืนอยู่ข้างหลังม้าลาย  ซึ่งพยายามไม่ไปยืนตรงตัวมันเพราะฝันคิดว่าถ้าขาไปโผล่เยอะๆตรงตัวมัน  เวลาถ่ายออกมามันจะดูไม่สวย  ขามันเหมือนจะเยอะไปสำหรับฝันนะ  ฝันจึงเลือกที่จะยืนตรงช่วงคอล้ำมาทางส่วนหน้าของมัน  ท่ายืนเป็นการย่อเข่าให้หน้าอยู่ระดับเดียวกับหน้าของม้า  กางขาออกให้ขาซ้ายอยู่ข้างหน้า  ขวาขวาอยู่ข้างหลัง  ซึ่งท่านี้เป็นท่ายืนลักษณะเดียวกับท่าที่หนึ่ง  แขนซ้ายวางพาดไปบนหลังของม้าลาย  ทิ้งน้ำหนักนิดหน่อยไม่ให้มันตกใจกลัว  มือขวายกลูบขึ้นช้อนไปใต้หน้าของม้า  ก่อนจะหยุดแล้ววางมือให้ดูเป็นธรรมชาติ  ซึ่งมือจะหยุดอยู่ระดับปากของม้า  แขนจะไม่ยกขึ้นเพื่อบังหน้าของม้าไปมากกว่านี้  ส่วนหน้าของฝันนั้นจะแอบอยู่หลังหน้าของม้าลายโดยจะโผล่มาเพียงดวงตาเท่า นั้น  ซึ่งภาพนี้จะเป็นภาพที่ฝันใช้ดวงตาจ้องมองไปทางกล้องมากที่สุด  และท่านี้เป็นท่าสุดท้ายของฝันค่ะ  ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วฝันคิดว่าถ้าภาพนี้พี่เสือถ่ายเพียงครึ่งตัว จุดเด่นเรื่องดวงตาน่าจะขัดกว่าแบบเต็มตัว  แต่ถ้าถ่ายแบบเต็มตัวก็ไม่เป็นไรค่ะ ฝันสตรองพอ *หัวเราะ

อุปสรรคระหว่างทำแคมเปญ :  เพราะฝันไม่ได้สัตว์น่ากลัวๆอย่างสิงโต  ปัญหาเรื่องความกลัวเลยถูกตัดออกไปเป็นอย่างแรกเลย  แต่มันก็พอจะเจอปัญหาอยู่นะคะซึ่งปัญหาแรกคือชุดค่ะ  ชุดทีมเราดูตีโจทย์ยากไปสักนิด  จะไปทีมทุ่งหญ้าสะวันนา  หรือป่าอเมซอนก็คงยาก *หัวเราะ  สุดท้ายเราเลยมาจบที่ธีมเรียบหรูอย่างนี้แทน
            ปัญหาต่อไปคือม้าลายที่ฝันได้นี่แหละค่ะ  ซึ่งม้าลายมันอาจไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดูดุ  ดูแข็งแรง  หรือน่าเกรงขามอย่างสัตว์อื่น  ฝันจึงต้องพยายามทำตัวให้ดูมีพลังมากที่สุดโดยใช้ดวงตาเข้าช่วยเสริมให้ ม้าลายและภาพแข็งแรงขึ้น   
            ส่วนปัญหาใหญ่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย  และคิดว่าทุกคนก็น่าจะพบเจอคือปัญหาเรื่องสัตว์ค่ะ  แน่นอนว่าสัตว์มันพูดออกมาเหมือนคนอย่างเราๆแบบนี้ไม่ได้  ทำให้การสื่อสารกับมันค่อนข้างลำบาก  ฝันเลยพยายามทำความคุ้นเคยกับมันก่อนจะเริ่มถ่าย  แต่ใช่ว่าพอทำความคุ้นเคยปุ๊บแล้วจะใกล้ชิดกับมันได้ปั๊บนะคะ  ตอนถ่ายเซ็ตแรกๆฝันเลยพยายามไม่ทำให้สัตว์ลำบากใจมาก(?)  ค่อยๆทำความคุ้นเคยกับมันไปแล้วเซ็ตหลังๆค่อยแตะเนื้อต้องตัวมันเยอะขึ้น  ซึ่งเวลาถ่ายจะให้สัตว์มันหยุดนิ่งเหมือนถูกสตาฟไว้เลยก็เป็นไปไม่ได้อีก เช่นกัน  มันก็มีเคลื่อนไหวเคลื่อนที่บ้าง  มีขยับตัวบ้างเล็กน้อย  แต่ฝันก็พยายามใช้ความอดทนและการหลอกล่อเข้าช่วยค่ะ  สุดท้ายมันเลยผ่านไปได้ด้วยดี