ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟ้าหลังหมอก

    ลำดับตอนที่ #1 : 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 55


    “กริ๊ง.....กริ๊ง”  เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกฉันให้ตื่นจากความคิด  ฉัน ไอยริน  สิริกาญจนา  แม่หม่าลูกหนึ่งที่หย่าขาดและอยู่ลำพังกับลูกชายในคอนโดแห่งหนึ่ง 

    “สวัสดีค่ะ  ไอยพูด”  ฉันเดินไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงตรงมุมห้อง  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายสายที่โทรมาเป็นใคร

    “ไอย..ทำอะไรอยู่  ทานข้าวหรือยัง”  เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากปลายสายถามด้วยความเป็นห่วง

    “ยังเลยโอ  นายท่านหรือยัง  แล้วตอนนี้อยู่ไหน”  ฉันถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน  โอ  หรือ  นายแพทย์อนุชิต  แสงพีรยะ  นายแพทย์หนุ่มอนาคตไกลของแผนกกุลมารแพทย์  โอเป็นเพื่อนของกิ๊ฟเพือนสนิทของฉัน  และฉันก็รู้จักเขามาได้  4  ปีแล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น 

    “ยังเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล  กำลังจะไปหา”  เขาเพิ่งออกเวรหรือ  แล้วทำไมไม่กลับไปพักผ่อนละ

    “อืม....ได้  แต่ไอยต้องไปส่งเอสก่อนนะ” 

    “เดี่ยวไปส่งด้วย    รอด้วยนะ”  โอมั่งจะไปส่งเอสกับฉันเสมอเมื่อเขาว่า  เขามักบอกว่าชอบอยู่กับเอส

    “ได้.....แต่ไม่กลับไปพักหรอ”  ฉันถามด้วยความเป็นห่วงเขา  เขาเพิ่งเลิกงานคงยังไม่ได้นอนเลยและจะมาที่นี้ทำไม

    “จะไปหา  แค่นี้ก่อนนะขับรถก่อน”  โอว่างสายไปพร้อมกับเสียงเปิดประตูที่ดังห้องนอนที่ดังขึ้น  เด็กชายน่าตาน่ารักเดินตรงจากห้องนอนมาหาฉัน  น้องเอส  ด.ช.พีระพัฒ  สิริกาญจนา  เด็กน้อยอายุ  8  ขวบ  ตอนนี้น้องเอสกำลังเรียนอยู่ชั้น  ป.3  โรงเรียนที่ใกล้คอนโดที่พัก

    “ไอยใครโทรมาครับ”  น้องเอสถามฉัน  น้องเอสไม่ยอมเรียกฉันว่าแม่สักเท่าไหร่ยกเว้นเวลาโกรธหรือน้อยใจ

    “ลุงโอคับ  บอกว่ากำลังจะมาหา”  ฉันบอกเอสที่กำลังเดินงวงเงียมานั่งตัก

    “คับ  งั้นเดียวเอสไปอาบน้ำก่อนนะคับ”

    “รีบๆอาบด้วยละจะได้มากินข้าวกัน”  แล้วน้องเอสก็เดินไปอาบน้ำในห้องนอนของตนเอง  ส่วนฉันเดิมตามเขาไปเดินหยิบชุดนักเรียนมาแขวนไว้ให้เผื่อเตรียมไปโรงเรียน 

    ก๊อก.....ก๊อก.....ก๊อก  เสียงประตูห้องดังขึ้น  ฉันเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อไปรับโอที่หน้าห้อง  โอยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับชูถุงโจ๊กให้  ฉันรับถุงโจ๊กมาจัดใส่จานและเตรียมน้ำให้ชายหนุ่มดื่ม

    “สวัสดีคับลุงโอ  มาแต่เช้าเลยนะคับ”  น้องเอสเดิมออกมาหลังแต่งตัวไปโรงเรียนเสร็จ

    “คิดถึงนิคับ  วันนี้ลุงมีโจ๊กมาฝากด้วยนะคับ” 

    “เย้...เย้  ดีจังเลยคับ  เพราะผมเบือกับข้าวฝีมืไอซแล้ว” 

    “อ้าวไหงพูดงั้นละเอส  งั้นวันหลังไอยไม่ทำให้กินแล้ว....งอน”  ฉันบอกเอสอย่างงอนๆ  จริงๆฉันกับเอสชอบแล้งกันแปย่กันเหมือนพี่น้องมากกว่าแม่ลูกอีกนะ  ฉันหันไปมองโอเห็นเขากำลังนั่งหัวเราะเราสองคนแม่ลูกอยู่  โอมักว่าบอกว่าชอบนั่งมองดูฉันกับลูกคุยกัน  มันเหมือนเพื่อนกันดี  อาจเป็นเพราะเขามีแต่พี่ละมั่งเลยไม่ค่อยได้คุยเล่นกับใครมาก

    “กินข้าวได้แล้วทั้งสองคน  เดี่ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอกคับเอส”  โอรีบห้ามทัพก่อนที่จะแกล้งกันยาวไปกว่านี้

    “เลิกงอนก็ได้  เพราะหิวหรอกนะเนีย”

    “โอ้...โอ้...ไอย  อย่าโกรธเอสเลยนะ  ล้อเล่นเอง”  ดูน้องเอสเขาง้อแม่เขานะ

    “โอรับกาแฟไหม”  ฉันเลิกแกล้งงอนเจ้าเอสแล้วหันไปถามโอ

    “ไม่ละ  เดียวนอนไม่หลับ  อยากพักมากกว่า”อยากพักแล้วมาทำไมที่นี่หว่า

    เราสามคนนั่งกินข้าวันไปพูดคุยกันไป  ส่วนมากโอจะเป็นคนฟังฉันกับลูกพูดมากกว่า  ฉันกับลูกมักจะบอกแผนการประจำวันคร่าวๆให้อีกฝ่ายรู้เพื่อที่จะได้รู้ว่าอีกคนหนึ่งไปไหนทำอะไรอยู่  อย่างวันนี้ฉันนัดไปกินข้าวกับยายกิ๊ฟและยายบีเพื่อนสนิทฉัน 

    “เอสวันนี้มีธุระตอนเย็น  ไปเป็นเพื่อนด้วยนะ”

    “ไปไหนคับ  แล้วจะมารับกี่โมง”

    “ไม่บอก  แต่จะมารับ  5  โมง  ทำการบ้านให้เสร็จด้วยละ”

    หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ไปส่งเอสที่โรงเรียน  โรงเรียนเอสอยู่ไม่ไกลจากคอนโดที่อยู่มากนัก  และอยู่ใกล้ที่ทำงานของโอด้วย  เพราะฉะนั้นบางวันโอจะไปรับน้องเอสถ้าเขาเลิกเงินเร็ว

    “ถึงแล้วคับน้องเอส ตั้งใจเรียนนะคับ”  โอขับรถมาส่งเอสถึงโรงเรียน

    “คับลุงโอ  ไอยตั้งใจทำงานละอย่าอู้นะเดียวเขียนไม่เสร็จโดนป้าบีบ่นอีกไม่รู้ด้วย”

    “จ้า  บ่นจริง”  น้องเอสเตือนให้เพราะว่าตอนนี้ใกล้กำหนดส่งงานเขียนของฉันแล้ว  และฉันชอบอู้งานไม่ยอมนั่งเขียนจริงๆจังๆสักที 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×