คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ไฟริษยา
ตอนที่ 5 ไฟริษยา
แสงแรกของวันโผล่พ้นขอบฟ้ามาพร้อม ๆ กับเสียงนกกาที่ร้องเซ็งแส้เรียกร้องเอาความสุขที่ไม่มีใครมาตั้งกฎเกนว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควร
“อ้าวมาไมแต่เช้าล่ะกิ่ง” หญิงสาววัยกลางคนเดินกึ่งท้าวออกมาด้วยความงัวเงีย
“สวัสดีค่ะคุณป้า กิ่งต้องขอโทษนะคะที่โทรหากลางดึกเมื่อคืน ดาวเป็นไงคะ ตื่นหรือยัง กิ่งซื้อโจ๊กมาฝาก” หญิงสาวส่งให้พร้อมกับกวาดสายตาเข้าไปในบ้าน
“ขอบใจนะ” ท่าทางของหญิงสาววัยกลางคนยังไม่ตื่นเต็มที่ รับของแล้วเดินกลับเข้าบ้าน ในวินาทีที่จะวางของลง
“อะไรนะ กิ่งบอกว่า...อะไรนะ” เหมือนสิ่งที่ค้างคามาตั้งแต่เมื่อคืนได้ตกผนึกเป็นคำถามที่ชัดเจนแล้วในตอนนี้ สายตาของกิ่งแก้วมองนำไปยังที่จอดรถซึ่งจะมีจักรยานของดาวจอดอยู่ประจำ
“ดาวไปไหนล่ะนี่” ก้าวที่จะออกเดินต้องหยุดชะงักในทันที
“เมื่อคืนก็ไม่เห็นที่ร้านนี่ค่ะ กิ่งนึกว่าดาวไม่สบายซะอีก” แววตาที่ซ่อนเร้นความริษยาเอาไว้ส่อแววเป็นประกาย
“ตายแล้ว นี่เหลวไหลมากไปแล้วนะเนี่ย ไว้ใจไม่ได้เลยจริง ๆ” นางหัวเสียเดินเข้าบ้าน ไม่บ่อยที่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้เรื่องปวดสมองตั้งแต่เช้า
“งั้นเดี๋ยวกิ่งโทรหาให้นะคะ สงสัยอยู่กะพี่อัยมั้ง” กิ่งแก้วได้ชื่อว่าเหลี่ยมคมแพรวพราวรอบตัว เธอรู้ว่าคุณป้ามุกประดับมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อของอัยการ และแน่นอนนางจะต้องเช็กข่าวของหลานสาวผ่านชู้รักอย่างรวดเร็ว
“คุณป้าขา ไม่รับสายอะคะ คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ กิ่งขอตัวก่อนนะมีงานเช้าอะคะ”
หญิงสาวรีบยกมือไหว้ขอตัวก่อนที่จะโดนซักฟอก
“บ้าจริง เด็กสมัยนี้เผลอไม่ได้ คุณอานนท์ค่ะเห็นหลานสาวฉันอยู่กับลูกชายคุณหรือเปล่า” เสียงของนางออกจะมีอารมณ์เล็กน้อย เพียงรู้ว่าตัวเองละเลยหน้าที่ในการดูแลหลานสาวจนอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีได้ ความร้อนรุ่มก็เข้ามาสุมใจแต่เช้า
“เปล่าครับ วันนี้เจ้าอัยมันกลับมาหลับตั้งแต่ตีห้า ไม่เห็นหนูดาวนะ มีอะไรเหรอคุณมุก” เสียงตามสายดูจะไม่ตื่นเต้นกับข่าวสักเท่าใด
“เปล่าหรอกคะ พอจะใช้ไปดูปลาที่สะพานปลาตอนเช้าไม่รู้หายไปไหนสิค่ะ เห็นแต่หลังไว ๆ ไม่รู้ว่านัดกับอัยไว้หรือเปล่า” เมื่อนึกถึงความเสียหายในชื่อเสียงที่จะตามมานางจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“ครับ ๆ งั้นเหรอ ถ้าเห็นแล้วจะให้รีบโทรหานะครับ” ปลายสายวางไปแล้วหากแต่ความร้อนใจของนางกลับพลุ่งพล่านขึ้นมาเมื่อพยายามติดต่อหาเพียงดาวแต่กลับไม่มีการตอบรับ
หญิงสาวประพฤติดีมาโดยตลอด หากจะไปค้างอ้างแรมกับเพื่อน ๆ ก็มักจะบอกกล่าวกันล่วงหน้า
“เป็นบ้าอะไรนะเนี่ย หายไปไหนไม่ส่งข่าวทั้งคืน” คุณมุกประดับคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์หมายจะออกตามหา
“อ้าว ยายดาว ไปไหนมาทำไมไม่รับโทรศัพท์” เสียงของนางเกรี้ยวกราดดังลั่นเมื่อเห็นเพียงดาวเดินหน้าหมองเข้ามา ท่าทางของเธอเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน
“ยายดาว ป้าถามทำไมไม่พูด” นางถลาเข้าไปจนเกือบถึงตัว
“ดาวยังไม่อยากพูดตอนนี้” เธอตอบเสียงแข็ง สายตาที่เหลือบแลผู้เป็นป้าอย่างเย็นชา จนนางต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง ลังเลที่จะซักไซ้เมื่ออีกฝ่ายไม่ให้ความสำคัญ
“อะไรนะ นี่แกกล้าขึ้นเสียงกะป้าเหรอ”
“ป้าค่ะ ดาวอยากพัก ไม่พูดตอนนี้ได้ไหม”
“อะไรนะ นี่จะบอกว่าไม่ได้พักมาทั้งคืนงั้นหรือ แกหายไปไหนมา” นางยั้งใจไม่อยู่ตรงเข้ากระชากแขนหลานสาวอย่างแรงอย่างลืมตัว
“อะไรอะป้า ทำแบบนี้กะดาวทำไม” ความอ่อนเพลียอีกทั้งกำลังใจที่ขาดหายทำให้หญิงสาวขาดความยั้งคิด ทำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยเป็น
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าแกหายไปไหนมาทั้งคืน”
“หายไปทั้งคืน”
“ใช่ แกอย่าบอกนะว่าเมื่อคืนอยู่ที่บ้าน”
“ดาวเปล่านะคะ”
“โทรศัพท์ก็ไม่รับ นี่ริอาจหนีเที่ยวคงได้ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน” น้ำคำฟังดูรุนแรงจนเกินรับไหว
“แต่หนูไม่ได้ทำนะคะป้า”
“แล้วแกหายไปไหนตลอดทั้งคืน ไปกะใคร อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง กิ่งมาถามหาตั้งแต่เช้าแกก็ยังไม่กลับ เมื่อคืนก็ไม่ได้ไปช่วยงานที่ร้าน แกหายไปกับใครบอกมาเดี๋ยวนี้” แววตาเกรี้ยวกราดของผู้เป็นป้าทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ต่างกันนัก
“อะไรนะคะ นี่ยายกิ่งมาที่บ้านงั้นเหรอ มาใส่ร้ายอะไรดาวอีกล่ะ ร้ายกาจน่าดู อีพวกคนเลว” ยิ่งรู้ว่าเป็นใครที่คาบข่าวมาบอก ก็ยิ่งเพิ่มความชิงชังยิ่งนัก เล่ห์เหลี่ยมของคนยากที่จะตั้งรับ
“ออนี่แกคงไปทำเรื่องไม่ดีงั้นสิถึงได้กลัวคนอื่นเขาจะใส่ร้าย”
“บอกว่าไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ได้ทำอะไรสิ ดาวจะเข้าบ้าน”
“อย่ามาเดินหนีฉันนะนังดาว กลับมาเดี๋ยวนี้ นังดาว” ทันทีที่เพียงดาวสะบัดแขนหลุดก็เดินเร็วเข้าบ้าน คุณป้าเดินตามเข้ามาติด ๆ น้ำเสียงเรียกที่ดังลั่นทำให้เพียงดาวหยุดกะทันหัน หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นป้าในระยะกระชันชิด ร่างของนางชะงักเสียหลักไปเล็กน้อย นึกโมโหที่หลานสาวแสดงท่าทีก้าวร้าวโต้กลับ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น
“นี่แกจะทำอะไรฉันนังดาว” มือของนางไวกว่าใจคิดฟาดลงไปสุดแรงที่ต้นแขนของหญิงสาว เธอตกใจมากไม่คิดว่าคุณป้าจะลงไม้ลงมือ
“หนูเปล่านะคะ”
“เปล่าอะไร มานี่นะอย่าหนีฉันนะ” เพียงแค่สะบัดแขนแค่นั้นไม่ทำให้เจ็บนักแต่ที่เจ็บใจเพราะรู้ว่าคนที่คาบข่าวมารายงานเป็นกิ่งแก้ว ซึ่งแน่นอนหล่อนไม่ปรารถนาดีอย่างที่พูด ร่างของคุณป้ามุกประดับเซลงไปกองกับพื้น แต่เพียงดาวไร้อารมณ์สนใจ ความโกรธที่สะสมมาแต่เมื่อคืนเหมือนได้เติมเชื้อ มันคุกรุ่นจนไม่อยากแก้ตัวหรือสนใจใครอีก
“ดูมัน ทำตัวเลวแบบนี้ กลับเข้าไปอยู่ในกรุงเทพกับพ่อแม่ของแกเลย” เสียงกระโกนไล่หลังดังออกไปถึงด้านนอก กิ่งแก้วแอบดูสองป้าหลานทะเลาะกันรู้สึกซะใจไม่น้อย หลอนแอบอยู่ข้างรั้วแต่แรกไม่ได้กลับออกไปอย่างที่บอก
แผนการปั่นหัวเพื่อนสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างป้ามุกประดับจะเชื่อคนง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ ถึงตอนนี้เธอนึกอยากทำอะไรก็คงไม่ต้องเกรงว่าเพียงดาวจะล้ำหน้าในทุก ๆ ด้าน
กิ่งแก้วเดินยิ้มกริ่มออกไปอย่างมีความสุข เพียงดาวเดินออกมายืนเกาะริมหน้าต่างมองเห็นกิ่งแก้วเข้าพอดี
“ร้ายกาจมาก นี่เป็นแผนการร้ายของเธอเองสินะกิ่ง เลวที่สุด” แค่เห็นว่ากิ่งแก้วอยู่ในเหตุการณ์เพียงดาวก็รู้ในทันทีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดคือใคร หญิงสาวลังเลที่จะเดินลงไปขอโทษผู้เป็นป้า ความเหนื่อยล้าทำให้เธอยังอยากเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ
“เอาไว้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยลงไปทีหลัง” เธอคว้าหมอนมานั่งกอด เลือกที่จะนั่งอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่คิดทำอะไร บางอย่างไม่ได้แก้ไขเพราะคำพูดง่าย ๆ แต่กาลเวลาจะช่วยลบเลือนมันให้เบาลง ถึงตอนนั้นค่อยใช้คำพูดดี ๆ เพื่อขอโทษก็คงไม่สาย
*************************
บ่ายมากแล้วอัยการตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น เป็นเพราะการที่หลับสนิทหลายชั่วโมงจึงทำให้ร่างกายพร้อมที่จะต้นใหม่
“อัย ตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนดาวอยู่ด้วยหรือเปล่า เห็นป้าเขาโทรตามหาแต่เช้า” ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาถามเสียงเรียบ ทุกเรื่องที่เข้ามาไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากังวลสำหรับอานนท์
ผู้ชายยอมรับทุกอย่างหากมีเหตุผลพอ
“เรื่องอะไรครับพ่อ”
“ดาวนะสิหายไปไหนไม่รู้ เห็นว่าไม่ได้นอนบ้าน ไปค้างกับเพื่อนหรือเปล่า อัยรู้หรือเปล่าลูก”
“ไม่ครับ” ชายหนุ่มนิ่งคิดไปชั่วขณะ เวลาที่ผ่านมาเขาละเลยเพียงดาวไปมาก ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องร้าย ๆ กับเธอ สิ่งที่เขาทำอาจจะมากไป แต่เธอไม่ควรจะเสียหายก่อนที่เขาจะได้สิ่งที่เฝ้ารอ
“พ่อว่าดาวไม่ได้กลับบ้านเหรอ” เสียงของเขาตกใจเล็กน้อย สายตาครุ่นคิด
“ใช่ ป้าเขาโทรมาบอก ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ”
“เดี๋ยวผมขอตัวนะ นัดดาวไว้อะ” เขาโกหกก่อนที่จะโดนจับได้ว่าไม่ได้ดูแลเพียงดาวอย่างที่รับปาก เป็นเรื่องปกติที่สองพ่อลูกพูดคุยกันน้อย
“ทำไมไม่รับสายนะ ยังไม่หายโกรธหรือยังไง” อัยการยังคงไม่มั่นใจว่าจะเอายังไงต่อ สายสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนก็ไม่สามารถดึงรั้งหัวใจของหญิงสาวไว้ได้
“พี่อัย ทำอะไรคะ” เสียงของกิ่งแก้วดังเข้ามาทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดการกดโทรศัพท์ไปชั่วขณะ รอยยิ้มเผยออกมาจาง ๆ เพราะธรรมชาติสร้างสรรค์
“ไปไหนมาล่ะ แต่งตัวซะสวยเชียว” สายตากรุ้มกริ่มของชายหนุ่มทำให้เพิ่มเสน่ห์ความเป็นชายมากในสายตาของสาว ๆ
“อย่าปากหวาน กิ่งรู้ทันหรอกว่าพี่อัยกำลังคิดอะไร”
“หมายความว่ายังไง รู้ทัน”
“กำลังง้อดาวอยู่เหรอ”
“ยังไม่รับสายเลย สงสัยจะยากซะแล้ว เห็นทีต้องคิดใหม่ ดาวยากเกินไปวิ่งตาม เหนื่อยเปล่า” เขาไม่มีความอดทนกับเรื่องอ่อนไหวนัก ความรักสำหรับอัยการเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ
“อาจจะไม่มีเวลาหรือเปล่า”
“ไม่มีเวลา กิ่งรู้อะไรมางั้นเหรอ”
“กิ่งเห็นว่าดาวมีเพื่อนใหม่ มาจากกรุงเทพด้วยแหระ อาจจะกำลังคบกันหรือเปล่า หรือไม่แน่อาจจะเป็นเพื่อนเก่ากันนะพี่อัย เมื่อคืนก็เห็นว่าดาวไปค้างด้วยท่าทางจะสนิทกันมาก” น้ำเสียงราบเรียบของกิ่งแก้วทำให้อัยการร้อนวูบวาบ อาจจะเป็นความจริงที่เพียงดาวไม่สนใจในตัวเขาเพราะมีเพื่อนใหม่
“เป็นไปไม่ได้ ดาวยังรักพี่ ๆ รู้”
“พี่อัยร้ายกับดาวขนาดนั้น เป็นกิ่ง ๆ ก็เลิกนะ” หญิงสาวทำท่าเหมือนจะเดินหนี
“เดี๋ยวจะรีบไปไหน บอกเรื่องเพื่อนของดาวก่อน กิ่งรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่กันที่ไหน”
“สนใจด้วยเหรอพี่อัย โน้นอยู่บังกะโลริมหาดห้วยทรายโน้น ไกลหน่อยนะ ที่นั่นเหมาะมากที่จะปาร์ตี้กันเงียบ ๆ ดูแลจิตใจอะไรพวกนั้นน่ะ คนยิ่งเศร้า ๆ เหมาะมั๊กมาก” คำพูดทิ้งท้ายของกิ่งแก้วทำให้ชายหนุ่มเจ็บใจจี๊ด เขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ได้ เพียงดาวควรจะเป็นของเขาก่อนที่จะมีใครมาฉกไปครอบครองตัดหน้า
แผนการร้ายก่อเกิดขึ้นในใจเงียบ ๆ ถึงจะไม่ได้แคร์เธอมากจนขาดไม่ได้ แต่เขาจะยอมเสียหน้าที่คบหากับหญิงสาวแล้วกลายเป็นว่าโดนฝ่ายหญิงทอดทิ้งก่อนมันรับไม่ได้
“รับสายหน่อยสิดาว” เมื่อปลายสายไม่มีการตอบสนองชายหนุ่มก็คว้ามอเตอร์ไซค์ตรงดิ่งไปยังบ้านของเพียงดาวเร็วเท่าที่ใจนึก
การใช้โทรศัพท์อาจจะไม่เป็นผลสำหรับการง้อสาว หากเจอหน้าได้พูดคุยก็อาจจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น อัยการมั่นใจในความเป็นชายของตัวเองนั้นเหนือกว่าคนอื่น ๆ และมันทำให้เขารู้สึกเหนือกว่าสตรีทุกนามในขณะที่เขาเป็นคนควบคุม
******************
แสงแดดยามเย็นทอดยาวเป็นลำส่องผ่านน้ำทะเลที่ราวกับกระจกสะท้อนแสง ยิ่งมองก็ยิ่งเพลินตา หญิงสาวเฝ้ามองคล้ายอยากให้มันเปลี่ยนแปลงไปหากเธอจ้องมันอยู่แบบนั้น
“ขอบคุณมากนะดาวที่มาเป็นเพื่อน พวกเราได้ภาพสวย ๆ เยอะเลย” พาฝันเดินเข้ามาโอบไหล่ของหญิงสาวอย่างสนิทสนม
“ด้วยความยินดี ดาวดีใจนะที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ๆ บ้าง” เธอยังตอบด้วยโทนเสียงเรียบ
“ดาว พูดจาเศร้าจังเลย ไม่น่ารักรู้ไหม สาว ๆ อย่างเราอย่าหยุดสวย ไม่ดี เราต้องสวยตลอดเวลา” รุดาพูด สายตาของหญิงสาวที่มองเพียงดาวในยามนี้มีแต่ความปรารถนาดี และอบอุ่นจนต่างก็รู้สึกวางใจซึ่งกัน
“อากาศมันร้อนอะคะ ดาวเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว” หญิงสาวแก้ตัวไปงั้น ทั้งที่ความจริงเธอรู้ดีว่ามันคืออะไร มันคือความในใจที่ไม่สามารถสะบัดออกจากใจได้นั่นเอง
“อกหักหรือเปล่า พาดูออกนะว่าคนอกหักเป็นยังไง”
“อย่าทำเป็นพูดดีเลย รุดารู้หรอกว่าพานะกำลังคิดอะไร” หญิงสาวทำตาเจ้าเล่ห์
“โอ๋ นี่อย่าบอกนะว่าหึงพาอะ ไม่นะ อย่าคิดอย่างนั้น” เสียงหัวเราะของสาว ๆ เรียกความสนใจให้กับหนุ่ม ๆ ที่กำลังตั้งใจถ่ายภาพอยู่ไม่น้อย
เฉกชนหันมากดภาพทุก ๆ อิริยาบถของเพียงดาวด้วยความหลงใหล หญิงสาวแปลกหน้าที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยแต่หัวใจที่เหงากลับต้องการสิ่งที่เข้ามาเติมเต็ม
“เมธ นายว่าไหม ดาวน่ะมุมไหนก็สวยนะโว้ยดูดิ น่ารักมาก” เขายื่นกล้องให้เพื่อนดูใกล้ ๆ ปรเมธรับไปดู เหลือบตามองเพื่อนด้วยความฉงน แปลกใจนิด ๆ ที่เขาให้ความสนใจในตัวของเพียงดาวมากจนเกินพอดี
“นายชอบเขาเหรอ ชอบก็พากลับบ้านดิ ปล่อยไว้แบบนี้อันตราย น่ารัก ๆ ใคร ๆ ก็อยากได้เป็นแฟน” คำพูดของเพื่อนสะกิดใจชายหนุ่ม ความจริงหากจะรักก็ควรจะไขว่คว้าเอามาครอบครอง มันไม่น่าเกลียดหากชายหนุ่มจะรู้สึกเช่นนั้น
แต่อย่างเฉกชนควรจะมีรักฉาบฉวยเช่นนั้นหรือ ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง ครุ่นคิดกับสิ่งที่เข้ามากระทบใจ
“มันก็จริงนะ คืนนี้จะลองชวน ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไงอะดิ” เฉกชนนึกสนุก
“เฮ้ย เอาจริงเหรอว่ะเอ็ม”
“เอาจริงดิ พวกนายยังมีใหม่ได้ทุก ๆ เทอมฉันจะมีบ้างจะเป็นไรไปเล่า” ดูเฉกชนจะมีความสุขกับการทำงานกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะครั้งนี้เขามีเพียงดาวมานั่งให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่เคียงข้างตลอดเวลา แต่ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมาเจอหน้าหัวใจก็พองโต
ความรักที่กำลังก่อตัวมันดีเช่นนี้เอง ชายหนุ่มเคยพยายามที่จะลองรักแต่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลยสักครั้ง เพราะความรักที่ผ่านเข้ามาทักทายก็ล้วนแต่เป็นความรักที่ไม่แน่นอน จนเขาเองรู้สึกเบื่อหน่าย
“ฉันว่านายดูให้ดีหน่อยก็ดีนะ ดูเหมือนเขามีอะไรอยู่ในใจ” สุดท้ายแล้วปรเมธก็อดห่วงถึงสายพันธ์ที่จะก่อตัวขึ้นระหว่างเพื่อนกับหญิงสาวมันดูรวดเร็วเกินที่จะทำใจยอมรับในทันที
“นั่นสินะ ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ามีฉันหรือเปล่าที่อยู่ในใจเขาตอนนี้”
“ถ้าไม่รีบลองดูก่อนก็ได้นี่ นายมีเวลาทั้งอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ ลองถามไอ้สองคนนั่นดูว่ามันจะรีบไปไหนหรือเปล่า” เป็นทางออกที่ดี ปรเมธหยิบยื่นให้ด้วยความเต็มใจเพราะเขาก็จะได้อยู่เที่ยวต่ออีกหลาย ๆ วัน
“นายเห็นด้วยเหรอถ้าเราจะอยู่ต่อ” ชายหนุ่มต้องการความมั่นใจ
“เอาซี่ ถ้ามันจะทำให้นายรู้สึกดี ฉันโอเค จบป่ะ”
รอยยิ้มเผยขึ้นให้เห็นเต็มหน้า เฉกชนอยากสานสัมพันธ์กับเพียงดาวให้แน่นแฟ้นกว่าที่เป็น หากเธอจะเปิดประตูใจให้เขาก้าวเข้าไปสัมผัสความรู้สึกลึก ๆ ที่ซ่อนเร้นในใจ
จบตอน
ความคิดเห็น