ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิษน้ำค้าง .

    ลำดับตอนที่ #2 : รอยอดีต

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 56


    ตอนที่ 2  รอยอดีต

    การเดินสำหรับชีวิตคนในเมือง ไม่สะดวกนักที่จะต้องใช้บริการขนส่งมวลชน นลินออกมายืนเคว้งหน้าโรงแรมหลังจากที่ทำงานเขาเกือบพังไปถึงสองครั้งสองครา หัวใจยังสั่นระริกรู้สึกแปลก ๆ กับการกระทำของตัวเอง

    ไม่น่าเลยเรา แทนที่จะเอารถมาเอง ลำบากไหมเนี่ยนลิน

    สายฝนเริ่มทำท่าเหมือนจะเทลงมา ชีวิตของคนกรุงมันต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา หญิงสาวยังคงไม่สามารถโยนความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดคุกรุนอยู่ในใจทิ้งไปได้ พี่น้องร่วมโลกเดียวกันที่หญิงสาวมักจะบอกตัวเองขำ ๆ แต่เมื่อมีโอกาสได้มาพบเจอกันกลับไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตให้กันรับรู้ได้

    เสียงแตรรถดังขึ้นถี่ ๆ ทำให้หญิงสาวต้องหันไปมอง รถยนต์คันหนึ่งปาดเข้ามาจอดเทียบทำให้เธอรู้ในทันทีว่าเขาคือใคร

    น้ำ ๆ เรากำลังจะกลับบ้านพอดี กลับด้วยกันป่ะ

    ราชิตนั่นเองชายหนุ่มรูปหล่อหน้าเข้มผิวสีแทน หล่ออย่างไทย ๆ เพื่อนบ้านซึ่งหญิงสาวไม่คิดว่าจะได้เจออีก ครั้งความจริงเพิ่งเจอกันเมื่อเช้า เธอขอติดรถเขาออกมาจากบ้าน ซึ่งก็อยู่ใกล้กัน บ้านห่างกันเพียงสองสามหลัง ความสนิทสนมเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว เพราะเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง

    กลับสิ ไปไหนมาเหรอ ทำไมถึงผ่านทางนี้ได้

    วันนี้ไม่ได้ทำอะไร ขับรถเที่ยวเรื่อยเปื่อย คนมันว่าง”

    เขาตอบโดยไม่ได้สนใจที่จะมองหน้าหญิงสาว นลินนั่งจ้องหน้าเขาด้วยความฉงน ไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดสักนิด

    “โกหก มีอะไรที่น้ำไม่รู้งั้นเหรอชิต

     เสียงใส ๆ ที่รู้ทันมันทำให้เขาเกิดรอยยิ้ม ชายหนุ่มทำหน้าเข้ม แววตาจริงจังดูน่ารักยามที่แอบยิ้ม เขินอายที่โดนจับได้ไล่ทัน เขาไม่เก่งกับการตีสองหน้า แววตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความจริงใจ

    เปล่า ไม่มีอะไรเลย คิดอะไรงั้นเหรอ

    เปล้า ไม่คิดอะไร แค่อยากรู้ว่าราชิตมีอะไรปิดบังน้ำหรือเปล่า บอกได้ป่ะ มีอะไรที่น้ำยังไม่รู้งั้นเหรอ”

    เพียงได้พบเจอมันก็ทำให้ต่างก็รู้สึกสุขใจ ความใกล้ชิดเกิดขึ้นเพราะหัวใจของทั้งคู่ยังคงเปลี่ยวดาย ราชิตไม่เคยที่จะแสดงความต้องการหญิงสาวมากไปกว่าที่ได้ทำในทุก ๆ วัน มันคือความสุขที่ยังได้มองเห็นอยู่แบบนี้

    ผมแค่ผ่านมาแล้วเห็นน้ำยืนตรงนี้ก็เลยเรียก ไม่มีอะไร ทำไมต้องจับผิด”

    จริงอะ เชื่อก็ได้ แต่ก็ขอบคุณนะ ขอบคุณจริง ๆ ที่มีน้ำใจมารับ

    เธอรู้ทันว่าเขาคงไม่ได้ไปไหนไกลหลังจากที่ส่งเธอแล้ว ราชิตยิ้มนิด ส่ายหัวไปมา

    ไม่ใช่ แค่ผ่านมาเฉย ๆ คิดอะไรกะผมหรือเปล่าเนี่ย คิดอะไรก็บอกมาเลยนะอย่ามาอุบอิบคิดไปเอง ไม่เอา

    ถ้าเอาแล้วจะต้องทำยังไง

    บอกมา คิดอะไรกะเค้าป่ะ ถ้าคิดก็รีบบอกแม่ไปขอนะ

    สุขใจที่ได้กระเซ้าเย้าแหย่ให้มีรอยยิ้ม มันเพียงความต้องการทางใจที่ต่างก็รู้ว่าจะหาได้ที่ไหน เพราะรักคงไม่เกิดขึ้นเองหากไม่ช่วยกันถักทอ

    ทำไมต้องรีบ รออีกนิดไม่ได้เหรอ อยากทำงานก่อนอะ”

    สองคนหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาดัง ๆ ต่างก็รู้ว่ามันจะช่วยให้ต่างระบายความเครียดที่อัดอั้นอยู่ในใจซึ่งความจริงไม่สามารถพูดกับใครได้ มันเป็นภาษากายที่ไม่รู้จะบอกเล่าอย่างไร บางคำพูดที่อาจทดแทนความรู้สึกซึ่งยังไม่เคยพูดกันจริง ๆ ว่าอยากฝากรักให้ช่วยดูแล

    เหนื่อยเหรอ พูดจาแบบนี้แสดงว่าเครียดมาใช่ไหม อยากเล่าหรือเปล่า

    ราชิตเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ด้วยเห็นว่านอกเรื่องมาไกลสุดกู่

    มากเลยแหละ วันที่ทานข้าวที่บ้านไหม เดี๋ยวน้ารินคงจะมาแล้วล่ะ

    ก็ดีนะ ที่บ้านคงไม่มีอะไรทาน อีกอย่างทานคนเดียว ไม่สนุก ฝากท้องด้วยคนนะ

    ราชิตยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องห่างจากหญิงสาวไปให้ไกลเกินใจคิดถึง สายตาของเธอที่มองเขามีเพียงความเป็นเพื่อนที่รับรู้ได้ไม่เคยมากไปกว่านั้น

    ไม่นานนักทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงบ้านของนลิน ซึ่งก็ถือว่าใหญ่โต มีฐานะระดับกลาง ๆ ที่มาของบ้าน หญิงสาวไม่รู้อะไรมากนัก รู้แต่ว่าแม่พาเธอมาอยู่ที่นี่ และมีทอรินซึ่งเป็นน้องสาวของแม่ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ลืมตาขึ้นมาก็เจอแล้ว

    ว่าไง ยัยน้ำ ไปรบกวนอะไรราชิตเขาอีก

    เสียงทักทายของทอรินดังมาจากด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งเธอกำลังให้ความสนใจอยู่กับดอกไม้สวย ๆ ที่บรรจงปลุกเองกับมือ ทุกอย่างที่ได้สรรค์สร้างมันเองคือความภาคภูมิใจ หากใครจะมองว่าไร้สาระไปบ้างก็ไม่เป็นไร

    น้าริน กลับบ้านเร็วอะวันนี้ นึกว่าจะต้องกินข้าวคนเดียว เลยชวนราชิตมากินเป็นเพื่อน

    ข้ออ้าง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองตลอด ฉันรู้ทันหมดนั่นแหละ”

    สวัสดีครับน้าริน ฝากท้องด้วยคนนะครับ วันนี้ไม่อยากทานข้าวคนเดียวเหมือนกัน”

    ราชิตตามน้ำ เขาสนิทสนมกับทอรินมากพอ ๆ กับที่รู้จักกับนลิน เข้านอกออกในได้พอ ๆ กับบ้านของตัวเอง เพียงแค่ยิ้มทักทาย ความจริงใจบ่งบอกทางสายตา บ้านที่มีเพียงหญิงสาวสองนางอยู่ด้วยกันลำพังในบ้างครั้งก็ต้องการคนมาอยู่ด้วยช่วยเหลือในบางสิ่งที่พวกหล่อนไม่สามารถทำเองได้

    หลังอาหารเย็นได้เวลาที่สองน้าหลานจะได้พูดคุยถึงประสบการณ์ระหว่างวันที่เพิ่งผ่านมามาด ๆ

    “เป็นไงบ้างน้ำ มีอะไรอยากจะเล่าให้น้าฟังหรือเปล่า

    ทอรินรอเวลาที่จะได้อยู่สองคนน้าหลาน เธอร้อนใจแต่ไม่แสดงอาการร้อนรนให้เสียลุค ถึงจะสนิทกับราชิตมากแค่ไหน การจัดระยะห่างระหว่างกันยังคงเป็นเรื่องสำคัญ

    ตื่นเต้นดีน้าริน เขาดูดีมากทีเดียว มันต่างจากน้ำอะดิ ดีแล้วที่เราอยู่กันคนละเส้นทาง

    พูดเหมือนปลง คนพวกนั้นมันเห็นแก่ตัวจะตายน้ำจะไปยอมแพ้มันไม่ได้หรอกนะ น้าคนนึ่งแหละที่ไม่ยอม

    โห พูดยังกะหนังดราม่า วันนี้น้ำเกือบทำเสียเรื่อง แต่แปลกนะน้าริน สายตาเขานิ่งเฉยมากเลยอะ ไม่โกรธ ไม่เกรี้ยวกราด เป็นผู้ดีมาก ๆ

    เสแสร้งน่ะสิ ว่าแต่เราไปทำอะไร

    ทอรินยังสนใจกับการกระทำของนลินอยู่ เวลาที่ผ่านมาได้หล่อหลอมหัวใจที่บอบซ้ำให้กลายเป็นหินผา เธอเกลียดชังทุกการกระทำที่คนพวกนั้นสร้างเอาไว้ ทำให้พี่สาวคนเดียวของเธอทุกข์ระทมจนเจียนขาดใจ ก่อนตายเธอพยายามร้องขอให้รัก และดูแลนลินให้ดี

    “เจอครั้งแรกก็เดินชนเขาจะล้มไม่เป็นท่า ไม่รู้ว่าจะมีภาพหลุดอะไรออกมาประจานหล่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี ไม่ได้ตั้งใจ แต่นางใส่กระโปรงสั้นมาก คงไม่รอด”

    นั่นแหละ ซะใจดีทำดีแล้วหลานรักของน้า ยายย่าสารพัดพิษนั่นจะได้ขายหน้าประชาชีทั้งเมือง สมน้ำหน้า เจ้ากี้เจ้าการนัก ว่าแต่...

    ทอรินนึกขึ้นได้ว่าหลานของตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย มีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า หากความละเลยความใส่ใจอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขาด หล่อนจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น หล่อนคัดค้านมาโดยตลอดเพราะความรักความรับผิดชอบถูกละเลยจึงทำให้นวลปรางต้องตายอย่างอนาถ

    ความรักทำลายพี่สาวเธอจนลมหายใจสุดท้าย

    น้ำเป็นอะไรไหมล่ะ”

    ไม่เป็นอะไรหรอก แค่งง ๆ ไม่คิดว่าการเจอกัน ความรู้สึกมันจะต่างออกไป ชีวิตเราต่างกันมากนะน้าริน น้ำว่าเราอย่าไปยุ่งกะเขาเลยดีกว่า น้ำมีงานทำแล้วเลี้ยงน้ารินได้ หรือถ้าน้ารินไม่อยากให้น้ำเลี้ยงก็หาผัวรวย ๆ สักคนเลี้ยงโอเคป่ะ ตกลงตามนี้นะ

    ไม่ต้องนอกเรื่อง วีรกรรมที่ว่าไปก่อมามีแค่นั้นเหรอ แล้วแม่เนเน่อะไรนั่นว่าอะไรน้ำหรือเปล่า”

    ไม่เลย หล่อนน่าจะโกรธน้ำนะ แต่กลับมองน้ำเฉย ๆ ไม่แสดงท่าทีอะไร ถามแต่ว่าเจ็บไหมแค่นั้น ท่าทางจะห่วงน้ำด้วยนะน้าริน ไม่รู้สิ ไม่รู้สึกว่าเธอร้ายกาจอะไร”

    เฟค สร้างภาพ มันก็เหมือนย่ามันนั่นแหละ ฉันจำสายตาที่มันตามมาว่าพี่ปรางได้ อีพวกผู้ดีจอมปลอม”

    เหตุการณ์ครั้งอดีตผุดขึ้นมาเตือนความทรงของหล่อนในทันที ในวันที่นวลปรางกับทอรินเดินไปส่งนลินที่โรงเรียน รถเก๋งคันงามของคุณนายสิรินาถปราดเข้ามาจอดเทียบทำให้นวลปรางกับลูกแทบจะเดินตกถนน

    นางปราง ฉันต้องคุยกับหล่อนให้รู้เรื่อง

    คุณนายทรงผู้ดีปรี่ลงมาจากรถปราดเข้ามายืนขวางนวลปรางเอาไว้ ทอรินยืนอยู่ด้านหลังถึงกับผงะ แต่กระนั่นก็ไม่ปล่อยให้ความกลัวทำให้หญิงสาวนิ่งเฉย ทอรินปรี่เข้าไปยืนขวางคุณนายสารพัดพิษอย่างไม่เกรงกลัว

    อย่ามาหาเรื่องพี่สาวฉัน ต่างคนต่างอยู่ไปซี

    ออ นี่ร้ายกาจกันทั้งพี่ทั้งสองน้องเลยสินะ นางปรางฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามเสนอหน้าไปหายายเนเน่กับตาโน้ต ฉันไม่ต้องการให้หลานฉันรู้จักกับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างหล่อน

    แต่คุณแม่คะ ปรางแค่

    หยุด หุบปากพร่อย ๆ ของหล่อนเดี๋ยวนี้ อย่ามาตีเสมอเรียกฉันแม่ ฉันกับหล่อนไม่มีเกี่ยวข้องกันแล้ว จำไม่ได้หรือยังไง ถ้าหล่อนไม่เลิกไปยุ่งกับหลานฉัน อย่าหาว่าฉันไม่เตือน คราวนี้ฉันเอาตาย”

    อี้ อีคนใจยักษ์ หลานแกก็ลูกพี่สาวฉันเหมือน สติเลอะเลือนหรือยัง อีผู้ดีปากตลาด ทอรินทนฟังไม่ไหว

    หยุด เป็นเด็กเป็นเล็กปากเสีย นี่คงเกิดมาจากสลัมสิท่า กิริยามารยาทไม่ได้เรื่อง ชั้นต่ำ อย่ามาปากดีกะฉันนะ เดี๋ยวแม่ตบไม่เลี้ยงด้วยเอ้า”

    สายตาเดียดฉันท์ของคุณนายสิรินาทยังคงฝังในความทรงจำ นางไม่เคยคิดว่านวลปรางเป็นสะใภ้ตระกูลสหบดี หากไม่มีคุณปู่นวลปรางคงโดนเฉดออกจากบ้านนั้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าพิธีแต่งงาน

    ริน อย่าเสียมารยาทสิ คุณนายเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ

    พี่ปราง ก็อีแก่นี่กำลังด่าพี่ปรางอยู่นะ

    หยุด ฉันมาเตือน ถ้าหล่อนรักลูกเห็นแก่หน้าลูกก็อย่าเอาความต่ำของตัวเองไปให้ลูก ๆ ได้รับรู้ ฉันไม่อยากให้หลานฉันต้องเข้าใจว่ามีแม่เป็นคนชั่วใฝ่ต่ำ อีเด็กนี่คงจะเป็นลูกชู้สินะ ออกจากบ้านไม่เท่าไหร่มีลูกโตขนาดนี้แล้ว กลัวไม่ทันใช้หรือยังไง ร่านได้โล่ ไม่ต่างกันทั้งครอบครัว นี่น้องสาวหล่อนอีกไม่กี่วันคงมีผัวแล้วสิท่า ใช้การได้แล้วนี่ เชื้อไม่ทิ้งแถว”

    สายตาหยามหยันของคุณนายสิรินาทระรานไปทั่ว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ทอรินไม่มีวันลืม กำพืดเดิมถึงจะไม่ได้ดีเด่นอะไรแต่เธอกับนวลปรางก็ไม่เคยดูแคลนใคร และที่สำคัญรู้สึกว่าคุณนายนั่นจะยกหลานรักสองคนนั้นไว้อยู่บนหิ้ง และนางก็ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่านลินเองก็เป็นหลานสาวอีกคนของตระกูล

    การมาของคุณนายสิรินาทก็เพียงต้องการกำจัด และกันนวลปรางไม่ให้เข้าใกล้กับลูกทั้งสองคน นวลปรางต้องทนทุกข์คิดถึงลูก คิดถึงสามีเพียงลำพัง หากทนไม่ไหวก็ไปแอบดูลูก ๆ อยู่ที่ริมรั้วโรงเรียนบ้าง ที่หน้ารั้วบ้านบ้าง ทอรินสงสารพี่สาวมากได้แต่ปลอบใจกันไปตามประสาพี่ ๆ น้อง ๆ

    พี่ปราง ไปมาอีกแล้วใช่ไหม รู้ไหมถ้าอีคุณนายสารพัดพิษนั่นเจอพี่เข้าจะเป็นยังไง ถ้าไม่รักตัวเองก็รักยายน้ำมันหน่อยนะ มันไม่มีพ่อแล้วจะให้มันไม่มีแม่อีกคนงั้นเหรอ

    ริน ก็พูดเกินไป พี่คิดถึงลูก นั่นมันลูกพี่ทั้งสองคนเลยนะ พี่แค่อยากเห็นหน้าลูกแค่นั้น”

    พอเลยพี่ คนบ้านนั้นมันใจดำ มันอำมหิตกับพี่ กับยายน้ำ ดูหลานฉันสิ น่าสงสารจะตาย ยายน้ำของน้า เด็กน้อยตาดำ ๆ ต้องมากำพร้า พ่อแม่ยังอยู่ครบ อย่าไปอีกเลยนะ รินรู้ว่าพี่ปรางคิดถึงลูก แต่มันเสี่ยง

    การไปของนวลปรางแต่ละครั้งเสี่ยงที่จะโดนจับได้ หากคุณนายจับได้ก็อาจจะส่งคนมาทำร้ายจนต้องย้ายบ้านหนีกันอีกก็คงจะไม่ไหว ความร้ายกาจของคนใจบอดนั้นไม่เคยมีเหตุผล ทอรินจดจำทุกรายละเอียดที่คุณนายสิรินาททำได้หมด นางคิดเสมอว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง แม่กระทั่งความเป็นแม่ ความเป็นครอบครัว

    น้ารินคิดมากไปป่ะ น้ำไม่คิดแบบนั้นหรอก เขาอยู่ส่วนเขา เราอยู่ส่วนเรา

    น้ำไม่เคยเห็นคนบ้านนั้นทำกับแม่ ถึงเห็นน้ำก็จำไม่ได้หรอกเพราะน้ำยังเล็กมาก

    “มันก็จริงนะน้าริน ที่น้ารินพูดมาก็มีส่วนใกล้เคียงที่ว่าคุณย่าสารพัดพิษนั่นมักจะจัดการทุกอย่าง น้ำได้ข่าวว่าจะจัดการจับคู่ให้หลานสาวด้วย

    นั่นไง คราวนี้เป็นใครล่ะ เพิ่งกลับมาก็ได้เรื่อง ยายคนนี้มันเผด็จการ มันไม่ต้องการให้แม่ลูกเขาเจอกันมันก็ส่งเด็กไปเมืองนอก พี่ปรางตายมันก็ไม่ให้ลูกมาไหว้ศพ”

    ทุกอย่างที่เล่ามาล้วนแต่มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น เมื่อคิดถึงการเสียชีวิตของแม่นลินก็คล้อยตามรู้สึกแค้นใจอยู่ลึก ๆ ไม่มีอะไรโหดร้ายเท่าการตายเพราะความรัก

    คุณราเมธ ปิยะโภคิน น่าจะเป็นคนแรกที่เข้าวินนะน้าริน เพราะเห็นคนเดียวที่ไปงานวันนี้ ดูเหมือนว่าสองคนจะสนิทกันด้วยนะน้าริน”

    ว่าไงนะ คุณราเมธ ลูกชายเจ้านายน้าเหรอ เข้าทาง แบบนี้ก็สนุกสิน้ำ

    น้าริน นี่น้ารินคิดอะไรอยู่อะ ถ้าเขารักกันมันก็น่าจะดี น้ำไม่อยากไปยุ่งด้วยหรอก อยากให้จบ ๆ กันไปถือว่าไม่มีวาสนาต่อกัน ไม่ว่าพี่น้อง พ่อหรือญาติคนอื่น ๆ น้ำมีน้ารินกับแม่ก็พอ”

    คิดดี น้ารินก็แค่คิดเล่น ๆ ว่าถ้าน้ำจะเข้าไปหาอะไรทำที่นั่นแล้วแอบโฉบราเมธมาควงเล่น ๆ มันจะเป็นยังไงนะ ยายคุณย่าสารพัดพิษนั่นจะเป็นยังไง น้ารินน่าจะสาว ๆ สวย ๆ เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่คิดไปงั้นแหละ ทำอะไรไม่ได้”

    สายตามองมาที่นลินนั้นมีความหมาย คนที่อยู่ด้วยกันมาแต่เล็กจนโตย่อมรู้ดีว่าอะไรที่สามารถยัดเข้าไปในสมองของเธอได้ ต่างก็รู้ว่าต้องการสิ่งใดในชีวิตถึงปากจะบอกว่าไม่แต่ใจก็ต้องคิดตามอยู่นั่นเอง

    ก็จริงนะคะน้าริน ได้ข่าวว่าคุณราเมธนั่นถูกหมายตาเหมือนกัน ว่าแต่น้ารินรู้จักเขางั้นเหรอ

    รู้จัก เจ้านายของน้ารวยมาก นักการเมืองก็รวย ๆ ทั้งนั้นแหละ ยิ่งทำธุรกิจมาก่อนด้วยแล้วก็ยิ่งรวย ยายคุณย่าจอมงกนั่นจะต้องอยากเกี่ยวดองด้วยอยู่แล้วเชื่อน้า ข่าวนี้ย่อมมีมูลแน่นอน”

    การกรอกหูทุก ๆ วันแบบนี้ทำให้นลินรู้สึกว่าเธอคงไม่อยู่นิ่งดูการเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ข้าง ๆ ตัวต่อไป เธอไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่หากสวรรค์ลิขิตให้ต่างก็เข้ามาใกล้กันก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    นลินเก็บเรื่องราวที่ทอรินพยายามบอกเล่ามาคิดจนไม่สามารถข่มตาหลับ หัวใจของเธอถูกตรึงอยู่กับคนในครอบครัวสหบดีตลอดทั้งคืน

    จบตอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×