คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรกเจอ
ตอนที่ 1. แรกเจอ
โรงแรม นาราการ์เด้นท์ ทัพนักข่าวเข้าไปเฝ้ารอทำข่าวการเปิดตัวของสาวสวยทายาทตระกูลสหบดีซึ่งเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อไม่นาน เธอกลายเป็นข่าวดังในหน้าสื่อแทบทุกแขนง ความสวย ความรวยของเธอกลายเป็นที่หมายตาของหนุ่ม ๆ ทั่วทุกวงการ
“พี่อาโปจองที่ให้น้ำด้วยนะ วันนี้รถติดมากอะ ไม่รู้สิว่าทำไมถึงติดเหลือเกิ้น คงไปไม่ทันแน่ ๆ ช่วยหน่อยนะ”
เสียงของหญิงสาวกำชับเพื่อนขณะที่กำลังก้าวลงจากรถไฟฟ้า เป็นความเร่งรีบที่เกิดขึ้นระหว่างวัน นลินไม่ชอบไปไหนมาไหนด้วยการขับรถเอง เพราะคิดว่าใช้บริการขนส่งมวลชนประหยัดกว่า แต่มันไม่จริงเสมอไป เพราะในบางครั้งไม่สามารถกำหนดเวลาในการเดินทางได้ มันเกิดความผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนให้หญิงสาวอีกหนว่าอย่าไว้ใจบริการขนส่งมวลชน
เพื่อนดี ๆ คนหนึ่งสามารถช่วยเราให้พ้นวิกฤตได้ในหลาย ๆ เรื่อง ข้อนี้จริงแท้แน่นอน
“มาถึงแล้ว”
เพียงเงยหน้าขึ้นมองหน้าโรงแรม หญิงสาวลังเลที่จะก้าวเข้าไปในทันที ความแตกต่างบนโลกมีให้เห็นมาก อยู่ใกล้เพียงแค่หายใจลดต้นคอ แต่กับไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง เธอยิ้มขมขื่นในใจ
“น้ำ ทางนี้ ๆ เร็ว”
เสียงอาโปดังเข้ามาทำให้หญิงสาวต้องหันไปตามเสียง เธอชะงักเล็กน้อยกับอาภรณ์ที่หล่อนสวมใส่ ชุดสูทเต็มยศ มาทำข่าวสังคมทั่ว ๆ ไม่เห็นต้องแต่งตัวให้เลิศหรูจนจำกันแทบไม่ได้
“พี่อาโป สวยเริ่ดที่สุด เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ แล้วนี่...”
“ไม่รู้อะไรเลยยัยน้ำ เวลาที่เราเข้ามาทำงานในสถานที่แบบนี้ เราต้องให้เกียรติสถานที่ แล้วนั้น เชิ้ตกางเกงยีนส์ตลอดการ มันได้เรื่องที่ไหนกัน เชยมั๊กมาก”
คำตำหนิเล็กที่หญิงสาวฟังจนขึ้นใจ เธอก้มมองสำรวจตัวเองก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นยิ้มแหย ๆ
“เอาไง แบบนี้น้ำจะเข้าไปถ่ายรูปได้ไหม งั้นพี่อาโปคนสวยก็สัมภาษณ์ไปนะ รับรองว่าไม่จุ้น”
เธอใช้คำว่าคนสวยเปิดทางให้กับชีวิต ก็ใครเล่าจะละเลยคำย่อที่ฟังรื่นหูโดยไม่สนใจ สาว ๆ ทุกคนก็ล้วนแต่หลงอยู่กับคำหวานที่จริงบ้างไม่จริงบ้างเพื่อหล่อเลี้ยงใจ
“โอเค ไปกันเลย ความจริงน้ำแต่งแบบนี้ก็ดูดีไม่น่าเกียจ เข้าได้ทุกสถานการณ์นั่นแหละ ไปเถอะ”
“ปากพี่อาโปนี่หวานพอ ๆ กับหน้าเลยรู้ป่ะ”
หญิงสาวก้าวเท้ายาว ๆ ไปยังห้องโถงใหญ่ ซึ่งจัดสถานที่ไว้สำหรับต้อนรับนักข่าวอย่างคึกคัก ใหญ่โต ก้าวแรกที่สัมผัส ความหนาวเย็นแล่นขึ้นเกาะกุมหัวใจ มันหนาวยะเหยือกจนรู้สึกวังแวง ก้าวขาแทบไม่ออก เมื่อต้องหวนคิดถึงที่มาของพวกเขาซึ่งต่างกับชีวิตของเธอราวฟ้ากับเหว
“เหอะ...เชื่อน้ารินนี่น้ำ ความจริงคนตระกูลนี้อะนะ มันเลว เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่เคยเห็นหัวใครหรอก คนมีเงินเท่านั้นที่มันอยากจะคบหาด้วย มันคือเรื่องจริง น้ารินไม่ได้ใส่ความใส่ไคร้ใครหรอกนะ พูดความจริงล้วน ๆ”
น้ำเสียงของน้ารินดังเข้ามาตลอดเวลาทำให้ความรู้สึกกวัดกลับไปที่แววตาของแม่นวลปราง นางไม่เคยว่าใครเป็นคนเลว เป็นคนไม่ดี มีเพียงคำที่เฝ้าสอนให้รู้ว่าทุกชีวิตมีค่าเท่า ๆ กัน
“น้ำ การใช้ชีวิตมันสำคัญที่เราจะเห็นค่าของตัวเองนะลูก อย่าคิดที่จะดูถูกตัวเอง ทำอะไรก็ให้ยืดมั่นในความดี เชื่อแม่แล้วลูกจะเจอแต่คนดี ๆ”
มันค้านกันเหลือเกินสำหรับแนวคิดของหญิงสองคนทั้งที่เป็นพี่น้องร่วมชายคา เธอจะเชื่อใคร ในเมื่อถามถึงคนที่สหบดี แม่กลับบอกเสมอว่าทุกคนมีเหตุผลที่ต้องทำ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ล้วนแต่มีเหตุ และผลของมัน แต่มันใช่เหตุผลหรือเปล่าที่พวกเขาทอดทิ้งเธอให้กลายเป็นคนไร้ราก ไม่มีญาติขาดแม้กระทั่งบิดาผู้ให้กำเนิด
คำถามนี้ไม่เคยได้รับคำตอบจริง ๆ เพราะไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอตั้งคำถามเพราะอะไร
“น้ำ ยืนเซ่ออยู่ทำไม มาตรงนี้สิ เร็วเข้า”
เสียงของอาโปดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เธอเห็นการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยการห้อมล้อมของทัพนักข่าว มันเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ หญิงสาวรู้สึกเหมือนก้าวขาไม่ออก จะทำอย่างไรในเมื่อผู้คนเดินถอยหลังมาที่เธอ นลินตัดสินใจขยับเท้าหลบ แต่มันไม่เป็นไปตามที่ใจของตัวเองต้องการ การเดินของเธอกลับแทรกตัวเข้าไปจนทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเสียหลัก ทำให้เธอเสียหลักตามร่างพุ่งไปข้างหน้าอย่างไร้น้ำหนัก
“โอ้ยยยยยย”
ได้ยินเสียงร้องของตัวเองในวินาทีนั้น แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ เธอถลาไปยังเป้าหมายที่ใคร ๆ ก็กำลังสนใจ ทั้งคู่ชนกันอย่างแรง ร่างของนลินโถมเข้าหานาราซึ่งอยู่บนร้องเท้าสูงกว่าห้านิ้ว เธอล้มลงไม่เป็นท่า ชุดเดรสสั้นของหล่อนไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนสงวนให้มิดต่อสายตาช่างภาพ
“เอาตัวเธอออก”
เสียงใครบางคนสั่งการดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ร่างของนลินถูกหิ้วออกมาพร้อมกับกล้องในมือที่ยังไม่ได้กดภาพสักใบ เธอทำทุกอย่างพังในพริบตาเพียงในเวลาไม่กี่นาที
“คุณกำลังทำให้เธอเจ็บ ปล่อยเธอซะ”
เสียงหนึ่งดังเข้ามาทำให้บอร์ดีการ์ดสองนายต้องหยุด ความเจ็บที่ต้นแขนทั้งสองข้างคลายลง เธอค่อย ๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง ซึ่งก็ไม่ใช่ไกล คือนารา สหบดีนั่นเอง เธอมองมาด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่แสดงท่าทีว่าโกรธหรือรู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
นลินไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินชัดหรือเปล่า มันคือความห่วงใยหรือว่าเธอถามเพราะต้องการรักษาหน้าตาในวงสังคม เธอกำลังเป็นจุดเด่นในงาน
ต้องแน่อยู่แล้วว่าต้องทำทุกอย่างให้ดูดีในสายตาของสื่อ ในสายของคนที่เข้ามาร่วมงาน
“ว่ายังไง เจ็บที่ไหนหรือเปล่า”
โทนเสียงยังเหมือนเดิม หญิงสาวรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทีเช่นนี้ แม่นวลปรางของเธอมักจะใช้สายตาแบบนี้กับเธอเสมอ นลินส่ายหัวไปมา ไม่กล้าที่จะเผชิญกับหน้ากับพี่สาวจริง ๆ ของตัวเอง มันต่างกันสุดขั้วหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีน้องสาวอยู่บนโลกด้วย
“งั้นก็ดี ถ้ารู้สึกเจ็บก็บอกพนักงานให้เขาพาไปห้องพยาบาลนะ อย่าทิ้งไว้นาน”
หญิงสาวเดินกลับไปยังจุดที่จัดงาน งานของหล่อนก็เพียงมาเปิดตัว และให้สัมภาษณ์ตามโปรเกรมที่ว่างเอาไว้ล่วงหน้า เสียงการตระโกนถามของนักข่าวทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าต่างก็ให้ความสำคัญในการมาของนารา สหบดี ยิ่งนักกว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
เธอสวยงามราวกับนางฟ้า ซึ่งมีแต่คนให้ความสนใจ มันคงจริงอย่างที่น้าทอรินบอก เงินเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต ทุกคนต่างก็ปรารถนามัน เพราะมันจะบันดาลทุกอย่างให้อย่างใจปรารถนา
“ก่อเรื่องจนได้ เอากล้องมานี่ ฉันจัดการเอง”
อาโปทำเสียงเขียว จ้องมองนลินราวกับเธอนั้นทำความผิดใหญ่โต ไม่มีอะไรที่นลินจะทำได้ดีตั้งแต่เริ่มงานของวัน หญิงสาวยิ้มจาง ๆ เธอไม่ได้เจตนาให้มันเลวร้ายแต่มันเกินที่จะควบคุม
“ขอโทษนะ ฉันตะลึงความสวยของเธออะพี่อาโป ขอโทษนะ”
เสียงของนลินดังพอที่จะเข้าหูนาราชัด เธอใช้หางตามองมาที่นลิน หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเห็นรอยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก ไม่แน่ว่าหล่อนนั้นชื่นชมหรือว่ากำลังหยามหยันกับคำพูดที่ได้ยิน มันไม่มีคำตอบจากสายตา และรอยยิ้มของเธอ
“ไม่ได้เรื่องจริง ๆ อดได้ภาพดี ๆ เลย นี่คงต้องรอคิวสัมภาษณ์อีกเป็นชั่วโมง ไปนั่งรอที่โต๊ะแล้วกัน หาอะไรกินไปก่อน เมื่อเช้าไม่ได้กินอะไรมาสิท่า ท่าทางหิวโซมาเลยนี่”
อาโปไล่ให้ไปที่โต๊ะนั่นก็หมายความว่าที่นั่นยอมมีอะไรดี ๆ นลินรีบปรับความรู้สึกของตัวเองก่อนที่จะปรี่ไปยังโต๊ะซึ่งทางโรงแรมจัดไว้ให้ ทุกโต๊ะมีซองสีขาววางเอาไว้ เป็นความหมายของการแจกข่าว รายละเอียดต่าง ๆ ของนารา สหบดี แต่ทุกอย่างที่เห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หญิงสาวรีบเก็บทุกซองที่วางอยู่ พร้อมกับลงในนามของสำนักข่าวเกาะกระแสคนดัง
เธอเข้ามา ฝึกงานทุกอย่างที่เกี่ยวกับสื่อทางอินเทอร์เน็ต มีหลายส่วนที่อยู่สำนักเดียวกัน แต่อยู่ในส่วนของสื่อด้านอื่น ๆ ที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นช่องทางหนังสือพิมพ์ นิตสาร และฝ่ายข่าวทีวี ล้วนแต่เป็นความฝันที่หญิงสาวอยากเรียนรู้ให้มากที่สุด มันคือทางที่เธอได้ร่ำเรียนมา
“มีเงินทำอะไรก็ได้เนาะ ไม่น่าเกลียด”
“ใช่สิย่ะหล่อน ถ้าเป็นฉันนะ จะจัดงานเปิดตัวให้ยิ่งใหญ่เชิญแขกมาทั้งเมืองเลยแหละ”
เสียงการสนทนาของแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งโต๊ะของนลินอยู่ใกล้ เธอไม่แน่ใจว่าทั้งสองคนนั้นกำลังชื่นชมหรือว่าเหน็บแนมแกลมริษยา โลกมายาสอนให้คนยิ้มให้กันทั้งที่รู้สึกชิงชังราวอยากจะฆ่าแกง
“ยายเนเน่น่ะไม่เท่าไหร่หรอก ฉันว่าคุณย่าของหล่อนนั่นแหละตัวดี นี่หล่อนรู้ไหมว่าข่าววงในเห็นว่าเชิญแขกระดับเศรษฐีมีลูกชายหล่อ ๆ ทั้งนั้นน่ะย่ะ หวังสูง”
“เข้าใจทำเนาะ คนแก่เดี๋ยวนี้เหลี่ยมเยอะจริง ๆ คงกะจะจับคู่ให้หลานสิไม่ว่า เชื่อเถอะคอยจับตาดูว่าใครจะปรากฏในงาน ฉันว่าคนนั้นนั่นแหละว่าที่ผัวยายเนเน่”
“จริงเหรอเนี่ย ตายแล้ว ยายเนเน่ไปหาผัวถึงเมืองนอกเมืองนาแต่กลับมาหาของกินแถว ๆ บ้านนี่เอง ทุเรศจังเลย สงสัยว่าไม่มีนิยมชอบของนอก น่าสงสารจังเลยเนาะ”
เสียงวิภาษณ์วิจารณ์ที่ดังมาจากด้านหลังทำให้นลินอยากจะหันไปมอง แต่ก็เกรงใจว่าจะทำให้เธอพวกหล่อนเลิกคุยกัน มันไม่ดีเลยเพราะสิ่งที่พวกหล่อนคุยล้วนแต่เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจจะได้ยินเรื่องพวกนี้ได้ มันแปลกใหม่สำหรับนลิน ใจหนึ่งก็อยากจะโกรธที่มีคนเอ่ยถึงพี่สาวของตัวเองในทางไม่ดี แต่มานึกอีกทีเขาเป็นใครจะนับญาติกับเธอหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
“อ้าว นั่นไง ตัวเฉลยมาแล้ว หล่อนคอยดูดิ ไม่นานมีข่าว รัก ๆ เลิก ๆ แบบคนดังเขาทำแน่นอน เรียกร้องให้ตัวเองดัง แผนการของคุณย่าหล่อนแน่นอน”
เกิดกระแสหือฮาอีกครั้งกับการมาของราเมธ ปิยะโภคิน ทายาทนักธุรกิจ หนุ่มไฟแรงที่หันมาเล่นการเมืองอยู่ในขณะนี้ เขามาพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งนลินไม่อาจจะเข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ ๆ ได้เพราะเธอมีหน้าที่นั่งมองการทำงานของอาโป รุ่นพี่ใจดีที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้ในยามที่ออกภาคสนาม
“ไหน ขอดูรายละเอียดของนารา สหบดี หน่อยสิว่ามีอะไร”
หญิงสาวเปิดซองขึ้นมาดู เธอเห็นแบงก์สีน้ำตาลสอดเอาไว้ในซองทุกซองเป็นค่าน้ำมันรถ เธอนึกในใจว่าการทำแบบนี้มันดีกับเธอเป็นอย่างมาก ไม่ลำบากในเสียค่ารถมาเอง ช่างมีน้ำใจมากมายเสียเหลือเกิน แบบนี้ไม่รู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความคิดคุณย่าสารพัดพิษที่แขกในงานวิจารณ์กันหรือเปล่า
“ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเลิศเร่อนี่นา แค่จับงานแรกก็ต้องบริหารงานโรงแรมหรู ๆ รวยกันจริง ไม่รู้ว่าทำบุญมาด้วยอะไร ชาตินี้ฉันจะมีวาสนาบ้างไหมนะ”
นลินรู้สึกอิจฉาในใจลึก ๆ ที่พวกเขาล้วนแต่มีความสุขกับการอยู่บนกองเงินกองทอง แต่เหตุใดตัวเธอถึงกลายมาเป็นลูกกำพร้าพ่อแม่ยังอยู่ นลินถอนหายใจขณะที่อาโปเดินเข้ามา ใบหน้าหญิงสาวระรื่นมีความสุข
“ทำไม เหนื่อยหรือยังไง ไหนซองของฉันละ”
“เขี้ยวจัง แล้วนี่เก็บภาพเสร็จแล้วเหรอ ได้คิวสัมภาษณ์หรือยัง”
หญิงสาวแสร้งถามไปอย่างนั้น ความจริงเธอมีเป้าหมายอยู่แล้ว เพราะประเด็นข่าวไม่ได้อยู่ที่นาราคนเดียวซะแล้วตอนนี้ มันมีสิ่งใหม่ที่เร้าใจยิ่งกว่าที่ตาเห็น
“อีกชั่วโมง กินก่อนดีกว่า เหนื่อยอะ ไม่น่าสวมรองเท้าส้นสูงมาเลย กลัวไม่สวยสิเรา เมื่อยชะมัด”
หญิงสาวก้มมองรองเท้าของตัวเอง รู้สึกท้อใจอย่างบอกไม่ถูก
“บ่นเป็นยายแก่ไปได้ ไปหาอะไรทานก่อนไป๋ เดี๋ยวน้ำจะไปเก็บภาพด้านโน้น”
“ขยันขึ้นมาเชียว เขากำลังให้ช่างภาพอื่นถ่ายภาพอยู่อย่าซุ่มซ่ามนะขี้เกียจตามแก้สถานการณ์ให้ กินข้าวก่อนแล้วกัน ฉันหิว”
“จริงด้วย งั้นไปตักอาหารดิ น้ำจะเฝ้าตรงนี้ให้เอง เดี๋ยวนั่งเช็กภาพไปก่อนว่าถ่ายเป็นไงบ้าง ได้เรื่องหรือเปล่า”
“ทำมาเป็นเช็กฝีมือฉัน รับรองชัดทุกภาพโว้ย ไม่ได้โม้ ของเขาดีจริง ๆ”
อาโปฟุ้งก่อนที่จะหายเข้าไปกับหมู่คน ซึ่งน้อยคนที่จะสนใจกับการเก็บภาพบรรยากาศ เพราะเจ้าของงานขึ้นเวทีเพียงแค่ไม่ถึงสิบนาที ดูเหมือนว่าเธอไม่สนุกที่จะต้องมายืนหน้ากล้อง แขกแยกมาหาอาหารรองท้องกันทั่วหน้า งานหรู ๆ เริดแบบนี้ส่งผลกับข่าวที่จะเขียนชมหญิงสาวในวันรุ่งขึ้น ถือว่าแผนการประชาสัมพันธ์ที่หวังผลได้เป็นอย่างดี
“อาหารเลิศ ๆ ทั้งนั้นเลยน้ำ เขาคิดทำอะไรอยู่เนี่ย ฉันทำงานมาตั้งนานแล้วเพิ่งจะเจอความฟุ้งเฟ้อไร้สาระก็วันนี้แหละ มันมากเกินไปป่ะ”
“พี่อาโปจะบอกอะไรงั้นเหรอ”
“ไม่รู้สิ เขาอยากดังงั้นเหรอ ดูท่าทางของคุณเนเน่ไม่ค่อยสนใจด้วยซ้ำว่านักข่าวจะสนใจอะไรในตัวเธอ”
สายตาของหญิงสาวอย่างอาโปถือว่าเป็นเหยี่ยวข่าวมานาน แหลมคมและชัดเจนในสิ่งที่หล่อนมองเห็น มันต่างไปจากคนอื่น ๆ ที่มองจากภาพลักษณ์
“ถ้าคนอยากดังเขาคงพูดสามวันสามคืนจนหล่อนคงไม่อยากฟังนั่นแหละ นี่เขาแทบไม่อยากจะพูดกับนักข่าว ฉันว่าเขาไม่อยากเป็นตุ๊กตาไขลานให้คนจับวางมากกว่า”
“พูดซะปวดหัวเลย ตุ๊กตาอะไรย่ะ ขอน่ะสวยขั้นเทพแบบนี้ เอาไปเก็บไว้ที่บ้าน”
“สวยใสไร้สมองหรือเปล่า อันนี้ต้องพิสูจน์ อย่างลืมสิว่าเขาอายุไม่ไหร่ จะมาบริหารโรงแรมห้าดาวแบบนี้ได้ยังไง ฉันว่าหัวโขนมากกว่า ทำงานเป็นหรือเปล่าเหอะ”
หลาย ๆ คำพูดของคนรอบข้าง ๆ ทำให้นลินรู้สึกสงสารหญิงสาวผู้ที่กำลังตกเป็นเชลยสังคมอยู่ลึก ๆ มันแปลกที่คนเราทำอะไรก็ล้วนแต่โดนวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบด้าน แท้จริงแล้วตัวตนของเธอเป็นเช่นไรยังไม่มีใครรู้
“จริงด้วย ทำงานเป็นหรือเปล่า ประเด็นนี้สิน่าสนใจ พี่อาโปเล่นประเด็นนี่สิ รับรองได้เล่นยาวทั้งอาทิตย์แน่ ๆ”
“เดี๋ยวค่อยคิด กินก่อน”
อาโปไม่สนใจกับเรื่องงานเพราะถึงอย่างไรก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่หล่อนจะมานั่งคิดเรื่องงาน อาหารมันทำให้ความสนใจของหญิงสาวไปรวมอยู่กับสิ่งนั้น
“โอเค งั้นไปก่อนนะ จะหาข่าวเด็ด ๆ มาฝาก รับรองว่าวันนี้ไม่มาเสียเที่ยวแน่นอน”
หญิงสาวหันมายิ้มร่า สายตามองเลยไปยังสาวสวยสองนางที่กำลังหันมองมาทางเธอ หญิงสาวยกกล้องขึ้นกดภาพเป็นการทักทาย ซึ่งเจ้าหล่อนทั้งสองก็พร้อมใจที่จะให้โพสท์ท่าสวยงามให้นลินได้เก็บบรรยากาศตามใจ
“คนอยากดังมันต้องแบบนี้สิ ของจริง”
หญิงสาวเดินผ่านกลุ่มคนเข้าไปยังด้านหลังซึ่งเป็นจุดที่ต้อนรับแขกวีไอพี เป้าหมายของเธออยู่ที่ชายหนุ่มที่นั่งชื่นชมบางสิ่งที่เขาพอใจ สิ่งนั้นไม่ใช่อื่นไกลหากแต่เป็นสาวสวยที่กำลังโพสท์ท่าให้นักข่าวเก็บภาพอยู่นั่นเอง
“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเก็บภาพของคุณนิดนึ่งได้ไหมคะ”
หญิงสาวพยายามทำเสียงให้ปกติ แม้จะรู้สึกตื่นเต้นแค่ไหนก็ตาม ชายหนุ่มหันมามองเธอด้วยแววตาฉงน หนุ่มหล่อไฮโซค่อนข้างมีชื่อเสียงในทางลบ หลายคนให้ความสนใจ ราเมธอยู่ในกระแสข่าวเสมอ ๆ
“แน่ใจนะครับว่าอยากจะถ่ายภาพผม ผมไม่ใช่คนสำคัญนะ”
เขาถามเธอด้วยความอยากรู้ หญิงสาวยิ้มร่า ในขณะที่นารากำลังผละจากนักข่าวปรี่เข้ามาหาแขก มันช่างเป็นเวลาที่เหมาะเหลือเกินที่จะได้ภาพสำคัญในการประโคมข่าวของวันรุ่งขึ้น
“แน่นอนที่สุด คุณเป็นคนสำคัญอยู่แล้ววันนี้”
เขายิ้มร่าเป็นการตอบรับขณะที่นลินขยับตัวถอยหลังเพื่อเตรียมถ่ายภาพ นาราเดินเข้ามาพอดี ทั้งคู่ชนกันอีกครั้งอย่างแรง เหตุบังเอิญจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในวันเดียวได้หรือเปล่า ไม่มีคำตอบที่ตายตัว
ร่างของนาราเสียหลักเซไปอีกทาง ราเมธเร็วเท่าใจคิด โผเข้ารับเธอเอาไว้ก่อนที่จะล้มลงสู่พื้น ภาพที่เกิดขึ้นมันถูกเก็บไว้ในกล้องของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว และตามไปด้วยแสงแฟลซพรึบพรับจนนาราต้องหันหน้าหลบ
อกกว้างของชายหนุ่มเป็นที่พึ่งให้กับหญิงสาวเป็นอย่างดี
จบตอน
ความคิดเห็น