คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4th Box
เป็นภาพหายากมาก ที่จะเห็นแทฮยองกับจองกุกอยู่ด้วยกัน แถมยังกอดคอเหมือนเป็นเพื่อนรักกันอีกต่างหาก ทั้งคู่จ้องมองไปยังจุดหมายเดียวกันพร้อมส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นระยะ
“เชิญทางนี้เลยครับ สำหรับโปรโมชั่นต้อนรับหน้าหนาวของร้านเราสัปดาห์นี้ มีรายการ 1 แถม 1 มากมาย และถ้าซื้อสินค้าครบ 3 หมื่นวอน (ราวๆ900บาท) รับคูปองสัมมนาคุณสำหรับซื้อสินค้าครั้งต่อไปได้เลยครับ อ๊ะ! เชิญครับ”
สถานการณ์ตอนนี้ แค่จีมินต้องไปยืนโชว์ตัวหน้าร้านก็ทำเอาอีก 2 คนกระสับกระส่ายจะแย่ แต่เหตุการณ์ ณ วินาทีนี้ ทำให้ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนเลยทีเดียว เพราะมีกลุ่มลูกค้าผู้ชายเข้ามารับใบปลิวพร้อมแตะมือจีมินอย่างเนียนๆก่อนจะเดินเข้าร้านมา ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าคงเข้าไปต่อยให้รู้เรื่องสักหมัด
“แทฮยอง เติมสต็อกของหน่อย อ้อ! จองกุกดูลูกค้าทางนู้นหน่อยนะ”
ซอกจินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงปกติที่ผิดไปจากปกติ ก็แหม.. ถ้าเป็นปกติคงจะโดนประมาณว่า ‘จะลุกๆนั่งๆกันอีกนานไหม? ไปทำงานสิ!’ ประมาณนี้ แต่คราวนี้แค่พูดเสียงเรียบๆ คงเพราะลูกค้าเต็มร้าน แถมส่วนมากก็เข้ามาชมเพราะของลดของฟรีด้วยนั่นแหละ ขืนโวยวายลูกค้าหายหมด ส่วนพวกลูกค้าประจำที่มักจะแวะเวียนมาจนรู้นิสัยพนักงานทุกคนถึงกับหยุดยืนมองหน้าซอกจินกันเลยทีเดียว ก็นะ บอกแล้วว่ามันผิดจากปกติ
แม้ทั้งคู่จะหงุดหงิดเพียงใด แต่หน้าที่ต้องสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว และเพราะลูกค้าคือพระเจ้า ฉะนั้น จงก้มหน้าก้มตาปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่ซอกจินกำลังอารมณ์ดี คือเรื่องที่ถูกต้องที่สุด(?)
“ไม่ทราบว่ากำลังหาอะไรเป็นพิเศษ.. รึ.... เปล่าครับ”
จองกุกที่ตั้งใจจะเข้าไปบริการลูกค้า แต่พูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ถูกลูกค้าสะบัดหน้าเมินหนีอย่างไม่ใส่ใจใดๆ จองกุกจึงทำได้เพียงยืนอึ้งอยู่แบบนั้น
“ถ้าสนใจตัวนี้ นอกจากสีบนชั้นแล้วยังมีสีเขียวกับสีเหลืองให้เลือกอีกนะครับ”
ปึง!
ส่วนแทฮยองเองที่กำลังจะเติมสต็อกของ ด้วยความหวังดีที่เห็นลูกค้าหยิบๆของอยู่ ก็บอกให้รู้เผื่อสนใจ แต่ผลที่ได้กลับมาคือ ลูกค้าคนนั้นกระแทกของคืนชั้นและเดินหนีแทฮยองทันที แทฮยองบีบของในมือสะกดกลั้นอารมณ์โมโหไว้ หายใจเข้า-ออกลึกๆ ก่อนจะหันไปมองทางจองกุก ซึ่งอีกฝ่ายก็หันหน้ามามองพอดีเช่นกัน ทั้งคู่จึงถอนหายใจพร้อมกัน ก่อนจะค่อยๆเดินหลบกลับมายังมุมเดิมที่นั่งคุยกันเมื่อสักครู่
“เฮ้ย! ไม่ว่าอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจเลยจริงๆ”
แทฮยองเริ่มเปิดประเด็นทันทีที่ทั้งคู่นั่งลง ก็มันน่าหงุดหงิดจริงๆ ที่มันเห็นชัดๆเลยว่า ลูกค้าที่เข้าเต็มร้านจริง แต่ไม่มีใครคิดจะซื้อ พนักงานเข้าไปชวนคุยก็ทำพฤติกรรมน่าโมโหใส่ ไม่พอ เดินเข้ามาแล้วยังจะเอาแต่มองไปหน้าร้าน แบบนั้นอย่าเข้ามาเลย เกะกะ เงินเดือนน้อยลงเพราะยอดขายน้อยก็ช่าง แต่เจอลูกค้าแบบนี้เยอะๆก็ไม่เอาเหมือนกันนะ
“นั่นสิ! แล้วดู.. เอาแต่มองไปที่พี่จีมิน แบบนั้นอย่าเข้ามาเลยดีกว่า!”
จองกุกเองก็แสดงความโมโหออกมาเช่นกัน และในทุกๆคำพูดนั้น แทฮยองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งทุกๆประการ แล้วทั้ง 2 ก็นั่งหงุดหงิดกัน จนกระทั่ง...
“เฮ้ย!!!!!”
ครืด~ โครม!
ด้วยความตกใจ ที่มีความเข้ามาขอถ่ายรูปกับจีมิน แถมยังเนียนโอบไหล่อีกต่างหาก ทำให้แทฮยองและจองกุกเด้งตัวขึ้นจากที่นั่งและส่งเสียงออกมาพร้อมกันโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้บรรดากล่องและกระดาษสำหรับห่อของขวัญที่วางอยู่ใกล้ๆล้มระเนระนาดลงมา ทำให้ทุกคนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว
“ขอโทษครับๆ พอดีพวกเราต่างคนต่างรีบไปหน่อย เลยพลาดทำของตก เชิญชมสินค้าต่อเลยครับ ไม่มีอะไรจริงๆครับ”
แทฮยองรีบออกตัวขอโทษเพื่อแก้สถานการณ์ พร้อมก้มหัวขอโทษรอบทิศ ซึ่งจองกุกเองก็รีบก้มหัวขอโทษเช่นกัน
“ขออภัยในความไม่สะดวกครับ”
จองกุกพูดออกไป พลางเหลือบไปมองซอกจิน ซึ่งปฏิกิริยาตอบรับที่ได้ตอบมาคือ ซอกจินเพียงแค่ส่ายหน้ายิ้มๆ จากนั้นจึงก้มไปไล่รายการบัญชีต่อ แทฮยองกับจองกุกหันมามองหน้ากันตาโต
“เฮ้ยพี่! ไม่โดนพี่ซอกจินด่าหว่ะ!”
จองกุกพูดขึ้นมาอย่างประหลาดใจทันที ซึ่งแทฮยองเองก็พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อหันกลับไปอีกที ซอกจินก็ยังคงไม่มีอาการโกรธเคืองใดๆ นั่นยิ่งทำให้แทฮยองขมวดคิ้วมากเข้าไปอีก ก่อนจะเอ่ย
“รีบๆเก็บของก่อนดีกว่า เผื่ออยู่ดีๆแกจะโมโหขึ้นมา”
ว่าแล้ว แทฮยองกับจองกุกจึงก้มหน้าก้มตาเก็บกล่องและม้วนกระดาษที่กองอยู่บนพื้น พร้อมทั้งจัดมุมนั้นเสียใหม่ เพราะไหนๆมันก็ทลายลงมาหมดแล้ว ก็จัดใหม่ทำให้มันดูน่าแวะมาซื้อกว่าเดิมซะเลย
“ไม่เป็นอะไรกันใช่ไหม”
เสียงหวานๆที่ดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่ละสายตาจากงานที่ทำอยู่ทันที จีมินที่วิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง นึกว่าจะทะเลาะจนเกือบจะตีกันจนของพังเสียอีก
“อ๋อเปล่าฮะ ไม่เป็นอะไรนี่ ก็แค่อุบัติเหตุธรรมดาน่ะครับ”
จองกุกตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสดังเช่นปกติ พลางแทฮยองเองก็ยิ้มและพยักหน้าตอบรับอีกแรง แบบนั้นก็ทำเอาจีมินโล่งใจและยิ้มออกมาได้ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้คนที่หงุดหงิดเมื่อครู่หัวใจพองโตขึ้นมากันทันที
“แบบนั้นก็ดีแล้ว มา! ฉันช่วย”
จีมินพูด พร้อมยื่นมือมาช่วยหยิบจับของบนพื้น จนแทฮยองต้องรีบห้าม
“เฮ้ยๆๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเก็บกันเองก็ได้ ว่าแต่นายเถอะ ไม่เฝ้าหน้าร้านแล้วหรือไง”
“ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ ฉันเองก็พูดจนเจ็บคอแล้วด้วย”
จีมินทำหน้าเง้างอตอบ นั่นทำให้แทฮยองพยักหน้าเข้าใจ และปล่อยให้จีมินเก็บของไป และในวินาทีนั้น แทฮยองก็หันหน้าไปขยิบตากับจองกุกอย่างรู้กัน แน่ล่ะสิ! แบบนี้แหละที่ต้องการ มีความสุขด้วยกันทุกฝ่าย จริงไหม?
================================================================
ตอนนี้เริ่มค่ำแล้ว ลูกค้าเองก็บางตาจากช่วงกลางวันมาก ซอกจินที่เขียนบัญชีจนมาถึงบรรทัดสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ค่อยๆปิดสมุดลง และเดินหายเข้าไปหลังร้านอย่าเงียบๆ และไม่นานก็ออกมาในชุดธรรมดาพร้อมกระเป๋าคู่กาย
“วันนี้ฉันต้องออกไปก่อน ฝากพวกนายปิดร้านด้วยนะ ไปก่อนล่ะ”
พูดเพียงเท่านั้นก่อนจะโบกมือและเดินออกไปเลย ทำให้เด็กๆทั้ง 3 ได้แต่พยักหน้าตามหลังไปอย่างมึนๆ จองกุกที่ตั้งสติได้ก่อน จึงค่อยๆวางของในมือลง และก้าวยาวๆไปที่หน้าร้าน เพื่อแอบส่องว่าซอกจินเดินไปทางไหน ไม่นานแทฮยองก็เดินมายืนซ้อนหลังพร้อมเอาคางเกยไหล่จองกุก
“ขับรถออกไปหน้าตาเฉยเลยแฮ่ะ! จะรีบไปไหนของเขา”
แทฮยองพูดขึ้น จองกุกเองก็พองแก้มพลางพยักหน้าเห็นด้วย
“เป็นไปได้ไหมว่า.. พี่ซอกจินจะไปออกเดท”
ความเห็นของจองกุก ทำเอาแทฮยองดึงตัวกลับมายืนเต็มความสูงก่อนจะใช้ความคิด
“ไม่แน่ๆ เพราะวันนี้ดูจะอารมณ์ดีทั้งวัน แถมยังทิ้งร้านไว้ให้เราปิดแบบนี้อีก ปกติต้องกลัวว่าเราจะถล่มร้านพังสิ..”
เป๊าะ!
“ใช่ไหมล่ะพี่ ผมว่าผมต้องเดาไม่ผิดแน่ๆ”
จองกุกดีดนิ้วลั่นเป็นสัญญาณของคนที่เห็นด้วยกับผลการวิเคราะห์นั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็ยังคงยืนใช้ความคิดกันอยู่แบบนั้น จนกระทั่ง...
“งื้อ~~ ใครก็ได้ ช่วยหยิบของบนชั้นนั้นให้ลูกค้าหน่อย เค้าหยิบไม่ถึง.. อ๊ะ! ครับๆมาแล้วครับ”
จีมินเรียกให้อีก 2 คนมาช่วยเขาหน่อย ก่อนที่จะวิ่งไปคิดเงินให้ลูกค้าที่กำลังยืนรออยู่อย่างวุ่นวาย ก็ตอนนี้มีเพียงจีมินที่ตั้งใจทำงานเพียงเท่านั้นนี่น่า แทฮยองกับจองกุกจึงหยุดการวิจัยไว้เพียงเท่านั้นก่อน เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนน่ารักต้องยุ่งอยู่คนเดียวล่ะ วันนี้จีมินเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
================================================================
“เย้! เก็บของเสร็จแล้ว ไปร้านโฮปปี้กัน!!”
จีมินพูดขึ้นอย่างร่าเริง แต่ก็ต้องค่อยๆหุบยิ้มลง เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากอีก 2 คนที่ทำหน้าคร่ำเครียดอยู่ จึงค่อยๆเข้าไปสะกิดแทฮยอง
“อืม.. รู้แล้ว... นายไปก่อนเลยนะจีมิน เดี๋ยวพวกฉันตามไป”
แทฮยองหันมายิ้มและพูดให้ ก่อนจะลูบหัวจีนิมเบาๆให้อีกคนหายงอน จีมินพยักหน้ารับและเดินคอตกออกมา ก่อนจะมีเสียงจองกุกไล่หลังมา
“สั่งของอร่อยๆกินก่อนเลยนะฮะ ไม่ต้องสั่งเผื่อพวกเรา เดี๋ยวจะรีบตามไปนะ~ อย่างอนนะครับ”
จองกุกบอกและยิ้มให้จีมินดั่งเช่นทุกครั้ง จีมินเองก็หันมายิ้มบางๆและลากเสียงตอบรับ และเดินออกจากร้านไปคนเดียว
“มาแล้วหรอ!! อ้าว? แล้วทำไมมาคนเดียวล่ะจีมิน”
โฮซอกที่ส่งเสียงเรียกอย่างอารมณ์ดีที่พวกตัวป่วนมาแล้ว แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเพียงจีมินคนเดียว มิน่าล่ะ.. เขาถึงไม่รู้ว่าจีมินเดินเข้ามาแล้ว เพราะไม่ได้ยินเสียงอีก 2 คนทะเลาะกันมาด้วยนี่เอง
“โดนไล่มาอ่ะ ฮือ~~ เค้าโดนทิ้ง”
จีมินตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า พร้อมแสดงละครดราม่าต่อหน้าโฮซอก ทำเอาอีกคนถึงกับสะดุ้งตกใจ จึงเข้าไปปลอบพร้อมข้อเสนอพิเศษ
“โอ๋ๆ ไม่ร้องไห้เนอะ เข้ามากินชาอุ่นๆก่อนนะ เห็นวันนี้เรียกลูกค้าทั้งวันน่าจะเจ็บคอ เดี๋ยวแถมวาฟเฟิลให้ ใส่ครีมให้เยอะๆเลยด้วย เนอะๆๆ”
แล้วทั้งคู่ก็นั่งคุยและจิบชายามค่ำกัน เพราะร้านแถวๆนี้ส่วนมากปิดแล้ว จะเหลือก็แต่พวกร้านคาราโอเกะ ร้านเบียร์ หรือบาร์ต่างๆ ส่วนร้านโฮปปี้นั้นจริงๆก็ปิดแล้วแหละ แต่ถ้าอยากกินก็ยังสั่งได้อยู่ เจ้าของร้านเต็มใจทำให้หากลูกค้าตั้งใจมากินเช่นกัน
================================================================
“เพิ่งนึกได้หว่ะจองกุก พี่ซอกจินเขาจะไปเดทได้ไง ในเมื่อปกติเคยเห็นติดต่อกับใครซะที่ไหน”
คล้อยหลังจีมินไปสักพัก แทฮยองก็โพล่งสิ่งที่ตัวเองนั่งคิดมาได้สักพักและยังหาคำตอบไม่ได้เสียที จองกุกเองก็ใช้ความคิดตาม
“พี่ไม่นึกบ้างหรอ? ว่าบางทีพี่ซอกจินอาจจะแอบไปคุยที่บ้านก็ได้ เราเลยไม่รู้”
และข้อสันนิฐานอีกหลายๆอย่างก็ถูกยกขึ้นมาโต้เถียงกัน ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซอกจิน ไม่สบายบ้างล่ะ หนีไปดูคอนเสิร์ตบ้างล่ะ รีบไปซื้อของลดราคาบ้างล่ะ แล้วแต่ความคิดแต่ละคนว่าจะคิดอะไรได้พิสดารขนาดไหน
“โอ๊ย!! ช่างมัน! ไม่คิดแล้ว!”
ในเมื่อยิ่งเดาเหมือนจะยิ่งหาทางออกไม่ได้ ก็เป็นอันปิดประชุมไปโดยปริยาย ทั้ง 2 คนกอดคอกันเดินออกมาจากร้าน และ...
“เฮ้ยพี่! ล็อคประตูร้านด้วยสิ!”
จองกุกโวยวายทันทีที่ทั้งคู่ก้าวพ้นประตูร้าน นั่นทำให้แทฮยองเอาแขนที่พาดบนไหล่จองกุกออกทันที ก่อนจะหันมาประจันหน้าด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปม
“อะไร! กุญแจไม่ได้อยู่ที่กู!!”
“อ้าว? อยู่ที่ผมหรอ?
เมื่อโดนแทฮยอง จองกุกจึงหันซ้ายหันขวาเพื่อหากุญแจ และเมื่อล้วงกระเป๋าเสื้อก็เจอกุญแจร้าน จึงยิ้มแหยๆขอโทษ และหันไปล็อคประตู เมื่อหันกลับมาก็เห็นแทฮยองวิ่งไวๆไปที่ร้านโฮปปี้เสียแล้ว
“ย๊า! ไอ้พี่แทฮยอง เก่งจริงอย่าออกตัวก่อนดิวะเฮ้ย!!!”
================================================================
ณ บ้านของซอกจิน
ซอกจินที่ขับรถมุ่งตรงมายังบ้านของตัวเอง ก็พบกับใครบางคนจอดรถจักรยานยนต์และยืนอยู่หน้าบ้านเขาพอดี ดูเหมือนคนๆนั้นเองก็กำลังมองหาเจ้าของบ้านเช่นกัน
“ขอโทษนะครับ”
เมื่อลงจากรถจึงรีบเดินตรงมาและเรียกผู้ที่ยืนรออยู่ทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็หันหน้ามายิ้มให้เช่นกัน พร้อมกับยื่นกล่องใบหนึ่งให้เขา ซอกจินรับมาดูแล้วจึงยิ้มออกมาทันที รวมถึงขอบคุณผู้ที่นำมันมาให้เขาด้วย
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้ว ซอกจินจึงรีบเปิดกล่องนั้นทันที เมื่อเห็นของข้างในแล้วจึงร้องออกมาด้วยความดีใจทันที
“ว้าว!! มารีโอ้!! ในที่สุดเราก็ได้พบกันแล้วนะลูก~”
ซอกจินกอดตุ๊กตามารีโอ้ตัวใหญ่แน่น ก่อนจะนำกล่องพร้อมจดหมายที่จ่าหน้าจากบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ซึ่งซอกจินได้เล่นเกมชิงรางวัลจากในเว็บไซท์ และชนะได้รับตุ๊กตาตัวนี้มา หลังจากนั้นจึงอุ้มตุ๊กตาเดินขึ้นไปฟัดเล่นต่อบนห้องนอนอย่างมีความสุข
================================================================
วีกุก! วีกุก! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ \^0^/
ขอโมเม้นต์น่ารักๆให้วีกุกหน่อย.. แต่เหมือนจะไปไม่รอดแฮ่ะ? สุดท้ายกัดกันเหมือนเดิม เหอๆ
ส่วนจีมินก็น้อยใจไปหาโฮปปี้ซะแล้ว.. เดี๋ยวๆ เราเปล่าจะสลับคู่นะ แต่สถานการณ์มันมาแบบนี้เอง >_<
และก็เป็นอีกตอนหนึ่งที่... ซอกจินโผล่มาทำไม?
คือแกไม่ควรมาอ่ะจิน มาแล้วแย่งซีนสุดๆ เรานี่ถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว
4ตอนแล้วนะ~ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะ ไม่ผิดหวังกันใช่ไหม
(เขาจะผิดหวังเพราะตอนนี้เกือบสลับคู่แล้วน่ะสิไม่ว่า)
ยังไงก็ขอบคุณจริงๆนะที่เข้ามาอ่านกัน เรื่องราวสนุกๆยังมีต่อเรื่อยๆ รอติดตามกันด้วยนะจ๊ะ~
ความคิดเห็น