ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (E-book) You're not mine #linho #หลินโฮ

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : ความรู้สึกของโอเมก้า (RW)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.57K
      137
      8 ก.พ. 61




    ความรู้สึกของโอเมก้า

     



                    ควานลินตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เช่นเดิมในทุกๆเช้าที่มือหนาควานหาอีกร่างบนเตียงแต่ก็พบกับความว่างเปล่า เด็กนี่ขยันจริงๆเลยนะ ก่อนจะลุกไปที่หน้าต่างและก็เป็นไปตามคาด ภาพของคนตัวเล็กในชุดกางเกงขาสั้น กำลังรดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้านกับลุงคนสวนด้วยท่าทางที่มีความสุข ควานลินเผลอยิ้มให้กับภาพตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว


                    เมื่อลงมาข้างล่างก็พบว่า ชุดจานสำหรับรับประทานอาหารสองชุดถูกจัดวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อย เพียงแต่วันนี้กลับมีวางไว้บนโต๊ะถึงสามชุด หรือว่า


                    ยังไม่ทันขาดคำ


                    เสียงเครื่องยนต์ของรถก็ดังขึ้นที่หน้าบ้านก่อนจะดับลง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าเล็กๆของใครอีกคนที่วิ่งมาจากหลังบ้าน


                    คุณแม่ใหญ่กลับมาแล้วซอนโฮวิ่งเข้าไปกอดคุณเยว่หลิวด้วยความคิดถึง เป็นเวลาเกือบๆ สี่เดือนแล้วที่คุณแม่ใหญ่ของเขาไม่ได้อยู่บ้าน แม้จะคุยโทรศัพท์กันตลอด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคิดถึงของคนตัวเล็กน้อยลง


                    เป็นไงบ้างลูกคุณเยว่หลิวกอดตอบพลางลูบหัว เด็กน้อยเริ่มร้องไห้งอแงเมื่อมือของแม่ใหญ่มาลูบที่หัว ก่อนที่สายตาจะหันไปเจอควานลินที่กำลังยืนมองอยู่ที่ประตูบ้าน ซอนโฮจึงผละตัวออกจากคุณเยว่หลิว เพื่อให้แม่ลูกได้ใช้เวลาด้วยกัน ส่วนตัวเองก็พุ่งไปกอดแม่บ้านลีทั้งด้วยน้ำตา


                    ไงฮะแม่ควานลินเดินมากอดแม่พร้อมด้วยรอยยิ้ม เยว่หลิวเอียงหน้ามองลูกชายคนโตด้วยคามแปลกใจเล็กน้อย ที่ควานลินไม่ได้มีท่าทีบึ้งตึงหรือไม่พอใจเวลามีซอนโฮอยู่ด้วย อาจเพราะเวลาที่เธอไม่อยู่ ลูกชายของเธอเติบโตขึ้นมากแล้ว


                    ดูแลน้องดีรึเปล่า?” เยว่หลิวลองถามลูกชายด้วยความอยากลองใจ


                    ีสิครับ ถามน้องดูได้ควานลินตอบพลางหันไปยิ้มให้คนตัวเล็ก


                    น้อง? คุณความลินเรียกเขาว่าน้องงั้นหรอ? ซอนโฮทำหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อควานลินเรียกแทนตัวเขาแบบนั้น


                    ว่าไงลูก ถ้าพี่เขาเเกล้งบอกแม่ได้นะ


                    ..ไม่เลยครับ คุณควานลินใจดีมากซอนโฮส่ายหน้าเป็นพัลวัน ก่อนจะรีบตอบรับเสริมความมั่นใจให้เยว่หลิวเชื่อว่า ควานลินไม่ได้แกล้งเขาแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องที่คนตัวสูงแกล้งเขาทุกคืนละก็ ควานลินก็ใจดีกับเขาขึ้นมาก ไหนจะยอมให้กินข้าวร่วมโต๊ะ แถมยังใจดีให้เขาติดรถคันหรูของตัวเองไปกลับโรงเรียนด้วยทุกวันอีก


                    เข้าบ้านกันเถอะลูก แม่หิวจะแย่แล้วเยว่หลิวยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเห็นลูกชายทั้งสองคนของเธอเข้ากันได้ดี คนตัวเล็กเดินไปคล้องแขนคุณแม่ใหญ่ของเขาเดินำไปที่โต๊ะอาหารทันที


                    น่าเอ็นดู..


                    นั่นคือสิ่งที่แวบเข้ามาในความคิดของควานลิน จากที่เคยหมั่นไส้และหงุดหงิดเวลาเห็นภาพแบบนี้ แต่ครั้งนี้ควานลินกลับมองว่าน่าเอ็นดู เขาเพิ่งรู้ไม่นานนี้แหละว่าคนตัวเล็กขี้อ้อนขนาดไหน ก็เล่นอ้อนเขาทุกคืนขนาดนั้น เพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนทั้งบ้านถึงได้หลงกันขนาดนี้


                    วันนี้ผมช่วยแม่บ้านทำของโปรดคุณแม่ใหญ่ไว้รอเลยนะครับ


                    เดี๋ยวผมตักให้นะครับ


                    อร่อยไหมครับ


                    ส่วนอันนี้ผมลองทำเองทั้งหมดเลยครับเสียงเจื้อยแจ้วของซอนโฮยังคงดังขึ้นตลอดเวลาของการรับประทานอาหารเช้านี้ ทั้งรอยยิ้มและท่าทางกุลีกุจอตักนูนตักนีให้เยว่หลิว อดที่จะเรียกรอยยิ้มจากทุกคนในบ้านไม่ได้รวมทั้งควานลินเอง


                    ควานลินไม่กินหรอลูก ยิ้มอยู่ได้เยว่หลิวที่ตอนนี้อาหารที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของลูกคนเล็กเกือบจะล้นจาน ต้องหันไปสะกิดลูกชายคนโตที่แทบไม่ตักอาหารเข้าปากเลย นอกจากนั่งยิ้มอยู่โดยไม่รู้ตัว


                    เอ่ออ..ครับควานลินพยายามเก็บยิ้มของตัวเองลง พลันมือเล็กก็ตักอาหารมาให้ที่จานเข


                    อันนี้ของโปรดคุณควานลินครับ ผมลองถามแม่บ้านดูซอนโฮรวบรวมความกล้า เพื่อที่จะตักอาหารที่เขาเพิ่งลองทำครั้งแรกไปให้ควานลิน จากที่ให้แม่บ้านสอนทำอยู่ตั้งนาน


                    ควานลินชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตห้คนตัวเล็กวางอาหารลงในจานของตน ก่อนที่จะตักอาหารเข้าปาก


                    อร่อยใช้ได้เลยนะเนี่ย จริงๆทุกวันนี้เขาก็กินอาหารที่คนตัวเล็กอาสาช่วยแม่บ้านทำอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้คิดว่าซอนโจะใส่ใจว่าเขาชอบอะไรเป็นพิเศษ


                    อร่อยไหมครับซอนโฮจ้องควานลินตาไม่กะพริบอย่างรอคอยคำตอบ


                    “…..” พร้อมกันนั้นทั้งแม่และเหล่าแม่บ้านก็ต่างลุ้นไปด้วย


                     “อืมควานลินกลืนอาหารลงคอ พลางตอบรับด้วยเสียงอ้อมแอ้ม


                    เย้!! จริงหรอครับ ดีใจจังเลยยยซอนโฮเผลอตบมือด้วยความดีใจ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานอันเป็นเอกลักษณ์ให้คนตรงหน้า แล้วจู่ๆ มือหนาของควานลินก็เอื้อมมาขยี้ผมของคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู


                    แล้วเหตุการณ์บนโต๊ะอาหารก็เงียบสงัด ทุกคนเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ควานลินชะงักมือกลับทันที ส่วนซอนโฮก็หันตัวกลับไปนั่งทานข้าวต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงรอยยิ้มของเยว่หลิวและเหล่าแม่บ้านที่แอบส่งให้กันด้วยความดีใจ กับการที่สองคุณชายของบ้านเริ่มเข้ากันได้ดีแบบนี้ดูท่าคุณชายใหญ่ของทุกคน จะเริ่มเห็นความน่ารักของคุณชายตัวน้อยของพวกเขามากขึ้นแล้วเสียที


                    หลังจากทานอาหารเสร็จ เยว่หลิวและลูกๆของเธอก็ใช้เวลาร่วมกันไปกับการดูหนัง และฟังซอนโฮอ่านหนังสือให้ฟัง นานแค่ไหนแล้วที่ควานลินไม่ได้ใช้เวลาแบบนี้กับครอบครัว


                    อาทิตย์หน้าลูกๆจะปิดเทอมแล้ว เราไปทะเลกันไหมเยว่หลิวเอ่ยชวน นับตั้งแต่สูญเสียสามีไปเมื่อสามปีก่อน เธอก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการดูแลธุรกิจของครอบครัว ทำให้ละเลยการใช้เวลากับลูกๆไป การกลับมาบ้านครั้งนี้เธอจึงอยากชดเชยให้ได้มากที่สุด


                    ทะเลหรอครับ ผมไม่เคยไปมาก่อนเลยซอนโฮแววตาเป็นประกายทันที เขาไม่เคยได้ไปไหนไกลบ้านเลย ทะเลเองก็เป็นหนึ่งในความฝัน


                    ใช่จ แม่มีบ้านพักหลังหนึ่งที่เจจู ไว้วันเสาร์หน้าเราไปกัน ควานลินว่าไงลูกเยว่หลิวหันไปถามลูกชายอีกคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆราวกับไม่ได้สนใจ ซอนโฮแอบกลั้นใจรอคำตอบ ลึกๆเขาก็อยากไปเห็นทะเลสักครั้งในชีวิต


                    ควานลินเลือบมองใบหน้าของคนตัวเล็ก พร้อมทั้งส่ายหัวเบาๆ ซอนโฮทำหน้าสลดลงทันที ได้แต่แอบถอนหายใจ ถ้าควานลินไม่ไปเขาก็คงต้องอด


                    ก็ไปสิครับ ผมว่างอยู่พอดีเสียงของควานลินที่พูดออกมาเป็นประโยคถัดไปราวกับเสียงสวรรค์ ซอนโฮยิ้มอย่างดีใจทันที คนตัวสูงได้แต่ลอบมองท่าทางเหล่านั้น เขาแค่อยากจะแกล้งคนตัวเล็กเท่านั้นแหละ เวลาใบหน้าหวานทำหน้าสลดๆ เขากลับรู้สึกสนุกจนอดแกล้งแหย่ไม่ได้สักครั้ง


              เวลาผ่านพ้นอาทิตย์ด้วยความเรียบง่าย เมื่อเยว่หลิวอยู่บ้าน ซอนโฮจึงได้กลับมานอนที่ห้องของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เขาแทบจะย้ายตัวเองไปอยู่ห้องของควานลินมาสักพัก นอกจากเจอกันตอนเช้า และตอนเย็นแล้ว ซอนโฮก็ไม่ค่อยได้เจอกับควานลินเลยเท่าไหร่นัก แม้จะเจอกันอยู่ทุกวันแต่ใจดวงน้อยกลับรู้สึกราวกับบางอย่างขาดหายไป


                    คิดถึงนี่เขาคิดถึงควานลิน หรือคิดถึงอ้อมกอดที่เคยมีทุกวันของควานลินกันแน่


                    ไม่ดีเลยกับความรู้สึกแบบนี้ แล้วควานลินจะคิดถึงเขาบ้างไหมนะ


              ร่างเล็กนอนกอดตุ๊กตาตัวโปรดขยับตัวไปมาก่อนจะนอนหลับไปในที่สุด


                    ในขณะเดียวกันห้องหนึ่งของอีกฝัง ควานลินนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงกว้าง เขาดีใจที่แม่ของเขากลับมาบ้านและอยู่กับพวกเขานานๆ


                    เพียงแต่เขารู้สึกว่า เตียงของเขามันกว้างขนาดนี้เชียวหรือ

     



                     ในที่สุดวันปิดเทอมที่ซอนโฮรอคอยก็มาถึง เด็กน้อยตื่นแต่เช้าวุ่นวายเตรียมของนูนนี่นั่นเพื่อไปทะเลครั้งแรกในชีวิต เสียงดังวุ่นวายพร้อมกับเสียงเท้าวิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องนอนดังขึ้น ก่อนที่คนตัวเล็กจะลองชุดมากมายโดยมีเหล่าแม่บ้านที่กลายเป็นผู้ตัดสินแฟชั่น คอยให้คะแนนว่าเด็กน้อยควรจะใส่เสื้อตัวไหน กางเกงตัวไหน เอาอะไรไปบ้าง


                    เมื่อควานลินลงมาจากห้องนอน เขาก็แทบหลุดขำเมื่อเจอกับ ซอนโฮในชุดที่เรียกได้ว่าเตรียมพร้อมหนักมาก เด็กน้อยอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น สวมเสื้อฮาวายลายสดใส รอบเอวมีห่วงยางรูปเป็ด และสวมแว่นตาดำน้ำพร้อมตีนเป็ดครบครั


                    ผมพร้อมแล้วครับซอนโฮดีดตัวขึ้นยืนทันทีที่เจอควานลินลงมาจากบ้าน นควานลินต้องเดินมาดีดหน้าผากเขาจนดังเป๊าะ! ด้วยความมันเขี้ยว


                    นายไม่กินข้าวรึไง..ไปกินข้าวก่อนสิควานลินกลั้นยิ้มก่อนจะเดินนำเข้าไปที่โต๊ะอาหาร ซอนโฮจึงถอดอุปกรณ์ต่างๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะ จนเจอกับคุณเยว่หลิวและควานลินที่กำลังกินข้าวกันอยู่ นี่เขาตื่นเต้นจนลืมกินข้าวเช้าเหรอเนี่ย


                    เด็กน้อยเกาหัวตัวเองจนยุ่ง แล้วจึงนั่งลงกินข้าวเช้าอย่างรีบร้อน อย่างน้อยกินเสร็จเร็วเขาก็จะได้เห็นทะเลเร็วขึ้น


                    เยว่หลิวตัดสินใจพาลูกๆเดินทางด้วยเครื่องบินเพื่อประหยัดเวลา และเมื่อไปถึงรถยนต์ของที่บ้านพักก็มารอรับพวกเขาอย่างตรงเวลา ควานลินได้แต่แอบมองซอนที่โฮยังคงตื่นเต้นไม่หยุดตั้งแต่ตอนขึ้นเครื่องบินจนถึงวิวข้างทางตอนนี้ ร่างเล็กยังคงทำท่าราวกับไม่เคยออกมาข้างนอกทุกครั้งที่เจออะไรใหม่ๆข้างทา ถนน ต้นไม้ ภูเขา ทุกอย่างทำให้ซอนโฮตื่นเต้นได้หมด ต่างจากเมื่อกี้ที่อยู่บนเครื่องตอนแรกก็ดูท่าจะตื่นเต้น แต่พอเครื่องกำลังจะขึ้นก็หลับตาปี๋และตัวสั่นด้วยความกลัวซะงั้น จนเขาต้องเอามือไปจับไว้ ถึงจะเลิกกลัวได้


                    ยังไงซอนโฮก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่วันยังค่


                    จนเมื่อมาถึงบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ของครอบครัว ที่เขาไม่ได้มาเลยตั้งแต่ที่พ่อจากไป แววตาของร่างสูงพลันเศร้าลงเล็กน้อย เมื่อก่อนเขาและพ่อกับแม่จะมาที่บ้านหลังนี้ปีละสองถึงสามครั้งด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะงานยุ่งแค่ไหน พ่อก็จะหาเวลาว่างเพื่อให้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้ได้มากที่สุด ควานลินชอบทะเลมากขนาดไหนกันนะ เขาเกือบจะลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปหมดแล้ว


              ซอนโฮ อย่าไปใกล้ทะเลนะลูก


                    ซอนโฮ เอาห่วงยางไปด้วย


                    ซอนโฮ อย่าไปไกลจากบ้านนะเสียงตะโกนของเยว่หลิวที่ดังมาเป็นระยะๆ เรียกสติของควานลินให้กลับมา เขาหันไปเจอแม่ที่กำลังตะโกนบอกคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่มาถึงเด็กน้อยก็ทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งไปที่ทะเลทันที


                    แม่ไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมดูซอนโฮให้ควานลินเดินไปบอกแม่ ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปหาซอนโฮที่กำลังนั่งเล่นทรายอยู่ริมหาด เมื่อเยว่หลิวเห็นดังนั้นก็วางใจจึงเดินเข้าไปพักผ่อนในบ้านด้วยรอยยิ้ม


                    คุณแม่ครับซอนโฮได้มาทะเลแล้วนะครับ เหมือนที่แม่เคยเล่าให้ฟังเลย ตอนนี้ซอนโฮสบายดีมากเลยครับ คุณเยว่หลิวกับคุณควานลินใจดีกับซอนโฮมากๆ แต่ซอนโฮก็ยังคิดถึงแม่อยู่ดีร่างเล็กนั่งมองทะเลก่อนจะคุยกับท้องฟ้า ราวกับว่าจะสามารถส่งความคิดถึงไปหาแม่ได้ ตอนเด็กๆแม่เขาเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าทะเลสวยขนาดไหน และสัญญาว่าจะมาเที่ยวด้วยกัน แต่เพราะครอบครัวของเขาที่มีแต่แม่ไม่ได้ฐานะดีเท่าไหร่ ความฝันที่จะมาเที่ยวด้วยกันจึงไกลเกินไป จนแม่เขาได้มาจากเขาไปเสียก่อน มือน้อยเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง เขาสัญญาต่อหน้าหลุมศพแม่แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ให้แม่เห็น เขาต้องมีความสุขและอดทนกับทุกอย่างให้ได้ อย่างที่แม่เขาเคยสอนมาเสมอ


                    ควานลินที่เดินมาเงียบๆทางด้านหลังได้ยินทุกคำพูดจากคนตัวเล็ก ก็ได้แต่ยืนมองอยางทำตัวไม่ถูก ตลอดมาไม่ได้มีแต่เขาสินะที่สูญเสีย เด็กตรงหน้าก็สูญเสียไม่ต่างกัน อาจจะมากกว่าเขาด้วยซ้ำ


                    แปลกที่เขายังคงคิดถึงพ่อและเศร้าใจทุกครั้ง แต่เดี๋ยวนี้เขากลับไม่ได้รู้สึกเกลียดคนตัวเล็กเหมือนเดิมอีกแล้ว ร่างสูงได้แต่ยืนมองซอนโฮที่นั่งอยู่อย่างนั้น จนถึงเวลาทานข้าวเย็นเขาจึงส่งเสียงเรียกให้คนตัวเล็กได้ยิน ก่อนที่สองร่างจะเดินเคียงข้างกันกลับเข้าบ้านไป


                    ตลอดช่วงอาหารเย็น ซอนโฮกลับมาร่าเริงอีกครั้ง เด็กน้อยตื่นตากับอาหารทะเลตรงหน้า ทั้งกุ้งและปูตัวใหญ่ หอยและปลาหมึกยักษ์ ล้วนทำให้เขาลืมความเศร้าจนหมดสิ้น ซอนโฮเผลอมีความสุขและใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อควานลินแกะกุ้งและปูให้เขาหลายครั้ง ถึงคนตัวสูงจะแกะให้แม่ของเขาด้วยก็ตาม เด็กน้อยเคี้ยวอาหารจนเต็มปาก พลางหันมายิ้มขอบคุณ จนเมื่ออาหารทุกอย่างหมดลง ซอนโฮจึงอาสาเก็บกวาดล้างจาน ปล่อยให้สองแม่ลูกได้ใช้เวลาคุยกันที่ระเบียงบ้าน


                    ช่วงนี้คุณควานลินใจดีกับเขามาก อาจจะเป็นเพราะคุณเยว่หลิวอยู่ด้วย และเขาก็ทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอด ถ้าสิ่งที่เขายอมทำทุกอย่างแล้ว ทำให้ควานลินใจดีกับเขาแบบนี้ ซอนโฮก็ยินดีที่จะทำต่อไป ขอแค่เขาได้ต่อเวลาให้ควานลินใจดีกับอีกสักหน่อยก็ยังดี


                    เมื่อซอนโฮล้างจานเสร็จ เขาก็ออกมาเจอเพียงแค่ควานลินที่บอกว่า ตอนนี้คุณแม่ใหญ่ของเขาได้ขึ้นไปนอนพักผ่อนแล้ว ร่างสูงจัดแจงอธิบายตำแหน่งห้องนอนของเขา ก่อนที่ซอนโฮจะขอตัวไปอาบน้ำและพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง


                    ควานลินพยักหน้ารับก่อนที่จะยิ้มให้เขาเล็กน้อยแล้วคนตัวสูงก็หันไปสนใจกับวิวทะเลที่เข้าตัวนั่งมองอยู่ ซอนโฮลอบมองใบหน้านั้น ท่าทางของคนตรงหน้าช่างเงียบสงบ กลิ่นอายของทะเลตอนนี้คล้ายกับกลิ่นของอัลฟ่าอย่างควานลินมาก เพียงแค่หลับตาแล้วได้กลิ่น หัวใจก็ราวกลับถูกดูดลงไปในทะเลอันกว้างใหญ่ ที่บางทีก็สวยงามสดใส บางทีก็ลึกลับและน่ากลัว ถึงจะเป็นแบบนั้น ซอนโฮก็รู้ตัวแล้วว่าเขาชอบทะเลทั้งๆที่ลึกๆก็กลัวทะเล เพราะเขาว่ายน้ำไม่เก่ง


                    เช่นกันกับความรู้สึกที่เขามีกับควานลิน

     



                    เมื่อซอนโฮอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวเข้านอน ร่างเล็กหยิบเอาตุ๊กตาเป็ดน้อยตัวเดิมออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทิ้งตัวลงไปที่เตียง จนเมื่อเวลาผ่านไปสักพักพร้อมลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นสัญญาณว่าร่างเล็กได้เข้าสู่นิทราแล้ว


              ประตูห้องก็ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามา ควานลินเดินมามองใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม ก่อนที่จะทิ้งตัวลงเคียงข้าง แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม แขนยาวพาดรอบเอวเล็กทันที


              เพราะแรงขยับบนเตียงทำให้ซอนโฮสะดุ้งตื่นก่อนจะหันไปเจอคนที่นอนอยู่ข้างๆ


              คุณควานลิน..เข้ามาได้ยังไงครับเสียงเล็กระซิบกระซาบถามแผ่วเบา ด้วยกลัวว่าจะมีคนมาได้ยิน


              เปิดประตูเข้ามาสิควานลินก็ตอบกลับเสียงเบาพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


                    เอ่อคุณเยว่หลิวอยู่ห้องข้างๆนะครับซอนโฮถามไปด้วยความกังวล


                    แล้ว..?” ควานลินตอบยียวนเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมคนตัวเล็กทั้งแก้มซ้ายแก้มขวาสลับไปมา จนซอนโฮได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขน


                    คือ..ผมว่า..ผม..เอ่อ…” ซอนโฮพยายามเอ่ยเสียงปฏิเสธอย่างแผ่วเบา แล้วทำท่าราวกับจะร้องไห้ เขากลัวคุณเยว่หลิวจะได้ยินและรู้เรื่องทั้งหมด


                    ควานลินเมื่อมองเห็นใบหน้าที่น้ำตาเริ่มคลอก็ก้มไปจูบที่ปากเล็กอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ และกระชับคนตัวเล็กมากอดไว้


                    อนโฮงงกับการกระทำของคนที่นอนกอดตัวเองอยู่ข้างๆ จึงทำท่าจะถามและขยับตัวออกห่าง จนควานลินต้องยกศีรษะของตัวเองมาจูบปิดปากบางของคนตัวเล็กอีกครั้ง


                    นอนซะ ฉันไม่ทำอะไรหรอกควานลินกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่มือหนาจะขยับลูบผมของเขาอย่างแผ่วเบา ซอนโฮยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่ควานลินทำ แต่เลือกที่จะไม่ถามต่อ อ้อมกอดที่เขาคิดถึงกลับมาอีกครั้ง คนตัวเล็กเลือกที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้อีกคน มือน้อยค่อยๆเอื้อมไปโอบรอบเอวของคนตัวสูงไว้ ควานลินยิ้มน้อยๆ กลิ่นที่อบอวลอยู่ในห้องนี้ทำให้ซอนโฮอุ่นใจและผ่อนคลาย จนเขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะทะเลหรือเพราะควานลินกันแน่


                    สองร่างกระชับกอดกันแน่นขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าสู่ความฝันอันแสนหวานไปพร้อมๆกัน

       



              ช่วงเวลาสามวันที่ทะเลผ่านไปอย่างมีความสุข เยว่หลิและลูกๆของเธอพักผ่อน และทำกิจกรรมกันมากมาย ทั้งนั่งเรือเล่น นั่งชมพระอาทิตย์ตกที่ริมทะเล หรือแม้แต่ไปชมสวนดอกไม้ที่สวยงาม คนที่มีความสุขที่สุดก็คงไม่พ้นซอนโฮ ที่ยังคงตื่นตาตื่นใจไปกับทุกอย่าง จนเมื่อกลับมาถึงบ้านเด็กน้อยยังคงเล่าเรื่องต่างๆที่ตัวเองได้มีโอกาสไปสัมผัสให้เหล่าแม่บ้านฟังไม่หยุด


              ครั้งนี้เยว่หลิวมีเวลาอยู่บ้านนานเกือบเดือน ธอจึงได้ใช้เวลาในการอยู่กับลูกๆของเธออย่างเต็มที่ และสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่าง ควานลินดูจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซอนโฮยังคงสดใสร่าเริง และดูท่าจะติดพี่ชายพอตัว ส่วนคนพี่ก็ดูไม่ได้รำคาญน้องอีกต่อไป ภาพลูกชายสองคนที่เหมือนจะเข้ากันได้ดีทำให้เธอวางใจมากขึ้น เพราะเธอคงไม่มีโอกาสได้อยู่ที่บ้านนานๆเช่นนี้นัก


                    ก่อนที่เยว่หลิวจะต้องกลับไปดูแลงานที่สาขาต่างๆ ทั่วโลก เธอก็พาลูกของเธอไปพบคุณหมอคิม คุณหมอที่ดูแลครอบครัวเธอมาอย่างยาวนาน แม้ที่โรงเรียนจะมีหมอประจำห้องพยาบาล คอยดูแลสุขภาพของเหล่านักเรียนทั้งหลายอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจในการดูแลคนในบ้านที่มีอัลฟ่าวัยหนุ่ม และโอเมก้าตัวน้อยอยู่ร่วมกันแบบนี้ เธออาจจะต้องให้คุณหมอช่วยตะเตรียมกันรับมือไว้ให้อยู่เหมือนกัน


              ควานลินได้ยาระงับอาการรัทมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งหมอระบุว่า หากไม่รุนแรงก็ไม่จำเป็นต้องกิน เพียงแค่ช่วงเวลานั้นอาจจะต้องอยู่ห่างจากโอเมก้าตัวน้อยสักพัก จนกว่าอาการเหล่านั้นจะหายไป ส่วนซอนโฮทั้งที่ร่างกายแข็งแรงปกติแต่กลับยังไม่มีกลิ่นฟีโรโมนออกมา ทำให้ยังไม่มีวี่แววว่าจะฮีทในเร็ววัน แต่หมอก็ให้ยาระงับอาการฮีทมาป้องกันไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน


                    ซอนโฮได้แต่นั่งฟังหมอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา ในขณะที่ควานลินกลับนั่งฟังอย่างเรียบเฉย เขาจะไปกินยาระงับไว้ทำไม ผลข้างเคียงก็เยอะ ยังไงเขาก็มีซอนโฮอยู่แล้ว

                   



              หลังจากที่พบหมอเสร็จ ทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารหรูที่ควานลินเคยพาซอนโฮมา บรรยากาศค่ำนั้น การกินข้าวของเด็กน้อยทั้งสองพร้อมหน้ากับแม่ของพวกเขา เป็นไปอย่างเรียบง่ายและมีความสุข ในขณะที่ในใจของเยว่หลิวกลับมีบางสิ่งที่เริ่มกังวล


                    ควานลิน..นี่เป็นกุญแจคอนโดของแม่ ที่อยู่แถวโรงเรียนลูกทันทีที่ถึงบ้าน ซอนโฮขอตัวไปอาบน้ำและทำการบ้านช่วงปิดเทอมที่ห้องตัวเอง เยว่หลิวจึงได้โอกาสดึงลูกชายคนโตเข้ามาพูดคุยในห้องของเธอ


                    ทำไมครับ?” ควานลินรับกุญแจมาและถามด้วยความสงสัย


                    อย่างที่คุณหมอบอกวันนี้ เวลาที่เอ่อ..ลูกมีอาการรัทขึ้นมา แม่ว่าลูกควรจะอยู่ที่คอนโดมากว่า


                    แม่กลัวผมจะทำอะไรซอนโฮงั้นหรอ?”ควานลินมองกุญแจในมือก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย


                    น้องเขายังเด็ก และก็เป็นโอเมก้า สถานการณ์มันอาจจะไม่ดีกับลูกทั้งสอง


                    “…….”


              แล้วช่วงน้องเค้าฮีท แม่อาจไม่ได้อยู่ แต่จะฝากแม่บ้านให้ช่วยดู ตอนนั้นแม่ก็หวังว่าลูกจะดูแลน้องห่างๆ ช่วงเวลานั้นมันไม่เหมาะที่ลูกสองคนจะอยู่ใกล้กันเยว่หลิวพยายามอธิบายเหตุผลให้ควานลินฟังอย่างใจเย็น เธอไม่อยากให้ควานลินรู้สึกน้อยใจ ที่คล้ายกับว่าเธอเลือกที่จะผลักไสให้เขาไปอยู่ที่อื่น เพราะยังไงควานลินก็โตกว่าซอนโฮ และดูแลตัวเองได้ดีกว่า


                    งั้นก็ได้ฮะ..ถ้าแม่เป็นห่วงเด็กคนนั้นมาก ผมจะทำตามที่แม่บอกละกันควานลินแค่นยิ้มออกมาให้แม่ ยังไงๆ แม่ของเขาก็เป็นห่วงเด็กนั่นมากกว่าเขาอยู่ดี


                    แต่แม่ของเขาจะรู้ไหมว่าสิ่งที่แม่กลัว.....มันเกิดไปแล้ว

     



                    หลังจากนั้นไม่นาน เยว่หลิวก็ถึงกำหนดที่จะต้องกลับไปดูแลธุรกิจของเธอต่ ซอนโฮและควานลินออกมาส่งแม่ของพวกเขา และแม่บ้านลีด้วยความคิดถึง ซอนโฮงอแงเล็กน้อย แต่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ จนเยว่หลิวอยากจะพกลูกชายขี้อ้อนของเธอไปด้วยจริงๆ


                    มานี่กับฉันหน่อยสิพอรถของเยว่หลิวลับตาไป ควานลินก็ออกแรงกึ่งลากกึ่งดึงแขนซอนโฮให้เดินตามเขาไ


                    เดี๋ยวครับคุณควานลิน ผมเดินไม่ทันซอนโฮที่ถูกลากตามมาแทบจะล้มหัวคะมำ ได้แต่ส่งเสียงค้านเบาๆ


                    ปึง!เสียงประตูห้องของควานลินปิดลงเสียงดัง


                    อื้อ….อย่าครับ..เดี๋ยวมีคนมาเห็นเด็กน้อยตกใจจนตัวแข็งทื่อ เมื่อทันทีที่เข้ามาในห้องคนตัวสูงตรงหน้าก็ดันให้ตัวของเขาติดประตู ก่อนที่จะก้มหน้าลงมาจูบที่ริมฝีปากเล็ก และไล่ลงมาสูดดมกลิ่นหอมอยู่ที่ซอกคอของเขาอย่างกระหาย


                    นายนี่มัน..จริงๆเลยนะเสียงแหบพร่าตอบออกมาในขณะที่ใบหน้ายังคงซุกไซ้อยู่ตรงที่ซอกคอขาว


                    ยังกลางวันอยู่เลยนะครับ เดี๋ยวแม่บ้านมาเห็นเข้าซอนโฮกังวลใจมากขึ้น เมื่อควานลินไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ทั้งๆที่ตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวัน และมีเหล่าแม่บ้านคอยวนเวียนอยู่ในบ้านหลังใหญ่หลายคน


                    เงียบเถอะน่า..” ควานลินเริ่มหงุดหงิดเมื่อคนตรงหน้ายังคงพยายามปัดป่ายมือของเขาที่กำลังไล่ปลดกระดุมเสื้อของคนตัวเล็ก    


                    มือหนาเริ่มสัมผัสลูบไล้ร่างกายของคนตัวเล็กไปทั่ว ก่อนจะสัมผัสกับตุ่มไตเล็กที่กำลังชูชัน คล้ายกับกำลังรอคอยการสัมผัสและลิ้มรสจากเขา


                    โดยไม่รอช้า ควานลินก้มหน้าลงไปสัมผัสที่ยอดอกขาวนั้นทันที


                    อ๊ะ..” ซอนโฮกำลังโดนรสสัมผัสวาบหวามครอบงำ ทำเอาขาเล็กแทบยืนไม่อยู่ มือน้อยเผลอขยำชายเสื้อคนตัวสูงเสียจนยับยู่ยี่ พลันมือหนาก็ค่อยๆ เลื่อนเขาไปที่กางเกงขาสั้นตัวน้อย


                    ก๊อกๆเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ซอนโฮสะดุ้งผลักควานลินออกห่างทันที

     

                    คุณควานลินคะ เห็นคุณหนูซอนโฮไหมคะ ดิฉันไปเคาะที่ห้องแล้วไม่ตอบกลับมาเลยเสียงของแม่บ้านดังถามขึ้น ซอนโฮได้แต่ทำหน้าตื่นตกใจ วันนี้เขานัดแม่บ้านไว้ว่าจะไปซื้อของมาทำอาหารเย็นด้วยกัน เด็กน้อยรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปหาแม่บ้านทันที


                    นึกว่าคุณหนูหายไปไหนแล้ว มาให้คุณควานลินสอนการบ้านหรอคะ


                    อ่าครับเสียงของแม่บ้านและเด็กน้อยที่คุยกันอยู่หน้าห้อง ทำให้ควานลินต้องถอนหายใจออกมาอย่างเสียอารมณ์


                    ร่างสูงทิ้งตัวบนเตียงด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด


                    ฉันอดทนมาตั้งเป็นเดือน..อย่าคิดจะหนีไปได้ง่ายๆนะยูซอนโฮควานลินทำได้แค่คิดในใจ ก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ผื่อน้ำเย็นจะช่วยดับอารมณ์ที่คุกรุ่นของเขาให้บางเบาลงบ้าง


                    แต่หลังจากที่ทานข้าวเย็น ควานลินกลับเผลอหลับไปจนเช้า

     



              เช้าแรกของการไปโรงเรียนเทอมสุดท้ายในฐานะนักเรียนม.ต้น ของซอนโฮก็มาถึง เช้านี้เขานั่งรถมากบควานลิน โดยที่ไม่มีคำพูดใดๆเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคน เรื่องเมื่อวานอาจจะทำให้คนตรงหน้าไม่พอใจเขาก็ได้ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะขอโทษหรือชวนคุย


                    ก้าวแรกที่ซอนโฮมาถึงห้องเรียน กลิ่นหอมที่หลากหลายพุ่งเข้ามาปะทะหน้าอย่างจัง พร้อมด้วยร่างของแดฮวีที่วิ่งมาพร้อมกับกลิ่นส้มอันสดใส เพื่อนของเขามีกลิ่นฟีโรโมนกันหมดแล้วหรือนี้ แม้แต่ฮังยอนที่เป็นเบต้ายังมีกลิ่นแป้งเด็กจางๆติดตัวเสมอ ตอนนี้ราวกับว่าเหลือเพียงแค่เขาที่ไม่มีกลิ่นของโอเมก้าที่ควรจะมี ทั้งๆที่คุณหมอก็บอกว่าร่างกายเขาก็แข็งแรงดีทุกอย่าง


                    แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นขนาดนี้

                    หรือที่เขาผิดปกติไป..เป็นเพราะเขาทำเรื่องแบบนั้นกับควานลิน

                    หรือเพราะ..เขาทำมันไป..ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก

                    เพราะแบบนั้น..เขาถึงไม่มีฟีโรโมนเหมือนคนอื่นรึเปล่า


                    ซอนโฮเผลอคิดในใจ สีหน้าแสดงความกังวลออกมา นเพื่อนๆต้องพากันปลอบและพยายามช่วยดมรอบๆตัวของซอนโฮ เผื่อว่าจะมีกลิ่นออกมาบ้าง


                    ในขณะที่ทุกคนพยายามทำให้เพื่อนสบายใจ จีฮุนกลับได้กลิ่นบางอย่างออกมาจากเพื่อนตัวเล็กที่ไม่ใช่กลิ่นของโอเมก้า จีฮุนเงยหน้าจ้องตาคนตัวเล็กราวกับจะจับผิดบางอย่าง สายตาที่กดดันนั้นทำให้ซอนโฮต้องเผลอหันหน้าเพื่อหลบแววตานั้น


                    กลิ่นของทะเล กลิ่นที่สดชื่นแต่กลับแข็งแกร่ง และเป็นกลิ่นอัลฟ่า

                    มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ซอนโฮมีความลับกับพวกเขาแน่




                    ระหว่างที่กำลังไปทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆ เสียงแจ้งเตือนจากมือถือของคนตัวเล็กก็ดังขึ้น ซอนโฮรีบขอตัวจากเพื่อนๆทันทีโดยอ้างว่ามีธุระ ขาเล็กรีบวิ่งไปที่อาคากีฬาทันทีเมื่อเห็นว่า ควานลินส่งข้อความมาให้เขาไปหาตอนช่วงพัก ด้วยความกังวลใจจากท่าทีของร่างสูงเมื่อเช้า ซอนโฮจึงต้องรีบพาตัวเองไปหาควานลินให้เร็วที่สุด


                    เมื่อซอนโฮเดินมาถึงอาคารกีฬา แต่กลับไม่พบกับใครสักคน ร่างเล็กจึงเดินไปหาที่ห้องต่างๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกัก ที่ห้องเปลี่ยนชุด


                    คุณควานลินครับซอนโฮส่งเสียงเรียกเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัว


                    ปึงเสียงประตูปิดลง พร้อมกับเสียงทักทายของอีกคนที่ยืนวางประตูไว้


                    เอ่อคุณ…” ซอนโฮคุ้นหน้าคนตรงหน้าดี


                    จำพี่ไม่ได้แล้วหรอ?” เสียงทุ้มเดินเข้ามาถามเขาใกล้ๆ


                    “…..” ร่างเล็กส่ายหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น


                    พี่ซองอูไง เราเจอกันมาหลายครั้งแล้วนะองซองอู เพื่อนของควานลินที่เขาเคยเจอที่ดาดฟ้าวันนั้นและอีกหลายครั้งที่บ้านของควานลิน


                    เอ่ออแล้วคุณควานลินอยู่ไหนหรอครับซอนโฮค่อยๆขยับถอยออกห่าง พลางรวบรวมความกล้าถามออกมา


                    อยู่กับพี่แล้วไม่ต้องถามหามันหรอก


                    ทำไมครับซอนโฮก้าวถอยจนแผ่นหลังติดกับล็อคเกอร์ ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้แล้ว ได้แต่ถามซองอูด้วยความสงสัย


                    เราก็ได้ยินนี่ ว่ามันยกเราให้พี่แล้วซองอูตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนที่แขนทั้งสองข้างจะดันที่ลอคเกอร์ไว้ เพื่อปิดทางหนีของเด็กน้อยจนสิ้น


                    “…ไม่จริง…..” เมื่อได้ยินคำตอบที่ซองอูบอกมา ใจของเขาก็ราวกับถูกโยนทิ้งลงบนพื้น ร่างเล็กส่ายหน้าไปมา ก่อนจะออกแรงดันคนตรงหน้า เพื่อที่จะหนีออกไปจากตรงนี้


                    แต่ซองอูกลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะก้มหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอคนตัวเล็ก ซอนโฮดิ้นสุดแรงเพื่อให้ตัวเองหลุดออกไปจากที่นี้


                     “เพียะ!!” มือน้อยสะบัดใส่ใบหน้าของคนตรงหน้าเต็มแรง


                    ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้ซอนโฮถามเสียงสะอื้น มือน้อยกอดรอบตัวเองไว้


                    เป็นแค่ของเล่นมีสิทธิ์อะไรมาตบฉัน!ซองอูตะคอกใส่หน้าด้วยความโมโห ก่อนที่จะพุ่งเข้ามากดแขนไว้เต็มแรง และก้มหน้าลงดูดเม้มที่ซอกคอคนตรงหน้าทันที


                    ซอนโฮได้แต่ดิ้นพลางสะอื้นร้องไห้ น้ำตามากมายไหลออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าหรือแม้แต่ใครสงสาร


                     ของเล่นงั้นหรอ...เมื่อไหร่เขาจะหลุดพ้นจากคำๆนี้

                    ควานลินเบื่อเขาแล้วหรือ ถึงได้ยกเขาให้คนอื่นง่ายแบบนี้

                    ทั้งๆที่เขายอมทุกอย่างแล้ว

                    ทำไมควานลินถึงยังทำกับเขาแบบนี้


                    ร่างน้อยได้แต่หลับตาลงด้วยหัวใจที่แหลกสลาย แม้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจะทำให้เขากลัวแค่ไหน แต่หัวใจของเขากลับไม่อยากที่จะรับรู้เรื่องราวใดใดอีกแล้ว


                    หัวใจดวงน้อยกำลังสิ้นหวังลงช้าๆ ซอนโฮเลิกดิ้นรนอีกต่อไป ร่างน้อยได้แต่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่างของซองอูที่ผลักเขาลงบนเก้าอี้ตัวยาวกลางห้อง จู่ๆ กลิ่นของอัลฟ่าตรงหน้าที่คล้ายกับเมนทอลกลับทำให้ร่างเล็กรู้สึกเวียนหัว และพะอืดพะอมยิ่งนัก 


                    อุ๊บ!!…” ซอนโฮรีบผลักคนตรงหน้าออกเต็มแรง ก่อนจะวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ เสียงอาเจียนไม่หยุดของร่างเล็กทำให้ซองอูเหมือนจะได้สติขึ้นมา ร่างสูงเดินไปล้างหน้าเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะเดินไปดูซอนโฮที่กำลังนั่งกับพื้นอาเจียนลงในชักโครกอย่างน่าสงสาร 


                    มือของซองอูเอื้อมไปเพื่อจะลูบหลังให้ซอนโฮ แต่คนตัวเล็กกลับปัดมืออกเสียเต็มแรง และเริ่มร้องไห้สะอื้นเสียงดัง 


                    อย่าเข้ามาใกล้ผม ออกไป!!!”  ร่างเล็กเริ่มกรีดร้องคลุ้มคลั่ง 


                    พี่ไม่ได้จะทำอะไรซองอูตอบด้วยเสียงแผ่วและแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่ซอนโฮกลับรวบรวมแรงที่ยังมีอยู่ทั้งหมด ผลักคนตรงหน้าให้พ้นทางและ รีบวิ่งหนีออกจากห้องไปทั้งน้ำตา 


                    ซองอูตกใจและออกแรงวิ่งตามด้วยความรู้สึกผิด แต่ก่อนจะทันได้ถึงตัวของเด็กน้อย ซอนโฮที่วิ่งออกไปโดยไม่คิดชีวิตก็ชนกับร่างหนึ่งเข้า 


                    ซอนโฮ!” 


                    พี่..ฮยอนบิน…” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นรุ่นพี่ที่ใจดี ร่างเล็กก็โผเข้ากอดร้องไห้จนตัวโยน ฮยอนบินที่แม้จะไม่เข้าใจ สถานการณ์ตรงหน้า แต่ก็ใจอ่อนยวบเมื่อเห็นน้ำตามากมายจากคนตัวเล็ก แขนยาวโอบรอบตัวคนตัวเล็กไว้อย่างแผ่วเบา มือหนาค่อยๆลูบผมของซอนโฮที่ยังคงซุกหน้าอยู่กับอกกว้างและร้องไห้อยู่อย่างนั้น 


                    ซองอูเห็นดังนั้นจึงได้ถอยออกไปอย่างเงียบๆ


                    ผ่านไปหลายนาทีกว่าที่ซอนโฮจะสงบลง ฮยอนบินยังคงอยู่ข้างๆเขา กลายเป็นว่าบ่ายวันนั้น ทั้งเขาและฮยอนบิน ต้องโดดเรียนคาบบ่ายทั้งคู่ 


                    หลายชั่วโมงแล้วที่ร่างเล็กได้แต่นั่งกอดเข่าด้วยความเงียบ


                    ซอนโฮ…” ฮยอนบินแม้อยากจะกอดปลอบคนข้างๆ ด้วยความสงสารและความคิดถึงแค่ไหนก็ทำไมได้ แม้เขาจะพยายามตัดใจจากคนตัวเล็ก เขาก็ไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง ยังคงแอบมองอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้เจอกัน


                    บอกพี่ได้ไหมว่าใครเป็นคนทำ” 


                    พี่ควานลินรึเปล่?” ฮยอนบินค่อยๆถามออกมาด้วยความลำบากใจ เขาไม่อยากให้คนตรงหน้าถูกรังแกอีกต่อไปแล้ว


                    ไม่ใช่ครับซอนโฮส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะตอบออกมา แต่เพียงแค่ได้ยินชื่ควานลินน้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอีกครั้ง จนฮยอนบินเลิกที่จะถามต่อ


                    ถ้ามีอะไรอยากเล่า เล่าให้พี่ฟังได้เสมอนะฮยอนบินทำได้เพียงกุมมือน้อยไว้อย่างแผ่วเบา


                    ผม..ขอบคุณพี่มากๆนะครับ ที่ยอมคุย ยอมโดดเรียนมาอยู่กับผม พี่ใจดีกับผมตลอดเลยซอนโฮหันมาสบตากับเขา ก่อนจะก้มหน้าขอบคุณอย่างจริงใจ


                    บางทีพี่ก็ไม่ได้ใจดีอย่างที่เราคิดหรอกฮยอนบินค่อยๆเอนหลังพิงกำแพงของผนังตึก ก่อนจะเสหน้ามองออกไปทางอื่น


                    “......….” ซอนโฮได้แต่มองใบหน้าของรุ่นพี่ด้วยความไม่เข้าใจ


                    คงไม่เป็นไรใช่ไหม...............ถ้าพี่อยากจะบอก ว่าพี่ชอบซอนโฮฮยอนบินตัดสินใจรวบรวมความกล้าสารภาพความรู้สึกของเขาออกไป แต่คำสารภาพครั้งนี้กลับแผ่วเบายิ่งนัก


                    ทำไมพี่ถึงชอบผมล่ะครับหลังจากที่ให้ความเงียบแทนคำตอบไปสักพัก ซอนโฮก็ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป


                    ก็ไม่รู้สิ คงเพราะเป็นซอนโฮละมั้งฮยอนบินหันมาสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง


                    แต่ผมพี่ก็รู้ผมไม่มีอะไรดีเลยนะครับ”  ซอนโฮได้แต่หลุบตาลงต่ำ ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรคู่ควรกับความรักของรุ่นพี่คนนี้เลย


                    พี่ไม่สนหรอกว่าเราจะเป็นยังไง จะดีจะร้ายแค่ไหน พี่ก็ชอบเราอยู่ดีสายตาที่จริงใจและซื่อตรงยังคงส่งมาให้ซอนโฮ จนเขาสัมผัสได้


                    "ถ้าความรู้สึกชอบมันเป็นแบบนี้...ผมก็คงจะชอบใครไม่ได้อีกแล้วครับ"


                    ขอโทษนะครับพี่ฮยอนบินซอนโฮเอ่ยขอโทษด้วยเสียงที่แผ่วเบา


                    อืม พี่พอจะเดาคำตอบได้อยู่แล้ว เราชอบควานลินใช่ไหมล่ะ


                    ผมไม่มีสิทธิ์ไปชอบเขาหรอกครับตอนนี้ทั้งเขาและฮยอนบินต่างมองไปที่ภาพตรงหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่าทั้งคู่ มือของฮยอนบินยังคงกุมมือเขาไว้


                    ช่างมันเหอะ ถ้ายังไงถึงเราไม่ชอบพี่ แต่เรายังคงเป็นพี่น้องกันได้ใช่ไหม?


                    จริงหรอครับพี่ฮยอนบิน”  ซอนโฮหันมาสบตากับฮยอนบินด้วยรอยยิ้ม


                    จริงสิ พี่ก็ยังหวังดีกับน้องชายแบบเราเสม"


                    ขอบคุณนะครับแม้จะไม่สมหวัง แต่ฮยอนบินก็หวังเพียงอยากจะอยู่เคียงข้างคนตัวเล็ก ยิ่งในเวลาที่ซอนโฮไม่มีใครเช่นนี้ เขาก็อยากจะเป็นที่พักพิงให้คนตัวเล็กได้บ้าง 


                    สองคนนั่งพูดคุยกันอยู่หลายเรื่อง จนฮยอนบินสังเกตเห็นรอยตรงคอที่เริ่มชัดขึ้นจึงบอกให้ซอนโฮรอเขาสักพัก ก่อนที่เขาจะวิ่งหายไป และกลับมาพร้อมกับผ้าพันคอผืนหนา ฮยอนบินเอื้อมมือไปพันผ้าพันคอของตัวเองให้ซอนโฮจนมิดชิด ซอนโฮได้แต่พยักหน้าขอบคุณเมื่อเขาเข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าทำ


                    จนถึงเวลาเลิกเรียน ฮังนยอนที่ได้รับโทรศัท์จากฮยอนบินให้เอากระเป๋านักเรียนของซอนโฮมาให้ พร้อมกับบอกว่าซอนโฮไม่สบายจนต้องไปพักที่ห้องพยาบาล ฮังนยอนแม้จะเป็นห่วงเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก เขาอยากเปิดโอกาสให้ฮยอนบินกับเพื่อนของเขา ได้มีเวลาปรับความเข้าใจกันจึงขอตัวแยกออกมาก่อน


                    ฮยอนบินอาสาเดินมาส่งที่หน้าโรงเรียน  เมื่อซอนโฮเห็นรถของคนตัวสูงขับออกมาพร้อมกับบีบแตรเรียกเขา ร่างเล็กจึงโค้งตัวอำลารุ่นพี่ตัวสูงแล้ววิ่งขึ้นรถไป 


                    ควานลินหันมามองหน้าสบตากับฮยอนบินด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน ในขณะที่ฮยอนบินเลือกที่มองข้ามสายตานั้นไป และมองตามคนตัวเล็กที่ห่างออกไปด้วยความเป็นห่วง


                    ไง?” ทันทีที่ซอนโฮเข้ามานั่งในรถ ควานลินก็ออกรถไปด้วยความเร็วจนร่างเล็กตัวเกือบกระแทกคนโซลรถตรงหน้า ซอนโฮรีบรัดเข็มขัดก่อนจะนั่งเงียบ สิ่งที่ควานลินทำกับเขาในวันนี้มันมากเกินไป จนเขาไม่อยากที่จะพูดหรือสนใจคนข้างๆ


                     “ฉันถามไม่ได้ยินหรอ?” ควานลินเริ่มหงุดหงิดเมื่อคนข้างๆ เอาแต่นั่งเงียบ และไม่สนใจที่จะตอบคำถามเขา ไหนจะเรื่องที่ไอ้เด็กร่างสูงเดินมาส่ง แถมผ้าพันคอก็ดูท่าจะไม่ใช่ของคนตัวเล็กอีก


                    ซอนโฮยังคงนั่งเงียบ ไม่แม้แต่จะหันไปสบตาคนด้านข้าง หัวใจดวงน้อยอ่อนล้าเหลือเกิน เขาไม่รู้แล้วด้วยซ้ำว่าเขาต้องทำตัวแบบไหน ทำไมควานลินถึงทำกับเขาแบบนั้น 


                    เขาทำอะไรผิด? เขายอมทุกอย่างแล้ว ก็ยังไม่ถูกใจอีกหรอ? 

                    ซอนโฮได้แต่ตัดพ้ออยู่ในความคิดของตัวเอง 


                    ยูซอนโฮ!” เสียงของความลินเริ่มดังขึ้น มือหนากำพวงมาลัยแน่น 


                    ครับซอนโฮฝืนใจตอบ แต่ก็ได้เพียงเท่านั้น น้ำตาจากดวงตาก็ทำท่าราวกับจะไหลออกมา


                    นึกว่าจะพูดไม่ได้ซะอีก แล้วเอาผ้าพันคอนั่นมาจากไหนควานลินถามด้วยความสงสัย อากาศก็ไม่ได้หนาวมาก คนตัวเล็กจะพันไว้ทำไม


                    “……..” ซอนโฮหันขวับมองใบหน้าที่กำลังจดจ้องไปที่ถนนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม


                    ทำไม…!!!! ผ้านี่ของไอ้หน้าตี๋นั่นใช่มั้ยควานลินหงุดหงิดเมื่อหันไปสบตากับสายตาที่ราวกับจะตัดพ้อเขา


                    คุณต้องถามผมด้วยหรอครับ?” ซอนโฮถามออกไปด้วยความเจ็บปวด หรือวันนี้มันยังไม่พอใจคนตรงหน้าอีกหรือ


                    เอี๊ยด!!’ ควานลินเหยียบเบรกหยุดรถไว้ที่ข้างทางแทบจะทันที เขาหันไปจ้องหน้ายูซอนโฮที่กำลังจ้องเขากลับด้วยแววตาที่อ่อนไหว


                    นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กตรงหน้ากล้าย้อนถามเขา เป็นครั้งแรกที่ซอนโฮกล้าจ้องหน้าเขากลับแบบนี้


                    ควานลินออกแรงกระชากผ้าพันคอด้วยอารมณ์โมโห


                    ไม่นะครับ หยุดครับคุณควานลิซอนโฮพยายามยื้อแย่ง แต่แรงน้อยหรือจะสู้แรงคนตรงหน้า ผ้าพันคอผืนหนาถูกกระชากออกจนผิวเป็นรอยแดงเพราะถูกผิวของผ้ารั้งจากแรงดึง


                    ไม่นะครับซอนโฮเอามือปิดรอบคอของตัวเองไว้ทันทีเมื่อควานลินขว้างผ้าผืนนั้นไปที่เบาะหลัง


                    ทำไม..มันจะอะไรหนักหนาห๊ะ!!” ควานลินตะคอกใส่คนตัวเล็ก ก่อนที่จะออกแรงดึงแขนทั้งสองข้างให้หลุดออกจากการบิดบังรอบคอ


                    ดวงตาเรียวเบิกกว้าง เมื่อเห็นร่องรอยที่มีประปรายที่ซอกคอของซอนโฮ ควานลินชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ในขณะที่ซอนโฮเริ่มสะอื้น น้ำตาหล่นพราวเต็มใบหน้าหวาน


                    ใคร….ใครเป็นคนทำ?” ควานลินขบกรามแน่นขณะที่ถามออกไป


                    “……ฮึก..ฮื..” ซอนโฮที่ตอนนี้น้ำตาจำนวนมากมายไหลออกมาจนไม่สามารถมองเห็นแม้แต่หน้าของคนตรงหน้าได้ชัดเจน


                    ไอ้เด็กนั่นหรอ!!” ควานลินยังคงขึ้นเสียงใส่ด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโมโห


                    ไม่ใช่!!!” ซอนโฮตะโกนใส่คนตรงหน้า พร้อมกับสะอื้นจนตัวโยน


                    นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กตรงหน้ากล้าขึ้นเสียงใส่เขา บรรยากาศในรถหยุดชะงักลงทันที


                    คุณจะถามผมทำไม….”


                    ในเมื่อคุณเป็นคนยกผมให้กับเพื่อนของคุณเอง” 


                    คุณยังไม่พอใจอีกหรอครับ?”


                    ผมยอมคุณทุกอย่างแล้วร่างน้อยตัดพ้อคนตรงหน้าด้วยคำพูดที่เจ้าตัวเผลอพูดมันออกมาด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว 


                    ควานลินรู้สึกเหมือนตัวชา มือหนาอยากจะเอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถทำได้


                    โธ่เว้ย!!!” สองมือหนาทำได้เพียงทุบพวงมาลัยระบายความโกรธ


                    ทั้งรถเต็มไปด้วยเสียงสะอื้นของคนตัวเล็ก พร้อมๆกับเสียงสบถของคนตัวสูง 


                    ลงไปควานลินหันมาสั่งซอนโฮเสียงเรียบ ซอนโฮได้แต่มองด้วยแววตาที่ปวดร้าว แต่เมื่อร่างสูงเบือนหน้าหนี เขาจึงทำได้เพียงกระชับกระเป๋าแน่นและก้าวลงจากรถ


                    เมื่อประตูรถฝั่งเขาปิดลง ควานลินก็เลี้ยวรถกลับและเหยียบคันเร่งไปอีกทางทันที


                    ซอนโฮทำได้แค่ยืนมองรถคันหรูจากไปจนลับตา

                    ถูกทิ้ง นี่เขาถูกทิ้งงั้นหรอ เขายอมทุกอย่างแล้ว

                    ค่เพียงเขาระบายความรู้สึกออกมาบ้าง เขาก็ถูกทิ้งแล้วงั้นหรอ


                    น้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย กลับแห้งหายไป ปากน้อยถูกเม้มไว้จนห้อเลือด ซอนโฮค่อยๆสูดหายใจ ราวกับจะเก็บทุกส่วนของหัวใจที่แลกสลายของตัวเองช้าๆ  สายฝนเริ่มตกลงมาโปรยปราย โดยไม่รู้จุดหมาย ขาเล็กทำได้แค่ออกแรงก้าวเดินไปข้างหน้า

              

             ทีละก้าว ทีละก้าว


                    เขาเพิ่งเข้าใจในนิทานที่เคยอ่านตอนเด็ก เงือกน้อยยอมเดินด้วยเท้าที่เจ็บราวกับคมมีด เพียงเพื่อจะได้เดินเคียงข้างกับเจ้าชาย ช่างเหมือนกับเขาที่ทุกย่างก้าวช่างแสนเจ็บปวด ราวกับคมมีดที่กรีดอยู่ในหัวใจ แต่ขาของเขาก็ยังคงเลือกที่จะกลับบ้าน เพียงเพื่อจะได้อยู่กับคนๆนั้นต่ออีกสักเล็กน้อยก็ยังดี แม้ตอนจบในนิทานเงือกน้อยจะกลายเป็นฟอง ส่วนเขาก็คงจะกลายเป็นเพียงแค่เศษซากของเล่นที่ถูกทิ้ง


                    นานแค่ไหนไม่รู้กว่าที่ขาทั้งสองข้างจะพาร่างกายที่ไร้ค่านี้เดินกลับมาถึงบ้าน แม่บ้านหลายคนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคุณหนูคนเล็กของบ้าน กลับมาด้วยเนื้อตัวเปียกโชก แต่ร่างเล็กกลับไม่ตอบคำถามใดๆ 


                    ผมอยากพักผ่อน..ขอตัวนะครับเป็นครั้งแรกที่ซอนโฮทำตัวแบบนี้กับคนในบ้าน เขาไม่มีแม้แต่แรงจะยกยิ้มให้ใครอีกแล้ว เหล่าแม่บ้านได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อซอนโฮไม่พร้อมที่จะเล่าหรือต้องการความช่วยเหลือใดๆ ทุกคนก็ถอยห่างออกไป ปล่อยให้ร่างเล็กเดินเข้าห้องของตัวเองไปด้วยท่าทางที่อ่อนล้า


                    สายน้ำจากฝักบัวที่ไหลรดร่างเล็ก กลับไม่สามารถชำระสิ่งที่ค้างคาในใจเขาได้เลย ซอนโฮได้แต่มองร่างอันผอมบางของตัวเองที่หน้ากระจก ร่องรอยที่คอยังคงปรากฎชัด ร่างเล็กหลับตาลงช้าๆ ตอนนี้แม้แต่ภาพของตัวเองเขายังไม่อยากจะเห็นด้วยซ้ำ ร่างกายที่ไม่เคยมีค่าในสายตาของคนๆนั้น ร่างกายที่เป็นเหมือนสิ่งของที่ถูกส่งให้ใครต่อใคร ได้ทดลองเล่น เพียงแค่คิดถึงสัมผัสที่เขาได้รับ อาการคลื่นไส้ก็วกกลับเขามาจนต้องวิ่งไปอาเจียน ครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบหมดแรง เมื่ออาการเหล่านั้นหายไป ซอนโฮค่อยๆประคองตัวเองกลับมาที่เตียง ร่างเล็กได้แต่นอนขดตัวอยู่บนเตียง แขนเล็กโอบรอบตัวเองช้าๆ


                    เสียงจากข้างนอกยังคงเงียบสงบ ควานลินยังไม่กลับมา ต่อให้เกลียดหรือโกรธควานลินแค่ไหน แต่หัวใจดวงน้อยก็ยังเรียกหาแต่คนๆนั้น


                    เขาช่างเกลียดร่างกายของตัวเองเหลือเกินที่ยังโหยหาสัมผัสของควานลิน

                    เกลียดที่ร่างกายของเขาต้องการอ้อมกอดของอีกคนในตอนนี้

                    เกลียดริมฝีปากของตัวเองที่พลาดพลั้งขึ้นเสียงใส่อีกคนจนต้องถูกทิ้ง

                    เกลียดมือเล็กที่ยังคงทำได้แค่กอดตัวเองไว้

                    เกลียดแม้กระทั่ง.....หัวใจตัวเอง

     

                    ตอนนี้ซอนโฮกำลังรู้สึกจมดิ่งลงไปในทะเลลึก ที่แสนอ้างว้างและเงียบสงัด

                    นี่หรอ..ความรู้สึกของของเล่นที่ถูกทิ้ง





    --------- o ---------





    Inspiration song : Organs 






    มาแล้วค่า
    เกือบไม่ได้มาแหนะวันนี้ สะเทือนใจหลายอย่างเกือบเขียนไม่ออกเลยค่ะ TT
    วันนี้สถาการณ์เรือเราค่อยข้างเผชิญคลื่นลมแรง
    ไรท์เลยสะกิดให้คุณควานลินพาไปออกเรือที่ทะเลเบาๆ 
    พบกันครึ่งแรกแบบเบาๆ ไปก่อนนะคะ
    เยียวยาหัวใจไปด้วยกันค่ะ :)

    ----------------------

    Talk ช่วงสอง
    ขออภัยด้วยนะคะ ที่มาไม่ครบ 100สักที

    ----------------------

    ครบ 100% แล้วค่าาา
    ขอโทษที่ให้รอนะคะ 
    ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลยค่า
    โดนแม่ดึงไปนู้นมานี่ตลอด

    สัญญาว่าตอนหน้าจะรีบมาเลยค่า 
    ขออภัยที่ทิ้งปมไว้เยอะมากก
    จะพยายามมาบ่อยๆนะคะ

    รักรีดเดอร์ทุกคนค่า

    ----------------------

    ขอบคุณที่ติดตาม เม้น อ่าน เฟบและรอนะคะ
    มาช้าบ้างแต่มาสม่ำเสมอแน่นอนค่า

    1 คอมเม้นของทุกคนเหมือนกำลังใจที่ยิ่งใหญ่เลยค่า 
    มีแรงพิมทุกทีที่เห็นเลย :)

    แลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้บ่อยๆเลยนะคะ

    *ยังไม่ได้ตรวจคำผิดละเอียดนะคะ อาจแจ้งเตือนบ่อยๆค่า

     #โอเมก้าชั่วคราว 
    @So_lita_
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×