คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 : โอเมก้าที่ไม่มีเจ้าของ (RW)
โอเมก้าที่ไม่เจ้าของ
ควานลินก้มหน้าซุกลงที่ไหล่บาง อกกระเพื่อมขึ้นลงหอบหายใจถี่ เขายังคงทิ้งตัวตนค้างไว้ในช่องทางอันเปียกชื้น มือหนาลูบไล้ไปที่เเขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกเสน่หา แต่เมื่อเขายันตัวขึ้นมาก็พบว่าร่างเล็กได้เข้าสู่นิทราไปแล้ว…
เมื่อควานลินถอนตัวตนออกไปจากร่างเล็ก ทิ้งไว้เพียงคราบขุ่นขาว ร่างหนาพลิกตัวนอนตะแคงหันมองคนที่หลับใหลอยู่ตรงหน้า แม้จะพยายามเกลียดแค่ไหน ร่างกายเขากลับไม่เคยปฏิเสธคนตรงหน้าได้เลยสักครั้ง
มือหนาลูบวนไปที่ร่องรอยต่างๆที่เขาฝากไว้ เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดอยากจะสัมผัสโอเมก้าเลยสักครั้ง เพราะควานลินปฏิญาณตนมาตั้งแต่จำความได้ว่า คู่ครองของเขาจะต้องเป็นอัลฟ่าหญิงที่งดงามและแข็งแกร่งเท่านั้น เพราะแม่ของเขาเป็นเบต้า จึงทำให้ครอบครัวใหญ่จากฝั่งตระกูลของพ่อที่เป็นอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์ ตัดขาดจากครอบครัวของเขา เมื่อพ่อตกหลุมรักแม่ที่เป็นเพียงเบต้าธรรมดา แต่หัวใจกลับไม่ธรรมดายิ่งนัก ถึงแม่ของเขาจะเก่งและทำดีแค่ไหน ก็ไม่เคยได้รับการยอมรับหรือใส่ใจจากคนฝั่งตระกูลใหญ่เลยสักครั้ง ควานลินเชื่ออยู่เสมอว่า สักวันเขาจะทำให้คนตระกูลใหญ่ยอมรับเขาและแม่ให้ได้
แต่แล้วกฏธรรมชาติกลับทำให้เขาเผลอไผลไปกับโอเมก้าตรงหน้าจนได้ ร่างกายของคนตัวเล็กดึงดูดเขายิ่งนัก โดยเฉพาะกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์ แค่เพียงได้กลิ่นเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาปั่นป่วนจนแทบจะทนไม่ไหว
มือหนาลูบผ่านรอยฟัน รอยดูด รอยขบเม้ม ที่เขาประทับตราลงไปจนทั่วร่าง เขาพยายามหักห้ามใจไม่ให้เผลอกัดคอคนตรงหน้าไว้ เพียงเพราะไม่อยากให้มีโอเมก้าตนไหนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นของเขา แต่ก็แปลกที่นอกจากครั้งแรกที่เขาเกิดอาการรัทแล้ว เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกอยากจะฝังรอยเขี้ยวไว้ที่ต้นคอขาวอีกเลย
ถึงกระนั้นควานลินก็อดไม่ได้ที่จะตีตราความเป็นเจ้าของไว้ที่ส่วนอื่นๆ จนทั่วทั้งร่าง เกือบหนึ่งเดือนที่เขาพยายามปฏิเสธร่างเล็ก ไม่ว่าจะทำเฉยเมย หรือลองสัมผัสคนอื่นดูบ้าง กลับพบว่าไม่มีใครสามารถเติมเต็มความต้องการของเขาได้เลย
“อ๊ะ..” ร่างเล็กเผลอสะดุ้งตื่นเมื่อมือหนายังคงลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขา ดวงตาหวานสบเข้ากับดวงตาคมของคนที่นอนตะแคงมองเขาอยู่ด้านข้าง
ซอนโฮตกใจก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่งและทำท่าจะลงจากเตียงทันที
“ผมขอโทษครับ” ร่างเล็กรีบก้มหน้าขอโทษด้วยน้ำเสียงประหม่าแผ่วเบา
“….” ควานลินยังคงจ้องหน้าเขา พลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ซอนโฮกลับตีความว่ากำลังจะถูกโกรธได้
“ผม..เผลอหลับไปครับ..ผมไม่ได้ตั้งใจ” ซอนโฮรีบก้มหัวขอโทษ เขาเผลอหลับไปได้ยังไงกันนะ เขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้นอนร่วมเตียงกับคุณชายตรงหน้าเลยสักครั้ง
ส่วนใหญ่ควานลินจะไปหาเขาที่ห้อง และเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดเจ้าของร่างสูงก็จะเดินกลับห้องของตัวเองทันที แต่ก็มีบางครั้งที่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นที่ห้องของคุณชายใหญ่ ที่เมื่อคนร่างสูงสุขสมตามอารมณ์ของตนแล้วก็จะต้องไล่เขาออกจากห้องเสมอ
แต่ครั้งนี้เขาดันเผลอหลับไป ต่อให้วันนี้ควานลินจะใจดีกับเขามากขนาดนี้ก็เถอะ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหลังจากเรื่องเมื่อครู่จบลง คุณชายของบ้านจะยังใจดีกับเขาอีกไหม และถึงยังไงเขาก็ไม่สมควรทำตัวแบบนี้อยู่ดี เขาเป็นใคร คุณควานลินเป็นใคร มาหลับบนเตียงของอีกคนได้ยังไง แถมหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ควานลินต้องโกรธเขาแน่ๆ
“ซอนโฮ..!” เสียงของควานลินเรียกชื่อเขาเสียงดัง ซอนโฮก้มหน้าหลับตาปี๋ กลัวจะถูกลงโทษหรือดุด่า มือหนาเอื้อมมาสัมผัสที่ต้นแขนจนร่างเล็กเผลอสะดุ้ง
ควานลินออกแรงดึงให้คนที่นั่งอยู่ลงมานอนเคียงข้าง ก่อนจะวาดแขนแกร่งมาโอบกอดคนตัวเล็กจนแผ่นหลังแนบกับอก ซอนโฮได้แต่ตกใจและสับสนกับการกระทำของเจ้าของห้อง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร
“นอนซะ…ฉันง่วงแล้ว” เสียงของควานลินดังอยู่ที่ข้างหู ก่อนที่คุณชายของบ้านจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แม้จะกังวลใจแต่อ้อมกอดและลมหายใจที่อบอุ่น กลับทำให้ซอนโฮอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้หัวใจของตัวเองเต้นแรงอีกครั้ง ใบหน้าหวานเผลอยิ้มออกมา ก่อนที่จะหลับใหลไปในอ้อมกอดที่อีกคนมอบให้
เสียงหายใจที่สม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดได้หลับลงไปอีกครั้ง ควานลินลืมตาขึ้นก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าหวานและกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างแผ่วเบา ควานลินไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีอยู่ตอนนี้คืออะไร อาจจะเป็นความหลงใหลเพราะอยู่ในช่วงวัยรุ่น หรือเพราะสัญชาตญาณตามธรรมชาติก็ไม่รู้ เขารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ ในช่วงเวลานี้เขายังคงโหยหาร่างกายเล็กๆนี้อยู่เสมอ
มันก็คงจะไม่ผิดอะไรถ้าเขาจะไขว่คว้าโอกาสเหล่านี้ไว้ จนถึงวันหนึ่งที่เขาได้เจอคนที่คู่ควรเหมาะสมกับเขา เขาก็คงจะปล่อยเด็กคนนี้ไป และทุกอย่างก็คงจะอยู่ในที่ๆควรจะเป็นได้อย่างที่เขาต้องการ
ในยามเช้าที่แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องมา ดวงตาเล็กค่อยๆลืมขึ้นมา ก่อนจะพบว่าภาพตรงหน้าของตนคือแผงอกกว้างของใครอีกคน ซอนโฮเกร็งไปทั้งตัวเมื่อต้องอยู่ในอ้อมกอดของควานลิน เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของคนที่กำลังหลับ สันกรามที่คมชัด แพขนตาที่เรียงสวย รวมทั้งปากที่ได้รูป คุณชายของเขาช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกิน มือน้อยเลื่อนขึ้นไปเพื่อที่จะสัมผัสไปที่ใบหน้านั้น แต่ก็พลันชะงักเมื่อซอนโฮรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรทำ มือน้อยทำได้เพียงเอื้อมไปใกล้ๆราวกับได้สัมผัส แต่ก็มีระยะห่างกับผิวทิ้งไว้
เด็กน้อยนอนอมยิ้ม อดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ความนุ่มนวลและวาบหวิวที่เขาเพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรกในชีวิต ยังคงตราตรึงอยู่ในภาพความทรงจำของเขา ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ซอนโฮพยายามเอามือกดหัวใจที่อกข้างซ้ายของตัวเองไว้ เพราะเกรงว่าเสียงที่ดังตึกตักจะทำให้คนตรงหน้าตื่นขึ้นมา
เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันกับร่างสูง อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องลงไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าแล้ว ซึ่งเป็นกิจวัตรที่เขาทำทุกวัน แม้แต่ในวันหยุดเช่นนี้ ซอนโฮไม่เคยเกียจคร้านหรือทำตัวตื่นสายเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้การได้นอนมองใบหน้าที่เพียบพร้อมราวกับรูปปั้นกำลังหลับใหลอยู่ตรงหน้า และการที่ตัวของเขายังอยู่ในอ้อมกอดนี้ ซอนโฮก็อยากจะต่อเวลาให้ตัวเองได้อยู่ตรงนี้อีกสักหน่อย เขาจะยอมเป็นเด็กตื่นสายสักครั้ง
พลันมือเล็กก็เอื้อมไปแตะตรงกรอบหน้าของควานลินโดยไม่รู้ตัว ซอนโฮรีบชักมือกลับ แต่แล้วมือหนาของควานลินก็คว้ามือน้อยของเขาเอาไว้
“………” เกิดความเงียบขึ้นเมื่อซอนโฮเงยหน้าขึ้นไปเจอดวงตาของคนที่ตื่นขึ้นมาจากนิทราแล้ว
“ขอโทษครับ” ซอนโฮพยายามดึงมือออกและก้มหน้ากล่าวขอโทษเสียงเเผ่วเบา แต่ควานลินกลับไม่ได้ปล่อยมือเขาออก สิ่งที่ควานลินทำต่อจากนี้กลับเป็นอันตรายต่อหัวใจของคนตัวน้อยยิ่งนัก เมื่อมือหนาที่จับมือของเขาอยู่ เลื่อนเอามือเล็กไปแนบไว้ที่หน้าของตัวเอง
“จะจับก็จับสิ เก้ๆกังๆอยู่ได้” ควานลินแกล้งแหย่เมื่อเห็นว่าใบหน้าของคนที่ซบตรงไหล่นั้นแดงซ่านแค่ไหน
“…..” ซอนโฮที่ตอนนี้แม้มือจะอยู่ที่ใบหน้าที่อยากจะสัมผัสมานาน แต่ก็ไม่กล้าที่จะขยับอะไรมาก จนเมื่อควานลินปล่อยมือ ซอนโฮก็รีบชักมือกลับมาทันทีด้วยความเขินอาย
ความเงียบเกิดขึ้นอีกสักพัก โดยที่ไม่มีใครทำท่าว่าจะขยับตัวไปไหน พลันมือหนาที่โอบรอบเอวของเขา ก็เริ่มขยับมือลูบวน
“เอ่อ…” ซอนโฮเผลอสะดุ้ง ก่อนจะเขยิบตัวลุกขึ้นนั่ง จนผ้าห่มที่คลุมร่างเลื่อนหลุดออกมาปิดเพียงส่วนล่างไว้เล็กน้อย ควานลินมองไปยังร่องรอยที่เขาฝากฝังไว้ด้วยสายตาที่ดูมีความสุขนัก ปลายนิ้วเรียวยาวเอื้อมแตะไปที่รอยต่างๆ ตั้งแต่คอ ไหล่ อก ไล่มาจนถึงสะดือ ตลอดหนึ่งเดือนที่เขาไม่ได้สัมผัสร่างนี้ ร่องรอยจากครั้งก่อนหายไปจนแทบหมดสิ้น ควานลินไม่ชอบเลยเวลาที่ร่างเล็กไม่มีร่องรอยจากเขา ตีตราประทับไว้บนร่างกาย ผลงานของเขาเมื่อคืนจึงถูกใจเขายิ่งนัก
ซอนโฮกลั้นหายใจทุกครั้งที่ปลายนิ้วค่อยๆไล่แตะไปบนเนื้อตัวของเขา ควานลินใช้แขนอีกข้างยันตัวให้ขึ้นมานั่งเช่นกันกับเขา เมื่อสบตาได้สักพักใบหน้าของเขาก็กดซุกลงที่ซอกคอของคนตัวเล็กอย่างเชื่องช้า
ซอนโฮแทบจะนิ่งราวกับเป็นหุ่น เมื่อลิ้นร้อนค่อยๆแตะไล่ไปตามรอยเดิมที่อีกคนออกแรงขบเม้มไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใช่ว่าจะไม่เจ็บแต่ความรู้สึกบางอย่างก็มากกว่าอยู่ดี
“เอ่อ…คุณควานลินครับ” ซอนโฮพยายามเรียกอีกคนที่ยังคงซุกหน้าบนตัวเขา ราวกับกำลังดูดพลัง จากตอนแรกควานลินเพียงแค่อยากจะแกล้งคนตรงหน้า แต่กลายเป็นเขาเองที่แพ้ให้กับคนตัวเล็กอีกครา กลิ่นหอมละมุนจากตัวซอนโฮนับวันยิ่งหอมจนเขาไม่อยากห่างไปไหน
“ผมต้องไปช่วยแม่บ้านทำอาหารเช้านะครับ” ซอนโฮยังคงพูดเสียงอ่อน หวังเพียงเพื่อจะหยุดคนตรงหน้า แม้เมื่อคืนควานลินจะอ่อนโยนแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดตรงช่วงล่างก็ยังมีด้วยขนาดตัวที่ต่างกัน
“อ่า…ก็ไปสิ” ควานลินหยุดทุกการกระทำแล้วเงยขึ้นมามองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“ครับ” ซอนโฮรู้ดีว่าเขาทำให้คนตรงหน้าอารมณ์เสียอีกแล้วแน่ๆ แต่เขาก็ไม่อยากลงไปช้ากว่านี้ กลัวแม่บ้านจะขึ้นมาตามแล้วเจอเขาอยู่ในสภาพแบบนี้
ซอนโฮหย่อนขาลงจากเตียง มือน้อยควานหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายของตนขึ้นมาใส่ โดยที่การกระทำเหล่านั้นไม่ได้ถูกละไปจากสายตาของเจ้าของห้องที่นั่งห้อยขาอยู่ที่ปลายเตียงอย่างสบายใจ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เมื่อแต่งตัวเสร็จซอนโฮก็ไม่ลืมหันมาก้มหัวให้คุณชายของบ้านด้วยความเคยชิน แต่เมื่อหันหลังจะเดินออกไป ร่างน้อยก็ถูกมือแกร่งดึงให้เขาไปนั่งอยู่บนตักของอีกคนทันที
“ฟอด!!!” ควานลินกดจมูกลงบนแก้มของคนตัวเล็กพร้อมกับสูดกลิ่นจากแก้มขาวจนเสียงดังฟอด
ซอนโฮไม่สามารถควบคุมใบหน้าไม่ให้แดงได้อีกต่อไป ตอนนี้เด็กน้อยเขินจนไม่สามารถรับรู้อะไรอีกแล้ว
“รีบลงไปทำอาหารให้ฉันได้ละ อย่าให้รอนานไม่งั้นฉันจะกินนายก่อน” ควานลินยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆหูของเขา ก่อนที่ซอนโฮจะหันไปเจอกับรอยยิ้มของคนขี้แกล้ง
ต้องทำยังไงนะ รอยยิ้มนี้ถึงจะถูกส่งมาให้เขาบ่อยๆ
รอยยิ้มของควานลินทำให้เขาใจสั่นเสมอ
ต้องทำยังไงนะ รอยยิ้มนี้ถึงจะเป็นของเขา
แค่คนเดียว….
ซอนโฮส่ายหน้าไล่ทุกความคิดออกไป หัวใจดวงน้อยชักจะโลภขึ้นทุกวัน จนเขากลัวตัวเอง
เห็นทีจะต้องปรึกษาเพื่อนๆเรื่องการหักห้ามใจบ้างแล้ว
การกระทำของซอนโฮที่กำลังเอามือทุบอก สลับกับตีหัวอยู่ในสายตาของควานลินทั้งหมด จนเขาอดที่จะยิ้มตามท่าทางราวกับเด็กน้อยของคนที่กำลังเดินออกไปช้าๆไม่ได้
‘ก็ซอนโฮของเขา..ยังเด็กอยู่จริงๆนี่นา’ ควานลินคิดในใจ
ซอนโฮเปิดประตูห้องเพื่อที่จะกลับออกไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง
แต่แล้ว...
“อ๊ะ…. // เห้ย!!!” เสียงร้องตกใจของคนสองคนดังขึ้น
เมื่อซอนโฮสบตากับเพื่อนตัวสูงของควานลินที่กำลังทำท่าจะเคาะประตูห้อง ร่างเล็กรีบก้มหน้าทักทายและวิ่งหนีไปห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว
มินฮยอนและซองอูที่ตั้งใจจะมาเล่นเกมที่บ้านเพื่อนอย่างควานลิน กลับต้องเจอเซอร์ไพรส์แต่เช้าเมื่อเจอร่างของเด็กชายตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องนอนเพื่อนในสภาพที่…เอ่อ…ก็พอจะเดาได้ แต่ก็แทบจะไม่ต้องเดาเมื่อเพื่อนที่อยู่ในห้องนั้นเปลือยเปล่าช่วงบน มีแต่ผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างไว้ นั่งห้อยขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยอยู่บนเตียงที่สภาพยับยู่ยี่ราวกับผ่านสมรภูมิอะไรบางอย่างมา
มินฮยอนและซองอูหันมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าและถอนหายใจอย่างเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“มึงแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปคุยกับพวกกูข้างล่างละกัน” เป็นมินฮยอนที่เรียกเสียงตัวเองจนเจอและเอ่ยออกไปบอกเพื่อนที่ได้แต่พยักหน้า ก่อนจะลากซองอูลงไปรอที่โต๊ะอาหารด้านล่าง
เพียงไม่ถึง 10 นาที แม่บ้านและร่างเล็กที่พวกเขาเจอเมื่อเช้าก็เข้ามาจัดโต๊ะ และเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟ ก่อนจะขอตัวเดินออกไป
จากนั้นไม่นานควานลินก็เดินลงมานั่งกินข้าวกับพวกเขา ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อกินข้าวเสร็จทุกคนก็มานั่งเล่นเกมที่หน้าโซฟาตัวใหญ่ มินฮยอนหันมองหน้ากับซองอู ก่อนที่ทั้งสองจะทำท่าพยักพเยิดใส่กันไปมา จนควานลินสังเกตเห็น
“มึงมีอะไรก็พูดมา..” ควานลินถามเพื่อนเสียงเข้มขึ้นในขณะที่ตาและมือก็จดจ่ออยู่กับเกม
“มึง…เอ่อ…มึง” กลับเป็นซองอูที่ได้แต่พูดตะกุกตะกักอยู่อย่างนั้น
“มึงทำอะไรกับเด็กคนนั้นวะ?” มินฮยอนตัดสินใจถามขึ้นแทน
“ก็ไม่ทำอะไร..อย่างที่พวกมึงเห็น”
“แต่น้องเขายังเด็กอยู่เลยนะมึง” มินฮยอนยังคงถามด้วยความรู้สึกที่เป็นกังวล เขาไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาคิดอะไรอยู่ พวกเขาพอจะรู้เรื่องซอนโฮมาบ้างจากปากเพื่อนของเขา
“แล้วไง กูทำของกูมาตั้งนานละ” ควานลินยังคงตอบด้วยหน้าเรียบเฉย
“เชี่ย!!!” สองเสียงอุทานออกมาพร้อมกัน ทั้งสองรู้ดีว่าเพื่อนของเขาไม่ชอบคนตัวเล็ก แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนเขาจะทำถึงขนาดนี้
“แต่น้องเขาเป็นโอเมก้านะเว้ย มึงกัดคอไปยังวะ” ซองอูถามด้วยความสงสัย
“ไม่ว่ะ มึงก็รู้ว่ากูไม่อยากมีโอเมก้าเป็นของตัวเอง”
“แต่มึงก็ทำกับเขาแบบนี้นี่นะ” มินฮยอนรู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำของเพื่อนตัวเองเลย
“กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู” ควานลินวางจอยเกมและหันมาสบตากับเพื่อนด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น
“หมายความว่า มึงไม่ได้จริงจังกับเขา” ซองอูถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“กูก็แค่เล่นๆ”
“งั้นกูขอเล่นด้วยได้ไหมล่ะ” ซองอูยังคงขยี้ถามด้วยน้ำเสียงยียวน
“เอาสิ..ถ้ามึงอยากลอง แต่ให้กูเบื่อก่อนละกัน” ควานลินตอบกลับอย่างกวนเพื่อนด้วยเหมือนกัน โดยไม่มีใครรู้ตัวนอกจากซองอูที่ทันได้เห็นหลังเล็กๆของใครบางคน วิ่งออกไปจากประตูด้านหลัง
องซองอูเผลอกระตุกยิ้มน้อยๆที่มุมปาก และใช้มือลูบไปที่คางเรียวของตนราวกับกำลังใช้ความคิด
“แล้วมึงได้ป้องกันไหม?” มินฮยอนถามออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน
ควานลินเงียบชะงักไปเมื่อได้ฟังคำถาม ก่อนจะแสร้งพยักหน้าไป ทั้งๆที่ในความจริงเขาไม่เคยป้องกันเลยสักครั้ง แต่ซอนโฮยังไม่เคยฮีทเลย เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะท้องคงไม่มี แต่เขาคงจะต้องระวังมากกว่านี้แล้วหากวันหนึ่ง เด็กคนนั้นฮีทขึ้นมา ควานลินก็คงต้องหาทางจัดการอีกที เขาไม่ได้ต้องการที่จะสร้างพันธะใดใดกับโอเมก้า รวมทั้งการสร้างพันธะที่เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
หลังจากเวลาผ่านไปค่อนวัน ดาเนียลและอูจินที่ตามมาสมทบภายหลัง ก็เจอกับบรรยากาศอันแปลกประหลาดระหว่างเพื่อนทั้งสามคน แต่ซองอูและดาเนียลก็พยายามหาเรื่องตลกมาเล่า ชวนเล่นเกมจนทำให้บรรยากาศดีขึ้นมาบ้าง
จวบจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น ทุกคนเจอกับซอนโฮที่ยังมาทำหน้าที่จัดการดูแลอาหารเย็นให้พวกเขาอีกครั้งก่อนที่จะหายไป หลังจากนั้นทุกคนก็ร่ำลาเเยกย้ายกันกลับบ้าน
“นี่สินะ..เหตุผลที่มึงให้กูบอกไอ้ฮยอนบินเกี่ยวกับเด็กมึง”
“มึงจะทำอะไร..กูก็คงห้ามมึงไม่ได้ แต่มึงอย่าลืมว่าทุกคนก็มีหัวใจ” มินฮยอนเดินมาพูดบางอย่างกับควานลิน หลังจากที่เพื่อนคนอื่นทยอยกลับไปก่อน เขารู้สึกสงสารคนตัวเล็กเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
หลังจากที่ทุกคนกลับไป ควานลินก็เดินขึ้นห้องนอนตามปกติ เมื่อเปิดประตูห้องก็เจอกับร่างเล็กที่กำลังสาละวนกับการจัดเตียงของเขาอยู่
“คุณควานลินครับ ผมเปลี่ยนผ้าปูเตียงเสร็จแล้วคุณควานลินจะอาบน้ำเลยไหมครับ” ซอนโฮหันมายิ้มให้เขาอย่างสดใส เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของเขาหายไปแทบจะทันที
“อืม ฉันจะอาบน้ำเลยละกัน” ควานลินพูดก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่แล้วร่างเล็กก็วิ่งแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำก่อนเขา
“เดี๋ยวผมเตรียมน้ำอุ่นให้ครับ คุณควานลินรอข้างนอกก่อนนะครับ” ซอนโฮส่งเสียงออกมาจากในห้องน้ำ ก่อนที่จะกุลีกุจอเปิดน้ำลงอ่าง และใส่สบู่เครื่องหอมลงไป เมื่อน้ำในอ่างได้ที่แล้ว ซอนโฮก็เดินออกมาทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อให้คนตัวสูงอย่างเอาใจ
อ้อน…
วันนี้ซอนโฮกำลังอ้อนเขาอยู่ ควานลินอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นคนตัวเล็กพยายามเอาใจเขาเต็มที่ มือน้อยที่กำลังถูหลังให้เขาอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้เลย กลับทำให้ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง ควานลินพยายามหลับตาข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ แต่เมื่อร่างเล็กกำลังจะเอื้อมไปหยิบสายฝักบัวมาล้างตัวให้เขา ก็เผลอลื่นตัวหล่นลงไปในอ่างเดียวกัน
“อ๊ะ..ผมขอโทษนะครับ” ซอนโฮได้แต่เอ่ยขอโทษ พลางโกรธตัวเอง อุตส่าห์จะทำให้ดีแท้ๆดันเผลอซุ่มซ่ามจนได้ แค่จะทำตัวไม่ให้อีกคนหงุดหงิดเขายังทำไม่ได้เลย ซอนโฮพยายามลุกขึ้นจากอ่าง แต่ความลื่นของสบู่ก็ทำให้ลุกยากยิ่งนัก เสื้อผ้าที่ใส่มาเปียกจนแนบเนื้อไปหมด ยิ่งมาขยับตัวเบียดไปมาในอ่างแคบๆ ถ้าไม่เห็นท่าทีที่เงอะงะพยายามจะลุกขึ้นของคนตัวเล็กควานลินคงคิดว่าเขากำลังโดนยั่วอยู่แน่ๆ
“ซอนโฮ…” เสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้นจนซอนโฮเริ่มลนลาน เขายังหาทางขึ้นจากอ่างนี้ไม่ได้เลย
“หยุดขยับสักทีได้ไหม ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ” ควานลินบอกเขาด้วยเสียงเรียบๆ พลางผ่อนลมหายใจ ซอนโฮแทบจะนั่งนิ่งในทันที มือหนาเอื้อมมาจับตัวเขาก่อนจะดันให้ออกจากอ่าง ตามมาด้วยตัวเขาเองที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงด้วยร่างที่เปลือยเปล่า จนซอนโฮต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง
ควานลินเดินไปล้างตัวก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป ซอนโฮรีบจัดการเก็บกวาดในห้องน้ำทั้งๆที่ตัวเปียกให้เรียบร้อย ไม่ได้เรื่องจริงๆ แทนที่จะทำให้คนตัวสูงอารมณ์ดีกลับยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย ขณะที่กำลังก้มเช็ดน้ำบนใบหน้าอยู่นั้น มือหนาก็ยื่นผ้าเช็ดตัวและชุดนอนมาให้
“อาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดซะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“แต่…”
“รีบๆด้วย ฉันง่วงแล้ว”
“เดี๋ยวผมกลับไปอาบที่ห้องก็ได้ครับ”
“อาบที่นี่แหละ ออกมาเดี๋ยวก็ทำพื้นห้องฉันเปียก” ควานลินสั่งด้วยเสียงที่เข้มขึ้น ทำให้ร่างเล็กรีบรับของที่อยู่ในมือและหายเข้าไปในห้องน้ำราวๆ 10 นาที ก่อนจะเดินออกมาในสภาพที่ขัดๆเขินๆ
“คุณควานลินครับ ผมขอยืมกางเกงได้ไหมครับ” ซอนโฮที่ตอนนี้อยู่ในเสื้อนอนตัวโคร่งของควานลิน กำลังยืนบิดตัวอย่างขัดเขินอยู่แถวๆหน้าห้องน้ำ เพราะควานลินลืมหยิบกางเกงมาให้เขา ทำให้เขาทำได้แค่ใส่เสื้อนอนที่เหมือนกับเสื้อเชิ้ตที่เป็นลายทางอยู่แค่ตัวเดียว โชคดีที่เสื้อตัวใหญ่โคร่ง ขนาดแขนยังยาวจนเลยมือเขาทั้งสองข้าง ช่วงชายเสื้อเลยยาวพอจะปิดส่วนล่างของเขาได้บ้างบางส่วน
ควานลินที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงคุยแชทกับเพื่อนแทบทำโทรศัพท์หลุดมือ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ขาเรียวขาวที่โผล่ออกมาบางส่วน ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายที่ฝืดเหนียวจนขึ้นคอ ความอดทนในห้องน้ำเมื่อกี้แทบจะสูญเปล่า ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่เลือกให้คนตัวเล็กอาบน้ำที่นี่และใส่ชุดตรงหน้า แทนที่จะปล่อยให้กลับห้องไปทั้งๆที่ยังเปียกๆแบบนั้น
“คุณควานลินครับ” เสียงของซอนโฮเรียกสติเขากลับคืนมาก่อนจะคิดเลยเถิด
“มานี่สิ” ควานลินเรียกให้ซอนโฮเข้าหา ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย ควานลินให้ซอนโฮนั่งอยู่ที่ข้างเตียง มือหนาเอื้อมคว้าเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดผมให้คนตรงหน้า โดยที่ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างคนสองคน จนเมื่อผมเกือบแห้ง ซอนโฮจึงเงยหน้าไปมองคนที่นั่งบนเตียงเช็ดผมให้ตัวเองอยู่
“ขอบคุณนะครับคุณควานลิน” ใบหน้าหวานฉีกยิ้มอันสดใสเป็นการตอบแทน รอยยิ้มนี้มันอะไรกันนะ เพียงแค่ได้เห็นควานลินก็เผลอเอามือทั้งสองข้างช้อนใบหน้าหวานให้เงยขึ้นมารับกับจูบอันแผ่วเบาทันที
ความตั้งใจที่ว่าจะไม่ทำอะไรคนตัวเล็กได้ถูกพับเก็บไปเรียบร้อย ร่างน้อยในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งถูกพลิกตัวลงบนเตียง ก่อนที่จูบหวานจากคนร่างสูงจะตามมา ซอนโฮไม่ได้ขัดขืน กลับพยายามจูบตอบอย่างเงอะงะ ควานลินพึงพอใจกับรสจูบอันบริสุทธิ์นี้เหลือเกิน
“คุณควานลินครับ ไม่ทำรอยตรงคอได้ไหมครับ” ซอนโฮเอ่ยเสียงเล็กๆวอนขอด้วยใจที่กล้าๆกลัวๆ
“กลัวคนเห็นหรอ?” ควานลินที่คร่อมอยู่บนตัวเขา ชะงักการดูดเม้มที่ซอกคอขาว ก่อนจะถามออกมาด้วยเสียงแหบพร่า
“ครับ เดี๋ยวคุณแม่ใหญ่จะกลับมาแล้ว” ซอนโฮเอ่ยออกมาด้วยความกังวลใจ
“อืม วันนี้นายทำตัวดี ฉันจะไม่ทำรอยตรงคอละกัน” ร่างสูงตอบรับข้อเสนอของเขาเป็นครั้งแรก ซอนโฮเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ มือหนาเริ่มซุกซนไล่ปลดกระดุมบนเชิ้ตตัวใหญ่ออกทีละเม็ด
“แต่ถ้าเป็นตรงอื่น คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” ควานลินเงยหน้ามาถามคนตัวเล็กอีกครั้ง ซอนโฮได้แต่พยักหน้าน้อยๆ อย่างยินยอม มือเล็กวาดวงแขนขึ้นไปโอบรอบคอของคนตัวสูงไว้ ก่อนที่จะยื่นหน้าขึ้นไปจูบปากหยักของคนบนร่างอย่างเอาใจ
ควานลินยิ้มน้อยให้เขาก่อนที่บทรักอันอ่อนหวาน แต่กลับรุ่มร้อนจะดำเนินต่อ ซอนโฮพยายามจะทำตัวดีๆ และยอมตามใจควานลินให้มากขึ้น ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่คนตัวสูงคุยกับเพื่อนไปในช่วงเช้า เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่ได้จริงจังอะไรกับเขา แค่เล่นๆอย่างที่เคยบอก
แต่คงไม่ผิดอะไร..ที่อย่างน้อยของเล่นอย่างซอนโฮก็อยากจะเป็นของเล่นชิ้นโปรดของคนตรงหน้าบ้าง
อย่างน้อย…ควานลินจะได้ไม่เบื่อเขาไปอีกสักพัก
อย่างน้อย...ควานลินอาจจะยังไม่อยากยกเขาให้ใคร
อย่างน้อย...เขาก็ยังได้รับรอยยิ้มและอ้อมกอดนี้อยู่
แม้จะแค่ในตอนนี้ก็ตาม
---------- o ---------
Inspiration song : Video games By Lana Del Rey
ความคิดเห็น