ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (E-book) You're not mine #linho #หลินโฮ

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : โอเมก้าไร้ตัวตน (RW)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.99K
      156
      8 ก.พ. 61




    โอเมก้าไร้ตัวตน

     



    คุณควานลิน!!!”  ซอนโฮเผลอเรียกชื่อออกมาด้วยความตกใจ เมื่อร่างที่เปิดประตูเข้ามา ยืนพิงประตูทักเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา คือควานลินนั่นเอง


    ซอนโฮและฮยอนบินต่างก็ได้แต่สงสัยที่จู่ๆ ควานลินมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง


    ฉันคงมาขัดจังหวะพวกนายสินะควานลินใช้สายตามองไปที่ใบน้าของร่างเล็ก ก่อนจะไล่สายตาลงต่ำ แล้วขึ้นมาสบตากับทั้งสองคนอีกครั้งด้วยสายตาที่ดูถูก ก่อนควานลินจะเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบให้เกิดขึ้นอีกครั้ง


    ซอนโฮรีบติดกระดุมเสื้อของตัวเอง แล้วลุกขึ้นทำท่าจะวิ่งตามไปทันที


    ซอนโฮมันใช่ไหมที่เป็นคนทำฮยอนบินคว้าแขนของร่างเล็กไว้


    ผมเอ่อ…” ซอนโฮไม่รู้ว่าจะต้องตอบคนตรงหน้ายังไง ใจเขาตอนนี้กังวลกับท่าทางของควานลินที่แสดงออกมาเมื่อกี้อย่างบอกไม่ถูก


    ถ้านายถูกบังคับ หรือไม่เต็มใจบอกพี่ได้นะเสียงของฮยอนบินเริ่มที่จะเข้มและดังขึ้นกว่าปกติ แรงบีบที่แขนแรงขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว ซอนโฮเผลอแกะมือออกด้วยความเจ็บ ฮยอนบินจึงต้องปล่อยมือออกไป


    เอ่อ ผมขอโทษนะครับรุ่นพี่ ผมขอตัวก่อนแล้วซอนโฮก็รีบวิ่งตามหลังร่างสูงที่เย็นชาไปอย่างร้อนรน ทิ้งไว้เพียงแต่ ฮยอนบินที่ยืนกำเสื้อกันหนาวตัวหนาจนแน่นด้วยความรู้สึกทั้งสับสน และโกรธที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย

     


    ซอนโฮวิ่งออกมาจากห้องพยาบาล ใจของเขารู้สึกวุ่นวายแปลกๆ


    ควานลินอาจจะกำลังเข้าใจผิด


    ควานลินอาจจะโกรธเขาก็ได้


    เขาต้องรีบไปอธิบายให้ควานลินฟัง ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่กว่านี้



    เมื่อออกมาที่ลานจอดรถ ซอนโฮก็เจอรถคันหรูที่ตัวเองนั่งมาโรงเรียนทุกวันกำลังขับออกไป ร่างเล็กออกแรงวิ่งตามสุดกำลัง แต่รถคันใหญ่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง คุณลุงคนขับมองเขาผ่านกระจกหลังด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร ในขณะที่คนที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถหันมามองเขาเพียงแค่หางตา และไม่มีท่าทีจะออกปากให้หยุดรถเพื่อรอเขา


    ซอนโฮรู้ดีว่าควานลินกำลังลงโทษเขาอยู่ โดยไม่ทันระวังร่างเล็กเผลอสะดุดพื้นถนน ก่อนจะล้มลงเข่ากระแทกพื้นจนเจ็บแสบไปหมด แม้จะเกิดแผลถลอกที่ขาทั้งสองข้าง แต่ซอนโฮก็พยายามที่จะลุกขึ้น สายตาของใครหลายคนจับจ้องมาที่เขา แต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเลย


    เจ็บ...จนแทบจะลุกไม่ไหว ตอนนี้รถคันหรูคงไปไกลแล้ว เขาคงต้องกลับบ้านคนเดียวสินะซอนโฮได้แต่ตัดพ้อในใจ น้ำตาก็พาลแต่จะไหลออกมา พลันแขนเล็กก็ถูกมือของใครบางคนฉุดขึ้นมา


    คุณควานลิน!” แม้จะดีใจที่คนใจร้ายยอมลงจากรถมาช่วย แต่สีหน้าที่เย็นชากลับทำให้ซอนโฮไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อไป


    ควานลินผลักซอนโฮให้เข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลังข้างๆเขา นับเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งเคียงข้างคุณชายของบ้าน ซอนโฮไม่เคยได้รับสิทธิ์ให้นั่งตรงนี้เลยสักครั้ง ถึงลึกๆจะแอบดีใจ แต่บรรยากาศในรถกลับเงียบและอึดอัดมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา จนซอนโฮไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง


    ทันทีที่รถจอดควานลินคว้ากระเป๋าของตัวเองเดินขึ้นห้องไปทันที โดยไม่ได้สนใจคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งมาถือกระเป๋าให้อย่างรีบร้อน ทั้งๆที่ยังเดินกะเผลกอยู่อย่างนั้น เพราะปกติแล้วหน้าที่ถือของต่างๆจะเป็นหน้าที่ของซอนโฮ


    ร่างเล็กคิดว่าควานลินกำลังโกรธเขาจึงเฉยชากับเขามากกว่าเดิมขนาดนี้


    ซอนโฮรีบเดินตามไปเพื่อจะอธิบายให้ควานลินฟัง


    คุณควานลินครับ


    คุณควานลินครับ…”


    ซอนโฮแทบจะวิ่งตาม ถึงจะทันคนขายาวที่ก้าวเร็วโดยไม่หยุดฟังเขาเลย แต่เมื่อซอนโฮเดินตามมาถึงตรงกลางของบันได ควานลินที่เดินถึงชั้นบนของบ้านแล้ว หยุดและหันมาสบมอเขาด้วยสีหน้านิ่งๆ


    อะไรของนาย


    คือผมกับพี่ฮยอนบิน ไม่ได้ทำอะไรนะครับร่างเล็กพยายามอธิบายด้วยความประหม่า เขากลัวว่าควานลินจะโมโหหรือโกรธขึ้นมา


    แล้ว?” เสียงเย็นชายังคงเอ่ยขึ้น


    ผมกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยครับซอนโฮจึงได้แต่ยืนยันออกไปอีกครั้ง หวังเพียงแต่คนตัวสูงจะเชื่อและเข้าใจ


    ฉันไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นอะไรกับฉันแต่แล้วคำตอบที่ออกมาจากร่างสูง กลับตอกย้ำให้ซอนโฮแทบจะหน้าหงาย


    นายคิดว่าฉันอยากรู้?” ควานลินเอามือล้วงกระเป๋าแล้วก้าวเดินลงบันไดเข้ามา ด้วยท่าทางที่ดูเฉยชาตามเดิม ต่างจากซอนโฮที่ตอนนี้ยืนก้มหน้านิ่งราวกับถูกสาป


    นายเป็นใคร ฉันเป็นใคร ก็น่าจะรู้ตัวนะคำพูดที่เยือกเย็นดั่งคมมีด พุ่งแทงหัวใจของซอนโฮในทุกๆย่างก้าวที่ควานลินก้าวเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ


    ฉันแค่เล่นด้วยนิดหน่อยสำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า….เด็กน้อย”  แม้แต่ประโยคสุดท้าย ที่ควานลินก้มลงมากระซิบข้างหูเขา ก่อนที่ร่างสูงจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องปิดประตูเสียงดัง


    ประโยคอันแผ่วเบานั้น กลับดังก้องกังวานอยู่ในหัวของเขาเหลือเกิน แม้ครั้งนี้ควานลินจะไม่ได้แตะต้องตัวเขาเลย แต่คำพูดเหล่านั้นกลับทำร้ายจิตใจรุนแรงเสียยิ่งกว่า หัวใจดวงน้อยหล่นวูบราวกับโดนผลักลงไปจากบันไดหล่นลงพื้นจนแหลกสลาย


    ซอนโฮได้แต่แค่นยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะค่อยๆเดินลากขาที่เลือดยังซึมจากที่ล้มไปเมื่อตอนเย็นเข้าห้องไป



    อ่า....แผลที่เข่านี่ มันเจ็บจังเลยนะ มันเจ็บจนน้ำตาจะไหลออกมาเลย


    แต่แปลกหัวใจดวงนี้กลับแทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว


    แม้จะอยากร้องไห้แค่ไหน แต่กลับไม่มีสักหยดน้ำตาที่ไหลออกมา


    ซอนโฮได้แต่หัวเราะสมเพชตัวเอง


    เมื่อกี้เขาคาดหวังอะไรอยู่?


    คิดว่าคุณควานลินจะใส่ใจเขางั้นหรอ? หรือคิดว่าเขาจะมาหวง?


    หรือรู้สึกว่าเป็นเจ้าของร่างกายที่ไม่มีค่าอะไรเลยแบบนี้หรอ?


             กล้าคิดกล้าหวังไปได้นะ..ยูซอนโฮ



    คืนนั้นควานลินก็ไม่ได้มาหาเขาที่ห้อง ยิ่งตอกย้ำว่าซอนโฮไม่ได้มีค่าอะไรในชีวิตเขาเลย


    คุณควานลินก็บอกอยู่แล้วนี่แค่เล่นๆด้วยแค่นั้น


    เป็นแค่ของเล่นทั่วๆไป ไม่ได้เป็นแม้แต่ของเล่นชิ้นโปรด


    แค่วางอยู่ใกล้ๆมือเลยหยิบมาเล่นแก้ขัด จะหวงหรือทะนุถนอมไว้เพื่ออะไร


    ของเล่นที่ไร้ค่า ช่างเป็นคำที่เหมาะกับสิ่งที่เขาเป็นแล้วจริงๆ

     



    เช้าวันใหม่มาถึง ซอนโฮแต่งตัวลงมารอที่หน้าบ้านเพื่อไปโรงเรียนตามปกติ ควานลินกลับเดินผ่านเขาไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง


    วันนี้ฉันจะเอารถไปเองคนเดียวควานลินหันไปสั่งกับคนขับรถเสียงดัง


    ครับผม เดี๋ยวผมไปส่งคุณหนูซอนโฮเองครับคุณลุงคนขับอาสาด้วยความใจดี


    ห้ามเอารถคันไหนออกจากบ้านเด็ดขาด ถ้าอยากไปโรงเรียนก็ให้ไปเอง อย่าให้เป็นภาระคนอื่นควานลินย้ำกับคนขับรถ แต่ทุกคำพูดนั้นส่งถึงซอนโฮชัดเจน


    แต่…”


    ไม่มีแต่ ถ้าฉันรู้ทีหลังว่ามีใครแอบเอารถที่บ้านไปใช้ลับหลัง ฉันจะไล่ออกแม้ลุงคนขับพยายามจะช่วย แต่คำสั่งของคุณชายใหญ่ของบ้านก็ถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด ที่ไม่มีใครกล้าขัดสักครั้ง


    ซอนโฮได้แต่หันไปส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม เพื่อบอกว่าเขาไม่เป็นไรกับลุงคนขับรถ


    เมื่อรถสปอร์ตคันหรูของคุณชายวิ่งออกไปด้วยความเร็ว คุณลุงคนขับก็ได้แต่บอกทางไปขึ้นรถเมล์ให้กับซอนโฮ พลางกล่าวขอโทษอยู่ตลอด ซอนโฮได้แต่บอกให้ไม่ต้องขอโทษ เขาโตเเล้ว ถึงเวลาจะต้องช่วยเหลือตัวเองเสียที


    ซอนโฮเดินไปตามทางที่ลุงคนขับรถบอก ระหว่างที่เขากำลังนั่งรอรถเมล์อยู่ รถมอเตอร์ไซค์สีขาวของฮยอนบินก็ขับผ่านมา เพียงแวบนึงที่ได้สบตา ซอนโฮก้มหัวและส่งยิ้มไปทักทายเบาๆ แต่ฮยอนบินกลับเบือนหน้าไปอีกทาง และขับรถผ่านไป


    'รุ่นพี่เขาอาจจะไม่ทันเห็นเราก็ได้ซอนโฮที่ยิ้มเก้อ พยายามปลอบใจตัวเอง แล้ววิ่งขึ้นรถเมล์ที่มาตามเวลาเพื่อไปโรงเรียนด้วยตัวเองครั้งแรก

                   



    ซอนโฮยังคงใช้ชีวิตอย่างเดิม เกือบสัปดาห์แล้วที่เขาไม่ค่อยเจอควานลินเลย คุณชายของบ้านขับรถไปเรียนเองทุกวัน แถมตอนเย็นก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆต่อจนดึก แต่ก็ไม่เคยมาหาเขาที่ห้องอีกเลย


    ทุกๆคืนซอนโฮได้แต่ฟังเสียงประตูห้องของควานลินปิดลง พร้อมกับเสียงของผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่คุณชายของบ้านหิ้วกลับมาทุกครังหลังจากที่ออกไปเที่ยวข้างนอก ก่อนที่จะเป็นเสียงไล่ตะเพิดผู้หญิงเหล่านั้นให้กลับไปทุกเช้า


    เบื่อแล้วสินะ คุณควานลินต้องเบื่อเขาแล้วแน่เลย


    เขาต้องดีใจสิ จะได้ไม่ต้องถูกทำร้ายอีก


    แต่ทำไมแค่คิดน้ำตาพาลแต่จะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

     



    วันจันทร์กลับมาอีกครั้ง ซอนโฮเริ่มใช้รถเมล์ในการไปกลับโรงเรียนได้คล่องขึ้น เย็นวันนั้นทั้งแดฮวี ฮังนยอนเข้าชมรมพร้อมกันกับเขาตามปกติ หลังจากที่อาทิตย์ที่แล้วเพื่อนทั้งสองคนสารภาพว่า โดดชมรม เพราะต้องไปเดทกับเเฟนมาทั้งคู่ แต่ซอนโฮก็ไม่ได้โกรธอะไรเพื่อนทั้งสอง จะให้โกรธได้ยังไงล่ะ ก็เพื่อนเขาเล่นซื้อพิซซ่ากับไก่มาง้อตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว


    ระหว่างที่กำลังนั่งอ่านโน้ตเพลงใหม่กันอยู่นั้น ฮยอนบินและเพื่อนก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ปีนี้ฮยอนบินขึ้นชั้นมัธยมปลายแล้ว โอกาสที่จะได้เจอกันในที่ต่างๆจึงน้อยลง ชมรมจึงเป็นที่เดียวที่ทุกคนจะสามารถเจอกันได้


    ฮังยอนโบกมือทักทายรุ่นพี่ด้วยความสนิทสนม ฮยอนบินเดินเข้ามาหาตรงที่พวกเขานั่งกันอยู่ ซอนโฮก้มหัวและเอ่ยทักทาย แต่รุ่นพี่ตัวสูงกลับมองข้ามและเอ่ยทักเพื่อนทั้งสองของเขาแทน ราวกับเขาไม่มีตัวตน


    ทุกคนยังคงพูดคุยกันด้วยความคุ้นเคย ไม่มีใครสังเกตเห็นซอนโฮที่ได้แต่เงียบ เขาทำได้เพียงมองทุกคนพูดคุยกัน ร่วมหัวเราะบ้างบางครั้ง แต่ไม่ว่าจะลองพูดหรือถามอะไรออกไปกี่ครั้ง ก็ได้เพียงการละเลย และเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยจากรุ่นพี่ที่เคยสนิททุกครั้ง

             นี่เขากำลังถูกเมินสินะ




    หลังจากที่อาจารย์ประจำชมรมเข้ามา ฮยอนบินก็ย้ายไปนั่งอีกฝั่งและไม่ได้สนใจมองมาอีกเลย


    ซอนโฮยังคงแปลกใจกับการกระทำของรุ่นพี่ตัวสูง เขาคงยังไม่ได้ถูกเกลียดใช่มั้ย รุ่นพี่อาจจะยังไม่มีเรื่องที่สนใจจะคุยกับเขาจริงๆ วันนี้ทั้งคาบซอนโฮได้แต่สนใจอาการของรุ่นพี่ที่เคยพูดคุยหยอกล้อกัน จนหมดชั่วโมงเรียนชมรม โดยที่เรื่องที่เรียนไม่ได้เข้าหัวเขาเลยแม้แต่น้อย


    ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ซอนโฮขอตัวไปห้องน้ำคนเดียว ระหว่างที่ฮังนยอนและแดฮวีนั่งรอแฟนของทั้งคู่มารับที่โต๊ะไม้หน้าโรงเรียน


    ขณะที่เดินเข้าห้องน้ำ ซอนโฮก็เจอกับฮยอนบินที่กำลังจะออกจากห้องน้ำพอดี ทันทีที่ฮยอนบินเงยหน้ามาเจอรุ่นน้องตัวเล็ก เขาก็รีบหันหลังเดินไปอีกทาง


    พี่ฮยอนบินครับ”  ซอนโฮเรียกทักรุ่นพี่ไว้ด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าฮยอนบินจะหลบหน้าเขาทำไม


    พี่ว่าเราอย่างเพิ่งพบกันสักพักละกันแต่ยังไม่ทันได้พูดหรือถามอะไร ฮยอนบินก็หันมามองเขาเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าและเดินหลบออกไปทันที


    สายตาของฮยอนบินที่มองเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูกและรังเกียจเขา


    'อ่าาา โดนเกลียดจริงๆสินะซอนโฮได้แต่คิดในใจ ใครเขาจะไปรับได้ล่ะ กับคนที่ทำตัวแบบนี้


    นอกจากเพื่อนๆก็มีเพียงแค่ฮยอนบินที่ใจดีกับเขามาตลอด ฮยอนบินเหมือนพี่ชายใจดีที่เขาอยากมีมานานแล้ว แต่เมื่อโดนปฏิเสธแบบนี้ ซอนโฮเองก็คงต้องยอมรับ ในเมื่อตัวของเขามันก็น่ารังเกียจจริงๆนั่นแหละ แม้จะคิดได้อย่างนั้น แต่ก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลออกมา


    ซอนโฮได้แต่เดินเข้าไปร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ ก่อนจะส่งข้อความไปบอกแดฮวีและฮังนยอนว่าไม่ต้องรอเขา เพื่อนๆจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง


    หลังจากที่ร้องไห้ได้สักพัก ซอนโฮก็ออกมาล้างหน้าล้างตา เช็ดคราบน้ำตา แล้วกระชับกระเป๋าเพื่อเดินออกไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านตามเดิม


    เมื่อซอนโฮเดินออกไปแล้วประตูหนึ่งในห้องน้ำก็เปิดออก ควานลินเดินออกมาด้วยท่าทางที่สบายใจ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าที่เรียบเฉย ร่างสูงเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะผิวปากเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

     



    ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮยอนบินยังคงหลบหน้าซอนโฮทุกครั้งที่เข้าชมรม จนในที่สุดฮังนยอนก็สังเกตเห็น


    นายทะเลาะอะไรกับพี่ฮยอนบินอฮังนยอนเอ่ยถามขึ้นขณะที่พวกเขากำลังนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันเช่นทุกวัน


    ไม่มีอะไรหรอก”  ซอนโฮได้แต่ส่ายหัว


    ฉันนึกว่าพี่เขาจะจีบนายซะอีกแดฮวีแสดงความคิดเห็นขึ้นมาบ้าง จริงๆทุกคนก็รู้ดีกว่าฮยอนบินสนใจเพื่อนตัวเอง มีแต่เจ้าตัวนี่แหละที่ไม่รู้อะไรเลย


    บ้า เป็นไปไม่ได้หรอก พี่เขากับฉันเป็นแค่พี่น้องกันซอนโฮรีบปฏิเสธทันควัน เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีใครมาชอบคนอย่างเขา


    มีแต่นายนั่นแหละไม่รู้แดฮวีได้แต่เบะปากใส่เพื่อนด้วยความหมั่นไส้ เพื่อนเขาไม่รู้ตัวเลยรึไงนะ ว่าตัวเองน่ารักจะตา


    แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่ดี ฉันคิดว่าพี่ฮยอนบินเป็นพี่ชายที่ดีเลยแหละใช่ ฮยอนบินเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดคนนึงที่เขาเคยเจอในชีวิตเลยก็ว่าได้


    สรุปก็คือนายคิดกับเขาแค่พี่น้องว่างั้นฮังนยอนได้แต่เสียดายแทนฮยอนบิน บางทีรุ่นพี่อาจจะรู้ตัวว่าไม่มีหวังเลยถอยออกไปก็ได้


    อืมซอนโฮรีบพยักหน้าตอบโดยไว


    แล้วตอนนี้นายชอบใครอยู่ล่ะจินยองที่นั่งฟังอยู่นาน จึงได้โอกาสถามขึ้นมาทันที


    ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกชอบนี่มันคืออะไร ต้องรู้สึกยังไงกันแน่


    นายนี่ไร้เดียงสาจริงๆนะจีฮุนเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดู


    ความรู้สึกเวลาเราชอบใครสักคนอ่านะ เราก็จะอยากเจอหน้าคนๆนั้นตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้ๆเป็นแดฮวีที่เริ่มพร่ำเพ้อถึงความรู้สึกชอบให้เขาฟังด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม


    ใช่ๆ นอกจากนั้นนะ ไม่ว่าทำอะไรอยู่เราก็จะเผลอคิดถึงคนๆนั้นบ่อยๆฮังนยอนรีบเสริมต่อ


    เราก็จะอยากดูแลเขา และก็อยากให้เขาดูแลเราไปด้วยเหมือนกันจิน องเอ่ยขึ้นมาแบบเรียบๆ


    แบบที่นายอยากให้ฉันดูแลบ่อยๆนี่ใช่ไหมล่ะจีฮุนรีบหันไปหยอดใส่แฟนตัวเองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะหอมแก้มจินยองจนดังฟอด ต่อหน้าเพื่อนๆ       


    แหวะ!!! เหม็นความรักทั้งฮังนยอนและแดฮวีพูดขึ้นพร้อมกัน ทั้งยังทำท่าบีบจมูกและทำหน้าย่นใส่เพื่อนคู่รักด้วยความหมั่นไส้ จินยองได้แต่ทุบจีฮุนด้วยความเขินอาย มาทำอะไรต่อหน้าเพื่อนแบบนี้


    ซอนโฮได้แต่หัวเราะกับท่าทางของเพื่อนๆ ขณะที่กำลังคิดตามคำพูดของเพื่อนแต่ละคน หน้าของใครบางคนก็ลอยขึ้นมาในหัวเขา ซอนโฮรีบไล่ความคิดนันออกไปอย่างไม่อาจเอื้อม


    จะไปคิดถึงหน้าคนใจร้ายคนนั้นทำไมกันนะ จะไปคิดถึงคนที่เขาไม่มีวันคู่ควรทำไมกัน สงสัยเพราะเพื่อนพูดเรื่องอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเขามากเกินไป เขาเลยสับสน ไม่ก็คงจะเพี้ยนไปแน่ๆ


    ซอนโฮนี่นะจะชอบคุณควานลิน หรือบางทีเขาอาจจะเผลอชอบควานลินขึ้นมาจริงๆ แต่ต่อให้เป็นแบบนั้นเขาก็คงต้องรีบตัดใจแล้วล่ะ ถ้าควานลินรู้เข้า เขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนั้นเลยก็ได้ ก็คุณชายของบ้านรังเกียจโอเมก้าแบบเขา คนแบบเขาไม่มีสิทธิ์ไปชอบใครทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อไลควานลิน




    เย็นนั้นซอนโฮเดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยความคิดที่สับสน เขากำลังรู้สึกว่าตัวเอง ชอบไลควานลิน ทั้งๆที่มันไม่สมควรเกิดขึ้น มีแต่เขาที่ถูกทำร้ายมาตลอด เขาจะไปชอบคนๆนั้นได้ยังไง ถึงต่อให้เขาชอบจริงๆ มันก็ไม่มีทางสมหวังหรอก ไม่มีอาการไหนที่แสดงว่านอย่างนั้นจะชอบเค้าเลย นอกจากจะเฉยๆแล้วยังเกลียดด้วยซ้ำ


    ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิดที่วุ่นวายของตัวเอง รถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาจอดตัดหน้าจนเกือบจะชนเขา ซอนโฮตกใจก่อนจะหันไปเจอว่าเจ้าของรถคันนั้นคือคนที่เค้ากำลังคิดถึงอยู่


    นายจะยืนขวางทางรถฉันอีกนานไหมควานลินเปิดกระจกรถลงเล็กน้อยก่อนจะตะโกนถามเขา


    ผมขอโทษครับซอนโฮกล่าวขอโทษก่อนจะเดินหลบไปข้างๆ


    ขึ้นมาสิควานลินพูดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้หันมามองเขาแม้แต่น้อย


    ผมเหรอ?” ซอนโฮได้แต่ยืนงง จนควานลินหันมาพยักหน้าพร้อมกับสบตาย้ำคำสั่งอีกรอบ ซอนโฮจึงรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างๆทันที ก็รถมันมีเบาะอยู่แค่นั้น เขาเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะเอาตัวเองไปไว้ตรงไหน


    ขอบคุณนะครับ คุณควานลินร่างเล็กรีบเอ่ยขอบคุณคุณชายของบ้านทันทีที่ขึ้นรถ เป็นครั้งแรกที่ควานลินให้เขาขึ้นมานั่งบนรถของเจ้าตัวแบบนี้


    อืมความลินตอบกลับอีกคนไปสั้นๆ นซอนโฮไม่กล้าพูดอะไรต่อ จากนั้นบรรยากาศในรถก็เงียบสนิท มีเพียงเสียงเพลงจากเครื่องเสียงที่ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไป จนควานลินขับมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง


    ที่นี่ที่ไหน? คุณควานลินพาเขามาทำไม หรือคุณควานลินนัดกับเพื่อนไว้ แล้วเอาเขามาให้นั่งรออีกรึเปล่า?ซอนโฮได้แต่นั่งใช้ความคิดอยู่ในรถ จนควานลินต้องเดินมาเปิดประตูฝั่งเขา


    จะนั่งอีกนานไหม ลงมา ฉันหิวควานลินเอ่ยเรียกซอนโฮที่กำลังเหม่อลอยอยู่กับความคิดของตัวเอง ซอนโฮจึงรีบลงจากรถและเดินตามควานลินเข้าไปร้านด้วยท่าทีเก้ๆกังๆ


    บรรยากาศในร้านอาหารหรูหรา ผู้คนในร้านและพนักงานต่างแต่งตัวกันอย่างเต็มยศ จนเขารู้สึกตกใจและประหม่าเมื่อต้องเดินเข้ามาในชุดนักเรียนธรรมดา ต่างจากอีกคนที่เดินนำเข้าไปโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย


    สวัสดีค่ะคุณควานลิน ดิฉันจัดโต๊ะที่คุณจองไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญด้านนี้เลยค่ะพนักงานของร้านคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับพวกเขาด้วยท่าทีที่สุภาพนอบน้อม


    เป็นคนรวยนี่มันช่างแตกต่างจริงๆนะ ม้จะมาอาศัยอยู่ในตระกูลไลได้หลายปีแล้วแต่ซอนโฮก็ไม่เคยใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยเลยสักครั้ง แม้คุณเยว่หลิวจะให้เงินเขามาใช้มากมายในแต่ละเดือน แต่เขาก็พยายามประหยัดเงินโดยจะแบ่งเงินส่วนใหญ่ไปเก็บไว้ เผื่อว่าในอนาคตอาจมีเรื่องจำเป็นต้องใช้ ดังนั้น พวกร้านอาหารที่เขาเข้าถึงจึงเป็นแค่ร้านอาหารธรรมดาที่เด็กมัธยมอย่างเขาและเพื่อนๆสามารถเข้าได้อย่างสบายกระเป๋า


    หลังจากเปรียบเทียบกับชีวิตตัวเอง ซอนโฮได้แต่ลอบมองท่าทีของคนตัวสูง ดูจากท่าทางที่คุ้นเคย คุณชายของเขาคงใช้ชีวิตคนละด้านกับเขาแน่นอน


    นั่งสิเสียงของควานลิน ดึงสติของซอนโฮที่กำลังมัวแต่คิดวิเคราะห์ให้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ตรงหน้า


    ผมไปรอข้างนอกดีกว่าครับ เดี๋ยวเพื่อนคุณควานลินมาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่นั่งซอนโฮเอ่ยด้วยความเกรงใจ โต๊ะที่พวกเขาเดินมาถึงเป็นโต๊ะตรงมุม บริเวณดาดฟ้าของร้าน แถมเก้าอี้ยังมีแค่สองตัว ขืนเขานั่งไป พอเพื่อนคุณควานลินมา ก็ต้องลุกเอาที่นั่งให้อีก เดี๋ยวจะอึดอัดกันเปล่าๆ


    ไม่มีใครมาทั้งนั้นแหละ มีแค่นายกับฉันควานลินอธิบายด้วยเสียงเรียบพลางสั่งอาหารด้วยท่าทางสบายๆ


    เอ่อ..” ซอนโฮตกใจเล็กน้อยจนได้แต่ยืนอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไร กับสถานการณ์ตรงหน้า


    คราวนี้จะนั่งได้ยัง ฉันหิวมากแล้วนะควานลินเมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้ว ยังคงเห็นซอนโฮยืนงงอยู่ จึงต้องสั่งเสียงเข้มซอนโฮถึงยอมเดินมานั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามเขาในที่สุด


    อาหารบนจานหรูหรา ทยอยมาเสิร์ฟทีละจานจนแทบจะเต็มโต๊ะ ซอนโฮกวาดตามองดูอาหารเหล่านั้น แต่ละจานดูท่าจะราคาแพง แต่ปริมาณกลับดูน้อยไม่สมราคาเหลือเกิน


    กินสิ นั่งมองมันไม่อิ่มหรอกนะควานลินที่กำลังจะกินอาหาร เรียกให้ซอนโฮที่มัวแต่มองอาหารหลากหลายตรงหน้าด้วยแววตาที่เป็นประกายจนไม่ยอมลงมือกินเสียที


    ผมกินได้จริงๆหรอครับ


    ก็มีแค่นายกับฉันจะให้ใครกินล่ะ รีบกินได้แล้ว เดี๋ยวมันจะเย็นหมดควานลินยังคงบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่คาดเดาไม่ได้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่


    ขอบคุณครับคุณควานลินซอนโฮกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะตักอาหารเข้าปากทีละคำ


    เด็กน้อยตื่นตาตื่นใจกับรสชาติอาหารที่อยู่ตรงหน้ามาก จากที่ตอนแรกเขาค่อยกินอย่างเกรงใจ แต่เมื่อเห็นว่าควานลินไม่ได้ว่าอะไร ซอนโฮก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าอย่างเต็มที่ คำแล้วคำเล่าถูกยัดเข้าไปเคี้ยวตุ้ยๆในปากน้อยๆ อย่างเอร็ดอร่อย จนแทบจะลืมไปว่าตอนนี้เขากำลังร่วมโต๊ะอยู่กับคุณชายของบ้าน


    กินดีๆสิ มันไม่หมดง่ายๆหรอกโดยไม่รู้ตัวมือหนาของควานลิน อื้อมมาเช็ดเศษอาหารที่ติดตรงข้างๆมุมปากของเขา ซอนโฮเผลอสบตาเข้ากับเจ้าของมือนั้น ด้วยความตกใจพลันร่างเล็กก็สะดุ้งจนเผลอทำช้อนส้อมหล่นเสียงดัง


    "ผมขอโทษครับ"


    หึ..กินเป็นเด็กๆไปได้ นายนี่ตลกนะควานลินมองดูซอนโฮที่กำลังลนลาน ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู


    นี่คุณควานลินเขาจะรู้ตัวไหมนะว่า เวลาเขายิ้ม รอยยิ้มของเขามันสดใสราวกับพระอาทิตย์ขนาดนี้ และการที่เขาใช้นิ้วมือมาเช็ดมุมปากที่เลอะของซอนโฮแบบนี้ เขาจะรู้ไหมว่าได้เผลอทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขนาดไหน


              ซอนโฮตอนนี้แทบตักอาหารมากินต่อไม่ไหว เขารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวราวกับจะเป็นไข้ แถมหัวใจเจ้ากรรมก็ดันไม่หยุดเต้นแรงเสียที


    ไม่สบายรึไง หน้าแดงเชียวควานลินยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์เพื่อจงใจแหย่ซอนโฮที่กำลังเขินอยู่


    เปล่าครับ คือผ..ผมคิดว่าผมอิ่มแล้วครับซอนโฮพยายามตอบแต่น้ำเสียงของเขาดันตะกุกตะกักจนคนที่ฟังอยากจะแกล้งต่อ


    งั้นเดี๋ยวกลับบ้านเลยละกันควานลินเรียกเก็บเงินค่าอาหารทันที ก่อนที่ร่างสูงจะรีบดึงแขนร่างเล็กขึ้นรถ และเหยียบคันเร่งคล้ายจะแกล้งให้คนตัวเล็ก หัวใจเต้นแรงขึ้นไปอีก 


    ซอนโฮได้แต่นั่งเงียบตลอดทาง ทุกครั้งที่เขาแอบมองไปยังร่างสูง ก็จะเจอสายตานั่นมองกลับมาพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย ราวกับรู้ทันว่าเขาคิดอะไรอยู่


    เมื่อกลับถึงบ้านควานลินก็โยนกระเป๋านักเรียนของตนให้ซอนโฮถือขึ้นตามหน้าที่เดิม ซอนโฮรีบถือกระเป๋าเดินตามอย่างรู้งาน หลังจากที่ไม่ได้ทำหน้าที่นี้มาเกือบๆเดือน


    หรือคุณควานลินจะหายโกรธเขาแล้วแถมยังทำดีกับเขาอีก บทจะดีก็ดีเสียจนน่าแปลกใจ คุณชายของเขาล้มหัวกระแทกพื้นมารึป่าว?ซอนโฮได้แต่คิดอย่างสงสัย ก่อนจะรีบไล่ความคิดอันอกุศลกับคนที่เดินนำหน้าเขาอยู่


    ซอนโฮวางกระเป๋าของควานลินลงบนโต๊ะหนังสือข้างเตียง แต่เมื่อหันกลับมาก็เจอกับควานลินที่เดินมาซ้อนตัวเขาด้านหลังพอดี


    เอ่อ..คุณควานลินครับ..ผมขอตัวกลับห้องนะครับซอนโฮไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าไปสบตากับร่างสูงที่ยืนใกล้ จนหายใจรดหน้าผากเขาอยู่ตอนนี้


    วันนี้มีความสุขไหม?”


    “….” คำถามแปลกๆจากควานลิน ทำให้ซอนโฮเผลอขมวดคิ้วทันที


    อาหารวันนี้ อร่อยรึเปล่า?” ควานลินยังคงจู่โจมเขาด้วยคำถามเหล่านี้


    อร่อยครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้ซอนโฮกล่าวขอบคุณด้วยเสียงที่ยังสั่นและใจที่เต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้


    รู้ตัวรึเปล่า ว่ากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ควานลินก้มลงมากระซิบใกล้ๆ จนซอนโฮได้แต่เงียบด้วยความเขินอาย ทั้งน้ำเสียงที่นุ่มนวลผิดปกติ และท่าทางของควานลินที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทำเอาเขาได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งด้วยความหวั่นไหว


    นายทำหน้าแบบนี้ มันยั่วอารมณ์ฉันอยู่ ไม่รู้ตัวรึไงจบประโยคควานลินก็ประกบริมฝีปากไปที่ปากนิ่มของคนตรงหน้าทันที ลิ้นร้อนสอดเข้าไปหาความหวานในโพรงปากเล็กได้อย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะการระทำของคนตัวสูงในวันนี้ ทำให้ซอนโฮยอมถูกรุกล้ำริมฝีปากโดยไม่ขัดขืน จูบของควานลินเริ่มดูดดื่ม และหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนปากเล็กบวมเจ่อ


    อือ…” เสียงหวานครางอยู่ในลำคอ เมื่อริมฝีปากของควานลินยังคงทำหน้าทีดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอายดังไปทั่ว


    ริมฝีปากของคนตัวเล็กตรงหน้านั้นหอมหวานแค่ไหน ควานลินรู้ดี กลิ่นฟีโรโมนอันเป็นเอกลักษณ์ของคนร่างเล็ก ที่หอมหวานคล้ายกับลูกอมหลากรสยังคงดึงดูดเขาอยู่เสมอ แม้ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ไม่เคยปฏิเสธได้เลยสักครั้ง ว่าเขาชอบรสจูบของคนตรงหน้าที่สุด ไม่ว่าจะพยายามสัมผัสรสจูบของคนอื่นมากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยมีใครลบล้างสัมผัสนี้ได้เลย


    พลันซอนโฮก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อแผ่นหลังเล็กสัมผัสกับเตียง ร่างเล็กเริ่มดิ้นขลุกขลักไปมา ด้วยความรู้สึกที่ฝังใจ ภาพเหตุการณ์ในอดีตยังคงเข้ามาให้เขารู้สึกกลัวอยู่เสมอ


    ..คุณควานลินครับเสียงเล็กพยายามเรียกควานลิน ยามที่ร่างสูงเลื่อนใบหน้าไปสัมผัสที่ซอกคอขาว มือน้อยๆเริ่มดันไหล่ของคนบนร่างให้ออกห่างจากตน จนควานลินต้องดันตัวขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างที่คร่อมอยู่ข้างลำตัวของซอนโฮ ก่อนที่สายตาคมจะสบเข้ากับตาหวานของร่างใต้อาณัติ


    หยุดดิ้นสักทีได้ไหมเสียงของควานลินเริ่มจริงจัง เมื่อซอนโฮยังคงไม่หยุดขยับไปมา


    ..ผมกลัวซอนโฮสารภาพออกมาอย่างหวาดๆ


    หัวใจของร่างสูงอ่อนยวบลงด้วยความสงสาร ที่ผ่านมาเขาคงโหดร้ายกับคนตรงหน้ามากไป แต่จะให้หยุดตอนนี้ก็คงยากเกินไปสำหรับเขา พลันความคิดบางอย่างก็พุ่งเข้ามาในหัว


    ควานลินพลิกตัวขึ้นนั่ง ก่อนจะเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างสบายใจ เขาดึงตัวซอนโฮให้ขึ้นมานั่งที่ตรงตัก ร่างเล็กดิ้นเล็กน้อย จนเขาต้องออกแรงจับเอวบางให้อยู่นิ่งๆ


    นายไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงงั้นหรอ


    ซอนโฮได้แค่พยักหน้าน้อยๆ


    งั้นนายก็ทำให้ฉันพอใจสิ แล้วฉันอาจจะมีรางวัลให้ว่าแล้วควานลินก็ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ


    ซอนโฮได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย


    ูบฉันสิ!” ใบหน้าหวานแทบจะหันมามองคนตรงหน้าทันทีที่จบประโยค แต่ก็ยังนิ่งด้วยไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เพราะเขายังคงทั้งกลัวทั้งลังเล ก่อนที่เสียงเข้มจะเรียกอีกครั้ง


    หรืออยากให้ฉันเปลี่ยนใจแล้วเอาแบบเดิมควานลินทำท่าจะขยับตัว


    ดวงตากลมโตสั่นระริก ก่อนจะมองไปที่ปากของร่างสูงอย่างชั่งใจ


    หรือจะให้ฉันต้องนับหนึ่งถึงสาม…"


    จุ๊บ!


    ปากเล็กยื่นไปสัมผัสปากหนาของอีกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะกลับมาก้มหน้างุดๆอยู่ตรงหน้าเขา


    นี่มันจูบอะไรของนายควานลินพูดพลางส่ายหัวไปมาพร้อมกับกำลังขำขันในกับสิ่งที่คนตัวเล็กทำลงไปเมื่อกี้


    ก็ผมทำไม่เป็นนี่ครับซอนโฮได้แต่ตอบออกไปอย่างตัดพ้อ หน้าหวานทำปากงุ้ยๆเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าไปสบตาอย่างลืมตัว


    พลันร่างสูงก็ดึงตัวเขาเข้าไปประกบปากทันที มือหนาจับท้ายทอยคนตรงหน้าให้หันเข้าหาในองศาที่พอดี ก่อนที่ลิ้นร้อนจะทำหน้าที่เข้าไปสำรวจภายในโพรงปากของคนตัวเล็กต่อ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนจากคนตรงหน้าแบบนี้มาก่อน ทำเอาซอนโฮเผลอไผลไปกับรสจูบอันหอมหวานอย่างลืมตัว


    เขาได้กลิ่นแล้ว กลิ่นของทะเลอันกว้างใหญ่ ทั้งสดชื่นและผ่อนคลาย แต่ก็รู้สึกลึบลับราวกับอยู่ในมหาสมุทร กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าตรงหน้ายิ่งดึงให้เขาถลำลึกลงไปในสัมผัสนี้


    รู้ตัวอีกทีควานลินก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างเขาไว้ ก่อนที่จะก้มหน้าเข้ามาใกล้ พลางกระซิบแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน   

     

    ฉันจะสอนให้เองว่าจูบจริงๆหน่ะ ต้องทำยังไง

     



    ---------- o ----------


    Talks กันสักกะนิด


    พักความหน่วงไว้ที่ 30% กันก่อนนะคะ 

    ใจจริงอยากจะมาทีเดียวให้จบ 
    แต่ติดว่าพิมพ์ไม่ทัน
    แล้วเดี๋ยวสักพักไรท์ต้องเดินทางอีกละ
    ถ้ายังไงจะรีบมาต่อให้จบนะคะ 

    -------
    Talks *2

    กราบขออภัยจริงๆที่ไม่สามารมาให้ครบ 100 ได้ค่ะ
    อีก 30% กำลังพิจารณาและปรับแก้ ว่าควรจะใส่เนื้อหาบางส่วนลงในนี้ หรือแปะไว้ที่อื่น หรือข้ามไปเลยดี

    รุ้สึกผิดบาปเหลือเกิน

    ---------

    Talks *3

    ครบแล้วค่า ช้าแต่มาชัวร์
    ส่วนสุดท้ายได้แต่แอบคิดเหมือนคนน้องนิดหน่อย
    พระเอกของเราคงไปกินอะไรผิดๆมาแน่ 5555

    *ยังไม่ได้ตรวจคำผิดละเอียดนะคะ 
    แจ้งเตือนบ่อยๆคือเข้ามาแก้คำผิดค่า


    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ 
    ทุกคอมเม้น เป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ของไรท์เลยค่า
    เห็นคนเม้นทีไร อยากจะมาลงตอนใหม่ทุกที 
    (อัพบ่อยๆเพราะทุกคนเลยน๊าาา) 

    ยังไงก็ฝากคอมเม้นท์ ติชม 
    เป็นห่วงคนน้อง สาปแช่งคนพี่กันได้
    ทั้งในฟิค และแท็คฟิคนะคะ

    จับมือกันพายเรือลำนี้ไปนานๆนะคะ 

    รัก ❤️

    #โอเมก้าชั่วคราว 

     @So_lita_









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×