คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Hunkai] Break Up
Break Up
โอเซฮุนจะพยายามทำเป็นลืมๆไปว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่คิมจงอินร้องไห้เพราะไอ้เวรนั่น!!! ก็ใช่สำหรับสถานะของเขาอย่างรูมเมทในมหาวิทยาลัยอาจจะพูดอะไรไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แต่ให้ตายเหอะไอ้ผู้ชายคนนั้นที่ได้หัวใจของคิมจงอินมันมีสิทธิ์อะไรที่จะมาทำให้เจ้าของหัวใจของเขาร้องไห้กันวะ ใช่! ได้ยินไม่ผิดหรอกคิมจงอินเจ้าของหัวใจโอเซฮุนเอง
“เซฮุน เราพยายามแล้วนะ” จงอินพูดเสียงอ่อยหลังจากที่เขาบังคับให้อีกคนไปล้างหน้าล้างตา ก็สภาพตอนที่จงอินเปิดประตูเข้ามาแทบจะทำให้เซฮุนอยากจะออกไปต่อยไอ้เวรนั่นที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของจงอินซักหมัดสองหมัด
ดวงตาบวมช้ำที่ดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักกับเนื้อตัวที่เปียกแล้วก็มอมแมมไปหมดบอกได้เลยว่าคิมจงอินคงจะไปตากฝนมาอีกแล้ว ยังไม่รวมแผลถลอกที่ข้อศอกและหัวเข่าอีกนะซึ่งโอเซฮุนเดาว่าต้องเป็นเพราะร้องไห้จนลืมเอาสติมาด้วยแน่ๆถึงได้บอกกับเขาเสียงเบาๆตอนที่ทำแผลให้ว่าสะดุดล้มมา ให้ตายเถอะช่วยดูแลตัวเองหน่อยได้ไหมคิมจงอิน
“ไอ้เวรนั่นมีดีอะไรวะ” เซฮุนอดจะสบถออกมาไม่ได้ กี่ครั้งกันแล้วละที่คิมจงอินเห็นไอ้นั่นควงทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายไม่ซ้ำหน้ากันเลยซักนิดแล้วก็กลับมานั่งร้องไห้แล้วใครละที่ต้องปลอบไม่ใช่เขาหรือไง โอเซฮุนคนนี้ไง
“เราไม่รู้” จงอินตอบเสียงเบา แต่เซฮุนก็ไม่ได้ว่าอะไร มันก็เป็นอย่างเนี้ยเงียบๆนิ่งๆดูคล้ายกับว่าไม่รู้สึกอะไร แต่เซฮุนที่อยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสามทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้หมีมึนตัวนี้บ่อน้ำตาตื้นแค่ไหนแถมยังเป็นประเภทเสียใจอะไรก็ไม่ค่อยพูดอีกต่างหาก
“เฮ้อ ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะคิมจงอิน” ถึงจะบ่นไปแบบนั้นแต่มือของเซฮุนก็กำลังขยี้ผมสีดำสนิทของเพื่อนอย่างเบามือ
“ง่วงแล้วอะเซฮุน มึนๆหัวด้วย” จงอินพูดพร้อมกับทำท่าจะเอาหัวเขกกับโต๊ะที่อยู่ข้างหน้า เซฮุนส่งมือไปอังหน้าผากของคนเป็นรูมเมทก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ จงอินตัวรุ่มๆนั่นหมายความว่าไอ้หมีนี่กำลังจะโดนพิษไข้เล่นงาน
“ไปกินยาไป เป็นไงละอยากทำตัวเป็นพระเอกมิวสิค”
ถึงจะชอบบ่นเป็นคนแก่แต่เซฮุนก็ไม่เคยที่จะดุจงอินจริงๆจังๆสักครั้ง แถมยังดูแลเขาดูมาตลอด ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังเพื่อนสนิทที่เดินเข้าไปหยิบยามาจากตู้ยาในห้องครัว เซฮุนจะรำคาญเขามากไหมนะที่เอาแต่ทำตัวแบบนี้เนี่ย บางทีจงอินก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน
อู๋อี้ฟานปีสี่ คณะบัญชี นั่นแหละแฟนคนปัจจุบันของคิมจงอิน ก่อนจะคบกันจงอินเองก็พอจะรู้กิตติศัพท์ของงอี้ฟานมาบ้างว่าเจ้าชู้ขนาดไหน แต่ก็นะตอนนั้นใครๆก็บอกจงอินว่าอี้ฟานไม่เคยจริงจังกับใครขนาดนี้มันก็เลยทำให้จงอินเชื่อสนิทว่าอี้ฟานรักเขาจริงๆ จะว่าไปตอนนี้เขาก็ยังเชื่อแบบนั้นอยู่นะ
สายตามันโกหกไม่ได้และสายตาของอี้ฟานก็ยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มคบกัน อี้ฟานไม่ได้ตีตัวออกห่างไปยังดูแลจงอินดีเหมือนเดิมมาโดยตลอด แต่นิสัยที่เจ้าชู้ที่แก้ไม่ได้ของอี้ฟานมันทำให้จงอินอยากจะถอยออกมาจริงๆนะ ถึงอี้ฟานจะรักเขาอยู่หรือไม่ก็ตามแต่การที่ต้องมาเห็นคนที่เรารักเดินอยู่กับใครก็ไม่รู้หลายๆครั้งมันก็เกินจะทนไหว แต่พอคิดว่าจะต้องเลิกกันไปจริงๆจงอินก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาซะเฉยๆอาจจะเป็นเพราะเขารักอี้ฟานมากหรือเพราะผูกพัน คิมจงอินเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้จงอินต้องละสายตาจากรูมเมทไปสนใจที่ประตูแทน จงอินพาร่างของตัวเองเดินไปประตูให้กับแขกที่มาเยือน มือเล็กยื่นไปบิดลูกบิดประตูแต่ยังไม่ทันจะให้เห็นหน้าคนที่มาเคาะประตูในเวลาค่ำคืนแบบนี้ อ้อมแขนแข็งแรงก็ดึงจงอินให้จมเข้าสู่อ้อมกอดของใครบางคน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่จงอินจำได้ขึ้นใจลอยเข้ามา ตอนนี้ทำไมถึงรู้สึกอยากจะร้องไห้จังนะ
“พี่ขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่กระหม่อม ในช่วงเวลาแบบนี้ควรจะใจแข็งไหมนะหรือว่าให้อภัยแบบที่เคยๆทำมาตลอด
“ปล่อยเพื่อนผม” แรงกระชากจากด้านหลังทำให้จงอินหลุดออกจากอ้อมกอดของอี้ฟาน มือของเซฮุนกำรอบข้อมือของคนเป็นเพื่อนไว้ก่อนจะเหวี่ยงคิมจงอินให้ไปอยู่ข้างหลังตัวเอง จงอินที่ตอนแรกจะบอกให้เซฮุนใจเย็นๆเป็นต้องเงียบไปเมื่อเห็นอารมณ์คุกรุ่นของรูมเมทตัวเอง
“ถอยไปเซฮุน” อี้ฟานพูดเสียงหนักพร้อมกับมองร่างของคนรักที่ยืนมองอยู่ด้านหลังของรุ่นน้องตัวสูง ใจจริงอยากจะกระชากจงอินกลับมาใจจะขาดแต่ดูท่าทีโอเซฮุนกับเขาคงจะได้วางมวยกันเข้าจริงๆ ทำไมอู๋อี้ฟานจะไม่รู้ว่าเซฮุนคิดอะไรกับคิมจงอิน แต่ที่ไม่ได้เอาเรื่องอะไรเพราะเห็นใจจงอินนั่นแหละ
“ไม่ ผมเคยบอกพี่ไปแล้วนะเมื่อครั้งที่แล้ว” ถ้าอู๋อี้ฟานทำจงอินร้องไห้อีกละก็ เขาจะไม่ยอมให้อีกคนเข้าใกล้จงอินอีก
“แล้วยังไง นั่นแฟนพี่” ยังไงตอนนี้คิมจงอินก็เป็นสิทธิ์ของอี้ฟานอยู่ดี
“พี่อยากให้จงอินรู้หรอ” เซฮุนพูดออกมาเรียบๆอย่างคนเหนือกว่า ท่าทีของอี้ฟานเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวเริ่มอ่อนลง โอเค เซฮุนมีอะไรบางอย่างที่อี้ฟานกลัวและกลัวที่สุดคือกลัวจงอินจะรู้ซึ่งนั่นไม่ดีแน่ๆ
“รู้อะไรหรอเซฮุน” คนที่เงียบมานานเอ่ยถาม จงอินเองก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆนี้ได้
“ไม่มีอะไรหรอกจงอิน” เป็นอี้ฟานที่ตอบ
“จงอินกลับไปข้างในห้อง” เซฮุนบอก
“แต่….”
“ฉันให้เข้าไปไง”
จงอินก็เลยได้แต่หันกลับเข้าไปข้างใน ถึงอยากจะคุยกับอี้ฟานให้รู้เรื่องแต่ดูจากเซฮุนแล้วจงอินว่าตัวเองถอยออกมาคงจะดีกว่า บรรยากาศราวกับจะก่อสงครามแบบนั้นนะน่ากลัวจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเซฮุนไม่ค่อยชอบขี้หน้าแฟนเขาซักเท่าไหร่ เพราะเจ้าตัวบอกเสมอว่าเป็นเพราะอี้ฟานที่ทำให้คิมจงอินกลายเป็นอย่างนี้ แต่ว่าบรรยากาศเหมือนกี้มันก็ดูน่ากลัวเกินไปนะ
“มึงจะเอาไง” พอเห็นว่าจงอินเดินหายเข้าไปในห้องแล้ว เซฮุนก็เปิดฉากกับร่างสูตรงหน้าทันที ให้ตายเถอะเขาละอยากจะต่อยหน้าให้นี่ซักทีจริงๆ
“พูดให้ดีๆนะเซฮุน ยังไงฉันก็พี่” อี้ฟานคิ้วกระตุก ไอ้เด็กเวรนี่
“แล้วไง ผมเคยแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าทำจงอินร้องไห้” เซฮุนพูด
“ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจ!!! เรื่องอย่างนี้มันไม่ได้ตั้งใจหรอวะ” เซฮุนกำหมัดแน่น อู๋อี้ฟานพูดมาได้ไงว่าไมได้ตั้งใจแล้วที่จงอินต้องร้องไห้คือมันไม่ได้ตั้งใจหรอ คนรักกันเขาทำให้แฟนตัวเองร้องไห้กันเซฮุนอยากจะรู้จริงๆ
“เออ ก็พยายามอยู่แต่มันเลิกไม่ได้” อี้ฟานพูด
“เลิกไม่ได้ มึงก็เลิกกับจงอินไป สารเลว” เซฮุนตะคอก ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องกันตรงนี้แล้วจงอินจะรู้แล้วก็ เซฮุนไม่ลังเลที่จะสั่งสอนไอ้คนตัวสูงตรงหน้านี้เลยซักนิด
“ไม่เลิก!!!” อี้ฟานเสียงแข็งกร้าว ก็ใช่เขาอาจจะเจ้าชู้ทำตัวเป็นไอ้สารเลวแบบที่เซฮุนพูด แต่สำหรับจงอินก็คือที่หนึ่ง ถึงจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะแต่ว่าเขายังไม่พร้อมจะเสียจงอินไปจริงๆ
“ไม่เลิกมึงก็ต้องเลิกทำตัวแบบนี้ กูไม่อยากเห็นจงอินร้องไห้อีก” เซฮุนพูดก่อนจะเว้นวรรคไปพักหนึ่ง ตาเรียวหันไปมองทางประตูห้องนอนเมื่อเห็นว่ามันยังคงปิดสนิทก็หันมาพูดกับร่างสูงของอี้ฟาน “โดยเฉพาะเรื่องของลู่หาน ถ้าเลิกไม่ได้แล้วจงอินต้องเจ็บ กูเอาเลือดหัวมึงออกแน่!!”
เซฮุนพูดเสร็จก็กระชากประตูห้องปิดทันที ขายาวเดินเข้าไปหาเพื่อนที่อยู่ในห้องนอน จงอินกำลังนั่งอยู่บนเตียงมือทั้งสองกำกันแน่นบ่งบอกเจ้าตัวกำลังกังวลใจ พอเห็นหน้าของคนที่เข้ามาจงอินก็รีบลุกเดินเข้ามาหา
“กลับไปแล้ว” เซฮุนพูดเรียบๆ
“ขอโทษนะเซฮุน” เสียงอู้อี้ของจงอินถูกส่งออกมา เจ้าของคำพูดที่เอาแต่ก้มหน้าลงมองพื้นทำให้เซฮุนต้องเดินเข้าไปใกล้ๆ
“ขอโทษอะไร”
“ก็เวลาเป็นแบบนี้ทีไร เราทำเซฮุนอารมณ์เสียทุกทีเลย” จริงๆเซฮุนก็อยากหัวเราะกับท่าทางของคนตรงหน้าเหมือนกัน ท่าทางเหมือนเด็กกำลังสารภาพว่าแอบกินขนมอะไรประมาณนั้นเลย แต่พอนึกถึงหน้าไอ้นั่นก็หงุดหงิดขึ้นมาซะเฉยๆ
“เฮ้อ ก็เพื่อนกันต้องช่วยกันซิ” เซฮุนรั้งอีกคนเข้ามากอดพร้อมกับขยี้ผมอีกฝ่ายเบาๆ จงอินก็กอดตอบพร้อมส่งเสียงเบาๆว่า “เซฮุนดีที่สุดเลย” ก็ถ้าโอเซฮุนดีที่สุดแล้วทำไมคิมจงอินถึงไม่รักละ โอเซฮุนอยากจะถามออกไปจริงๆ
กว่าที่โอเซฮุนจะแงะหมีขี้เซาจากเตียงให้ไปอาบน้ำมามหาวิทยาลัยได้ก็เล่นเอาเสียเหงื่อไปไม่น้อยเหมือนกัน เป็นเพราะบังคับให้จงอินกินยาเมื่อวานเช้านี้เจ้าตัวก็เลยไม่มีไข้แล้วก็มาเรียนได้ เซฮุนนั่งมองคนข้างตัวที่กำลังให้ความสนใจกับเกมในโทรศัพท์ของตัวเอง
คนที่ทั่วไปมองว่าใบหน้าเรียบเฉยติดออกจะเย็นชากำลังยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของคนข้างตัวที่ไม่ได้อย่างใจเพราะด่านที่กำลังเล่นอยู่ไม่ผ่านไปซักที เซฮุนชอบมองใบหน้าที่แสดงอารมณ์ต่างๆของจงอินมันดูน่ารักดี เซฮุนให้คำนิยามแบบนั้นยกเว้นเวลาร้องไห้ไว้ละนะ
“เล่นให้ไหม” เซฮุนเอ่ยถาม
“เซฮุนเล่นเป็นหรอ” จงอินเงยหน้าขึ้น
“เรียกว่าเซียน” มือหนาแย่งโทรศัพท์มาจากมืออีกคนก่อนจะกดเข้าไปเล่น ไม่นานเซฮุนก็ส่งโทรศัพท์กลับคืนไปให้จงอิน แววใสก้มมองที่หน้าจอก่อนจะพบว่ามันผ่านด่านนี้ไปแล้ว จงอินหันมามองหน้าเซฮุนก่อนจะยิ้มจนตาหยีแล้วโถมกอดอีกคนเต็มแรง
“รักเซฮุนที่สุดเลย” หลังจากนั้นเสียงหัวเราะของคนสองคนก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกัน
“อะ ฮึ้ม” เสียงของใครบางคนทำให้จงอินที่กำลังเล่นอยู่กับเซฮุนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองก็ใบหน้าหวานของใครบางคนที่รู้จักเป็นอย่างดี
“พี่ลู่หาน” จงอินเอ่ยออกมา
ลู่หานรุ่นพี่ในคณะที่จงอินคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะได้ร่วมงานกันในงานของมหาวิทยาลัยเมื่อปีก่อน ด้วยความที่มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน จงอินก็เลยก็สนิทกับลู่หานจนตอนนี้ก็กลายมาเป็นรุ่นพี่คนสนิท สนิทกันมากจนจงอินลืมมองเห็นอะไรบางอย่างไป
“ไง ไม่มีเรียนแล้วหรอ” ลู่หานถามรุ่นน้องตรงหน้า
“ครับ แต่ยังไม่อยากกลับหอนะครับ” จงอินเป็นฝ่ายตอบ
ลู่หานเหลือบมองรุ่นน้องตัวขาวอีกคนที่มองมาทางเขาแค่เพียงครู่เดียวก็จะเบนสายตาออกไปมองทางอื่น ทุกครั้งที่เซฮุนเจอหน้าลู่หานแทบจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่จงอินไม่บังคับรุ่นน้องคนนี้ไม่ทักทายหรือมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
“เซฮุนเป็นอะไรไปหรอ” ลู่หานลองใจกล้าทักรุ่นน้องออกไป
“เบื่อ” คนตัวขาวตอบกลับมาสั้นๆ
“เบื่ออะไรอะเซฮุน” จงอินถามต่อ จะว่าไปเขาก็สังเกตมาสักพักแล้วว่าเซฮุนไม่ยอมทักลู่หานเลย
“เบื่อพวกตีสองหน้า” คำพูดสั้นๆของคนเป็นรุ่นน้องกลับทำให้ลู่หานเหมือนถูกตบจนหน้าชา เขาคิดว่าเขารู้แล้วว่าทำไมเซฮุนถึงทำแบบนี้ทุกครั้งที่เจอหน้าเขา ลู่หานพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เซฮุนที่เห็นก็เลยถอนหายใจออกแรงๆ
“เซฮุน ทำตัวไม่ดีเลย” จงอินเอ็ดเบาๆ
“ไม่เป็นไร น้องเซฮุนคงจะเบื่อจริงๆ” ลู่หานเน้นคำว่าเบื่อจนเซฮุนต้องเบ้หน้า
“ครับ พี่ลู่หานว่า…ผมไปคุยกับพี่อี้ฟานให้รู้เรื่องดีไหม”
มันมาอีกแล้วซินะการเสแสร้งแกล้งทำเป็นรุ่นพี่ที่ดีค่อยให้คำปรึกษากับน้องแต่ก็เป็นคนเดียวกับที่หักหลังรุ่นน้องตัวเองลงอย่างเลือดเย็น จงอินก็ซื่อเกินกว่าจะรู้ว่าคนตรงหน้ามันเป็นงูพิษมากแค่ไหน เซฮุนอยากจะบ้าตายจริงๆ
“ก็ดีนะ เป็นแฟนกันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” ไปจัดการเรื่องตัวเองเถอะลู่หาน เซฮุนได้แต่พูดในใจ
“ครับ เซฮุนเย็นนี้ไปหาพี่อี้ฟานกับเรานะ” จงอินหันมาถามคนเป็นเพื่อน เซฮุนก็ได้แต่พยักหน้าตกลงเพราะทุกครั้งเขามักจะแค่ส่งจงอินที่หน้าคอนโดของไอ้เวรนั่นแล้วก็นั่งรอข้างล่าง ไม่ยากจะขึ้นไปเห็นหน้ามันเดี๋ยวได้มีเรื่องกัน
“ดีแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะ” ลู่หานขอตัว
“ครับ”
ลู่หานหันหลังกลับใบหน้าหวานเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ ขอโทษนะจงอินที่มันต้องเป็นแบบนี้ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปยิ้มจะออกมาบางๆเพราะว่าลู่หานนะปล่อยอู๋อี้ฟานไปไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะจงอินให้อภัยพี่ด้วยเถอะนะ
เย็นวันนั้นเซฮุนก็ต้องพาจงอินมาที่คอนโดของอู๋อี้ฟานจริงๆ คนตัวขาวไล่ให้คนเป็นเพื่อนลงรถไปคุยกับแฟนของตัวเองก่อนจะพาร่างของตัวเองมานั่งรอที่ด้านล่างของคอนโด มือเรียวยกกาแฟขึ้นมาจิบก่อจะถอนหายใจออกมา
ถึงเขาจะพยายามช่วยจงอินยังไงแต่ถ้าจงอินยังยึดติดอยู่กับความรักของตัวเองอยู่แบบนี้ จงอินก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะต้องร้องไห้อยู่ทุกครั้งแบบนี้หรอก บางทีเซฮุนก็อยากจะตะโกนบอกจงอินไปดังๆเหมือนกันนั่นแหละว่าทุกครั้งที่จงอินร้องไห้กลับมา ไม่ใช่แค่จงอินที่เจ็บเขาเองก็เจ็บ เจ็บที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บ เจ็บที่ไม่สามารที่จะทำอะไรมาไปกว่านี้ได้
“เห้อ” เซฮุนถอนหายใจออกมา อายุเขาต้องสั้นลงแน่ๆ
เสียงความวุ่นวายทำให้เซฮุนต้องเห็นกลับไปมอง ร่างคุ้นตาที่กำลังนั่งลงอยู่กลางพื้นชั้นล่างของคอนโดคงจะไม่ได้ทำให้เซฮุนตกใจได้มากเท่ากับร่างนั้นกำลังร้องไห้เหมือนกับกำลังจะขาดใจตาย ไม่ต้องคิดอะไรมากเรียวขายาวก็วิ่งไปอยู่ตรงหน้าร่างนั้นก่อนที่สมองจะคิดอะไรออกซะอีก
“จงอิน”
เซฮุนพูดชื่ออีกฝ่ายด้วยเสียงแผ่ว เสียงหอบหายใจขาดห้วงพร้อมกับน้ำตาเม็ดโตที่กลิ้งผ่านแก้มใสที่เซฮุนเฝ้ามองมาตลอดกำลังเล่นงานหัวใจของเซฮุนอย่างรุนแรง ไม่มีครั้งไหนที่จงอินร้องไห้ราวกับจะขาดใจแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกัน
เซฮุนประคองอีกคนที่ยังคงร้องไห้อยู่แบบนั้นให้ยืนขึ้นมาก่อนรั้งร่างทั้งร่างของอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด เรียวแขนที่กอดรัดเขาแน่นพร้อมสัมผัสที่เปียกชื้นตรงหัวไหล่กำลังบีบรัดหัวใจของเซฮุนให้แทบตายทั้งเป็น จงอิน…ได้โปรดหยุดร้องก่อนเถอะนะ
“เกิดอะไรขึ้น” เซฮุนเอ่ยถาม
“พ พี่อี้ฟาน พี่เขา” เสียงที่ขาดหายไปตามแรงสะอื้นของคนในอ้อมแขนจนทำให้เซฮุนแทบจะได้ยินมันไม่ชัด แต่อารมณ์ที่ตีตื้นขึ้นมาทำให้เขากระชากข้อแขนของอีกฝ่ายตรงไปทางลิฟต์อย่างรวดเร็ว จงอินที่ยังไม่ทันตั้งตัวแทบจะปลิวไปตามแรงของอีกฝ่าย
“เซฮุน ฮึก จะไปไหน” จงอินกลืนก้อนสะอื้นลงไปก่อนจะเอ่ยถามคนข้างตัว
“ไปเอาเลือดหัวไอ้อี้ฟานออก” เซฮุนกำหมัดแน่น วันนี้ไม่เขาก็ไอ้เวรอี้ฟานนั่นได้ตายกันไปข้างแน่ๆ ทั้งที่บอกไปแล้วว่าอย่าทำจงอินร้องไห้ อย่าทำจงอินเจ็บปวด ทั้งที่ไว้ใจให้ดูแลหัวใจของเขาแล้วแท้ๆแต่ทำไมอู๋อี้ฟานถึงได้ไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่เลยซักนิด
“ไม่เอานะเซฮุน” จงอินเอ่ยขอร้อง
“เลิกบ้าซักทีได้ไหมคิมจงอิน!!!” เซฮุนตวาดกร้าว มือใหญ่คว้าไหล่ของคนเตี้ยกว่าไว้ก่อนจะกระแทกร่างอีกฝ่ายกับผนังลิฟต์ด้วยแรงอารมณ์ จงอินเบ้หน้าด้วยความเจ็บแววใสมองหน้าคนเป็นเพื่อนตรงหน้า สายตาวูบไหวของเซฮุนทำให้จงอินหยุดที่จะพูดอะไรออกไปรวมถึงแววตานั่นยังสะท้อนความเจ็บปวดอะไรบางอย่างที่จงอินไม่เข้าใจ
“เซฮุน เราเจ็บ” จงอินเบ้หน้าลงอีกครั้งเมื่อแรงบีบรัดที่ไหล่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เซฮุนที่ได้สติค่อยคลายมือออกจากไหล่ของอีกฝ่าย
“ขอโทษ”
“เราควรจะยังไงดีเซฮุน ทำยังไงดี” จงอินพูดเบาๆคล้ายคนหมดแรง เจ้าของร่างทิ้งตัวนั่งลงไปกับพื้นลิฟต์ เซฮุนที่เห็นแบบนั้นเลยฉุดอักฝ่ายขึ้นมาก่อนจะจ้องตาแววใสนั้นอย่างจริงจัง หวังว่าจงอินจะรู้ถึงที่เขาต้องการจะสื่อออกไป
ถ้าอู๋อี้ฟานที่ได้สิ่งที่มีค่าที่สุดจากเขาไปแล้วไม่ยอมดูแลรักษาให้ดี โอเซฮุนก็คิดว่ามันคงจะถึงเวลาที่เขาจะทวงมันคืนมาเพื่อดูแลเองซักที ขอเพียงคนที่กำลังมีแววตาสั่นระริกตรงหน้าเขายอมให้โอกาส ขอแค่จงอินเอ่ยคำนั้นออกมาเซฮุนก็พร้อมจะเอาทั้งตัวแล้วหัวใจของคิมจงอินมาดูแลเอง
“รักตัวเองให้มากจงอิน แล้วก็คิดถึงคนที่รักนายอย่างฉันซะบ้าง” เซฮุนพูดออกไปแล้ว แววใสเบิกกว้างอย่างตกใจ เซฮุนกำลังหมายถึงอะไร เซฮุนกำลังจะบอกว่ารักเขาอย่างนั้นหรอ ในช่วงเวลาแบบนี้จงอินเองควรจะรู้สึกยังไง
“เซฮุน”
ยังไม่ทันจะได้ท้วงอะไรออกไปเซฮุนก็ดึงจงอินออกจากลิฟต์ ขาเรียวหยุดยืนอยู่กับที่ทำให้เซฮุนต้องหันกลับไปมอง สายตาจงอินที่มองไปยังประตูของอู๋อี้ฟานกำลังหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“จงอินมันเกิดอะไรขึ้น”
ภาพยังคงติดตาร่างสองร่างที่กำลังนัวเนียกันตรงหน้าประตูก่อนจะหายเข้าไปหลังบานประตูบานนั้นทันทำให้จงอินแทบล้มทั้งยืน จงอินคิดว่าตัวเองตาฝาด มันต้องไม่ใช่แบบนี้อย่างน้อยก็ขอร้องว่าต้องไม่ใช่คนคนนั้น
แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าจงอินเมื่อไม่กี่นาทีก่อนมันเป็นตัวพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ฝัน นี่มันยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่เคยได้รับมา ถ้ามีเพียงแค้อี้ฟานที่หักหลังคิมจงอินมันคงจะเจ็บเหมือนที่เคยเจ็บมา แต่นี่ใครอีกคนคือคนที่เรียกว่ารุ่นพี่ ใครบางคนที่จงอินเรียกว่า ‘พี่ลู่หาน’
ความรู้สึกที่เหมือนกับโดนผลักลงมาจากตึกสูงมันเป็นแบบนี้จงอินก็เพิ่งรู้
ความรู้สึกที่เหมือนกับโดนคนที่ตัวเองรักทั้งสองแทงข้างหลังมันเป็นแบบนี้จงอินก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
ความรู้สึกที่เหมือนกับหัวใจแตกสลายก็คงเป็นแบบนี้
“อย่าเข้าไปเลยนะเซฮุน” จงอินขอร้อง เขาไม่อยากเห็นอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว แค่นี้มันก็ทรมานเกินจะทนแล้ว
“มันต้องเห็นกับตา” ใจร้าย โอเซฮุนคิดว่าจงอินคงจะคิดว่าเขากำลังเป็นแบบนั้น แต่เซฮุนกำลังเป็นคนใจร้ายที่รักคิมจงอินมากที่สุด แต่ให้จงอินเห็นกับตาตัวเองว่าความรักที่จงอินให้อีกฝ่ายมันมีค่าพอที่อีกฝ่ายจะได้รับหรือเปล่า ถ้าจงอินต้องเจ็บปวดแต่หลุดพ้นจากบ่วงแห่งความรักไปซะที หัวใจที่บอบช้ำดวงนั้นเซฮุนสัญญาว่าจะรักษามันเอง
เซฮุนกระหน่ำเคาะประตูห้องอย่างอารมณ์ร้อนโดนมีจงอินที่พยายามรั้งแขนเขาเอาไว้พร้อมกับคราบน้ำตาแต่เซฮุนก็เลือกที่จะไม่สนใจมัน
“เคาะเหี้ยไรวะ” เสียงกระชากประตูพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตไม่ได้ติดกระดุมซักเม็ดผมเผ้ายุ่งเหยิงกับอีกร่างที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งคลุมถึงต้นขาเท่านั้น ดวงตาเบิกกว้างของคนในห้องทำให้เซฮุนกระตุกยิ้มอย่างสมเพช ฟัดกันมาอย่างกับหมา
“จงอิน” เสียงทุ้มของอี้ฟานเบาบางจนแทบจะไม่ได้ยิน
“ฮึก” เสียงสะอื้นของจงอินดังขึ้นก่อนที่ดวงตาจะถูกบดบังด้วยม่านน้ำใสที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง มือเล็กบีบแขนของเซฮุนเอาไว้แน่นพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มกันเอาไว้ไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา จงอินไม่อยากรู้ไม้อยากเห็นอะไรทั้งนั้น เซฮุนพาเรากลับเถอะ
“ไอ้เลวเอ้ย” เซฮุนเหวี่ยงเข้าไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแรงจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไปกองกับพื้น เขาเคยเตือนอู๋อี้ฟานแล้วนะว่าถ้าจงอินต้องเสียใจเพราะเรื่องของลู่หานเขาจะเอาเลือดหัวอี้ฟานออกซะ จงอินที่กำลังปิดกั้นไม่อยากรับรู้อะไรก็เอาแต่ร้องไห้ ในขณะที่ลู่หานทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าเซฮุนจะทำอะไรผลีผลามแบบนี้
อี้ฟานเช็ดเลือดที่มุมปากออกก่อนลุกขึ้นมากระชากคอคนเตี้ยกว่านิดหน่อยมาแล้วง้างหมัดเข้าใส่ที่หน้าเซฮุน ตอนนั้นแหละที่ลู่หานถึงคิดได้ว่าควรแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่ผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าทั้งคู่อยู่มากแถมยังอารมณ์ร้อนอยู่ตอนนี้ห้ามอะไรได้ ลู่หานพยายามดึงตัวอี้ฟานออกมาให้สงบสติอารมณ์เพราะตอนนี้ทั้งคู่ก็แลกกันไปหลายหมัดแล้ว
“จงอิน!! ช่วยหยุดทีได้ไหม” ลู่หานหันไปตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่ยืนร้องไห้อยู่ จงอินหันไปมองผู้ชายสองคนที่กำลังต่อยกันก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง
“หยุด!! ถ้าไม่หยุดผมจะไปเรียก รปภ.” ได้ผลอี้ฟานกับเซฮุนปล่อยมืออกจากคอเสื้อของแต่และฝ่าย เซฮุนเช็ดคราบเลือดที่มุมปากกับหางคิ้วที่แตก ส่วนอี้ฟานก็สภาพไม่ได้ต่างกันมากนัก
“จงอินพี่ขอ…”
“พอเถอะครับ” จงอินตัดสินใจแล้ว เขาปล่อยให้อู๋อี้ฟานพูดคำว่าขอโทษมีกี่ร้อยครั้งกันแล้วนะแต่สุดท้ายก็กลับไปเป็นเหมือนที่ผ่านๆมา นั่นซินะเซฮุนอาจจะพูดถูกเขาควรจะรักตัวเองซะบ้าง ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง อาจจะเจ็บปวดเจียนตายแต่อย่างน้อยมันก็จะได้จบๆไปซักที
“จงอิน” อู้อี้ฟานพอจะรู้ว่าจงอินจะพูดอะไรต่อ
“เรา….เลิกกันเถอะครับ” จงอินพูดออกไปแล้ว พูดออกไปพร้อมๆกับหัวใจที่แตกสลายเลยละ
นี่มันก็เดือนหนึ่งแล้วตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น ถึงตอนแรกจะจนเจียนตายได้แต่นิ่งๆปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อยู่แบบนั้น แต่เพราะมีเซฮุนที่อยู่ข้างๆมั้งคอยปลอบคอยด่าให้รู้สึกตัวมันก็เลยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ ใช่ว่ามันจะลืมได้มันแค่ดีขึ้น แผลที่เป็นแผลสดมันก็เริ่มที่จะกลายเป็นแผลเป็นถ้าไม่มีใครไปสะกิดมันอีกจงอินคิดว่าอีกไม่นานมันก็คงจะหาย
จงอินไม่ได้เจอหน้าอู๋อี้ฟานและลู่หานมาซักพักแล้วเรียกว่าหลบหน้าก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ว่าการที่คนเราไม่อยากเจอหน้าคนที่ทำให้เราเจ็บมันก็ไม่แปลกไม่ใช่หรอ ก็เพราะเลิกกันไม่ดีถ้าต้องมาเจอหน้ากันอีกครั้งมันก็คงจะรู้สึกไม่ดีเอาซะเปล่าๆ
“จงอินจะกินไรเปล่า จะออกไปซื้อของ ของแม่งหมดตู้เย็นละ” จงอินมองแผ่นหลังของคนเป็นเพื่อนที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้เย็นก็อดจะเผยยิ้มออกมาไม่ได้ ก็ตั้งแต่วันนั้นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้จงอินกลับมายืนได้อีกครั้งก็เป็นเซฮุนนี่แหละ ทำไมจงอินไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเซฮุนมีความสำคัญมากขนาดนี้กัน
“เซฮุน” จงอินเอ่ยเรียก
“มีอะไร” เซฮุนหันมาถามก่อนจะปิดตู้เย็นแล้วเดินมานั่งลงที่โซฟาข้างๆอีกคน ในมือมีน้ำอัดลมติดมือมาด้วย
“เซฮุนนะ รู้สึกยังไงกับเราหรอ” จงอินถาม
“แค่กๆ อะไรนะ” เซฮุนที่กำลังกระดกน้ำในกระป๋องดื่มถึงกับสำลัก เอื้อมมือไปคว้าทิชชู่มาเช็ดน้ำที่กระเด็นออกมาก่อนจะหันมามองหน้าจงอิน อยู่ๆก็มาถามเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ
“เราไม่ได้ลืมหรอกนะ ที่เซฮุนพูดวันนั้นอะ”
ชัดเลย ให้ตายซิไม่น่าอารมณ์ร้อนเลยพอคิดอะไรก็พูดมันออกไปทุกอย่าง แล้วคิมจงอินจะมาความทรงจำดีอะไรกันตอนนี้ เซฮุนคิดว่าจงอินจะลืมๆไปแล้วซะอีก ยังไม่พอเจ้าตัวยังหันมามองด้วยสายตากดดันอีกต่างหาก แล้วเซฮุนจะพูดอะไรได้ละ
“ยังไงละเซฮุน”
“ยังไงก็ยังงั้นแหละ” ก็ถ้าได้ยินแล้วก็ไม่ลืมจะมาถามทำไมซ้ำๆเล่า ตอนนี้เซฮุนคาดเดาความรู้สึกของจงอินไม่ออกเลย จะว่าโกรธหรอก็ไม่นะจงอินไม่ได้แสดงว่าโกรธ รังเกียจหรือก็ไม่จงอินไม่ได้ท่าทีทำนองนั้นออกมาเลยซักนิด
“เซฮุนตอบไม่ตรงคำถาม” จงอินแย้ง
“จะมาเซ้าซี้อะไรเล่า” ว่าแล้วก็กระดกน้ำเข้าไปซักอึก อยากจะหนีไปจากตอนนี้จริงๆ รู้สึกเหมือนกำลังถูกต้อนอยู่เลย
“เซฮุนก็แค่ตอบ” ยังไม่เลิกใช่ไหมเนี่ยคิมจงอิน
“เออ!! ก็รู้สึกอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ เลิกถามซักที” เซฮุนอยากจะตบปากตัวเองตัวซักทีจริงๆเลยให้ตายเถอะ
จงอินดูอึ้งไปเล็กน้อยจนคนที่มองอยู่อย่างเซฮุนใจไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าจงอินตีตัวออกห่างไปละเขาจะทำยังไง แต่ความคิดนั้นก็ต้องเก็บพับไปเมื่อเห็นคิมจงอินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย คิมจงอินนี่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยจริงๆนะ
“รักเราจริงๆหรอเซฮุน” ถามมาได้หน้าตาเฉย
“ก ก็เออ!!” นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“เราไม่ได้รังเกียจหรอกนะ” จงอินพูด
“เซฮุนไม่เคยพูดแต่ก็ทำให้เราเห็นทุกวัน”
เซฮุนนั่งฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจงอินรู้สึกยังไง เพราะสำหรับจงอินบางครั้งเซฮุนก็เหมือนจะรู้ว่าอีกคนคิดอะไรแต่บางครั้งก็เหมือนจะไม่รู้เลย
“เพราะฉะนั้นทำต่อไปนะ เราว่า….เราใกล้จะใจอ่อนแล้วละ”
“อะไรนะ!!!” ขอโอเซฮุนฟังอีกรอบซิ
“เราบอกว่า เราใกล้จะใจอ่อนแล้วละ” พูดพร้อมยิ้มหวานให้
นี่มันเรื่องดีที่สุดในชีวิตของโอเซฮุนเลย คนตัวสูงกว่าดึงอีกคนเข้ามากอดจนจมอก ให้ตายเถอะวันนี้คิมจงอินทำตัวน่ารักเกินไปแล้ว แล้วแบบนี้โอเซฮุนจะปล่อยอีกฝ่ายไปได้ยังไงกันละ อยากจะฟัดอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยวแต่ก็กลัวว่าอักฝ่ายจะกลัวจนหนีไปซะก่อนนะซิ
“ อือ ปล่อยได้แล้วเซฮุน” คนในอ้อมกอดส่งเสียงประท้วง
“รักคิมจงอินที่สุดเลย”
“รู้แล้วน่า” จงอินพูดเขินๆ ทีตอนนี้ทำเป็นพูดเห็นก่อนหน้านี้เอาแต่เงียบสนิทไร้ซึ่งสัญญาณใดๆ พอเริ่มจะใจอ่อนเข้าหน่อยละก็พูดมากขึ้นมาเชียว
“รักจงอินจัง”
“บอกว่ารู้แล้ว!!!” จงอินเริ่มเขินขึ้นมาจริงๆจังๆแล้วนะ
“ระ รัก…”
“ถ้าพูดอีกไม่ต้องมาคุยกันเลย” จงอินขู่อีกฝ่ายพร้อมกับเขวี้ยงหมอนในมืออัดใส่เซฮุนเต็มๆหน้า
“โอเคครับ” รู้สึกเหมือนตัวเองกุมอำนาจไว้อย่างไงก็ไม่รู้ซิ เซฮุนตอนนี้น่าตลกจะตายไป
แต่ก็นะ…..ถ้าจงอินต้องเริ่มใหม่กับใครซักคนก็คงต้องเป็นโอเซฮุนนั่นแหละ
.....................................................................................................
จบปิ๊ง มันคืออะไร อะไรของแก
ตอนจบมันคืออะไร มันแหม่งอะ 5555555555555
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
อย่าเครียดกันมากเน้อ สดใสร่าเริงเข้าไว้นะคะ 55555555
ช่วยเม้นท์ช่วยติดแท๊กกันด้วยนะ #จงอินอินเลิฟ
คนเขียนจะได้มีกำลังใจ -,.-
เรื่องหน้าเจอกับคริสไค กับเรื่องที่เกี่ยวกับคำว่า 'ความลับ'
แล้วเจอกันคะ ^^
ความคิดเห็น