ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NAUGHTY&EVIL ☠ ( B.A.P )

    ลำดับตอนที่ #9 : NAUGHTY&EVIL # 08

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 56



      

    NAUGHTY&EVIL
    #08






     

                “เสร็จรึยัง หิวจะตายอยู่แล้ว

                พี่ก็รอหน่อยเด้ คนนะเว้ยไม่ใช่สามจี ทำอะไรจะเร็วปรู๊ดปร๊าดขนาดนั้น

                ตอนนี้ไอ้พี่ยงกุกมายืนทำหน้าบูดอยู่บริเวณครัวของเขา สายตาแบบนั้นทำเอาผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเซฟกระทะเหล็กที่กำลังทำงานแข่งกับระเบิดเวลา ....เป็นระเบิดลูกใหญ่มหึมาซะด้วย =___=; แม่ง น่าหมั่นไส้จริงๆ กูขอหน่อยเห๊อะ...

     

                อุ้ยๆ ผมไม่ได้ตั้งใจทำผงพริกไทยหกลงในแกงกิมจิแบบนั้นหรอกนะ จริงจริ๊ง... โอ้ๆๆ ไม่ได้ตั้งใจเทน้ำส้มสายชูพรวดๆลงใน เนื้อผัดแบบนั้นด้วย สงสัยมือมันคงอ่อนเปลี้ยไปหน่อย

               

                หึ เจอมื้อนี้เข้าไป พี่ตายแน่ ! พี่จะได้รู้ ว่าอย่ามาซ่ากับจุนฮง

     

                “เออ อยู่บ้าน ...ห้ะ สมองมึงนี่คิดแต่เรื่องใต้สะดือรึไง หุบปากแล้วกลับไปทำงานซะไป๊!”

                พอผมยกจานข้าวมาวาง ก็เจอเจ้าของถ้ำหมีกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ท่าทางจะคุยกับเพื่อน ...กับเพื่อน โว้ว ไม่น่าเชื่อ คนอย่างหมีอลาสก้ามีเพื่อนด้วย เพื่อนพี่แกคงจะเป็นนกแพนกวิน หรือไม่ก็สิงโตทะเลแหง

     

                เสร็จแล้วพี่ยงกุก

                เนื้อผัดหน้าตาดูดีมีสกุลรุนชาติอย่างที่สุดถูกยกมาวางข้างหมอแกงกิงจิสีน่ากิ๊นน่ากิน ผมก็มีพรสวรรค์ด้านนี้เหมือนกันนะเนี่ย ~

                “โห แกทำได้ขนาดนี้เลยหรอ พี่ยงกุกเดินมามองอาหารบนโต๊ะ ขณะกำลังสอดแขนเข้าไปในสูทตัวนอกที่เขาพึ่งถอดไปตอนเข้ามาในห้อง

                แต่ฉันไม่มีเวลากินแล้ววะ ต้องไปทำงานต่อแล้ว แกกินเหอะ

     

                เวร...

     

                ไม่เป็นไร๊ ผมเก็บไว้ให้พี่กินตอนพี่กลับมาก็ได้

                งานฉันยุ่งมาก พรุ่งนี้จะได้กลับมั๊ยก็ไม่รู้ แกกินซะสิ ปกติฉันไม่เคยเห็นแกกินข้าวเลยนี่ ว้อยยยยย จะมาทำตัวเป็นคุณน้าแสนดีอะไรตอนนี้ไม่ทราบครับ พระเจ้ากลั้นแกล้งกูละสิท่า จะจัดการพี่ยงกุกสักหน่อย ทำไม๊ทำไม มันย้อนกลับมาตัวเองเร็วอย่างงี้วะ

                ผม... ผมไดเอทอ่ะ อ้วนมากเลยนะช่วงนี้ ผมไม่กินเย็น

                อ้วนที่ไหน แค่ขาใหญเท่านั้นแหละ ฉันบอกให้กินไง เอ้า...

                เขาเอาตะเกียบคีบเนื้อผัดชิ้นใหญ่มโหราฬขึ้นมา ก่อนจะจับคางให้หันไปเผชิญหน้าแล้วยัดเนื้อนั้นเข้ามาเต็มปาก ....โอ้พระเจ้าาาาาาา TT_______TT พูดไม่ออกเลย รสชาติเอี้ยมาก นี่กูคิดจะแกล้งพี่เค้าด้วยวิธีนี้จริงๆหรอ ได้ไงวะสาสสสสสสสส

     

                ฉันต้องไปละ อย่าลืมกินข้าวให้หมดล่ะ เออใช่ ฉันซื้อขนมปังเมล่อนมาไว้ให้ อยู่ในห้องครัวนะ เพื่อพรุ่งนี้เช้าแกจะกิน ...ไปล่ะ

     

                ^____^/~

     

                ผมโบกมือหยอยๆให้คุณน้าที่เดินออกจากห้องไป ยืนอมยิ้มค้างอยู่อย่างนั้นทั้งๆที่เนื้อรสเปรี้ยวอย่างกับของดองอัดแน่นอยู่เต็มปาก รสชาตินรกแตกยิ่งหวารามยอนของใครบางคนทำเอาน้ำตาของเอ่อขึ้นมาคลอเบ้า นี่มันแย่มาก แย่โคตรพ่อโคตรแม่เลย อย่าคิดเอาวิธีนี้ไปแกล้งใครเค้านะท่านผู้อ่าน บาปกรรมมันมีจริง TT_____TT

     

                นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าทำเป็นซ่า...

                โดยเฉพาะถ้าคนนั้นคือไอ้พี่ยงกุก

     

     

    *****

     

                6:30 AM

               

                ผมนอนกระพริบตาปริบๆอยู่บนโซฟาริมหน้าต่างที่ประจำ น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเองแบบนี้ บรรยากาศในห้องดูเงียบสงบผิดปกติ ถ้าให้เดา พี่ยงกุกยังไม่กลับบ้านแหงๆ หูย ท่าทางจะทำงานหนักนะ

     

                ผมจัดการกับภารกิจส่วนตัวในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อย หยิบขนมปังเมล่อนของพี่ยงกุกมาเคี้ยวตุ้ยๆ ขณะเดินไปเปิดประตูห้อง อืม มันเป็นขนมปังก้อนแรกในชีวิตเลยนะที่ผมค่อยๆเล็มขนาดนี้ พี่ยงกุกคงทำใจลำบากน่าดูตอนตัดสินใจเจียดเงินของเขามาซื้ออะไรแบบนี้ให้ผมน่ะ =_=;

               

                “เฮ้ จะไปโรงเรียนแล้วหรอ

                ครับ?”

                ผมส่งเสียงขานรับประโยคเมื่อครู่ เหมือนเป็นการทวนคำถามไปในตัว เสียงนั้นเป็นของพี่ยงกุก คนที่กำลังเดินหัวยุ่ง หน้าโทรมเป็นซอมบี้มาทางห้องของเขา ในขณะที่ผมกำลังจะล็อคกุญแจประตูห้องนั้นพอดี

                เมื่อคืนพี่ยงกุกไม่ได้กลับมาบ้าน อยากรู้เหมือนกันแหละว่าโผล่เอามาทำไมเอาซะเช้าตรู่แบบนี้ แต่ก็นะ ถามไปก็ใช่ว่าจะได้คำตอบกลับมานี่

     

                ฉันถามว่าแกกำลังจะไปโรงเรียนหรอดูเหมือนจะรู้ว่าผมต้องการคำถามนั้นอีกครั้ง พี่ยงกุกกรอกตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะทวนถามผมอีกรอบ

                เปล่า ไปตลาด ใส่ยูนิฟอร์มเล่นเฉยๆหรอก

                กวนตีนล่ะ รอก่อน เดี๋ยวไปส่งพูดจบก็เดินผลักประตูที่ผมกำลังจะล็อคนั้นเข้าไปเฉยเลย

     

                เดี๋ยวไปส่ง …. เดี๋ยวไปส่ง ?

                ห้ะ ขอโทษนะ ผมฟังอะไรผิดรึเปล่าน่ะ พี่ยงกุกพึ่งบอกว่าให้ผมยืนรอก่อน เขาจะไปส่งผมที่โรงเรียนงั้นหรอ เออแปลกดีเนอะ ไม่แน่วันนี้อาจมีลูกเห็บตกที่เกาหลีก็ได้ =_=;;

                ไม่นานพี่เค้าก็ออกมาในสภาพดูดีเหมือนตอนออกจากบ้านไปเมื่อเย็นวานนี้ แต่ที่ยังดูไม่ดีเท่าไหร่คือรอยคล้ำใต้ตาที่บอกให้รู้ว่าเมื่อคืนคงแทบไม่ได้นอนเลย แถมในบางจังหวะยังเหมือนเดินไม่ค่อยตรงอีกต่างหาก ...มันต้องใช่แน่ๆ พี่เค้าต้องเป็นโฮสต์อย่างที่ผมคิดไว้ชัวร์

     

                อึ๋ยย งั้นหมายความว่าเมื่อคืนนี้เค้าxyzกลับใครที่ไหนมาก็ไม่รู้งั้นสิ O[]O !?

     

                “เห้ย ไปได้แล้ว

                เสียงทุ้มเรียกให้ผมต้องหันกลับไปมอง ..แย่ชะมัด แค่มองหน้าก็นึกถึงฉาก18+ขึ้นมาแล้วอ่ะ ไม่ได้นะ เจลโล่แกอายุแค่17 ยังใสใสอยู่นะเว้ย ไม่ๆๆ TT___TT

     

                “อะไรของแกวะ ไปเร็วคงเห็นว่าผมเริ่มทำตัวน่ารำคาญ มือใหญ่ก็เลยเอื้อมมาคว้าข้อมือผมไว้อย่างรวดเร็ว และผมก็สะบัดมือนั้นออกเร็วพอๆกันนั่นแหละ

                ย๊า ปล่อยผมนะ

                เป็นบ้าอะไรเนี่ย

                “ปะ เปล่าสักหน่อย

                เออ รีบๆตามมาแล้วกัน

     

                ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถ ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพี่เค้าอ่ะ แค่เหลือบตาไปยังไม่อยากเลย ซึ่งพี่ยงกุกก็ดูไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าผมจะแคร์เค้ารึเปล่า ที่รู้ๆคือผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะที่เห็นเค้าขมวดคิ้วขนาดนั้น ไม่รู้จะเครียดอะไรนักหนา ลูกค้าคนเมื่อคืนไม่ทิปให้รึไง =_=;

               

                รถหรูเคลื่อนตัวมาจอดหน้าประตูใหญ่ของโรงเรียนช้าๆ ก็ดีนะ ผมจะได้ไม่ต้องเดินจนน่องปูดเหมือนทุกๆวัน แต่ที่แย่ก็คือเวลานี้นักเรียนนับร้อยกำลังทยอยกันเดินมา แล้วไอ้การที่อยู่ๆก็มีรถสีเท่ห์ๆมาจอดแบบนี้ มันจะไม่โดดเด่นไปหน่อยเรอะ พี่ช่วยไปจอดให้ห่างประตูโรงเรียนสักร้อยเมตรแล้วปล่อยผมลงตรงนั้นไม่ได้รึไงพี่ยงกุก TOT         

     

                ถึงแล้ว ลงไปสิ

                ใครมันจะอยากลงตอนนี้ ได้เป็นขี้ปากเด็กคังฮวามุนไปจนเรียนจบแหง ...แต่ดูจากสายตาทะมึนของพี่แกแล้ว ถ้าผมยังนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะก็พี่เค้าต้องชักปืนขึ้นมาระเบิดหัวผมแน่ๆ

     

              ปัง!

                อย่าตกใจ นั่งไม่ใช่เสียงปืน แต่เป็นเสียงผมปิดประตูรถเค้าต่างหาก

               

                ทันทีที่ก้าวเท้าลงมาจากรถเสียงจอแจก็ดังระงมไปทั่ว พร้อมๆกับสายตากระเสือกกระสนของทุกคนที่พยายามมองให้ทะลุผ่านฟิล์มกรองแสงสีดำสนิทนี้เพื่อมองหน้าคนที่มาส่งผม

     

                แต่แล้วอยู่ๆพี่ยงกุกก็เลื่อนหน้าต่างที่นั่งข้างคนขับลง ชะโงกหน้ามาคุยกับผมที่ยืนอยู่ตรงฟุตบาท แอบได้ยินเสียงฮือฮาของนักเรียนคังฮวามันดังเป็นซาวน์แทรค คนพวกนั้นดูตื่นเต้นกันมาก พวกมันคงนึกไม่ถึงว่าไอ้ที่นินทาว่าเป็นเสี่ยบ้างล่ะ เป็นมาเฟียบ้างล่ะอยู่ตลอดทั้งวันคือ คุณผู้ชายในชุดสูทที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถหรูแบบนี้

     

                “เลิกเรียนแล้วโทรมาบอกด้วย

                โทรไปเนี่ยนะ ฮะๆ ผมว่าพี่แปลกขึ้นเรื่อยๆแล้วนะพี่ยงกุก  

                ฉันบอกให้โทรมา ชเวจุนฮง!”

                “O__O”

               

              ‘ได้ยินมั๊ยเธอ เค้าเรียกชื่อเจลโล่ด้วยชื่อจริงด้วยล่ะ

              ใครน่ะ ญาติเจลโล่หรอ ไม่เห็นเหมือนกันเลย เป็นพี่ชายรึเปล่า?’

               

                เสียงซุบซิบต่างๆนานาเกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ แต่สาบานได้เลยไม่มีอะไรเด็ดเท่าประโยคที่ผมได้ยินจากยัยผมบ๊อบหน้าร้ายกาจคนหนึ่งอีกแล้ว

     

                ขับรถหรูมาส่งแต่เช้าแบบนี้เรียกพี่ชายไม่ได้แล้วย่ะ เรียกผัวจะเหมาะกว่า

                         

                แหม คำพูดเธอนี่มันสร้างสรรค์จริงๆนะ ผัวบ้านหล่อนเซ่ ! กูหล่อขนาดนี้ =____=+

                ผมเดินเบี่ยงออกมาจากรัศมีของกลุ่มยัยหน้าจิ้งจอกผู้ชื่นชอบนินทาชาวบ้านเป็นงานอดิเรก แต่ไม่วายก็มีประเด็นอื่นๆให้ได้ยินตามมาอีก

     

                เห้ย ไหนมึงว่ายงกุกแม่งเป็นตาแก่เสี่ยใหญ่ไงวะ ทำไมออกมาหล่อเฟี้ยวอย่างเงี๊ยะ

              นี่น้องเจลโล่อยู่กับพี่ชายโคตรเท่ห์คนนั้นหรอนะ พระเจ้า กูยอมแพ้

              ว๊ายๆๆ คนนั้นนะหรอพี่ยงกุก ทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ ทั้งเซ็กซี่ แถมรวยด้วยอ่ะ ว๊ายยย... แกเป็นที่หมายปองของผู้ชายทั้งโลกรึไงเจลโล่!”

              พี่แดฮยอนก็เลิศ พี่ยงกุกก็ล่ำ ตายๆๆ เป็นฉันๆเลือกไม่ได้เลยนะเนี่ย

     

              พี่ยงกุกขับรถออกไปแล้ว ทิ้งให้ผมตกเป็นเป้าสายตาของคนครึ่งค่อนโรงเรียน ปกติผมก็ชอบน่ะนะเวลาเป็นที่สนใจอ่ะ แต่ตอนนี้แม่งโคตรอายเลยว่ะ โดนแซวเรื่องอะไรไม่แซว มาแซวว่าผมเสียตูดให้ไอ้หมีอลาสก้านั่นมันยอมไม่ได้ ไอ้จงออบอยู่ไหนมึงมาช่วยกูที TT[]TT

     

                สรุปได้เลยว่าตอนนี้ประเด็นฮ๊อตที่ติดปากเด็กคังฮวามุนที่สุดในวินาทีนี้ คือเรื่องผู้ชายปริศนาที่ขับรถมาส่งผมถึงหน้าประตูโรงเรียน ท่ามกลางพยานกว่าร้อยคน เอาละเว้ย อีกสองปีต่อจากนี้ผมจะตอบคำถามคนพวกนั้นยังไงดีนะเนี่ย บางทีการทำป้ายแขวนคอมมันอาจจะเวิร์คอย่างที่จงออบว่าก็ได้




                “เป็นไงมึง ได้ข่าวมาฮ๊อตมากนะช่วงนี้

                จงออบดึงหูฟังออกจากรูหูก่อนจะเดินมาตบหลังป้าบๆทันทีที่ผมมาปรากฏกายเข้ามาในห้องเรียน ท่าทางดูมันจะไม่ได้โกรธเลยที่เมื่อวานผมกลับมาก่อน รอยยิ้มจนตาปิดนั้นทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ผมเดินมาที่โต๊ะของตัวเอง แต่ความสนใจกลับไปอยู่ที่โต๊ะข้างๆมากกว่า

     

                “นี่มันชีสเค้กร้านดังที่สาวๆห้องเราแห่ไปต่อคิวซื้อกันนี่หว่า ว่าแล้วก็ยื่นมือไปดึงถุงกระดาษประทับตราร้านขนมชื่อดังมาถือไว้โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของโต๊ะมันสักคำ แน่ล่ะจงออบเดินมาเขกหัวผมไปหนึ่งที่ ก่อนจะคว้าถุงนั้นไปวางไว้ที่เดิม

     

                แฟนคลับมึงให้มาหรอ ...ชิมได้ป้ะแกล้งถามไปอย่างงั้นแหละ เพราะไม่ว่าจะใครให้มันมา ผมก็กะจะแย่งมันกินอยู่แล้ว แต่คำตอบกึ่งโวยวายนั้นกลับทำผมประหลาดใจ

     

                ไม่ได้โว้ย นี่ของไอ้พี่แดฮยอนมัน

                พี่แดฮยอน? …..อ่ะแหนะๆ

     

                ว่าแล้ววว ไอ้พี่แดฮยอนกับไอ้น้องจงออบ สองคนนี้มันต้องมีซัมติงกับแน่ๆ จากเหตุการณ์ที่ผมแอบดูเมื่อวานผมรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างของพี่แดฮยอนที่มีต่อเพื่อนผม จงออบปกติมันออกจะไม่ชอบทำอะไรเพื่อใครอยู่แล้ว แต่นี่มันยอมถ่อไปซื้อชีสเค้กจากร้านยอดฮิตที่ตั้งอยู่ห่างจากบ้านมันไปเกือบสิบสถานี

                โอ๊ยย โรแมนติกเวอร์ น้องเจลโล่น้ำตาจะไหล TTwTT

     

                แหนะเหนอะอะไรของมึงจงออบตอบกลับมาหน้าตาเฉย ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ มันจับมือของผมขึ้นมาก่อนจะวางถุงกระดาษนั้นลงบนมือผมอีกที

     

                มึงเปลี่ยนใจไม่ให้พี่แดฮยอนแล้วให้กูกินแทนใช่ป่ะ

                เอานี่ไปให้พี่แดฮยอนทีเพื่อนตาตี่มองหน้าผมอย่างมีความหมาย ...แต่กูไม่รู้ว่ามึงหมายความว่าไง ที่มึงจะให้กูเอาไอ้นี่ไปให้พี่เค้าเนี่ย !?

                เห่ย เรื่องอะไร มึงเป็นทาสชีวิตพี่เค้าไม่ใช่หรอ

                “อะไรนะ...

     

                อุ๊บส์ ! หลุดไปได้ยังไง จงออบมันคงยังไม่รู้ล่ะสิว่าผมรู้แล้วที่มันต้องเป็นทาสพี่แดฮยอนเพื่อไม่ให้ผมเสียเวอร์จิ้นตัวเองไป มันคงอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่อยากให้ผมต้องเป็นทุกข์แทนมัน โถ่ เพื่อนเอ้ย มิตรภาพของเราช่างยิ่งใหญ่นัก

     

                “เปล๊า เปล่าไม่มีอะไร แล้วทำไมมึงไม่เอาไปให้เองว้า

                ไปเหอะน่า คือตอนนี้กู....กูต้องไปขัดส้วม! บ๊ายบาย!!”

               

                จงออบวิ่งพรวดออกจากห้องไปทันที โดยไม่ได้เปิดโอกาสให้ผมพูดอะไรกับมันสักคำ ...ผมว่ามันจะแปลกไปแล้วนะเว้ย ขัดส้วมหรอ ...มึงจะโดนขัดคนเดียวได้ไงในเมื่อคนที่คอยโดนทำโทษกับมึงทุกวันมันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ =__=;;;

     

     

    *****

     

                ผมเร่งฝีเท้า วิ่งลัดสนามหญ้าของโรงเรียนไปยังตึกเรียนของพี่ปีสาม ตอนนี้ใกล้เวลาเข้าแถวมากแล้ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่แดฮยอนป่านนี้จะเยื้องย่างเข้ามาในโรงเรียนแล้วหรือยัง แต่จากที่เจอกันเมื่อวันก่อน พี่เค้าท่าทางจะมาโรงเรียนสายน่าดู

     

                ขอโทษนะครับ พี่แดฮยอนมาโรงเรียนรึยังครับ ผมเอ่ยถามใครสักคนที่เดินอยู่แถวนั้น พี่ชายหน้าขาวโบ๊ะหันไปถามเพื่อนหน้าหล่อเหมือนเทพบุตรที่เดินอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมาแย้มยิ้มโชว์เหงือกพลางสายหน้าแรงๆ

     

                ดูจากสภาพหน้าแต่ละคนที่เดินนวยนาดกันอยู่ในตึกติดแอร์นี้แล้ว พอจะเข้าใจล่ะว่าทำไมเด็กคังฮวามุนไม่ค่อยได้เห็นพี่ม.ปลายปีสามปรากฏตัวอยู่ในโรงเรียนเลย ...ใบหน้าขาวๆเนียนๆของพี่ๆเค้าทำให้ผมอยากรู้ว่าคนเหล่านี้เคยออกไปตากแดดตากลมเหมือนรุ่นน้องคนอื่นๆบ้างรึเปล่า หรือนี่จะเป็นขั้นสุดของเด็กคังฮวามุน ที่พัฒนาจากชนชั้นกรรมกรขึ้นเป็นราชา

     

                อ้าว เจลโล่ มาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย

     

                เสียงคุ้นๆทำให้ผมต้องมองกลับไปยังประตูของอาคาร พี่แดฮยอนผลักบานกระจกนั้นเข้ามาพอดี มือของเขายังคงพันด้วยผ้าพันแผลเหมือนเดิม ตาคมๆคู่นั้นมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยถึงสาเหตุที่ผมมาปรากฏตัวที่นี่

     

                อ่ะนี่ จงออบมันฝากมาให้ผมรีบยื่นถุงกระดาษในนั้นไปอย่างรวดเร็ว พี่แดฮยอนยกมือข้างที่เป็นปกติมารับมันไว้ รอยยิ้มนั่นกำลังทำให้ผมใจเต้นตึกตัก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวน้อยม.ต้นกำลังสารภาพรักกับรุ่นพี่ที่แอบชอบ

                นั่นว่าเด็ดแล้ว เจอประโยคที่พี่เค้าพูดถัดมา เด็ดขนาดพี่หน้าขาวกับพี่หน้านิ่งที่ยืนอยู่แถวๆนั้นส่งเสียงแซวขึ้นมาเลยล่ะ

     

                จงออบหรอ ...แต่ฉันจะมีความสุขมากเลยนะถ้านายเป็นคนซื้อมาให้ฉันเองน่ะ

               

                หืม ? พี่แดฮยอนพูดว่าอะไรนะ เค้าจะรู้สึกดีใจ ถ้าผมเป็นคนซื้อชีสเค้กนี่มาให้เค้างั้นหรอ

     

              อะไรนะ!!!!!!!!!

               

                “ทำไมละ ใครๆก็อยากได้ของจากคนที่ชอบทั้งนั้นแหละ

                “!”

     

                ฮิ้วววว พี่ประธานจองจีบน้องเจลโล่ววววว

                ฉันคงจะมีความสุขมากเลยนะถ้านายซื้อชีสเค้กนี้มาให้ฉันอ่ะ

                “บ้าๆๆๆๆ >[]<”

     

                อะไรของไอ้พี่สองคนนั้นวะ ทำท่าล้อเลียนให้น่ากระทืบไม่พอ แม่งยังเสียงดังจนคนทั้งตึกหันมามองเป็นตาเดียวอีกต่างหาก ไอ้พี่แดฮยอนก็อีกคน รอยยิ้มกรุ้มกริ้มนั่นคืออะไรไม่ทราบ เมื่อวานที่ผมแอบดูผมว่าพี่น่าจะคิดอะไรกับจงออบมันนะ แล้วนี่มันอะไร ? ยังไง ? ใครจะจีบใครนะ



     



     





     
    เจ๊าะแจ๊ะ , }
    - 25%ที่เหลือมาแล้วจ้าาาาาาาาา >O< !!!!! ขอโทษที่ให้รอนะคะ
    ไรเตอร์ไปตจว.มา ไม่ได้อัพเลย TT__TT
    กลับมาพร้อมความร้ายกาจ(?)ของพี่ประธานจอง.. งานนี้ท่าทาง
    พี่แกจะเอาจริงๆ (หืมม?????) อยากรู้เป็นไงต่อ อย่าลืมติดตามตอนต่อไป
    55555555555555555555555 ใครรอบทฮิมแจ ใกล้แล้วทุกคนนน
    *นางพูดว่าใกล้มากี่ตอนแล้ว =_=???????


    ปล.ตัวประกอบหน้าตาดีสองหน่อที่ตึกปีสาม ใครถายถูกว่าเป็นใคร
    มาเอารางวัลจากไรเตอร์เบยยยยยย 55555555555555



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×