คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : NAUGHTY&EVIL # 05
NAUGHTY&EVIL#05
วันนี้วันจันทร์ มันเป็นวันที่ผมต้องเอาขยะไปทิ้งที่เตาเผาหลังโรงเรียน ...คือถ้าให้พูดกันตามตรง ผมก็ทำหน้าที่มันทุกอย่างตั้งแต่กวาดโรงเรียนยันขัดห้องน้ำ ถ้าไม่ใส่ชุดยูนิฟอร์ม และมีผิวขาวโบ๊ะเหมือนแดกกลูต้าไปเป็นแกลลอน หลายคนคงคิดว่าผมเป็นภารโรงไปแล้ว =___=;
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงกระแทกรองเท้าของผมดังก้องไปทั่วทางเดิน สองมือเต็มไปด้วยขยะจากห้องเรียน ที่ต้องเอาไปวางรวมกันไว้ที่หน้าอาคาร ด้านหลังที่ตามมาเป็นกลุ่มผู้ชายที่ดูจะเทิดทูนบูชาผมซะเหลือเกินเดินตามกันต้อยๆ
“ตอบพวกเรามาเถอะว่าจริงๆแล้วน้องไม่ได้เสี่ยเลี้ยง”
เลี้ยง ? …ไอ้ท่าเหมือนจะลุกมาเตะกันตลอดเวลานี้เรียกว่าเลี้ยงเรอะ =_=?
“น้องยังบริสุทธิ์ดีอยู่ใช่มั๊ย นี่พวกพี่ยังมีหวังใช่ม๊ายยTOT”
ไอ้บริสุทธิ์อะใช่ แต่พวกพี่หวังอะไรจากตัวผมกันวะห้ะ ?
“ผมก็แค่ไปอยู่กับน้าเท่านั้นเอง พวกพี่อย่าพูดเองเออเองแบบนั้นสิ” ผมหันไปทำแววตาแอ๊บแบ๊วด้วยความเหนื่อยหน่ายที่จะตอบคำถามเดิมๆซ้ำๆ จนจงออบเสนอว่าให้เอาป้ายแขวนคอไว้เลยว่า
กูแค่ไปอยู่กับน้า แล้วกูก็ยังบริสุทธิ์ดี อยากพิสูจน์มั๊ย ?
ไอ้ฟายยย ! เชิญเอาไปแปะหัวมึงเองเหอะไอ้เพื่อนเฮงซวย !!
โกรธมันจริงๆ ที่ทำให้ผมกลายเป็นหัวข้อการสนทนาเกือบ99.99%ในคังฮวามุน ถ้ามันไม่พูดอะไรแบบนั้นขึ้นมาตั้งแต่แรก ต่อมจินตนาการสุดบรรเจิดเลิศเลอของผมคงไม่ทำงานหนักขนาดนั้น และก็คงไม่ได้ตะโกนชื่อพี่ยงกุกออกมาให้กลายเป็นประเด็นแบบนี้หรอก
พอเดินกลับเข้ามาที่ห้องเรียน เพื่อนหลายคนทำหน้าที่ของตนอย่างขะมักเขม้น ไม่เว้นแม้แต่จงออบที่กำลังจับไม้กวาด กวาดพื้นห้องอยู่ ว๊าวว นี่มันภาพหาดูยากนะเนี่ย
“มึงจะเอาขยะไปทิ้งหรอ เอานี่ไปด้วย” จงออบที่กำลังง่วนอยู่กับการกวาดพื้นห้องเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะโยนบางอย่างที่มันหยิบมาจากกระเป๋าของมันมาทางผม
“อะไรของมึงเนี่ย จดหมายรักรึไง”
ซองจดหมายสีชมพูแปร๊ดที่มันร่อนมาทางนี้ เรียกความสนใจจากเพื่อนในห้องได้กว่าครึ่ง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเท่านั้น เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะทำเป็นลืมเรื่องที่โกรธมันไปก่อนนะ ขอยุ่งกับจดหมายรักของมันสักหน่อยเถอะ
ถึงน้องจ. จากพี่ด. ♥
อุ้ยต้ายย อะไรจะน่ารักแบบนี้จ้ะ =___=^ เห็นแล้วละเหี่ยใจเหลือเกิน แค่ชื่อย่อว่าพี่ด. ในหัวผมมันก็ผุดเป็นหน้าหล่อๆของพี่แดฮยอนมาโดยอัตโนมัติเลย
“จดหมายรักพ่องงงง” จงออบทำเป็นโวยวาย ผมเป็นเพื่อนมันมาตั้งกี่ปี ท่าทางแบบนั้นทำไมจะไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง ยิ่งมันพูดแบบนั้น มันก็ยิ่งจุดไฟในต่อมอยากรู้อยากเห็นของผมให้มันลุกโชติช่วง ไม่รอช้า ผมแกะจดหมายนั้นออกมาอ่านโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเช้าทำฉันไว้เจ็บแสบมาก
อย่าคิดวันนี้แกจะได้ออกจากคังฮวามุนง่ายๆ
ห้ามหนี ! ไม่งั้นเจลโล่เพื่อนแกเสียตัวแน่!!
ด้วยความปรารถนาดี…จากพี่แดฮยอนสุดหล่อ ^O^
ปล.ทีหน้าทีหลังอย่ามามีเรื่องกับกู !
ลายมือหวัดๆบนกระดาษแสดงอารมณ์บ้าคลั่งของคนเขียนออกมาชัดเจน ไม่ได้เข้ากับซองจดหมายสีชมพูช็อคกี้พิงค์ลายฮัลโหลคิตตี้เลยสักนิด ใครจะไปรู้ ว่าผู้ชายหล่อบาดจิตผู้มาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ อย่างพี่แดฮยอน จะมีด้านมืดแบบนี้กับเค้าด้วย พับผ่า พี่จะมีเรื่องกับไอ้เวรจงออบก็มีไปคนเดียวเด้ เอาชื่อผมไปเกี่ยวด้วยทำไม T[]T
“ท่าทางพี่แดฮยอนจะรักมึงจังเลยนะ”
“จังไรสิมึง” ขณะที่ตอบ มันก็กวาดอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างลงกระเป๋า
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกูด้วยวะ”
“ไปถามมันเองดิว่าจะพิศวาสอะไรมึงนักหนา ตูดใครตูดมัน เวอร์จิ้นใครเวอร์จิ้นมัน มึงดูแลเองละกัน ห่า แล้วนี่กูจะเอาตัวรอดกลับบ้านยังไงวะแม่ง” จงออบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ก่อนจะเดินดุ่มๆออกจากห้องเรียนไปโดยไม่คิดจะบอกลา หรือแม้แต่จะหยิบไม้กวาดไปวางที่เดิม
อะไร ! นี่มึงคิดจะทิ้งกูผู้เป็นเพื่อนรักของมึงเพียงคนเดียวไปง่ายๆแบบนี้เลยเรอะ เห้อะ กูคิดว่าการคบกันมานานจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น เวลามีเรื่องอะไรจะได้พึ่งพากันได้บ้าง เพ้อฝันสินดี ไม่ว่าจะยังไงมึงก็ยังไม่เคยเข้าข้างกูเลยสักครั้ง ไอ้เพื่อนมหาเฮงซวย !! ไม่แปลกใจเลยทำไมคนอย่างมึงถึงไม่มีแฟนสักที
.
.
สุดท้าย มันก็เป็นผมเพียงคนเดียวที่ต้องขนขยะของทั้งชั้นมายังเตาเผา ไฟในเตากำลังลุกโชน ผมโยนขยะทั้งหมดเข้าไป ขณะที่กำลังมุ่งมั่นจดจ่อศึกษาการย่อยสลายของเศษขยะด้วยความร้อนอยู่นั่นเอง เสียงการสนทนาก็ดึงเอาความสนใจของผมไปจนหมด
“เห้ย นายทำมือขวาฉันหัก ให้ช่วยถือเอกสารให้แค่นี้ช่วยไม่ได้เรอะ” ถ้าจำไม่ผิด ผมว่านั่นเป็นเสียงพี่แดฮยอน มันดังมาจากห้องทำงานของคณะกรรมการนักเรียน แต่นี่ก็เย็นมากแล้วนะ ยืนยันได้เลยว่าผมไม่เคยเห็นพวกคณะกรรมการขยันทำงานจนอยู่เย็นขนาดนี้มาก่อน
“เป็นประธานมาเป็นชาติไม่เคยเห็นทำเหี้ยอะไร พอตัวเองแขนหักหน่อย เสือกจะมาทำซะงั้น”
ไอ้เสียงกระโชกโฮกฮากที่กำลังโต้ตอบกับพี่แดฮยอน ผมว่าผมก็คุ้นๆอยู่นะ เหมือนพึ่งได้ยินมาไม่นานนี้เอง เพื่อความแน่ใจ ผมค่อยๆชะโงกหน้าไปยังทางเดินเชื่อมอาคารเรียน ...พอจะรู้แล้วล่ะว่าเจ้าของเสียงที่สองมันเป็นใคร ยิ่งพี่แดฮยอนเรียกชื่อมันขึ้นมาก็ยิ่งมั่นใจ
“หุบปากน่ะมุนจงออบ ใครใช้ให้นายคิดจะหนีฉันล่ะ บอกแล้วไงว่าอย่าหนี”
นั่นไง ไอ้เพื่อนเวรที่มันหนีกูไปเมื่อเย็นนี่หว่า =___,=
“แล้วจะให้แบกไปถึงไหนห้ะ เดี๋ยวก็พาเดินไปตึกปีสาม ทะลุมาโรงยิม อ้อมไปโรงอาหาร ทำไมไม่พาเดินให้ถึงโซลทาวเวอร์เลยล่ะ”
“ปะ งั้นเราไปโซลทาวเวอร์กัน เขียนชื่อนายกับฉันคล้องกุญแจไว้บนนั้นด้วยเลยดีมั้ยนะ”
“ใครมันอยากเอาชื่อตัวเองไปอยู่ใกล้พี่วะ ไม่ไปเว้ยยยยย”
แหม่ บรรยากาศเวลาสองคนนี้ทะเลาะกันทำไมเหมือนมีประกายวิ้งๆสีชมพูอมม่วงออกมาก็ไม่รู้นะ เห็นแล้วก็อดย่องตามไปไม่ได้ ใครจะว่าโรคจิตก็เอาเหอะ ไอ้เรื่องยุ่งเรื่องชาวบ้านนี่มันงานหลักของผมจริงๆ =.,=
“ฉันว่าเอามันกลับไปวางไว้ที่เดิมแหละดีแล้ว”
“โห่ย อะไรของพี่วะเนี่ย แม่งให้เดินแบกทั่วโรงเรียน แล้วเอามาวางทีเดิมเนี่ยนะ บ้าเอ๊ยยย” จงออบส่งเสียงดังลั่นจนสะท้อนไปทิ้งบริเวณ เขากระทืบเท้าปึงๆ เอาเอกสารที่ถูกใช้ให้แบกมาเกือบครึ่งชั่วโมงกลับไปวางไว้ที่ห้องคณะกรรมการดังเดิม
...เท่าที่สังเกตมา ผมว่าไอ้พี่แดฮยอนต้องจิตหน่อยๆแหง =______=;
นักเต้นยอดเยี่ยมของคังฮวามุนเหลือบตาขึ้นมองพี่ประธานนักเรียนที่กำลังยืนอมยิ้มอยู่อย่างผู้ชนะ ทั้งๆที่สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ไม่น่าจะยิ้มออกมาได้ขนาดนั้น มือขวาของพี่แดฮยอนถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาด บอกให้รู้ว่ามันคงพึ่งถูกมันเมื่อไม่นานนี้เอง
แต่จะว่าไป พออยู่กับจงออบแล้วพี่แดฮยอนไม่เหมือนกับคนที่ผมเคยได้ยินมาเลยนะ เค้าว่ากันว่าประธานนักเรียนโรงเรียนเราออกจะสงบเสงี่ยม วันๆนึงพูดน้อยเหลือเกิน ...พอมาเจอเข้าตอนนี้ ทำไมพูดไม่หยุดเลยก็ไม่รู้ แถมบ่นงุ้งงิ้งได้ตลอดเวลาอีกต่างหาก ...คงจะเก็บกดมานานล่ะ ลิ =_=;
“ยิ้มทำไม สะใจ?”
“นิดนึง”
“แล้วนี่ผมต้องรับใช้พี่ไปอีกนานแค่ไหน”
“จนกว่ามือฉันจะหาย”
“ตัดทิ้งแม่งเลยแล้วกันจะได้หายไวๆ”
“ก็ดี๊ งั้นพรุ่งนี้ฉันปล้ำเจลโล่เสร็จเมื่อไหร่ นายก็เอาปังตอมาสับมือฉันเลยนะ”
ผมไม่รู้เท่าไหร่หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้น แต่ถ้าให้เดา ผมว่าจงออบมันต้องพลาดพลั้งไปหักนิ้วพี่แดฮยอนเข้า พอพี่แกใช้มือไม่ได้ก็เลยเอาจงออบมันมาเป็นมือแทน โดยมีข้อต่อรองก็คือถ้าไม่ทำพี่แดฮยอนจะปล้ำผม... ว้าว การเรียบเรียงของผมนี่มันมียอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ แต่ มันมาเกี่ยวอะไรกับกูไม่ทราบครับ TT________TT
“ไอ้พี่แดฮยอน ถ้าชอบเจลโล่มันนักก็ไปจีบมันเองเด้”
หืม …..???? อะไร ? เมื่อกี้จงออบมันว่าไง ใครชอบใครนะ ...
ดูเหมือนคำถามนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นกับผมแค่คนเดียว แค่เห็นจากด้านข้าง ยังรู้เลยว่าบนหน้าพี่แดฮยอนก็มีคำถามแบบเดียวกัน แต่แย่หน่อย จงออบไม่ใช่คนที่จะอ่านความรู้สึกของใครออก มันจึงพล่ามอะไรของมันมาอีกยาวเหยียด
“พี่ก็รู้ว่าเจลโล่แม่งอยู่ใกล้ๆผมตลอด พี่มาหาเรื่องผมบ่อยๆ เพราะอยากเจอเจลโล่ใช่มั๊ยล่ะ ไม่ต้องมาอ้อมค้อม เป็นลูกผู้ชายไปบอกมันตรงๆเลยดีกว่า”
เหี้ย คิดได้ไงวะ !
โอ้ยย อยากจะเดินไปตบกบาลจงออบมันสักป้าบจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าบนโลกนี้มันจะมีซื่อบื้อขนาดนั้น อีกอย่าง ผมเคยได้ยินมาว่าคนอย่างพี่แดฮยอนถ้าชอบใครก็จู่โจมเหมือนจระเข้หิว ไอ้ที่ประเภท ตะปบได้เมื่อไหร่ก็กัดไม่ปล่อย
แล้วมึงคิดว่าเค้าจะเล่นเข้าทางมึงเพื่อมาจีบกูอย่างที่มึงคิดเรอะ
อย่าเซ่อให้มากจงออบ มึงนี่มันเหยื่อชั้นดีเลย =__=;
- กลับมาอัพเรื่องนี้ให้แล้วนะคะรีดเดอร์ทุกคน
ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งไรเตอร์ไปไหนนะคะ อิอิ ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้มาอัพเลย T_T
ตอนนี้ดูท่าทางคู่แด้ออบจะเด่นเหลือเกิน โล่อยู่ไหน? พี่บังมัวไปทำอะไรอยู่? 555555
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ หลังจากนี้ไปคาดว่าจะมาอัพให้บ่อยขึ้นนะ
รอเค้าด้วยล่ะ TTwTT ~
ปล.เรื่องคล้องกุญแจที่พี่แดฮยอนพูดถึง หลายคนคงจะเคยเห็นกันนะคะ
คล้องกุญแจคู่รัก ที่หอคอยโซลทาวเวอร์ <- อะไรที่มันกุ๊กกิ๊กหวานแหววประมาณเนี่ย ♥
ความคิดเห็น