คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : NAUGHTY&EVIL # 04
NAUGHTY&EVIL#04
“วันนี้ฉันกลับดึก แกเอากุญแจบ้านไปเลยแล้วกัน”
เสียงทุ้มเรียกให้เซลล์ประสาทของผมตื่นจากการหลับใหล ผมยกมือขึ้นขยี้ตาก่อนหยิบอะไรบางอย่างที่มันหล่นลงอยู่บนเหม่งผมพอดี กุญแจห้องกับคีย์การ์ดของพี่ยงกุกนี่เอง
เช้าวันนี้แปลกๆไปแหะ พอผมตื่นขึ้นมา พี่ยงกุกก็แต่งตัวเรียบร้อย ...เรียบร้อยจริงๆ ด้วยสูทสีดำพอดีตัวกับเนคไทเส้นเล็กๆ ทรงผมยุ่งๆของเขา วันนี้เซ็ตขึ้นไปซะจนน่าตกใจว่าอะไรจะดูดีได้ขนาดนั้น อั่ยย่ะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเลยมั้งที่ผมชมใครว่าดูดีอ่ะ (ไม่นับพี่แดฮยอนกับผมตัวเองก็แล้วกัน)
เมื่อคืนผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เหมือนมันเคลิ้มๆตอนพี่เค้ามานั่งใกล้ๆ แถมยังลูบหัวอีก ผมเลยหลับไปเลยมั้ง ให้ตาย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยงพี่เค้ามากขึ้นทุกวัน พี่ยงกุกสั่งอะไรก็ทำ แค่มาทำเป็นใจดีด้วยหน่อยก็ใจอ่อนเปลี้ยซะละ
ไอ้จุนฮงว้อยย มึงอย่ามาใจง่ายให้มากนัก TT_________TT
“จะนั่งเฉยๆอยู่อีกนายมั๊ย จะแปดโมงแล้ว เดี๋ยวแกก็ไปโรงเรียนไม่ทันหรอก”
เสียงตะคอกนั่นทำเอาผมตื่นเต็มที่ แล้วรีบเหลือกตาไปมองนาฬิกาที่แปะอยู่บนผนังบ้าน เจ็ดโมงสี่สิบแล้ว พับผ่าาาาาา !!!!!!!!!!!!!!!!! T[]T
7:50 AM
อีกสิบนาทีคือเวลาเข้าเรียน แต่ตอนนี้ผมกลับยืนตาเหลือกผูกเนคไทอยู่หน้ากระจก
มันเป็นการเริ่มวันใหม่ใหม่ที่โหดร้ายโคตร ผมรูดเนคไทขึ้นไปลวกๆก่อนวิ่งไปคว้าเสื้อตัวนอกมาสวม ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องพี่ยงกุกโดยไม่ได้สนใจจะบอกลาเขาสักคำ
วินาทีนี้เด็กคังฮวามุนทุกคนที่ยังไม่เข้าประตูโรงเรียนเป็นเหมือนนักวิ่งทีมชาติ หากพลาดไปสักวินาทีอาจถึงตาย ภาพเบื้องหน้าคือประตูเหล็กสีดำที่กำลังขยับเข้าหากันทีละน้อย และตรงกลางประตูนั้น คือตาแก่ไม้หน้าสามที่มายืนจังก้ารอรับผมด้วยไปหน้ายับยู่ยี่อย่างที่สุด
เวรเอ๊ยย ทำไมไม่ซวยอย่างงี้วะวันนี้ TT[]TT !!!!!!!!!!!!
ขณะที่ผมกำลังวิ่งหน้าตั้งเหมือนคนอื่นๆ อยู่ๆก็มีไอ้หัวเกรียนที่ไหนไม่รู้มาวิ่งตัดหน้าผมซะงั้น เท่านั้นแหละ จังหวะที่ผมรักษามาอย่างดิบดีก็ดันพังพินาศไม่เป็นน่า แข้งขาของผมมันเริ่มพันกันจนกระทั่งเสียการทรงตัวและ...
ผลัก !
โอ้ยย เจ็บชะมัด ล้มท่าไหนไม่ล้ม ดันเอาหน้าลงก่อนอีก ดั้งยิ่งไม่มีอยู่ TTOTT แต่ยังดีที่ผมมีแรงลุกขึ้นมาวิ่งต่อ
ประตูบ้านั้นทำไมมันเหมือนปิดเร็วขึ้นก็ไม่รู้ ไอ้เกรียนที่วิ่งชนผมแล้วแซงหน้าผมไปนั้นเป็นคนสุดท้ายที่แทรกตัวผ่านช่องว่างเล็กๆเข้าไปได้ก่อนที่ประตูเหล็กสีดำนั้นจะปิดสนิท โห่ !! ไอ้หัวเกรียน เพราะมึงแท้ๆ อย่าให้เจอนะ กูตบเกรียนแตกแน่มึง !!
“พวกที่มาสาย นั่งลงแล้วชูมือขึ้นด้วย”
ตาแก่เอาไม้หน้าสามไล่เคาะหัวเด็กที่มาสายทีละคน นี่แกเห็นกบาลชาวบ้านเป็นกะลารึไงมาเคาะเล่นแบบนี่น่ะห้ะ ตอนนี้แกมาหยุดอยู่หน้าผมแล้วซะด้วย
“ครูบอกแล้วไงว่าถ้าเธอมาโรงเรียนแต่เช้า จะลดโทษให้ แล้วนี่อะไร โดนทำความสะอาดทุกเช้าไม่พอยังมาสายอีก เห็นมั้ย วันนี้จงออบเลยต้องทำความสะอาดโรงเรียนคนเดียวเลย”
แกโบ้ยไม้ไปทางเพื่อนรักที่กำลังอยู่ห่างไปไม่เท่าไหร่ จากตรงนี้ผมรู้สึกได้ว่ามันกำลังจ้องผม เหมือนจะเลือกว่าจะเริ่มหักกระดูกผมที่ส่วนไหนก่อนดี ผมว่ามันไม่ได้โกรธที่ทำให้มันต้องกวาดใบไม้แค่คนเดียวหรอก จงออบมันแค้นผมจากเรื่องเมื่อวานมากว่า
ฮ่ะๆ มันต้องโกรธผมที่ทำให้มันกลับไปดูแรงเงาช้าแน่เลย TOT ~
“อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์คิม”
เสียงทักทายดังขึ้น เรียกความสนใจจากอาจารย์และนักเรียนในบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี พี่ประธานนักเรียนเดินล้วงกระเป๋าเข้ามา ก่อนจะหยุดโค้งให้กับตาแก่อย่างนอบน้อม
“อ้าวจองแดฮยอน เธอก็มาสายเหมือนกันหรอเนี่ย”
“อ่อ...คือผมไปเดินตรวจแถวๆนี้มาน่ะครับ เห็นมีนักเรียนมาร้องเรียนว่าช่วงนี้พวกโรคจิตถ้ำมองมันเยอะ ผมเลยต้องไปดูสักหน่อย ฮะๆ” พี่แดฮยอนสาดรอยยิ้มบาดจิตใส่พร้อมคำแก้ตัวนิ่มๆที่ในโรงเรียนนี้คงไม่มีใครมีโอกาสได้ใช้นอกจากตัวเองที่เป็นประธานนักเรียน
“ตอแหล”
เสียงบ่นของจงออบที่ไม่ได้เบาเท่าไหร่ เรียกให้สายตาแทบทุกคนหันไปมองพร้อมกัน โดยเฉพาะตัวพี่แดฮยอนที่ถึงกับถลึงตามอง หูยยย ปากมึงนี่ตลอดเลยนะ นับถือในความสามารถมึงจริงๆ
“ผมว่าเด็กคนนั้นท่าทางจะมีปัญหา ผมขอไปดูหน่อยนะครับว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรมั๊ย”
ประโยคยาวเหยียดที่ออกมาจากปากพี่แดฮยอน ล้วนจะเป็นแต่ข้ออ้าง อย่างแรก อ้างเพื่อให้หลุดจากการโดนทำโทษ อย่างที่สอง เพื่อเดินดุ่มๆตามจงออบที่วิ่งหนีไปเรียบร้อย =___=; ชักเข้าใจขึ้นมาหน่อยๆว่าทำไมไอ้จงออบถึงไม่ค่อยชอบหน้าพี่แดฮยอนนัก ไอ้คำที่มันพูดเมื่อกี้ก็ดูเหมาะกับพี่เค้าไม่เลวเลยนะ
“พวกเธอน่าจะเอาอย่างประธานนักเรียนซะบ้าง ทั้งๆที่เป็นนักเรียนเหมือนกัน มีมือมีเท้าเหมือนกัน ทำไมพวกเธอไม่เป็นแบบเขานะ แบบนี้แผ่นดินเกาหลีจะพัฒนาได้ยังไงหึ !”
“ถ้าเป็นประธานนักเรียนกันหมด แล้วใครมันจะมานั่งอย่างงี้ให้อาจารย์ทำโทษละครับ”
“ชเวจุนฮง เลิกเถียงครูได้รึยังห้ะ เหมือนไอ้เด็กบ้านั่นไม่มีผิดเลยจริงๆ มันน่าตีให้ตายนัก”
ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เด็กบ้านั่น ที่อาจารย์แกว่าน่ะหมายถึงใคร ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผิวขาวๆของผมคงช้ำหมดแล้วเพราะมือไม้หนักๆที่แกชอบเอามาฟาดใส่ผมเนี่ย TT[]TT !!!!!!
*****
“มันเป็นกรรมที่มึงทิ้งให้กูอยู่กับพี่แดฮยอน สมน้ำหน้า ดั้งแหมบแน่มึง”
“ปากมึงหรอน่ะ โอ้ยย เจ็บบบบบบ” ผมโวยลั่นขณะที่จงออบมันปิดพลาสเตอร์ใสให้ตรงสันจมูกของผมที่มันบังเอิญไปกระแทกกับพื้นคอนกรีตมาอย่างจังจากการล้มเมื่อเช้า ฮึก ถ้าดั้งกูยุบลงไปสักมิลนึงล่ะก็นะ กูฆ่ามึงแน่ไอ้เกรียนหัวเหม่งเอ๊ยย !!!!!!
“น้ามึงไม่ปลุกมึงรึไงเมื่อเช้า เลยมาสายเนี่ย”
“ไม่รู้เว้ย ไม่ใช่หน้าที่เค้าสักหน่อยที่ต้องปลุกกูอ่ะ”
ตอนนี้ห้องเรียนของเรากำลังอยู่ระหว่างการศึกษาปรัชญาชีวิตอีกครั้ง ทำไมห้องผมเรียนวิชานี้บ่อยนักนะ เรียนแม่งทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ไม่เข้าใจว่าอาจารย์แกตั้งใจสลับคาบให้มาสอนห้องนี้ทุกวันเพราะอยากสอนไอ้พวกนักเรียนดีเด่นที่นั่งอยู่แถวหน้า หรือเกิดหมั่นไส้ผมมาก ขนาดที่ว่าไม่ได้ทำโทษสักวันมันจะขาดใจกันแน่
“เอาละทุกคน วันนี้หมดคาบแค่นี้...”
ในที่สุดอาจารย์แกก็หยุดสอนจนได้ อาจจะเริ่มเห็นนักเรียนหลายคนกลายเป็นนักปรัชญาคนสำคัญของโลกอย่างเพลโตหรืออลิสโตเติลไปแล้ว -_-; ...ผมยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจเหมือนตัวเองตั้งใจเรียนมานานมากนักแหละ ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เปิดภาคเรียนมา ผมยังไม่เคยเห็นใครเห็นวิชาแกอย่างจริงจังสักคน
“กินข้าวเหอะ กูหิวล่ะ”
“มึงไม่เคยถามกูเลยนะว่ากูอยากไปกินกับมึงมั๊ย”
“มึงกล้าปฏิเสธก็ลองดูสิ” จงออบขู่พร้อมยกกำปั้นขึ้นเหนือหัว นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมยอมมันมาตลอด TT___TT
ผมกับจงออบใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีเพื่อเดินมายังโรงอาหาร ทั้งๆที่ปกติใช้เวลาจากอาคารเรียนแค่สองสามนาทีเท่านั้น ถ้ามันไม่ทำท่ามากเดินอ้อมนู่นอ้อมนี่อยู่นาน ป่านนี้เราสองคนคงได้นั่งกินข้าวไปนานแล้ว พอถามว่าจะอ้อมทำไมนักหนา มันก็ตอบกลับมาประมาณว่า
‘กูไม่อยากเดินผ่านตึกปีสามนี่หว่า กูไม่อยากเจอหน้าไอ้พี่แดฮยอน’
มึงเลยเลือกเดินอ้อมไปทางหลักอาคารเรียนเนี่ยนะ นับถือในมันสมองของมึงจริงๆ
“เป็นไงบ้าง”
“แผลกูหรอ ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก”
ผมชะงักมือที่กำลังจับส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้จาน แล้วหันไปตอบมัน แหมมม พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าคนอย่างจงออบมันจะเคยเห็นห่วงเป็นในคนอื่นเค้าด้วย
“เปล๊า กูหมายถึงน้ามึง แม่งทนอยู่กับมึงทั้งวันทั้งคืนได้ไงวะ” ...เอ่อะ จริงๆมันไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอก ลืมๆที่ผมชมเมื่อกี้ไปเถอะ =__=;
“แล้วพี่เค้าทำงานอะไรวะ”
“จะไปรู้หรอ ไม่บอกอะไรกูสักอย่าง ไม่รู้จะปิดบังเรื่องตัวเองอะไรนักหนา”
“ถ้าให้กูเดาจากที่มึงเคยเล่าๆมานะ หรือ...พี่เค้าจะเป็นยากูซ่า !”
“อะหูยยย คิดได้ไงวะเนี่ยย”
คำพูดของเค้าทำผมอึ้งเลยแฮะ มันก็มีส่วนเป็นไปได้เยอะอยู่นะ นิสัยแบบนั้น หนังหน้าแบบนั้น แค่เดินไปมาตามถนนคนก็กลัวจนหัวหดหัวลีบกันหมดแล้วมั๊งน่ะ ...ตอนนี้ในหัวผมอยู่ดีๆภาพของจานสปาเก็ตตี้ก็หายไปราวกับกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวี....
.
.
ตัดมาอีกที ตรงหน้าผมเป็นฉากห้องมืดๆขนาดใหญ่ มีสปอตไลท์ส่องไปยังพี่ยงกุกที่ยืนหันหลังอยู่ แล้วจู่ๆเสื้อที่เขาสวมก็เริ่มขยับทีละน้อย ผ้าสีขาวพลิ้วๆไหลหลุดจากไหล่กว้างดูแข็งแกร่งอย่างแช่มช้า สิ่งที่พ้นออกมาจากผ้านั่นกลับไม่ใช่ผิวเนื้อธรรมดา แต่เป็นภาพรอยสักมังกรขนาดใหญ่กินพื้นที่เต็มแผ่นหลัง...
ว๊ากกก มันก็แค่จินตนาการ แล้วทำไมมันถึงเหมือนจริงแบบนี้วะ ?
“แกรู้ใช่มั๊ยอะไรคือสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดบนโลกใบนี้ หึ แกยังมีหน้าที่จะโผล่หัวของแกมาให้ฉันเห็นอีกเรอะ !!” พี่ยงกุกในจินตนาการพุ่งเข้าหาร่างผมอย่างรวดเร็ว ผมเผ้าที่เคยยุ่งเหยิง ตอนนี้ถูกเสยขึ้นด้วยเจลแต่งผมมันเยิ้ม พระเจ้าาาาา ไอ้รอยสักมังกรผงาดฟ้าที่ผาดตัวยาวเฟื้อยเลื้อยมาถึงแผ่นอก บดบังไปถึงซิกแพ็คของพี่เค้านี่ทำผมขยาดจริงๆ
อ๊ากกกกกก เป็นการจิตนการฟุ้งซ่านที่น่าขนลุกขนพองดีแท้ TT[]TT !!!!!!!!!!!!
.
.
“เห้ย เจลโล่ มึงไหวป่ะเนี่ย!”
“!!”
สติของผมกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง สิ่งแรกที่โฟกัสติดก็คือจงออบที่นั่งอยู่ข้างๆรู้สึกได้ว่าเหงื่อกาฬผุดพรายไปทั้งใบหน้า แค่ชั่วนาทีที่หลงเข้าไปในความคิดตัวเองนั้น เหมือนกับผ่านฝันร้ายมาอย่างหนักก็ไม่ปาน
“เห่ย กูว่าอย่างพี่ยงกุกคงไม่ใช่ยากูซ่าหรอก” อย่างน้อยเวลาเค้าโมโหขึ้นมาก็แค่ด่ากลับ ไม่ได้ลงโทษผมด้วยการจับหั่นนิ้ว หรือความอาวุธมากระซวกไส้อะไรเทือกนั้น ไม่น่าจะใช่อย่างที่จงออบมันว่าหรอกน่า
“หรอวะ เออ แต่พี่เค้าก็มีปัญญาเลี้ยงมึง แถมยังเช่าคอนโดแพงๆอยู่ด้วย หรือเค้าจะเป็นโฮสต์! ฮ่าๆๆๆๆ” เพื่อนคนนั้นพูด มันกระตุกจินตนาการโคตรเพ้อข้องผมขึ้นมาอีกครั้ง
“เอิ่ม....” แล้วให้ตายเถอะ หัวผมมันเริ่มจินตนาการไปไวความความคิดซะอีก !
.
.
ตัดมาสู่ความเพ้ออีกครั้ง คราวนี้ผมไม่ได้อยู่ในบ้านยากูซ่าโหดอย่างครั้งที่แล้ว ...ไอ้สมองเน่า คราวนี้มึงจิ้นอะไรมาวะเนี่ย ? มันเป็นสถานที่มืดๆไฟสลัว มีที่นั่งเป็นซอกเป็นมุมมิดชิด พร้อมเสียงเพลงเบาๆดังเคล้าคลอไปกับอากาศหอมรัญจวนที่เวียนวนอยู่รอบตัว
“เห้ย อย่าเหม่อสิวะ แกเสียเงินออฟฉันมาไม่ใช่เรอะ…” เสียงแตกคุ้นหูดังขึ้น พอหันกลับไปใบหน้าพี่ยงกุกก็เลื่อนเข้ามาพอดี รอยยิ้มนั้นยังร้ายกาจเหมือจะฆ่าใครได้เหมือนเดิม แต่ไอ้ชุดสูทผูกไทกับท่านั่งที่ผมแทบจะไปเกยอยู่บนตัวพี่เค้านี่มันอะไรวะเนี่ย!?
“ถ้าแกไม่รู้ว่าควรจะใช้งานฉันยังไงให้คุ้มกับเงินที่เสียไป ไม่เป็นไร ฉันทำเอง!” แขนแข็งแรงคู่นั้นกระชากผมเข้าใกล้มากขึ้น กลิ่นน้ำหอมนี้เองที่ลอยวนเวียนอยู่ทั่ว ใบหน้านั้น ริมฝีปากนั้น ดวงตาดุๆนั้น รอยยิ้มน่าขนลุกนั่น เวลานี้ทำไมมันชวนเคลิ้มนักก็ไม่รู้
“ว่าไง ชอบแบบไหนละเด็กน้อย ฉันจะบริการให้เต็มที่เลย” พี่ยงกุกว่าก่อนจะเลียริมฝีปากของตัวเอง ในชั่วพริบตานั้น ร่างของผมลอยหวือก่อนจะโดนทุ่มลงโซฟาที่เรานั่งอยู่ เห้ยๆ เดี๋ยวๆ ! นี่มันฟิคใสๆนะ อย่าพึ่งมีเอ็นซีเลย ม๊ายย ผมยังไม่พร้อม ขอให้ผมได้กลับไปโลกแห่งความจริงก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ได้ พี่รุกมาไวแบบนี้ผมจะรับพี่ท่าไหนดีวะเนี่ย
“ดูจากโหวงเฮ้งบนใบหน้าแก ท่าทางจะชอบแบบซาดิสม์ ได้เลย เดี๋ยวจัดให้ หึ”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!!!!!”
.
.
“อ๊ากกกกกกกกกกกก” ผมหลับหูหลับตากรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนโดนผีเข้า จนพี่น้องในโรงอาหารหันมามองกันเป็นตาเดียว แต่ผมไม่สนใจภาพพจน์ของตัวเองตอนนี้หรอก โอ้ยย ไม่ไหวนะ พี่ยงกุกหื่นกามแบบนั้นหน่ะ ไม่มีทาง TT[]TT
“เห้ยมึงไม่สบายรึเปล่า ตั้งแต่ล้มเอาหน้าแนบคอนกรีตมา มึงกลายเป็นไอ้บ้าที่ไหนไปแล้วเนี่ย ...นั่นไง! กูว่าแล้ว ต้องเพราะไอ้พี่แดฮยอนนั่นแน่ๆ ชีวิตมึงถึงเริ่มมีราคีแบบนี้”
“โว้ยย มึงเลิกเหอะจงออบ เลิกเดาส่งเดชว่าพี่ยงกุกเค้าทำงานอะไร เค้าเป็นอะไรยังไงก็ปล่อยแม่งไปเหอะ ไอ้ห่า เมื่อคืนกูเหนื่อยนอนไม่พอ เลยตื่นสาย แค่นั้นแหละ”
“O___O”
รู้สึกได้เลยว่าเสียงที่ตัวเองโวยวายนั้นมันดังมากจริงๆ ขนาดจงออบยังช็อค นิ่งสนิทไปเลย พอหันกลับไปมองรอบๆตัว ทั้งโรงอาหารองมาทางผมอย่างไม่วางตา พร้อมด้วยเสียงซุบซิบที่ไม่ได้เบาเท่าไหร่ดังคลอมาไม่หยุด
ตอนนี้พวกนักเรียนคังฮวามุนต่างหันไปคุยกันยกใหญ่กับประเด็นร้อนแรงที่ว่า
‘ผู้ชายที่เจลโล่เรียกว่าพี่ยงกุกนั้นคือใคร?’
‘ทำไมเจลโล่ต้องตะคอกใส่เพื่อนสนิทตัวเองเพราะเรื่องของพี่เค้าขนาดนั้น??’
‘ได้ข่าวว่าช่วงนี้น้องเจโล่ไม่ได้กลับบ้านเดิมของตัวเอง นี่เขาไปนอนกับใครรึเปล่า?’
‘น้องเจลโล่บ่นว่าเหนื่อย นี่เขาไปทำอะไรมากันแน่นะ ??’
‘...หรือว่าตอนนี้เจลโล่จะมีเสี่ยเลี้ยง???’
ฟัค...แฟงแตงโมไชโยโฮ่ฮิ้ววว
ไอ้มุนจงออบ เพราะมึง มึงตลอดดดด มึงคนเดียวเลยยย TT[]TT !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
- อัพรวดเดียว100%ไปเลยนะจ๊ะ เพราะอันนี้เป็นตอนสุดทายของปีแล้ว
ไรเตอร์จะกลับมาอัพอีกทีปีหน้าตอนมีมหาลัยเรียนแล้วเลยนะ TTOTT !
อีกเหตุผลที่ลงร้อยเปอร์ เพราะไม่รู้จะตัดตอนตรงไหนด้วยแหละ 55555
ทั้งตอนมันเล่นไม่มีอะไรเลยนี่นา T^T ~ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามกันอยู่นะคะ
แล้วเจอกันปีหน้าจ้า ~~~~~~~ ♥
ความคิดเห็น