ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alpha Romeo ★ ( infinite )

    ลำดับตอนที่ #11 : It’s close to midnight .

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 56






    It’s close to midnight
    and something evil’s lurking in the dark







     

               “กี่โมงแล้วเนี่ย

                จางดงอูพูดขึ้นลอยๆ หลังจากก้มลงดูนาฬิกาและพบว่ามันหยุดเดินไปตั้งแต่เที่ยงแล้ว ...ตอนนี้ท้องฟ้าที่ปกคลุมซกโพเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม บอกให้รู้ว่าอีกไม่ช้าฝนต้องตกลงมาแน่ๆ

     

                สองทุ่มสิบห้า

                “เห้ย!”

     

                เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตสุดท้ายที่อยู่ในโรงเรียน ไอ้การที่อยู่ๆก็มีเสียงลึกลับดังขึ้นข้างหลังเลยเป็นอะไรที่น่ากลัวมากขึ้นหลายเท่าตัว ดงอูผ่อนลมหายใจเบาหวิวเมื่อหันกลับไปเจอหน้านิ่งๆของรุ่นน้องปีสอง ยืนเต๊ะท่าล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างกับจะมีใครมาสนใจดูมันนักแหละ

     

                โชคดีมาก... ที่ยังมีคนอยู่ที่ซกโพ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้อยู่กับผีที่ไหน

                แต่ก็โชคร้ายมาก... ที่คนที่มันเหลืออยู่เป็นคนสุดท้าย ดันเป็นไอ้เด็กลีโฮวอน !

     

                “หน้าโรงเรียนปิดไฟหมดแล้ว ทางกลับบ้านก็ไม่ค่อยมีไฟด้วยหนุ่มนักกีฬาพูดเสียงเรียบๆก่อนจะสาวเท้ามายืนข้างๆ ...โฮวอนมันก็ไม่ได้สูงอะไรนักหรอกนะ แต่ทำไมผู้ยิ่งใหญ่อย่างดงอูคนนี้ ถึงรู้สึกต่ำต้อยนักเวลายืนข้างๆไอ้เด็กคนนี้

               

                ผมกลับล่ะอยู่ๆมนุษย์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในรั้วโรงเรียนซกโพก็เอ่ยบอกลา ก่อนจะก้าวฉับๆฝ่าสนามโรงเรียนไป ยิ่งเห็นแผ่นแผ่นหลังตรงแด่วเดินห่างไปเท่าไหร่ ในใจของดงอูมันก็ยิ่งโดนความกลัวครอบงำมากขึ้นเท่านั้น เวลานี้ เพียงแค่ลมพัดผ่านหลังเบาๆก็ทำเอาหัวใจวายได้ง่ายๆ

     

                นายกล้าหันหลังให้ฉันหรอห้ะก้าวย่างของโฮวอนถูกหยุดด้วยคนตัวเล็กที่วิ่งมาขวาง

                พี่พูดกับผมหรอ ร่างใหญ่ยกนิ้วชี้หน้าตัวเอง แอบคิดแว๊บๆว่ารุ่นพี่ใจใหญ่นั่นมีส่วนน่ารัก พอได้ยินไอ้ประโยคที่ตามมานี่สิ...

                เออพูดกับหมาแถวนี้มั้ง

                บาย~”

                เอาจริงพี่ดงอูก็เหมือนซองยอลนั่นแหละ ดูภายนอกหน้าตาก็พอไปวัดไปวานะ แต่ภายใน...ไม่มีห่าอะไรเลย กวนตีนอย่างเดียว กวนได้กวนดี กวนมากๆเดี๋ยวพ่อซัดให้หายซ่าเลย -_-

     

                เดี๊ยววววววคราวนี้มาใช่แค่เสียงเรียก และการเอาตัวมาขวางทางเดินเท่านั้น จางดงอูวิ่งมาคว้าแขนอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามของรุ่นน้องไว้

                 ...โดนแบบนั้นเข้าไป ใครไม่หยุดเดินก็บ้าละ คนตัวโตลอบยิ้มเล็กๆกับด้านที่ไม่เคยเห็นจากรุ่นพี่คนนี้ ก่อนจะหันมาตีหน้าตายใส่คู่สนทนา

                ทำไมพี่กลับบ้านเองไม่ได้ ทุกวันก็เห็นเดินเอาปากลากพื้นกลับได้ทุกที

                ถ้าทั้งโรงเรียนมันไม่เหลือแค่นายคนเดียว ฉันไม่ขอให้นายช่วยหรอกลีโฮวอน

                “โฮย่า

                เออๆ โฮย่าโฮตาโฮยายอะไรก็เอาเหอะ

                แล้วจะให้ผมช่วยอะไร

                กลับบ้านเพื่อนหน่อย

                ทำไม ? พี่กลัวผีรึไง

               

              อะหูยยยยย แทงใจฉิบหาย ! TT___TT

                สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญ จางดงอูผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เหมือนจะไม่มีตัวตน แต่ก็ทำให้คนกลัวขี้หดตดหายได้ทั่วบ้านทั่วเมือง อะไรที่ชาวบ้านชาวช่องเค้าเรียกว่า ผี นั่นแหละ !        

     

                แต่เรื่องนี้มันควรจะเป็นความลับ เกิดใครที่ไหมารู้ว่าผู้นำของซกโพกลัวผีขึ้นสมอง มีหวังโดนล้อไปจนเรียนจบแหง ไม่มีทางงงงงง เขามายอมให้เรื่องพรรคนั้นมันเกิดขึ้นหรอก !!

     

                ท่าทางที่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปของดงอู ทำให้โฮวอนต้องยักคิ้วฉงน ก็คนตรงหน้า ก่อนหน้านี้ยังเดินมาขว้าง ไม่ยอมให้เขาไปไหนอยู่เลย แล้วมาตอนนี้ ทำไมถึงเดินก้มหน้าก้มตาไปตามทางมืดๆนั้นคนเดียวได้ล่ะนั่น ?     

     

                หลังจากเป็นฝ่ายเดินจะบัดก้นออกมาด้วยความห้าวหาญในหัวใจ ดงอูก็ไม่ได้หันกลับไปดูอีกเลยว่าไอ้เด็กโฮวอนนั่นมันกลับไปแล้วรึยัง แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังย่างสุมอยู่ห่างไปไม่ถึงสิบก้าว พอเหลือบมองไปด้านหลังด้วยหางตาก็เจอกับร่างแสนคุ้นเคย ....คล้ายๆว่าจะเป็นคนที่เขาพึ่งเดินหนีมาเมื่อกี้นี้นี่แหละ

     

                “จะเดินตามมาทำไมเงียบๆวะ!”

                ให้ร้องเพลงมารึไง

               

                เออวะ กูก็ถามอะไรประหลาดดีเนอะ =___=;

     

              บิวตี้ฟูลเกิ๊ล เนกยอทเทซอ อุทโก อินนึน นีกา นอมู โจวา~”

     

                อ้าวไอ้นี่ บ้าจี้ร้องอีกเว้ย ทำไมแกไม่เต้นมาด้วยเลยล่ะแหม !

               

                คิดแล้วก็ปวดใจจี๊ดๆ ทำไม๊ทำไม เวลาอยู่กับใครเขาก็ไม่เคยรู้สึกเป็นไอ้ขี้แพ้เท่าอยู่กับโฮวอนเลยนะเนี่ย ... แกมันศัตรูอันดับหนึ่งของฉันเลยเว้ยยย !!!!!!! แล้วทำไมต้องมาเดินนำหน้ามันให้รู้สึกเหมือนโดนไอ้โรคจิตกำลังตามตื้อให้เสียวหลังเล่นด้วยวะเนี่ย

     

                แก๊กๆ

     

                ขณะที่กำลังทะเลาะอยู่กับความคิดของตัวเอง เสียงประหลาดก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ ขาเรียวหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ ...ไม่ได้อยากหยุด แต่มันหยุดของมันเองต่างหาก !

               

                แอ๊ดดดดดดดด... ปัง !!!

     

                แว๊กกก เสียงอะไรอ่ะดงอูร้องเสียงหลง ก่อนจะพุ่งเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังเด็กหน้านิ่งที่เดินเข้ามาใกล้ในรัศมีการกระโดดของเขาพอดี

                อย่าเวอร์ มันก็แค่เสียงประตูบ้านโฮวอนตอบ ก่อนจะเดินต่อโดยมีใครบางคนเกาะอยู่อย่างกับลูกลิง บรรยากาศแบบนี้มันออกจะธรรมดา และชินตาลูกตามากสำหรับนักกีฬาที่อยู่ซ้อมจนเย็น และต้องเดินกลับดึกๆคนเดียวตลอดตั้งแต่ได้เป็นสมาชิกในทีมฟุตบอลของโรงเรียน

     

                เฮ้ยย นั่นเงาอะไรอ่ะ

                โว้ยย พี่ไม่เคยเห็นราวตากผ้าโดนลมพัดรึไงวะ

               

                แรกๆก็ว่าสนุกดีที่ให้เห็นท่าทางแบบนี้ แต่ตอนนี้รู้สึกรำคาญนิดๆละ ไม่เข้าใจว่าไอ้ภาพเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ตอนกลางวันก็ดูปกติ๊ปกติ จะน่ากลัวอะไรมากมายขนาดนั้น

               

                โคตรป๊อดเลยว่ะ เป็นลูกผู้ชายซะเปล่า

                ทำไม ผีมันไม่หรอกรึไงลูกผู้ชายอ่ะ

     

                ตอนนี้พี่ดงอูทำให้เขาต้องหยุดเดินตามไปด้วย สองข้างทางที่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง มีบ้านคนตั้งอยู่ลิบๆ คงเป็นอะไรที่โรมานซ์น่าจับสาวมาเดินควงแขนในตอนกลางวัน แต่พอเป็นตอนกลางคืน อะไรมันก็ดูน่ากลัวไปหมด ยิ่งมาอยู่กับไอ้รุ่นพี่ที่มั่นใจนักหนาว่าตัวเองยิ่งใหญ่นี่ ...น่ากลัวสั่สๆเลยวะ คืนนี้กูจะนอนหลับมั๊ยเนี่ย =__=

     

                โอ้ยย ฉันเดินไม่ไหว ขาสั่นไปหมดแล้ววววว

                “... โฮวอนเหลือบสายตาลงดูขาของอีกฝ่ายที่ดูจะสั่นเทาขึ้นมาจริงๆ เห็นแล้วอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์มากๆ

                ...ว่าแต่ พี่ดงอูนี่ก็มีดีเหมือนกันนะเนี่ย พอกลัวอะไรขึ้นมาละอ้อนเชียว มาอยู่ใกล้ๆก็พึ่งรู้นี่แหละรุ่นพี่คนนี้ตัวเตี้ยกว่าเขา ตัวก็เตี้ยกำลังดี สมัยนี้ยิ่งหน้าคนตัวเตี้ยกว่ายากๆอยู่... เอ่อ สงสัยวันนี้เรียนหนักหรืออากาศมันร้อนมาก กระดุมที่ควรจะกลัดไว้ก็ถูกเปิดออกเม็ดสองเม็ด ยังกับมั่นใจนักแหละว่าแผงอกตัวเองมันแมนนัก แฟ่บอย่างกับไม่กระดาน มีแต่กระดูกไหปลาร้าที่เซ็กซี่เข้าตาคนมองหน่อย

               

                มองอะไรวะ? เดี๋ยวต่อยดงอูตวัดมองไอ้เด็กที่กำลังพยายามกลั้นขำเต็มที่ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้หรอกว่ามันกำลังขำบ้าอะไรอยู่ แต่มือสองข้างของตัวเองก็พยายามลูบต้นขาให้มันเลิกสั่นเสียที กูอายจะตายอยู่แล้วเว้ยยยยยยย !

     

                มาดิ่เดี๋ยวไปส่ง จบคำ คนตัวเล็กกว่าก็เซไปชนกับอีกคน เมื่อแขนล่ำๆโบกมาพาดคอก่อนดึงให้เข้าไปใกล้ จนตอนนี้คนที่อายุมากกว่ากลายเป็นที่ว่างแขนส่วนตัวของคนตัวโตไปซะแล้ว

                ทำไมต้องจับไหล่ฉันด้วย

                ให้จับหัวแทนมั๊ยล่ะไม่ว่าเปล่า ยังยกมือข้างที่พาดคออยู่ขึ้นมาลูบหัวรุ่นพี่อย่างไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย

                “ทะลึ่งล่ะน้อง มือบางจึงยกขึ้นมาผลักกึ่งตบหัวสีน้ำตาลเข้มเซ็ตมาซะเท่ห์ของโฮวอนไปหนึ่งฉาดใหญ่ คนโดนตบหันมาจ้องหน้าเขม็ง แต่ก็ยังไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมแขนไปไหน มีแต่จะทิ้งน้ำหนักตัวลงไปเท่านั้น

                ย๊ากก ตัวหนักชะมัด

     

                แล้วทำไมวันนี้พี่กลับดึกอ่ะโฮวอนเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายแทบเดินไม่เป็นท่าอยู่แล้ว

                ยุ่งไรด้วย

                เออ งั้นเดินไปคนเดียวแล้วกัน อยู่ดีๆน้ำหนักที่อยู่บนคอก็หอยวับไปเมื่อเด็กปีสองคนนั้นผละออกเสียดื้อๆ ก่อนจะผลักแผ่นหลังบางไปข้างหน้าเต็มแรง ...ทางข้างหน้ามืดเกินกว่าที่ดงอูจะรับได้ บรรยากาศเงียบๆพวกนี้กำลังจะทำเข้าสติแตกแล้ว !!

     

                “ไม่เอาอ่ะ

                หึ

     

                เด็กตัวโตส่งเสียงในลำคอ เมื่อสุดท้ายรุ่นพี่ใจใหญ่คนนี้ก็มาเดินเกาะแขนเขาอยู่ดี ถึงจะรู้สึกแปลกไปจากเดิมที่วันนี้มีคนมาเดินกลับบ้านด้วย แต่อย่างน้อยโฮวอนก็ไม่รู้สึกจงเกลียดจงชังอะไรพี่ปีสามคนนี้เท่าไหร่ ...จริงๆก็ออกจะชอบด้วยซ้ำ

     

                แค่ชอบที่ได้แกล้งหรอกนะ ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น !

     

                ในที่สุดทั้งสองก็เดินมาจนถึงบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่เกือบสุดถนน เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นล้อมด้วยรั้วไม้เตี้ยๆ ถึงฟ้าจะมืดแต่ก็ยังพอมองเห็นดอกไม้นานาชนิดที่ปลูกเรียงรายขอบรั้ว ตรงสนามหน้าบ้านมีชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆที่มักจะได้เห็นลูกชายเจ้าของบ้านออกมานั่งแซวสาวเล่นอยู่บ่อยๆ

               

                “ถึงบ้านพี่แล้วนี่ เข้าบ้านไปดิ่ หรือต้องให้ไปส่งถึงเตียง โฮวอนพูดเสียงเข้ม เขายกแขนที่พาดคออีกคนอยู่ขึ้นแล้วทิ้งมือลงข้างตัวเหมือนเดิม

                “ทำไมนายถึงไม่เคารพฉันเหมือนคนอื่นๆบ้างห้ะดงอูหันมามองค้อน มือก็ควานหากุญแจบ้านในกระเป๋านักเรียน ได้ยินคำถามนั้นทำเอาเด็กหนุ่มเลิกคิ้วสูง เปลี่ยนท่ายืนมาเป็นท่าล้วงกระเป๋า พร้อมยกยิ้มกวนๆอย่างกับพวกนักเลง

     

                พี่มีดีอะไรให้ผมต้องเคารพรึไง”  

                เหอะ.. จางดงอูขอยืนยันเลยว่ามันเป็นนักเลงจริงๆด้วยล่ะ =_=

     

                ฉันเป็นรุ่นพี่นายนะ

                แล้วผมแคร์หรอ?”

                เห็นท่ายักไหล่นั่นแล้วมันอยากยกแข้งขึ้นตวัดหน้ามันสักสามสี่ทีจริงๆ ! แต่ยองกวังเคยสอนไว้ อย่าไปเล่นกับหมาบ้ามันอยากบ้าก็ปล่อยมันบ้าไปตัวเดียว หึ ถึงดงอูจะย้ายจากยองกวังมาเรียนทีนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะติดนิสัยคันทรี่ไม่แคร์โลกอย่างเด็กซกโพแท้ๆมาหรอกนะ

     

                ฝากไว้ก่อนเห้อะ!” ทำได้ก็แค่เล่นลิ้นใส่อีกคนก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ขนาดปิดประตูมาแล้ว เสียงจากคนที่ยืนอยู่นอกรั้วยังอุตส่าห์ดังทะลุเข้ามาได้อีกนะ

     

                แล้วรีบมาถอนคืนล่ะ!”

                           

                อ๊ากกกกกกก ลีโฮวอน ! วอนสมชื่อเลยนะมึง !!

     


               

     

    l3.png


     

    สั้นๆโน๊ะตอนนี้ สั้นมากด้วยค่ะ5555555555555555
    สั้น ง่าย และไม่ได้ใจความเลย =_= มันกลั่นกรองออกมาจากสมองสุด
    ประเทืองปัญญาของไรเตอร์ล้วนๆ แต่เป็นย่าดงเต็มๆเลยนะ *3* !!
    คู่นี้ก็เหมือนคู่อื่นๆจ้ะ กัดกันไปกัดกันมา สรุปมีใครรักกันบ้าง ?????????
    55555 ยังไงก็ฝากคู่นี้ไว้อีกคู่นึงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามจ้ะ แล้วเจอกันใหม่น้า



    เอาตอนหน้ามาฝาก สองบรรทัด ......


    ยอลลี่จะเป็นเจ้าสาวของมยองซูนะ
    .
    .

    อื้อ ~ หยุด ไม่เอานะ! คิมมยองซู!” 



    พี่ยอลก็เล่นตั๊วเล่นตัวเน๊อะ 55555555555555555555555


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×