คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : There is something you forgot .
There is something you forgot .
ชายหนุ่มเดินกระแทกส้นเท้าปึงปังลงมาจากชั้นบน พอเดินมาถึงห้องกินข้าว ก็เจอภาพครอบครัวนั่งล้อมวงโดยมีแขกคนสำคัญอย่างคิมมยองซูนั่งหัวโด่อยู่ตรงที่ประจำของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เห็นแล้วอารมณ์เสียจริงๆนะ ทำไมพ่อแม่ต้องยอมมันขนาดนี้ก็ไม่รู้
“ขยับหน่อยได้ปะ จะนั่งตรงนี้”
มยองซูเงยหน้าขึ้นมองจนที่ยืนค้ำตัวเองอยู่ สายตาของเขามองใบหน้าหวานอยู่ชั่วครู่ก่อนจะไล่ต่ำลงมา ตาคมที่ใช้จับจ้องเรียกเลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้าหวานได้อย่างง่ายดาย ...แต่มยองซูไม่ได้แสดงท่าทีอะไรแปลกๆออกมาสักนิด เขาก็แค่ขยับตัวไปข้างๆให้ซองยอลนั่งได้เท่านั้น
ผลั่วะ!
ทันทีที่ก้นเตะถึงพื้น พัดสีแดงก็ฟาดลงมาเข้าเต็มหัว จนใบหน้าแทบพุ่งลงไปแนบกับชามข้าวที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
“อาม่าตบผมทำไมอีกเนี่ย”
“อาหมวยเล็ก! ไอ้หลานไม่รักดี! ลื้อเป็นสาวเป็นนางมานุ่งสั้นแบบนี้อยู่กับผู้ชายได้ยังไง แล้วเสื้อคอกว้างๆนี่มันอะไร ลื้อกำลังให้วิญญาณบรรพบุรษต้องร้อนรุ่ม” มือกร้านเอื้อมลงไปตีเรียวขาขาวที่โผล่พ้นออกมาจากกางเกงตัวสั้น จนคนถูกตีสะดุ้ง
“โอ้ย เจ็บ ! ม่าจำไม่ได้หรอว่านี่หลายชายม่านะ แล้วผมใส่นี่มันบ๊อกเซอร์ ผู้ชายที่ไหนเค้าก็ใส่กันทั้งนั้นแหละ แล้วเสื้อคอกว้างนี่มันแย่ยังไง ผมก็ใส่ของผมทุกวันอ่ะ ก็มันร้อนนี่ !!!!” ซองยอลเถียงกลับพลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองบรรเทาความเจ็บปวด ขณะที่มยองซูที่นั่งอยู่ข้างๆกลับทำท่าเหมือนพร้อมจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาตลอดเวลา
“อั้วบอกแล้วว่าอย่ามาเถียงอั้ว หึ อาลูกสะใภ้นี่ก็ไม่ได้เรื่องจริงๆ เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้ายังไงให้อีทำตัวแบบนี้”
“อ้าว คุณแม่สามีพูดแบบนี้ได้ยังไง...”
“เอ่อ ผมว่ากินข้าวกันก่อนดีกว่านะฮะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นหมดนะฮะ”
มยองซูที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยปากขึ้น เขาพอจำได้ลางๆว่าเมื่อสิบปีก่อนที่อยู่บ้านหลังนี้ ก็มีปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้มาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่ว่าจนตอนนี้ทั้งสองคนจะยังไม่ลงรอยกันอยู่อีก =__=;
“ไม่ได้ อั้วจะไม่กินข้าวจนกว่าอาหมวยจะทำอะไรที่เหมาะที่ควรก่อน”
“เอ่อ งั้นเอาแบบนี้แล้วกันนะครับ…” มยองซูพูดขึ้น ก่อนจะถอดเสื้อนักเรียนตัวนอกออก แล้วค่อยๆวางมันลงบนตักของซองยอล ตาโตมองตามมือนั้นมาตั้งแต่ถอดเสื้อนอกแล้ว แต่นึกไม่ถึงจริงๆว่าผู้ชายคนนั้นจะทำแบบนั้น
“ย่าาาา อาตี๋ ลื้อเหมาะกับการเป็นลูกเขยบ้านนี้จริงๆ” อาม่าผ่อนลมหายใจออกมาอย่างพึงพอใจกับการกระทำของคนที่มาอาศัยอยู่ด้วย
“หน้าตาดี หุ่นดี นิสัยดี พูดจาดี การศึกษาดี เป็นสุภาพบุรุษ ...แบบนี้แหละที่เหมาะกับอาหมวยเล็ก” ท่าทางหญิงชราเชื้อสายจีนคนนี้จะเริ่มเข้าลูกโลกของตัวเอง ทั้งสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยได้แต่มองหากันเลิกลัก ไม่รู้จะไม่พูดขัดแกตอนไหน แถมขัดไปก็ไม่รู้ว่าพูดไปแล้วจะเป็นผลดีต่อตัวเองหรือไม่
“ส่งจานเนื้อให้หน่อยสิ” คนหน้าหวานหันไปบอกคนที่นั่งอยู่ใกล้จากเนื้อย่างที่สุด แต่ดูท่าทางมยองซูจะไม่ได้ยิน เพราะเจ้าของใบหน้าหล่อจัดกำลังจดจ่ออยู่กับการศึกษาผักในแกงกิมจิ
ชิ ไม่ได้ยินบ้าอะไรล่ะ นั่งเบียดซะแทบจะนั่งตักกันอยู่ล่ะ ไอ้ที่พูดเมื่อกี้ก็แทบจะกินหูมันแล้วด้วย กวนตีนชะมัด =_=+
ซองยอลเอี้ยวตัวไปกระแทกไหล่เข้ากับอีกคนก่อนจะมือไปคีบเนื้อย่างชิ้นใหญ่ที่สุดในจานมายัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆโดยไม่ได้สนใจจะหันให้ชิ้นเล็กลงสักนิด ...ดูเป็นธรรมดาแบบบ้านๆดี แต่ดูไร้มรรยาทไปหน่อยสำหรับหญิงชราที่จ้องจับผิดหลานสาวอยู่ทุกวินาที
“ย๊า อั๊วเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้กินคำเล็กๆ อายอลลี่ ! ลือมัวแต่ทำตัวอย่างงี้แล้วเมื่อไหร่ลื้อจะขายออก อั๊วต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้อุ้มหลานหา !?”
แค่กกกกกก
ไม่ต้องใช้พัดตบ คราวนี้ซองยอลก็แทบจะพุ่งหน้าลงกับจานข้าวได้ด้วยตัวเองเลยล่ะ เนื้อชิ้นโตเกือบจะหลุดลงไปขวางคอหอย เมื่อได้ยินหญิงชราเอ่ยถึงเรื่องอุ้มหลานออกมา พ่อ แม่ กับไอ้คุณชายนั่นก็เอาแต่หัวเราะคิกคักดูมีความสุขกันเหลือเกิน โดยเฉพาะคิมมยองแอลที่ดูจะชอบใจเอามากๆ
แหม เอ็งลองมาโดนพูดอย่างงี้ใส่ทุกวันๆบ้างมั๊ยล่ะ
แล้วอีกอย่าง....ยอลลี่ของม่าไม่ได้มีมดลูกไว้ให้ตั้งท้องนะโว้ยยยยย TT[]TT
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อซองยอลสำลักเนื้อย่างแล้วทุกคนต้องวิ่งโร่ให้หาน้ำมาให้ดื่มจบลง ผู้เป็นมารดาก็ตัดสินใจเอ่ยถึงสิ่งที่ค้างคาใจตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นหน้าเพื่อนของลูกชายคนนี้ออกไป
“มยองซู ...ชื่อคุ้นๆนะพ่อ”
มือหนาชะงักก่อนสายตาคมจะตวัดขึ้นมองคู่สามีภรรยาตรงหน้าที่กำลังหันไปคุยกัน คุณพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะตบโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะร้องอ๋อออกมาแล้วหันไปทำหน้าตกใจใส่หนุ่มหล่อ
“มยองซู... มยองซู นึกออกแล้ว! เราใช่ลูกของคุณนายคิมที่เคยมาเช่าบ้านเราอยู่เมื่อสิบกว่าปีก่อนใช่รึเปล่าน่ะ”
“จำได้ด้วยหรอครับ?” น้ำเสียงตื่นเต้นทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น ตอนแรกคิดไปแล้วว่า ความทรงจำเรื่องรักแรกอะไรนั่นอาจจะเพ้อเจ้ออย่างที่คนหน้าหวานว่า แต่พอคุณพ่อกับคุณแม่ของซองยอลยังจำเขาได้แบบนี้ ...มันใช่แล้วล่ะ เรื่องรักแรกนั้นมยองซูไม่ได้คิดไปเองแน่นอน
“ตอนแรกก็ไม่แน่ใจหรอก แหม ก็เราเล่นหล่อแซงหน้าซองยอลไปซะขนาดนี้” ผู้เป็นแม่กลั้วหัวเราะพลางเอื้อมมือไปตีไหล่หนา มยองซูยิ้มรับ ส่วนคนที่ถูกพาดพึงไปหมาดๆก็ได้แต่เบะปากแล้วก้มหน้าลงพุ้ยข้าวต่อ
“ซองยอล ทำไมแกไม่บอกแต่แรกล่ะว่าลูกชายของคุณนายคิมมาพักด้วย ดูซิไม่ได้เตรียมห้องเตรียมอะไรไว้ให้เลยเนี่ย”
“ผมจำไม่ได้นี่ ผมอิ่มแล้ว ไปแล้วนะ”
ร่างบางวางตะเกียบลงบนโต๊ะ ยันตัวแล้วขึ้นจากพื้นแล้วยกขายาวๆก้าวผ่านหลังมยองซูเดินย่ำเท้าขึ้นบันไดหายไป ทิ้งชามข้าวที่พร่องไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ผิดวิสัยลูกชายเจ้าของฟาร์มที่ปกติกินข้าวสามถ้วยเป็นอย่างต่ำทุกวัน
“ผมตามไปดูหน่อยดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกอาตี๋ อายอลลี่ก็เป็นแบบนี้แหละ อาจจะเขินๆอยู่ กินเถอะๆ นี่แกงกิมจิฝีมืออั๊ว ของโปรดลื้อเลยสิเนี่ย”
กำลังจะลุกตามไปแล้วล่ะแต่มือของอาม่าแกดันยื่นมาจับขาเขาไว้ซะก่อน พร้อมกันดันจานกับข้าวมาไว้ตรงหน้า แกงกิมจิร้อนๆยังคงส่งกลิ่นหอมและมีไอลอยขึ้นมาแม้จะวางอยู่บนโต๊ะมาได้สักพักแล้ว
“มาอยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยนะมยองซู ซองยอลถึงจะดูห้าวๆกระด้างๆไปหน่อย แต่ถ้าจะให้ช่วยอะไรเค้ายินดีเสมอแหละ ....ยังไงก็ฝากเราดูแลซองยอลด้วยล่ะ ยิ่งชอบเที่ยวไปหาเรื่องคนอื่นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ด้วย”
“ยินดีอยู่แล้วครับ”
ถ้ามอบหมายหน้าที่อย่างกับยกให้เป็นภรรยาขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องรออะไรให้เสียเวลาแล้วล่ะ เพราะพอจะจำได้ลางๆคุณแม่ของเขากับคนบ้านนี้ก็สนิทสนมกันพอตัว ก่อนจะมาซกโพแม่ยังพูดถึงบ่อยๆอยู่แล้ว เรื่องเข้าหาผู้ใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงอะไร ยิ่งมีคุณป้าพัดโบกที่คอยเชียร์เต็มที่ขนาดนี้แล้วด้วย …ก็เหลือแต่ลีซองยอลเท่านั้นแหละที่ดูเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะดูท่าทางพี่ยอลของมยองซูจะทำเป็นจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
หึ แต่ระดับคิมมยองซู ถ้าล็อคเป้าหมายแล้ว ไม่มีทางหนีรอดหรอก
ส่วนไอ้เรื่องที่ลืมๆไปแล้วน่ะ ยินดีจะพลีกายถวายตัวช่วยทบทวนให้เลยล่ะ
*****
“เฮ้ กลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันนน”
อูฮยอนหันไปตามเสียงนั้นพร้อมรอยยิ้ม นึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่มีเพื่อนพูดแบบนั้นด้วย ...แต่ พอหันกลับไป ชายคนนั้นกลับพูดกับเพื่อนอีกคนอยู่ ร่างบางได้แต่ยิ้มเก้อและเดินก้มหน้าก้มตาออกจากรั้วโรงเรียนมาเพียงลำพัง
บางทีโซลมันออกจะดูไกลตัวเขามากไปหน่อย อยู่ที่ซกโพอูฮยอนมีเพื่อนน่ารักๆอย่างซองยอล ถึงจะทำตัวน่ารำคาญอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่เดินกลับบ้านด้วยกันทุกวัน กินข้าวก็กินด้วยกัน นั่งเรียนก็นั่งอยู่ข้างๆกัน
คิดถึง...
ยอมรับเลยว่ารู้สึกอย่างนั้น แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า เด็กจากยองกวังที่แลกเปลี่ยนกับเขาก็คงตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ดีไม่ดี อีกไม่นานเด็กยองกวังที่ไปอยู่ที่เมืองบ้านนอกแบบนั้นอาจจะสติแตกงอแงขอย้ายกลับมานี่ก็ได้
ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้น เพราะอูฮยอนก็อยากกลับซกโพเหมือนกัน
“เฮ้ ไปไหนน่ะ”
อยู่ๆเสียงแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นด้านหลัง ทำเอาร่างบางหยุดการเคลื่อนไหว หันกลับไปพบกับผู้ชายตาตี่ที่รังควาญเขามาทั้งวัน
“กลับบ้านดิ่ พี่ก็ถามแปลกๆเนอะ” อูฮยอนตอบ ก่อนจะขยับเดินต่อไปอีกครั้ง แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังเดินตามมาอีก โดยห่างไปประมาณสามเมตรคือกลุ่มลูกน้องที่เดินตามเหมือนเงา
“ไปทางไหนล่ะ”
“เนี่ย เดินข้ามเขาไปสองลูกก็ถึงแล้ว”
“อ่อ เดินทางปลอดภัยนะ” ถึงตรงนี้ซองกยูหยุดยืนกอดอก แน่นอน อูฮยอนไม่หันกลับไปมองให้เสียสายตาหรอก รีบกลับบ้านไปกินข้าวกับแม่ดีกว่า
เดี๋ยวนะ...
“เสียใจด้วยน้องนัม นายไม่ได้อยู่ซกโพ นี่มันโซลนะครับ”
ดูเหมือนพี่ซองกยูอะไรนี่จะรู้ไปทุกอย่างเลยนะ พอเห็นคนใจใหญ่นักหนาหยุดอยู่กับทีก็เดินเข้าไปหาทันที แขนใหญ่พาดลงบนคอคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะออกแรงดึงร่างนั้นให้เดินไปตามการบังคับของตัวเอง
“จะพาผมไปปล้ำหรอ”
“อย่าท้านะน้อง เดี๋ยวพี่ทำจริง”
ซองกยูส่งเสียงตอบขณะก้าวเท้าไปเรื่อยๆโดยที่คนในอ้อมแขนทำให้แต่เดินตามไปแต่โดยดี ก็ลองโดนแขนใหญ่อย่างกับงูเหลือมมาพาดคอดูสิ ไม่ทำตามอาจโดนฟาดคอหักเลยก็ได้นะ
ร่างสูงโปร่งพร้อมลูกกระจ๊อกเป็นฝูงเดินมาถึงอาคารสูงก่อนขึ้นจากวัสดุอย่างเดียวกับตัวอาคารเรียนของยองกวัง ประตูเหล็กประดับด้วยตราสัญลักษณ์รูปดอกคาเมเลีย เห็นแล้วให้ความรู้สึกขลังอย่างบอกไม่ถูก
มือหนาเอื้อมไปผลักบานประตูไม้โอ๊คออก ลมอุ่นๆจากภายในพัดออกมาปะทะใบหน้าทันที แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไปกว่าสภาพภายในอีกแล้ว
โอ้แฮร์รี่ นี่มันห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์ !
ความรู้สึกแรกที่เล่นปราดเข้ามาในหัวสมองของนัมสตาร์ เมื่อบรรยากาศตรงหน้าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเมืองเวทมนตร์ที่มักเกิ้ลอย่างเขายากจะเข้าถึง ชั้นหนังสือตั้งเรียงรายอยู่รอบกำแพง ตรงกลางเป็นเตาผิงขนาดใหญ่และโซฟาบุผ้ากำมะหยี่อย่างดี พื้นไม้เงาวับปูด้วยพรมสีแดงเข้ม ลากพาดยาวไปถึงบันไดกว้างๆที่เชื่อมขึ้นไปยังชั้นอื่นๆของหอพัก
“ห้องของนายอยู่ชั้น 3 ริมสุด ...มันเป็นห้องที่ดีที่สุดของหอ ถ้าเป็นไปได้อย่าพยายามแตะต้องอะไรในนั้นมากนั้น เจ้าของห้องคนเดิมแม่งดุ” ซองกยูกล่าว ก่อนจะโยนพวงกุญแจมาให้คนที่กำลังทำหน้าราวกับตัวเองเป็นพ่อหนุ่มแฮร์รี่พอตเตอร์ที่พึ่งก้าวเข้าสู่ฮอกวอตส์เป็นครั้งแรกในชีวิต
“ยืนเฉยทำไมล่ะ ตามมาสิ” เสียงดุๆเรียกเอาอูฮยอนหลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเอง ก่อนจะก้าวเท้าตามคนที่เดินนำหน้าไปก่อนแล้ว ทั้งสองมาหยุดที่หน้าประตูบานหนึ่ง ตรงกำแพงข้างกันมีป้ายระบุชื่อเจ้าของห้องติดอยู่
305
L.KIM
“พยายามอย่าเข้านอนหลังสามทุ่ม เพราะจะมีอาจารย์มาเดินตรวจ ห้องนั่งเล่นรวมนายใช้ได้เต็มที่ ถ้ามีอะไรก็โทรมาที่เบอร์นั้น โอเคนะ” ซองกยูกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับไปยังเส้นทางเดิมที่พาคนตัวเล็กเดินมา
“อ้าว แล้วพี่นอนที่ไหนอ่ะ”
ในเมื่อไม่ได้คำตอบจากสิ่งที่ถามไป อูฮยอนก็ไม่ได้คิดจะซักอะไรต่อ เขาไขกุญแจดันประตูเข้าไปข้างใน
ห้องขนาดย่อม ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นอย่างตู้เสื้อผ้า ชั้นหนังสือ โต๊ะทำงาน และเตียงนอนที่ส่วนใหญ่เป็นสีดำ เทา น้ำตาลเข้ม หรือไม่ก็โทนทึมๆอย่างกับห้องคนแก่
ซองกยูบอกว่านี่เป็นห้องที่ดีที่สุดของหอ คงหมายถึงวิวที่มองออกไปได้จากนอกหน้าต่าง ถึงตัวอาคารจะติดกับหอข้างๆ แต่ก็ยังพอมีพื้นที่ให้มองออกไปเห็นวิวยามเย็นของร้านรวงต่างๆที่กำลังเปิดแข่งกันอยู่ที่ถนนด้านล่างได้ ระเบียงเล็กๆอาจไม่กว้างพอที่จะให้คนออกไปยื่น แต่ก็มีพื้นที่สำหรับวางกระถางดอกไม้เพิ่มความสดชื่น
แต่ที่เรียกความสนใจจากอูฮยอนได้เป็นอย่างดีคือพื้นที่ว่างๆบนพนังถูกประดับด้วยรูปถ่ายจำนวนมาก สวนใหญ่เป็นภาพวิวทิวทัศน์ ขอเดาว่าคนที่เคยอยู่ในห้องนี้ต้องชอบถ่ายรูปมาก แถมท่าทางจะชอบวิวบ้านๆ อย่างพวกทุ่งหญ้าป่าเขา อะไรพวกนี้ด้วยเพราะดูจะมีเยอะว่ารูปอื่นๆ
ดวงตาเรียวไล่ลงมายังภาพถ่ายที่ดูจะเก่าที่สุดในบรรดารูปภาพทั้งหมด แต่กลับติดอยู่ใกล้หัวเตียงมากที่สุด เป็นแผ่นฟิล์มโพราลอยด์รูปเด็กสองคนยืนส่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างๆเห็นแล้วรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน ในมือของเด็กที่ตัวสูงกว่ากอดตุ๊กตาหมีสีขาวไว้แน่น ขณะฉีกยิ้มแฉ่งจนเห็นแล้วรู้สึกตงิดใจมากๆ เหมือนเคยเห็นให้เด็กที่แยกเขี้ยวโชว์เหงือกนี่เมื่อไม่นานมานี้เอง
ปากกาเมจิกสีดำที่เขียนอยู่ข้างได้ทำเอานัมอูฮยอนเบิกตากว้างจนแทบถลน
ซองยอลลี่จะเป็นเจ้าสาวของคิมมยองซู >3< ~♥
“ห้ะ !?”
ในตอนนี้มยองซูก็เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษขนาดไหน
ไปถามแม่เลยว่าอยากได้ลูกเขยแบบนี้สักคนปร้ะ ? 55555555555
/ปล.ไม่นับความรุ่มร่ามที่ดูจะมีกับพี่ยอลได้ตลอดวินาทีที่มีโอกาสน่ะนะ/
กลับมาจัด40%ที่หลั่งแล้วนะคะ อิ๊________อิ๊
หลีดนัมออกจะสั้นไปหน่อย เพราะเหลือพื้นที่ให้อีกแต่40%นี่นะ
5555555555555 อย่าว่าเค้า เดี๋ยวหาตอนให้แม่ยกหลีดนัมแบบเต็มที่เบย
แต่ตอนหน้า ใครรอคู่นี้ ....
ห้ามพลาดนะ ! อิอิอิอิิอิอิอิอิอิ
ความคิดเห็น