ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NAUGHTY&EVIL ☠ ( B.A.P )

    ลำดับตอนที่ #10 : NAUGHTY&EVIL # 09

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 56



      

    NAUGHTY&EVIL
    #09





     

                “นักเรียนหยิบหนังสือวรรณคดีเล่มสองขึ้นมา แล้วเปิดไปหน้าร้อยสามสิบ ...เมื่อชั่วโมงที่แล้วเราพูดถึง...

     

                แสงแดดอุ่นๆยามเช้า และเสียงนุ่มๆของครูวัยหนุ่มดังไปทั่วห้องเรียน

                ปกติทั้งสองอย่างนั้นคือเครื่องดนตรีชั้นยอดที่มักจะขับกล่อมให้ผมเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่มาวันนี้ความรู้สึกนั้นหลับไม่มีอยู่ในโสตประสาทของผมเลยแม้แต่น้อย ขนาดจงออบยังแปลกใจว่าทำไมวันนี้ถึงเห็นผมนั่งหัวโด่มาได้สี่คาบติดแล้ว โดยไม่มีการสัปหงกหรือทำตาเซ็กซี่ปรือปรอยใส่อาจารย์เลยแม้แต่น้อย

     

                มึงดูตั้งใจเรียนแปลกๆนะวันนี้

                กูสู้เพื่อแม่เว้ย

                อ่อเรอะ

     

                น้ำเสียงของมันดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเท่าไหร่ -_-;

                คือจะให้ผมบอกมันยังไงล่ะว่าเมื่อเช้าพี่แดฮยอนพูดอะไรไว้

     

                ใครๆก็อยากได้ของจากคนที่ชอบทั้งนั้นแหละ

               

                เสียงเนิบๆที่ออกมาจากปากพี่เค้า จนป่านนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมอยู่เลย ...นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ไอ้พี่แดฮยอนน่าจะชอบจงออบมันสิวะ แล้วนี่อะไร ? มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ? อยู่ๆก็พูดแบบนั้น พร้อมกับใบหน้าเริงร่าเหมือนดอกไม้บานแบบนั้น พี่ไม่คิดว่าคนฟังจะใจแตกแล้วยอมตกเป็นเมียพี่เลยรึไง  ..เห้ย ! ไม่ใช่ !

     

     

                มึงแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร

                จงออบถามย้ำอีกครั้งขณะที่เราสองคนกำลังนั่งกินข้าวกลางวันอยู่ท่ามกลางเด็กคังฮวามุนนับพันคน เมนูของผมวันนี้เป็นอะไรง่ายๆอย่างขนมปังเมล่อนกับนมรสสตอร์เบอร์รี่สีชมพู๊ชมพูหนึ่งกล่อง

     

                ให้ตายเหอะ ผมยังไม่คิดเลยนะว่าตัวเองจะเดินไปซื้อขนมปังหน้าตาน่ารักนี่มากินจริงๆ อยู่คังฮวามุนมาตั้งหลายปี ปกติไม่เคยคิดจะเฉียดไปซื้อขนมปังร้านนั้นเลยสักครั้ง ...ผมว่าขนมปังเมล่อนของไอ้พี่ยงกุกเมื่อเช้ามันต้องใส่กัญชาไว้แหง กินแล้วติดเลยเนี่ย แม่งงงง =3=

     

                ว้ายๆ มากันแล้วล่ะ

                เสียงในโรงอาหารที่ว่าดังอยู่แล้ว ทวีความดังขึ้นไปอีกเมื่อพี่ปีสามเริ่มทยอยกันลงมากินข้าว ที่นี่เป็นแค่ไม่กี่ที่ในโรงเรียนหรอกที่น้องๆติ่งแตกทั้งหลายจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบพี่ปีสามหน้าตาดียืนล้อมหน้าล้อมหลัง

     

                พี่หน้าขาวโบ๊ะเดินควงแขนมากับพี่หน้าเป๊ะ โดยมีนักเรียนที่เหลือแหวกทางให้อย่างกับศิลปินบุก แถมพวกหล่อนยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอัพแชร์ความฟินในวันนี้ให้โลกได้รับรู้อีกต่างหาก

                ตายๆๆๆ ผู้หญิงโรงเรียนนี้มันน่ากลัวกันจริงๆ

     

                ตามมาติดๆด้วยพี่แดฮยอนสุดหล่อ ที่เดินหน้านิ่งๆเข้ามาโดยในมือก็ถือถุงกระดาษที่ผมคุ้นเคยเป็นพิเศษมาด้วย ดวงตาคู่นั้นเหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่าง ก่องจะมาหยุดนี่หน้าผมพอดี... อ้าว ซวยแล้วมึง

     

                ว่าไงไอ้น้องจงออบ 

     

                ถุงชีสเค้กถูกวางลงตรงหน้าพวกเราที่กำลังพยายามก้มหน้าก้มตากินอาหารกลางวันอย่างที่สุด ผมเห็นจงออบมันจ้องเขม็งมาทางผมด้วยล่ะ เออกูขอโทษเว้ยที่เสนอหน้าไปหน่อยพี่เค้าเลยหาเจอเลยอ่ะ TOT !!

     

                “มาทำไม ได้เค้กแล้วนี่ จะเอาอะไรอีกอ่ะ

                จงออบเงยหน้าขึ้นไปตะโกนใส่ จริงๆมันคงไม่ได้อยากทำแบบนั้นเท่าไหร่หรอก แต่เสียงรอบข้างมันดังซะขนาดนั้น ...พี่แดฮยอนกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสะกิดเด็กผู้หญิงสักคนที่นั่งดูดเส้นราเมงอยู่ข้างๆจงออบ ก้มหน้าลงพูดอะไรบางอย่าง ท่าจะใกล้จนแทบกินหูเลยล่ะ เธอหน้าแดงแจ๋ไปเลย

     

                เด็กคนนั้นพยักหน้างึกๆ ก่อนจะขยับตัวเองออกห่าง ให้พอมีที่ว่างระหว่างเธอกับจงออบ ชั่วพริบตานั่น ไอ้พี่แดฮยอนก็ทิ้งตัวลงนั่งทันที ท่ามกลางสายตาประชาชีและเสียงกรี๊ดกร๊าดของชะนีกว่าร้อยคน (พวกเธอเป็นบ้าไปแล้วรึไง!)

     

                “ใครให้นั่งวะ!”

                จงออบทุบมือลงกับโต๊ะเสียงดังลั่น ก่อนจะลุกพรวดขึ้นทันทีที่พี่แดฮยอนหย่อนก้นถึงเก้าอี้ อย่างกับว่าพอพี่แกนั่งลงมาแล้วเก้าอี้มันลุกเป็นไฟอย่างงั้นแหละ

     

                กินไม่ได้…”

                ประโยคลอยๆ ไม่มีทั้งประธานและกรรม แต่กลับเรียกเสียงฮือฮาเมื่อพี่เค้ายกมือขวาที่พันผ้าพันแผลขึ้นมา ขณะที่มืออีกข้างดึงจงออบให้นั่งลงอย่างเดิม ผมมองทั้งสองคนด้วยใจเต้นตึกตัก ก็มันอยากอยู่อ่ะว่าจะทำอะไรกัน ! *0*

     

                อะไรกินไม่ได้



                “ก็เจ็บมือ กินไม่ได้ หาคนป้อน





                อุก นมสตอร์เบอรี่แทบพุ่งออกทางโพรงจมูก

                โลกแตกเหอะ ไอ้พี่แดฮยอนมันพูดอะไรออกมารู้ตัวมั๊ยน่ะ !!

                ถึงที่เค้าพูดมามันจะดูไม่ได้ปะติดปะต่อกันสักเท่าไหร่ แต่ก็แสดงความเอาแต่ใจของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกันภาพลักษณ์ประธานนักเรียนสุดเนี๊ยบที่วันๆแทบไม่พูดอะไรคนนั้นเลย ...แน่นอน สาวๆกลุ่มปูซอนบอยสไมล์คลับอะไรนั่นกรี๊ดหนักกว่าเดิมอีกทีนี้ เจออีกด้านของไอ้พี่แดฮยอนเข้าไปน่ะ

     

                อ่อหรอ เจลโล่ มึงจัดการดิ๊ว่าแล้วจงออบก็หยิบช้อนพลาสติกออกมาจากถุง ก่อนจะยัดมันใส่มือผมที่กำลังจะเตรียมตัวลุกหนีอยู่เชียว ไอ้เพื่อนรัก ! ไหนมึงบอกมึงรักกูไง โยนภาระอะไรมาให้กูอีกเนี่ย TT[]TT !!

     

                ไม่ได้อ่ะ กูต้องไปขัดห้องน้ำ

                ไม่ต้อง เมื่อเช้ากูขัดไปแล้ว

                งั้นกูไปขัดตึกปีหนึ่งก็ได้

                “กูบอกมึงว่าไงนะ...!”

     

                จงออบกำหมัดแน่นแล้วยกขึ้น ท่าทางจะอยากปล่อยมันมากระแทกหน้าผมใจจะขาด นั่นมันเป็นเหมือนคำเตือนสุดท้ายจากเพื่อนรัก ถ้าเกิดให้มันพูดซ้ำอีกครั้ง กลับไปดั้งผมต้องยุบให้พี่ยงกุกแซวเล่นอีกแหง Y__Y

     

                ส่งเสียงฮัดฮึดเล็กๆ บอกให้รู้ว่าที่ทำน่ะ ไม่ได้อยากเลยสักนิด ...ผมหยิบกล่องเค้กมาเปิดออก มันเป็นชีสเค้กกลมๆประดับด้วยช็อตโกแลตที่เขียนเป็นข้อความมาด้วย ก่อนที่จะจรดช้อนลงไปบนเนื้อเค้กฟูๆ ก็ขออ่านซะหน่อยละกันว่าจงออบมันฝากข้อความอะไรถึงพี่แดฮยอน...

     

              แดกชีสเค้ก แล้วไปตายซะ!’

     

                โอ้ มันดูรุนแรงเกินไปนะ ไม่เข้ากับเค้กหน้าตาดีอันนี้เลย ผมว่าเอาช้อนปาดๆข้อความนั้นให้มันหายไปจะดีกว่า

                มึงจะเล่นอีกนานมั๊ยห้ะ!”

               

                ทำไมใครๆก็ต้องขึ้นเสียงกับผมด้วยเนี๊ย T_T ผมเบ้ปากแล้วตัดเค้กขึ้นมาคำหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆยื่นช้อนไปยังพี่แดฮยอนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้สึกได้ว่ารอบด้านกำลังมีบรรยากาศมาคุเกิดขึ้น

               

                พี่แดฮยอนแลบลิ้นออกมาเลียมุมปาก สงสัยว่าผมจะมือไม้สั่นเลยเล็งปากพี่เค้าคลาดเคลื่อนไปนิด เนื้อครีมเลยติดอยู่บริเวณนั้น

                “มันเลอะนะ จะไม่เช็ดให้หน่อยหรอ

     

                ได้ยินแบบนั้น แม้แต่จงออบยังอ้าปากค้าง นี่พี่แกคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกซีรี่ย์ที่กำลังมาออกเดทกับนางเอกในร้านขนมเค้ก ป้อนเค้กกันงุ้งงิ้งๆ พอเค้กเลอะก็ให้อีกคนเอานิ้วไปเช็ดให้รึไง

     

                “เร็วๆสิ มึงอ่ะจงออบสลึงตาใส่อย่างน่ากลัว จนมือน้อยๆของผมเอื้อมไปเตะมุมปากนั้นโดยอัติโนมัติ ฮือออออ น้ำตากูจะไกลอยู่แล้วโว้ยยย ตกลงใครมันเป็นทาสพี่แดฮยอนกันแน่วะสาดด TT[]TT !!!!!!!

     

                จบกันชีวิตชเวจุนฮง

                โดนสาวๆ40%ของโรงเรียนหมั่นไส้เพราะผิวดีและหน้าขาวกว่าพวกเธอ

                อีกครึ่งรุมอิจฉาเพราะดันอยู่กินกับคุณน้าสุดหล่อขับแอสตันมาร์ตินคันละสองร้อยล้าน

                แล้วทีเหลืออีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์เกลียดแบบเข้ากระดูกดำเพราะกำลังสัมผัสมุมปากนุ่มนิ่มของพี่ประธานจองกลางโรงอาหาร

     

                มั่นใจ ! สาวๆคังฮวามุนเหม็นขี้หน้าเจลโล่ 100 % !!!!!! ฮือออออออออ TT [     ] TT

     

     

    *****

     

     

                เด็ด ! เจลโล่ป้อนเค้กพี่แดฮยอนกลางโรงอาหาร !!

               

                ข้อความพร้อมรูปถ่ายเบลอๆของผมที่กำลังป้อนเค้กพี่แดฮยอนในปูซานบอยแฟนเพจอะไรนั่นทำผมรู้สึกอยากกระโดดจากชั้นห้าเอาหัวโหม่งโลกเป็นที่สุด ณ เวลานี้ นอกจากต้องตอบคำถามเรื่องพี่ยงกุกแล้ว ไอ้จงออบมันยังสร้างภาระเพิ่ม โดยให้ผมตอบคำถามเรื่องพี่แดฮยอนด้วยอีกต่างหาก

     

                มึงอย่าทำหน้าเหมือนกูทำผิดอะไรได้มั๊ย  

                โห พูดมาได้ มึงผิดเต็มๆเลยเว้ย !

     

                “กูขอโทษละกัน

                จงออบพูดด้วยเสียงเศร้าๆ ขณะเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมกลับบ้าน มันบอกว่าวันนี้มันขอกลับก่อน คงอยู่รอผมวิ่งรอบสนามตอนเย็นไม่ได้ เห็นว่าต้องรีบกลับไปดูเอ็มวีคริสบราวน์ที่พึ่งออกมาใหม่อะไรนี่แหละ

     

                แหม่ ไอโฟนเก๋ๆของมึงนี่เล่นเน็ตดูยูทูปไม่ได้เลยเนอะ =_=;

     

                ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันกำลังหาข้ออ้าง เพื่อไปใช้เวรใช้กรรมที่มันหักมือพี่แดฮยอน เห็นทำเป็นปากดีอย่างนั้น แต่จงออบก็เป็นคนรักษาคำพูดมากเลยนะ จนบางครั้งผมยังคิดว่ามันซื่อขนาดนี้ แล้วจะเอาตัวรอดได้ยังไง ลื่นเป็นปลาไหลอย่างผมยังเอาตัวแทบไม่รอดเลย

     

                ฮึก ทำไมชีวิตของเราสองคนถึงดราม่าอย่างงี้วะจงออบ

                ชีวิตแม่งเหมือนอยู่ในกำมือของชายโรคจิต TOT !!!!

     

                อ้าวตาย พูดถึงชายโรคจิตก็นึกขึ้นมาได้ หมีอลาสก้าบอกให้โทรไปหาหลังเลิกเรียนนี่หว่า

     

                (ว่าไง)

                เสียงเย็นๆของพี่ยงกุกดังมาจากปลายสาย พอจะเดาได้เลยว่าตอนนี้หน้าตาเป็นยังไง -_-; อารมณ์ไม่ดีอะไรมาอีกล่ะคุณพี่

                เอ่อ..พี่บอกว่าเลิกเรียนแล้วให้โทรมา

                (รีบๆลงมาสิ)

                “แต่ผมต้องวิ่งรอบสนามโรงเรียนก่อน

                (ฉันให้เวลาสามนาที)

                “บ้ารึไง สามนาทีผมพึ่งวิ่งได้รอบนึง!”

                (สามนาที!!)

     

                ตรู๊ด ตรุ๊ด..

     

                -_____- ;;;;;; โอเค ผมคงต้องบันทึกไว้หน่อยละว่านี่เป็นการสนทนาทางโทรศัพท์ที่สั้นและแทบจับใจความไม่ได้ที่สุดในชีวิต แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ธรรมดาหน้ายังไม่อยากจะมองเลยเหอะ ...แต่ยังไงผมก็ชอบขนมปังเมล่อนที่พี่ซื้อให้นะ

     

                วันนี้คงเป็นวันแรกที่ผมรีบซอยเท้าอย่างกับนักวิ่งทีมชาติเพื่อทำเวลาให้น้อยที่สุด ภายใต้สายตาราวนกเหยี่ยวของอาจารย์คิมที่มายืนให้กำลังใจติดขอบสนาม อาจารย์แกดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่วันนี้แกไม่ได้ด่าผมเรื่องวิ่งเหยาะแหยะอย่างกับผู้หญิงอะไรเทือกนั้น

                ...เอ่อ อาจารย์ลองมีระเบิดเวลามีชีวิตอย่างไอ้พี่บังยงกุกมาผูกติดตัว อาจารย์ก็จะเป็นเหมือนผมนี่แหละครับ =_=;

     

                โชคดีที่เวลานี้เด็กคังฮวามุนเบาบางลงมากแล้ว รถหรูที่จอดอยู่หน้าประตูจึงไม่ได้เป็นที่สนใจเท่าไหร่นัก ผมรีบก้าวเท้ายาวๆตรงไปยังรถคันนั้น ก่อนจะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ

     

                นี่อะไรเนี่ย ยังไม่ทันได้นั่ง สายตาก็สังเกตเห็นถุงสีหวานที่วงอยู่บนเบาะ ผมหยิบมันขึ้นแล้วถามพี่ยงกุก แต่ฝ่ายนั้นกลับไม่ตอบอะไร เอาแต่หลบหน้าหลบตาทำเป็นชมนกชมไม้อย่างเดียว

     

                พอเปิดถุงออกก็เจอขนมปังสองสามชิ้นส่งกลิ่นหอมๆตลบอบอวลไปทั่วรถ เป็นเมล่อนปังมีทั้งสีชมพู สีเขียวน่ารักคิขุซะไม่มี แถมด้วยชูครีมก้อนกลมๆสอดไส้ครีมสีขาวเต็มๆชิ้น ...อยากจะเห็นหน้าพนักงานขายจริงๆว่าเค้าจะทำหน้ายังไงตอนมีคนลุคโหดอย่างกับมือปืนเดินถืออะไรแบบนี้ไปที่เคาน์เตอร์จ่ายตังค์น่ะ

     

                เห็นชอบ เลยซื้อมาให้ช่างเป็นคำพูดดูเขินอายไม่เหมาะกับเสียงทุ้มนั่นเอาซะเลย

                ไม่ได้ชอบ

                งั้นไม่ต้องกินพี่ยงกุกรวมเอาถุงไปจากมือผมก่อนทำท่าเหมือนจะโยนออกนอกหน้าต่าง โห่ย บ้าไปแล้ว แค่พูดเล่นนิดหน่อยเองนะ

                อ๊าาา กินดิ่ พี่ซื้ออะไรให้ ผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ

               

     

                มือแกร่งที่กำลังยื้อถุงไปจากผมหยุดชะงัก ตัวผมเองก็หยุดชะงักเหมือนกัน ราวกับมีอะไรบางอย่างไปสะกิดที่ความรู้สึก เรียกเลือดในกายสูบฉีดขึ้นบนใบหน้าจนรู้สึกเห่อร้อนไปหมด

     

                เฮือก เมื่อกี้ผมพูดอะไรไปน่ะ ชอบ...อะไรนะ ?

     

                เอ่อ ผม...ผมหมายถึงผมชอบของที่พี่ซื้อให้น่ะ ไม่ได้ชอบพี่ !”

                ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะพยายามพูดแก้ตัวไปทำไม ถ้าไม่ได้คิดอะไรจริงจัง แต่สมองผมมันสั่งให้แก้ตัวออกไปจริงๆนะ ...เอิ่ม แล้วทันป่าววะ แต่ดูจากแววตาแปลกๆที่พี่แกใช้จ้องมองผมแล้ว ไม่น่าจะทันนะ T^T

     

                โอ่ย อยากจะระเบิดตัวเอง พูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไง

                บ้าจริง หน้าก็เลิกร้อนแบบนี้สักที ไอ้หน้าขาวๆวอกๆน่ะ เวลาหน้าแดงทีเห็นโคตรชัดเลยนะ

                ฮือออ แค่คิดก็รู้สึกแย่แล้วเนี่ย !

     


     





     
    เจ๊าะแจ๊ะ , }
    - เป็นอีกตอนที่รีดเดอร์อยากฆ่าไรเตอร์เพราะตัดฉับได้กวนติงมาก !
    555555555555555555555555555 มาต่อให้แล้วนะจ๊ะ ตอนแรกว่าจะลง
    แค่ 50% แต่กลัวรีดเดอร์จะพากันสาปส่ง เลยเอามาลงทั้งตอนเลยดีกว่า อิอิ
    สรุป ใครป้อนใคร ????? 555555555555555 แต่งเองก็งงเอง สรุปเรื่องนี้
    คู่อะไรกันแน่ 50เปอร์แรก ท่าทางจะแด้โล่ 50เปอร์หลัง อ้าว พี่บังมาเต็ม !!!!!
    แล้วจงออบล้ะ TT[]TT !!!!!!!!?????????

    ปล.เรื่องนี้ฮิมแจมีบทแน่ แต่รอหน่อย 55555555555555555555555






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×